05 กรกฎาคม 2567, 04:37:19
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 194 195 [196] 197 198 ... 472   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ  (อ่าน 2433890 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 11 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4875 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 00:07:01 »

ราตรีสวัสดิ์ครับ

อากาศหนาวเย็นลงอีก โปรดระมัดระวังสุขภาพของท่าน และคนรอบกายด้วยครับ
เด็กและผู้สูงอายุ ต้องได้รับความอบอุ่นให้เพียงพอ ดูแลก่อนเข้านอนครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4876 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 17:20:19 »

มาสวัสดี ในช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม ซึ่ง 7 ปีที่แล้วเกิดเหตุ ซึนามิ พัดถล่มชายทะเล ภูเก็ต พังงา ระนอง
มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5,000 คน โดยชาวไทยไม่มีความรู้ในเรื่อง ซึนามิ เลย
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4877 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 17:29:47 »

วันนี้ไปติดต่อ สนง.สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด เพื่อยื่นเรื่องเข้าโครงการชะลอการเลิกจ้างงาน ซึ่งสำนักงานจะช่วยจ่ายเงินช่วยเหลือแรงงานให้เดือนละ 2,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน โดยนายจ้างต้องประสบภัยน้ำท่วมไม่น้อยกว่า 30 วันและช่วงเวลาดังกล่าว จนไม่สามารถประกอบกิจการได้ อีกทั้งได้จ่ายเงินเดือนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของเงินเดือนที่ต้องจ่ายรายเดือน

ปรากฎว่า รายละเอียดเปลี่ยนไปครับ กระทรวงแรงงานกำหนดให้นายจ้างต้องประสบภัยในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2554 เท่านั้น ซึ่งหากจะต้องเข้าข่ายคือ ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2554 ต้องจมน้ำมาโดยตลอด ตรงนี้จะเห็นได้ว่า รัฐบาลบีบการช่วยเหลือลง โดยกิจการที่จมน้ำตลอดเดือนพฤศจิกายน 2554 จะเป็น กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ทั้ง 7 แห่ง, พื้นที่ในเขต กทม.รอบนอกฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตกรวมทั้งในส่วนของจังหวัดนครปฐม อาทิ นครชัยศี บางเลน พุทธมณฑล สามพราน และในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครที่ต้องจมน้ำ 30 วัน ซึ่งมีน้อยแห่งมาก


ที่บ้านผม จมน้ำตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน ถึง 8 พฤศจิกายน รวมเกือบ 2 เดือน ไม่สามารถประกอบกิจการได้ ทำได้เพียงสู้กับน้ำไปทุกๆวัน อาจจะไม่เข้าเกณฑ์ซะแล้ว เนื่องจาก รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงานถือช่วงเดือนพฤศจิกายน เป็นหลัก สรุป ผมจมน้ำในเดือนพฤศจิกายน เพียง 8 วันเท่านั้น ไม่ครบ 30 วันตามเกณฑ์ตั้งใหม่
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4878 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 17:35:21 »

อีกเงื่ื่อนไขที่ตั้งขึ้นมาคือ แรงงานต้องเป็นชาวไทย(เท่านั้น) และต้องอยู่ในระบบประกันสังคม โดยขอพิจารณาวัน เดือน ปี ที่เข้าสู่ระบบประกันสังคมด้วย ??
ส่วนแรงงานชาวต่างชาติ (ลาว เขมร พม่า) ซึ่งแม้จะมี PASSPORT และเข้าประกันสังคมมาเมื่อเดือนมีนาคม 2554 แล้ว ไม่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการช่วยเหลือ


หมายเหตุ: กฎเกณฑ์ที่เพิ่มขึ้นมานี้ เป็นการตั้งเพิ่มเติมในภายหลัง โดยวันแรกๆ ของการประกาศโครงการนี้ ไม่มีรายละเอียดส่วนนี้ออกมา
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4879 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 17:45:12 »

เมื่อสักครู่ ได้ดูช่อง 3 รายการครอบครัวข่าว
แจ้งว่า มีเงินบริจาคผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ประมาณ 149 ล้านบางเศษ, ผ่านธนาคารกรุงเทพจำกัด 318 ล้านบาทเศษ มียอดรวมทั้งสิ้น 467,824,787 บาท และจะประกาศงดรับบริจาคแล้ว เพื่อจะจัดสรรเงินให้ผู้ประสบภัยทั้งหมด
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4880 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 17:47:07 »

อย่างไรก็ตาม ภาคใต้ของเรา กำลังย่ำแน่จากลม พายุฝน คลื่นจากทะเลอ่าวไทยอยู่ในขณะนี้


ประจวบฯประกาศ 4 อำเภอเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ วาตภัยคลื่นซัดชายฝั่ง
26 ธันวาคม 2554 16:27 น.

 
        ประจวบคีรีขันธ์ - จังหวัดประจวบฯ-เทศบาลเมืองหัวหิน และอำเภอต่างๆ เริ่มออกสำรวจความเสียหายหลังคลื่นถล่ม พร้อมสั่งเฝ้าระวังเตรียมช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายข้าวของหนีน้ำตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งประกาศห้ามลงเล่นน้ำทะเลและเล่นกีฬาทางน้ำทุกชนิดในช่วง 2-3 วันนี้ ขณะที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ประกาศ 4 อำเภอ หัวหิน สามร้อยยอด กุยบุรี และ อ.ทับสะแก เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ วาตภัยคลื่นซัดชายฝั่ง แล้วเบื้องต้นกว่า 500 ครัวเรือนเดือดร้อน
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 ธ.ค.) ยังคงมีคลื่นลมแรงซัดกระหน่ำเข้าชายฝั่ง อ.หัวหิน อ.สามร้อยยอด อ.กุยบุรี อ.เมือง และ อ.ทับสะแก ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 05.00 น.โดยพบว่ายังมีคลื่นสูง 2-3 เมตร น้ำทะเลยังมีสีขุ่น ซัดเข้าชายหาดตลอดทั้งวัน แต่คลื่นลมเริ่มอ่อนกำลังลงเมื่อเทียบกับวันที่ 25 ธ.ค.โดยที่สะพานปลา หัวหิน ชาวประมงในพื้นที่ยังคงเดินทางมาเฝ้าเรือประมงของตนเอง และมีบางส่วนได้ทำการเคลื่อนย้ายเรือประมงขึ้นมาไว้บนฝั่ง
       
       ขณะเดียวกันก็มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และชาวไทยเดินทางมาดูปรากฏการณ์คลื่นยกตัวสูงที่ชายหาดหัวหิน เป็นจำนวนมากเช่นกัน ในขณะที่ชาวบ้านหัวหินส่วนใหญ่ ไม่ได้ตื่นกลัวกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติมากนัก เนื่องจากเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพียงแต่ปีนี้มีความรุนแรงมากขึ้น ไม่เกี่ยวกับคำทำนาย หรือการเกิดสึนามิแต่อย่างใด
       
       ต่อมาเวลา 14.00 น. นายอภินันท์ จันทรังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมนายสมชาย บำรุงทรัพย์ นายอำเภอหัวหิน นายสุเทพ รื่นถวิล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายจิระ พงษ์ไพบูลย์ นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายอธิคุณ บุตรยิ่ง รองนายกฯหัวหิน พร้อมปลัดเทศบาล ฯลฯ ได้เดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณชายหาดหัวหิน ซึ่งเป็นที่ตั้งร้านค้าชายหาด 22 ร้าน  และที่ร้านแสงไทย ซีฟู้ด ซึ่งได้รับผลกระทบจากคลื่นซัดฝั่งตั้งแต่เช้ามืดของวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา
       
       โดยมีตัวแทนร้านค้า นางโสมประภา โมระกานต์ ประธานชมรมร้านค้าชายหาดหัวหิน พาคณะดูร่องรอบความเสียหายจาคลื่นที่ซัดกระทบชายฝั่ง โดยเจ้าของร้านยังคงเก็บข้าวของ ทำการซ่อมแซมร้านค้า เนื่องจากน้ำทะเลที่หนุนสูงได้เริ่มลดระดับลงในช่วงบ่าย บางส่วนถึงแม้จะนำกระสอบทรายมาเสริมป้องกันแต่ก็ไม่สามารถต้านทานคลื่นได้ ส่วนข้าวของบางส่วนเก้าอี้ ผ้าใบ และข้าวของบางส่วนได้ถูกนำขึ้นไปไว้บนถนนทางลงชายหาดเป็นการชั่วคราว
       
       ในขณะที่เจ้าของร้านแสงไทย ซีฟู้ด เล่าให้ฟังด้วยว่าคลื่นมีความรุนแรงตอนช่วงประมาณ 05.00 น. โดยคลื่นใหญ่สูงและแรงที่พักกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง จนร้านของตนเองได้รับความเสียหายมูลค่ากว่า 3แสนบาท และอยู่หัวหินมา 30-40 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยพายุเกย์ และพายุลินดา ยังไม่รุนแรงแบบนี้ ส่วนร้านอาหารก็เปิดตามปกติโดยยังมีพื้นที่บางส่วนที่ไม่เสียหาย
       
