24 พฤศจิกายน 2567, 11:43:43
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 176 177 [178] 179 180 ... 472   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ  (อ่าน 2611297 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 9 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4425 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 21:05:54 »

น้ำท่วมส่งผลให้ต้นฝรั่งตายยกสวนไปหลายสวน ซึ่งการปลูกเพื่อให้ผลฝรั่งจะต้องใช้เวลาถึง 2 ปี
ทั้งนี้ยังมีต้นไม้อื่นๆ อาทิ มะม่วง ขนุน ฯ ที่ยืนต้นสำลักน้ำจายไปด้วย










      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4426 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 21:15:42 »

ฟังเรื่องดีๆ ก่อนครับ.........................


คำให้การของ "ลูกประดู่" กลางสมรภูมิอุทกภัย
วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เวลา 14:00:54 น.

โดย น.อ.วิพันธุ์ ชมะโชติ

วันที่ 20 พฤศจิกายน เมื่อ 105 ปีที่แล้ว เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหา กรุณาธิคุณ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ เป็นการก่อกำเนิดอย่างเป็นทางการของการทหารเรือไทยตามแบบตะวันตก และวิวัฒนาการจนกระทั่งมีความเข้มแข็งและทันสมัยเช่นปัจจุบัน

"20 พฤศจิกายน จึงถือเป็นวันกองทัพเรือ"[/color]

น้ำท่วมปีนี้ เหล่าลูกประดู่ต่างได้ประสบการณ์และความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนจากสมรภูมิอุทกภัย หลังจากได้ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน

"กำลังพลชุดแรกที่เข้ามาต้องทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด ทุกคนเหนื่อยหนักอ่อนล้า แต่ทิ้งชาวบ้านไม่ได้" เป็นคำกล่าวของ นาวาเอก อารักษ์ แก้วเอี่ยม รองผู้บัญชา การกองเรือลำน้ำ ผู้ลงพื้นที่จังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน และปักหลักเพื่อปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่อง

หลังจากภารกิจกู้วัดไชยวัฒนาราม จึงเริ่มภารกิจอพยพประชาชนออกจากเกาะเมืองและโรงพยาบาลพระนครศรี อยุธยา ตลอดจนตระเวนสำรวจพื้นที่เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดค้างในจุดต่างๆ พร้อมทั้งนำสิ่งของยังชีพไปแจกจ่าย เสมือนภารกิจที่ไม่มีวันสิ้นสุด

นาวาโท ใจเพชร ทองด้วง ผู้บังคับกองพันต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 11 ซึ่งนำกำลังพล 101 นาย พร้อมด้วยยวดยาน 12 คัน ออกเดินทางจากกรมรักษาฝั่งที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มุ่งหน้าสู่กรุงเก่าในห้วงวิกฤตสุดสุด ย้อนเรื่องราววันแรกที่ได้ลง พื้นที่กอบกู้กรุงเก่าท่ามกลางสมรภูมิน้ำ ว่าพื้นที่ตำบลหัวรอ วันนั้นเป็นผืนน้ำกว้างสุดลูกหูลูกตาที่ค่อยๆ เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง จนเหลือเพียงหลังคาให้เห็น ชาวบ้านที่นั่นมีทั้งคนพิการ คนชรา และเด็ก บางรายเป็นลมหมดสติจนต้องอุ้มออกมา ซึ่งภารกิจนี้ดำเนินไปจนถึงรุ่งเช้า

"เชื่อว่าไม่มีใครลืมเหตุการณ์สุดทรหดของการลงพื้นที่ 12 แห่ง ของ 4 จังหวัด คือ ลพบุรี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ระหว่างวันที่ 5-21 ตุลาคม ตลอด 16 วันนั้นได้เลย"

ด้าน นาวาโทหญิง พรทิพย์ เฑียรกุล รองผู้อำนวยการโรงเรียนช่างกรมอู่ทหารเรือ อาสาสมัครหญิงแนวหน้ากลางกระแสอุทกภัย เล่าว่า ก่อนเดินทางจะกำหนดพื้นที่เป้าหมายและติดต่อกับผู้ประสบภัยว่าต้องการอะไรบ้าง ระหว่างลงพื้นที่แจกของแล้วยังมีการพูดคุยให้กำลังใจ โดยไม่ถามว่าลำบากไหมหรือน้ำท่วมมากี่วัน แต่ชวนคุยเรื่องอื่นๆ เพื่อให้ชาวบ้านลืมความทุกข์ยากขณะที่อยู่กับเรา หลังลงพื้นที่ก็สอบถามข่าวคราวกับผู้นำชุมชนเป็นระยะด้วย

