swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #4400 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2554, 17:36:18 » |
|
ฝรั่ง: โอ้! นายกรัฐมนตรีประเทศยูนี่ดีมากๆเลยนะเนี่ย คนไทย: ดียังไง? ฝรั่ง: ก็ I เห็นเขาใส่ขาสั้นออกไปเดินลุยน้ำช่วยประชาชนทุกวัน เยี่ยมมากๆ! คนไทย: ?!?
ฝรั่ง: ก็คนที่ตี๋ๆใส่แว่นไง คนไทย: เอ่อ...นั่นสรยุทธ
ฝรั่ง:แต่รองนายกบ้านยูตัวเตี้ยไปหน่อยนะ คนไทย: เอ่อ... นั่นโก๊ะตี๋
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4401 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2554, 18:00:47 » |
|
Oh !!! I see
That's right !!
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4402 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2554, 18:26:04 » |
|
ข้อมูลน้ำจังหวัดนครสวรรค์ในวันพุธที่ 16 พฤศจิกายน 2554
มวลน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ในวันนรฃี้ 2,311 ลบ.ม./วินาที ลดลงจากเมื่อวานนี้ 61 ลบ.ม./วินาที
ระดับน้ำลดลงในวันนี้ 11 ซ.ม. โดย 31 วันที่ผ่านมา ระดับน้ำลดลงต่อเนื่องสะสมแล้ว 257 ซ.ม.
หากรวมวันนี้เป็น 32 วัน ระดับน้ำลดลงทั้งหมด 268 ซ.ม.หมายเหตุ: ระดับน้ำวันที่ 10 ต.ค. ที่ไหลเข้าท่วมเขตเทศบาลนครนครสวรรค์ ระดับน้ำสูงสุดที่ 264 ซ.ม. และวันนี้ระดับน้ำลดลงกว่า 268 ซ.ม. จึงเท่ากับน้ำลดลงไปจากวันที่ 10 ต.ค.แล้ว 4 ซ.ม.
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #4403 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2554, 18:27:29 » |
|
สวัสดียามค่ำครับ.... พี่เหยง..พี่ตะวัน..น้องหยี และพี่น้องทุกท่าน
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #4404 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2554, 18:31:20 » |
|
ดีที่ไม่มีเรื่องเล่าที่จบด้วย.... Oh!!! I see, that's a female buffalo.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4405 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2554, 18:35:51 » |
|
สวัสดี แหลม
ปูเดินไม่ตรงทางสมชื่ออยู่แล้ว แถมสมองก็ไม่มี แต่มีกุนซือ ??นำภาพที่ NN โพสต์ในห้องพี่สิงห์มาให้ชม ทางเดินทางของน้ำกว่า 591 ช.ม. คลิ๊กดูได้เลย
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #4406 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2554, 18:41:00 » |
|
ครับ... พี่เหยง
ปูมีเลือดสีน้ำเงินด้วยครับ...
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4407 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2554, 18:44:56 » |
|
ผู้ว่า กทม. ออกสื่อในช่วงบ่าย ว่าไม่ต้องการรูปถ่ายแล้ว แต่คำสั่งคงยังไปไม่ถึงเขตต่างๆ เรื่องจึงยังไม่ยุติ ที่ อบต.บ้านมะเกลือ ที่ซึ่งเป็นเขตบ้านที่ผมอยู่ ผลการเลือกนายกฯ อบต.บ้านมะเกลือ อกมาแล้ว นายกฯ 2 สมัยได้คะแนนบ๊วย แพ้อดีตกำนัน และแพ้ผู้สมัครใหม่ด้วย น่าจะมาจากการกำหนดเกณฑ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เข้มงวด แจกถุงยังชีพไม่ทั่วถึง หากปัญหานี้เกิดใน กทม. คาดว่าจะมีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลโดยตรงทีเดียว เพราะเรื่องถุงยังชีกเรื่องเดียวก็แย่อยู่แล้วตั้งเงื่อนไขจ่าย 5 พันน้ำท่วม ช่วยหรือซ้ำเติมผู้ประสบภัยบทบรรณาธิการ16 พฤศจิกายน 2554 - 00:00 มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2554 เรื่องการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอุทกภัย) ครัวเรือนละ 5,000 บาท ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผ่านมาครบ 