       พร้อมกันนั้นเมื่อน้ำทะเลลงผู้ประกอบการร้านค้าบางส่วนก็นำ เตียงผ้าใบ มากางให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ใช้บริการ ซึ่งชาวต่างชาติส่วนใหญ่ต่างไม่รู้สึกหวาดกลัวคลื่นกับมานอนอาบแดดบนเตียงผาใบในช่วงบ่าย ส่วนผู้ประกอบการให้เช่าขี่ม้าชายหาดหัวหิน ก็เช่นกันเมื่อน้ำทะเลเริ่มลงก็เริ่มนำม้ามาให้บริการชาวต่างชาติเช่าเช่นกัน
       
       นายอภินันท์ จันทรังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้จากการตรวจสอบความเสียหายของทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบฯ มีพื้นที่ อ.หัวหิน อ.สามร้อยยอด,อ.กุยบุรี อ.ทับสะแก ทั้ง 4 อำเภอขณะนี้ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ประกาศเป็น”พื้นที่ภัยพิบัติ วาตภัยคลื่นซัดชายฝั่ง” ในบางตำบลของพื้นที่อำเภอแต่ละแห่งที่ได้รับความเสียหายไปแล้ว เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยเหลือในด้านต่างๆ ต่อไป
       
       โดยภาพรวมของความเสียหายส่วนใหญ่เป็น ร้านอาหารริมชายหาด บ้านพักชายทะเล บ้านเรือนของชาวบ้าน  ถนนบางสายที่ถูกกัดเซาะจากน้ำทะเลที่ซัดเข้าฝั่ง ทั้งนี้ที่ผ่านมาทุกปีก็เกิดคลื่นซัดฝั่งในช่วงที่มีมรสุมเข้า แต่ปีนี้จะหนักกว่าเรียกว่าในรอบ 40-50 ปีก็ว่าได้ที่มีคลื่นสูง ลมแรง น้ำทะเลหนุนขึ้นมาจนท่วมในพื้นที่บางส่วน เบื้องต้นการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติในครั้งนี้ หากพบว่ามีอำเภอใดได้รับความเสียหายเพิ่มเติมอีกทางจังหวัดก็จะมีการประกาศในระยะต่อไป 
       
       ทั้งนี้ ขอแจ้งให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาพักผ่อนในพื้นที่ อ.หัวหิน และอำเภอต่างๆของจังหวัดประจวบฯ ว่านักท่องเที่ยวยังเดินทางมาพักผ่อนตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆได้ เพียงแต่บริเวณชายหาดควรงดลงเล่นน้ำทะเล เพราะมีคลื่นลมแรง และคาดว่าในวันพรุ่งนี้คลื่นลมก็ยังมีกำลังแรง เรือประมงก็ควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้ และขอให้ติดตามการพยากรณ์อากาศฯอย่างใกล้ชิด ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางไปพักผ่อนที่เกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย ขณะนี้ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ของเกาะทะลุ ได้นำเรือไปรับนักท่องเที่ยวกลับขึ้นมาฝั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นทางจังหวัดได้เตรียมการในด้านต่างๆที่จะให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุการณ์คลื่นซัดชายฝั่ง ขณะเดียวกัน
       
       ด้านนายจิระ พงษ์ไพบูลย์ นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์คลื่นซัดตลอดแนวชายฝั่งของอำเภอหัวหิน ในพื้นที่เขตความรับผิดชอบใน ต.หัวหิน และ ต.หนองแก และให้ทางในส่วนของเจ้าหน้าที่ออกเก็บขยะที่ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งประสานหน่วยงานในพื้นที่ระดมกำลังเตรียมพร้อม หากประชาชนร้องขอความช่วยเหลือในการขนย้ายข้าวของหนีน้ำ และได้สั่งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังได้ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำทะเล รวมทั้งกีฬาทางน้ำทุกชนิด ทั้งเจ็ตสกี บานาน่าโบ๊ท และไคท์บอร์ดดิ้ง เป็นต้นเพื่อความปลอดภัย
       
       นายบุญแท้ นิลเถื่อน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปากน้ำปราณบุรี กล่าวว่า ได้ออกสำรวจดูพบว่าถนนตามแนวชายทะเลมีก้อน หิน ทรายที่ถูกคลื่นทะเลซัดขึ้นมาปิดเส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ถนนบางส่วนก็ถูกน้ำทะเลกัดเซาะได้รับความเสียหาย เมื่อคลื่นสงบลงก็จะนำรถไถมาพื้นผิวจราจรให้รถยนต์สามารถสัญจรผ่านไปมาได้
       
       วันนี้ในพื้นที ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ ที่ติดกับอ่าวปากน้ำปราณ ตลอดแนวชายทะเลก็ยังพบว่ายังมีลมแรงคลื่นทะเลความสูงประมาณ 2-3 เมตร ยังซัดชายฝั่ง แต่ความความรุนแรงลดลงจากเมื่อวาน ตรวจสอบตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหารประมาณ 200 แห่ง เงียบเหงาไปถนัดตา ถนนตามแนวชายหาดบางจุดได้รับความเสียหาย ถูกน้ำทะเลกัดเซาะ พื้นผิวถนนมีก้อนหินดินทราย ที่ถูกคลื่นทะเลซัดขึ้นมาบนผิวถนนระยะทาง ปิดขวางการจราจรกว่า 5 ก.ม. รถยนต์ และรถจักรยายนต์ไม่สามารถผ่านไปได้
       
       นางลำเพย แสงกระจ่าง พนักงานบ้านไทยแหลมเกด รีสอร์ต อ.ปราณบุรี เล่าให้ฟังว่า คลื่นทะเลพัดแรงมาก ไม่เคยเห็นมาก่อน รีสอร์ทได้รับความเสีย จากลมพัดเอาซุ้มอาหาร ได้รับความเสียหายไป 3 หลัง น้ำทะเลไหลเข้าท่วมร้าน ส่วนนักท่องเที่ยว ลดน้อยลง ลูกค้าบางส่วนที่จองห้องไว้ช่วงฉลองปีใหม่ มีการโทรศัพท์มาระงับบ้างแต่ยังไม่นัก ช่วงมรสุมทุกๆปีมีนักท่องเที่ยวไม่ค่อยมากนักเพราะทะเลมีคลื่นแรงนักท่องเที่ยวไม่สามารถลงเล่นน้ำได้
       
       นายสุรศักดิ์ เกศวพิทักษ์ ผู้จัดการโรงงานน้ำปลาวังใต้ทับสะแก ซึ่งเป็นโรงงานเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดประจวบฯ เปิดเผยว่า พื้นที่ของโรงงานได้ถูกคลื่นซัดหายไปจนถึงตัวโรงงาน และคลื่นได้เซาะเข้ามาใต้พื้นโรงงานทำให้สภาพโรงงานขณะนี้เริ่มทรุดตัว และหากคลื่นยังทวีความรุนแรงเช่นนี้ โรงงานน้ำปลาอาจถูกคลื่นซัดเข้าไปถึงครึ่งโรงงาน และจะเกิดความเสียหายมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ โดย อ.ทับสะแก มีคลื่นสูงประมาณ 3-4 เมตร โดยคลื่นยักษ์ได้พัดเข้าสู่ฝั่งหมู่บ้านทุ่งประดู่ หมู่ที่ 2 ต.ทับสะแก ทำให้ชายฝั่งทะเลถูกคลื่นซัดพื้นดินหายไปมีความกว้างกว่า 50 เมตร เป็นแนวยาวกว่า 1 กิโลเมตรและกัดเซาะเข้าไปถึงบ้านเรือนประชาชน ซึ่งชาวประมงเรือเล็กได้ช่วยกันนำเรือเข้าหลบบนชายฝั่ง
       
       นายนรินทร์ ทรงนิพิฐกุล นายอำเภอสามร้อยยอด กล่าวว่า พื้นที่ที่ถูกคลื่นทะเลพัดได้รับความเสีย มีทั้ง  5 หมู่บ้าน นอกจากนั้น ทางอำเภอยังได้เข้าไปสำรวจถนนที่บริเวณบ้านหนองข้าวเหนียวได้รับความเสียหาย ระยะทางกว่า 300 เมตร  และหมูที่ 8 สวนสาธารณะที่ใช้ออกกำลังกายของนักท่องเที่ยวและชาวบ้านก็ได้รับความเสียเช่นกัน ตอนนี้ได้ประมาณการค่าเสียทั้ง 5 ล้าน 5 แสนกว่าบาท ตอนนี้กำลังเร่งทำประเมินเพื่อต้องตั้งงบประมาณ มาดำเนินการซ่อมแซมถนนเร่งด่วน


จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000164501
 

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4881 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 17:54:50 »

ภาคเหนือได้รับอิทธิพลจากกระแสลมตะวันตก อาจมีฝนตกในภาคเหนือตอนบนแบบประปรายเล็กน้อย อากาศยังหนาวเย็นและยังลดลง 2-4 องศา ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยคลื่นลมยังสูงและแรงมาก พื้นที่ชายฝั่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

                                                   พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 26 ธันวาคม 2554
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 16:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็น ประกอบกับคลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือมีฝนเล็กน้อย บางแห่งและอุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศา
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงทำให้อ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเลระวังอันตรายจากลมแรงมากและคลื่นจัดที่ซัดเข้าฝั่งและชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ2-3 วันนี้
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 17:00 วันนี้ ถึง 17:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ อากาศหนาวกับอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศา อุุณหภูมิสูงสุด 24-28 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศหนาว กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศา อุณหภูมิสูงสุด 25-28 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  อากาศหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-28 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-13 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-29 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป: มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4882 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 17:58:54 »

สื่อประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายารัฐบาลปู ประจำปีนี้

สื่อตั้งฉายารัฐ “ทักษิณส่วนหน้า” “ปู-นายกฯ นกแก้ว” “เหลิม-กุมารทองคะนองศึก”
26 ธันวาคม 2554 16:48 น.

