24 พฤศจิกายน 2567, 02:58:11
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 306 307 [308] 309 310 ... 472   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ  (อ่าน 2607057 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 24 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7675 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2555, 09:08:25 »

สวัสดีครับทุกท่าน

ในช่วงเช้าของวันจันทร์  อากาศหนาวเย็นขึ้น และมีหมอกในช่วงเช้า
ขับรถยนต์โปรดใช้ความระมัดระวังด้วย ที่สำคัญลดความเร็วลงสักนิดครับ เพื่อความปลอดภัย

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7676 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2555, 09:08:31 »

1. จองที่โฆษณารายการทัวร์นครวัด นครธม ครับ



ทัวร์กัมพูชา เที่ยวเมืองพระนครธม ปราสาทหินทรายสีชมพูบันทายศรี ปราสาทตาพรม ล่องเรือโตนเลสาบชมวิถีชีวิตชาวประมง 3 วัน 2 คืน

ทัวร์กัมพูชา เที่ยวเมืองพระนครธม ปราสาทหินทรายสีชมพูบันทายศรี ปราสาทตาพรม ล่องเรือโตนเลสาบชมวิถีชีวิตชาวประมง 3 วัน 2 คืน
ทัวร์กัมพูชา เที่ยวเมืองพระนครธม แตงโมทัวร์นำท่านชมสิ่งมหัศจรรย์หนึ่งในเจ็ดของโลกที่ “ปราสาทหิน นครวัด ” • ชมเมืองพระนครธม เมืองที่มั่งคั่งไปด้วยศิลปะและศูนย์กลางอำนาจที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ ของอาณาจักรขอมโบราณ ชมรอยยิ้มแบบบายน 54 ปรางค์ 216 หน้า ยิ่งใหญ่แห่งอารยะธรรม พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 • ปราสาทบันทายสรี รัตนะชาติแห่งศิลปะขอม • ปราสาทตาพรม สิ่งก่อสร้างด้วยมนุษย์ตกแต่งด้วยธรรมชาติรากไม้ที่ครอบคลุมสวยงามและร่มรื่น • เขาพนมบาแค็ง ศูนย์กลางยโศธรปุระจุดเริ่มต้นของอาณาจักรพระนคร • นั่งเรือชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นพร้อมชมวิถีชีวิตของชาวประมงที่ โตนเลสาบ ทะเลสาบน้ำจืดใหญ่ที่สุดในเอเชีย • พักโรงแรม 4 ดาว สมายลิ่ง โฮเต็ล แอนด์ สปา **หรือเทียบเท่า ระดับเดียวกัน


วันศุกร์ที่ 11 มกราคม 2556 : กรุงเทพฯ-จ.สระแก้ว(ตลาดโรงเกลือ)-ปอยเปต-ศรีโสภณ-โตนเลสาป-ปราสาทพนมบาเค็ง

04.30 น. คณะเดินทางพร้อมกัน ณ จุดนัดหมาย (บริเวณหน้าหอชาย ตรงข้าม รร.เตรียมฯ) เจ้าหน้าที่รอให้การต้อนรับท่านและคอยอำนวยความสะดวก

05.00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยรถบัสปรับอากาศ บริการอาหารกล่อง(1) และเครื่องดื่มบนรถ จากนั้นเชิญท่านพักผ่อนบนรถ

09.00 น. เดินทางถึง ตลาดโรงเกลือ อ. อรัญประเทศ จ. สระแก้ว นำท่านผ่านพิธีการศุลกากรและตรวจคนออกนอกประเทศไทยและเข้ากัมพูชา ด่านปอยเปต  จากนั้นเปลี่ยนรถเป็นรถปรับอากาศฝั่งเขมร นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองศรีโสภณ ผ่านปอยเปต เมืองชายแดนกัมพูชา สู่ จ.เสียมเรียบ ตามถนนหมายเลข 6 ซึ่งสภาพถนนลาดยางและเป็นลูกรังบางช่วง ระยะทาง 154 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
 
12.00 น. บริการอาหารกลางวัน(2) ณ ร้านอาหาร
บ่าย        นำท่านเดินทางสู่ โตนเลสาบ อยู่ห่างจากตัวเมืองเสียมเรียบ ประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย นำท่านลงเรือล่อง โตนเลสาบ ชมทัศนียภาพเหนือทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ชมความเป็นอยู่ของหมู่บ้านชาวประมง บ้านเรือนที่ตั้งอยู่บนทะเลสาบ โรงเรียน พิพิธภัณฑ์สัตว์ โดยฤดูน้ำหลากน้ำท่วมถึง 7,500 ตร.กม. ลึกถึง 100 ม. ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัด คือ กำปงธม , กำปงชะนัง, โพธิสัตว์, พระตะบองและเสียมราฐ(เสียมเรียบ) จากนั้นนำท่านสู วัดใหม่ ชมซากโครงกระดูกชาวเขมรที่เสียชีวิตในสมัยที่การสู้รบกับเขมรแดงในยุคของพอลพต ตั้งแต่ปีพ.ศ.2518-2522 เป็นอนุสรณ์สถานความขัดแย้งทางอุดมการณ์

17.30 น. นำท่านเดินทางไปชม พระอาทิตย์อัสดงที่ เขาพนมบาเค็ง ท่านสามารถมองเห็นวิวของปราสาทนครวัด จากวิวสูงเมื่อท่านมา ยืนอยู่บนเขาพนมบาเค็งแห่งนี้ ชมตะวันที่ค่อยๆคล้อยต่ำลงจนลับสายตา

18.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (3)
              หลังอาหารค่ำ นำท่านเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย พัก Smiling Hotel หรือ Starly Hotel (ระดับ 4 ดาว)

หมายเหตุ: สิงที่ควรนำติดตัวไปด้วย
1.อากาศช่วงบ่ายใน โตนเลสาบ อาจจะร้อน โปรดเตรียมหมวก ร่ม แว่นกันแดดติดตัวไปด้วย พร้อมยาประจำตัวที่จำเป็น
2.หลังพระอาทิตย์ตกที่ "เขาพนมบาเค็ง" ฟ้าอาจมืดลงทันที โปรดเตรียมไฟฉายติดตัวไปด้วย
3.เนื่องจากออกเดินทางออกนอกเขตสื่อสารของประเทศไทย ท่านที่มีกิจต้องใช้มือถือในการสื่อสาร โปรดเปิดโรมมิ่งต่างประเทศไว้ด้วย
4.เสื้อผ้า/รองเท้า ที่เหมาะสมกับการเดินทั้งวัน และเสื้อกันหนาวสักหนึ่งตัวติดไปด้วย

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7677 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2555, 09:09:18 »

2. จองที่โฆษณารายการทัวร์นครวัด นครธม ครับ



วันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2556 : ปราสาทบันทายศรี - ปราสาทตาพรหม - นครธม - นครวัด - ชมโชว์รำอัปสรา