1 สัปดาห์พอดิบพอดี แต่ดูเหมือนชาวบ้านผู้ประสบภัยส่วนใหญ่ต่างยังคงเกิดข้อสงสัย และเกิดความสับสนต่อมาตรการการช่วยเหลือเยียวยาของรัฐครั้งนี้ ว่าเป็นการ "ช่วย" หรือ "ซ้ำเติม" ผู้ประสบอุทกภัยกันแน่ ตามคำอธิบายจากนายสมภพ ระงับทุกข์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ระบุหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือ แบ่งเป็น 2 กรณี กรณีแรก น้ำท่วมถึงบ้านพักอาศัยโดยฉับพลันและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย และกรณีสอง บ้านพักอาศัยถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันไม่น้อยกว่า 7 วัน มีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย โดยผู้ประสบภัยต้องเตรียมหลักฐานประกอบการแจ้งสิทธิเพื่อรับเงินช่วยเหลือ ได้แก่ รูปถ่ายบ้านน้ำท่วม สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือสัญญาเช่ากรณีเป็นบ้านเช่าอยู่อาศัย หนังสือรับรองของผู้ให้เช่า หนังสือรับรองของประธานชุมชน และหนังสือมอบอำนาจกรณีผู้มีสิทธิไม่สามารถดำเนินการด้วยตนเอง พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบ ดูเหมือนว่า หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือที่ภาครัฐกำหนดออกมา จะเป็นเงื่อนไขที่ไม่สอดรับกับสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะหลักฐานที่ต้องมีรูปถ่ายบ้านน้ำท่วมประกอบการแจ้งสิทธิยื่นขอรับเงิน 5,000 บาท เพราะผู้ที่ถูกน้ำท่วมบ้านส่วนใหญ่ต่างก็ต้องรีบอพยพเอาชีวิตรอดออกมา ตามการประกาศเตือนของรัฐบาล ภายใต้การบริหารสั่งการจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) การจะกลับเข้าไปในบ้าน ซึ่งบางพื้นที่น้ำท่วมสูงเป็นเมตรๆ แค่เพียงเพื่อถ่ายรูปนำมาเป็นหลักฐานขอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ต้องถามว่าคุ้มค่าเพียงพอต่อชีวิตผู้ประสบภัยแล้วหรือ หากย้อนกลับไปดูรายละเอียด ในมติ ครม. เมื่อวันที่อนุมัติงบฯ ช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 5,000 บาท ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้มีการระบุเอาไว้ว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานว่า สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2554 ถึงปัจจุบัน มีบ้านเรือนที่อยู่อาศัยประจำของราษฎรและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย จำนวน 621,355 ครัวเรือน จำนวนเงิน 3,106,775,000 บาท นั่นแสดงว่า หน่วยงานราชการก็ทราบอยู่แล้วว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกี่ครัวเรือน เหตุใดจึงไม่มีการนำข้อมูลตรงนี้ ไปดำเนินการเรื่องการจ่ายเงินช่วยเหลือชดเชยผู้ประสบภัยพิบัติ เมื่อรัฐบาลมีข้อมูลจากหน่วยงานราชการถึงความเสียหายของประชาชนแล้ว ก็ควรนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ ไม่ใช่มาตั้งหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สุ่มเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน ดังนั้น รัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ จึงควรปรับหลักเกณฑ์การช่วยเหลือประชาชนโดยยึดประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ใช่ยึดความสบายของราชการ ไม่เช่นนั้นคำพูดที่บอกว่า รักและห่วงใยประชาชน ก็แค่การเสกสรรปั้นแต่งคำหวานหลอกประชาชนเท่านั้น.http://www.thaipost.net/news/161111/48182
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4408 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2554, 19:41:02 » |
|
แต่ไม่ใช่เลือดขัตติยะ เป็นเลือด......
