คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ

[เหยง 16]

ไทยโพสต์ออนไลน์ วันนี้..........

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Confucius...Men’s natures are alike ; it is their habits that carry them far apart. - ธรรมชาติของมนุษย์นั้นเหมือนกัน อุปนิสัยใจคอต่างหากที่ทำให้เขาแตกต่างกันไป...

http://www.thaipost.net/news/080313/70600

[เริง2520]

ท่านที่สร้างพระในอินเดียแน่่นอน ๕๕๕

[เหยง 16]

น้องเริง

บุญตอบแทนมากจริง ลูกน้องหรือผู้เคยได้รับการช่วยเหลือก็ช่วยเต็มที่
บุญถูกเปลี่ยนเป็นร่ำรวยและมีราศรีแทน

[เหยง 16]

วันนี้ฟ้าหลัว แดดไม่เป็นใจ แต่ร้อนอบอ้าว

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 9 มีนาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10:00 น.  คลื่นกระแสลมตะวันตกได้เคลื่อนผ่านภาคเหนือของประเทศไทยไปประเทศลาวตอนบนแล้ว ทำให้บริเวณภาคเหนือมีฝนลดลง และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ส่วนลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในระยะนี้ 
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้.

 

ภาคเหนือ  มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีเมฆบางส่วน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตอนบนของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  ทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
อ่าวไทยตอนบนจังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
อ่าวไทยตอนบนจังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  อากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

[เหยง 16]

ขณะนี้ (20.50 น.) ที่นครสวรรค์

ฝนตกหนักและลมพัดแรงมากครับ

[เริง2520]

ดีเนาะ ยังเข้าเนทได้

[เหยง 16]

น้องเริง

WLAN ดับๆ ติดๆ ต้องคอยมองดู ก่อนกด "ตั้งกระทู้" ครับ

[เหยง 16]

ชาวไทยซาบซึ้งภาพ สมเด็จพระเทพรัตน์ฯ พระราชทานปริญญาแก่สาวพิการ
วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม 2556 เวลา 18:08 น.

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=feOFxmH0LsY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=feOFxmH0LsY</a>

วันนี้ ( 9 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สังคมโซเชียลเน็ตเวิร์กได้มีการส่งต่อคลิปที่เผยแพร่ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ที่ใช้ชื่อ เชิดพงษ์ แก้วรักษ์  หัวข้อ "ดูแล้วน้ำตาไหล ทรงพระเจริญ"  ซึ่งมีความยาว 27 วินาที  สร้างความปลื้มปีติแก่พสกนิกรชาวไทย ที่ได้ชมคลิปดังกล่าว และต่างพากันกดไลค์ชื่นชอบ ภาพแห่งความประทับใจ เมื่อครั้งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิต ม.รามคำแหง รุ่น 38 ประจำปี 2556  โดยทรงพระราชทานปริญญาบัตรแก่ น.ส.อภิรดี โปร่งใจ  บัณฑิตพิการ  กล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งต้องนั่งรถเข็นขึ้นมารับ พระราชทานฯ โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงลุกจากพระที่นั่ง แล้วทรงโน้มพระวรกายลง และยื่นพระหัตถ์พระราชทานปริญญาบัตรถึงมือ น.ส.อภิรดี โดยไม่ถือพระองค์

ภาพดังกล่าวได้ถูกกดไลท์ต่อกันไปเป็นจำนวนมาก เพราะซาบซื้้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ง

http://www.dailynews.co.th/royal/189521

[เหยง 16]

อากาศในเช้าวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2556
นอกจากภาคเหนือแล้ว ทุกภาคมีฝนร้อยละ 10 ถึง 20 ของพื้นที่ ฟ้าหลัว ร้อนอบอ้าว

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 10 มีนาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในระยะนี้

 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

ภาคกลาง  อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก  ทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยองจันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ส่วนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  อากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

[เริง2520]

ช่วงเย็นน่าจะฝนตกบ้าง

ร้อนตลอดบ่าย

[เหยง 16]

เรื่องที่ต้องระวัง...........

วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 08:59 น.  ข่าวสดออนไลน์
นิสิตจุฬา ผวา! โจรขี่ จยย. อาละวาด ปล้น-จี้ รอบรั้วมหาวิทยาลัย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

          เกิดเหตุโจรขี่รถจักรยานยนต์ออกอาละวาด ปล้น จี้ ชิงทรัพย์ บริเวณรอบรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง ด้านผู้บริหารประกาศมาตระการป้องกันภันระยะสั้น ผ่านเฟซบุ๊ก

          ในวันนี้ (9 มีนาคม) มีรายงานว่า เกิดเหตุอาชญากรรม โจรขี่รถจักรยานยนต์ออกอาละวาด ปล้น จี้ ชิงทรัพย์อยู่รอบบริเวณรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ด้านฝั่งสามย่าน ตลอดจนถึงบริเวณฝั่งจุฬา ซอย 12 ที่อยู่ติดกับห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง สร้างความหวาดผวาให้แก่นิสิตของมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก

          โดยมีนิสิตหลายคนที่ได้ออกมายืนยันผ่านเฟซบุ๊กแล้วว่า เรื่องอาชญากรรมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้เกิดขึ้นจริง พร้อมทั้งได้แชร์ข้อความเพื่อเตือนภัยเพื่อนนิสิตให้ระมัดระวังเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งทางคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเองก็ได้มีการประชุมหารือเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว เพื่ออนุมัติมาตรการระยะสั้น เพื่อการป้องกันและป้องปรามอาชญากรรมบริเวณภายในและโดยรอบมหาวิทยาลัยแล้ว โดยได้ประกาศมาตรการดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊ก หน้าเพจ"Chulalongkorn University" โดยมีเนื้อความดังนี้

          การป้องกันและป้องปรามอาชญากรรมบริเวณภายในและโดยรอบมหาวิทยาลัย

          สืบเนื่องจากการเกิดเหตุอาชญากรรมที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยจึงได้มีประชุมหารือเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว และได้อนุมัติมาตรการระยะสั้น เพื่อเป็นการป้องกันและป้องปรามอาชญากรรมบริเวณภายในและโดยรอบมหาวิทยาลัย ดังต่อไปนี้

           1. จัดให้มีการเพิ่มจำนวนรถสายตรวจของศูนย์รักษาความปลอดภัยและจัดการจราจร บนถนนหลักภายนอกมหาวิทยาลัยในช่วงเวลากลางคืน เพื่อเฝ้าระวังผู้ที่จะก่อเหตุร้าย

           2. จัดให้มีการจอดรถไซเรนในจุดสำคัญต่าง ๆ ภายนอกมหาวิทยาลัย เพื่อป้องปรามผู้ที่จะก่อเหตุร้าย

           3. จัดให้มีการประสานงานกับตำรวจเจ้าของพื้นที่ เพื่อตั้งด่านตรวจในจุดสำคัญต่าง ๆ ภายนอกมหาวิทยาลัย

           4. จัดให้มีการซ่อมแซมและติดตั้งหลอดไฟฟ้าส่องสว่างเพิ่มเติมในบริเวณริมถนนหลักภายนอกมหาวิทยาลัย โดยจะประสานงานกับการไฟฟ้านครหลวง

           5. จัดให้มีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอย่างเร่งด่วน ในจุดต่าง ๆ ที่สำคัญ เช่น บริเวณประตูเข้าออกของมหาวิทยาลัย

          ทั้งนี้ ยังได้มีนิสิตและศิษย์เก่าหลายคนที่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อมาตรการดังกล่าว โดยส่วนมากเห็นพ้องต้องกันว่าต้องการให้มีการติดตั้งหลอดไฟเพิ่มเติมโดยรอบมหาวิทยาลัย เนื่องจากถนนรอบมหาวิทยาลัยนั้นมีอยู่หลายจุดที่มีเพียงแสงหริหรี่ ทั้งยังมีบางบริเวณที่มืดมาก เช่นบริเวณสะพานลอยฝั่งคณะนิติศาสตร์ ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดเหตุอาชญากรรมในบริเวณดังกล่าว เป็นต้น

          ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้มีกลุ่มคนอีกบางส่วน ที่ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น เริ่มเกิดหลังจากที่สำนักงานทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย เริ่มขอเวนคืนพื้นที่ของมหาวิทยาลัย จากผู้เช่าที่ดินรายต่าง ๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอีกด้วย

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk1qZzRNRGMzTVE9PQ==&sectionid=

[เหยง 16]

"อุเทนฯ"ลั่นไม่ย้ายออกชี้ยังไม่ได้ข้อยุติที่ดินเป็นขอจุฬาฯหรือไม่"จามจุรี"ยันไม่ได้รุมเร้าพร้อมเจรจา
วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 17:01:23 น.

ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการเชิญนายสืบพงษ์ ม่วงชู รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย พร้อมด้วยนายอภิชาติ จิระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เข้าหารือกรณีข้อพิพาทการทวงคืนที่ดินบริเวณ มทร.ตะวันออกวิทยาเขตอุเทนถวาย ว่า ทางอุเทนถวายได้ให้ข้อมูลว่าที่ดินมีที่มาอย่างไร โดยอ้างว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการเช่าที่ดินจากจุฬาฯ เลย จนกระทั่งมาถึงปี 2482 ที่ดินทั้งหมดในละแวกนั้นซึ่งเป็นที่ดินพระราชมรดกต้องโอนให้จุฬาฯ ซึ่งอุเทนถวายก็ได้มีการถวายฎีกา โดยขณะนี้เรื่องยังอยู่ในขั้นตอนการถวายฎีกา เพราะยังไม่มีพระบรมราชวินิจฉัยลงมา ส่วนกรณีที่คณะกรรมการชี้ขาดการยุติการดำเนินคดีแพ่งของหน่วยราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือ กยพ. ระบุว่าที่ดินเป็นสิทธิของจุฬาฯ และให้อุเทนถวายย้ายออกไปนั้น ทางอุเทนถวายอ้างว่าในชั้นนี้อุเทนถวายฯไม่ได้มีส่วนเข้าไปสู้คดีเลย