ขณะที่หลายพื้นที่น้ำท่วมสูงจนรถเล็กสัญจรไม่ได้ รถทหารจึงเป็นพาหนะที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง

จ่าเอก จินวัตร มุ่งเจริญ พลขับของกองทัพเรือ พารถจีเอ็มซีคู่ใจตระเวนพื้นที่น้ำท่วมทั้งสิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร ที่บางพลัด อรุณอมรินทร์ ตลิ่งชัน และศาลายา เล่าว่า ระหว่างที่น้ำท่วมต้องนอนที่โรงรถตลอด รุ่งเช้าก็ขับรถไปยังพื้นที่ที่ผู้บังคับบัญชาสั่งการเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน แต่อุปสรรคอยู่ตรงที่หากน้ำท่วมสูงเกิน 1 เมตร จนท่วมท่อไอเสีย ก็ต้องจอดรถทิ้งไว้แล้วใช้เรือเล็กที่ติดมากับเรือบรรทุกสิ่งของไปแจกจ่ายและอพยพชาวบ้านออกมา หากมีภารกิจในเมืองก็ต้องดูสองข้างทางว่ามีชาวบ้านโบกมือเรียกหรือไม่ แต่บางจุดขับรถเข้าไม่ได้เพราะน้ำสูงมากก็ตะโกนขอโทษ ชาวบ้านบางคนก็เข้าใจว่าอาจทำให้รถดับได้

"การขับรถลงพื้นที่น้ำท่วมมีเทคนิคหลายอย่าง เช่น เมื่อมีรถใหญ่แล่นอยู่ข้างหน้า ต้องขับติดตามระยะตามที่รถใหญ่แหวกน้ำให้ หรือก่อนเข้าไปรับผู้อพยพต้องแน่ใจก่อนว่ารถสามารถแล่นได้อย่างปลอดภัย เพราะเคยไปที่ลาดหลุมแก้วแถวโรงถ่ายของกันตนา น้ำสูงจนท่วมไฟหน้าแต่ยังโชคดีได้กลับออกมาได้"

พลขับกองทัพเรือรายนี้เล่าว่า ขับรถทุกวัน วันละหลายชั่วโมง บางคืนได้นอน 3-4 ชั่วโมง จึงทั้งเครียดทั้งเหนื่อย ต้องตื่นมาทำงานตั้งแต่เช้ามืด แต่การช่วยเหลือผู้ประสบภัยนี้กลับรู้สึกภูมิใจ เหมือนได้ทำบุญ เพราะพลขับเสมือนหัวใจของความสำเร็จ หากไม่มีพลขับก็ไม่มีทางไปถึงชาวบ้านได้

ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยวกราก หนึ่งชีวิตถือกำเนิดขึ้นมาบนเรือยางของกองทัพเรือ

พันจ่าเอก แมน สมน้อย และ พันจ่าเอก จิรายุ โพธิ์ศรีทอง เล่าถึงเหตุการณ์เมื่อ 15 ตุลาคม ว่า หลังจากทราบว่า นางรัตนา ทัศนวดี เจ็บท้องใกล้คลอด จึงส่งเรือยางหมายเลข 63 ไปช่วยเหลือ ก่อนที่นางรัตนาถึงมือแพทย์ นางรัตนาได้คลอดทารกเพศชายน้ำหนัก 3,000 กรัม ออกมาด้วยฝีมือการทำคลอดครั้งแรกของลูกประดู่บนเรือยางลำนั้น แม้จะตื่นเต้นมากเพียงใดแต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้เรียบร้อย ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก

ลูกประดู่อีกคน คือ นาวาโท จุฑา สยณานนท์ รองผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาอาชีพช่าง กรมอู่ทหารเรือ อาสาสมัครช่วยผู้ประสบอุทกภัยกองทัพเรือ เล่าว่า ผู้ประสบภัยในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด คือคนกรุงเทพฯหลายพื้นที่รอคอยความช่วยเหลือ ทั้งยังต้องตามใจทุกอย่าง ต่างกับคนต่างจังหวัดที่พยายามช่วยเหลือตัวเองก่อนและมีทีท่าซาบซึ้งเมื่อได้รับความช่วยเหลือ แต่เนื่องจากมีผู้ประสบภัยจำนวนมากจึงเน้นช่วยเหลือเด็กและคนชราเป็นอันดับแรก

