คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ

[เหยง 16]

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกรายงานในเดือนมีนาคม 2554 ที่ผ่านมาว่า

ข้าวนาปี ผลผลิตต่อไร่ อยู่ที่ 403 กก./ไร่
ข้าวนาปรัง ผลผลิตต่อไร่ อยู่ที่ 609 กก./ไร่
ตัวเลขเฉลี่ยของไทย โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐ หรือ USDA อยู่ที่ 2.88 ตันต่อเฮกเตอร์ หรือประมาณ 470 กก./ไร่
และที่ประเทศไทยได้ผลผลิตเยอะมาจากการปลูก 3 ฤดูต่่อปี เพราะมีน้ำอุดมสมบูรณ์ กว่าชาติอื่นเท่านั้น
ส่งผลให้ชาวนาไทยเป็นเสมือนวัวงาน ทำนาตลอดปี สู้กับชาติอื่นที่ปลูกเพียงครั้งเดียวก็ได้เท่าคนไทยปลูกทั้งปี

ซึ่งเป็นตัวเลขข้าวเปลือกที่ต่ำมาก
เมื่อเทียบกับผลผลิตต่อไร่ของจีน ( 6.59 ตันต่อ 1 เฮกเตอร์ หรือประมาณ 1070 กก./ไร่)
เวียตนาม (5.47 ตันต่อเฮกเตอร์ หรือประมาณ 900 กก./ไร่)
สหรัฐ ( 7.89 ตันต่อเฮกเตอร์ หรือประมาณ 1280 กก./ไร่)

ผลผลิตที่ได้แตกต่างกันมาก เนื่องจากเกษตรกรของชาติดังกล่าวพิถีพิถันในการเพาะปลูก ทำการกำจัดวัชพืช
กำจัดหอดเชอรี่ ปลาช่อน ถอนหญ้า ต่างจากไทย ใส่ปุ๋ยเร่งต้นข้าวและวัชพืช ให้โตพร้อมๆกัน
จ้างรถเกี่ยวข้าวทั้งที่ข้าวยังไม่สุกทั้งรวง ผลผลิตจึงลดลงอย่างมาก แต่เอาไปจำนำได้

[เหยง 16]

พูดเรื่องข้าว

ข้าวเปลือก 1 ตันหรือ 1 เกวียน หรือ 1,000 กก. สีแปรสภาพเป็นข้าวสารได้ 660 กก.พร้อม รำ และปลายอีกจำนวนหนึ่ง

USDA แจ้งจากการสำรวจว่า คนไทยในวัยทำงาน รับประทานข้าวสาร คนละ 110-116 กก.ต่อปี

นั่งคือ ข้าวเปลือก 1 เกวียน เลี้ยงคนไทยวัยทำงานได้ 6 คนตลอดทั้งปี

[เหยง 16]

เมื่อวันอังคารที่แล้ว ผมไปตรวจงาน (ศัพท์ราชการเรียกว่า ไปสอดส่อง ครับ)
การสร้างฝายและขุดลอกคลอง เพื่อการเกษตรกรรมในพื้นที่อำเภอตากฟ้า

[เหยง 16]

การก่อสร้างยังไม่เสร็จครับ การลอกคลองยังไม่ถึงจุดสุดท้าย และยังขาดฝายอีกหนึ่งตัว เนื่องจากฝนตกมาก
เกิดดินโคลน จนเครื่องมือหนักจมโคลน  และการเทคอนกรีตทำต่อไปไม่ได้

ภาพที่เห็นเป็นฝายสองตัวแรกที่เทปูนเสร็จแล้ว

[เหยง 16]

ชาวบ้านก็ช่วยตัวเองจากการขาดแคลนน้ำด้วยการสร้างฝายชะลอน้ำ หรือที่เรียกว่า ฝายแม้ว กั้นชะลอน้ำไว้เช่นกัน

[เหยง 16]

แม้"ฝายและการลอกคลอง"จะมีประโยชน์ต่อเกษตรกร
ที่ได้แหล่งน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรกรรม และใช้น้ำเพื่อบริโภคในครอบครัว
ปัญหาคือ มีเกษตรกรจำนวนหนึ่งไม่ยอมเสียสละที่ดินตรงที่คลองผ่าน เพื่อให้การขุดลอกคลองเป็นไปได้อย่างราบรื่น
เกษตรกรที่สายตายาว และเสียสละพากันออกมาให้ความเห็น ข้อเสนอแนะ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชมเชย

[เหยง 16]