"ข้อมูลที่ได้จากจุฬาฯ และอุเทนถวายในขณะนี้ บางส่วนก็ตรงกันบางส่วนก็ไม่ตรงกัน ดังนั้น ในส่วนที่ต่างกันคงต้องขอข้อมูลมาดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งทางอุเทนถวายจะส่งเอกสารข้อมูลต่างๆ มาให้ นอกจากนี้ จะขอดูเอกสารกรณีที่ กยพ.ด้วย ดังนั้น คงต้องรอดูเอกสารก่อน และยังไม่มีการนัดทั้งสองฝ่ายมาเจอกัน ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่นานในการพิจารณาข้อมูล" นายพงศ์เทพกล่าว และว่า ขณะนี้อุเทนถวายยังยืนยันว่าตนเองมีสิทธิในพื้นที่นี้อยู่ และจะยังไม่ย้ายออกไป แต่ตนก็ได้ขอให้อุเทนถวายได้กลับไปคิดทบทวนด้วยว่าการอยู่ที่เดิมกับการย้ายไปอยู่ที่ใหม่บริเวณ ต.บางปิ้ง จ.สมุทรปราการ ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางกว่ากันมาก พื้นที่ใดจะมีประโยชน์ต่อการศึกษามากกว่ากัน ทั้งนี้ หากอุเทนถวายยอมที่จะย้ายที่ดิน ทางรัฐบาลก็จะต้องจัดสรรงบประมาณที่จะใช้พัฒนาสถานที่ใหม่ให้กับอุเทนถวายอยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปี 2550

นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาฯ กล่าวว่า จากการวิเคราะห์เหตุการณ์ทั้งหมด มีข้อยุติเชิงกฎหมายแล้วซึ่งยืนยันว่า จุฬาฯเข้าใจ เห็นใจ และเคารพการตัดสินใจของอุเทนถวาย โดยพยายามช่วยเหลือทุกวิถีทาง ซึ่งเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ก็ได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการ ศธ. โดยขอให้ ศธ.อนุเคราะห์จัดสรรงบประมาณในการขนย้าย และขอใช้ที่ดินราชพัสดุ เพราะเชื่อว่าหากอุเทนถวายยังไม่ได้รับสิ่งที่มาคอยเอื้อประโยชน์ตรงนี้ อุเทนถวายเองก็คงยังไม่สามารถย้ายได้ ทั้งนี้ จุฬาฯก็ไม่ได้รุมเร้าให้ออกไปในวันสองวัน ถ้ายังไม่ได้ที่ดินใหม่ ก็เข้าใจและเห็นใจ คงต้องนั่งคุยกันทุกฝ่าย ทั้ง ศธ. อุเทนถวายและจุฬาฯ โดยวางแผนอนาคตว่าควรย้ายไปช่วงเวลาที่เหมาะสม ถ้าตกลงได้และเกิดผลดีทุกฝ่าย ก็น่าเป็นทางออกที่ดี

อธิการบดีจุฬาฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า ศิษย์เก่าอุเทนถวาย จะรวมตัวกันวันที่ 15 มีนาคม เพื่อทวงคืนที่ดินจากจุฬาฯ โดยมีการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์นั้น ทางจุฬาฯเคารพในการตัดสินใจของชาวอุเทพฯ และเชื่อมั่นในเกียรติภูมิชาวอุเทนถวาย ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันที่จะไม่ทำอะไรเกิดผลกระทบต่อประเทศและสังคมในภาพรวม และคิดว่าคงไม่เกิดเหตุการณ์อะไร ซึ่งที่ผ่านมานักศึกษาอุเทนถวาย ก็ได้มาพบกับนายกองค์การนิสิตจุฬาฯ ก็เป็นภาพที่ดี และเราเชื่อว่าถึงแม้จะเป็นการชุมนุมก็เป็นการชุมนุมโดยสงบ ทั้งนี้ กิจกรรมที่จุฬาฯจัดในวันที่ 15 มีนาคม ก็ยังจัดตามปกติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงก่อนจะถึงวันที่ 15 มีนาคม จะมีการนัดหารือกับผู้บริหารของอุเทนถวาย เพื่อวางมาตรการป้องกันหรือไม่ นพ.ภิรมย์กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการนัดหมาย เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1362996148&grpid=00&catid=&subcatid=

[เหยง 16]

อ่าน 2 เรื่องข้างบนแล้วไม่มีความเห็นครับ ??

[เหยง 16]

สวัสดี ชาวหอและทุกท่าน

วันนี้เข้าเว็ปสายหน่อยครับ
วันนี้ประเทศไทย ยกเว้นภาคเหนือที่ไม่มีฝนตก ภาคอีสานฝนตกร้อยละ 20 ที่เหลือมีฝนตกร้อยละ 10 ของพื้นที่

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 12 มีนาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10:00 น. 
คลื่นกระแสลมตะวันตกได้เคลื่อนจากภาคเหนือเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่างรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในระยะนี้ 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น
โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 13-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศร้อนขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดบึงกาฬ
นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก  ทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆบางส่วน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากทางตอนบนของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆบางส่วน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่าง
อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

[เหยง 16]

5 โมงเย็น ขออนุญาตไปเดินรอบอุทยานสวรรค์ดังเช่นทุกวันครับ

[หนุน'21]

สวัสดีครับพี่เหยง
ตามข่าวครับ 

เชื่อได้เลยครับ หญิงสูงศักดิ์ต้องกลับมาเล่นการเมืองแน่
เป้าหมายเขานี่ นายกหญิงนะครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...