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4409 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2554, 19:43:08 » |
|
ทหารของประชาชน สิรี โอศิริกระจกไร้เงา 15 พฤศจิกายน 2554 - 00:00 มหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทยของเราในเวลานี้ แสดงให้เห็นว่าคนไทยยังรักกัน ยังมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กันตลอด ไม่ว่ายามทุกข์หรือสุข ภาพแสดงน้ำใจระหว่างทหาร ตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีต่อประชาชนที่ประสบอุทกภัย ภาพจิตอาสาหลากหลายเพศและอายุร่วมด้วยช่วยกัน กรอกทราย แพ็กของ แจกของ หลายๆ ครั้งที่ทำให้ผู้พบเห็นน้ำตาซึม และที่สำคัญ มหาอุทกภัยครั้งนี้ สร้างพระเอกและนางเอก รวมถึงสร้างตัวอิจฉาให้ประชาชน คนเสพข่าวได้เห็นอย่างต่อเนื่อง แต่นางเอกในที่นี้ไม่ได้หมายถึงนักแสดงหญิงว่าที่รางวัลออสการ์ที่บีบน้ำตาโชว์ประชาชนอยู่ต่อเนื่องแต่อย่างใด... ที่บาดตาบาดใจประชาชนตาดำๆ ทั้งที่ประสบภัยและอยู่ในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุด คงหนีไม่พ้นภาพกองของลอยล่องอยู่กลางสายน้ำภายในท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งเป็นอดีตที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ทำให้เวลานี้ไม่ว่าจะหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้มีจิตศรัทธาจากนานาประเทศ เลือกที่จะบริจาคของผ่านองค์กรอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสภากาชาด มูลนิธิต่างๆ หรือแม้แต่สามเหล่าทัพแทน เพราะคงกลัวว่าของที่บริจาคอาจไปว่ายน้ำเล่นอีกครั้ง ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีโอกาสดี ได้เจอตัวแทนจากสามเหล่าทัพ พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองผู้บัญชาการทหารบก พลเรือเอกอมรเทพ ณ บางช้าง ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ และพลอากาศเอกเพิ่มเกียรติ ลวณะมาลย์ เสนาธิการทหารอากาศ ที่มารับมอบของบริจาคจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย งานนี้ ทั้งสามเหล่าทัพได้ใจ ก.ล.ต.และสื่อมวลชนที่อยู่ในห้องแถลงข่าวไปเต็มๆ เริ่มจาก พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองผู้บัญชาการทหารบก ที่ออกมาร่ายยาวแสดงความขอบคุณ พร้อมเล่าการปฏิบัติหน้าที่ของเหล่าทหารแบบสดๆ โดยไม่ต้องก้มหน้าก้มตาอ่านโพย แต่ทุกคำพูดล้วนออกมาจากใจ สรุปความได้ว่า “การทำงานที่ผ่านมา เราทุกคนต้องยกความดีความชอบทั้งหมดให้พลทหารทุกนายที่ลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ แม้จะรู้ว่าการลงพื้นที่เพื่อช่วยประชาชนจะเป็นภารกิจที่หนักหนาสาหัสเพียงใด ทุกคนก็ยังเต็มใจที่จะทำ พลทหารบางนายรู้อยู่เต็มอกว่าบ้านของเขาโดนน้ำท่วม แต่เขาก็ยังช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ อย่ามองว่าทหารคือพระเอก ทหารแค่ทำตามหน้าที่ของตน เราเน้นการทำงานแบบบูรณาการ มีการหารือแนวทางการดูแลระหว่างสามเหล่าทัพด้วยกัน และที่สำคัญ ทหารก็ทำงานตามคำสั่งจากกระทรวงกลาโหมและรัฐบาล และไม่คิดที่จะทำงานขัดแย้งกับกลุ่มใด และที่สำคัญอย่าไปตำหนิตำรวจ เพราะทัพบกมีกำลังมากกว่าทัพอื่นๆ มียุทโธปกรณ์มากกว่า จึงเข้าถึงประชาชนได้มากกว่า” ด้าน พลเรือเอกอมรเทพ ณ บางช้าง ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ออกมาร่ายยาวด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขแบบไร้สคริปต์เป็นท่านที่สอง ซึ่งเรียกเสียงฮาให้กับผู้ฟังไม่น้อย ว่า “พวกผมถือเป็นผู้ประสบภัยชุดแรก บ้านท่าน ผบ.