24 พฤศจิกายน 2567, 04:04:39
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 299 300 [301] 302 303 ... 472   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ  (อ่าน 2607848 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 39 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7500 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2555, 19:26:34 »

มีคำตอบมาแล้วครับ

อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2555, 16:49:30

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2555, 16:39:18
หนุน และ แหลม

ทัวร์บอกว่า อัตราแลกเปลี่ยน 1 US $ แลกได้ 15,000 ด่อง

                 อัตราแลกเปลี่ยน 1 บาทไทย แลกได้ 400 ด่อง

ราคาเป็นอย่างไร??


อ้างถึง
ข้อความของ manopkd เมื่อ 08 กรกฎาคม 2552, 21:07:56
ในภาพเราอยู่ที่หน้าร้านอาหารที่ฝั่งลาว คุณศิริชัย  กำลังแรกเงินโด่ง ครับ ก่อนจะแลกเงิน ไกด์ได้ไปเจราจาต่อรองเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดมาให้เราแล้วว่า จะแลกกับคนไหน เพื่อความรอบครอบครับ แต่ก็ไม่มีใครแลกมากเพราะเงินบาทใช้ได้ครับ

                คุณบิว  เล่าให้ฟังว่า ลาวบาวนั้นเดิมทีเป็นของลาว ครับ แต่ในสมัยสงครามนั้น ทางกองทัพเวียตนามได้ช่วยปลดปล่อยลาวสำเร็จเพื่อเป็นการตอบแทนชาวเวียตนาม  ทางลาวจึงได้ยกพื้นที่บริเวณนี้ให้  คือ เป็นดินแดนที่เรียกว่า "ลาวไม่เอา"  ต่อมาภาษาเกิดเพี้ยน  ไปเป็นดินแดน "ลาวเบา" ครับ
                จากฝั่งไทยเราต้องนั่งรถประมาณสามชั่วโมงเศษๆ ถึงจะถึงลาวบาว ดังนั้น คุณตุ้ยนุ้ย ไกด์ลาว  ทำหน้าที่ดูแลพวกเราบนรถ โดยมี จู๋หลิว และจู๋ดำ เป็นผู้ช่วยเพื่อให้พวกเราสนุกสนาน ลืมเวลานั่งอยู่บนรถ พร้อมกับดูทิวทัศน์ไปด้วย จะพบว่า ฝั่งลาวนั้นค่อนข้างจะแห้งแล้ง ปราศจากต้นไม้ใหญ่ ครับ แต่พอผ่านข้ามไปฝั่งเวียตนาม ป่าจะมีสีเขียว ท่ามกลางภูเขาหัวโลน แต่ก็มีต้นไม้ครับ สรุปฝั่งเวียตนามอุดมสมบูรณ์กว่าฝั่งลาว คุณตุ้ยนุ้ย ลงรถ และหมดหน้าที่ ที่ร้านอาหารลาวเบา ครับ ผมถามเธอว่ากลับอย่างไร เธอตอบว่าขึ้นรถโดยสารกลับสะวันเขต ผมเลยให้ค่ารถกลับไป 200 บาท ครับ และวันกลับเธอจะมารับเราที่ด่าน ครับ การทำหน้าที่ของเธอสอบผ่านครับ มีความละเอียด เธอนับผู้โดยสารว่ามีกี่ท่านทุกครั้งที่ขึ้นรถ เธอทำหน้าที่สะแต้มพาสปอร์ตที่ด่านลาวครับ เป็นอดีตนักร้องคาเฟ่ จึงร้องเพลงได้หลายเพลง
                 ข้อสังเกต  ชาวลาวนิยมเลี้ยงแพะ เพราะผมเห็นแพะ ตลอดเวลา ข้างๆ ถนน และตามบ้าน และชาวลาว ทำนาข้าวไม่มากทำเพียงแค่พอกินในแต่ละครอบครัวเท่านั้นครับ และปลูกบ้านเล็กๆ เหมือนตามชนบทที่เราเคยเห็น และสังเกตได้เลยว่า บ้านชาวลาว ปลูกแบบหนึ่งซึ่งก็เป็นเอกลักษณ์ของลาว(อยากจน)  แต้บ้านเวียตนามสังเกตได้เลยตามวัฒนธรรมเหมือนกัน แตกต่างกันสิ้นเชิงและค่อนข้างจะดีกว่าลาวมากๆๆ ดังนั้นผมมองปัปก็รู้ทันที่ว่าฝั่งไหนลาว  ฝั่งไหนเวียตนาม ครับ
                 พอผ่านด่านลาวเข้าเวียตนาม คุณบิว  ทำหน้าที่ทันที แนะนำตัว และบรรยายตลอดเส้นทาง ครับ พรุ่งนี้เช้าจะมาเล่าต่อครับ ราตรีสวัสดิ์

เรทนี้น่าชังมากครับ.. พี่เหยง

ผมแลกต้นเดือนที่ผ่านมา... 100 บาท แลกได้ 65,000 ด่อง

1 บาท ก็ต้องได้ 650 ด่อง ครับ

      บันทึกการเข้า
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #7501 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2555, 20:21:06 »

 สวัสดีครับเหยง,แหลม

      ได้เช็คอัตราแลกเปลี่ยนเงินของ บ.Super Rich ราคาวันนี้อัตราแลกอยู่ที่ประมาณ   662,250 ด่องต่อ 1,000 บาท

เผอิญตอนบ่ายลูกสาวกำลังไปซื้อของที่จตุจักรโทรมาหา  ผมก็เลยวานให้ขับรถไปที่ร้านแลกเปลี่ยนเงินที่ติดกับโรงแรมประดิพัทธ์

ถนนประดิพัทธ์ สพานควาย ช่วยซื้อเงินด่องให้ ราคาซื้อได้ในอัตรา(ราคาวันนี้) 666,000 ด่องต่อ 1,000 บาทครับ

                  

 
      บันทึกการเข้า
ประทาน14
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2514
คณะ: เภสัชศาสตร์
กระทู้: 999

« ตอบ #7502 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2555, 23:41:29 »

อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2555, 17:17:48

สวัสดียามเย็นครับ... พี่เหยง..พี่แก้ว..พี่สิน..พี่ประทาน และพี่น้องทุกท่าน

จะรอชมภาพสวยๆจากซาปาและฮานอย นะครับ..