07.00 น. บริการอาหารเช้า(4) ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังอาหารเช้านำท่านเดินทางสู่ ปราสาทบันทายศรี ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายให้กับพระอิศวรภายในพระนามว่า ตรีภูวนมเหศวร หรือ พระอีศวรผู้เป็นใหญ่แห่งโลกทั้งสาม เป็นปราสาทมีขนาดเล็ก สร้างด้วยหินทรายสีชมพูซึ่งหายาก สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1510 โดยพราหมณ์ชื่อ ยัชญวราหะ ในตอนปลายของสมัยพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 และเสร็จในสมัย พระเจ้าชัยวรมันที่ 5 พ.ศ 1511-1554 บันทายศรีได้ชายาว่าเป็นรัตนชาติแห่งศิลปะกัมพูชาเพราะความสวยงามและฝีมือแกะสลักนี้เอง.. นอกจากความงดงามในฝีมือการสลักแล้วยังมีคุณค่าเกี่ยวกับมนุษย์อย่างลึกซึ้งอันเห็นได้จากความรู้สึกที่แสดงออกมาจากภาพเหล่านั้น... หลังจากชมความสวยงามของปราสาทหินศรีชมพูนี้แล้วพาท่านเดินทางกลับโดยแวะซื้อน้ำตาลปึก เครื่องจักสาร..ซึ่งชาวบ้านวางขายอยู่ริมถนนเหมือนกับสินค้าโอท็อป..หลังช้ออปปิ้งแล้วพาท่านเดินทางสู่ ปราสาทตาพรหม เป็นปราสาทหนึ่งที่ได้รับความประทับใจจากนักท่อง เที่ยวเป็นอย่างมาก ใครๆ ก็อยากมาสัมผัสกับเสนห์ของโบราณสถานแห่งนี้โดยเฉพาะความเป็นธรรมชาตินี้เอง ตาพรหมมีต้นไม้เนื้ออ่อนชนิดหนึ่ง ชาวกัมพูชาเรียกว่า “ต้นสปง” และ ต้นไทร ขึ้นชอนไชโดยทั่ว..  

12.00 น. บริการอาหารกลางวัน(5) ณ ร้านอาหาร

บ่าย        นำท่านชมเมือง นครธม เป็นเมืองหลวงโบราณของอาณาจักรกัมพูชาก่อตั้งขึ้นเมื่อปลายศตวรรษที่ 12 ในยุคสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นำท่านถ่ายรูปสะพานนาคราชที่ประตูใต้ของเมืองนครธม ที่นี้มีรูปปั้นเทพและอสูรฉุดพญานาคที่จำลองจากนิยายเรื่องการกวนเกษียรสมุทรของศาสนาฮินดู ซุ้มประตูใต้ของเมืองนครธมเป็นภาพสัก “พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร”ซึ่งมีอยู่ทั้ง 4 ทิศของเมืองนครธม หลังถ่ายรูปแล้วพาท่านขึ้นรถลาดตะเวนชมเมืองโบราณเมืองพระนครหลวงหรือเมืองนครธม เพื่อชมสนามหลวงสมัยโบราณ ชมลานช้าง ปราสาทนางสิบสอง พลับพลาพระมหากษัตริย์ ลานพระเจ้าขี้เรื้อน นำท่านลงตรงจุดกลางเมืองแห่งนี้เพื่อชม ปราสาทบายอน เป็นปราสาทสำคัญแห่งหนึ่งของอาณาจักรกัมพูชา สร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 12 เพื่อเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนานิกายมหายานในยุคของพระมหากษัตริย์ พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 บางคนเรียกเมืองนครธมธมว่า “ดินแดนแห่งรอยยิ้ม” ซึ่งปราสาทบายอนมีหน้าพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรรวมทั้งหมดร่วมเป็น 216 หน้า มีรอยยิ้มแตกต่างกันแต่ความหมายเดียวกันนั้นก็คือความ เมตตา กรุณานี้เอง.. แนะนำท่านถ่ายภาพจมูกชนกันกับพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ซึ่งเป็นที่นิยมที่สุดของนักท่องเที่ยว ถือว่าเป็นไฮไลท์ของปราสาทบายอน หลังชมศิลปะอันสวยงามของบายอนแล้วนำท่านเดินทางสู่ ปราสาทนครวัด “สิ่งมหัศจรรย์ของโลก” ซึ่งเป็นศาสนสถานตั้งอยู่ในเมืองพระนครห่างจากเมืองนครหลวงเพียงแค่ ๑.๕ กม. เท่านั้น นครวัดสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 (ค.ศ 1113-1150) เป็นศาสนสถานประจำพระนครของพระองค์ ตัวเทวสถานแห่งนี้ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี เป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบันนับตั้งแต่ก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่เดิมนครวัดเป็นเทวสถานของศาสนาฮินดูซึ่งสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระวิษณุก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธ นครวัดเชื่อว่าเป็นศาสนสถานของศาสนาฮินดูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก เป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมในสมัยเมืองพระนครซึ่งเป็นยุคที่รุ่งเรือง และเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชาโดยเราสามารถพบเห็นรูปปราสาทนครวัดที่ปรากฏในธงชาติของกัมพูชาหลายยุคสมัย แนะนำท่านถ่ายภาพสลักนางอัปสร “นางฟ้า” ที่ยิ้มเห็นฟัน ถ่ายภาพนครวัดห้าปรางค์และมีเงาสะท้อนในน้ำ ถ่ายภาพนางอัปสร เซ็กซี่ที่สุดที่นุ่งกางเกงขาสั้น..

18.00 น. บริการอาหารเย็น(6) ณ ภัตตาคารโตนเลแม่โขง อาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ พร้อมชมโชว์อัปสราการแสดงนาฎศิลป์เขมรโบราณที่งดงามและอ่อนช้อย หลังจากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

22.00 น.  ราตรีสวัสดิ์
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7678 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2555, 09:09:30 »

3. จองที่โฆษณารายการทัวร์นครวัด นครธม ครับ



วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม 2556 : พนมกุเลน - ปอยแปต - กรุงเทพฯ

07.00 น. บริการอาหารเช้า(7) ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านนั่งรถออกจากตัวเมืองเสียมเรียบไปชม เขาพนนกุเลน (Phnom Kulen)  หรือเขามเหนทรบรรพต พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ทรงย้ายที่ประทับหลายครั้งเมื่อทรงประทับที่เขามเหนทรบรรพต ทรงให้แกะสลักศิวลึงค์นับพันองค์ที่ลำธารเพื่อทรงประกอบพิธี ก็จะให้พราหมณ์ประกอบพิธีที่ต้นน้ำ ให้น้ำไหลผ่านศิวลึงค์ไปให้ประชาชนได้รับน้ำศักดิ์สิทธิทั่วทุกคน 

12.00 น. บริการอาหารกลางวัน( 8 ) (อาหารกล่อง)

13.00 น. เดินทางออกจากเขาพนมกุเลน ถึงชายแดนด่านปอยเปต นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง

17.00 น. เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ เชิญท่านพักผ่อนบนรถ

18.00 น. บริการอาหารเย็น (9) ณ ร้านอาหารแมกไม้ จ.สระแก้ว

21.00 น. เดินทางกลับถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมกับภาพความประทับใจ

หมายเหตุ: รายการข้างล่างนี้ ไม่มีในโปรแกรมทัวร์ และอาจจะไม่ได้ไปสัมผัส หากเวลามีจำกัด

ที่เสียมเรียบมีพระศักดิ์สิทธิ์คือ องค์เจ๊ก-องค์จอม พระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์และสวนสาธารณะจัดสไตล์ฝรั่งเศส และ ตลาดซาจ๊ะ “The old market” เป็นตลาดที่อยู่กลางเมืองเสียมเรียบ อาคารที่อยู่โดยรอบส่วนใหญ่เป็นอาคารที่สร้างสมัยอาณานิคม.. นักท่องเที่ยวนิยมมาช้อปปิ้งตลาดแห่งนี้เพื่อซื้อของที่ระลึก..สินค้าหลายชนิดเช่น เสื้อผ้าก๊อบ ร้องเท้าและของที่ระลึกต่างๆ นานาชนิด.. 

ด่านปอยเปต - ตลาดโรงเกลือ อาจจะไม่หยุดให้เลือกซื้อสิ้นค้า  เพื่อเร่งเวลาในการเดินทางและไปทันอาหารเย็นที่ร้านแมกไม้

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7679 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2555, 15:42:39 »

แดดแรง อากาศร้อน ของีบเอาแรงไว้ก่อนครับ
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #7680 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2555, 16:46:56 »

มีอย่างนี้อีกนะคะ น้องเหยง
จองแล้ว ไปงีบ  งีบตอนบ่ายสาม  ตื่นหัวค่ำแน่
คนรอก็เก้อ สิคะ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7681 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2555, 17:38:56 »

พี่'อร

เน็ตเกิดช้าขึ้นมาครับ copy และ paste ไม่ได้ เลยจองเอาไว้ก่อนครับ
เนื่องจากเป็นส่วนบนของกระทู้ครับ


 หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7682 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2555, 17:41:28 »

โรงเรียนใครบ้างเอ่ย ??


100 อันดับโรงเรียนที่ดีที่สุดในประเทศไทย ล่าสุดปี2012
วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16:54:53 น

ที่มา : เว็บไซต์ dek-d.com
 

100 อันดับโรงเรียนที่ดีที่สุดในประเทศไทย

ลำดับโรงเรียนในประเทศไทยที่ดีที่สุดโดยวัดจากผลเอนทรานซ์ โควตารับตรงโอลิมปิกวิชาการ
 1. โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
 2. โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
 3. โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
 4. โรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนีย์)
 5. โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย
 6. โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จ.ลำปาง
 7. โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย จ.สงขลา
 8. โรงเรียนสาธิต มศว. ปทุมวัน
 9. โรงเรียนอัสสัมชัญ
 10. โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่
 11.โรงเรียนเซนต์คาเบรียล
 12.โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล จ.อุดรธานี
 13.โรงเรียนสตรีวิทยา
 14.โรงเรียนเทพศิรินทร์
 15.โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จ.อุบลราชธานี
 16.โรงเรียนสาธิต ม.เชียงใหม่
 17.โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่
 18.โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.นครศรีธรรมราช
 19.โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม จ.เชียงราย
 20.โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
 21.โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่
 22.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ
 23.โรงเรียนนครสวรรค์
 24.โรงเรียนหอวัง
 25.โรงเรียนวัดสุทธิวราราม
 26.โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
 27.โรงเรียนสุราษฎร์ธานี
 28.โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน จ.ขอนแก่น
 29.โรงเรียนสตรีวิทยา2
 30.โรงเรียนพิริยาลัย จ.แพร่
 31.โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย
 32.โรงเรียนสาธิต ม.ขอนแก่น
 33.โรงเรียนพรหมานุสรณ์ จ.เพชรบุรี
 34.โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย
 35.โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย จ.ตรัง
 36.โรงเรียนสาธิต ม.สงขลานครินทร์ จ.ปัตตานี
 37.โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว
 38.โรงเรียนโยธินบูรณะ
 39.โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.ราชบุรี
 40.โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
 41.โรงเรียนจักรคำคณาทร จ.ลำพูน
 42.โรงเรียนนารีรัตน์ จ.แพร่
 43.โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา
 44.โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย จ.นนทบุรี
 45.โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย
 46.โรงเรียนสุรนารีวิทยา จ.นครราชสีมา
 47.โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จ.ยะลา
 48.โรงเรียนศึกษานารี
 49.โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จ.พิษณุโลก
 50.โรงเรียนสาธิต มศว.ประสานมิตร
 51.โรงเรียนสตรีศรีน่าน จ.น่าน
 52.โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย
 53.โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จ.ลพบุรี
 54.โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนด์
 55.โรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา
 56.โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม
 57.โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ
 58.โรงเรียนสิรินธร จ.สุรินทร์
 59.โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย จ.สตูล
 60.โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
 61.โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล
 62.โรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนีย์)2
 63.โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
 64.โรงเรียนชลราษฎรอำรุง
 65.โรงเรียนดาราวิทยาลัย จ.เชียงใหม่
 66.โรงเรียนพัทลุง
 67.โรงเรียนพิษณุโลกวิทยาคม
 68.โรงเรียนลำปางกัลยาณี
 69.โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย
 70.โรงเรียนนวมินทราชูทิศ บดินทรเดชา
 71.โรงเรียนสุรวิทยาคาร จ.สุรินทร์
 72.โรงเรียนเซนต์โยเชฟคอนแวนด์
 73.โรงเรียนบูรณะรำลึก จ.ตรัง
 74.โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม
 75.โรงเรียนสารคามวิทยาคม จ.มหาสารคาม
 76.โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี
 77.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า
 78.โรงเรียนระยองวิทยาคม
 79.โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.จันทรบุรี
 80.โรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคม
 81.โรงเรียนทวีธาภิเศก
 82.โรงเรียนชลกันยานุกูล
 83.โรงเรียนสาธิต ม.ราชภัฎนครปฐม
 84.โรงเรียนมารีย์วิทยา จ.นครราชสีมา
 85.โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย
 86.โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย จ.มุกดาหาร
 87.โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม
 88.โรงเรียนสายน้ำผึ้ง
 89.โรงเรียนเบญจมราชาลัย
 90.โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช
 91.โรงเรียนสาธิต ม.ราชภัฎพระนครศรีอยุธยา
 92.โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จ.เพชรบุรี
 93.โรงเรียนศรียาภัย จ.ชุมพร
 94.โรงเรียนนวมินทราชูทิศ หอวัง นนทบุรี
 95.โรงเรียนสตรีราชินูทิศ จ.อุดรธานี
 96.โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี
 97.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช
 98.โรงเรียนสาธิต(พิบูลย์บำเพ็ญ) ม.บูรพา
 99.โรงเรียนวิสุทธังษี จ.กาญจนบุรี
 100.โรงเรียนนวมินทราชูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า