ที่สำคัญ ส่วนราชการคือ อบต.อุดมธัญญา และชาวบ้านมีโครงการนำหญ้าแฝก มาปลูกบนคันดิน หลังโครงการเสร็จ
เพื่อป้องกันดินริมตลิ่งพังลงไปในคลอง ซึ่งจะทำให้คลองตื้นเขินขึ้น ถือเป็นปัจจัยในการมีส่วนร่วมของชุมชนด้วย

[too_ploenpit]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 13 มิถุนายน 2554, 12:21:48
	พี่ตู่ มีโครงการ Time Sharing ซึ่งโรงแรมให้เราจ่ายเงินก่อน แล้วหาเวลาไปพักในราคาพิเศษ ฃ่วง Low season แต่ทราบมาว่า มันไม่เวิรก์เพราะโรงงานชายทะเล มักมีแขกเข้าเป็นประจำ อีกทั้งโรงแรมไม่ซื่อสัตย์กับเรา ปฎิเสธเสมอเมื่อเราโทรไปจอง ทำให้เราเบื่อหน่ายและไม่ไป ผลตือเสียเงินฟรี

...เหยงจ๊ะ...

...ที่พัทยาก็มีแบบนี้ค่ะ...เป็นคอนโดเชน...เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วเสียค่าสมาชิกตลอดชีพ 40,000 บาทค่ะ...และโอนสิทธิ์ให้ทายาทได้ด้วย...

...แต่เดี๋ยวนี้ทราบว่า...คอนโดที่ว่าไม่มีการขายแบบนี้แล้วค่ะ...

...ปีนึงพักได้ 7 วัน...แต่ให้มาวันธรรมดาค่ะ...ถ้าวันศุกร์,เสาร์,อาทิตย์...ก็ต้องไม่ใช่หน้าทัวร์...

...หรือถ้ามีแขกหรือขายห้องได้แล้ว...สมาชิกก็มาพักไม่ได้ค่ะ...

...คอนโดที่พี่ตู่ซื้อไว้...ก็ให้คนเช่าได้ค่ะ...แต่ต้องทำสัญญาปีต่อปี...ถ้าเราจะให้เค้าเป็นคนหาแขกให้...

...แต่สัญญามีว่า...เราสามารถมาพักได้...วัน...เท่าไรจำไม่ได้แล้วค่ะ...แต่น้อยมาก...เลยไม่ตกลงค่ะ...

...หมอบอกว่าเก็บไว้เฉยๆดีกว่าค่ะ...

[เอมอร 2515]

สวัสดีตอนเช้า ค่ะ พี่ตู่ น้องเหยง

[เหยง 16]

สวัสดีครับ พี่ตู่, พี่'อร

เซ็นทรัล โทรไปหาผมบ่อย เรื่อง Time Sharing โดยยกโรงแรมที่หัวหินเป็นจุดหลัก แต่พักนี้ซาไป
เนื่องจาก เซ็นทรัลลาดพร้าว มีปัญหากับผู้ซื้อเวลาและของหายจากในห้อง (น่าจะเป็นปีที่แล้ว ??) 
แต่เงื่อนไขไม่น่ารับครับ โรงแรมเกรดเดียวกันที่หัวหินก็มีเยอะ เช่าห้องพักเลยดีกว่า หากไม่มีก็ไปหาโรงแรมอื่น

[เหยง 16]

ฝนที่ตกและอากาศหนาวเย็นทำให้ต้นไม้ออกดอกผิดเวลา โดยเฉพาะต้นคูณ ที่ดอกเริ่มโรยราไปแล้ว



ปกติ ต้นคูณออกดอกในเดือนมีนาคม-เมษายน จากนั้นต้นตะแบก, อินทนินน้ำ และชมพูบริพัตร จะออกดอกตาม
แต่ปีนี้กลับกัน โดยต้นคูรมาออกดอกในปลายเดือนเมษายน-พฤษภาคม-ต้นเดือนมิถุนายน ดอกเพิ่มโรย

[เหยง 16]

26 มีนาคม วันสถาปนาจุฬาฯ ดอกวาสนาดอกดอก เพราะอากาศหนาวเย็นในช่วงนั้น
ซึ่งก่อนหน้านั้นก้ออกดอกไปแล้วครั้งหนึ่ง

และที่ทราบว่าต้นวาสนาออกดอก เพราะกลิ่นของต้นจะหอมมาก ในช่วงค่ำๆ ฟุ้งกระจายไปรอบๆ บ้านเลย