ด้วยความยินดีครับน้องแหลม รับรองว่าทริปนี้จะมีหลายคนช่วยกันนำรูปสวยๆมาโพสต์ให้ชมครับ
      บันทึกการเข้า
ประทาน14
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2514
คณะ: เภสัชศาสตร์
กระทู้: 999

« ตอบ #7503 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2555, 23:47:10 »

เรียนพี่ๆน้องๆครับ
อาจารย์แจ่มใสไม่สามารถไปเที่ยวกับพวกเราได้เนื่องจากความจำเป็นบางประการ จึงให้น้องอ๋อบุตรสาวไปแทน
เปลี่ยนชื่อในตั๋วโดยสารเรียบร้อยแล้ว แต่การจัดห้องพักยังคงเดิมครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7504 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2555, 09:44:31 »

รายชื่อที่ Updated ในวันนี้ (24 พฤศจิกายน 2555) คือ

  1.คุณโอภาส นิลยนิมิตร
  2.คุณแววตา นิลยนิมิตร
  3.คุณปริยา นิลยนิมิตร
  4.คุณสัมฤทธิ์ ตันติดิลกกุล
  5.คุณนภาพร ตันติดิลกกุล
  6.อจ.เผ่า สุวรรณศักดิ์ศรี
  7.อจ.แจ่มใส สุวรรณศักดิ์ศรี เปลี่ยนตัวเป็น "น.ส. มัชฌิมน สุวรรณศักดิ์ศรี" เดินทางแทน
  8.คุณจันทร์แจ่ม เพิ่มพงษ์พันธ์
  9.คุณธีระ ตันสมพงษ์
10.คุณสมนาม ตันสมพงษ์
11.คุณวิฑิดา ปัทมวิภาค
12.คุณญานี แจวเจริญ
13.พลตำรวจตรี เกียรติพงษ์ มีเพียร
14.คุณนิภา มีเพียร
15.คุณปรีชา จุฬาพรศิริ
16.คุณนภดล ลิ้มสุรัตน์
17.คุณประทาน ป้อมจักรศิลป์
18.คุณศิริวรรณ ป้อมจักรศิลป์
19.คุณวรพล ปัจฉิมะศิริ
20.คุณตวงทอง ปัจฉิมะศิริ
21.คุณจิรศักดิ์ เอื้อสุนทรวัฒนา
22.คุณธิดา เอื้อสุนทรวัฒนา
23.คุณมานพ กลับดี
24.คุณพิเชษฐ์ เชื่อมวราศาสตร์
25.น้องแมว RCU 20
26.คุณสงบ (ผู้ติดตามน้องแมว)
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7505 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2555, 21:05:47 »

บ่ายวันนี้ ฝนตกหนักมากและลมแรงขนาดประตูรั้ว ซึ่งเป็นเหล็กขนาดใหญ่ล้มลงมาได้ทั้งบาน
ต้องเร่งมือกู้คืนและใส่กลับเข้าที่ครับ
      บันทึกการเข้า
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #7506 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2555, 01:14:23 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2555, 21:05:47
บ่ายวันนี้ ฝนตกหนักมากและลมแรงขนาดประตูรั้ว ซึ่งเป็นเหล็กขนาดใหญ่ล้มลงมาได้ทั้งบาน
ต้องเร่งมือกู้คืนและใส่กลับเข้าที่ครับ


.....สวัสดีครับ พี่เหยง ที่ ชม สักสามทุ่มเห็นหนุนบอกว่าทั้งลมทั้งฝนครับ ลป แค่ครึ้มๆครับ.....

      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #7507 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2555, 10:44:35 »

สวัสดีวันครึ้มฟ้า ครึ้มฝนค่ะ น้องเหยง
 เมื่อคืนที่บางบัวทอง ฝนตกทั้งคืน
โชคดีที่ไม่หนัก
เตรียมตัวไปเที่ยวถึงไหนแล้วคะ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7508 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2555, 16:15:45 »

สวัสดีครับพี่'อร น้องตี๋ และทุกๆท่าน

ขั้นตอนเตรียมไป "ซาปา ฮานอย"ขณะนี้น่าจะอยู่ที่ "การแลกเงิน" เพื่อนำไปใช้จ่ายที่นั่นครับ
พรุ่งนี้ว่าจะไปแลกเงินดอลล่าร์ใบย่อยๆ ครับ
เนื่องจากมีประสบการณ์เมื่อครั้งไป เว้ ดานัง จากการใช้ธนบัตรฉบับละ 100 ดอลล่าร์สหรัฐ
โดยพี่สิงห์ ซื้อกาแฟจากร้านสตาร์บัค และพนักงานทอนเงินด่องให้กว่า 2 ล้านด่องเลย
คือรับเงินดอลล่าร์ แต่ทอนเงินด่องให้ จึงต้องหาใบย่อยไปใช้ครับ

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7509 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2555, 16:17:16 »

ชำแหละ"ผลประโยชน์ทับซ้อน" ทำลาย"อุดมศึกษาไทย"
วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 10:30:35 น.

คอลัมน์ มติชนมติครู โดย คำไห แก่นหอม


เชื่อว่าความพยายามของกลุ่มบุคคลทั้งภายในและภายนอก ที่จะแสวงหาผลประโยชน์จากองค์กรภาครัฐน่าจะมีอยู่แทบทุกหน่วยงาน แต่องค์กรอย่างมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นศูนย์รวมของผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีการศึกษาสูงๆ เป็นครูบาอาจารย์ที่มีความเสียสละ มีจิตวิญญาณความเป็นครู ไม่น่าจะมีเรื่องเหล่านี้ หรือมีก็คงน้อยมาก แต่ข้อเท็จจริงแล้วกลับตรงกันข้าม

มหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยผลประโยชน์มหาศาล ทั้งจากงบประมาณแผ่นดิน และจากเงินรายได้ที่จัดเก็บจากนักศึกษา หรือเงินรายได้พิเศษอื่นๆ ซึ่งหลายแห่งก็ไม่สามารถชี้แจงถึงที่มาที่ไปได้อย่างชัดเจน แอบซุกแอบซ่อนเอาไว้จนยากต่อการตรวจสอบ

