คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ

[เหยง 16]

ในขณะที่เกษตรกรชาวนาต้องโหมปลูกข้าวนาปรังช่วงหน้าหนาวนี้อย่างแน่นอน และมีผลให้ต้องใช้น้ำจำนวนมาก และผลผลิตข้าวจะออกสู่ตลาดในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2554

                                 ฯลฯ
เร่งระบายน้ำเพื่อปลูกข้าว
    สถานการณ์ทั่วประเทศอุทกภัยทั่วประเทศ ทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มภาคกลางจะลดลงทั้งหมดสิ้นเดือนพ.ย.นี้ ถนนคงจะโผล่หมด อย่างไรก็ตามในพื้นที่ทุ่งภาคกลาง ประมาณกลางเดือนธันวาคมจะเข้าสู่ปกติ ทั้งนี้ที่ลุ่มต่ำในทุ่งบางปะหัน ทุ่งเจ้าเจ็ด –บางยี่หน จะลดลงช้ามาก อาจจะท่วมไปถึงกลางเดือนมกราคม ซึ่งกรมชลประทานจะเร่งเข้าไประบายน้ำออกจากพื้นที่ทุ่งนา เพื่อให้น้ำลงลดภายในกลางเดือนธันวาคม ชาวนาจะได้เริ่มฤดูการทำนาได้เร็วขึ้น

เชื่อโหมปลูกข้าวเพื่อชดเชย
    “กรมชลฯจะเร่งระบายน้ำให้คันนาโผล่ เพื่อหว่านข้าวได้ทันทีในพื้นที่ชลประทาน 9 ล้านไร่ เชื่อว่าชาวนาจะโหมปลูกข้าวมากขึ้น เพราะสูญเสียมาเยอะจากภัยแล้งและน้ำท่วม คาดว่าจะขยายพื้นที่ปลูกไปมากถึง 19 ล้านไร่ หากปลูกกันมากเหมือนที่ผ่านมาจะดึงเอาน้ำสำรองในเขื่อนต่างๆ มาใช้จนหมดอีก จึงขอเตือนชาวนาให้ปลูกข้าวปีละ 2 ครั้งเท่านั้น เพื่อกันน้ำไว้ใช้หน้าแล้งด้วย เพราะปัญหาภัยธรรมชาติมาเร็วขึ้น ปีนี้จะเป็นบทเรียนที่ดีให้เห็นว่าภัยธรรมชาติรุนแรงมากขึ้น ทั้งน้ำป่า น้ำท่วม น้ำแล้ง มาจากการทำลายธรรมชาติของประชาชน และการต่อต้านของเอ็นจีโอที่หากินกับความยากจน และขวางกั้นการพัฒนาแหล่งน้ำ

                                  ฯลฯ

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=420&contentID=104089

[เหยง 16]

และนี่เจอกันเป็นประจำ....และไม่มีแนวโน้มว่าจะเลิกด้วย

                                         ฯลฯ
ข้องใจถุงยังชีพ-ช้าแถมน้อย
    จากเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ จ.ยะลา ที่ผ่านมา โดยเฉพาะหมู่บ้านริมตลิ่งแม่น้ำสายบุรี  ตลอดแนวยาวตั้งแต่ ต.บาลอ ซึ่งมีเขตติดต่อกับ ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เรื่อยมาผ่าน ต.ตะโล๊ะหะลอ ต.กายูบอเกาะ ต.อาซ่อง ต.เกะรอ ต.ท่าธง และลงปากอ่าวแม่น้ำสายบุรีที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทำให้ผู้ที่อาศัยตามหมู่บ้านริมตลิ่งได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมเป็นจำนวนมากนั้น
   
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ ต.อาซ่อง มีข้อข้องใจกับการแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคหรือถุงยังชีพของทางราชการ ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยคือ 1.การแจกจ่ายถุงยังชีพมีความล่าช้า โดยมาแจกในช่วงหลังน้ำลดแล้ว 3 วัน และ 2.มูลค่าของที่นำมาแจกมีมูลค่าไม่เกิน 200 บาท (ข้าวสาร 5 กก. ปลากระป๋องราคาถูก 5 กระป๋อง บะหมี่ 5 ซอง และน้ำดื่มขนาด 0.6 ลิตร 12 ขวด) ในขณะที่ ผวจ.ยะลา ประกาศว่าของแจกต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 400–500 บาท จึงขอให้มีการสอบสวนกรณีที่เกิดขึ้นด้วย เพราะเกรงว่าเกิดการไม่โปร่งใส
                                         ฯลฯ

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=420&contentID=104089

[เหยง 16]

ข่าวเกี่ยวกับจุฬาฯ

จุฬาฯวางแผนแม่บทมาตรฐานป้องกันน้ำท่วม
15 พย. 2553 17:22 น.


เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่อาคารจามจุรี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดแถลงข่าว การแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนในเชิงวิชาการ โดยมี ศ.นพ.ภิรมย์ กลมรัตนกุล อธิการบดีจุฬาฯ , ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล อาจารย์หน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ,ผศ.ดร.สมบัติ อยู่เมือง หัวหน้าศูนย์วิจัยภูมิสารสนเทศเพื่อประเทศไทย ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ,รศชัยยุทธ สุขศรี ภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์, ศ.ดร.เฉลิมชนม์ สถิระพจน์ นักวิจัยในโครงการศึกษาเรื่องการเคลื่อนตัวทางดิ่งของแผ่นดินและการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลในอ่าวไทยด้วยเทคโนโลยีอวกาศจากโครงการวิจัยร่วมไทย-ยุโรป ภาควิชาวิศวกรรมสำรวจ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และผศ.ดร.พงศ์ศักดิ์ วัฒนสินธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อม จุฬาฯ ร่วมแถลง

ศ.นพ.ภิรมย์ กล่าวว่าปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จุฬาได้มีการประชุมคณาจารย์ นักวิจัย ที่มีประสบการณ์และดำ เนินการเกี่ยวกับการปัญหาน้ำท่วมของประเทศ เพื่อรวบรวมข้อมูลและระดมสมองหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา ซึ่งที่ผ่านมา จุฬาฯได้จัดทรัพยากรบุคคลลงพื้นที่ในการช่วยเหลือประชาชน ทั้งในส่วนของจ.นครราชสีมา อยุธยา และพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงเข้าไปมีส่วนร่วมในหน่วยงาน แต่การช่วยเหลือดังกล่าวเป็นเพียงระยะสั้น จุฬาฯ เป็นมหาวิทยาลัยที่มีความพร้อมทั้งในด้านบุคากร วิชาการในทุกๆแง่ และตามวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยในการเป็นเสาหลักของแผ่นดิน จึงได้การจัดการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วม และแนวทางการดำเนินงานแก้ไขปัญหาในระยะยาว

ด้าน ศ.ดร.ธนวัฒน์ กล่าวว่าน้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากสภาพแปรปรวนของภูมิอากาศแบบผกผันของประเทศไทยที่สภาพฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล รูปแบบฝนตกได้เปลี่ยนไปจากอดีต บางครั้งฝนตกมาก บางครั้งฝนตกก็ทิ้งช่วงเป็นเวลานานๆ จากการศึกษาแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาชั้นนำของโลก พบว่าในอนาคตสภาพความแปรปรวนของภูมิอากาศจะมีความถี่ที่เพิ่มมากขึ้น และอาจก่อให้เกิดปัญหากับประเทศไทยเพิ่มหลายเท่าตัว ส่งผลให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งระบบทำได้ยากขึ้น โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของประเทศไทย อย่าง การสร้างเขื่อน เป็นการแก้ปัญหาที่โครงสร้าง ทำให้ยิ่งแก้เหมือนเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น

ดังนั้นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแบบบูรณาการต้องพิจารณาข้อมูลหลายมิติ และมีมาตราการเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในอนาคตคือ
1. ควรเร่งวางแผนแม่บทมาตรฐานการป้องกันน้ำท่วมโดยใช้สิ่งก่อสร้าง
2. ควรมีแผนพัฒนากรุงเทพฯและเมืองบริวารในอนาคต
3. มีมาตราการควบคุมการใช้น้ำบาดาลเพื่อลดปัญหาแผ่นดินทรุด
4. เร่งปรับปรุงระบบเตือนภัยล่วงหน้าและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งระบบ
5. ควรมีมาตราการควบคุมการใช้ที่ดินและผังเมืองโดยใช้แผ่นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม
6. ควรมีมาตราการจัดเก็บภาษีน้ำท่วมและการประกันภัย เพื่อจัดตั้งกองทุนชดเชยน้ำท่วม

ส่วนอุโมงค์กันน้ำของกทม. เป็นการป้องกันน้ำท่วมที่แตกต่างจากการสร้างเขื่อน และป้องกันน้ำฝนที่จะตกมาจากฟ้า จึงถือเป็นการป้องกันปัญหาน้ำท่วมที่ควรจะดำเนินการ

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=479742&lang=T&cat=

[ดร.มนตรี]

สวัสดีครับพี่เหยง ... และทุกท่าน

		อ้างถึง			ข้อความของ เริง2520 เมื่อ 02 พฤศจิกายน 2553, 09:26:11
	ท่านมนตรี   ยินดีด้วยกับการเป็นผู้แทนประเทศไทย(ถึงไม่ใช่ก็ใช่) ทำให้ดีที่สุดนะ

ขอบพระคุณครับพี่เริง ...