 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1355738179&grpid=03&catid=&subcatid=

 

 

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7683 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2555, 22:04:21 »

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 17 ธันวาคม 2555, 16:46:56
มีอย่างนี้อีกนะคะ น้องเหยง
จองแล้ว ไปงีบ  งีบตอนบ่ายสาม  ตื่นหัวค่ำแน่
คนรอก็เก้อ สิคะ


พี่'อร

ผมโพสต์โปรแกรมทัวร์ลงไปแล้วครับ เนื่องจากโปรแกรมที่ได้รับไม่ตรงกับที่บริษัทนี้ลงไว้
จึงต้องตรวจสอบ และนำลงเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกัน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7684 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2555, 22:32:20 »

แสปตากับการแก้ไขข้อความ ลาไปพักก่อนครับ
ราตรีสวัสดิ์ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7685 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2555, 22:45:40 »

สวัสดีวันพุธที่ 19 ธันวาคม 2555

มาเอาเวลาจะ 5 ทุ่ม เนื่องจากภาระกิจปกติมากครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7686 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2555, 22:51:07 »

อีก 5 ปีเวียดนามแซงไทย ?

เศรษฐกิจ ข่าวสด



ผลการสำรวจดัชนีศักยภาพการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลก ปี 2556 จากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้นำระดับแนวหน้าของบริษัทผู้ผลิตต่างๆ ทั่วโลกจำนวน 550 คน ของดีลอยท์ พบว่าปีนี้ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันอยู่ในอันดับ 11 ของโลก แต่ในอีก 5 ปีข้างหน้าไทยจะตกไปอยู่อันดับที่ 15 ขณะที่ คู่แข่งสำคัญคือเวียดนามจะทะยานจากอันดับ 18 ในปีนี้ไปอยู่ในอันดับที่ 10 ของโลก

อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีศักยภาพสูงในแง่การแข่งขัน โดยประเทศในภูมิภาคนี้ เช่น สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม สามารถเกาะกลุ่มอยู่ใน 20 อันดับแรกของโลก และคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าประเทศที่กล่าวมาส่วนใหญ่จะเลื่อนอันดับสูงขึ้นหรืออย่างน้อยก็รั้งอันดับเดิมไว้ได้ โดยเฉพาะตลาดชายขอบที่กำลังมาแรงอย่างเวียดนามและอินโดนีเซีย

อินโดนีเซียซึ่งปีนี้อยู่อันดับที่ 17 คาดว่าในอีก 5 ปีจะเลื่อนขึ้นไปอยู่อันดับที่ 11 ส่วนประเทศยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอย่างประเทศจีนซึ่งขณะนี้อยู่ในอันดับ 1 นั้น อีก 5 ปีก็จะยังสามารถรักษาอันดับไว้ได้เหมือนเดิม ในขณะที่ยักษ์ใหญ่อีกรายคือ อินเดียจะเลื่อนจากอันดับ 4 ในปัจจุบัน เป็น อันดับ 2 รองจากจีน

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้จีนและอินเดียจะยังโดดเด่นในอุตสาหกรรมการผลิต แต่ในความเป็นจริงผู้ผลิตเริ่มหันความสนใจไปยังตลาดชายขอบมากขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการตลาดท้องถิ่นที่เติบโตขึ้น รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการผลิตที่มีความสำคัญในห่วงโซ่สายการผลิตโลก

ขณะเดียวกันมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเดิมต่างประสบภาวะสั่นคลอนอย่างรุนแรง ในอีก 5 ปีข้างหน้า สหรัฐจะหล่นจากอันดับ 3 ไปอยู่ที่อันดับ 5 ตามมาด้วยเกาหลีใต้ในอันดับ 6 เยอรมนีซึ่งปัจจุบันอยู่ในอันดับ 2 จะหล่นไปอยู่อันดับ 4 ตามหลังบราซิลซึ่งจะขึ้นมาเป็นอันดับ 3 แทนที่สหรัฐ แม้กระทั่งญี่ปุ่นซึ่งตอนนี้อยู่อันดับ 10 จะร่วงหลุดจากโผท็อปเท็นลงไปอยู่อันดับที่ 12

ยิ่งไปกว่านั้น ความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่างๆ ในยุโรปจะลดลงอย่างมาก เปิดทางให้เอเชียผงาดขึ้นมาแทนที่

สหรัฐกับยุโรปคงต้องทำตาปริบๆ เมื่อเห็นตลาดเกิดใหม่เมื่อราวสิบปีที่แล้ว มีความเข้มแข็งขึ้นจนกลายมาเป็นคู่แข่งที่สำคัญในวันนี้

ถึงแม้ว่าภูมิภาคอเมริกาจะยังมีศักยภาพที่ดีอยู่ เพราะตอนนี้สหรัฐ บราซิล แคนาดา และเม็กซิโกยังติดกลุ่ม 15 อันดับแรก แต่อีกไม่นานปัจจัยหลายๆ อย่างจะหนุนให้ทวีปเอเชียได้ก้าวขึ้นมาแทน

ซึ่งในอีก 10 ปีข้างหน้า 10 ประเทศจากเอเชียจะติดอยู่ใน 15 อันดับแรกของประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขัน

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMU5UZzFNalUzTmc9PQ==&sectionid=
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #7687 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2555, 23:59:44 »


สวัสดียามดึกครับ... พี่เหยง..พี่อร และพี่น้องทุกท่าน

ตามอ่าน.. ตามชม.. หลายหน้าเลย

ขอบคุณครับ.. พี่เหยง
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7688 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2555, 12:11:33 »

ข่าวจากเวียตนามอีกข่าวหนึ่งครับ ที่คนตัวเล็กเอาชนะชายในเครื่องแบบที่สง่างามได้แบบชิลล์ ชิลล์
อย่างไรก็ตาม คณะทัวร์ของเราไม่ได้แวะไปเยี่ยมชม และไม่ได้อยู่ในช่วงการเฉลิงฉลองซะด้วย


เวียดนามฉลองใหญ่ 40 ปี “ยุทธการ 12 วัน 12 คืน” สอย B-52 สหรัฐฯ
20 ธันวาคม 2555 03:34 น.