ด้านหัวหน้าชุดเฝ้าระวังโรงพยาบาลศิริราช นาวาตรี แทน ทองรักแก้ว เล่าว่า กำลังพลต้องมาเวลาน้ำขึ้นสูงสุด 2 ชั่วโมง ส่วนที่เฝ้าระวังใน โรงพยาบาลมี 25 นาย โดยนอนค้างที่คณะพยาบาลศาสตร์ เพื่อสามารถทำงานได้ทันท่วงที ก่อนกำลังเสริมมาใน 15 นาทีให้หลัง นอกจากจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนแล้วยังเป็นโอกาสได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดสำหรับชีวิต

นอกจากการช่วยเหลือประชาชนแล้ว กองทัพเรือยังส่งกำลังพลเข้ากู้ภัยนิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วม ถือเป็นการกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว หนึ่งในกำลังพลที่เข้าให้ความช่วยเหลือ คือ จ่าเอก พิเนตร วนันโท ประจำชุดปฏิบัติการที่ 2 กองรบพิเศษที่ 2 กรมรบพิเศษที่ 1 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ

จ่าเอก พิเนตรเล่าด้วยความภูมิใจว่า ได้เป็นส่วนหนึ่งของการกอบกู้โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ เห็นว่าเครื่องจักรหนึ่งเครื่องสามารถหล่อเลี้ยงคนงานและครอบครัวได้นับร้อย หากโรงงานเปิดดำเนินการได้เร็ว คนงานเหล่านั้นก็เหมือนกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง

ทั้งนี้ ยังมีหลายพื้นที่ที่ความช่วยเหลือเข้าไม่ถึงเพราะอุปสรรคจากกระแสน้ำและสภาพภูมิประ เทศ แต่หลังจากที่ นาวาเอก อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บังคับการกรมรบพิเศษที่ 1 พร้อมด้วยกำลังพลจากหน่วยทำลายใต้น้ำจู่โจมหรือซีลทีมรวม 27 นาย เดินทางถึงพระนครศรีอยุธยา ก็ได้ใช้ศักยภาพของหน่วย เจาะผ่านพื้นที่ซึ่งหน่วยปกติเข้าไม่ถึง บางจุดต้องว่ายน้ำเข้าไป ฝ่าฟันอุปสรรคจนสามารถช่วยเหลือชาวบ้าน

"แม้ทหารหลายคนจะอยู่ในฐานะผู้ประสบภัย แต่ด้วยความมุ่งมั่นสืบสานภารกิจของทหารเรือ"

"จึงไม่คิดทอดทิ้งประชาชนและพร้อมอยู่เคียงข้างคนไทยเสมอ"

หน้า 17,มติชนรายวัน ฉบับวันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2554


 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1321592608&grpid=&catid=03&subcatid=0305
      บันทึกการเข้า
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #4427 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 21:16:47 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2554, 20:58:18
ระดับน้ำที่ลดลง 293 ซ.ม. นั้น นครสวรรค์ยังคงมีน้ำท่วมให้เห็นอยู่ครับ
แสดงถึงหางน้ำยังคงมีอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยหัวน้ำอยู่ที่ กทม. นั่นเอง
กทม. โชคดีครับ ที่ไม่มีฝนตกลงมาซ้ำเติมสถานการณ์


ที่เห็นคือ ถนนเยื้องหน้าบ้าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงาน อบต.บ้านมะเกลือ นี่เอง
น้ำยังไหลผ่านถนนและหาทางลงแม่น้ำปิง เพื่อรวมเข้ากับแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อไหลลงใต้นั่นเอง








เหยง
ถนนเส้นนี้คือเส้นทางไปน่านรึป่าวจ๊ะ
ถ้าใช่ จะได้ระงับแผนเดินทาง
ขอบคุณมากจ๊ะ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4428 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 21:20:02 »

อจ.ทราย

ถนนสายนครสวรรค์-พิษณุโลก ช่วงจังหวัดนครสวรรค์ไปถึงจังหวัดพิษณุโลก แห้งหมดแล้วครับ
ภาพที่เห็นเป็นถนนสายรอง ที่แยกจากสายนครสวรรค์-พิษณุโลกออกไป
เส้นนี้อยู่หน้าวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี่นครสวรรค์ และถนนสายนครสวรรค์-เก้าเลี้ยว ยังจมน้ำอยู่
หากจะเดินทางกลับจังหวัดน่าน โดยถนนสายนครสวรรค์-พิษณุโลก ใช้ได้เลยครับ...ปลอดภัยไม่มีน้ำแล้ว 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4429 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 21:30:53 »