โดยปกติแล้วการตั้งงบประมาณรายจ่ายจากเงินรายได้มหาวิทยาลัย มักจะใช้ตัวเลขประมาณ 80% ของรายได้ประมาณการที่คาดว่าจะได้รับ ซึ่งจะคาดการณ์จากจำนวนนักศึกษาที่จะเข้าเรียนคูณด้วยค่าหน่วยกิต หรือค่าเทอม ค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมกับรายได้อื่นๆ เช่น ค่าให้เอกชนเช่าที่ดิน ค่าบริการหอพัก รายได้จากกิจการโรงแรมของมหาวิทยาลัย ฯลฯ สมมุติคาดว่าจะได้มา 1,000 ล้านบาท ก็จะขอใช้ประมาณ 800 ล้านบาท ที่เหลืออาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ ค่อยว่ากัน แต่ที่แน่ๆ เหลือแน่นอน แต่สิ่งที่สังคมควรได้รู้ คือ เหลือแล้วเอาไปไหน รวมทั้งที่ใช้ไปแล้วใช้ไม่หมดในแต่ละปีด้วย

หลายๆ มหาวิทยาลัยมีเงินเหลือเก็บหลายพันล้านบาท บ้างก็เอาไปลงทุนในกองทุนต่างๆ เพื่อให้เกิดผลตอบแทน หรือไม่ก็เอาไปฝากธนาคารไว้เฉยๆ เพราะหากจะเอาไปลงทุนก็กลัวคนเขาว่า ""โอ้โห! ทำไมมีเงินเหลือเก็บเยอะจัง ไหนบอกว่ามหาวิทยาลัยจนไง ที่บอกว่าไม่มีเงิน จะขึ้นเงินเดือนให้พนักงานก็ไม่จริงน่ะสิ"" ดังนั้น จึงขอถามบุคลากรในมหาวิทยาลัยทั้งหลายว่า มีใครทราบบ้างไหมว่ามหาวิทยาลัยของท่านมีเงินในธนาคาร หรือเอาไปลงทุนในกองทุนอะไรเท่าไหร่ ไปซื้อสินทรัพย์ ทำธุรกรรมต่างๆ ได้กำไรกี่มากน้อย และรายได้จากดอกผลเหล่านั้นได้คืนกลับมาเป็นรายจ่ายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของลูกหลานประชาชนคนไทยหรือไม่ อย่างไร? เพราะเงินที่ได้มานั้นมาจากการทำงานหลังขดหลังแข็งและการกู้หนี้ยืมสินของผู้ปกครอง หรือเงินกู้ยืมเรียนของนักศึกษาแทบทั้งนั้น

เรื่องนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการมีส่วนได้ส่วนเสียของกลุ่มบุคคลที่เข้ามาบริหารกิจการของมหาวิทยาลัย เช่น ในสภามหาวิทยาลัยบางแห่งมีการพูดกันถึงเรื่องนี้ว่า เงินรายได้เหลือใช้แต่ละปีที่สะสมไว้จะเอาไปทำอะไรดี ผู้ทรงคุณวุฒิสายพ่อค้านักธุรกิจในสภาฯ ก็เสนอความเห็นกันอย่างคึกคัก โชว์วิสัยทัศน์การประกอบธุรกิจการค้าอย่างเมามัน เช่น เสนอให้เอาไปซื้อที่ดินเพื่อเก็งกำไรบ้าง เอาไปซื้อทองคำ เพราะทองราคาดีไม่มีตก หรือเอาไปลงทุนในกองทุนต่างๆ ที่มั่นคง หรือลงทุนในตลาดหลักทรัพย์กับบริษัทผูกขาดที่ยังไงๆ ก็ไม่มีทางขาดทุน (คงนึกออกว่ามีบริษัทอะไรบ้าง) แต่ที่พูดว่าจะเอาไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสังคม ชุมชนท้องถิ่น สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนนั้น ไม่มีเอาเสียเลย ยิ่งดูภูมิหลังของผู้ทรงคุณวุฒิบางคนก็กลายเป็นเจ้าของที่ดินรายใหญ่ในทำเลดีๆ เป็นนักลงทุนในธุรกิจพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์เสียด้วย ประเด็นมันอยู่ตรงนี้!

นอกจากนี้ ยังมีเงินที่ไม่ถูกนำมาผนวกรวมกับเงินรายได้อย่างเป็นระบบและตรวจสอบไม่ได้อีกมาก บางมหาวิทยาลัยก็ไม่ทำตัวเลขแจ้งยอดเงินรายได้รายจ่ายจำนวนนี้กับสภาฯ ครั้นมีการท้วงติงและเสนอให้ดำเนินการอย่างถูกต้องกลับแถไปข้างๆ คูๆ ว่าจริงๆ มีตัวเลข แต่ไม่เอามาโชว์ เรามีระบบตรวจสอบอยู่แล้ว และเงินก็ไม่ได้มากมาย นายกสภาฯ ซึ่งเป็นประธานที่ประชุมก็สรุปปิดเกมว่าถ้ามีระบบอยู่แล้ว ก็ไม่เป็นไร แบบนี้ถ้าไม่เรียกว่าสุมหัวกันปล้น แล้วจะเรียกว่าอะไร?