ทร.อยู่ในหมู่บ้านเมืองเอก บ้านรอง ผบ.ทร.อยู่ริมน้ำเจ้าพระยา ส่วนบ้านผมอยู่ย่านบางบัวทอง วันแรกบ้านพวกเราก็จมน้ำกันหมดแล้ว เลยมีเสียงแซวกันมาว่าบ้าน ผบ.ทร.ยังจม และประชาชนจะทำอย่างไร แต่ที่ผ่านมาเราก็ดำเนินการทุกอย่างเต็มที่ ไม่เคยเหนื่อย ไม่เคยท้อ สิ่งหนึ่งที่สร้างแรงการทำงานให้ทหารทุกคนเป็นอย่างดี คือกำลังใจจากประชาชน แค่ผมเห็นตัววิ่งข้อความในโทรทัศน์ว่าเป็นกำลังใจให้ทหาร ขอให้ทหารสู้ๆ พวกผมทุกคนก็หายเหยื่อยแล้ว” ขณะที่ พลอากาศเอกเพิ่มเกียรติ ลวณะมาลย์ เสนาธิการทหารอากาศ ระบุว่า “ผมถือว่าเป็นผู้ประสบอุทกภัยซ้ำซ้อน ผมย้ายที่นอนมาหลายที่ จนสุดท้ายคือที่กองทัพอากาศดอนเมือง และวันนี้น้ำก็ท่วม 100% เหมือนกับทุกๆ ที่ที่เราย้ายไป ผมต้องขอบคุณกำลังใจจากประชาชนและความช่วยเหลือจากทหารบกและทหารเรือที่มาช่วยพวกเราอย่างเต็มที่ และทหารอากาศทุกคนก็พร้อมที่จะช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยทุกคนอย่างเต็มที่ แม้ที่ผ่านมาจะมีเสียงตะโกนด่าด้วยความไม่พอใจบ้าง แต่เราทุกคนก็เข้าใจ และยังมุ่งมั่นที่จะทำดีต่อไป" หนึ่งในประชาชนตาดำๆ ที่เห็นความเต็มที่ในการทำงานเพื่อประชาชนของเหล่าทหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว ขอคารวะจากใจจริง...http://www.thaipost.net/news/151111/48129
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4410 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2554, 20:08:24 » |
|
ก้าวเป็นผู้อพยพอย่างมีคุณภาพ สงกรานต์ กันแก้วกระจกไร้เงา 11 พฤศจิกายน 2554 - 00:00 นั่งๆ นอนๆ ใน “ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วม” ซึ่งฟังแล้วแร้นแค้นน้อยกว่าคำว่า “ศูนย์อพยพ” ร่วมเดือน บางคนก็มากกว่านั้น มันแสนเบื่อ ไม่มีอะไรทำ คิดถึงบ้านที่จำใจทิ้งมาก็คิดถึง ป่านนี้มิวายมิจฉาชีพงัดแงะนำพาข้าวของที่อาบเหงื่อต่างน้ำแสวงหามาแรมปีไปหมดแน่ๆ...แต่ก็ช่างมัน คิดเสียว่าของนอกกาย น้ำแห้งค่อยหาใหม่..เครียดโว้ยยย ผู้อพยพจำนวนมากเกิดอาการข้างต้น เพราะดูเหมือนว่าระดับน้ำที่ค่อยภาวนาให้ลดลงในเร็ววัน มันก็ไม่ได้เป็นดั่งใจ แต่กลับเลวร้ายยิ่งขึ้น..แต่การเครียดและกังวลไม่ได้สร้างประโยชน์แก่ชีวิต ดังนั้น เมื่อต้องเข้ามาใช้ชีวิตในศูนย์พักพิงฯ ทั้งที มันก็ต้องหาวิธีการก้าวเข้าสู่การเป็นผู้อพยพอย่างมีคุณภาพ ศูนย์อพยพฯ ที่มีกว่า 1,743 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีการจัดกิจกรรมให้แก่ผู้พักพิงที่แตกต่างกันในแต่ละวัน ทั้งการผ่อนคลายและการสร้างอาชีพ ดังนั้น เราควรจะหยิบฉวยโอกาสนี้ไว้ เพราะโอกาสไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ แถมฟรีอีกต่างหาก คิดดูซี หากสนใจและไปเรียนเองจะต้องเสียเงินทองเท่าไหร่ กว่าจะสำเร็จวิชาหนึ่งๆ ดังนั้น อย่าปล่อยให้โอกาสดีๆ ลอยไปกับสายน้ำ และเมื่อน้ำลดก็จะได้มีทักษะอาชีพติดตัวเก็บไว้ทำเป็นอาชีพเสริมกับงานประจำ หรือไม่งั้นก็ทำเป็นงานประจำก็ได้ ดังนั้น การก้าวสู่การเป็นผู้อพยพอย่างมีคุณภาพจึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร ที่สำคัญไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพราะไม่มีต้นทุนอะไรเลย เนื่องจากฝึกอาชีพก็มักจะอยู่ในบริเวณศูนย์พักพิงฯ เรียกว่า “ป้อนถึงปาก” ที่ลำบากก็คือ การขยับปากและเคี้ยวเองเท่านั้น ก็แค่เริ่มด้วยการเข้ากลุ่มกิจกรรมที่เน้นฝึกทักษะอาชีพ ซึ่งมีหลากหลาย เช่น นวดไทย เย็บผ้า มีการสอนหนังสือ ซ่อมแซมสิ่งของ ตัดผม ประดิษฐ์สิ่งของใช้ ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจะเป็นคอร์สระยะสั้น จบคอร์สนี้ก็ไปเรียนอีกคอร์สหนึ่งได้ตามความสนใจ เพราะเขาไม่ได้ห้ามหรือจำกัดการเรียนรู้ แค่ขยันหน่อยเดียวเอง สำคัญกว่านั้น ในระหว่างที่ฝึกอบรมอาชีพ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะได้รับเบี้ยเลี้ยง 120 บาทต่อวันจากรัฐบาลด้วย และหากต้องการที่จะทำงานต่อ รัฐบาลก็จะจัดหางานให้ทำต่อในศูนย์พักพิงฯ เช่น ทำอาหาร ดูแลเด็ก ผู้สูงอายุและผู้พิการ เป็นต้น โดยได้รับค่าจ้างตามอัตราขั้นต่ำของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งหางานอาชีพให้ทำนอกศูนย์พักพิงฯ ที่มีตำแหน่งงานว่างอยู่กว่า 30,000 ตำแหน่งอีกด้วย เรียกได้ว่ามีรายได้ระหว่างการลี้ภัยอีกด้วย และหากเป็นคนรู้จักเก็บออม เชื่อว่าหลังน้ำลดก็จะมีเงินก้อนหนึ่งไว้ซ้อมแซมบ้าน รถยนต์ที่เสียหายโดยที่ไม่ต้องควักกระเป๋าหรือกู้ยืมจากสถาบันการเงินให้เสียดอกเบี้ย เพราะว่าชีวิตในศูนย์พักพิงฯ แทบจะไม่ได้ใช้จ่ายอะไรเลย อาหารการกินก็สมบูรณ์กว่าอยู่ที่บ้านเสียอีกจากน้ำใจพี่น้องชาวไทยที่ร่วมกันบริจาค อย่างไรก็ตาม การอาศัยในศูนย์พักพิงฯ นอกจากทำตัวไม่ให้เป็นภาระแล้ว ก็ต้องสร้างประโยชน์ด้วย เพราะจำนวนผู้อาศัยจะเยอะกว่าเจ้าหน้าที่ที่ดูแลหลายเท่าตัว ให้ดูแลทุกคนคงเป็นไปไม่ได้ และงานในศูนย์ฯ ก็มีเยอะมาก ดังนั้น นอกจากจะต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเอง เช่น เรื่องที่หลับที่นอน การทำความสะอาดแล้ว ยังต้องทำตัวให้เกิดประโยชน์ด้วยการเข้าไปเป็นอาสาสมัครในการช่วยเหลืองานในศูนย์พักพิงฯ ซึ่งมีเยอะมาก ทั้งการเก็บขยะเพื่อรักษาความสะอาด การทำอาหารเลี้ยงผู้พักพิง การเป็นเวรยาม ง่ายๆ คือ ช่วยเป็นไม้เป็นมือเพื่อบรรเทาความหนักของงานเจ้าหน้าที่ลง โดยการเก็บขยะอาจจะมีการแยกขวด กระดาษ พลาสติก ซึ่งกองเป็นภูเขาเหล่ากาในศูนย์พักพิงฯ เอาไปขายสร้างรายได้ได้อีกทาง หรือการช่วยทำอาหารก็จะได้วิชาในการปรุงอาหารโดยที่ไม่ต้องครูพักลักจำ สำคัญต้องดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของตัวเองด้วย เพราะในศูนย์พักพิงฯ จำต้องนอนรวมกับผู้อพยพอื่นๆ ซึ่งไม่อาจทราบได้ว่าหนึ่งในผู้ใดจะเป็นโรคติดต่อ แม้ว่าทางศูนย์พักพิงฯ จะมีการคัดแยกบุคคลเหล่านี้ให้อยู่ในพื้นที่พิเศษก็ตาม อย่างไรก็ตาม แม้ชีวิตในศูนย์พักพิงฯ จะสุขสบายกาย แต่อาจไม่สุขสบายใจ เพราะอยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา แต่เมื่อหนึ่งในช่วงชีวิตที่ได้สัมผัสกับคำว่า “ผู้อพยพ” ก็ต้อง “ก้าวเป็นผู้อพยพอย่างมีคุณภาพ” ด้วย.http://www.thaipost.net/news/111111/47955
