20 กันยายน 2567, 12:22:45
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 293 294 [295] 296 297 ... 472   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ  (อ่าน 2517995 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 31 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7350 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2555, 19:47:51 »

อินเดียเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลของพายุแล้วครับ.....??
ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา ในมหาสมุทรอินเดียเงียบมาก
มีเฉพาะฝนตามฤดูกาลเท่านั้น มาบัดนี้ ฝนจากพายุไซโคลน(เทียบเท่าพายุไต้ฝุ่น-เรียกตามพื้นที่)ชื่อ "นิแลม Nilam"
ถือเป็นพายุลูกที่ 2 ของมหาสมุทรแห่งนี้ครับ ใครจะไปอินเดียโปรดตรวจสอบเรื่องพายุด้วย


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7351 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2555, 19:49:14 »

ภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงจุดที่อยู่ของพายุ....
แถมด้วยหย่อมความกดอากาศต่ำอีก 1 แห่ง ซึ่งอาจพัฒนาขึ้นเป็นพายุได้อีกเช่นกัน


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7352 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2555, 19:56:47 »

อินเดียระทึก! ไซโคลนลูกใหญ่จ่อขึ้นฝั่งค่ำนี้ คาด เมืองใหญ่อย่าง “เจนไน” โดนเต็มๆ
31 ตุลาคม 2555 15:45 น.


       เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-โรงเรียน ร้านค้า ตลอดจนท่าเรือหลายแห่ง ทั่วภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดียประกาศปิดทำการในวันพุธ (31) หลังพายุไซโคลน “นีแลม”ซึ่งก่อตัวในมหาสมุทรอินเดียกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าพัดเข้าสู่ชายฝั่ง คาดเมืองสำคัญอย่าง “เจนไน” อาจได้รับความเสียหายหนัก
       
        เจ้าหน้าที่ทางการอินเดียและผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาคาดว่า พายุไซโคลนลูกนี้ซึ่งมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางไม่ต่ำกว่า 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะสร้างความเสียหายยับเยินแก่อาคารบ้านเรือนของประชาชน รวมถึงสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ และต้นไม้ตลอดพื้นที่แถบชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ และอาจส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง รวมถึง ระบบการสื่อสารโทรคมนาคมอาจล่ม โดยเฉพาะที่รัฐทมิฬนาฑูและรัฐอานธรประเทศที่อาจต้องเผชิญกับภาวะฝนตกหนักและน้ำท่วมในบริเวณพื้นที่ต่ำ
       
        รายงานข่าวระบุว่า ไซโคลนลูกนี้มีกำหนดจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งในช่วงค่ำวันพุธ (31) โดยเมืองใหญ่อันดับ 6 ของประเทศ และได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมแห่งอินเดียตอนใต้อย่างเมืองเจนไน ที่มีประชากรอาศัยอยู่กว่า 4.7 ล้านคนถูกคาดหมายว่าจะเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับความหายหนักที่สุด
       
        ทั้งนี้ ไซโคลน “นีแลม” ถือเป็นไซโคลนลูกแรก ที่มุ่งหน้าซัดถล่มพื้นที่แถบตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดียนับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะที่รัฐอานธรประเทศของอินเดียเคยประสบหายนะครั้งเลวร้ายจากไซโคลนเมื่อปี 1977 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในครั้งนั้นไม่ต่ำกว่า 10,000 คน






เจนไน เมืองใหญ่อันดับ 6 ของอินเดีย



จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9550000133155
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7353 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2555, 19:58:14 »

ส่วนฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิคเงียบครับ.........??

      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #7354 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2555, 21:02:18 »

เมื่อเช้านี้เชียงใหม่ฝนตก และอากาศเริ่มเย็นลงอย่างเหยงว่าเลย
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7355 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2555, 16:22:17 »

หนาวแล้วหรือ ??  งง งง
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7356 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2555, 16:26:54 »

ประเทศไทยปลูกข้าวจนล้นโกดัง แต่คนไทยเริ่มบริโภคข้าวน้อยลง........??

TDRI เผยคนไทยมีแนวโน้มบริโภคข้าวลดลง
1 พฤศจิกายน 2555 14:08 น.