จรวดต่อสู้อากาศยาน SA-2 หรือ S-75 "ดวินา" (Dvina) จากโซเวียต ตั้งตระหง่านอยู่เหนือซากเครื่องบินบี-52 ที่พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งกรุงฮานอย ราวกับประกาศศักดาเหนือน่านฟ้าเมืองหลวง เวียดนามกำลังเฉลิมฉลองรำลึก 40 ปี ยุทธการฮานอย-เดียนเบียนฟูทางอากาศ ซึ่งหมายถึงการต่อสู้ตอบโต้การโจมตีทิ้งระเบิดด้วยเครื่องบินบี-52 ของสหรัฐ 12 วัน 12 คืน ระหว่างวันที่ 18-29 ธ.ค.2515 อันเป็นเหตุการณ์ที่นักประวัติศาสตร์กล่าวว่าพลิกผันอนาตของสงครามในเวียดนาม ทำให้สหรัฐฯ เสนอทำสัญญาสันติภาพในเดือน ม.ค.2516 ในกรุงปารีส. -- AFP Photo/Hoang Dinh Nam


       ASTVผู้จัดการออนไลน์ - วันที่ 18 ธ.ค.เมื่อ 40 ปีก่อน กลายเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์อักวันหนึ่ง เป็นวันที่สหรัฐฯ เริ่มโจมตีทิ้งระเบิดกรุงฮานอย กับจังหวัดสำคัญทางภาคเหนือ หวังกดดันให้คอมมิวนิสต์เวียดนามยอมศิโรราบ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวกลับเปิดเผยให้เห็นจุดอ่อนของ “อสูรสงคราม” และกดดันให้สหรัฐฯ ต้องรีบทำความตกลงหยุดยิงกับเวียดนาม
      
       นั่นคือช่วงปลายเหตุการณ์ที่เวียดนามเหนือเรียกว่า “ยุทธการฮานอย-เดียนเบียนฟูทางอากาศ” เป็นเวลา 12 วัน 12 คืน ในเดือน ธ.ค.2515 ซึ่งเวียดนามยิงเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์บี-52 ของสหรัฐฯ ตกถึง 34 ลำ เครื่องบินรบอื่นๆ อีกจำนวนมาก และทำให้ “สงครามกับสหรัฐฯ” ตามที่ฝ่ายเวียดนามเรียกขานไปสู่จุดจบเร็วขึ้น
      
       เป็นเรื่องที่คาดล่วงหน้าได้อยู่แล้วว่า ไม่วันใดก็วันหนึ่ง กรุงฮานอยกับเมืองท่าหายฝ่อง (ไฮฟอง) ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม หรือ “เวียดนามเหนือ” ในอดีตต้องตกเป็นเป้าหมายการโจมตีทิ้งระเบิดครั้งใหญ่อย่างไม่มีทางเลี่ยง
      
       สหรัฐ “หวังจะทำลาย 2 เมืองใหญ่ของเวียดนามให้กลับไปสู่ยุคหิน” และ “หวังจะทำลายความหวังกับความมุ่งมาดปรารถนาต่อเอกราช และสันติภาพของประชาชนเวียดนาม เป็นความพยายามที่จะหาความได้เปรียบในการเจรจาสันติภาพกรุงปารีส ทำลายล้างเศรษฐกิจ และการป้องกันในภาคเหนือ หวังจะจำกัดการสนับสนนุนขบวนการปฏิวัติในภาคใต้ ลดความเข้มแข็ง และลดฐานะตำแหน่งของพวกเรา เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลหุ่นไซ่ง่อน” หนังสือพิมพ์กวนโด่ยเญินซเวิน (Quan Doi Nhan Dan) หรือ “กองทัพประชาชน” กล่าวในสัปดาห์นี้
      
       แต่เวียดนามเตรียมตัวล่วงหน้านานนับปีเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการโจมตีทิ้งระเบิดหวังทำลาย “เส้นทางโฮจิมินห์” ในช่วงต้นปี 2515 ไม่สามารถหยุดยั้งการขนส่งลำเลียงลงสู่ใต้ได้ การจัดเตรียมกองกำลังต่อสู้อากาศยานจึงเริ่มมีขึ้นและกลายเป็นยุทธการฮานอย-เดียนเบียนฟูฯ มาตามบัญชาของประธานโฮจิมินห์
       ผู้นำที่เป็นจิตวิญญาณของฝ่ายเวียดนามเหนือ ไม่เพียงแต่จะจัดเตรียมมาตรการป้องกันเท่านั้น หากยังบัญชาให้ตอบโต้ และทำลายการรุกรานของสหรัฐฯ อีกด้วย
      
       เมื่อสหรัฐฯ นำบี-52 ออกปฏิบัติการโจมตีทิ้งระเบิดบริเวณมุยา (Mu Gia) ใน จ.กว๋างบี่ง (Quang Binh) ในปี 2509 และขยายไปยังเมืองวีงลีง (Vinh Linh) จ.กว๋างจิ (Quang Tri) “ลุงโฮ” สั่งการให้กองกำลังป้องกันทางอากาศจัดเตรียมรับมือ และหาทางยิงทำลายเครื่องบินรบยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ให้ได้
      
       “ไม่ช้าก็เร็วจักรพรรดินิยมอเมริกาจะส่งบี-52 มาทิ้งระเบิดกรุงฮานอย แต่พวกเขาจะต้องพ่ายแพ้ ขอให้เราใช้เวลาที่มีอยู่ในการจัดเตรียมรับมือ” ประธานโฮจิมินห์พูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งในช่วงในฤดูใบไม้ผลิตปี 2511 เพื่อเป็นแนวทาง กวนโด่ยเญินซเวินกล่าว
      
       เวียดนามเหนือได้ขยายกองกำลังป้องกันทางอากาศเป็นระดับกองพล แบ่งระดับกรม กับกองพัน กระจายกันโอบล้อมเมืองหลวง กับเมืองท่าหายฝ่อง และกระจายเครื่องบินรบซึ่งในช่วงปีโน้นมีเพียงมิก-17 มิก-19 กับ มิก-21 (MiG-21) ที่ได้รับจากสหภาพโซเวียตเป็นกำลังหลัก ไปยังสนามบินในจังหวัดใกล้เคียง พร้อมต่อกรกับบี-52 และเครื่องบินรบแบบอื่นๆ ของสหรัฐฯ ..
      
       ทางการเวียดนามกำหนดให้จัดการเฉลิมฉลองรำลึกเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์นี้ในระดับชาติ โดยเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย.ที่ผ่านมา มีการประชุมสัมมนาทางวิชาการเผยแพร่ความรู้มาหลายครั้ง จัดแสดงปาฐกถาโดยผู้เชี่ยวชาญ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญ และเปิดบริเวณพระราชวังเก่าทังลอง ที่เคยใช้เป็นศูนย์บัญชาการของบรรดาผู้นำให้สาธารณชนได้เข้าเยี่ยมชม

       .