 

[เหยง 16]

หนุน

ตอนนี้ขอตุนสตางค์ บุญ และชื่อเสียงเอาไว้ก่อน
เอาคืนจากโอฬารแน่ (ฝากไว้ก่อนโอฬาร ??!!) เพราะเล่นฉีกหน้ากันแบบจะจะ

[เหยง 16]

ความปลอดภัยของน้องๆ ชาวจุฬาฯ

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 10 มีนาคม 2556, 21:40:38
	เรื่องที่ต้องระวัง........... วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 08:59 น.  ข่าวสดออนไลน์ นิสิตจุฬา ผวา! โจรขี่ จยย. อาละวาด ปล้น-จี้ รอบรั้วมหาวิทยาลัย เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย           เกิดเหตุโจรขี่รถจักรยานยนต์ออกอาละวาด ปล้น จี้ ชิงทรัพย์ บริเวณรอบรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง ด้านผู้บริหารประกาศมาตระการป้องกันภันระยะสั้น ผ่านเฟซบุ๊ก           ในวันนี้ (9 มีนาคม) มีรายงานว่า เกิดเหตุอาชญากรรม โจรขี่รถจักรยานยนต์ออกอาละวาด ปล้น จี้ ชิงทรัพย์อยู่รอบบริเวณรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ด้านฝั่งสามย่าน ตลอดจนถึงบริเวณฝั่งจุฬา ซอย 12 ที่อยู่ติดกับห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง สร้างความหวาดผวาให้แก่นิสิตของมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก           โดยมีนิสิตหลายคนที่ได้ออกมายืนยันผ่านเฟซบุ๊กแล้วว่า เรื่องอาชญากรรมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้เกิดขึ้นจริง พร้อมทั้งได้แชร์ข้อความเพื่อเตือนภัยเพื่อนนิสิตให้ระมัดระวังเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งทางคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเองก็ได้มีการประชุมหารือเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว เพื่ออนุมัติมาตรการระยะสั้น เพื่อการป้องกันและป้องปรามอาชญากรรมบริเวณภายในและโดยรอบมหาวิทยาลัยแล้ว โดยได้ประกาศมาตรการดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊ก หน้าเพจ"Chulalongkorn University" โดยมีเนื้อความดังนี้           การป้องกันและป้องปรามอาชญากรรมบริเวณภายในและโดยรอบมหาวิทยาลัย           สืบเนื่องจากการเกิดเหตุอาชญากรรมที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยจึงได้มีประชุมหารือเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว และได้อนุมัติมาตรการระยะสั้น เพื่อเป็นการป้องกันและป้องปรามอาชญากรรมบริเวณภายในและโดยรอบมหาวิทยาลัย ดังต่อไปนี้            1. จัดให้มีการเพิ่มจำนวนรถสายตรวจของศูนย์รักษาความปลอดภัยและจัดการจราจร บนถนนหลักภายนอกมหาวิทยาลัยในช่วงเวลากลางคืน เพื่อเฝ้าระวังผู้ที่จะก่อเหตุร้าย            2. จัดให้มีการจอดรถไซเรนในจุดสำคัญต่าง ๆ ภายนอกมหาวิทยาลัย เพื่อป้องปรามผู้ที่จะก่อเหตุร้าย            3. จัดให้มีการประสานงานกับตำรวจเจ้าของพื้นที่ เพื่อตั้งด่านตรวจในจุดสำคัญต่าง ๆ ภายนอกมหาวิทยาลัย            4. จัดให้มีการซ่อมแซมและติดตั้งหลอดไฟฟ้าส่องสว่างเพิ่มเติมในบริเวณริมถนนหลักภายนอกมหาวิทยาลัย โดยจะประสานงานกับการไฟฟ้านครหลวง            5. จัดให้มีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอย่างเร่งด่วน ในจุดต่าง ๆ ที่สำคัญ เช่น บริเวณประตูเข้าออกของมหาวิทยาลัย           ทั้งนี้ ยังได้มีนิสิตและศิษย์เก่าหลายคนที่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อมาตรการดังกล่าว โดยส่วนมากเห็นพ้องต้องกันว่าต้องการให้มีการติดตั้งหลอดไฟเพิ่มเติมโดยรอบมหาวิทยาลัย เนื่องจากถนนรอบมหาวิทยาลัยนั้นมีอยู่หลายจุดที่มีเพียงแสงหริหรี่ ทั้งยังมีบางบริเวณที่มืดมาก เช่นบริเวณสะพานลอยฝั่งคณะนิติศาสตร์ ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดเหตุอาชญากรรมในบริเวณดังกล่าว เป็นต้น           ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้มีกลุ่มคนอีกบางส่วน ที่ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น เริ่มเกิดหลังจากที่สำนักงานทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย เริ่มขอเวนคืนพื้นที่ของมหาวิทยาลัย จากผู้เช่าที่ดินรายต่าง ๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอีกด้วย http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk1qZzRNRGMzTVE9PQ==&sectionid=

ตำรวจ-จุฬาฯล้อมคอก ตั้งด่านเข้ม 3 ทุ่ม-ตี 2 ป้องชิงทรัพย์"นิสิต"
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 08:08:10 น.