เชื่อว่าหลายๆ มหาวิทยาลัยอาจจะมีรายได้จากกิจการเหล่านี้ เช่น กิจการโรงแรม หอพัก ร้านสะดวกซื้อ การประมูลร้านขายอาหาร กิจการน้ำดื่ม ฯลฯ ซึ่งตัวเลขน่าจะมิใช่น้อยเลย บางแห่งนักศึกษานับหมื่นคน อย่างน้อยก็ต้องกินข้าวในโรงอาหาร หรือร้านอาหารของมหาวิทยาลัยประมาณครึ่งหนึ่ง หรือ 5 พันคน ถ้านักศึกษาใช้เงินคนละ 30 บาท ก็ประมาณ 1.5 แสนบาท/วัน มหาวิทยาลัยบางแห่งมีระบบแลกคูปองด้วย นั่นแสดงว่านอกจากมีรายได้จากการประมูลร้านค้าแล้ว ยังมีส่วนแบ่งจากยอดขายด้วย ถ้าหัก 20% ก็จะคิดเป็นเงินประมาณ 10 ล้านบาท/ปี มากกว่างบประมาณบางคณะเสียอีก ก็ไม่น้อยเลย แถมบางมหาวิทยาลัยมีร้านค้าของตัวเองอีกต่างหาก เงินรายได้จากส่วนนี้จึงน่าจะมากกว่าที่คิด กิจการเหล่านี้แทนที่จะเป็นการบริการให้นักศึกษาได้อาหารดี มีราคาถูก กลับตั้งหน้าตั้งตาหาเงินกับลูกชาวบ้านท่าเดียว แม้แต่น้ำดื่มที่ควรจะมีบริการติดตั้งถังน้ำเย็น ระบบกรองน้ำให้กินฟรีๆ ก็ไม่มี ทั้งๆ ที่เป็นบริการพื้นฐานที่ควรจะมีให้ เพราะประชาชนมีสิทธิที่จะเข้าถึงน้ำที่สะอาดอย่างไม่เลือกปฏิบัติ นี่เขาเสียเงินมาเรียนแท้ๆ ยังต้องให้มาซื้อน้ำเปล่ากินอีก ที่แย่กว่านั้นคือการเอาคู่สายโทรศัพท์ที่ขอมาเพื่อใช้ในหน่วยงานมาแปลงร่างเป็นตู้หยอดเหรียญเก็บเอาเงินกับนักศึกษาตามหอพัก เงินเหล่านี้หายไปอยู่ที่ไหนกัน แถมบางแห่งยังพยายามที่จะเลี่ยงภาษีอีก เช่น ทำกิจการโรงแรมชัดๆ แต่บอกว่าเป็นศูนย์ฝึกวิชาชีพ เป็นโรงอาหาร เก็บค่าเช่า ค่าประมูลแท้ๆ แต่บอกว่าเป็นโครงการอาหารกลางวันแด่น้องผู้หิวโหย จะเอาเปรียบสังคมกันไปถึงไหน

เมื่อมาดูประสิทธิภาพของการบริหารงาน การบริหารคน ก็พบว่าใช้คนเยอะแต่ได้งานห่วย เช่น กิจการอย่างว่าแทนที่จะให้เอกชนทำ กลับไล่เขาแล้วเอามาทำเอง เช่น เห็นเขาเปิดร้านขายขนมขายกาแฟได้ดี ก็ไล่เขาออก ไม่ต่อสัญญา เพื่อจะให้ร้านของกิจการโรงแรม มีคนเข้าไปซื้อ สุดท้ายก็ไม่มีคนเข้า เพราะรสชาติไม่น่ารับประทาน ร้านสะดวกซื้อก็เอามาทำเอง ก็ต้องจ้างคนอีกมากมาย ทั้งในโรงครัว โรงแรม ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านหนังสือ โรงน้ำดื่ม แต่คุณภาพสินค้าและการบริการห่วยขั้นเทพ จะไม่ห่วยได้อย่างไร เขาบริการดีไม่ดีก็ได้เงินเดือนเท่าเดิม ขายได้มากได้น้อย ก็ได้เงินเดือนเท่าเดิม ปรัชญาของเขาลูกค้าไม่ใช่ราชา นายเขาไม่ใช่ลูกค้า นายเขาคือผู้บริหารมหาวิทยาลัย ระบบการประเมินผล การประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้บริการก็ไม่มี แต่ถึงบางอ้อเมื่อทราบว่าคนล้างจาน แม่บ้าน พนักงานเสิร์ฟอาหาร คนทำครัว ขายของ เขาเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยเหมือนกัน อยู่มานานสักพักก็มีสิทธิลงคะแนนหยั่งเสียงเลือกอธิการฯ ได้ คือ มี 1 คะแนน 1 เสียง เท่ากับเสียงของศาสตราจารย์ มิน่าถึงยังทู่ซี้จ้างกันอยู่ได้ มหาวิทยาลัยแบบนี้ ใครชนะการหยั่งเสียงได้เป็นอธิการฯ คงน่าภูมิใจมาก เพราะท่านเป็นอธิการฯ ของคนงาน ไม่ใช่ผู้บริหารมหาวิทยาลัย พอเห็นเค้าลางของการสืบทอดอำนาจหรือยัง ใกล้เลือกตั้งที ก็ต้องพาคนงานไปเที่ยว หรือขึ้นเงินเดือนให้ รวมถึงสัญญาว่าจะบรรจุเป็นพนักงาน จัดหาสวัสดิการให้ เท่านี้ก็ได้เสียงมาจมแล้ว

คราวนี้ย้อนกลับมาถึงกลุ่มคนที่เข้ามาข้องเกี่ยวกับกิจการมหาวิทยาลัย อันที่จริงมหาวิทยาลัยทุกแห่งจะมีอยู่ 3 สภา 1 คณะกรรมการ นั่นคือ สภามหาวิทยาลัย สภาวิชาการ สภาคณาจารย์ และคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย พวกบรรดาพ่อค้า คหบดีทั้งหลาย ควรไปอยู่ในคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย จะได้ช่วยกันสร้างเสริมแสวงหาความร่วมมือภาคเอกชน เกื้อหนุนกิจการมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เอามานั่งในสภามหาวิทยาลัย ซึ่งควรเป็นที่นั่งของผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ซึ่งในเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.มหาวิทยาลัย ก็บอกไว้อย่างนั้น พอมันผิดฝาผิดตัวแบบนี้ กรรมการสภามหาวิทยาลัยก็เลยมีแต่พ่อค้า ผู้รับเหมา ซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียกับการบริหารเงิน บริหารงานของมหาวิทยาลัย ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการเอื้ออำนวยประโยชน์ให้กันและกันอย่างยิ่ง ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกบางคนเกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยโดยตรง เช่น เป็นอาจารย์พิเศษ หรือแม้แต่เป็นพนักงานก็มี บางคนเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยด้วย ลงทะเบียนเรียนเป็นนักศึกษาแท้ๆ แล้วถึงเวลาที่ต้องมานั่งอนุมัติปริญญาบัตร ไม่อายบ้างหรือไงที่ต้องอนุมัติปริญญาให้ตัวเอง อันนี้ก็ไม่ทราบว่าผิดระเบียบ ข้อบังคับ หรือกฎหมายหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ผิดจริยธรรมแน่นอน กระบวนการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิในสภามหาวิทยาลัยจึงควรต้องยกเครื่องกันใหม่ รวมถึงการได้มาซึ่งสภามหาวิทยาลัย และนายกสภาฯ ด้วย ถ้านายกสภาฯ ยังมานั่งเกาหลังให้อธิการฯ อยู่ อย่ามีเสียเลยดีกว่า เสียเวลา เสียเกียรติภูมิและศักดิ์ศรี

"ตราบใดที่ระบบเช่นนี้ยังครอบงำมหาวิทยาลัยไทยอยู่ เชื่อแน่ว่าคุณภาพการศึกษา และการเป็นที่พึ่งของสังคม การเป็นภูมิปัญญาเพื่อนำสังคมไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน..."