วันนี้ จังหวัดนครสวรรค์จัดกิจกรรมด้านแรงงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาน้ำท่วมขึ้น

ชื่อโครงการกระทรวงแรงงานรวมใจ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
งานจัดขึ้นในวันนี้ ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางหลังเก่า ศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์


ในภาพ-ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวต้อนรับ รมต.แรงงาน และคณะผู้บริหารจากกระทรวงแรงงาน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4430 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 21:32:49 »

มีกิจกรรมของหลายกรม ที่สังกัดในกระทรวงแรงงาน
แต่ที่แรงงานอยากทราบคือ "โครงการ ป้องกันและบรรเทาการเลิกจ้าง" ซึ่งจะช่วยเหลือสถานประกอบการที่ประสบภัยน้ำท่วมเกิน 30 วัน แต่ไม่เลิกจ้างลูกจ้างระหว่างน้ำท่วม รัฐจะช่วยจ่ายค่าจ้างให้เดือนละ 2,000 บาท ไม่เกิน 3 เดือน
โครงการยังไม่มีรายละเอียดออกมา ทำให้ผุ้ใช้แรงงานที่ประสบภัยต้องรอคอยต่อไป
มีปัญหาในช่วงน้ำท่วม ที่ผู้ประกอบการบางรายไม่จ่ายค่าแรงให้ผู้ใช้แรงงาน ทำให้มีผู้ใช้แรงงานซึ่งเป็นชาวต่างด้าว เดินทางกลับประเทศพม่าเป็นจำนวนมาก จนขณะนี้เกิดภาวะขาดแคลนแรงงานขึ้นมาแล้ว และเป็นไปทั่วทุกจังหวัดที่เกิดปัญหาน้ำท่วม มีผู้ประกอบการจำนวนมากเลือกใช้วิธีจ้างแรงงานด้วยการขึ้นราคาค่าจ้าง กับแรงงานที่อยู่กับนายจ้างรายอื่น โดยไม่แยแสเรื่องจริยธรรมหรือคุณธรรมใดๆทั้งสิ้น ซึ่งหากจ่ายค่าแรงในช่วงน้ำท่วม ก้ไม่จำเป็นต้องมาขึ้นค่าแรงเรียกคนให้ลาออกจากนายจ้างเก่า ให้เปลืองเงิน-เปลืองทอง แต่อย่างใด
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4431 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 21:54:37 »

ปลัดกระทรวงแรงงาน รายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานขึ้นที่จังหวัดนครสวรรค์
โดยมีอธิบดีของกรมในสังกัด ร่วมในงานนี้ด้วย


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4432 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 21:58:17 »

รมต.แรงงาน (นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์) กล่าวปราศรัยในฐานะเจ้ากระทรวง



      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4433 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 22:04:38 »

ผู้มาร่วมงานนี้นับพันคนครับ และถ้าดูจากเสื้อฟอร์มแล้ว มาจากภาคเอกชนหลายๆ บริษัทมากทีเดียว









      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4434 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 22:07:10 »

เปิดงานด้วยการให้ รมต.แรงงานตีฆ้องเปิดงาน



      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4435 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 22:08:46 »

มีการแจกถุงยังชีพให้บรรดาผู้ใช้แรงงานจากอำเภอต่างๆ ในจังหวัดนครสวรรค์



      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4436 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 22:28:24 »

ส่งคืนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกน้ำท่วมให้ประชาชนที่นำไปซ่อมกับศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

หมายเหตุ: บนเวที มีการส่งคืน หม้อหุงข้าว หม้อต้นน้ำไฟฟ้า ครับ ใหญ่กว่านี้แบกขึ้นเวทีไม่ไหว ??








      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4437 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 22:43:59 »

สปส.มีการจ่ายเงินทดแทนรายได้จากการต้องออกจากงาน กรณีนายจ้างประสบภัยและลอยแพลูกจ้าง

กรณีลูกจ้างเสียชีวิต สปส.จ่ายค่าทำศพรายละ 30,000 บาท ส่วนการช่วยเหลืออื่นๆ เป็นไปตามระเบียบ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4438 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 22:45:29 »

และวันนี้ต้องไปร่วมงานเพราะ..............