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4411 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2554, 20:35:38 » |
|
บอกไว้ไม่ทันขาดคำ ปรากฎการณ์นำพี่ชายกลับบ้าน ก้เรียบร้อยโรงเรียนเพื่อไทยไปแล้ว เมื่อวานนี้เอง จากพี่...ถึงน้องกระจกไร้เงา 14 พฤศจิกายน 2554 - 00:00 อโณทัย ชุมไชยโย จากนครสวรรค์ยันกรุงเทพฯ "น้องน้ำ" ได้ตีเมืองขึ้นเสร็จทุกหัวเมือง ขณะที่รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังปากกล้าขาสั่นว่า "เอาอยู่" ทั้งๆ ที่ "ล้มเหลว" ไม่เป็นท่า จนชาวบ้านชาวช่องเอือมระอากันทุกหัวระแหง เอือมระอากับความไม่เอาไหนในการป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วม เอือมระอาเพราะรัฐบาลไม่เห็นหัวชาวบ้าน ไม่เห็นความเดือดร้อนของประชาชน เพราะตัวเองนั่งบัญชาการอยู่บนหอคอยงาช้าง จึงย่อมไม่รู้สึกว่าความเดือดร้อน ความทุกข์ทรมาน ความพินาศเสียหาย มันเจ็บขนาดไหน สำหรับประชาชนทั่วๆ ไป พูดถึงเรื่อง "น้ำท่วม" ทีไร มันคันหัวใจแปลบๆ ยิ่งน้ำท่วมขยายวงกว้างมากเท่าไหร่ รัฐบาลแสดงความบ้อท่อ ไร้น้ำยาให้ประชาชีเห็นมากขึ้นเท่านั้น บอกตรงๆ ว่า..สุดทน..แล้วโว้ย ที่บอกอย่างนี้ ไม่ใช่ที่บ้านถูกน้ำท่วมเหมือนพี่น้องคนไทยอีกหลายล้านคนหรอกนะ แต่อดสงสารพี่น้องคนไทยด้วยกันที่เดือดร้อนแสนสาหัสจากผลงานอันห่วยแตกของรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ ยิ่งตอนนี้นะ ถนนสายหลักในกรุงเทพฯ ถูกตัดขาด รถโดยสารวิ่งให้บริการไม่ได้ เหลือทางด่วนเส้นทางเดียวที่ยังเปิดให้บริการ แต่ขอโทษเถอะ ติด..ชิอ๋าย..รู้มั่งหรือเปล่าปู ความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ร้ายแรงสุดในรอบ 50 ปีในปีนี้ แม้จะมีหน่วยงานต่างๆ ออกมาประเมิน แต่เชื่อว่าตัวเลขเสียหายที่แท้จริงจะมากกว่านั้นแน่นอน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ประเมินว่ามูลค่าความเสียหาย ณ ขณะนี้ เพิ่มจากที่คาดการณ์เดิม 100,000 ล้านบาท เป็นมากกว่า 150,000 ล้านบาท สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ประเมินว่าความเสียหายจะอยู่ที่ 190,743 ล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจไทยหดตัวลง -1.81% ต่อปี หรือจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 2554 จะขยายตัว 2.71% และปี 2555 จะขยายตัว 4.5% ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า จากการประเมินผลกระทบจากน้ำท่วม ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.-10 พ.ย.2554 คาดว่าจะมีมูลค่าความเสียหาย 3.46 แสนล้านบาท แบ่งเป็นผลกระทบทางการเกษตร 8.5 หมื่นล้านบาท อุตสาหกรรม 1.99 แสนล้านบาท ท่องเที่ยว 2.54 หมื่นล้านบาท การค้า 2.99 หมื่นล้านบาท และอื่นๆ 6,702 ล้านบาท กรณีที่เลวร้ายที่สุด หากน้ำท่วมกรุงเทพฯ ทุกเขต รวมนิคมฯ บางชันและลาดกระบัง คาดว่าจะมีความเสียหาย 4.23 แสนล้านบาท ขณะที่ก่อนหน้านี้ศูนย์พยากรณ์ฯ ประเมินว่า หากรวมความเสียหายจากบ้านเรือน ที่อยู่อาศัยของประชาชนด้วยแล้ว มูลค่าความเสียหายจะสูงถึง 7-8 แสนล้านบาทเลยทีเดียว แต่ไม่ว่ามูลค่าความเสียหายจะมากกี่แสนล้านบาท ยังไม่เท่ากับความทุกข์แสนสาหัสของคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ได้รับจากความไร้ประสิทธิภาพ ขาดการบริหารจัดการเรื่องน้ำที่ดีของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ช่วงก่อนหน้านี้ คอลัมน์กระจกไร้เงาได้นำจดหมายที่น้องน้ำเขียนถึงพี่กรุง, น้องน้ำเขียนถึงน้องทราย, พี่กรุงตอบน้องน้ำ รวมถึงน้องทรายเขียนถึงน้องน้ำกันแล้ว คราวนี้มาอ่านกันสนุกกับจดหมายจากพี่แม้วถึงน้องปูกันมั่งดีกว่า ปูน้องรัก พี่คิดไปคิดมา คิดอยู่ตั้งนานว่าจะเขียนจดหมายฉบับนี้ถึงน้องดีหรือไม่ แต่ในที่สุดพี่ก็ตัดสินใจเขียนมา เพราะไม่อยากสไกด์ ไม่อยากทวีต เดี๋ยวชาวบ้านเขารู้กันหมดว่า พี่กับน้องคิดอะไรอยู่ ก่อนอื่น พี่อยากจะฝากน้องของพี่ไปบอกกับรัฐบาลของประเทศน้องที่บริหารโดยคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะหัวโขนทั้งหลายด้วยว่า ทำมั้ยทำไมถึงได้โง่นัก กะอีแค่เรื่องน้ำเรื่องเดียว ยังบริหารจัดการไม่ได้ พี่เห็นแล้วปวดใจจี๊ดๆ ในฐานะที่พี่เคยเป็นคนไทย รู้สึกเสียดายแทนภาษีของประชาชนที่ต้องนำมาเลี้ยงคณะรัฐบาลของคุณยิ่งลักษณ์ซะจริงๆ ไม่รู้ว่ารัฐบาลของประเทศน้องเขารู้หรือเปล่าว่า เวลานี้ประชาชนในประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเดือดร้อนกันขนาดไหน บางคนต้องบ้านแตกสาแหรกขาด กระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง พ่ออยู่ทาง แม่อยู่ทาง ลูกอยู่ทาง แต่พี่ก็ยังเห็นว่ารัฐบาลของประเทศน้องไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย อย่างล่าสุดน้ำท่วมกรุงเทพฯ เกือบทั่วแล้ว ถนนสายหลักที่ใช้สัญจรถูกตัดขาด แต่รัฐบาลของประเทศน้องก็ยังทู่ซี้บอกว่า "เอาอยู่ๆ" พี่เห็นพอบอกเอาอยู่ทีไร "น้ำแตก" ทุกที แล้วไม่รู้ว่ารัฐบาลของประเทศน้องเขารู้บ้างหรือเปล่าว่า ทุกวันนี้ประชาชนเดือดร้อนกันขนาดไหน บ้านก็อยู่ไม่ได้ เพราะจมน้ำ จะไปนู้นไปนี่ก็ไม่ได้ เพราะไม่มีรถวิ่ง ทุกวันนี้เหลือทางด่วน รัฐบาลของประเทศน้องก็ให้คนขับรถขึ้นทางด่วนกันมากขึ้น โดยการยกเว้นค่าผ่านทาง อ้าว! เวรล่ะซี ทำแบบนี้รถติดตายเลย ออ! พี่ฝากน้องไปบอกกับคุณยิ่งลักษณ์ด้วยนะว่า ยังไงซะ ภายในปีนี้พี่จะต้องกลับประเทศไทยให้ได้ ถ้ารัฐบาลของคุณยิ่งลักษณ์อยากให้พี่กลับประเทศเร็วๆ ให้ใช้ช่วงที่คนวุ่นวายกับเรื่องน้ำนี่แหละ ทำไรก็ได้ หาทางให้พี่กลับประเทศ พี่หวังว่าน้องจะช่วยเป็นธุระให้พี่ได้นะ..คิดถึงทุกคน. จาก พี่แม้ว ณ มอนเตฯ http://www.thaipost.net/news/141111/48075
|
|
|
|
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #4412 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2554, 08:22:19 » |
|
ทุกพระราชดำรัส คือสัจธรรม ..
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4413 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2554, 10:58:25 » |
|
น้องหยี
เป็นไปตามที่น้องยกมา ที่สำคัญเราพยายามส่งเสริม หาคนดี แต่พวกเขาพากันเลือกคนไม่ดีมา !!! พวกเราก็ทำอะไรไม่เป็น......เช่นกัน
พบคุณแม่แล้ว..........ขณะนี้กลับเข้าบ้านได้หรือยัง ??
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4414 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2554, 11:04:41 » |
|
ทั้งโรคซ้ำ กรรมซัด วิบัติเป็น ไม่เล็งเห็นที่ซึ่งจะพึ่งพา...............สุนทรภู่ ประสบภัยน้ำท่วมขังยาวนานนับเดือน จะต่อด้วยภัยหนาว อีกหรือไม่ ?? !!!