หน้า 6,มติชนรายวัน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน 2555

 


 

 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7510 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2555, 16:45:20 »

พี่'อร น้องตี๋

คลื่นความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมา ในขณะที่ลมจากตะวันออกเฉียงใต้พัดพาเอาไอน้ำขึ้นไป
ปะทะตรงไหน ตรงนั้นฝนตก กลางวันร้อนจัด กลางคืนเย็นลงอยู่ที่ 20-26 องศา(โดยประมาณ)

คนหลังบ้านผมหลายคนในช่วงนี้ ออกไปรับจากตัดไม้ใหญ่กันครับ วันละ 200 บาทเท่านั้น
สอบถาม..บอกว่า ตัดทุกชนิด ไม้ยาง ไม้มะม่วง ไม้ประดู่ สะเดา ซึ่งยางและประดู่ผิดกฎหมาย
แต่ตัดแล้วทิ้งไว้ในไร่อ้อย รอตัดอ้อยออกในหน้าแล้ง พอดีไม้เริ่มเก่า จึงขนออกง่ายขึ้น แปรรูปทีหลัง
ทำกันแบบนี้ โลกร้อนขึ้น แต่เพราะต้องการได้เงิน มันจึงหาจุดบรรจบไม่ได้
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #7511 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2555, 17:03:58 »

อ่านเรื่องระบบการบริหารมหาวิทยาลัย ที่น้องเหยงนำมาลงแล้ว
รู้สึกเศร้ากับอนาคตของเด็กไทย
อย่างนี้ทำอย่างไร มหาวิทยาลัยของไทยไม่มีทางติดอันดับได้อีก
ที่เคยติดอยุ่ ลำดับก็ไม่ใกล้เคียงกับสิงค์โปร์เลย
ไม่ต้องพูดถึงญี่ปุ่นหรือจีน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7512 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2555, 18:47:58 »

พี่'อร

มหา'ลัย ในกรุงเทพ ไม่ค่อยจะมีปัญหาเรื่องแบบนี้
แต่มหา'ลัย ในต่างจังหวัด ลูกเล่นเยอะพอสมควร
เรื่องซื้อคูปองทานข้าวนี้ ระบาดไปทั่ว มหา'ลัยต้องจ้างคนมาขายคูปอง, แต่ส่วนลด ผู้บริหารรับไป
ซุ้มกาแฟนี่ก็เอาเรื่อง ของดี-ไม่ได้ขาย, ของไม่อร่อยและแพงๆ-กลับได้ขาย
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7513 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2555, 18:48:13 »

เราจะไปทัวร์ตรงจังหวัดลาวไก Lao cai อยู่พอดี

เวียดนามแข็งต้านพาสปอร์ตจีน ตีตรา “ใช้การไม่ได้” กว่า 100 เล่ม
25 พฤศจิกายน 2555 16:10 น.



นักท่องเที่ยวชาวจีนชูหนังสือเดินทางที่ด่านชายแดนหล่าวกาย (Lao Cai) ทางตอนบนสุดของประเทศ ขณะเดินทางเข้าเวียดนาม นับแต่วันที่ 23 พ.ย.2555 เป็นต้นมาจนถึงวันเสาร์นี้ เจ้าหน้าที่เวียดนามได้ประทับข้อความ Invalid Passport หรือ "หนังสือเดินทางใช้การไม่ได้" ลงในพาสปอร์ตของชาวจีนไปแล้วจำนวน 111 คน ทั้งหมดข้ามจากมณฑลหยุน ส่วนด่านชายแดนด้านอื่นได้ใช้มาตรการต่างกันออกไปเพื่อแสดงการไม่ยอมรับ. -- ภาพ: Tuoi Tre Online. 

      
      ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เวียดนามออกมาตรการที่แข็งขันโดยไม่ยอมให้พลเมืองจีนที่ถือหนังสือเดินทางแบบใหม่จากมณฑลหยุนหนันข้ามด่านพรมแดนเข้าเวียดนาม ซึ่งเป็นอีกความพยายามในการต่อต้านหนังสือเดินทางอื้อฉาวของทางการจีนที่พิมพ์รูปแผนที่ทะเลจีนใต้ และ 2 หมู่เกาะพิพาทเอาไว้ด้วย
      
       รัฐบาลอินเดียที่มีกรณีพิพาทกับจีนเกี่ยวกับเขตแดน 2 รัฐทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ใช้มาตรการที่แตกต่างออกไป ร่วมประท้วงจีนที่พิมพ์ดินแดนพิพาทเอาไว้ในแผนที่ที่ปรากฏในพาสปอร์ตด้วยเช่นกัน และรัฐบาลจีนไต้หวันก็เป็นอีกแรงหนึ่งที่ออกต่อต้าน “แผนที่เส้นประ 9 เส้น” ที่จีนจัดทำขึ้นโดยลำพัง แสดงความเป็นเจ้าของครอบครองทะเลเปิดอันเป็นน่านน้ำสากล
      
       ตามรายงานของสื่อออนไลน์ภาษาเวียดนาม นับแต่วันที่ 23 พ.ย.เป็นต้นมาจนถึงวันเสาร์นี้ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองหล่าวกาย (Lao Cai) ได้กักนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ถือพาสปอร์ตแบบใหม่จำนวน 111 คน และดำเนินมาตรการพิเศษ เจ้าหน้าที่ได้ประทับตราที่มีความว่า “Invalid Passport” ซึ่งบ่งบอกว่าเป็นหนังสือเดินทางที่ “ใช้การไม่ได้” ลงไป
      