 
       สื่อมวลชนประจำทำเนียบตั้งฉายารัฐบาล “ทักษิณส่วนหน้า” “ยิ่งลักษณ์” นายกฯ นกแก้ว “ยงยุทธ” ทักษิณโด้โชวห่วย “เฉลิม” กุมารทองคะนองศึก “ประชา” อินทรีหลงป่า “สุรพงษ์” ปึ้งเป้าเป๊ะ “โกวิท” ประแจปากตาย “กิตติรัตน์” ปุเลง...นอง “พิชัย” ไอเดียกระฉอก “ธีระ” ขงเบ๊ “ปลอดประสพ” ผีเจาะปลอด “น้ำตาที่ไหลไม่ได้มาจากความอ่อนแอ ใครไม่โดนไม่รู้ มันเป็นอารมณ์ร่วม” ของ “ปู” รับวาทะแห่งปี
       
       หมายเหตุ : การตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปีของผู้สื่อข่าวสายทำเนียบรัฐบาล ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบเนื่องกันมา เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล จากประสบการณ์การทำงานที่ปรากฏต่อสื่อสาธารณะ โดยมิได้เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ใดผู้หนึ่ง แต่มาจากมติส่วนรวมของสื่อมวลชน โดยในปีนี้ ผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาลได้ประชุม และมีมติให้ตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี 2554 ดังนี้
       
       ฉายารัฐบาล : ทักษิณส่วนหน้า
       
       การบริหารงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่สามารถสลัดภาพว่ามีพี่ชายอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เบื้องหลังได้ จนรัฐบาลชุดนี้เปรียบเสมือนศูนย์บัญชาการส่วนหน้าของตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องทำตามสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ คิด และวางไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายประชานิยมที่ชูสโลแกน “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” หรือในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ผู้ที่มีสิทธิได้ตำแหน่ง ต่างเดินทางไปถึงดูไบเพื่อแสดงวิสัยทัศน์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้ไปกรุยทางให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก่อนการเดินทางไปเยือนประเทศต่างๆ นอกเหนือไปจากการการันตี ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ โคลนนิงของตัวเอง
       
       น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี : นายกฯ นกแก้ว
       
       น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้หญิงที่มีความสวย บุคลิกดี มีความความโดดเด่น คล้ายกับนกแก้วที่มีสีสันสวยงาม แต่กลายเป็นนกแก้วที่ต้องติดอยู่ในกรงทอง ไม่สามารถบินไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง ต้องมีพี่เลี้ยงคอยประกบดูแลอย่างใกล้ชิด บทบาทที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แสดงต่อสาธารณชน จึงเป็นเพียงนกแก้วที่พูดตามบทที่มีคนเขียนหรือบอกให้พูดเท่านั้น และลักษณะการตอบคำถามของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็มักพูดซ้ำไปซ้ำมา หรือวกวนจนไม่รู้ข้อเท็จจริงคืออะไร หลายครั้งก็พูดผิดกระทั่งตกเป็นเป้าของการวิพากษ์วิจารณ์
       
       นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย : ทักษิโด้โชว์ห่วย
       
       เคยเป็นถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากประวัติการทำงานที่เป็นถึงอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งได้จัดตั้งรัฐบาล นายยงยุทธจึงถูกวางตัวให้รับตำแหน่งสำคัญในฐานะ รมว.มหาดไทย เพื่อตอบแทนความภักดีที่คอยดูแลพรรคในช่วงเวลาที่ตกต่ำสุดขีด แต่นอกจากการเป็นผู้ที่แต่งกายและมีบุคลิกดีคล้ายผู้ชายใส่ “ทักซิโด” เมื่อถึงเวลาแสดงผลงานกลับสอบตก “โชว์ห่วย” จนมีเสียงเรียกร้องภายในพรรคให้ปรับออกจากตำแหน่ง คำว่า “ทักษิโด้” ในที่นี้ยังเป็นการล้อจากชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้อยู่เบื้องหลังของการได้มาซึ่งตำแหน่งของ นายยงยุทธ ด้วย
       
       ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี : กุมารทองคะนองศึก
       
       กุมารทองมักสวมเครื่องทรง แทนสัญลักษณ์ของผู้มีตำแหน่งสำคัญ โดยลักษณะทั่วไปของกุมารทองคือจะทำงานตามคำสั่งและทำเพื่อประโยชน์ของผู้เลี้ยงเท่านั้น เช่นเดียวกับ ร.ต.อ.เฉลิมที่จะทำงานตามคำสั่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังมักจะเป็นพรายกระซิบคอยบอกบทของเพื่อนรัฐมนตรีระหว่างการชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร อีกทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม ยังมีความซุกซน ชอบเข้าไปเกี่ยวข้องกับหลายเรื่องที่ไม่ใช่งานในความรับผิดชอบของตัวเอง หวังเพียงสร้างประเด็นข่าว และยังมีความคึกคะนองพร้อมที่จะประกาศศึกกับใครก็ได้จนบางครั้งกลายเป็นการชักศึกเข้าบ้าน
       
       พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม : อินทรีหลงป่า
       
       พล.ต.อ.ประชา มีดีกรีเป็นถึงอดีตอธิบดีกรมตำรวจ พื้นเพเป็นคนอีสาน และได้แสดงผลงานการปราบปรามสมัยสวมเครื่องแบบสีกากีอย่างโดดเด่น จนถูกขนานนามว่าเป็น “อินทรีอีสาน” แต่เมื่อเข้ามาเป็นรัฐมนตรีกลับได้รับงานที่ผิดฝาผิดตัว คืองานแก้ปัญหาน้ำท่วม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ซึ่งไม่ใช่งานที่ถนัด อีกทั้งการแก้ปัญหาดังกล่าวก็ไม่ได้ดีเท่าที่ควร หลงทิศหลงทาง ส่งผลให้ปัญหาน้ำท่วมลุกลาม ประชาชนหลายพื้นที่เกิดความขัดแย้ง กระทั่งตัว พล.ต.อ.ประชา ยังถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจและถูกฝ่ายค้านยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่ง
       
       นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ : “ปึ้ง” เป้าเป๊ะ
       
       “ปึ้ง” เป็นชื่อเล่นของ นายสุรพงษ์ ผู้ที่ถูกสังคมตั้งคำถามนับแต่เข้ารับตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ว่ามีความรู้ความสามารถเพียงพอต่อการรับตำแหน่งสำคัญนี้ได้หรือไม่ แต่ผลงานตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา สะท้อนผลงานนายสุรพงษ์ เข้าเป้าทุกประการเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นการขอวีซ่าเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และอาศัยจังหวะชุลมุนช่วงน้ำท่วม ออกหนังสือเดินทางให้กับอดีตนายกฯ หรือแม้แต่การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวง
       
       พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี : ประแจปากตาย
       
       อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ผู้นี้ เป็นคนที่มีบุคลิกพูดน้อย มีท่าทีแข็งทื่อ คล้ายครั้งทำเหมือนพูดไม่รู้เรื่อง ทำให้ไม่มีบทบาทตามหน้าสื่อหรือภายในพรรคเพื่อไทย แต่ความจริง พล.ต.ท.โกวิท เป็นตัวเดินเกม และคอยแก้ไขปัญหาให้กับรัฐบาลรวมถึงพรรคเพื่อไทยในหลายๆเรื่อง ที่โดดเด่นคือการกล่อมให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ย้ายจากตำแหน่ง ผบ.ตร.มาเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อเปิดทางให้กับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ภรรยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เป็น ผบ.ตร.สมใจ หลังเจ้าตัวรอคอยตำแหน่งนี้มาอย่างยาวนาน
       
       นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ : ปุเลง...นอง
       
       ล้อมาจากคำว่า “บุเรงนอง” ที่เป็นแม่ทัพใหญ่ในนิยาย “ผู้ชนะสิบทิศ” เช่นเดียวกับ นายกิตติรัตน์ ที่เป็นขุนพลด้านเศรษฐกิจ ผู้ประกาศตัวว่า จะเข้ามากู้วิกฤตให้กับประเทศ แต่การทำงานของนายกิตติรัตน์ กลับเป็นไปอย่างติดๆขัดๆ ไม่ราบรื่นเหมือนกับปุเลงไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ ยังมีปัญหากับ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลังหลายครั้งหลายหน กระทั่งเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ ทะลักเข้านิคมอุตสาหกรรมสำคัญหลายแห่ง สร้างความเสียหายมหาศาล จนกระทั่งนายกิตติรัตน์ ต้องน้ำตานองหน้าต่อคนทั้งประเทศ
       
       นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน : ไอเดียกระฉอก
       
       เป็นเจ้าโปรเจกต์ สารพัดคิด หลายเรื่องยังไม่ได้ข้อสรุปในที่ประชุม ก็เป็นเจ้าตัวที่ทำให้กระฉอกออกมา อย่างโครงการนิวไทยแลนด์ที่เจ้าตัวออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมกู้เงิน 9 แสนล้านบาทเพื่อมาฟื้นฟูประเทศ แต่สุดท้ายนายกรัฐมนตรีกลับปฏิเสธว่าไม่มีโครงการดังกล่าว หลายไอเดียที่เจ้าตัวคิดออกมาดังๆ แล้วถูกติติงจากผู้รู้ว่าไม่น่าจะนำไปปฏิบัติได้จริง เพียงข้ามวันนายพิชัย ก็ออกมาปฏิเสธว่า ไม่ใช่ไอเดียของตน เหมือนน้ำที่กระฉอกไป กระฉอกมา หาอะไรแน่นอนไม่ได้ สุดท้ายผลงานเลยไม่เป็นไปตามเป้า
       
       นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ : ขงเบ๊
       
       “ขงเบ้ง” เป็นกุนซือคนสำคัญในเรื่องสามก๊ก ซึ่ง นายธีระ เคยนำไปเปรียบเปรยในสภา ถึงปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมา ว่าต่อให้ขงเบ้งมาเกิดใหม่ก็แก้ปัญหาไม่ได้ ซึ่งนอกจากนายธีระไม่ใช่คนที่คอยวางแผนให้คนอื่นปฏิบัติตาม ยังจะเป็นคนที่รับคำสั่งจาก นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ทั้งงานในกระทรวงเกษตรฯ และการบริหารจัดการน้ำ คำว่า “เบ๊” นอกจากแปลว่าทำตามคำสั่งคนอื่นแล้ว ยังมาจากแซ่ของนายบรรหาร ที่แปลว่า “ม้า” หรือ “อาชา” ด้วย
       
       นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : ผีเจาะปลอด
       
       เป็น รมว.วิทยาศาสตร์ฯ แต่โด่งดังจากการเตือนภัยว่าน้ำจะท่วม กทม.ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าตื่นตูมเกินเหตุ แต่ท้ายสุดน้ำก็ท่วมกทม.จริงๆ นับจากนั้นนายปลอดประสพ จึงมีบทบาทสำคัญในการให้ข้อมูลเรื่องน้ำ อย่างไรก็ตาม การเตือนภัยระยะหลังของนายปลอดประสพ จะเป็นไปในลักษณะให้ตื่นกลัว มากกว่าตื่นตัว ที่สำคัญด้วยบุคลิกของนายปลอดประสพ ที่เป็นคนพูดเก่ง แม้แต่เรื่องที่ไม่ให้พูด เปรียบเสมือน “ผีเจาะปาก” แต่สำหรับนายปลอดประสพ กลายเป็น “ผีเจาะปลอด” เพราะการพูดแต่ละครั้งมักจะทำให้คนกลัว หรือตกใจ
       
       @ วาทะแห่งปี “น้ำตาที่ไหลไม่ได้มาจากความอ่อนแอ ใครไม่โดนไม่รู้ มันเป็นอารมณ์ร่วม” ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์
       
       เป็นคำให้สัมภาษณ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ ศปภ.ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกำลังเผชิญวิกฤตอย่างหนัก หลังจากไม่สามารถสกัดกั้นไม่ให้น้ำเข้ามาท่วม กทม.รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมต่างๆได้ ผลโพลต่างๆ ก็ออกมาตรงกันว่าไม่เชื่อถือการทำงานของรัฐบาล นำไปสู่คำถามที่ว่ารัฐบาลจะสามารถประคองตนจนถึงสิ้นปีหรือไม่ ช่วงเวลานั้นไม่ว่าจะไปปฏิบัติงานที่ใด น.ส.ยิ่งลักษณ์มักจะหลั่งน้ำตาออกมา จนหลายคนมองว่าเป็นพฤติกรรมที่สะท้อนภาวะจิตใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ไม่ได้ต้องการเล่นการเมืองมาแต่ต้น แต่ถูกพี่ชายผลักดันให้มาทวงความเป็นธรรมให้กับตระกูลชินวัตร แม้จะเฉไฉไปว่าร้องให้เพราะเห็นใจประชาชนก็ตาม


 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000164521
 


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4883 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 21:58:57 »

มาพบกับฉายาที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งให้

มก.ตั้งฉายา‘รัฐบาลปูอบวุ้นเส้น’ "ปชป." หล่อรอเสียบ วาทะแห่งปี “เอาอยู่”
วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14:05:50 น.
 

วันที่ 26 ธ.ค. นายจักรพล บัวโฮม ประธานชุมนุมรัฐศาสตร์สโมสรนิสิตคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แถลงข่าวการตั้งฉายาสถาบันทางการเมืองครั้งที่ 2 ประจำปี 2554 โดยให้ฉายารัฐบาล"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เป็น “ปูอบวุ้นเส้น” เพราะมวลชนที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลพยายามเรียกตัวเองว่าเป็นไพร่ จึงเปรียบเหมือนวุ้นเส้นที่เล็กกว่าเส้นหมี่ แต่มีความเหนียวแน่นในการรวบ และตัวชี้วัดความอร่อยของอาหารจานนี้อยู่ที่วุ้นเส้น ไม่ใช่ปู เพราะปูอาจถูกแทนที่ด้วยกุ้งหรือเนื้อสัตว์ชนิดอื่นได้
 

รัฐสภาได้ฉายาว่า “สภาจิ้งหรีด” เพราะมุ่งเถียงกันแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง พรรคเพื่อไทยได้ฉายา “นักประดาน้ำ” เพราะแทนที่จะมีบทบาทช่วยเหลือประชาชนประสบภัยน้ำท่วม กลับฉวยโอกาสเรื่องของบริจาคที่ศปภ. ประหนึ่งเป็นนักประดาน้ำ อาศัยช่วงน้ำหลากขับเคลื่อนวาระแอบแฝง


พรรคประชาธิปัตย์ ฉายา “หล่อรอเสียบ” จุดขายหลักของพรรคประชาธิปัตย์มายาวนานคือเรื่องความหล่อ ทั้งรูปร่างหน้าตาและคำพูดคำจา แต่ลงเลือกตั้งคราวใดมักแพ้ จึงรอเสียบด้วยสารพัดเทคนิควิธี การเล่นการเมืองแบบคาบลูกคาบดอก พรรคภูมิใจไทย ได้ฉายาว่า “ห้อยตกบัลลังก์” เพราะแม้พรรคภูมิใจไทยจะอุดมด้วยกระสุน วาดฝันจะเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้งแต่ได้รับเลือกเพียง 34 คน และต้องตกบันไดไปเป็นฝ่ายค้าน


กองทัพ “อัศวินม้าหงอย” ภายใต้การบริหารของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ กองทัพเปรียบเสมือนม้าที่ได้หญ้าดีน้ำดี มีอัศวินผู้ขี่รู้ใจ ม้าจึงคึกคะนองกระโดดโลดเต้นอยู่เสมอ แต่พอเปลี่ยนเป็นพรรคเพื่อไทยกองทัพเสมือนม้าขาดหญ้าขาดน้ำ ได้อัศวินที่เป็นคู่อาฆาต ต้องอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว


สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฉายา “พระเอกตอนจบ” ช่วงอุทกภัยการถอดชุดเครื่องแบบ เปลี่ยนเป็นเสื้อยืดคอกลมสีขาวสกรีนตัวอักษร “ตำรวจ”กับกางเกงขาสั้น แสดงถึงการเข้าอกเข้าใจ เป็นมิตร ขณะเดียวกันยังมีสำนึกในหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนเป็นที่นิยมชมชอบ กลายเป็นแฟชั่นระบาดไปทั่วเมืองสมกับเป็นพระเอกตอนจบ


ส่วน กทม. (กรุงเทพมหานคร) ฉายา “หม้อไฟต้มยำ” เพราะกทม. กับ ศปภ. ทะเลาะกันแต่ชาวบ้านซวย ส่วนศปภ. (ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย)ได้รับฉายาว่า ศูนย์ปิดบังภัยพิบัติ เพราะปิดบังซ่อนเร้นข้อมูลที่แท้จริง และวาทะแห่งปี “เอาอยู่”


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1324883178&grpid=00&catid=&subcatid=
 


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4884 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 22:00:55 »

เช็กอาการนิคมหลังน้ำลด เจ็บ-หนัก-เบา ตามสภาพที่ตั้ง กลับมาเดินเครื่อง ม.ค. ไม่ถึงครึ่ง
วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 10:00:23 น.
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ (มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 26 ธ.ค.2554)