 
       2
ภาพทำขึ้นใหม่ -- พล.อ.ฝุ่งกวางแทง (Phung Quang Thanh) รัฐมนตรีกลาโหมเวียดนามต้อนรับทหารผ่านศึกกับอดีตผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมทหารผ่านศึกโซเวียตในเวียดนาม วันที่ 4 ธ.ค.2555 ทั้งหมดไปจากรัสเซีย เบลารุสและยูเครน เพื่อร่วมฉลอง 40 ปียุทธการฮานอย-เดียนฟูทางอากาศ อดีตผู้เชี่ยวชาญอีกกลุ่มหนึ่งพบปะสหายเก่าชาวเวียดนาม (ภาพล่าง) ในโอกาสไปเยี่ยมเยือนวันที่ 4-12 เดือนนี้ ความช่วยเหลือบน "จิตใจสากลนิยมชนชั้นกรรมาชีพ" จากโซเวียตมีความสำคัญยิ่งยวดต่อชัยชนะของเวียดนาม จรวด SAM-2 เป็นปัจจัยชี้ขาดชัยชนะในยุทธการ 12 วัน 12 คืนป้องกันเมืองหลวง. -- ภาพ: กวนโด่ยเญินซเวิน.
     [/b]

      เป็นพิเศษก็คือ คณะจากสมาคมทหารผ่านศึกกับผู้เชี่ยวชาญโซเวียตในเวียดนาม ได้ไปเยือนกรุงฮานอย ระหว่างวันที่ 4-12 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อแลกเปลี่ยนบทเรียนในเหตุการณ์เมื่อ 40 ปีก่อน คนเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การต่อสู้ป้องกันเมืองหลวงของเวียดนามเข้มแข็ง จนสหรัฐฯ ต้องแปลกใจ
      
       หลังกลับจากเวียดนามไปยังบ้านเกิดในเวลาต่อมา นายทหารกับผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น ทั้งบุรุษ และสตรีหลายคนได้รับการเลื่อนชั้นยศเป็นระดับนายพล ก่อนเกษียณอายุ
      
       ตามรายงานของสื่อทางการ อดีตสหภาพโซเวียตภายใต้ “จิตใจสากลนิยมชนชั้นกรรมาชีพ” ที่ช่วยเหลือประเทศสังคมนิยมด้วยกัน ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านจรวดนำวิถีต่อสู้อากาศยานไปช่วยฝึกทหารเวียดนามมาตั้งแต่ปี 2508 ซึงเป็นช่วงปีที่สงครามกับสหรัฐฯ ปะทุรุนแรง ความช่วยเหลือจากโซเวียตเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งยวดที่นำมาสู่ชัยชนะ
      
       พล.อ.ฝุ่งกวางแทง (Phung Quang Thanh) รัฐมนตรีกลาโหมเวียดนามได้ต้อนรับคณะทหารผ่านศึก และอดีตผู้เชี่ยวชาญจากรัสเซีย เบลารุส และสาธารณรัฐยูเครนที่เข้าเยี่ยมคำนับ ในวันที่ 4 ธ.ค.และขอบคุณ “สหาย” เหล่านั้น ที่เคยช่วยเหลือเวียดนามในรูปแบบต่างๆ รวงทั้ง “การรบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน” ในหลายโอกาสด้วย
      
       ในช่วง 2-3 สัปดาห์มานี้ สื่อต่างๆ ในเวียดนามได้รายงานเหตุการณ์อันเป็นประวัติศาสตร์อย่างกว้างขวางในช่วง 12 วัน 12 คืน ยุทธการฮานอย-เดียนเบียนฟูทางอากาศ (18-29 ธ.ค.2515) ก่อนสหรัฐฯ จะยื่นข้อเสนอหยุดยิง และเชื้อเชิญเวียดนามเหนือเข้าสู่โต๊ะเจรจาในเมืองหลวงฝรั่งเศส ในเดือน ม.ค.2516
      
       ตามบันทึกของผู้เชี่ยวชาญโซเวียตผู้หนึ่ง ที่หนังสือพิมพ์ “เดิ๊ตเหวียด” (Dat Viet) นำออกเปิดเผยสัปดาห์นี้ เวียดนามระดมจรวด S-75 (System-75 “Dvina”) หรือ SAM-2 (หรือ SA-2 ตามรหัสของกลุ่มนาโต้) ที่ได้รับจากโซเวียตกว่า 330 ลูก เพื่อป้องกันกรุงฮานอยจากการโจมตีของบี-52 โดยเฉพาะ
      
       เอกสารลับของเวียดนามอีกฉบับหนึ่ง ระบุว่า โซเวียตยังให้จรวดต่อสู้อากาศยานแบบ SAM-3 (เปชอรา -Pechora) อีกจำนวนมาก เช่นเดียวกับจีน ที่ส่งจรวดหงฉี-2 (HQ-2) ไปช่วยอีกทาง แต่แทบจะไม่มีโอกาสได้นำออกใช้ เพราะไม่สามารถต่อกรกับ บี-52 ได้
      
       ตลอด 12 วัน 12 คืนในเดือน ธ.ค.2515 จรวด SAM-2 จึงเป็นอาวุธหลักในการป้องกันเมืองหลวง กับเมืองท่าหายฝ่อง

      .

 

ผู้ไปเที่ยวชมเดินผ่านซากเครื่องบินบี-52 ที่พิพิธภัณฑ์ "ชัยชนะเหนือบี-52" ในกรุงฮานอยในภาพวันที่ 7 ธ.ค.2555 เวียดนามจัดฉลองใหญ่ครบรอบ 40 ปีการณรงค์ที่เรียกว่า "ฮานอย-เดียนเบียนฟูทางอากาศ" ซึ่งกินเวลา 12 วัน 12 คืน ระหว่างวันที่ 18-29 ธ.ค.2515 อันเป็นเหตุการณ์สำคัญมากในช่วง "สงครามสหรัฐฯ" ตามที่ฝ่ายเวียดนามเรียก. -- AFP Photo/Hoang Dinh Nam
       3


นักท่องเที่ยวเดินผ่านล้อมหึมาของ "ป้อมปราการบิน" ที่ปนอยู่ในกองซากบี-52 ลำหนึ่งที่ถูกยิงตกเมื่อ 40 ปีก่อน ระหว่างการโจมตีทิ้งระเบิดกรุงฮานอยครั้งใหญ่ หวังกดดันให้เวียดนามเหนือยอมศิโรราบ แต่สถานการณ์กลับพลิกผัน สหรัฐฯ สูญเครื่องบินไปกว่า 80 ลำในปฏิบัติการ 12 วัน 12 คืน รวมทั้งบี-52 จำนวน 34 ลำด้วย วอชิงตันต้องเสนอเจรจาสันติภาพกับเวียดนามในกรุงงปารีส เดือน ม.ค.2516 และสงครามเวียดนามเริ่มนับถอยหลังสู่จุดจบ. -- AFP Photo/Hoang Dinh Nam
       4