       พ.ท.เจิ่นเหวียดหวี่ง (Tran Viet Huynh) หัวหน้าด่านชายแดน จ.หล่าวกาย เปิดเผยเรื่องนี้กับหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ สำนักข่าวออนไลน์อีกหลายแห่งรายงานเรื่องนี้เช่นกัน
      
       ในวันที่ 23 พ.ย.2555 มีนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มใหญ่ราว 200 คน เข้าแถวเพื่อผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองตามปกติที่ด่านชายแดนดังกล่าวที่อยู่ตอนบนสุดของประเทศอันเป็นประตูเข้าออกจากมณฑลหยุนหนัน ในนั้นพบว่า 111 คนถือหนังสือเดินทางชนิดใหม่ และเจ้าหน้าที่ ตม.ได้ประทับตรา Invalid Passport ลงไป
      
       อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ออกเอกสารที่เรียกว่า “ใบผ่านแดนชั่วคราว” ให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งสองคน ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติทั่วไป
      
       หมายความว่า ถึงแม้หนังสือเดินทางของพวกเขาจะไม่ได้รับการต้อนรับก็ตาม แต่ผู้ถือหนังสือเดินทางยังสามารถเดินทางผ่านด่านชายแดนเข้าเวียดนามได้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม
      
       ขณะเดียวกันที่ด่านชายแดนมงกาย (Mong Cai) จ.กว๋างนีง (Quang Ninh) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ใช้มาตรการออกเป็นหนังสืออนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศ เย็บเล่มเข้ากับหนังสือเดินทาง โดยไม่มีการประทับตราใดๆ ในหนังสือเดินทางที่มีภาพ “แผนที่ลิ้นวัว” ที่เวียดนามไม่ยอมรับ
      
       วันศุกร์ที่ผ่านมา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม และทางการฟิลิปปินส์ได้ออกประณามจีนที่พิมพ์แผนที่ทะเลจีนใต้กับดินแดนพิพาทลงในหนังสือเดินทาง ขณะที่นักวิชาการเวียดนามมองว่าเป็นแผนปฏิบัติการจิตวิทยาของทางการจีน เนื่องจากการกล่าวอ้างสิทธิเหนือทะเลจีนใต้แต่เพียงผู้เดียวเป็นการกระทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยเขตน้ำดินแดนทางทะเลของสหประชาชาติที่จีนร่วมเป็นภาษีทำความตกลงด้วย
      
       วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เรียกผู้แทนจากสถานทูตจีนประจำกรุงฮานอยเข้าพบ ยื่นประท้วงการกระทำของจีน เตื่อยแจ๋กล่าว
      
       ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ อินเดียได้ตอบโต้จีนด้วยการประทับแผนที่ของอินเดียลงในพาสปอร์ตรุ่นใหม่ที่ชาวจีนใช้เดินทางเข้าอินเดีย เนื่องจากพาสปอร์ตของจีนบรรจุไมโครชิปที่มีแผนที่แสดงความเป็นเจ้าของดินแดนพิพาทกับอินเดียในเขตหิมาลัยเป็นของตน
      
       อินเดียใช้รูปแผนที่ดังกล่าวในการประทับวีซ่า เพื่ออนุญาตให้พลเมืองจีนเดินทางเข้าประเทศได้ตามปกติ

      
       โฆษกผู้หนึ่งในกรุงปักกิ่งพูดถึงเรื่องนี้ว่า จีนได้เลือกแผนที่ดังกล่าว ที่จัดขึ้นโดยกระทรวงความมั่นคง และพิมพ์ลงในหนังสือเดินทางรุ่นใหม่ตั้งแต่เดือน พ.ค. โดยไม่ได้มีความตั้งใจพุ่งเป้าไปยังประเทศใดประเทศหนึ่ง
      
       “เราหวังว่าประเทศที่เกี่ยวข้องจะใช้เหตุและผลกับสามัญสำนึก.. เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้กระทบต่อการไปมาหาสู่ตามปกติของชาวจีนกับชาวต่างชาติ” โฆษกคนเดียวกันกล่าว.

       .

จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9550000143843
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7514 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2555, 19:03:35 »

อ้างถึง
ข้อความของ Preecha2510 เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2555, 20:21:06
สวัสดีครับเหยง,แหลม

      ได้เช็คอัตราแลกเปลี่ยนเงินของ บ.Super Rich ราคาวันนี้อัตราแลกอยู่ที่ประมาณ   662,250 ด่องต่อ 1,000 บาท

เผอิญตอนบ่ายลูกสาวกำลังไปซื้อของที่จตุจักรโทรมาหา  ผมก็เลยวานให้ขับรถไปที่ร้านแลกเปลี่ยนเงินที่ติดกับโรงแรมประดิพัทธ์

ถนนประดิพัทธ์ สพานควาย ช่วยซื้อเงินด่องให้ ราคาซื้อได้ในอัตรา(ราคาวันนี้) 666,000 ด่องต่อ 1,000 บาทครับ

           


เวียดนามเงินเฟ้อพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน
25 พฤศจิกายน 2555 14:15 น.

 

       เอเอฟพี - ข้อมูลสถิติของทางการเวียดนามระบุว่า เงินเฟ้อของประเทศในเดือน พ.ย. ขยายตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน เพิ่มความท้าทายทางเศรษฐกิจให้แก่ผู้นำประเทศต้องรับมือ
       
       สำนักงานใหญ่สถิติเวียดนามรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน พ.ย. อยู่ที่ 7.08% ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือน ต.ค. ที่ 7.0% ซึ่งนับเป็นการขยายตัวสูงสุดตั้งแต่เดือนพ.ค.
       