Slide ที่เตรียมไป บรรยาย แชร์ความรู้กัน ... เอาแผนที่ประเทศไทยขึ้นก่อนเลย ครับ  :  

Theme ของ Slide ... แดง ขาว น้ำเงิน ... สีธงชาติไทย  

"ไม่ต้องรู้หรอกว่า คนบรรยายเป็นใคร ... แค่รู้ว่าเป็นคนไทย ก็พอ"  

[เริง2520]

ท่านมนตรี
 
 ท่านทำได้แน่นอนและพอจะเข้าใจความรู้สึกนี้  เหมือนที่ผมเคยมีมาแล้วเมือได้ไปอบรมต่างประเทศ เพราะป้ายข้างหน้าที่นั่งเขียนว่า  THAILAND

[ดร.มนตรี]

		อ้างถึง			ข้อความของ เริง2520 เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 11:05:19
	ท่านมนตรี    ท่านทำได้แน่นอนและพอจะเข้าใจความรู้สึกนี้  เหมือนที่ผมเคยมีมาแล้วเมือได้ไปอบรมต่างประเทศ เพราะป้ายข้างหน้าที่นั่งเขียนว่า  THAILAND

เยี่ยมครับ พี่เริง ... ผมก็คล้ายพี่เริงเลยครับ ...

นี่เลยครับ หลักฐาน ... ก่อนนั่งประชุม เจอป้าย THAILAND จึงถ่ายเก็บไว้ ... ^_^

[ดร.มนตรี]

บรรยากาศที่ สิงคโปร์ เมื่อปี 2009 ...

[ดร.มนตรี]

บรรยากาศที่ ไทเป - ไต้หวัน  เมื่อ เม.ย. 2010 ...

[ดร.มนตรี]

ทุกครั้งที่ขึ้นพูดในต่างประเะทศ ...จะใช้ Theme สี ธงชาติไทย  


ปล.

เล่าสู่กันฟัง ตามประสาพี่น้อง นะครับ ไม่ได้คิดจะอวดอ้างสรรพคุณ เพื่อ เครดิต  ใดๆ ทั้งสิ้น ... << ออกตัวไว้ก่อน  

[เหยง 16]

ดีครับ..พี่เห็นด้วย

[ดร.มนตรี]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2553, 19:11:57
	"คลินตัน"ห่วงไทยจมบาดาล วันเสาร์ ที่ 13 พฤศจิกายน 2553 เวลา 0:09 น   "คลินตัน" ห่วงไทยจมน้ำ หนุนปลูกป่าทดแทน ลดปล่อยก๊าซ

บังเอิญเกิดอยากรู้ขึ้นมาว่า ค่าตัวคลินตัน ต้องจ่ายเท่าใด ?? ...

พบว่า ...

การบรรยาย 45 นาที มีค่าตัว = 4 แสนเหรียญ หรือประมาณ 12 ล้านบาท ...

โดยไม่รวม ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่ารักษาความปลอดภัย และ ฯลฯ

[ดร.มนตรี]

จึงคิดต่อไปเล่นๆ ครับ ... ( โดยไม่ได้เปรียบเทียบกับ คลินตัน นะครับ เพราะมันคนละเรื่องกัน )



การจัดการประชุม WiMAX Forum ของ สิงคโปร์ ... ไต้หวัน และ มาเลเซีย ...  

เขามีรายจ่ายให้ผู้บรรยาย ... ดังนี้

- ค่าเดินทาง + ที่ัพัก =  500 - 1,000 เหรียญ (ประมาณ 15,000 - 30,000 บาท)
- ค่าบรรยาย 45 นาที - 60 นาที =  1,500 - 2,000 เหรียญ (ประมาณ 45,000 - 60,000 บาท)

รวมรายจ่ายที่จ่ายให้ผู้บรรยาย 1 คน = 60,000 - 90,000 บาท


>> แต่เขามีรายได้โดยเก็บค่าเข้าฟังการบรรยาย ต่อคน

ตั้งแต่ 1,695 - 2,495 เหรียญ (ประมาณ 50,850  -  74,850 บาท)