 
       ข้อมูลของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI ระบุถึงแนวโน้มการบริโภคข้าวของคนไทย ว่า มีแนวโน้มบริโภคข้าวลดลง โดยในปี 2554 คนในเมืองบริโภคข้าวเพียง 84 กิโลกรัมต่อคน เทียบกับ 2545 การบริโภค 93 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ขณะที่คนในชนบทบริโภคข้าวลดลง 114 กิโลกรัมต่อคน ในปี 2545 เหลือ 99 กิโลกรัมต่อคน ในปี 2554
        ส่วนการผลิต พบว่ามีอัตราเติบโตร้อยละ 24 ต่อปี สำหรับข้าวนาปี และร้อยละ 3.58 ต่อปี สำหรับข้าวนาปรัง เนื่องจากการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ และพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มรอบการเพาะปลูก สำหรับแนวโน้มการส่งออกข้าวของไทยมีสัดส่วนลดลง จากร้อยละ 32.2 เหลือร้อยละ 27.3 ของปริมาณข้าวส่งออกในตลาดโลก ในสถานการณ์ราคาข้าวตลาดโลกมีแน้วโน้มลดลง เพราะการบริโภคลดลง แต่การผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น
        ทั้งนี้ TDRI เสนอให้มีการส่งเสริมการวิจัยพันธุ์ข้าวที่เพิ่มผลิตต่อไร่ได้ ปรับปรุงพันธุ์ข้าวหอมที่ได้รับการนิยมในตลาด เพื่อมูลค่า และคุณภาพในการแข่งขันมากขึ้น และเพิ่มการใช้เครื่องจักรการเกษตรมากขึ้น
        ส่วนความคืบหน้าโครงการรับจำนำข้าวที่จังหวัดบุรีรัมย์ นายพินิจ บุญเลิศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ สั่งตั้งชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่สุ่มตรวจความผิดปกติการรับจำนำข้าว โรงสีทั้งในและนอกพื้นที่ที่สมัครเข้าร่วมโครงการทุกแห่ง เพื่อป้องกันการทุจริตซ้ำรอยปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภาครัฐ และตัวแทนเกษตรกร เข้าไปประจำจุดรับจำนำ ส่วนการเปิดจุดรับจำนำขณะนี้ เปิดไปแล้ว 10 จุด จากทั้งหมด 19 จุด ที่เหลือคาดจะทยอยเปิดครบทุกแห่ง ภายในสัปดาห์นี้
        ที่จังหวัดสกลนคร นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานเปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555 /2556 โดยมีการกำหนดจุดรับจำนำ จำนวน 13 จุด ในพื้นที่ 9 อำเภอ ซึ่งแต่ละจุดจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่การค้าภายในประจำ เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริต และป้องกันชาวนาถูกเอาเปรียบ
        อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ยอมรับว่า ปีนี้หลายพื้นที่ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง ส่งผลให้นาข้าวขาดน้ำเสียหาย และทำให้ได้ผลผลิตไม่เต็มที่

 
 
 
พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9550000133616
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7357 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2555, 16:56:06 »

อัพเดท "พายุไซโคลนนีแลม Nilam"



ทิศทางการเคลื่อนที่........




 

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7358 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2555, 16:59:56 »

ไซโคลน “นีแลม” ถล่มอินเดียตอนใต้ เหยื่อดับ 8 ราย ซัดเรือบรรทุกน้ำมันเกยตื้น
1 พฤศจิกายน 2555 14:28 น.



เรือบรรทุกน้ำมัน ซึ่งถูกพายุไซโคลนนีแลมซัดจนเกยตื้นชายหาดเมืองเจนไน

       เอเอฟพี - หน่วยกู้ภัยอินเดียออกค้นหาลูกเรือบรรทุกน้ำมัน 6 คน ที่หายตัวไปหลังเรือของพวกเขาเกยตื้น เนื่องจากพายุไซโคลนซัดถล่มชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศ คร่าชีวิตเหยื่อ 8 ราย และทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพหนีภัย ในคืนที่ผ่านมา
      
       เรือบรรทุกน้ำมัน “ประทิภา คอเวรี” ซัดเกยตื้นหาดแห่งหนึ่งใกล้ชายฝั่งเมืองเจนไน ซึ่งอยู่ใต้สุดของประเทศ วันนี้ (1) ทำให้กะลาสีทั้งหมดจำต้องสละเรือ โดยมีเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ และเรือเล็กพาลูกเรือ 15 คนขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย
      
       เจย์รามัน เจ้าหน้าที่บริหารจัดการภัยพิบัติในเมืองเจนไนระบุว่า มีกะลาสีเรือ 1 รายจมน้ำเสียชีวิต และยังอยู่ในระหว่างค้นหาลูกเรือที่เหลืออีก 6 คนต่อไป
      
       เจ้าหน้าที่การขนส่งทางเรือรายงานว่า เรือประทิภา คอเวรีไม่ได้รับความเสียหายร้ายแรง และมีการวางแผนให้บรรทุกน้ำมันลำนี้กลับไปแล่นในทะเลได้อีกครั้ง
      
       ทั้งนี้ พายุไซโคลนนีแลมถล่มเมืองท่ามหาบาลีปุรัม ห่างจากเมืองเจนไนไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร ในเย็นวันพุธ (31 ต.ค.) ที่ผ่านมา ก่อนเคลื่อนตัวขึ้นฝั่ง จนถึงขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตรวม 8 ราย จากการจมน้ำ กำแพงถล่มทับ ถูกไฟช็อต และต้นไม้โค่นใส่
      
       ขณะที่ประชาชนอีกหลายพันคนในเมืองตามแนวชายฝั่งต้องอพยพไปอยู่สถานที่หลบภัย ตามโรงเรียน และอาคารรัฐบาลต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่เร่งแก้ไขระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าหลังพายุ และจัดเตรียมเสบียงอาหาร และน้ำดื่มให้แก่ผู้อพยพทั้งหมดร่วม 5,000 คนแล้ว
      
       ทางการรายงานว่า ไซโคลนลูกดังกล่าวอ่อนกำลังลงอย่างมาก แต่ยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของรัฐทมิฬนาฑู และรัฐกรณาฎกะ


 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9550000133639
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7359 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2555, 17:05:33 »

ฝั่งมหาสมุทนแปซิฟิกในขณะนี้ เงียบไปแล้ว

      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #7360 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2555, 07:58:30 »


...เหยงไปซาปากับพี่สิงห์ด้วยเหรอคะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7361 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2555, 15:08:24 »

พี่ตู่

ไปด้วยครับ....