นครบาลจับมือจุฬาฯล้อมคอกนิสิตโดนรุมยำฉกมือถือ รอง ผบช.น.สั่งฝ่ายสืบสวนตรวจเข้ม ตั้งด่านช่วง 3 ทุ่มถึงตี 2 เผยมีรูปคนร้าย-จยย.ก่อเหตุแล้ว เร่งแกะรอยจับกุม อธิการบดีออก 6 มาตรการดูแล

กรณีที่นิสิตของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กของสถาบันว่ามีนิสิตตกเป็นเหยื่อของคนร้ายขณะกำลังนั่งรอรถประจำทางอยู่ที่ป้ายริม ถ.พญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ช่วงกลางคืนอยู่เป็นประจำ โดยพฤติกรรมของคนร้ายจะใช้รถจักรยานยนต์หลายคัน สวมหมวกนิรภัยเต็มใบเพื่ออำพรางใบหน้า เข้ามาประกบเหยื่อแล้วรุมทำร้ายก่อนชิงทรัพย์สินจะเน้นเฉพาะโทรศัพท์สมาร์ทโฟน โดยคนร้ายจะลงมือช่วงหลัง 22.00 น. เหยื่อรายล่าสุดคือนายกุลชาติ อุทัยวิชากุล อายุ 21 ปี นิสิตคณะแพทยศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 ถูกทำร้ายเมื่อกลางดึกวันที่ 4 มีนาคม ซึ่งตำรวจ สน.ปทุมวัน ยอมรับว่ามีเหตุเกิดขึ้นจริงและอยู่ระหว่างติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 มีนาคม พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6) พ.ต.อ.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.เทียนชัย คามะปะโส ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน (รอง ผกก.สส.) สน.ปทุมวัน ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน และกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 6 (กก.สส.บก.น.6) รศ.ดร.บัญชา ชลาภิรมย์ ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความปลอดภัยและจัดการจราจร จุฬาลงกรณ์ฯ และนายกุลชาติ ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นตัวแทนจากจุฬาฯ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล

พล.ต.ต.มานิตให้สัมภาษณ์หลังประชุมว่า ที่ประชุมได้หารือมาตรการป้องกัน โดยสั่งฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน ออกตรวจตรากวดขันมากยิ่งขึ้น และพยายามติดตามจับกุมคนร้ายทั้งหมดมาดำเนินคดี ขณะนี้ได้ภาพของคนร้ายและรถจักรยานยนต์แล้ว แต่ยังขอไม่เปิดเผย

"นอกจากนี้ ยังตั้งจุดตรวจค้นเคลื่อนที่ ตั้งแต่ถนนพญาไท ถนนอังรีดูนังต์ และช่วงสามย่านถึงจุฬาซอย 12 ในช่วงเวลา 21.00-02.00 น. เพื่อให้ประชาชนหรือนิสิตมีความปลอดภัยมากขึ้น ส่วนกรณีที่มีการโพสต์ข้อความลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กว่ามีคดีลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง บางรายถูกทำร้ายด้วยเครื่องชอร์ตไฟฟ้า ได้ตรวจสอบไปยัง สน.ปทุมวัน ปรากฏว่า ยังไม่พบว่ามีผู้มาแจ้งความ หากว่ามีผู้เสียหายถูกทำร้ายให้มาแจ้งความได้ที่ สน.ปทุมวัน เพื่อขยายผลติดตามคนร้าย" พล.ต.ต.มานิตกล่าว

รศ.ดร.บัญชากล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) มหาวิทยาลัยให้ออกตรวจพื้นที่ร่วมกับตำรวจอย่างเข้มงวด โดยใช้รถจักรยานยนต์และรถกระบะของมหาวิทยาลัยตระเวนทั้งในและนอกพื้นที่มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ จะเตรียมปรับบริเวณจุดเสี่ยงด้วยการเพิ่มแสงสว่างและตัดต้นไม้ที่บดบังแสงไฟออกไป รวมถึงห้ามนิสิตติวหนังสือภายในรั้วมหาวิทยาลัยเกินเที่ยงคืน หากนิสิตคนใดมีความประสงค์ต้องการกลับบ้านให้แจ้งให้ รปภ.รับทราบ เพื่อจัดรถรับส่งจากมหาวิทยาลัยไปยังสถานีรถไฟฟ้าใกล้เคียงหรือป้ายรถประจำทางที่มีแสงสว่างเพียงพอ

"อีกกระทั่งได้กล่าวเตือนให้นิสิตไม่ควรเล่นมือถือขณะเดินทางกลับบ้านเพราะจะเสี่ยงต่อการถูกทำร้ายได้ง่าย" รศ.ดร.บัญชากล่าว และว่า ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวมหาวิทยาลัยมีแผนที่จะติดตั้งกล้องซีซีทีวีรอบพื้นที่มหาวิทยาลัยและบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้การดูแลรวมทั้งสร้างขวัญและกำลังใจกับนิสิต

นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ได้จัด 6 มาตรการเพื่อป้องกันเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัย คือ
1.เพิ่มจำนวนรถสายตรวจ บนถนนนอกมหาวิทยาลัยในช่วงกลางคืน
2.นำรถไซเรนของมหาวิทยาลัยไปจอดตามจุดสำคัญๆ หรือจุดเสี่ยง
3.ประสานตำรวจในพื้นที่ ตั้งด่านตรวจเพื่อดูแลความปลอดภัย
4. ติดหลอดไฟ เพื่อให้แสงสว่างเพิ่มมากขึ้น
5.ติดตั้งกล้องวงจรปิดในจุดสำคัญต่างๆ และ
6.จัดโครงการพาน้องกลับบ้าน โดยให้มี รปภ.คอยรับนิสิตไปส่งตามจุดต่างๆ และให้ฝ่ายกิจการนิสิตจัดรถรับส่งนิสิต
ทั้งนี้ ทั้งหมดเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยระยะสั้น ส่วนมาตรการระยะยาว จัดตั้งคณะกรรมการดูแลภาวะวิกฤต อาทิ การสร้างความตระหนักถึงการระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือ โดยจากสถิติมักพบเหตุร้ายเกิดขึ้นในระหว่างโทรศัพท์ จึงต้องเตือนให้ระมัดระวังมากขึ้น รวมทั้งตั้งกล้องซีซีทีวีเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทั้งภายในภายนอกมหาวิทยาลัย รวมถึงเพิ่มแสงสว่างในทุกจุด