ความกดอากาศสูงจากจีน ทำภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็น มีหมอกช่วงเช้า ส่วนพื้นที่อื่นทั่วไทยลมหนาวมาเยือน
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันว่าบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และบริเวณภาคเหนือจะมีหมอกหนาบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนเพิ่มระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจายในระยะ 1-2 วันนี้
อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง กำลังเคลื่อนที่ไปทางประเทศจีนตอนใต้ ซึ่งหย่อมความกดอากาศต่ำนี้ไม่มีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย
สำหรับพยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันที่ 18 พ.ย.
ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ บริเวณตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศา โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ บริเวณตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-32 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
|
|
|
|
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #4415 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2554, 11:27:09 » |
|
ยังเลยค่ะพี่เหยง น้ำยังไม่แห้งสนิท ให้คุณแม่อยู่กับคุณอาไปก่อน ทำความสะอาดบ้านเรียบร้อยเมื่อไร จึงจะให้คุณแม่เข้าบ้าน
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4416 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2554, 22:22:20 » |
|
ข้อมูลน้ำจังหวัดนครสวรรค์ในวันพฤหัสบดีที่ 17 พ.ย. 54
มวลน้ำไหลผ่านนครสวรรค์ 2,245 ลบ.ม./วินาที (หรือ 194 ลบ.ม/วัน) ลดลงจากเมื่อวานนี้ 66 ลบ.ม./วินาที
ระดับน้ำลดลง 13 ซ.ม. โดย 32 วันที่ผ่านมาระดับน้ำลดสะสม 268 ซ.ม.
รวมวันนี้เป็น 33 วัน ระดับน้ำลดลงรวม 281 ซ.ม.
|
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #4417 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 10:53:18 » |
|
น้องเหยงช่วยตรวจสอบข้อมูลให้หน่อยนะครับนครสวรรค์รับครัวเรือนละ 30,000 บาท ที่อื่นได้รับเท่าไหร่เอ่ย ทำไมชดเชยที่นครสวรรค์ได้หลังละ 30,000 บาท แจกกันครึกครื้น แต่ที่อื่นท่วมเหมือนกันแต่ให้เพียงหลังละ 5,000 บาท หาเสียงล้วนๆ หรือเลือกปฏิบัติ
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #4418 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 13:47:14 » |
|
ตายแล้ว ..
หยีได้รับ 5,000 บาท เอาไปซ่อมบ้านทั้งหลัง แถมซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ทั้งหมด ยังเหลือเงินอีกตั้งเยอะ หากได้รับ 30,000 บาท จะบริหารจัดการเงินที่เหลือยังไงดีเนี่ย
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
ทราย 16
|
|
« ตอบ #4419 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 14:08:25 » |
|
น้องหยี พี่กะว่าจะเอา 5,000 บาทไปซื้อลูกบิดประตูทอง คงจะได้ประตูเดียวอ่ะ นี่ถ้าได้ 30,000 ก็คงได้ครบ ประตูทุกบานอ่ะค่ะ พี่ทราย
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #4420 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 20:11:41 » |
|
สวัสดียามค่ำครับ...... พี่เหยง..พี่ตะวัน..พี่ทราย..น้องหยี และพี่น้องทุกท่าน
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #4421 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 20:29:15 » |
|
5,000 บาท...ซื้อโถส้วม Kohler ยังไม่ได้เลยครับ.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4422 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 20:44:57 » |
|
สวัสดีครับ พี่ตะวัน อจ.ทราย แหลม น้องหะยี และทุกท่านครับ
จังหวัดนครสวรรค์มีการรับเงิน 2 ส่วนครับ ส่วนแรกคือเงินจำนวน 5,000 บาทจากการที่บ้านถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 7 วัน เช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ ส่วนที่สองคือเงินช่วยเหลือ เนื่องจากสินค้า อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ซึ่งถือเป็นทรัพย์สิน เสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งจะมีคณะกรรมการฯ พิจารณา โดยให้สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาทครับ
ที่บ้านผมเอง ยังไม่ได้รับเงินทั้ง 5,000 บาทและ 30,000 บาทเลยครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4423 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 20:52:33 » |
|
ข้อมูลน้ำของนครสวรรค์ในวันศุกร์ที่ 18 พ.ย. 2554
มวลน้ำไหลผ่านในวันนี้ 2,185 ลบ.ม./วินาที (189 ล้าน ลบ.ม./วัน) ลดลงจากเมื่อวานนี้ 60 ลบ.ม./วินาที
ระดับน้ำลดลง 12 ซ.ม. โดย 33 วันที่ผ่านมา ระดับน้ำลดลงสะสม 281 ซ.ม.
รวมวันนี้เป็น 34 วัน ระดับน้ำลดลงทั้งสิ้น 293 ซ.ม.
|
|
|
|
|
|