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7362 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2555, 15:08:45 »

ดูตู้ 007 ครับ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=1pYqquG27pg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=1pYqquG27pg</a>
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7363 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2555, 15:18:03 »

อีกรูปแบบหนึ่ง.........

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=e-ic3oLS5SQ" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=e-ic3oLS5SQ</a>
 
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #7364 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2555, 19:06:10 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 02 พฤศจิกายน 2555, 15:08:45
ดูตู้ 007 ครับ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=1pYqquG27pg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=1pYqquG27pg</a>

ถูกใจเขาล่ะ จะเอาซ่อนสมบัติใช่ม้า
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #7365 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2555, 15:49:50 »

สวัสดี ค่ะ น้องเหยง
ตอนนี้อากาศ เริ่มดีแล้วค่ะ ไม่ร้อน ไม่หนาว
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7366 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2555, 07:48:08 »

คุณป้อม


ไม่มีให้ซ่อน แต่ชอบใจนวัตกรรมของเขา คนไทยแต่โบราณก็สร้างโต๊ะ ตู้ เตียง ซึ่งสามารถเก็บของได้อย่างมิดชิดเช่นกัน
แต่เดี๋ยวนี้ กลายเป็นสินค้า Knockdown ซึ่งไม่สามารถแต่งเติมอะไรเข้าไปได้
หากอยากได้ ต้องจ้างในราคาแพงๆ แบบทำพิเศษเฉพาะ ??
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7367 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2555, 07:59:39 »

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 03 พฤศจิกายน 2555, 15:49:50
สวัสดี ค่ะ น้องเหยง
ตอนนี้อากาศ เริ่มดีแล้วค่ะ ไม่ร้อน ไม่หนาว


พี่'อร ครับ

อากาศจะเริ่มแห้งขึ้นจากความหนาวเย็น ผิวและริมฝีปากจะเริ่มแห้งและแตกให้เห็น
ต้องใช้ทั้งลิปมันและครีมทาผิว
กลางวันร้อนจัด กลางคืนหนาวจัด เรียกว่า "แล้งในหน้าหนาว"
หมอกหนาในตอนเช้า ซึ่งต้องระวังในเรื่องการขับรถยนต์ เพราะทัศนวิสัยในการมองเห็นถูกจำกัด


ชาวบ้านอีกจำนวนมากยังลงมือเพาะปลูกข้าวในช่วงนี้ ซึ่งใช้น้ำมาก
ผมมีเรคคอร์ดว่า นา 1 ไร่ ใช้น้ำถึง 2,200 คิวในการปลูกข้าว 1 ฤดู (4 เดือน)
และน้ำจำนวนนั้นสามารถใช้รดหญ้าในสนามกอล์ฟได้ตลอดทั้งปี
หรือไปปลูกข้าวโพดจะสามารถปลูกข้าวโพดได้มากกว่า 6 ไร่ขึ้นไป จนเก็บเกี่ยวได้
โดยชาวนาเชื่อว่า รัฐบาลจะทำฝนเทียม, เจาะน้ำบาดาล รวมทั้งปล่อยน้ำในเขื่อนให้ใช้ เมื่อมีการเดินขบวน ??
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7368 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2555, 08:07:38 »

เมื่อวานนนี้ ผมไปใช้บริการของโรงพยาบาลเก้าเลี้ยว พบว่า
ตั้งแต่ 1 พ.ย. เป็นต้นมา ต้องเสียค่าบริการ 30 บาททุกครั้งแล้วครับ
จนท.การเงิน อ้างว่า รัฐบาลมีงบไม่เพียงพอ เนื่องจากจัดสรรไปช่วยชาวนาเป็นจำนวนมาก
เงินที่เคนอุดหนุนให้โรงพยาบาลเริ่มไม่พอ โครงการ 30 บาทจึงกลับมาใช้
และเมื่อกลับถึงบ้าน จึงเห็นข่าวขาก นสพ.ผู้จัดการออนไลน์ว่า


ธ.ก.ส.ถูกลอยแพ !
3 พฤศจิกายน 2555 17:26 น.


       หนี้สาธารณะคงค้างของประเทศไทยล่าสุด ณ เดือนสิงหาคม 2555 แตะหลัก 5.01 ล้านล้านบาทแล้ว
       
       คิดเป็นร้อยละ 44.89 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP
       
       แม้จะยังห่างเพดานร้อยละ 60 ของ GDP อยู่อีกมากแน่ก็ใช่ว่าจะวางใจได้ เพราะจากนี้ไปยอดหนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้นพรวดพราด
       
       แผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2556 ที่คณะรัฐมนตรีเพิ่งอนุมัติเมื่อเดือนที่แล้ว ประเทศไทยจะก่อหนี้ใหม่อีก 9.59 แสนล้านบาท แบ่งเป็น
       
       1. กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปี 3 แสนล้านบาท
       
       2. กู้ตามพ.ร.บ.บริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ 3.4 แสนล้านบาท
       
       3. กู้ตามพ.ร.ก.กองทุนประกันภัย 4.9 หมื่นล้านบาท และ...
       