      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4439 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 22:47:05 »

และได้รับเกียรติบัตร.................





      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4440 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 22:57:31 »

ข่าวดีวันเฉลิมฯ.....................................

แบงก์ชาติจัดพิมพ์ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เริ่มจอง 21พ.ย.


นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล   ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  กล่าวว่า  เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา  7 รอบ วันที่ 5  ธ.ค. 2554  ธปท.  น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณโดย จัดพิมพ์ธบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพรเจ้าอยู่หัวชนิด 100 บาท   จำนวน 9,999,999 ฉบับ โดยมีลักษณะเด่น ด้วยการออกแบบที่สวยงาม มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากธนบัตรทั่วไป คือ  ขนาด 84 มิลลิเมตร หมายถึงพระชนมพรรษา 84 พรรษา ยาว 162 มิลลิเมตร  เมื่อบวกตัวเลขความยาวธนบัตรจะเท่ากับ 9 หมายถึง รัชกาลที่9
           
โดยด้านหน้าของธนบัตร ได้อัญเชิญพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฉลองพระองค์ครุย มหาจักรีบรมราชวงศ์บนลายพื้นสีเหลือบทอง เป็นภาพประธาน เบื้องซ้ายมีดวงฟอยล์สีเงินรูปวงกลมภายในมีอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร.  และมีภาพประกอบอื่น คือ ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธ.ค. 2554 พระครุฑพ่าห์ และลายไทย
         
 

 
เบื้องซ้ายมุมบนมีตัวเลขอารบิก “100” พิมพ์ด้วยหมึกพิเศษสีทองเหลือบเขียว เมื่อพลิกธนบัตรขึ้นและลงจะเห็นแถบแนวนอนสีทองเลื่อนขึ้นลงตามแนวตั้ง ซึ่งเทคนิคนี้ได้เริ่มใช้พิมพ์ธนบัตรในโลกมายังไม่ถึง1 ปี และครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกในการใช้เทคนิคดังกล่าวในการพิมพ์ธนบัตรไทย
           
 
ในส่วนหมวดอักษรและหมายเลข  ธนบัตรทุกฉบับมีเลข 9 นำหน้าหมวดอักษาไทย “ธ” ซึ่งหมายถึงพระมหากษัตริย์ ตามด้วยเลขหมายจำนวน 7 หลัก
           
 
ส่วนด้านหลัง ธนบัตร   ภาพประธานเป็นพระบรมฉายาทิสลักษณ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตโครงการอ่างเก็บน้ำแม่เริมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เชียงใหม่ 
 
 

ส่วนภาพประกอบ เป็นภาพพระราชกรณียกิจ ได้แก่ 1.พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ในการเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมราษฎร์เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุข พระบรมฉายาทิสลักษณ์ทรงปลูกหน้าแฝก แสดงถึงพระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรดิน
         
ภาพเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก และภาพกังหันน้ำชัยพัฒนา แสดงถึงพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาและจัดการทรัพยากรน้ำ  และภาพที่แสดงถึงพระอัจฉริยภาพ ได้แก่ พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ทรงเป่าแซกโซโฟน แสดงถึงพระอัจฉริยภาพด้านดนตรี ภาพเครื่องบินทำฝนหลวงด้วยเทคนิคการโจมตีเมฆฝนแบบซูเปอร์แซนด์วิช แสดงถึงพระอัจฉริยภาพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
           
ทั้งนี้ ประชาชน สามารถสั่งจองธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. 2554 เป็นต้นไป และรับธนบัตรได้ในวันที่ 2 ธ.ค. 2554 เป็นต้นไป ที่ทุกสาขาของธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 
         
โดยเลือกจองได้2 ประเภท   คือ 1.ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมแผ่นพับ ราคาชุดละ 200 บาท และ 2.ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมแผ่นพับและบรรจุภัณฑ์ ราคาชุดละ 500 บาท
         
ทั้งนี้ รายได้จากการจ่ายแลกธนบัตรฯ หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว ธปท. จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนรายได้จากการจำหน่ายบรรจุภัณฑ์หลังหักค่าใช้จ่ายจะมอบให้มูลนิธิชัยพัฒนา
           