 
มหาอุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบ 70 ปีที่เกิดขึ้นในประเทศไทยช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา สร้างความสูญเสียให้กับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และภาคธุรกิจมหาศาล เพราะเป็นครั้งแรกที่มวลน้ำขนาดใหญ่บุกทำลายแหล่งการผลิตที่สำคัญในเขตนิคมอุตสาหกรรมถึง 7 แห่ง รวมมูลค่าลงทุนทั้งสิ้นเกือบ 6 แสนล้านบาท กระทบการจ้างงานถึง 3 แสนราย ขณะที่ธนาคารโลกได้ประเมินความเสียหายครั้งนี้สูงถึง 1.42 ล้านล้านบาท

จนถึงวันนี้แม้ว่าจะผ่านพ้นวิกฤตมาแล้ว และกำลังเข้าสู่ช่วงของการฟื้นฟู เพื่อให้ทุกภาคส่วนแข็งแรงและกลับมาทำหน้าที่ได้เหมือนเดิม "มติชน" ได้รวบรวมข้อมูลการฟื้นฟู 7 พื้นที่อุตสาหกรรม มีโรงงานตั้งทั้งหมด 838 โรง คือ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ปทุมธานี มูลค่าลงทุน 585,300 ล้านบาท และโรงงานอุตสาหกรรมนอกพื้นที่ประมาณ 19,000 โรง

รัฐบาลตั้งเป้าหมายว่า เดือนมีนาคม 2555 โรงงานอุตสาหกรรมที่เคยถูกน้ำท่วมตลอดจนอุตสาหกรรมต่อเนื่องทั้งหมดราว 20,000 โรง มูลค่าลงทุน 620,000 ล้านบาท ใน 29 จังหวัดที่ถูกน้ำท่วมจะสามารถกลับมาเดินเครื่อง 100%

ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวจะเป็นไปได้หรือไม่ หรือสภาพโดยรวมยังโคม่า น่าติดตาม...

เริ่มที่นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ซึ่งเป็นแห่งแรกที่ถูกน้ำท่วมวันที่ 4 ตุลาคม มีพื้นที่โครงการรวม 1,441 ไร่ จำนวนโรงงาน 43 โรง จำนวนแรงงาน 15,000 คน และมีมูลค่าลงทุนรวม 19,000 ล้านบาท โดยนิคมสหรัตนนครสูบน้ำออกจากพื้นที่หมดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม แต่ยังไม่มีบริษัทใดเริ่มดำเนินการผลิตได้ เพราะยังอยู่ระหว่างฟื้นฟู ทั้งการทำความสะอาด ซ่อมแซมเครื่องจักรซึ่งต้องใช้เวลา และบางส่วนเลือกที่จะซื้อเครื่องจักรใหม่เพราะคุ้มทุนและประหยัดเวลาได้มากกว่า แถมภาพรวมนิคมยังติดปัญหาเรื่องหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ด้วย

นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานคณะทำงานฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร กล่าวสรุปความคืบหน้าว่า ยังไม่มีรายใดกลับมาผลิตได้และมี 6 โรงงานที่ย้ายไปผลิตโรงงานในเครือที่ตั้งในพื้นที่อื่นๆ เช่น บริษัท เอคโค่ ผลิตรองเท้า นักลงทุนเดนมาร์กถือหุ้น 100% เงินลงทุน 974 ล้านบาท แรงงาน 1,935 คน ย้ายไปผลิตชั่วคราวที่ จ.สระบุรี บริษัท โยเนะเด็น ผลิตสายไฟและอุปกรณ์ นักลงทุนญี่ปุ่นถือหุ้น 100% เงินลงทุน 133 ล้านบาท แรงงาน 519 คน ย้ายไปผลิตชั่วคราวที่สระบุรี รวมถึงบริษัท เอฟ.ที.เอ็น. ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ นักลงทุนญี่ปุ่นถือหุ้น 100% เงินลงทุน 214 ล้านบาท แรงงาน 166 คน ย้ายไปผลิตชั่วคราวที่สระบุรีเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ยังมี 6 รายที่อยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะย้ายหรือไม่ แต่ต้องการรอความชัดเจนจากรัฐบาลก่อน เช่น บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ บริษัท เอคโค่ เทนเนอร์ ผลิตรองเท้าหนัง บริษัท ท็อปไฮเทค ผลิตแม่พิมพ์โลหะ สำหรับความคืบหน้าการสร้างแนวกั้นถาวร อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะใช้วงเงินประมาณ 240 ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2555

ขณะที่เขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ ที่ถูกน้ำท่วมวันที่ 8 ตุลาคม มีพื้นที่โครงการ 10,400 ไร่ จำนวนโรงงาน 245 โรง จำนวนแรงงาน 140,000 คน และมีมูลค่าลงทุนรวม 170,000 ล้านบาท ได้สูบน้ำออกจากพื้นที่หมดวันที่ 28 พฤศจิกายน ปัจจุบันโรงงานทั้งหมด 245 โรง เปิดดำเนินการผลิตบางส่วน 2 โรง เพราะต้องรอการซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภค ทั้งน้ำ ถนน โดยเฉพาะไฟฟ้า เนื่องจากโรงงานไฟฟ้าโรจนะ เพาเวอร์ เสียหายอย่างหนักจากน้ำท่วม ระบบการจ่ายไฟภายในพื้นที่อุตสาหกรรมจึงต้องใช้เวลา

นายประยูร ติ่งทอง อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า โรงงานภายในเขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะจะกลับมาเริ่มผลิตบางส่วนทั้งหมดหลังปีใหม่ จะมีก็เพียงฮอนด้า ที่คาดว่าจะกลับมาเริ่มผลิตในเดือนเมษายน 2555 ถือเป็นข่าวดีที่สามารถกลับมาผลิตได้เร็วกว่าที่คาดการณ์

สำหรับแนวโน้มปิดกิจการ นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในฐานะประธานคณะทำงานฟื้นฟูเขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ ยืนยันว่าไม่มีรายใดปิดกิจการ แต่มี 3 รายที่ย้ายไปลงทุนพื้นที่อื่นๆ ของประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท ซันโย บริษัท มินอิก และบริษัท นูเทค โดย 2 บริษัทหลังเป็นของไต้หวัน ด้านความคืบหน้าการสร้างแนวกั้นถาวรนั้นอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะใช้วงเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2555

นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ถูกน้ำท่วมวันที่ 13 ตุลาคม มีพื้นที่โครงการรวม 2,446 ไร่ จำนวนโรงงาน 143 โรง จำนวนแรงงาน 64,000 คน และมีมูลค่าลงทุนรวม 65,300 ล้านบาท โดยสูบน้ำออกจากพื้นที่หมดวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันมีโรงงานเริ่มกลับมาเปิดการผลิตบางส่วน

นายประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ในฐานะประธานคณะทำงานฟื้นฟูนิคมไฮเทคให้ข้อมูลว่า โรงงานทั้งหมด 143 โรง เปิดดำเนินการบางส่วนแล้ว 15 โรง พนักงาน 3,200 คน เริ่มกลับเข้าทำงาน จำนวนนี้มีบริษัท แคนนอน 1,600 คน และยังไม่มีรายใดปิดกิจการหรือย้ายฐาน แต่มีโรงงานจำนวนหนึ่งย้ายฐานการผลิตชั่วคราว จำนวนนี้มีโรงงาน อาปิโก ไฮเทค บริษัทชิ้นส่วนขนาดใหญ่ที่ป้อนชิ้นส่วนให้กับบริษัทรถยนต์เกือบทุกค่ายในไทย โดยย้ายฐานการผลิตไปโรงงานที่ตั้งใน จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี

นอกจากนั้น ไฮเทคยังมีบริษัทประกันภัยเข้าพื้นที่เพื่อประเมินความเสียหายแล้วประมาณ 40% ส่วนการสร้างแนวกั้นถาวร วงเงินที่ใช้อยู่ที่ 250-300 ล้านบาท แต่อยู่ระหว่างหารือขอสินเชื่อกับธนาคารออมสิน

ด้านนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ถูกน้ำท่วมวันที่ 15 ตุลาคม มีพื้นที่โครงการ 1,962 ไร่ จำนวนโรงงาน 90 โรง จำนวนแรงงาน 35,000 คน และมีมูลค่าลงทุนรวม 60,000 ล้านบาท โดยนิคมได้สูบน้ำออกจากพื้นที่หมดวันที่ 17 พฤศจิกายน ถือเป็นนิคมที่สูบน้ำออกเร็วเพราะเป็นเครือญาติกับบริษัท ช.การช่าง บริษัทก่อสร้างอันดับต้นๆ ของไทย

และจากสายสัมพันธ์ดังกล่าว ตรวจสอบแผนการก่อสร้างแนวกั้นของนิคมบางปะอิน พบว่า มีแนวโน้มเป็นนิคมที่ก่อสร้างแนวกั้นเร็วที่สุด เพราะวางแผนก่อสร้างในเดือนมกราคม 2555 จากความพร้อมด้านวิศวกรรม ประกอบกับควักกระเป๋าลงทุนเองไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท

ส่วนสถานะโรงงานในนิคมบางปะอินพบว่า เริ่มเปิดกิจการบางส่วนแล้ว รวม 15 โรง จากทั้งหมด 90 โรง โดยโรงงานอยู่ระหว่างฟื้นฟูเพื่อกลับมาผลิต แต่ติดปัญหาเรื่องการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศ ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเว้นภาษีนำเข้าเพื่อชดเชยเครื่องจักรเดิมที่ถูกน้ำท่วม เพราะกระทรวงการคลังยังไม่ออกประกาศในรายละเอียด

สำหรับเขตประกอบการอุตสาหกรรมแฟคตอรี่แลนด์ วังน้อย ถูกน้ำท่วมวันที่ 16 ตุลาคม มีพื้นที่โครงการรวม 130 ไร่ โรงงาน 99 โรง แรงงาน 8,500 คน และมีมูลค่าการลงทุนรวม 11,000 ล้านบาท สูบน้ำออกจากพื้นที่หมดเดือนพฤศจิกายน และเป็นอีกแห่งที่สูบน้ำเสร็จเร็วที่สุด เพราะพื้นที่ไม่เยอะประกอบกับโรงงานเป็นขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) การฟื้นฟูจึงทำได้ง่าย และโรงงานยังเป็นลักษณะห้องแถว 2 ชั้น เครื่องจักรไม่ได้ถูกน้ำท่วม เพราะย้ายหนีทัน ปัจจุบันทั้ง 99 โรงจึงกับมาผลิต คาดว่าจะผลิต 100% ทุกโรงงานภายในเดือนมกราคมแน่นอน

สำหรับแนวกั้น นายชัยยง กฤตผลชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ในฐานะประธานคณะทำงานฟื้นฟูเขตประกอบการอุตสาหกรรมแฟคตอรี่แลนด์ วังน้อย กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างพิจารณาของผู้พัฒนาพื้นที่และโรงงาน แต่การสร้างจะทำเพียงทิศเหนือกับใต้ เพราะตะวันออกและตะวันตกมีกำแพงสูงกั้นน้ำอยู่แล้ว วงเงินที่ใช้ไม่เกิน 10 ล้านบาท

สวนอุตสาหกรรมนวนคร ถูกน้ำท่วมวันที่ 17 ตุลาคม มีพื้นที่โครงการรวม 6,500 ไร่ โรงงาน 227 โรง จำนวนแรงงาน 170,000 คน มีมูลค่าลงทุนรวม 200,000 ล้านบาท ได้สูบน้ำออกจากพื้นที่หมดวันที่ 9 ธันวาคม

นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการบริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันมีโรงงานกลับมาผลิตแล้ว 30 โรง จากทั้งหมด 227 โรง และในจำนวนที่กลับมาผลิต มีมากกว่า 10 โรง ที่สามารถผลิตได้เต็มความสามารถ 100%

ผู้บริหารของนวนครยืนยันว่ายังไม่มีโรงงานใดย้ายฐานการผลิต แต่อยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะย้ายฐานการผลิตไปพื้นที่อื่นที่ไม่เสี่ยงถูกน้ำท่วมหรือไม่ เพราะจากการหารือร่วมกับทุกโรงงานพบว่า ต่างตั้งคำถามถึงความชัดเจนของรัฐบาล ซึ่งสิ่งที่นวนครพยายามทำคือการสร้างแนวกั้นถาวร ป้องกันปัญหาน้ำท่วมในครั้งต่อไป และหวังว่าจะช่วยกันนักลงทุนไม่ให้หนี แต่แนวกั้นยังติดปัญหาเรื่องหลักเกณฑ์การค้ำประกัน เพราะต้องการสินเชื่อจากธนาคารออมสินมากกว่า 600 ล้านบาท จึงอยู่ระหว่างเจรจากับรัฐบาล โดยเสนอให้รัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกันแทนโรงงานในพื้นที่อุตสาหกรรม

ส่วนสวนอุตสาหกรรมบางกะดี เป็นแห่งสุดท้ายที่ถูกน้ำท่วมวันที่ 20 ตุลาคม มีพื้นที่โครงการรวม 1,222 ไร่ โรงงาน 44 โรง แรงงาน 30,000 คน มีมูลค่าลงทุนรวม 60,000 ล้านบาท โดยได้สูบน้ำออกจากพื้นที่หมดวันที่ 3 ธันวาคม โดยนายกนิษฐ์ เมืองกระจ่าง รองประธานบริษัท ไทยโตชิบาอุตสาหกรรม ในฐานะผู้จัดการสวนอุตสาหกรรมบางกะดี ระบุว่า ฐานะโรงงานทั้ง 44 โรง ครึ่งหนึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ อีกครึ่งเป็นบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยโรงงานเอสเอ็มอีเริ่มเดินหน้าประมาณ 20 โรงแล้ว และเดินเครื่อง 100% ไม่ถึง 10 โรง

ทั้งนี้ จากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงทำให้มีบริษัทเอสเอ็มอี 2 แห่งต้องปิดกิจการลง โรงงานแรกถูกน้ำท่วมพร้อมกับโรงงานในเครือ จึงต้องปิดกิจการลงชั่วคราวเพื่อรอให้สถานการณ์บริษัทดีขึ้น อีกโรงไม่มีประกันจึงต้องปิดตัวลงชั่วคราว ส่วนความคืบหน้าการลงทุนสร้างแนวกั้นถาวร คาดว่าจะใช้วงเงินประมาณ 300 ล้านบาท แต่ยังติดเงื่อนไขเรื่องการกู้ธนาคารออมสิน แต่จะหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้

สำหรับโรงงานนอกพื้นที่อุตสาหกรรม สำรวจพบว่ากว่า 99% เป็นโรงงานขนาดเล็ก และส่วนใหญ่ฟื้นตัวเร็ว สามารถกลับมาประกอบกิจการได้แล้ว

ทั้งหมดเป็นสถานการณ์ล่าสุดที่ "มติชน" รวบรวมไว้!!

 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1324866282&grpid=01&catid=&subcatid=
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4885 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2554, 23:22:31 »

ภาพคลื่นสูงประทะฝั่งที่นครศรีธรรมราช เมื่อวานนี้ (25 ธ.ค. 54)

คลื่นยักษ์สูงหลายเมตรเข้าถล่มหลายพื้นที่ในจังหวัดภาคใต้

       โดยถนนบริเวณ ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช คลื่นซัดสูงถึงเสาไฟฟ้าจนทำให้ต้องมีการตัดไฟเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน



http://www.thaipost.net/node/50186
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4886 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 11:32:22 »

สวัสดี ในวันอังคารที่ 27 ธันวาคม ครับ
จากบรรดา"ฉายา" ต่างๆ ที่สื่อมวลชนตั้งให้ สะท้อนออกมาเป็นความเห็นในบทบรรณาธิการของไทยโพสต์

ฉายารัฐบาล สะท้อนประเทศไทย
บทบรรณาธิการ                                                                                                                 27 ธันวาคม 2554 - 00:00