       4. กู้มาให้รัฐวิสาหกิจกู้ต่อและ/หรือค้ำประกันเงินกู้ให้รัฐวิสาหกิจ 2.4 แสนล้านบาท
       
       จำเป็นต้องพูดว่ายอดที่ 1 ที่จะต้องกู้ให้หมดภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2556 ตามเงื่อนไขในพ.ร.ก.นั้นเป็นการกู้มากองไว้ก่อนทั้งจำนวน โดยต้องเสียดอกเบี้ย เพราะโครงการยังไม่มีรูปธรรมชัดเจนในวันนี้ ต้องรอผลการประกวดแนวคิดที่บริษัทผู้เข้าร่วมประมูล 8 กลุ่มจะเสนอเข้ามาภายในสิ้นเดือนนี้ก่อน และต่อให้ได้บริษัทผู้ชนะประมูลแล้วก็ไม่ได้เบิกจ่ายไปใช้ทั้งยอด เรื่องนี้รัฐบาลยังตอบคำถามไม่ได้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร
       
       แต่ที่จะพูดในวันนี้คือยอดที่ 4 สุดท้ายนั้นเป็นไปตามโครงการรับจำนำผลิตผลการเกษตรในฤดูการผลิต 2555/56 เสีย 1.5 แสนล้านบาท
       
       โครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดเป็นส่วนหนึ่งของกรอบวงเงินนี้ !

       
       ที่ต้องจับตาเพราะยอดเงินที่ต้องใช้ในทั้งโครงการในฤดูการผลิต 2555/56 ที่คณะรัฐมนตรีเพิ่งอนุมัติไปเช่นกันนั้นคือ 4.05 แสนล้านบาท ไม่ใช่ 1.5 แสนล้าน
       
       ซึ่งแปลว่าโครงการนี้ยังขาดเงินอยู่อีกมากกว่า 2.5 แสนล้านบาท
       
       กระทรวงการคลังแจ้งคณะรัฐมนตรีในหนังสือลงวันที่ 18 กันยายน 2555 (ลงนามโดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.) และ 3 ตุลาคม 2555 (ลงนามโดยนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.) ว่าส่วนที่ขาดขอให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธ.ก.ส. ระดมเงินจากตลาดเงินหรือจากเงินฝากด้วยตัวเอง หรือถ้าต้องกู้ กระทรวงการคลังจะจัดการให้ แต่จะไม่ค้ำประกันให้
       
       เพราะโครงการรับจำนำผลิตผลการเกษตรนี้กินวงเงินเข้าไปร้อยละ 55 ของกรอบวงเงินที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้
       
       หรือถ้ารวมทั้งหมดที่เป็นของฤดูการผลิตนาปรัง 2555 ที่จะต้องจัดหาให้อยู่ก็จะสูงถึงร้อยละ 66
       
       ทำความเข้าใจสักนิดว่าพ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 มาตรา 25 ประกอบมาตรา 28 กำหนดเกณฑ์ไว้ว่าเงินกู้ที่รัฐจะให้กู้ต่อแก่รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานในกำกับ หรือสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อไปใช้ในโครงการที่รัฐบาลเห็นว่ามีความจำเป็นเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งการค้ำประกันเงินกู้ด้วย ในปีงบประมาณหนึ่งจะมีได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีเท่านั้น
       
       กรอบวงเงินที่ว่านี้ในปีงบประมาณ 2556 คือ 4.8 แสนล้านบาท
       
       โครงการรับจำนำข้าวซัดเข้าไปแล้ว 2.69 แสนล้านบาท แบ่งเป็นการกู้ในปีการผลิตใหม่ 1.5 แสนล้านบาทที่กล่าวไว้เบื้องต้น ซึ่งก็ยังไม่พอ บวกกับการกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของปีการผลิต 2551/52 และ 2554/55 อีก 1.13 แสนล้านบาท
       
       ตั้งแต่ปีการผลิต 2547 เป็นต้นมา รัฐต้องรับภาระต้นเงินและดอกเบี้ยที่ใช้ในโครงการรับจำนำผลิตผลการเกษตรและรับจำนำข้าว รวมทั้งประกันรายได้เกษตรกร รวมทั้งสิ้น 7.87 แสนล้านบาท มีผลขาดทุน 2.07 แสนล้านบาท มีหนี้คงค้างทั้งสิ้น 4.55 แสนล้านบาท และยังไม่สามารถปิดโครงการได้อย่างสมบูรณ์ ในหนังสือจากกระทรวงการคลังฉบับลงวันที่ 3 ตุลาคม 2555 ตอนท้ายของข้อ 2.1 หน้า 2 กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า
       
       "เป็นภาระงบประมาณที่สูงมาก จำเป็นต้องปรับโครงสร้างหนี้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากระบายสินค้าเกษตรได้ช้าและไม่มีงบประมาณเพียงพอ..."
       