นายประสาร กล่าวว่า ในโอกาสเดียวกันนี้ ธปท. ยังได้จัดนิทรรศการ “ภัทรมหาราช ธนบัตรชาติไทย” จะเป็นการนำเสนอเรื่องราวอันทรงคุณค่าเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ พระอัจฉริยภาพ และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ธปท. ได้อัญเชิญมาเป็นภาพด้านหลังธนบัตรรุ่นต่างๆ โดยใช้สื่อจัดแสดงที่ทันสมัย คัดเลือกเฉพาะสิ่งที่หาชมได้ยาก เช่น ภาพต้นแบบของธนบัตรที่ไม่เคยจัดแสดงที่ใดมาก่อน ธนบัตรรัชกาลปัจจุบันที่หายากที่สุด ธนบัตรเลขสวย เป็นต้น รวมถึงมีการจัดเสวนาและกรรมกรรมที่เกี่ยวเนื่อง
           
โดยประชาชนสามารถเข้าชมนิทรรศการ ได้ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. 2554-13 ม.ค. 2555 ตั้งแต่ 9.00-16.30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร) ณ ตำหนักสมเด็จวังบางขุนพรหม ในบริเวณธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ ถนนสามเสน เขตพระนคร กรุงเทพฯ [/size]

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1321595331&grpid=02&catid=no


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4441 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 23:43:48 »

ข่าวร้ายของคืนนี้ครับ.............


ศอส.เผยยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 594 ราย
วันศุกร์ ที่ 18 พฤศจิกายน 2554 เวลา 17:10 น
 
 

ศอส. รายงานยอดตาย 2 วัน พุ่งกระฉูด 30 ศพ รวม 594 ราย

วันนี้ (18 พ.ย.)  ศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์ อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) รายงานสถานการณ์ ว่า ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 19 จังหวัด133 อำเภอ 942 ตำบล 6,578 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,921,441 ครัวเรือน 5,146,819 คน ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ฉะเชิงเทรา และจังหวัดนครนายก และมีผู้เสียชีวิต 594 ราย สูญหาย 2 คน (จ.แม่ฮ่องสอน 1 ราย จ.อุตรดิตถ์ 1 ราย) ทั้งนี้ศอส. รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตในวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวน 564 ราย ซึ่งผ่านไปเพียง 2 วัน มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นสูงถึง 30 ราย

 
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&contentId=176861&categoryID=561
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4442 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 09:15:08 »

สวัสดี ในตอนเช้าของวันเสาร์ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4443 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 10:10:11 »

ปภ.เตือนหลายพื้นที่เริ่มหนาวโดยเฉพาะเหนือ-อีสาน
วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2011 เวลา 06:57 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ   


นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า หลายพื้นที่เริ่มมีอากาศหนาวเย็นโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศหนาวเย็นกว่าปีที่ผ่านมา โดยปลายเดือน ธ.ค. ถึงกลางเดือน ม.ค. จะหนาวเย็นที่สุด

ปภ.จึงประสานให้ทุกจังหวัดยกเว้นภาคใต้ ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวระดับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์ภัยหนาว รวมถึงสำรวจและจัดทำบัญชีผู้ประสบภัย เพื่อวางแผนแจกจ่ายเครื่องนุ่งห่มอย่างทั่วถึง พร้อมขอรับการสนับสนุนเครื่องห่มกันหนาว เวชภัณฑ์ เครื่องอุปโภคบริโภคจากหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยให้เพียงพอต่อความต้องการ
     
"ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็กและผู้ยากไร้ รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมที่เกี่ยวกับไฟทุกประเภท เนื่องจากอากาศแห้งและลมพัดแรง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยและไฟป่าสูงกว่าปกติ"

 สำหรับการขับขี่รถในช่วงที่มีหมอกลงจัด ควรเปิดไฟต่ำหรือไฟตัดหมอก ไม่ขับรถเร็ว และเว้นระยะห่างให้มากกว่าปกติ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาวเย็น ติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ช.ม.

http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=93737&catid=176&Itemid=524

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4444 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 10:53:23 »

เครื่องตรวจไฟรั่ว ม.รังสิต อุปกรณ์-วิธีทำแสนง่าย
วันอาทิตย์ ที่ 13 พฤศจิกายน 2554 เวลา 0:00 น


หลังจากข่าวเรื่องไฟรั่วได้คร่าชีวิตชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม รวมไปถึงผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ก็เจอปัญหานี้เช่นกัน
   
หลายสถาบันการศึกษาได้ออกมาประดิษฐ์อุปกรณ์ตรวจสอบกระแสไฟฟ้ารั่วและให้คำแนะนำเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในยามที่ต้องเดินลุยน้ำ 
   