ด้านนางจงกลลักษม์ อินทุลักษณ์ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นของจุฬาลงกรณ์ฯปกติแล้วทางจุฬาฯจะดำเนินการต่างๆ เอง ส่วนทางเขตพร้อมช่วยแก้ปัญหาร่วมกันหากทางคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยแจ้งเรื่องเข้ามา เช่น ไฟฟ้าส่องสว่างพร้อมประสานกับการไฟฟ้านครหลวงให้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งเรื่องเข้ามา ทั้งนี้ ตนมอบหมายให้ฝ่ายโยธาสำรวจพื้นที่ในเขตปทุมวัน ว่ามีการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างครอบคลุมหรือไม่ เพื่อดำเนินการติดตั้งให้ทั่วถึง

(ที่มา:มติชนรายวัน 12 มีนาคม 2556)

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1363057489&grpid=&catid=19&subcatid=1905

[เหยง 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 09 มีนาคม 2556, 21:32:29
	ชาวไทยซาบซึ้งภาพ สมเด็จพระเทพรัตน์ฯ พระราชทานปริญญาแก่สาวพิการ วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม 2556 เวลา 18:08 น. <a href="http://www.youtube.com/watch?v=feOFxmH0LsY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=feOFxmH0LsY</a> วันนี้ ( 9 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สังคมโซเชียลเน็ตเวิร์กได้มีการส่งต่อคลิปที่เผยแพร่ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ที่ใช้ชื่อ เชิดพงษ์ แก้วรักษ์  หัวข้อ "ดูแล้วน้ำตาไหล ทรงพระเจริญ"  ซึ่งมีความยาว 27 วินาที  สร้างความปลื้มปีติแก่พสกนิกรชาวไทย ที่ได้ชมคลิปดังกล่าว และต่างพากันกดไลค์ชื่นชอบ ภาพแห่งความประทับใจ เมื่อครั้งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิต ม.รามคำแหง รุ่น 38 ประจำปี 2556  โดยทรงพระราชทานปริญญาบัตรแก่ น.ส.อภิรดี โปร่งใจ  บัณฑิตพิการ  กล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งต้องนั่งรถเข็นขึ้นมารับ พระราชทานฯ โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงลุกจากพระที่นั่ง แล้วทรงโน้มพระวรกายลง และยื่นพระหัตถ์พระราชทานปริญญาบัตรถึงมือ น.ส.อภิรดี โดยไม่ถือพระองค์ ภาพดังกล่าวได้ถูกกดไลท์ต่อกันไปเป็นจำนวนมาก เพราะซาบซื้้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ง http://www.dailynews.co.th/royal/189521

มีอีกหนึ่ง ที่น่าซาบซึ้งใจ

วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556 ปีที่ 22 ฉบับที่ 8139 ข่าวสดรายวัน
อีกภาพปีติ ทรงเมตตา นศ.พิการ

พระเทพฯเสด็จจากที่ประทับ ทรงมอบใบปริญญาให้ถึงตัว เปิดใจ"จิตรกรหนุ่ม"แขนด้วน

ปลื้มปีติ - นายเอกชัย วรรณแก้ว หนุ่มพิการเปิดใจนาทีปีติได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ จากที่ประทับ ลงมาพระราชทานปริญญาบัตร มทร.รัตนโกสินทร์ให้ด้วยพระองค์เอง เมื่อปี 2555

หนุ่มพิการไร้แขน บัณฑิตคณะจิตร กรรม มทร.รัตนโกสินทร์ เผยนาทีมหามงคลปลื้มปีติที่สุดในชีวิต เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จลงจากพระราชอาสน์เพื่อพระราชทานปริญญาบัตรให้ด้วยพระองค์เอง ในพิธีพระราชทานปริญญาเมื่อเดือนเม.ย. 2555 โดยบัณฑิตหนุ่มต้องใช้ไหล่รับแทนมือ นอกจากนั้น ยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณสอบถามเรื่องงาน จนมีโอกาสประกอบวิชาชีพ "ครูสอนศิลปะ" อยู่ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาธนบุรี ตั้งปณิธานอุทิศตนเพื่อสังคม หาบ้านเปิดสอนศิลปะให้คนทั่วไปโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ควบคู่กับการสอนที่วิทยาลัย

จากภาพข่าวพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโน้มพระวรกายพระ ราชทานใบปริญญาบัตรแก่ น.ส.อภิรดี โปร่งใจ หรือน้องน้อย บัณฑิตพิการจากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขณะน.ส. อภิรดี นั่งอยู่บนวีลแชร์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรบัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง รุ่นที่ 38 ประจำปี 2556 วันที่ 8 มี.ค. เป็นภาพที่สร้างความปลาบปลื้มปีติซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณแก่ผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์วันนั้น ต่อมาภาพมงคลแห่งความประทับใจดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ยูทูบและส่งต่อทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กอย่างแพร่หลาย พสกนิกรต่างแซ่ซ้องสรรเสริญในพระจริยวัตรและมีประชาชนหลั่งไหลเข้าชื่นชมกดไลก์จำนวนมาก