       และที่ชัดเจนขึ้นไปอีกคือข้อ 2.2 หน้า 3 ขอคัดมาให้อ่านกันทั้งหมด โดยขอแยกเป็น 2 ย่อหน้า
       
       "เนื่องจากวงเงินดำเนินโครงการรับจำนำผลิตผลทางเกษตร ปีการผลิต 2554/55 เป็นวงเงินที่สูงและเป็นภาระต่อเนื่องต่องบประมาณ ทั้งในส่วนเงินทุนธ.ก.ส. กรอบวงเงินกู้เดิม และส่วนที่อยู่ระหว่างขยายปริมาณและกรอบการใช้เงิน (กรณีพิเศษ) เพิ่มเติม รวมทั้งสิ้น 408,160 ล้านบาท (90,000 + 268,660 + 49,500) รวมทั้งกินวงเงินค้ำประกันของโครงการลงทุนของประเทศของหน่วยงานอื่น ๆ ดังนั้น หากจะมีการดำเนินโครงการต่อเนื่อง ควรมีการวิเคราะห์และประเมินผลของโครงการที่ได้ดำเนินการแล้ว รวมทั้งนโยบายการระบายผลิตผลทางการเกษตรที่รับจำนำ อย่างเป็นรูปธรรม ก่อนดำเนินโครงการใหม่ซึ่งใช้วงเงินสูงถึง 405,000 ล้านบาท ทำให้ภาระงบประมาณเพิ่มสูง หากยังไม่มีการระบายผลผลิตโครงการรับจำนำผลิตผลทางการเกษตรดังกล่าวจะส่งผลต่อความสามารถของกระทรวงการคลังในการค้ำประกันเงินกู้โครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2555/56...
       
       “และหากกรณีระบายผลิตผลที่รับจำนำไว้ได้ภายใน 3 ปี จะมีภาระการบริหารปรับโครงสร้างหนี้เฉลี่ยปีละ 224,553 ล้านบาท ซึ่งกระทบต่อการระดมทุนในตลาดเงินที่มีสภาพคล่องตึงตัว ทั้งในด้านต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้น และเป็นภาระงบประมาณเพิ่มสูงขึ้นต่อไป...”

       
       แปลไทยเป็นไทยว่าเราจะมีภาระหนี้เพิ่มปีละประมาณ 3 แสนล้านบาทบวกลบ เฉพาะจากโครงการนี้
       
       หนังสือกระทรวงการคลังทั้ง 2 ฉบับที่ลงนามโดยรมว.และรมช.นี้ จัดทำโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) สำนักจัดการหนี้ 2 มีความยาว 8 หน้าและ 6 หน้าตามลำดับ กล่าวถึงโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด
       
       ข้อความบางตอน โดยเฉพาะข้อ 2.6 หน้า 4 ในหนังสือฉบับ 3 ตุลาคม 2555 อ่านความระหว่างบรรทัดได้ว่าโครงการนี้เฉพาะตัวนโยบายถือว่าล้มเหลวโดยพื้นฐาน
       
       ตอนหนึ่งคือข้อ 2.3 ในหนังสือฉบับเดียวกันระบุว่ากระทรวงพาณิชย์ไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 29 มีนาคม 2555 และวันที่ 1 พฤษภาคม 2555
       
       และมีข้อเสนอแนะอย่างจริงจัง หนักแน่น แต่สุภาพ ไว้ประมาณ 10 ข้อ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม
       
       1. จะไม่มีการค้ำประกันเงินกู้ให้ธ.ก.ส.อีกแล้วนอกเหนือไปจาก 1.5 แสนล้านบาท
       
       2. อุดช่องโหว่ในการปฏิบัตินโยบาย โดยเฉพาะการบันทึกหนี้ให้ทันเหตุการณ์
       
       3. ให้เร่งระบายขายข้าวออก

       
       หนังสือกระทรวงการคลังทั้ง 2 ฉบับ (ด่วนที่สุด ที่ 0904/16437 และด่วนที่สุด ที่ 0904/17560) คือหลักฐานและคือใบเสร็จที่มีต่อโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดในราคาสูงกว่าราคาตลาดเกือบร้อยละ 50 เป็นอย่างดียิ่ง ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว
       
       ขอชื่นชมข้าราชการกระทรวงการคลัง สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ที่บอกเล่าเรื่องราวสู่สาธารณะได้อย่างคลาสสิกยิ่ง
       
       ธ.ก.ส.จะทำอย่างไรต่อ ลูกค้าเงินฝากธ.ก.ส.จะรู้สึกอย่างไร หากได้ทราบเนื้อความในหนังสือทั้ง 2 ฉบับนี้ทั้งหมด
       
       ขอย้ำความในตอนสุดท้ายของหนังสือด่วนที่สุด ที่ 0904/17560 ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2555
       
        “...วงเงินส่วนที่เหลือ เห็นควรให้ธ.ก.ส.ระดมเงินจากตลาดและเงินฝาก ธ.ก.ส. ตามกรอบของพระราชบัญญัติธ.ก.ส.เป็นลำดับแรก หากไม่เพียงพอ ให้กระทรวงการคลังจัดหาเงินกู้ให้โดยไม่ค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าว”
       
       แปลไทยเป็นไทยง่าย ๆ สั้น ๆ ตามที่จั่วหัวไว้ข้างต้นนั่นแหละ...
       
       ธ.ก.ส.ถูกลอยแพ !

จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9550000134575

บันทึกไว้เป็นข้อมูลเพื่อทราบครับ
 
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7369 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2555, 09:08:33 »

ชาวนาพิจิตรเลือก “ขายใบประทวน-ตัดสด” ทิ้งส่วนต่าง หนีจำนำข้าวเงินช้า-ดอกเบี้ยบาน
31 ตุลาคม 2555 14:49 น.


       ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - ชาวนาพิจิตรเริ่มตัดใจขายทิ้งใบประทวนให้คนรู้จักเกวียนละพัน ปล่อยให้ใช้สวมสิทธิกันตามสะดวก ก่อนขายข้าวตัดสดให้โรงสี ทิ้งส่วนต่างเห็นๆ 3 พันต่อตัน หลังเงิน “จำนำข้าว” จ่ายสุดช้าจนดอกเบี้ยตามตูด-หมดเงินลงทุนทำนารอบใหม่ ขณะที่สหกรณ์วชิรบารมีฯ ต้องประกาศ “หยุดรับซื้อข้าวรอบใหม่” รอค่าข้าวเปลือกรอบก่อนให้ได้ครบก่อน
      
       นายบุญเลิศ จรงธรรม อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.4 ส.อบต.บึงบัว อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร เปิดเผยว่า ตนทำนากับลูกชาย 105 ไร่ โดยทำนาปีละ 2 รอบ ฤดูกาลผลิต 54/55 ที่ผ่านมาได้ข้าว 90 ไร่ ขายข้าวไปยังโรงสีเมื่อต้นเดือนกันยายน 55 ที่สหกรณ์วชิรบารมี และโรงสีทรัพย์ทวี ซึ่งเป็นโรงสีเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว ได้ราคาข้าวตันละ 11,900-11,200 บาท จำนวน 79 ตัน
      
       แต่ ณ วันนี้ยังไม่ได้รับเงินจาก ธ.ก.ส. ซึ่งนั่นคือปัญหาใหญ่ จำนวนเงินก้อนใหญ่เกือบ 1 ล้านบาทยังไม่ได้ แต่ปัจจุบันต้องหาเงินมาลงทุนทำข้าวนาปรังรอบใหม่ โดยลงทุนไปแล้ว 3 แสนบาท แยกเป็นการลงทุนดำนาไร่ละ 1,300 บาท ปลูกข้าวไร่ละ 440 บาท ค่าปั่นนาไร่ละ 500 บาท ค่าปุ๋ยไร่ละ 800 บาท รวมทั้งสิ้นประมาณไร่ละ 3,000 บาทขึ้นไป ไม่รวมค่าน้ำดีเซลสำหรับการชักน้ำเข้านา
      
       เขาบอกว่า หากเป็นเกษตรกรรายอื่นต้องกู้เงินมาลงทุนนับแสนๆ บาท โดยที่เงินขายข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวไปแล้วยังไม่ตกถึงมือชาวนา ถามว่าโครงการรับจำนำดีไหม ก็บอกว่าราคาพออยู่ได้ แต่ขอให้เงินคล่องตัวกว่านี้ เพราะชาวนาหลายคนประสบปัญหาเหมือนๆ กัน คือ เกี่ยวข้าวขายข้าวไปยังโรงสี 2 เดือนกว่าแล้วยังไม่ได้เงิน ชาวนาส่วนใหญ่ร้องว่าไม่มีกินแล้ว เงินออกช้า นี่คือข้อเสียของโครงการรับจำนำ
      
       “ร้านค้าปุ๋ยหรือร้านค้าในหมู่บ้านมียอดหนี้ชาวบ้านค้างเพียบ”
      
       ปัญหาดังกล่าวทำให้ชาวนาส่วนใหญ่ต้องตัดใจขายเอาเงินสดแทนรับจำนำข้าว ซึ่งราคาข้าวถูกโรงสีตัดสด ราคาเฉลี่ยตันละ 8,000 บาท ยอมเสียส่วนต่าง 3 พันบาทต่อตัน เพื่อแลกกับค่าดอกเบี้ย ซึ่งถือว่าพอๆ กัน
      
       ส่วนโรงสีจะเอาข้าวจากแหล่งอื่นเข้ามาสวมแทนหรือไม่ เราไม่รู้ เป็นเรื่องของโรงสี และหากโครงการรับจำนำข้าวยังเป็นอย่างนี้ต่อไป ชาวนาจะทยอยแบ่งส่วนยกเลิกข้าวในโครงการรับจำนำข้าวเปลี่ยนเป็นขายตัดสด หาเงินมาหนุนกันมากขึ้น ทั้งๆ ที่เริ่มแรกก็เอาข้าวไปขายโรงสีตามโครงการรับจำนำหมด ก็หันมาตกลงกับโรงสีว่าขอตัดสดบางส่วนเพื่อเอาเงินสดไปชำระค่าเกี่ยวข้าวและลงทุนปลูกข้าวรอบใหม่
      