      ก่อนสิ้นปีหากไม่มีเหตุสุดวิสัย นักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลจะร่วมกันตั้งฉายารัฐบาลกัน สังคมนักข่าวก็เหมือนสังคมทั่วไป ชอบไม่เหมือนกัน และเกลียดก็ไม่เหมือนกัน แต่ก็หลอมรวมด้วยเสียงส่วนใหญ่ ให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้ฉายา "ทักษิณส่วนหน้า"
     คำอธิบายสั้นๆ ถึงที่มาของ "ทักษิณส่วนหน้า" คือ การบริหารงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่สามารถสลัดภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่เบื้องหลังได้ จนรัฐบาลชุดนี้เปรียบเหมือนศูนย์บัญชาการส่วนหน้าของตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องทำตามสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ คิดและวางไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายประชานิยมที่ชูสโลแกน “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” หรือในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ผู้ที่มีสิทธิได้ตำแหน่ง ต่างเดินทางไปถึงดูไบ เพื่อแสดงวิสัยทัศน์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้ไปกรุยทางให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก่อนการเดินทางไปเยือนประเทศต่างๆ นอกเหนือไปจากการการันตีว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ โคลนนิงของตัวเอง
    ก็คือถือตรงประเด็น แต่มีอีกสิ่งที่ซ่อนอยู่ และในศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์แล้ว ถือเป็นเรื่องใหญ่ นั่นคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลบอยู่หลังน้องสาวตัวเอง ใช้น้องสาวซึ่งมีความรู้ความสามารถที่จำกัดจำเขี่ย เดินนำหน้ารับคมมีดคมหอกแทน 
    เมื่อก่อนมีคำพูดที่ว่า "นายกรัฐมนตรีเป็นได้ไม่ยาก" เพราะขนาดนายบรรหาร ศิลปอาชา ยังเป็นได้ มาวันนี้ยิ่งไม่ยากใหญ่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่เคยเล่นการเมืองมาเลย ก็ยังเป็นได้ ต่อไปใครๆ ก็เป็นได้ถ้ามีทุนพอ ถึงวันนั้นคงไม่ต้องต้องคำถามว่า ประเทศไทยฉิบหายเพราะใคร
    ข้อดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีอยู่ และคงหาใครคัดค้านยาก นั่นคือการแต่งตัวที่ดูดีอยู่เสมอ เธอเหมาะที่จะเป็นผู้นำแฟชั่นของผู้หญิงวัยทำงาน แต่ต้องมีฐานะดีพอสมควรจึงจะเลียนแบบได้ ฉะนั้น ความโดดเด่นทางการเมือง จึงเป็นจุดบกพร่องที่คงแก้ไขอะไรไม่ได้ ฉายา "นายกฯ นกแก้ว" ก็เหมาะเอาเรื่องทีเดียว  ภาพกางโพยที่ฟ้องทางทีวี ระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าพบ อองซาน ซูจี ทำให้ฉายา "นายกฯ นกแก้ว" เป็นจริงเป็นจังขึ้นมา
    นั่นคือภาพสะท้อนประเทศไทย ที่ดูไม่ดีเอาเลย แต่ก็ยากที่จะไปแก้ไขอะไรเพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาตามกติกา ถ้าจะให้ไปก็ต้องไปตามกติกา คนที่เกลียดต้องยอมรับในข้อนี้ ที่เรียกหาปฏิวัติรัฐประหาร ขอให้ไปคิดใหม่ เพราะนั่นคือการหลงผิด ถ้าคิดในแง่ประเทศไทยหลงผิดเลือก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นนายกรัฐมนตรี การยอมรับปฏิวัติรัฐประหารก็คือความหลงผิดที่มีผลลัพธ์เกือบจะเท่ากัน
    3-4 เดือนที่ผ่านมา ผลของการบริหารประเทศโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลายสิ่งอาจจะยังไม่ชัด แต่ที่ชัดเจนและสอบตกอย่างสิ้นเชิงคือ การรับมือมหาอุทกภัย ที่สร้างความเสียหายเกินขอบเขตที่ยอมรับได้ ความไร้ประสบการณ์ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปด้วยความยุ่งยาก การตัดสินใจที่ไม่ถูกต้องและเฉียบขาด ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เกินกว่าความเดือดร้อนจากน้ำท่วมโดยธรรมชาติ
    เมื่อมองไปปีหน้า มีสิ่งท้าทายรอรัฐบาลอ่อนประสบการณ์อยู่อีกมากมายโดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งไม่แน่ใจว่า ณ เวลาปัจจุบันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประเมินสถานการณ์ที่จะเกิดในปีหน้าออกหรือไม่ หรือต้องรอรับคำสั่งอย่างเดียว วิกฤติเศรษฐกิจโลกเหมือนฝีที่สุกงอมเต็มที่รอวันแตก เที่ยวนี้ถ้ารัฐบาล "เอาไม่อยู่"  ทักษิณอาจเสียแค่นกแก้วไปตัวหนึ่ง แต่คนไทยต้องล้มกันถ้วนหน้า. 

 
http://www.thaipost.net/news/271211/50217
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4887 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 12:08:39 »

การเก็บกู้ หลังน้ำท่วมยังไม่ยุตินะครับ เพราะยังวางใจไม่ได้
อุปกรณ์ต่างๆ จึงยังอยู่ประจำจุด เช่น ไดร์โว่ เนื่องจากน้ำในทุ่งยังเต็มพื้นที่ที่เป็นนาอยู่
เฉพาะส่วนที่มั่นใจถึงเก็บเข้ากล่อง






หมายเหตุ; วันนี้เก็บเพิ่มอีก 3 ตัว โดยยังสำรองประจำจุดไว้ 2 ตัว
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4888 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 12:10:44 »

ในส่วนการก่อสร้าง เพื่อเสริมแนวรั้วเป็นคอนกรีต ยังดำเนินการต่อครับ เพื่อความไำม่ประมาท





      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4889 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 12:14:08 »

1





      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4890 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 12:19:32 »

2









      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4891 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 12:21:26 »

3





      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4892 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 12:23:24 »

4
มองออกไปนอกรั้ว อาคารของบ้านที่อยู่ติดกัน สังเกตุระดับน้ำที่ท่วมครับ




      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4893 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 12:32:31 »

"ผู้มีจิตอาสา" - บุคคลแห่งปี ของไทยโพสต์


บุคคลแห่งปี 2011
ท่านขุนน้อย                                                                                                                     27 ธันวาคม 2554 - 00:00