       “รัฐบาลกำลังดิ้นรนที่จะจัดการเงินเฟ้อ ขณะที่ต้องผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ” ผู้จัดการอาวุโสของธนาคารเอกชนรายใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศกล่าว
       
       เวียดนามประสบกับภาวะเงินเฟ้อที่แตะระดับตัวเลข 2 หลักอยู่หลายปี แต่หลังจากธนาคารกลางปรับอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งเพื่อป้องกันเศรษฐกิจขยายตัวจนไม่สามารถควบคุมได้ อัตราเงินเฟ้อรายปีได้ลดต่ำลงจนถึงระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ที่ 5.0% ในเดือน ส.ค. จากที่ครั้งหนึ่งเคยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติกาลถึง 23% ในปีก่อนหน้า
       
       ทางการเวียดนามได้เปลี่ยนแนวทางจัดการตอบสนองภาวะการชะลอทางเศรษฐกิจ ด้วยการตัดลดอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้ง นับตั้งแต่ต้นปี 2555 และทางการคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตเพียง 5.2% ในปี 2555 นี้ ซึ่งนับว่าชะลอตัวที่สุดในรอบ 13 ปี
       
       นอกจากภาวะเงินเฟ้อสูงแล้ว เวียดนามยังต้องเผชิญกับการลดลงของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และความวิตกที่เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับหนี้เสียในระบบธนาคารที่เปราะบาง
       
       นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ยอมรับเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า รัฐบาลของเขาบริหารผิดพลาดในการจัดการกับปัญหาเศรษฐกิจ และได้เรียนรู้บทเรียนแล้ว.


จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9550000143809
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7515 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2555, 19:26:44 »

Passpoer ฉบับต้นตอของปัญหา.......

เวียดนาม-ปินอยก่นปักกิ่ง พิมพ์แผนที่ทะเลจีนใต้ลงพาสปอร์ตใหม่
23 พฤศจิกายน 2555 23:38 น.



ภาพจากเว็บไซต์ Chinenews.Com พาสปอร์ตชนิดใหม่กับชนิดเก่า มีหน้าปกต่างกัน หน้าในก็ออกลวดลายใหม่ต่างกัน ข้างนอกไม่มีอะไรแต่ข้างในเป็นเหตุให้ทางการฟิลิปปินส์กับเวียดนามต้องออกประท้วงและประณามรัฐบาลปักกิ่งอย่างแข็งกร้าว.

       
       ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทางการจีนได้เผยแพร่หนังสือเดินทางฉบับใหม่ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งในบางหน้าของหนังสือเดินทางรุ่นใหม่นี้พิมพ์แผนที่ทะเลจีนใต้ที่จีนกล่าวอ้างเป็นเจ้าของลงไปด้วยเป็นครั้งแรก ทำให้ทั้งฟิลิปปินส์ และเวียดนามต่างออกประณาม เรียกร้องให้จีนหยุดการละเมิดอธิปไตยของตน
       
       นั่นคือ “แผนที่เส้นประ 9 เส้น” ที่จีนจัดทำขึ้นเอง เพื่อกล่าวอ้างพื้นที่เกือบ 80% ของน่านน้ำทะเลจีนใต้ทั้งหมด แต่ถูกคัดค้านจากหลายฝ่าย รวมทั้งสหรัฐฯ ที่ยึดถือทะเลจีนใต้เป็นน่านน้ำสากล และเป็นเส้นทางเดินเรือเสรี
       
       ทางการฟิลิปปินส์ออกคัดค้านพาสปอร์ตใหม่ของจีนอย่างแข็งขัน เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลบางคนถึงขนาดเรียกร้องให้สมาชิกอาเซียนไม่อนุญาตให้พลเมืองจีนที่ถือพาสปอร์ตแบบใหม่เดินทางเข้าประเทศ
       
       โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม เลืองแทงหงิ (Luong Thanh Nghi) ออกเรียกร้องให้ทางการจีนยกเลิกการกล่าวอ้างเป็นเจ้าของทะเลจีนใต้โดยลำพังแต่ฝ่ายเดียว ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งความตึงเครียด และความวุ่นวายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
       
       นักวิชาการเวียดนามหลายคนกล่าวว่า พาสปอร์ตเล่มใหม่ของจีนเป็นเพียงแผนจิตวิทยาเท่านั้น ซึ่งจะไม่มีผลใดๆ ตามกฎหมายระหว่างประเทศ และเรียกร้องให้ทางการจีนปฏิบัติตามพันธสัญญาต่อข้อปฏิบัติที่ให้ไว้กับกลุ่มอาเซียนอีกด้วย
       
       ดร.เลมีงเฟียว (Le Minh Phieu) ดุษฎีบัณฑิตสาขาการยุติธรรม ประธานกองทุนวิจัยทะเลตะวันออกกล่าวว่า การกระทำของจีนผิดต่อกฎหมายสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎหมายว่าด้วนเขตน่านน้ำทางทะเลของสหประชาชาติ หรือ UNCLOS (United Nations Convention on Law of the Sea) ซึ่งจีนเป็นภาคีอยู่ด้วย
       
       การกระทำของจีนมีแต่แสดงให้เห็นการใช้ลัทธิแผ่ขยายอำนาจ หวังครอบครองน่านน้ำสากลโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
       
       ดุษฎีบัณฑิตผู้นี้กล่าวอีกว่า ช่วงเวลากว่า 1 ปีมานี้ นักวิชาการเวียดนามได้นำเอาแผนที่เก่าแก่ของจีนออกเผยแพร่ราว 50 ฉบับ ทุกฉบับจัดทำขึ้นอย่างเป็นทางการในช่วงกว่า 100 ปีมานี้ ซึ่งไม่เคยมีแผนที่จีนฉบับใดที่กล่าวอ้างเป็นเจ้าของทะเลจีนใต้มาก่อน
       
       “ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาอ้างเป็นเจ้าของทะเลตะวันออก แต่เป็นการทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ” ดร.เฟียวกล่าว.
[/size]


ภายในพาสปอร์ตแบบใหม่พิมพ์เป็นรูปภาพจัตุรัสเทียนอันเหมิน (ล่าง) กับภาพแผนที่ทะเลจีนใต้แสดงอาณาเขตรอยประ 9 เส้น อาณาเขตที่จีนกล่าวอ้างเป็นเจ้าของในทะเลจีนใต้ ซึ่งรวมเอาหมู่เกาะพาราเซลทางตอนบนกับหมู่เกาะสแปร็ตลีย์ทางตอนล่างเข้าไว้ด้วย เจ้าหน้าที่โชว์หนังสือเดินทางใหม่ที่ท่าอากาศอู๋ฮั่น มณฑลหูเป่ยในวันศุกร์ 23 พ.ย.นี้. -- REUTERS/Stringer. 
 