ขณะเดียวกัน น.ส.อภิรดียังเผยด้วยว่า ในวันรับพระราชทานปริญญาบัตร เมื่อถึงช่วงอาจารย์อ่านรายชื่อและตนเข้าไปรับ พยายามจะรับให้ได้เหมือนกับคนอื่น แต่เพราะมือสองข้างของตนอ่อนแรงก็ได้ยินสมเด็จพระเทพฯ ตรัสถามด้วยความห่วงใยว่า "จับสองมือได้ไหม" ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกชัย วรรณแก้ว หนุ่มพิการไร้แขน บัณฑิตคณะจิตรกรรม วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ (มทร.รัตนโกสินทร์) เป็นบัณฑิตอีกคนซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จลงจากพระราชอาสน์ เพื่อพระราชทานปริญญาบัตรให้บัณฑิตด้วยพระองค์เอง ในพิธีพระราชทานปริญญาของ มทร.รัตนโกสินทร์ ประจำปี 2553 เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2555

นายเอกชัยกล่าวเปิดใจถึงความรู้สึกในวันดังกล่าวว่า ตนพิการแขน-ขาตั้งแต่เด็ก แต่อุตสาหะพยายามเรียนจนจบได้รับปริญญาเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ วันซ้อมรับปริญญาตนซ้อมแยกต่างหาก เดิมทีข้าราชสำนักจะให้นั่งวีลแชร์รับปริญญา แต่ตนบอกว่าตัวเองเดินได้ และขอใช้ไหล่รับแทนมือ ข้าราชสำนักจึงถ่ายรูปแล้วส่งให้สมเด็จพระเทพฯ ทอดพระเนตรว่าบัณฑิตจะรับแบบนี้ กระทั่งวันจริงตนยังคิดว่า จะต้องรออยู่ด้านล่างเวทีเหมือนกับเพื่อนๆ แต่มหาดเล็กและอาจารย์บอกว่า ให้ไปนั่งอยู่ด้านหลังสมเด็จพระเทพฯ และพระองค์ท่านจะพระราชทานปริญญาบัตรให้เป็นคนสุดท้าย

"ตอนนั้นตื่นเต้นมาก ยืนรอตัวเกร็งอยู่ด้านหลัง พออาจารย์ประกาศชื่อ มหาดเล็กให้เดินไปด้านหน้าเวที สมเด็จพระเทพฯ เสด็จลงจากพระราชอาสน์ แย้มพระสรวลเข้ามาหา แล้วใช้พระหัตถ์ทั้ง 2 ข้าง พระราชทานปริญญาบัตรให้ ผมก็ยื่นไหล่รับ จากนั้นพระองค์ตรัสถามว่า เขียนรูปอย่างไร ผมไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะไม่รู้คำราชาศัพท์ มหาดเล็กเลยบอกว่าพูดธรรมดาก็ได้ ก็เลยตอบว่าใช้เท้าเขียนครับ พระองค์ตรัสชื่นชมว่าเก่งมาก เป็นตัวอย่างให้หลายคน เมื่อเสร็จสิ้นพิธีผมก็กลับไปหลังเวที และเมื่อพระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินกลับ มหาดเล็กให้ผมไปส่งเสด็จที่รถอีก เมื่อพระองค์เห็นก็กล่าวชื่นชมอีก และตรัสถามว่าอยากทำอะไร อยากเรียนอะไร ผมตอบว่าอยากทำงานก่อน พระองค์ก็ตรัสว่าเดี๋ยวจะดูให้" นายเอกชัย เล่าด้วยความปลาบปลื้ม

นายเอกชัยเผยว่า สัปดาห์ต่อมา มีมหาดเล็กโทรศัพท์บอกให้ไปร่วมประชุม เนื่องจากสมเด็จพระเทพฯ อยากทราบว่าตนอยากทำงานอะไร จึงตอบมหาดเล็กไปว่าอยากสอนศิลปะ จากนั้นพระองค์ให้มาสอนศิลปะที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาธนบุรี ปัจจุบันสอนได้ 4-5 เดือนแล้ว สมเด็จพระเทพฯ ตรัสถามผ่านทางมหาดเล็กตลอดว่า ตนเป็นอย่างไรบ้าง ขาดเหลืออะไรบ้าง และให้ถ่ายรูปตอน สอนไปให้ทอดพระเนตรด้วย ทุกวันนี้รู้สึกดีใจและปลาบปลื้มมากที่สมเด็จพระเทพฯทรงไถ่ถามถึงเรื่อยมา และเมื่อไม่นานมานี้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ เขียนรูปให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติ ยาภา ทั้งสองพระองค์ก็ตรัสชมว่าสวยมาก หลังจากนี้ตั้งเป้าไว้ว่าจะสอนศิลปะไปเรื่อยๆ และอยากหาบ้านสักหลังเปิดสอนศิลปะให้คนทั่วไปโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ควบคู่กับการสอนที่วิทยาลัย