ทหารหญิงเดินผ่านจรวด SAM-2 หรือ S-75 "Dvina" ที่ผลิตในอดีตสหภาพโซเวียต ในภาพวันที่ 7 ธ.ค.2555 ที่ติดตั้งบริเวณหน้าอาคาร "พิพิธภัณฑ์ชัยชนะเหนือบี-52" ในกรุงฮานอย เวียดนามกำลังฉลองใหญ่ครบรอบ 40 ปี เหตุการณ์ที่เรียกว่า "ยุทธการฮานอย-เดียนเบียนฟูทางอากาศ" เป็นเวลา 12 วัน 12 คืนในเดือน ธ.ค.2515 ซึ่งระหว่างนั้นสหรัฐฯ สูญบี-52 ไป 34 ลำ รวมทั้ง 1 ลำที่ถูกยิงตกโดยเครื่องบินขับไล่มิก-21 ลำเล็กๆ และล้าสมัยของเวียดนาม. -- AFP Photo/Hoang Dinh Nam  
       5
     
     บันทึกของผู้เชี่ยวชาญโซเวียตอีกคนหนึ่งระบุว่า มอสโกได้ช่วยฝึกการใช้จรวด SAM-2 ให้ฝ่ายเวียดนามเหนือมาตั้งแต่ปี 2509-2510 ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้ประสบการณ์ในสนามรบโดยตรง และในนั้น มีจำนวนหนึ่งเสียชีวิตจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสหรัฐฯ ทั้งในฮานอย และในจังหวัดอื่นๆ
      
       อย่างไรก็ตาม แม้จะมีอาวุธดีใช้ แต่การต่อกรกับ “ป้อมบินยักษ์” บี-52 และมหาอำนาจที่มีกำลังทางอากาศใหญ่โต และทันสมัยที่สุดในโลกไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้เชี่ยวชาญโซเวียตช่วยเวียดนามพัฒนายกระดับ SAM-2 มาเป็นระยะๆ โดยใช้เวลาหลายปี เนื่องจากฝ่ายสหรัฐฯ เองได้พัฒนา “สงครามอิเล็กทรอนิกส์” อย่างต่อเนื่อง
      
       โซเวียตช่วยเวียดนามอัปเกรดทั้งจรวด ระบบระบบควบคุม จนถึงระบบเรดาร์เพื่อชี้เป้าหมายให้พ้นจากการรบกวนของฝ่ายข้าศึก ซึ่งทำให้การยิง SAM-2 แม่นยำยิ่งขึ้น จนกระทั่งทหารเวียดนามสามารถปฏิบัติการได้ด้วยตัวเองตลอด 12 วัน 12 คืน ในยุทธการสำคัญนี้
      
       ในคืนแรกของปฏิบัติการวันที่ 18 ธ.ค. บี-52 ที่น่าเกรงขามถูกยิงตกไป 3 ลำ (ตัวเลขของสหรัฐฯ และเวียดนามตรงกัน) ในการต่อต้านอันเข้มแข็งที่ฝ่ายสหรัฐฯ ไม่เคยคาดคิดจะได้เห็น สหรัฐฯ ระบุว่า เวียดนามยิงจรวดราว 200 ลูกในวันแรก ไม่เคยคิดว่าเวียดนามเหนือจะมีจรวดต่อสู้อากาศยานมากมาย
      
       อย่างไรก็ตาม เอกสารของฝ่ายเวียดนามระบุว่า “การปรับตัวอย่างทันท่วงทีจากบทเรียนในวันแรกๆ ทำให้การป้องกันน่านฟ้าเมืองหลวงมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” ในคืนวันที่ 20 ธ.ค.เพียงคืนเดียว เวียดนามยิงบี-52 ตกถึง 7 ลำ ด้วย SAM-2 เพียง 36 ลูก หรือเฉลี่ย 5.2 ลูกต่อลำ
      
       ตัวเลขของเวียดนามระบุว่า ใน 3 วันแรก (18-21 ธ.ค.) สหรัฐฯ ส่งบี-52 ไปทิ้งระเบิดกรุงฮานอย 90 เที่ยว/ลำ ในนั้นถูกยิงตกรวม 12 ลำ ถึงแม้สหรัฐฯ จะบันทึกการสูญเสียเอาไว้เพียง 9 ลำ แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด
      
       การสูญเสียได้ทำลายขวัญกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานอย่างรุนแรง โรเบิร์ต โอ ฮาร์เดอร์ (Robert O Harder) อดีตนักบินบี-52 คนหนึ่งเขียนเอาไว้ในบันทึก “สงคราม 11 วัน” ของเขาในเวลาต่อมา

      
ฉลอง 40 ปี “แจ็กล้มยักษ์” เดิ๊ตเหวียด/กวนโด่ยเญินซเวิน
 

 
       6



       7


 
       8


 
       9


 
       10


 
       11


 
       12


 
       13


 
       14


 
       15


 
       16



อดีตนายกรัฐมนตรีเวียดนามฝ่ามวันดง (Pham Van Dong) ในภาพที่ไม่ได้ระบุวันถ่ายขณะไปเยี่ยมประชาชนในหลุมหลบภัยใต้ดินแห่งหนึ่งในกรุงฮานอย ในช่วงที่สหรัฐฯ โจมตีทิ้งระเบิดเมืองหลวงอย่างหนัก. -- เดิ๊ตเหวียดออนไลน์.  
 
       17



พล.อ.หวอ-งเวียน-ย้าป (Vo Nguyen Giap) อดีตรัฐมนตรีกลาโหม-ผู้บัญชาการกองทัพเวียดนาม ในภาพที่ไม่ระบุวันถ่าย ขณะฟังบรรยายสรุปที่กองบัญชาการกองพันต่อสู้อากาศยานแห่งหนึ่งในกรุงฮานอย ช่วงก่อนจะเริ่มยุทธการสำคัญ 12 วัน 12 คืน ป้องกันเมืองหลวงจากการโจมตีทิ้งระบิดของเครื่องบินบี-52.-- เดิ๊ตเหวียดออนไลน์.  

       18
     

       สหรัฐฯ สูญเสียหนักยิ่งขึ้นในการโหมโจมตีระลอกที่ 2 ระหว่างวันที่ 26-29 ธ.ค.2515 ซึ่งตลอดช่วง 12 วัน 12 คืน มีบี-52 ถูกยิงตกทั้งหมด 34 ลำ อีกหลายลำที่รอดกลับไป เสียหายหนักจนไม่สามารถใช้การได้อีก มีนักบินกับลูกเรือบี-52 กับนักบินเครื่องบินรบแบบต่างๆ เสียชีวิต หรือถูกจับรวมนับร้อยๆ คน นับเป็นการสูญเสียแบบย่อยยับที่สุดอีกครั้งหนึ่งในสงครามทางอากาศระหว่างยักษ์ใหญ่กับ “แจ็ก” ตัวเล็กๆ
      
       เอกสารที่เคยเป็นความลับของเวียดนาม ซึ่ง “เดิ๊ตเหวียด” นำออกเผยแพร่ ได้กล่าวถึงความยุ่งยากในการเคลื่อนย้ายจรวด S-75 อันใหญ่โต หนีการโจมตีของเครื่องบินสหรัฐฯ รวมทั้งความยากลำบากในการเคลื่อนย้ายเสริมกำลังหน่วยต่อสู้อากาศยานรอบๆ เมืองหลวง เนื่องจากเส้นทางขนส่งต่างๆ ถูกทิ้งระเบิดทำลายเสียหายหนัก
      