โฟกัสมุมบนของหน้าในหนังสือเดินทางเล่มใหม่ เป็นภาพ "แผนที่เส้นประ 9 เส้น" ที่จีนทำขึ้นเอง กล่าวอ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามและฟิลิปปินส์ออกประณามเรื่องนี้อย่างรุนแรง นักวิชาการเวียดนามกล่าวว่าเป็นเพียงปฏิบัติการทางจิตวิทยาเพราะเป็นการกระทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ. -- REUTERS/Stringer.

จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9550000143452
 
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #7516 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2555, 17:22:04 »


สวัสดียามเย็นครับ... พี่เหยง..พี่แก้ว..พี่ประทาน..พี่อร..พี่ตี๋ และพี่น้องทุกท่าน

เรื่องศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของชาติ... ยอมกันไม่ได้จริงๆครับ
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #7517 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2555, 17:27:48 »


อ้างถึง
ข้อความของ Preecha2510 เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2555, 20:21:06
สวัสดีครับเหยง,แหลม

      ได้เช็คอัตราแลกเปลี่ยนเงินของ บ.Super Rich ราคาวันนี้อัตราแลกอยู่ที่ประมาณ   662,250 ด่องต่อ 1,000 บาท

เผอิญตอนบ่ายลูกสาวกำลังไปซื้อของที่จตุจักรโทรมาหา  ผมก็เลยวานให้ขับรถไปที่ร้านแลกเปลี่ยนเงินที่ติดกับโรงแรมประดิพัทธ์

ถนนประดิพัทธ์ สพานควาย ช่วยซื้อเงินด่องให้ ราคาซื้อได้ในอัตรา(ราคาวันนี้) 666,000 ด่องต่อ 1,000 บาทครับ

                 

 

พี่แก้วแลกได้ราคาดีกว่าที่ผมแลกเมื่อต้นเดือนอีกครับ..
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7518 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2555, 20:10:28 »

แหลม

แลกไปเยอะมั๊ย ระหว่าง US $ กับ ด่อง
ใช้ไปกับอะไรบ้าง (แบบคร่าวๆ) รู้แต่ว่าแหลมกับหนุน ไปเที่ยวกันเองโดยไม่ได้ซื้อทัวร์
อาทิ
1.ค่าห้อง 20%
2.ค่าอาหาร 30%
3.ค่าทัวร์ในประเทศ ตามสถานที่ต่างๆ 30% และ
4.ค่าซื้อของ 20%
เป็นไปได้ไหม ??
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7519 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2555, 10:28:30 »

ข่าวจากพี่ประทานครับ.......

เรียนพี่ๆ เพื่อนๆและน้องๆ ทุกท่าน


ทางบ.ทัวร์ได้แจ้งข้อมูลเรื่องการแลกเงินดังนี้ครับ



"เรียน คุณประทาน
รบกวนแจ้งเรื่องแลกเงินกับสมาชิกอีกครั้งคะ
สามารถนำเงินไทยไปแลกเงินเวียดนามที่โน่นได้เลยค่ะ
ไม่ต้องแลกเงินยูเอสดอลล่าไป ที่ถนน 36 สาย สามารถใช้เงินไทยได้นะค่ะ"


ขอบคุณครับ

ประทาน
26 พ.ย. 2555


      บันทึกการเข้า
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #7520 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2555, 12:14:42 »

อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2555, 17:24:41

อ้างถึง
ข้อความของ ประทาน14 เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2555, 23:41:29
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2555, 17:17:48

สวัสดียามเย็นครับ... พี่เหยง..พี่แก้ว..พี่สิน..พี่ประทาน และพี่น้องทุกท่าน

จะรอชมภาพสวยๆจากซาปาและฮานอย นะครับ..

ด้วยความยินดีครับน้องแหลม รับรองว่าทริปนี้จะมีหลายคนช่วยกันนำรูปสวยๆมาโพสต์ให้ชมครับ

จะรอชม...

ขอบคุณล่วงหน้าครับพี่..


.....สวัสดีครับ พี่เหยง  รอชมด้วยครับ.....

      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7521 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2555, 12:32:56 »

น้องตี๋

เดี่ยวจะไปเปิดห้องไว้ใน"ห้องซีมะโด่งสัมพันธ์" ในชื่อ "ห้องซีมะโด่ง ทัวร์ซาปา ฮานอย เวียตนาม"
เป็นห้องกลางอีกห้องหนึ่งครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7522 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2555, 12:45:12 »

ห้องใหม่.....

ห้องซีมะโด่งสัมพันธ์/ห้อง + + + ห้องซีมะโด่งทัวร์ ซาปา ฮานอย เวียตนาม 1 - 5 ธันวาคม 2555 + + +

ตามลิงก์นี้เลยครับ.........


http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,17847.new.html#new
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #7523 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2555, 16:18:30 »


สวัสดียามเย็นครับ... พี่เหยง..พี่แก้ว..พี่สิน..พี่ประทาน..พี่อร..พี่ตี๋ และพี่น้องทุกท่าน
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #7524 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2555, 16:29:39 »



อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2555, 20:10:28
แหลม

แลกไปเยอะมั๊ย ระหว่าง US $ กับ ด่อง
ใช้ไปกับอะไรบ้าง (แบบคร่าวๆ) รู้แต่ว่าแหลมกับหนุน ไปเที่ยวกันเองโดยไม่ได้ซื้อทัวร์
อาทิ
1.ค่าห้อง 20%
2.ค่าอาหาร 30%
3.ค่าทัวร์ในประเทศ ตามสถานที่ต่างๆ 30% และ
4.ค่าซื้อของ 20%
เป็นไปได้ไหม ??


ทุกครั้งที่ไปเวียดนาม ผมจะแลกเงินUSD และด่อง อย่างละ 50% ครับ

ที่พัก.. ทุกครั้งจะจองและจ่ายเงินล่วงหน้า
ค่าอาหาร.. ถ้าไม่มีมื้อพิเศษ ราคาก็ไม่แพงมากนะครับ
ถ้าซื้อทัวร์ท้องถิ่น... ราคาที่ฮานอยส่วนใหญ่จะสูงกว่าที่โฮจิมินท์
เรื่องซื้อของ... อันนี้ก็แล้วแต่
ไปโฮจิมินท์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา... ผมซื้อของไป 7-8 ล้าน(ด่อง)
คุ้มครับ...
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 299 300 [301] 302 303 ... 472   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><