"การที่สมเด็จพระเทพฯ ทรงห่วงใยถามทุกข์สุข ถือเป็นกำลังใจในการทำงานอย่างมาก ในบรรดาพี่น้อง 5 คน มีผมคนเดียวที่ได้รับปริญญาและได้ใกล้ชิดพระองค์ ที่ผ่านมาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีวันนี้ ก่อนจะมีโอกาสเข้าเรียนต้องอ่านหนังสือมาก เตรียมตัวมากและถูกปฏิเสธมาเยอะ หลายคนบอกว่าให้ไปเรียนอย่างอื่น แต่ก็สู้จนได้เรียนอย่างที่ฝัน กระทั่งได้เรียนแล้วก็ยังมีอุปสรรคมากให้ต้องแก้ไข เผชิญทั้งปัญหาในการเดินทาง การยอมรับจากครูและเพื่อน ขณะที่พ่อแม่ก็เป็นแค่ชาวนา ความรู้น้อย จึงต้องดิ้นรนด้วยตัวเองมาตลอด" นายเอกชัยกล่าว

บัณฑิตสู้ชีวิตยังกล่าวแนะนำถึงเยาวชน ผู้พิการคนอื่นๆ ด้วยว่า "อยากบอกน้องๆ ผู้พิการว่าทุกครั้งที่ผมท้อ หรือหมดกำลังใจ ผมจะบอกตัวเองว่า อย่าเพิ่งคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้ลงมือทำ หลายคนเป็นคนปกติ แต่พอเจอเรื่องยากก็บอกว่าทำไม่ได้ ผมอยากให้กลับไปถามตัวเองก่อนว่า แล้วคุณทำเต็มที่แล้วหรือยัง"

วันเดียวกัน นางนภา เศรษฐกร เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงการดูแลด้านการศึกษาให้กับกลุ่มคนพิการว่า ตามพ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 กำหนดว่าคนพิการต้องได้รับโอกาสทางการศึกษาโดยเรียนฟรีตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาจนถึงจบมหาวิทยาลัย ซึ่งลักษณะการเรียนอาจเป็นการเรียนร่วมหรือเรียนคู่ขนานแล้วแต่กรณี โดยการเรียนคู่ขนานหมายถึงบางครั้งผู้พิการอาจมีความพิการมาก มีความรุนแรงต้องแยกออกมาเรียนเฉพาะกลุ่มคนพิการ ส่วนการเรียนรวมหมายถึงคนพิการที่เรียนร่วมกับคนปกติ ซึ่งขณะนี้สำนักงานมองว่า การเรียนร่วมกับคนปกติจะช่วยให้คนพิการพัฒนาเร็วขึ้น เนื่องจากปัจจุบันสังคมไทยมีความเข้าใจคนพิการมากขึ้น สามารถช่วยเหลือและเป็นที่พึ่งพาให้คนพิการได้

นางนภาระบุว่า สำนักงานยังทำงานควบคู่กับกระทรวงศึกษาธิการด้วย โดยกระทรวงศึกษาธิการจะออกแบบสื่อการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับคนพิการแต่ละประเภท ทั้งนี้ในปัจจุบันกลุ่มคนพิการ และผู้ปกครองรับทราบข้อกำหนดในการช่วยเหลือมากขึ้น เพราะฝากกระทรวงศึกษาธิการรณรงค์ประชา สัมพันธ์ให้เป็นที่รับรู้ จนมีผู้พิการมาขอรับความช่วยเหลือด้านการศึกษาเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งทำหน้าที่คอยไกล่เกลี่ยเมื่อผู้พิการไม่ได้รับสิทธิทางการศึกษาตามที่ได้กำหนดไว้ด้วย

หน้า 1

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNakV5TURNMU5nPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE15MHdNeTB4TWc9PQ==

[เหยง 16]

นายเอกชัย วรรณแก้ว เป็นชาวอำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์
ใช้เท้าวาดภาพ ทำชิ้นงาน และเคยออกรายการ "คนค้นคน" มาแล้ว

[เอมอร 2515]

สวัสดีค่ะน้องเหยง
แวะทักแล้วไล่อ่านตามก่อนค่ะ

[ti2521]

.....สวัสดีครับ พี่เหยง  สามวันมานี้ช่วงเช้าอากาศหนาวครับ.....

[เหยง 16]

พี่'อร, ตี่

ภาคเหนือมีอากาศหนาว และ เป็นเพียงภาคเดียวที่ไม่มีฝน

[เหยง 16]

ปิดท้ายก่อนนอนด้วยคติจากไทยโพสต์ออนไลน์

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Anon...Money sometimes prevents trouble; too much money breeds it. - บางครั้งเงินก็ป้องกันความยุ่งยากได้ แต่ถ้าหากมากไป เงินจะกลายเป็นตัวสร้างความยุ่งยากไปแทนที่...

http://www.thaipost.net/news/130313/70829

[เหยง 16]

ประเทศไทยจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ในช่วงวันที่ 15 - 16 มีนาคม เป็นต้นไป
เนื่องจากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะเคลื่อนลงมาปกคลุมประเทศไทย
โดยเริ่มในภาคอีสาน ต่อด้วยภาคกลางและภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 13 มีนาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนล่างแล้ว
คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงด้านตะวันออกของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ในวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค. 56)
ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกจะได้รับผลกระทบในวันที่ 15-16 มีนาคม 2556 ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในช่วงวันที่
14-16 มีนาคม 2556 ไว้ด้วย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
โดยมีอากาศร้อนขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

ภาคกลาง  อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก  ทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆบางส่วน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากทางตอนบนของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  อากาศร้อนขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่าง
อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.