       แต่ตลอดเวลา 12 วัน 12 คืนของยุทธการฯ เวียดนามใช้กำลังต่อสู้อากาศยานป้องกันเมืองหลวงรวม 13 กองพัน ต่อสู้กับบี-52 เกือบ 200 เที่ยว/ลำ (ราว 48% ของจำนวนทั้งหมด) ที่ไปจากฐานทัพอากาศแอนเดอร์สันบนเกาะกวม กับฐานบินอู่ตะเภาในประเทศไทย สามารถยิงบี-52 ตกทั้งหมด 25 ลำ ในนั้นมี 16 ลำถูก “ตกในทันที” รวมทั้ง 3 ลำ ทีตกลงในกรุงฮานอย
      
       ก่อนจะถึงวันที่สหรัฐฯ ลงมือ ทางการเวียดนามได้อพยพประชาชนออกจากเมืองหลวงกว่า 55,000 คน ที่ยังเหลืออยู่เกือบทุกครอบครัวต้องขุดหลุมหลบภัยตามถนนหรือสวนสาธารณะ แต่ถึงกระนั้น การโจมตี 12 วัน 12 คืนได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับพันๆ รวมทั้งแพทย์ และพยาบาลกว่า 20 คน แห่งโรงพยาบาลบั๊กมาย (Bac Mai) ที่ถูกทิ้งระเบิดด้วย
      
       หลัง “ยุทธการฮานอย-เดียนเบียนฟูทางอากาศ” ผ่านไป เวียดนามเหนือยังทำสงครามกับสหรัฐฯ ต่อมาอีก 2 ปีกับ 4 เดือน จึงยุติลง โดยสหรัฐฯ ถอนออกจากดินแดนเวียดนามทั้งหมด และในปีถัดมา เวียดนามเหนือกับเวียดนามใต้ก็ถูกรวมเข้าเป็นประเทศเดียวกันภายใต้พรรคคอมมิวนิสต์
      
       จนถึงปัจจุบัน เวียดนามก็ยังเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่ยิงบี-52 ของสหรัฐฯ ตกในการสู้รบ.

 
http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9550000154123
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7689 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2555, 10:26:31 »

สวัสดีทุกท่านในวันที่ 21/12/12 ครับ

ตลอดทั้งวันคงต้องติดตามข่าวโลกแตกจนกว่าจะสิ้นวันนี้ครับ
      บันทึกการเข้า
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #7690 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2555, 06:46:56 »


.....สวัสดีครับ พี่เหยง ตามชมครับ.....
      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #7691 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2555, 07:55:38 »


สวัสดีครับพี่เหยงและสมาชิกทุกท่าน
ตามอ่านตามชมครับ
ขอบคุณพี่เหยงที่เอาภาพมาลงเอาเรื่องมาเล่า

คิวต่อไป...ถกเขมร...นะครับ ฮ่า ฮ่า



 หลั่นล้า รักนะ
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7692 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2555, 21:19:53 »

สวัสดีตี๋ หนุน เริง และแหลม

ขอบคุณที่ติดตาม แต่ช่วงนี้กลับไม่ได้โพสต์ใดๆเลย
ต้องออกไปดูงานนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ เดี๋ยวกลับมาโพสต์ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7693 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2555, 21:26:00 »

91. เนื่องจากรถไฟถึง"จังหวัดลาวไก" ก่อนสว่าง (ประมาณตีห้าเศษ)
ปัญหาคือจะทำอะไรในช่วงนั้น ก่อนฟ้าสาง



พี่หน่า-ญานี ข้ามตู้โบกี้ไปเข้าห้องน้ำ จึงถูกล๊อกระหว่างขบวนตู้รถไฟ
และกลับลงมาจากอีกตู้หนึ่ง เมื่อขบวนรถไฟจอดและขนของลงจนหมดแล้ว (ภาพไม่ชัดนะครับ)




      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7694 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2555, 21:33:29 »

92. ไกด์สมชายพาเราไปที่รถบัสที่มาจอดรอหน้าสถานีรถไฟลาวไก รถขนาดเล็กลงกว่าที่ใช้ในฮานอย
จนต้องนำสัมภาระไว้ด้านท้ายแย่งที่นั่งของน้องแมวและคุณสงบ
จากนั้นรถบัสออกเดินทางสู่ซาปา โดยใช้เวลาพอสมควร
และรำว่างทางหมอกคลึ้ม แต่มีบางจุดที่มีแดด สามารภมองทัศนียภาพได้งดงามเช่นกัน










      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7695 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2555, 21:41:54 »

93. ทัศนียภาพที่โรงแรม Chau Long ในซาปา ซึ่งเรานำสัมภาระไปฝากไว้ก่อน และจะเข้าเช็คอินในช่วงเที่ยง
เนื่องจากแขกชุดเดิมยังไม่ออกจากโรงแรม

ระหว่างเก็บสัมภาระและเข้าใช้บริการห้องน้ำ ได้เก็บภาพขณะที่หุบเขามีแดดสาดส่องได้ชั่วครู่
ก่อนหมอกจะคืบคลานเข้ามาปกคลุมฟ้าบริเวณนั้นทั้งหมดต่อ














      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7696 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2555, 21:44:31 »

94. ไม่น่าเชื่อว่า เป็นภาพที่สว่างด้วยแสงแดด เพราะในไม่กี่นาทีข้างหน้า
เมฆหมอกคลานคืบมาปกคลองจนมืดมิดไปหมด พร้อมๆกับความหนาวเย็นที่ตามมา


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7697 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2555, 21:50:55 »

95. เนื่องจากยังไม่ได้เข้าเช็คอิน และเพื่อรับประทานอาหารเช้า
เราจึงไปใช้บริการอาหารเช้าจาก โรงแรม Holiday Inn Sapa ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ฝากกระเป๋า




      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7698 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2555, 21:53:16 »

96. บรรยากาศบนถนนยามเช้าระหว่างเดินทางไป Holiday Inn Sapa







      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7699 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2555, 22:01:58 »

97. ตลอดเส้นทางผ่านที่เป็นชุมชน หรือหน้าร้านอาหารที่มีนักทัศนาจร
ชาวเขาที่เป็นหญิงทั้งเผ่าแม้ว (ชุดดำ) และเย้า (มีสีแดงประกอบ) ยืนเรียงรายขายสินค้าพื้นเมือง
ไกดืบอกว่า ออกมาขายตั้งแต่เช้าจนมืดหรือหมดผู้คนแล้วจึงกลับบ้าน
ส่วนชาวเขาที่เป็นสามี กินเหล้าอยู่ที่บ้านครับ ?? !!~


หลายๆคนกระเตงลูกน้อยใส่หลังมาทำธุรกิจด้วย










      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 306 307 [308] 309 310 ... 472   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><