ล่าสุด อาจารย์สกุล หิรัญเดช  วิทยาลัยวิศวกรรม ศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ประดิษฐ์อุปกรณ์ตรวจสอบกระแสไฟฟ้ารั่ว โดยใช้อุปกรณ์ที่สามารถหาได้ง่าย วิธีการทำไม่ซับซ้อน และชาวบ้านสามารถทำได้เอง โดยโพสต์วิธีการทำไว้ที่ http://www2.rsu.ac.th/news/engineer-09-11-2011 เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าไปโหลดเผื่อผู้ประสบภัยหรือผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือจะทำด้วยตัวเอง
   
อุปกรณ์ก็มีเพียงไม่กี่อย่าง ประกอบด้วย ท่อน้ำ PVC ขนาด 1 นิ้ว อย่างหนา ยาว 2 เมตร,  กระป๋องน้ำอัดลม 1 กระป๋อง, ไดโอดเปล่งแสงหรือหลอดไฟแอลอีดีขนาดเล็ก 2 หลอด แนะนําให้ใช้สีแดง เพราะมีความไวต่อกระแสต่ำและให้แสงสีแดงชัดเจน, สายไฟ และเทปพันสายไฟ
   
วิธีการทำ  โดยเอากระป๋องนํ้ำอัดลมเปล่าตัดออกเป็นแผ่น  เนื่องจากสีและด้านที่บรรจุน้ำถูกเคลือบด้วยสารชนิดหนึ่ง ซึ่งสารนี้จะเป็นฉนวนไฟฟ้า จึงจําเป็นต้องขัดออกด้วยกระดาษทรายทั้งสองด้าน เพื่อให้หน้าสัมผัสเป็นเนื้ออะลูมิเนียมทั้งสองหน้า
   
นําแผ่นอะลูมิเนียมทั้งสองแผ่นรัดติดกับสายไฟ และท่อน้ำพีวีซี โดยให้สองแผ่นอะลูมิเนียมห่างกันประมาณ 4–6 ซม. แล้วต่อสายไฟไปเข้ากับหลอดแอลอีดีทั้ง 2 หลอดที่ได้เตรียมไว้ โดยเผื่อให้สายยาวประมาณ 50 ซม.จากสายไฟที่ต่อจากหลอดแอลอีดี และพันให้แน่นติดกันโดยใช้เทปพันทับ 
   
จากนั้นก็นำหลอดแอลอีดียัดเข้าไปในท่อ โดยให้หลอดแอลอีดีอยู่สูงจากท่อประมาณ 50 ซม. สาเหตุที่ให้นำหลอดแอลอีดีเข้าไปไว้ในท่อ เพราะแสงจากหลอดแอลอีดีอาจจะสว่างน้อย ถ้ามีไฟรั่วเพียงเล็กน้อย และแสงแดดจากภายนอกจะรบกวน  ทําให้อาจจะมองไม่ชัดเจน แต่หาก นําหลอดแอลอีดีเข้าไปไว้ในท่อ จะทำให้มองเห็นแสงสว่างได้ชัดเจนกว่า
   
ในกรณีนี้ก็อาจจะเพิ่มความยาวท่อพีวีซีเป็น 2.5 เมตร และเผื่อให้สายจากหลอดแอลอีดีเป็น 1 เมตร ซึ่งจะทําให้ตัววัดกับสายไฟจากหลอดแอลอีดีห่างกัน 1.5 เมตร ซึ่งยังคงเป็นระยะที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม โครงสร้างของหลอดแอลอีดีกันน้ำอยู่แล้ว ถึงมันจะจมน้ำก็ยังให้แสงสว่างได้  แต่ว่าน้ำที่ท่วมขังอาจจะขุ่นหรือมีสีดำ จึงจําเป็นต้องให้หลอดแอลอีดีซึ่งอยู่ในท่ออยู่สูงพ้นระดับน้ำที่จะวัด เพื่อจะได้มองเห็นแสงจากหลอดแอลอีดีได้ชัดเจน
   
วิธีการใช้ก็ไม่ยาก  เพียงนําด้านปลายจุ่มลงไปในน้ำที่สงสัยว่ามีไฟรั่ว ซึ่งอาจจะเป็นบริเวณที่สวิตช์ หรือปลั๊กไฟที่จมอยู่ในน้ำ แล้วมองเข้าไปในท่อพีวีซี สังเกตหลอดแอลอีดีว่าสว่างหรือไม่ ถ้าสว่างเป็นสีแดงก็แสดงว่ามีไฟรั่ว
   
นี่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำง่าย ๆ ได้ประโยชน์ในยามที่ทุกคนต้องประสบภัยน้ำท่วม.