       นอกจากนี้ ล่าสุดก็เริ่มมีเกษตรกรชาวนาพิจิตรขายใบประทวนกับคนใกล้ชิดในหมู่บ้านในราคา 1,000 บาทต่อตัน เนื่องจากเป็นการซื้อขายระหว่างคนรู้จักโดยที่โรงสีไม่เกี่ยวข้อง คิดเพียงว่าขอมีเงินสดติดมือดีกว่า จึงตัดใจทิ้ง “ใบประทวน” ส่วนข้าวที่ขายไปยังโรงสีที่เข้าร่วมโครงการก่อนหน้านี้ก็ตัดเป็นราคาเงินสดแทน ซึ่งก็ไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายข้าวเปลือกในโรงสีนั้นๆ และคิดว่าโรงสีคงพอมีกำไรส่วนต่างเพราะสามารถเอาข้าวมาสวมสิทธิของชาวนาที่ตัดสินใจยกเลิกโครงการเปลี่ยนเป็นขายข้าวตัดสดได้
      
       “ยืนยันว่าที่ อ.วชิรบารมีไม่น้อยกว่า 2-3 รายเอาใบประทวนไปขายกับญาติๆ ชาวนาในพื้นที่อัตราเกวียนละ 1,000 บาท ยิ่งเงินโครงการจำนำข้าวออกช้าเท่าใด ชาวนาก็เร่ขายใบประทวน เร่งตัดสดขายข้าวทิ้ง ทั้งๆ ที่ข้าวเปลือกก็นอนอยู่ในโกดังเหมือนเดิม แต่ไม่รู้ว่าใครเอาสิทธิใบประทวนไปทำอะไรต่อ" ส.อบต.บึงบัวกล่าว
      
       ด้านนายสมเกียรติ โสภณพงศ์พิพัฒน์ ผู้จัดการสหกรณ์วชิรบารมี กล่าวว่า เงินโครงการรับจำนำข้าวรอบเก่า 54/55 ยังไม่เข้า ธ.ก.ส. ไม่ตกถึงมือชาวนาที่พิจิตรหลายราย ทำให้ ณ วันนี้ สหกรณ์ฯ ยังไม่ได้เปิดรับโครงการรับจำนำข้าวรอบใหม่ 55/56 โดยชาวบ้านบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าเงินออกช้า ส่งผลให้บรรดาร้านค้าอุปโภคและบริโภคต่างๆ ในหมู่บ้านเริ่มได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ รวมไปถึงร้านค้าปุ๋ยหรือพันธุ์ข้าวของนายทุนต่างเปิดยอดบิลเงินกู้แก่เกษตรกรผู้เดือดร้อน เพราะเขาจำเป็นต้องหยิบยืนเอาพันธุ์ข้าวหรือปุ๋ยไปลงทุนรอบใหม่

 

จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9550000133096
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7370 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2555, 09:22:42 »

ปีนี้เวียดนามขายข้าวทะลุ 7.5 ล้านตัน ขอบคุณรัฐบาลไทย
3 พฤศจิกายน 2555 01:27 น.



ชาวนาใน อ.เวินซยาง (Van Giang) จ.ฮึงเอียน (Hung Yen) ในเขตที่ราบปากแม่น้ำแดง ลงเกี่ยวข้าวนาปีวันที่ 21 ต.ค.2555 เบื้องหลังคือตึกสูงที่ผุดขึ้นมาในเขตเมืองใหม่ ที่กำลังรายล้อมนาข้าวของประเทศ แต่เวียดนามไม่ปล่อยให้มีพื้นที่ว่างโดยมิได้ใช้ประโยชน์ และปีนี้นาข้าวไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากภัยธรรมชาติทำให้ผลิตข้าวได้เพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย มีเหลือเฟือสำหรับส่งออก และปีนี้เวียดนามก็ทำเป้าใหม่ 7.5 ล้านตันได้สำเร็จมาก เป็นการสร้างประวัติกาลใหม่แก่การส่งออกข้าวของประเทศ. -- REUTERS/Mua Xuan.


       ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เวียดนามกำลังจะต้องส่งมอบข้าวให้แก่ลูกค้าต่างประเทศอีกกว่า 1 ล้านตันจนถึงวันที่ 12 ธ.ค.ปีนี้ ซึ่งจะทำให้ยอดส่งออกข้าวทะลุ 7.5 ล้านตันเป็นครั้งแรก เป็นการสร้างประวัติการณ์ใหม่ให้แก่การค้าข้าวของประเทศ สมาคมอาหารเวียดนาม (Vietnam Food Association) กล่าวถึงเรื่องนี้ในเว็บไซต์
       
       ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ผู้ส่งออกขายข้าวได้กว่า 6.4 ล้านตัน ทำเงินได้ 2,900 ดอลลาร์ มูลค่าเพิ่มขึ้น 2.7% เทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว แต่ราคาข้าวเฉลี่ยลดลง 40.3 ดอลลาร์ต่อตัน อันเป็นผลจากการที่อินเดียทุ่มข้าวราคาถูกออกสู่ตลาดโลกเมื่อตอนต้นปี ซึ่งทำให้การส่งออกข้าวของเวียดนามลำบากมาก
       
       สมาคมอาหารเวียดนามกล่าวก่อนหน้านี้ว่า การส่งออกข้าวได้มากขึ้นเป็นผลโดยตรงจากนโยบายข้าวราคาแพงของรัฐบาลไทย ที่เคยเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลก นโยบายดังกล่าวทำให้ข้าวไทยไม่สามารถสู้ราคาได้ในตลาด
       