      ต้องถือว่าเป็นอะไรที่เข้าท่าเอามากๆ ที่หนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ ฉบับวันวาน...ได้ยกตำแหน่ง บุคคลแห่งปี 2011 ให้กับบรรดาผู้ซึ่งเรียกขานกันว่าพวก จิตอาสา ในช่วงที่เกิดภัยพิบัติน้ำท่วมประเทศไทย เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพราะถ้าหากไม่มีการแสดงออกถึงน้ำจิตน้ำใจของบรรดาผู้คนเหล่านี้ ประเทศไทยทั้งประเทศ...คงแทบไม่เหลืออะไรให้น่ารัก น่าหวัง อีกต่อไป หรือต้อง หมดแล้ว...ประเทศไทย ไปตามเวร ตามกรรม...
                              -----------------------------------------------------------
      พูดง่ายๆ ว่า...ถึงบ้านเมืองจะตกอยู่ในสภาพทรุดโทรม เสื่อมทราม สับปะรังเคกันอย่างไรก็ตาม แต่การแสดงออกของบรรดาผู้ที่มี จิตอาสา ทั้งหลายในคราวนี้ อย่างน้อยก็พอได้ช่วย จุดประกาย ให้เห็นถึงความหวังต่อความดีงาม ซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่มิใช่น้อย แม้ว่าจะเหลืออยู่ในหมู่ผู้ที่เป็นแค่ปุถุชนคนธรรมดา ไม่ได้มีอำนาจบทบาทใดๆ ในทางการเมือง การบริหาร อย่างเช่น นักการเมือง หรือข้าราชการประจำ ซึ่งค่อนข้างมีแนวโน้มออกไปทาง ห่วยแตก ด้วยกันทั้งสิ้น ยกเว้นบางจุด บางหน่วย อย่างเช่นข้าราชการทหาร ซึ่งอาจต้องถือเป็นส่วนหนึ่งของพวก จิตอาสา ไปโดยปริยาย เนื่องจากนอกเหนือจากการทำหน้าที่ตามคำสั่ง ตามการบังคับบัญชาแล้ว  ยังได้แสดงให้เห็นถึง น้ำจิตน้ำใจ ที่สะอาด บริสุทธิ์ ไม่ต่างไปจากพวกจิตอาสา แต่ละรายอย่างเห็นได้ชัด...
                             -----------------------------------------------------------
      ท่ามกลาง ความเห็นแก่ตัว หรือ ความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและพรรคพวก กำลังครอบงำสังคมทั้งสังคม ในแทบทุกระดับ โดยเฉพาะในหมู่นักการเมืองและข้าราชการประจำ จนทำให้ประเทศทั้งประเทศวนไป-วนมา อยู่กับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง แต่ถูกทำให้เป็นเรื่องขึ้นมาจนได้ เกือบจะ 5 ปี 6 ปีเข้าไปแล้ว ก็ยังคงไม่คิดจะไปไหน ชนิดใครต่อใคร ต่างเอือมระอากันสุดๆ การหาทางออก หรือ ทางลง ให้กับประเทศ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ อันที่จริงแล้ว...มันไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก ซับซ้อน ลำบากยากเย็น อะไรมากมายเลย ไม่ต้องไปเสียเวลาพลิกตัวบทกฎหมาย แยกแยะ ตีความ ความเป็นนิติรัฐ-นิติเรด อะไรให้เมื่อย เพียงแค่แต่ละกลุ่ม แต่ละฝ่าย ช่วยกันทำในสิ่งซึ่งอาจไม่ได้เขียนไว้ในตัวบทกฎหมาย แต่ละวรรค แต่ละมาตรา แต่เป็น กฎธรรมชาติ ในการ ดำรงอยู่ร่วมกันโดยสันติ ของผู้คนทั้งหลาย นั่นคือ ช่วยๆ กันลด ความเห็นแก่ตัว หรือ ความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและพรรคพวก ลงไปบ้าง แม้แต่เพียงเล็กๆน้อยๆ บ้านเมืองก็ไปรอด และอยู่ได้สบายๆ ไม่ต้องมาปวดเศียร เวียนเกล้าเหมือนเช่นทุกวันนี้...
                            -------------------------------------------------------
      เพราะถ้าหากมองไปถึงการแสดงออกของบรรดาผู้ที่มี จิตอาสา ทั้งหลาย มันก็ไม่ได้มี กฎหมาย ใดๆ เลย ที่เขียนบังคับเอาไว้ ให้ผู้คนเหล่านี้ต้องออกมาช่วยเหลือ เฟือฟาย เยียวยา ซับน้ำตาผู้อื่น แต่ด้วยกฎทางธรรมชาติ หรือโดยความรู้สึกพื้นฐานทางธรรมชาติ ที่ ธรรมชาติ หรือ พระผู้เป็นเจ้า มอบไว้ให้ติดตัวกับผู้ซึ่งเกิดมาเป็น มนุษย์ ทั้งหลายนั่นเอง แม้จะเหนื่อยยากลำบาก เพียงใดก็ตาม หรือแม้กระทั่งไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ ที่เป็นวัตถุ สิ่งของ เป็นตำแหน่ง อำนาจ เกียรติยศ บารมี แต่บรรดาบุคคลเหล่านี้ ก็พร้อมจะแสดงออกให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างมนุษย์ กับสัตว์เดียรัจฉานโดยทั่วไป ด้วยการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง โดยไม่ได้คำนึงถึงผลตอบแทน นอกซะจาก ความสุขทางใจ อันเป็นความรู้สึกพื้นฐาน ที่ธรรมชาติท่านมอบให้ติดตัวมากับมนุษย์ แต่ละรายนั่นแล...
                              ---------------------------------------------------------
      เพียงแค่นักการเมือง ข้าราชการ นักวิชาการ ปัญญาชน สื่อมวลชน อาจารย์และอาเจียนทั้งหลาย ฯลฯ พยายามที่จะทำความ เข้าใจ และ เข้าถึง ความรู้สึกเหล่านี้ ลด ละ ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ สลายความคิดต่างๆ ที่มักจะมีตัวของตัวเอง หรือ ตัวกู-ของกู เป็นที่ตั้ง จนมองเห็นผู้อื่น ที่แม้มีความเห็นแตกต่างไปจากตัว เป็น เพื่อนมนุษย์ ด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นอำมาตย์ หรือไพร่ เป็นสีเหลือง หรือสีแดง เป็นฝ่ายมัน หรือฝ่ายเรา แล้วหันไปมองถึง ผลประโยชน์ส่วนรวม หรือ ผลประโยชน์ชาติบ้านเมือง เป็นที่ตั้ง อย่างน้อยที่สุด...การทะเลาะ เบาะแว้ง อันมีที่มาจาก ผลประโยชน์ของคนคนเดียว มันคงไม่ก่อให้เกิดความปวดเศียร เวียนเกล้า สร้างความเลวร้าย ให้กับชาติบ้านเมือง ชนิดไม่ไปไหน หรือ ไปไม่เป็น อยู่จนตราบเท่าทุกวันนี้...
                              --------------------------------------------------------
      เรียกว่า...เพียงแค่นำเอาความรู้สึกเล็กๆ น้อยๆ อย่างที่พวก จิตอาสา มีต่อผู้อื่น ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม มาใช้แทนที่ความรู้สึกที่วนไป-วนมา อยู่กับพวกมึง หรือพวกกู พวกไพร่ หรือพวกอำมาตย์ ความสุข ความสงบ และความมีสันติภาพ มันย่อมมีโอกาสที่จะหวนกลับคืนมาสู่สังคมไทยอีกครั้งได้ไม่ยาก แต่ถ้าหากยังเลอะเทอะ หลงใหลไปกับความเป็นตัวกู-ของกู พวกกู ฝ่ายกู ประเภทติดป้ายหราว่า รถคันนี้ใช้ในกิจการไพร่เท่านั้น หรือต้องให้ใส่เสื้อแดง ก่อนที่จะมาเป็นจิตอาสา อันนั้น...มีแต่จะนำมาซึ่งความทุกข์ ความเดือดร้อน วุ่นวาย ความพินาศฉิบหาย ไม่ว่าต่อตัวเอง และผู้อื่นหนักขึ้นไปอีก เพราะมันก็คือ ความเห็นแก่ตัว หรือ ความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและพรรคพวก ที่ก่อให้เกิดการทำร้าย ทำลายชาติบ้านเมือง เพียงเพื่อผลประโยชน์ของคนคนเดียว มาโดยตลอดนั่นเอง...
                           ---------------------------------------------------------------
      เสียดาย...ที่ความรู้สึกแบบพวก จิตอาสา แท้ๆ นั้น มันไม่ได้มี การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทั้งๆ ที่มันน่าจะเป็นความรู้สึกพื้นฐาน เอาไว้รองรับสิ่งที่เรียกว่า การเมือง นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นก็ว่าได้ การเมืองที่มุ่งไปสู่การรับใช้ และตอบสนองผลประโยชน์ของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม การเมืองที่มุ่งไปสู่การเสียสละโดยไม่ได้หวังผลตอบแทน การเมืองที่ช่วยยกระดับคุณค่าความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่การเมืองซึ่งพยายามฉุดกระชากลากมนุษย์ไปสู่ความเป็นสัตว์เดียรัจฉาน...แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ท่ามกลางความตกต่ำของสิ่งที่เรียกว่า การเมือง อันทำให้สังคมและประเทศไทยเสื่อมโทรม ทรุดโทรม ใกล้จะสิ้นชาติ สิ้นความเป็นมนุษย์ลงไปทุกที อย่างน้อยที่สุด...ด้วยการ จุดประกาย ของพวก จิตอาสา ขึ้นมาในครั้งนี้ ยังพอช่วยทำให้ใครต่อใคร เกิดความหวัง มองเห็น ทางออก หรือ ทางรอด ของสังคมไทยและประเทศไทย ในอนาคตได้บ้าง แม้ว่าทางที่ว่านี้ อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า การเมือง แต่หนักไปทางสิ่งที่เรียกว่า ศีลธรรม หรือ  คุณธรรม ล้วนๆ...
                          -------------------------------------------------------------
      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก เพลโต...คุณธรรมมิได้เกิดจากอำนาจ หรือทรัพย์สินศฤงคาร คุณงามความดีของมนุษย์ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นส่วนตัวหรือสาธารณะ ล้วนมีกำเนิดมาจากคุณธรรม...



      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4894 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 12:42:25 »

อุตุนิยมวิทยาแจ้ง ภาคเหนืออากาศยังหนาวเย็นและมีหมอกในตอนเช้า
ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย คลื่นลมยังแรงและมีฝนตก เรือเล็กต้องระมัดระวัง


                                               พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2554
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคง
มีกำลังค่อนข้างแรงทำให้อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไปมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน
อนึ่ง พายุไซโคลน “เธน”(06B) บริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง จะเคลื่อนตัวผ่านบริเวณทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย ในช่วงวันที่ 30-31 ธ.ค. นี้ ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ  อากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศา อุณหภูมิสูงสุด 24-27 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศา อุณหภูมิสูงสุด 25-29 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-29 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-13 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก  อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป: มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 20-21 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 


ออกประกาศ : 27 ธันวาคม 2554 12:00
 
 

      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #4895 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 15:43:40 »

น้องเหยง ไม่ประมาท
 ก่อต่อไปกันไว้ก่อนดีแล้วค่ะ
 อีกไม่กี่เดือนนี้
เห็นเขาว่ากันว่า
 จะมาอีก
ไม่รู้จริงหรือเปล่า
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4896 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 17:24:44 »

สวัสดีครับ พี่'อร

ของที่ซื้อมาเพื่อใช้กันน้ำท่วม ยังมีเหลือ ปล่อยไว้ก็จะหมดอายุการใช้งาน อาทิ ผงซีเมนต์กว่า 130 ถุง
เหล็กเส้น ทราบที่เหลือ หินเล็ก เลยตัดสินใจ ก่อสร้างต่อครับ อย่างน้อยก็มั่นใจได้ในเรื่องความแข็งแรง
แม้จะอีกหลายปีที่จะเกิดเรื่องแบบนี้อีก

ผมไม่ค่อยจะเชื่อว่า ปี 2555 น้ำจะท่วมแบบนี้อีก
เพราะหากเป็นจริง คนไทยคงย่ำแย่ไปตามๆ กันครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4897 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 17:28:13 »

ปภ.ประกาศพื้นที่ประสบภัยหนาวแล้ว 23 จังหวัด
27 ธันวาคม 2554 15:44 น.

 
          นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(ภัยหนาว) 23 จังหวัด 221 อำเภอ 1,757 ตำบล 20,311 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 12 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก น่าน ตาก พะเยา ลำปาง ลำพูน และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร เลย หนองคาย นครพนม อุบลราชธานี มหาสารคาม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ และบุรีรัมย์ ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี และราชบุรี
        ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยหนาวสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

      
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000165038
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4898 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 17:57:02 »

พยากรณ์อากาศช่วง 16.00 น. คงใกล้เคียงกับเมื่อช่วงเที่ยงครับ

                                                พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2554
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 16:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังค่อนข้างแรงทำให้อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไปมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน
อนึ่ง พายุไซโคลน “เธน”(06B) บริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง จะเคลื่อนตัวผ่านบริเวณทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย ในช่วงวันที่ 29-30 ธ.ค. นี้ ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย 

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4899 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 21:42:05 »

ได้พูดเรื่องการเข้าโครงการชะลอการเลิกจ้างแรงงานกับ สนง.สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ค้างไว้ครับ
อยู่ในโบว์ชัวร์ ข้อ 9 ครับ




      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 194 195 [196] 197 198 ... 472   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><