นภาพร พานิชชาติ


napapornp@dailyners.co.th

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=281&contentId=175646
      บันทึกการเข้า
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #4445 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 10:56:23 »


.....สวัสดีครับ พี่เหยง.....
      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4446 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 11:07:07 »

สวัสดีตี๋

ลำปางเป็นอย่างไร ??
มีถั่วเขียวออกมาบ้างแล้วหรือยัง ??
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4447 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 11:14:32 »

เมื่อชาวบางระกำ โดนลอยแพ จากปัญหา"บางระกำโมเดล"
ที่มีการแฉออกมาว่า เบิกจ่ายเงินชดเชยในพื้นที่ที่ไม่มีในโฉนดและถูกหักหัวคิว

มาร์คลุยบางระกำ-ชาวบ้านสุดทนโวยแหลก
วันเสาร์ ที่ 19 พฤศจิกายน 2554 เวลา 0:01 น
 
 
“มาร์ค” ลุย บางระกำ เจอข่าวลือลงพื้นที่ล่าลายชื่อชาวบ้านถอด "ยิ่งลักษณ์" เจ้าตัวขำกลิ้ง ขณะที่ ชาวบางระกำสุดทน แฉแหลก บางระกำโมเดลไม่เคยสอบถามความเห็นคนในพื้นที่

เมื่อวันที่ 18 พ.ย.  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่วัดท่าโก ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ในโครงการอาสาคนไทยช่วยน้ำท่วม ร่วมใจฟื้นฟู โดยได้เข้าร่วมกิจกรรมทาสีกำแพงโรงเรียน และเครื่องเล่นเด็กในสนามเด็กเล่น ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวประสบอุทกภัยนานหลายเดือนน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร และเพิ่งจะกลับสู่ภาวะปกติ จากนั้นได้ไปแลกเปลี่ยนความเห็นและรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับเกษตรกรด้วย
   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแลกเปลี่ยนความเห็นกับเกษตรกร ได้มีชาวบ้านสะท้อนถึงบางระกำโมเดลของรัฐบาลว่า ไม่มีการสอบถามคนในพื้นที่ว่าต้องการตามที่ส่วนกลางกำหนดให้หรือไม่
   

ในระหว่างนั้นได้มีชาวบ้านสอบถามว่า มีการปล่อยข่าวว่านายอภิสิทธิ์ เดินทางมาบางระกำเพื่อรวบรวมรายชื่อชาวบ้านในการยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งเป็นความจริงหรือไม่ ทำให้นายอภิสิทธิ์ถึงกับหัวเราะก่อนจะชี้แจงว่า เดินทางมาเพื่อรับฟังปัญหาและช่วยเหลือประชาชนไม่มีการล่ารายชื่อชาวบ้านตามที่มีข่าวลือแต่อย่างใด ส่วนการยื่นถอดถอนรัฐมนตรีและส.ส.รวม 7 คนของพรรคประชาธิปัตย์นั้นเป็นการทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านที่รวบรวมรายชื่อของส.ส.ดำเนินการตรวจสอบหลังพบว่ามีการกระทำที่ผิดรัฐธรรมนูญ

 
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=561&contentID=176863
      บันทึกการเข้า
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #4448 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 12:30:02 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2554, 22:47:05
และได้รับเกียรติบัตร.................



ไชโยยยยย ... มีข่าวดีอีกแล้ววว
เพื่อนเราทำแต่สิ่งดีๆ
มันต้อง! หยั่งงี้! ยกนิ้วให้!!!
 win win win
 win win win win
      บันทึกการเข้า
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #4449 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 12:48:11 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 19 พฤศจิกายน 2554, 11:07:07
สวัสดีตี๋

ลำปางเป็นอย่างไร ??
มีถั่วเขียวออกมาบ้างแล้วหรือยัง ??


.....ออกแล้วครับ ส่วนมากผมเอาแถว แพร่ เชียงคำ  สวยเขียวดี เม็ดไม่ค่อยใหญ่

     สงสัยน้ำมากไปหน่อย แต่แพงครับตอนนี้พื้นที่  สามสิบบาทต้นๆครับ ยังไม่ได้ซื้อเลยครับ.....
      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
  หน้า: 1 ... 176 177 [178] 179 180 ... 472   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><