       ปีนี้เวียดนามผลิตข้าวได้เพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากภัยธรรมชาติ หลังจากเก็บสต๊อกจำนวนหนึ่งเพื่อหลักประกันความมั่นคงด้านอาหารของประเทศ และเลี้ยงดูประชากร 80 ล้านคนแล้ว ยังมีเหลือเฟือสำหรับส่งออก
       
       อย่างไรก็ตาม การส่งออกข้าวตอนต้นปีนี้ลำบากมากกว่าทุกปี ด้วยสาเหตุที่กล่าวมาแล้ว ทำให้ปริมาณส่งออกในไตรมาสแรกลดลงถึง 45% เทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปี 2554
       
       อย่างไรก็ตาม ปี 2556 มีลู่ทางที่แจ่มใสขึ้น ตลาดจะเปิดรับข้าวเวียดนามมากขึ้น VietFood กล่าว.


จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9550000134387
 
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #7371 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2555, 14:48:02 »

  สวัสดีค่ะ น้องเหยง และ สมาชิก ทุกคน
       ขอเล่าเรื่องที่ได้ดูทาง ช่อง ๙  รายการรักเมืองไทย ที่มีชาวนาใช้ หินภูเขาไฟ ปนไปกับปุ๋ย
 เพือการดูดซึมของต้นข้าวในปริมาณที่พอดี ข้าวจะโตเร็ว แล้วทำให้ผลผลิต เพิ่มขึ้น ๓๐%
 ดูแล้วยังคิดว่า หากเพิ่มได้จริง ประหยัดปุ๋ย จริง น่าจะมีการเผยแพร่
      เรื่องที่ ๒  ที่น้องเหยง พูดเรื่อง ค่ารักษา ๓๐  บาท เดือนก่อน พยาบาลออกมาประท้วง
 พี่เองไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่า พยาบาล ต่างจังหวัด เป็นอัตราจ้าง เป็นหมื่นคน
หรือเรียกได้ ว่า แทบทั้งหมด จ้างมาตั้งแต่ ยุค ฟองสบู่แตก เป็นต้นมา
พี่เห็นว่า รัฐบาลคิดผิดมากที่ทำกับ พยาบาล ซึ่งงานหนัก และจำเป็นมาก อย่างนี้
ที่กับผู้พิพากษา  อัยการ และอีกหลายตำแหน่งราชการ  ให้เงินเดือน เป็น แสน แถม ขยายอายุราชการด้วย
 ด้วยเหตุผลที่ว่า หากให้เงินเดื่อนมากจะได้ทำงานอย่างสุจริต
แต่กับพยาบาล ท้ังไม่ให้เป็นข้าราชการ จ้างเอา เป็นเพียง ลูกจ้างรายปีเท่านั้น  เลือกปฏิบัติกันเกินไปหรือเปล่า
สมควรแล้วที่พยาบาลออกมาประท้วง เป็นพี่ ประท้วงมานานแล้ว ไม่รอทำงานเป็นลูกจ้างรายปี มาเป็น ๑๕  ปี หรอก
ทีข้าราชการอื่น ขึ้นเงินเดือนเอา ๆ เป็นข้าราชการ ทำงานให้รัฐ เหมือนกันหรือเปล่า นี่
 ถ้าจะ out sourceก็น่ามีแผนที่ชัดเจน ในทุกตำแหน่ง
เขาจะได้ไม่เรียนพยาบาลกันเพื่อมาเป็นข้าราชการกัน
โดยรู้ว่า ต้องเป็นลูกจ้างเท่านั้น หรือต้องจ้างกันแบบ out source  
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7372 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2555, 20:15:34 »

พี่'อร ครับ

มีหลายเรื่อง หลายประเด็น อาทิ เรื่องเออรี่นี่ด้วย
เออรี่ไปแล้ว ตำแหน่งหายไปด้วยครับ เขาจะจ้างใหม่เป็นพนักงานราชการ ซึ่งมีอายุ 4 ปี/ครั้ง
เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย แต่แปลกมาก กระทรวงการคลังไม่ค่อยจะมีเออรี่เท่าไร ??

กรณีพยาบาล น่าเห็นใจมากๆ ไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ พนักงานราชการก็ไม่ให้เป็น
ล่อให้ทำ โอ ที เพื่อให้ได้รับเงินรวมเยอะๆ

ทั้งหมดอยู่ที่กรมบัญชีกลางครับ เขาคิดทำอะไรอยู่ ??
กับอัยการ ศาล เขาไม่กล้าหรอกครับ นั่นเขาหัวหมอ แต่ไม่ใช่หมอ สู้คดีมันคนละชั้นกัน !!!
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7373 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2555, 20:15:59 »

คลายเครียดครับ....

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=weN9QSHBqs0" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=weN9QSHBqs0</a>
      บันทึกการเข้า
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #7374 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2555, 12:21:44 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2555, 20:15:59
คลายเครียดครับ....

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=weN9QSHBqs0" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=weN9QSHBqs0</a>
   สวัสดีค่ะพี่เหยง   เข้ามาเจอพดดีเลยหายเครียดค่ะ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 293 294 [295] 296 297 ... 472   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><