[เหยง 16]

วันนี้ขอต่อเรื่อง เมืองประจวบคีรีขันธ์ เมืองสามอ่าว ที่สวยงาม
ซึ่งหากต้องการชมอ่าวสามอ่าว ก็ตรงไปที่ศาลากลางจังหวัด ซึ่งเป็นจุดสุดทางเมื่อเลี้ยวเข้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
สุดทางคือที่ตั้งของศาลากลาง หลังคาสีน้ำเงิน ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะพบที่จอดรถของวัดธรรมิการาม
หากเลี้ยวขวาจะผ่านศาลหลักเมือง วัดเขาหลัก ตรงสุดทางคือ ทางเข้ากองบิน 5


วัดธรรมมิการาม

[เหยง 16]

วัดธรรมิการาม มีที่จอดรถกว้างขาวง มีแม่ค้าล๊อตตารี่ น้ำขวด ผลไม้ทั้งสดและแช่อิ่ม รวมทั้งอาหารเลี้ยงลิง




เห็นอยู่บนยอดเขาคือ จุดที่เราจะเดินขึ้นไปสักการะรอยพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งมีทางขึ้นอยู่ 396 ขั้น และมีทางขึ้น 2 ทาง

[เหยง 16]

ทางที่สอง อยู่เลยไปสัก 200 เมตร และเห็น "เขาช่องกระจก" ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ช่องทางนี้กลับไม่ค่อยมีใครใช้ขึ้นเม่าใดนัก เนื่องจากที่จอดรถไม่ค่อยสะดวกเท่าจุดแรก

[เหยง 16]

ผมจึงเลือกช่องทางแรก ในการเดินขึ้นไปบนยอดเขาแทน โดยมีแม่ต้าขายอาหารลิง เดินติดตามขึ้นไปด้วย
เนื่องจากเป็นวันธรรมดา นักท่องเที่ยวมีไม่มาก และผมใม่ซื้ออาหารเลี้ยงลิงและถือขึ้นไปเอง
เนื่องจากแม่ค้าหลายๆคน บอกเอาไว้ว่า อาหารควรเก็บให้มิดชิด เพราะลิงตัวใหญ่อาจเข้ามาแย่งอาหารกับมือได้
เพราะช่วงนี้เป็นหน้าแล้ง บรรดาอาหารตามต้นไม้ไม่มีออกผลให้เก็บ รวมทั้งน้ำ
พวกที่หิวโซ สามารถจะทำอะไรก็ได้ เพื่อให้ได้อาหาร
แม่ค้ายังต้องเก็บอาหารใส่เป้หลัง จะถือเฉพาะที่เสนอขายให้เท่านั้น

[เหยง 16]

อาหารสำหรับเลี้ยงลิง ควรจะเป็นอาหารเม็ดแบบอาหารเลี้ยงสุนัข เพราะได้จำนวนมากกว่า
เวลาโปรยออกไป ทำให้ลิงทั้งตัวใหญ่-ตัวเล็ก ได้เก็บกินทุกตัว
หากให้เป็นกล้วยหั่นครึ่ง ถุงหนึ่งจะมีเพียง 8-10 ชิ้น ลิงตัวใหญ่เก็บไปอมไว้ที่กระพุ้งแก้ม (แก้มลิง)
ตัวเล็กอด เพราะแย่งไม่ทัน และกลัวลิงใหญ่

พักดูบรรยากาศรอบข้าง

[เหยง 16]

อ่าว และศาลากลาง

[เหยง 16]

วัดธรรมิกการามในมุมสูงขึ้น

[เหยง 16]

ศาลากลางทาง มีลิงอีกฝูงหนึ่งเฝ้าอยู่
ศาลาไม่สามารถพักได้ เพราะกลิ่นฉี่ของลิง

[เหยง 16]

วัดธรรมิกการามในมุมที่สูงขึ้นไปอีก

[เหยง 16]

อ่าว และศาลากลาง

[เหยง 16]

เดินขึ้นบันไดต่อ



ใกล้ความจริงแล้ว ที่หมายคือประตูข้างหน้า




ป้ายบอกจำนวนขึ้นบันได 396 ขั้น ติดอยู่กับตัววิหาร

[เหยง 16]

วัดธรรมมิการามในมุมสูงขึ้นไปอีก

[เหยง 16]

ต้นโพธิที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชินีนาถ ทรงปลูกเมื่อคราวเสด็จขึ้นมาบนวิหารแห่งนี้
อยู่ด้านขวามือของประตู