รายได้จากค่า นิทรรศการ  สปอนเซอร์ ฯลฯ


>> แบบนี้เรียกว่า เศรษฐกิจบนฐานความรู้ จริงๆ ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งความรู้

อนาคต ... น่าจะจัดที่ประเทศไทยบ้างจัง  

[ดร.มนตรี]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 12:26:12
	ดีครับ..พี่เห็นด้วย

ครับผม ... เลยทำห้องพี่เหยง เลอะเทอะ เลยครับ ^_^

[เหยง 16]

ดร.มนตรี

ไม่เลอะเทอะหรอก..เราเอาความจริงมากล่าวกัน เพื่อเปิดวิสัยทัศน์
คลินตันเป็นอดีตประธานาธิบดี เลยได้ค่าตัวสูง และ ปตท.ยินดีจ่ายให้อยู่แล้ว...ปตท.กำไรเละเทะนี่ครับ

[ดร.มนตรี]

เข้ามาสวัสดีพี่เหยง ... ก่อนครับ

เดี๋ยววันนี้ - พรุ่งนี้ มีประชุมยาว ตลอดวัน มะรืนนี้ บินไปมาเลย์ แล้วต่อยุโรป

สวัสดีล่วงหน้าไว้ หลายๆ วันเลยนะครับ    

[เหยง 16]

ดร.มนตรี

เดินทางปลอดภัยครับ และให้งานสำเร็จตามที่มุ่งหวัง

[เหยง 16]

เช่นกัน อีกสักพักใหญ่ จะออกเดินทางไปเยี่ยมแม่และญาติที่จังหวัดนครปฐมครับ
พร้อมๆกับการสำรวจพื้นที่ปลูกข้าวโพดที่เสียหายเพราะน้ำท่วม ในเขตจังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม ราชบุรี ไปด้วย
จากนั้นวันศุกร์ที่ 19 จะเข้ากรุงเทพไปร่วมงาน "จุฬาฯ 5 5 ฮ่า" ที่หอประชุมจุฬาฯ ช่วงบ่ายสาม
วันเสาร์ที่ 20 เดินทางกลับนครสวรรค์ครับ

หากมีโอกาสในช่วงเวลาดังกล่าว จะเข้าเว็ปมาทักทายทุกคนครับ

[เหยง 16]

สวัสดีครับ

พอมีเวลาทักทายในเว็ป โดยอาศัยเครื่องคอมพ์ที่อื่น
เมื่อวานนี้เดินทางผ่านสุพรรณบุรี โดยเส้นทางอู่ยา-สวนแตง-อู่ทอง-กำแพงแสน-นครปฐม
อู่ยา-สวนแตง-อู่ทอง ไร่นายังจมน้ำอยู่ ลักษณะน้ำนอนคือคันนาขวางน้ำเอาไว้ น้ำจึงไม่ลดลง
พืชไร่ เช่น ข้าวโพด อ้อย, นาข้าว และปลงผักเสียหายทั้งหมดครับ....น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับจังหวัดที่ฝนไม่ได้ตกหนัก แต่ต้องจมน้ำเพราะระบบการระบายน้ำที่ย่ำแย่ ผันน้ำไปสร้างความเสียหายให้
ส่วนกำแพงแสนไม่เป็นอะไร แต่อำเภอดอนตูม บางเลน พุทธมณฑล และนครชัยศรี ที่ซึ่งแม่น้ำนครชัยศรีผ่านก็แย่หน่อยครับ

[เหยง 16]

พรุ่งนี้ 9 โมงเช้าจะเข้าไปในจุฬาฯ เนื่องจาก รุ่น 2516 จะจัดพิธีบวงสรวงล้นเกล้าฯ สองรัชกาล

จากนั้น บ่ายสามจึงจะเข้าไปร่วมงานอีกหนหนึ่งครับ

[เหยง 16]

สวัสดีครับ

เพิ่งกลับจากงาน จุฬาฯ 16  5 5 ฮ่า มาเมื่อประมาณเกือบๆเที่ยงคืน
ซึ่งงานเลิกไปเมื่อเวลาประมาณ 21.40 น. เมื่อเป็นเวลาที่ สมเด็จพระเทพฯ ท่านเสด็จกลับ
พวกเราที่ยังไม่ได้พบกันจึงนั่งคุยกันต่อ ในขณะที่พนักงานเก็บโต๊ะ ทำความสะอาด ต่างก็ทำกันไป
ที่ผมนั่งอยู่มี ต้อย-ทัศนีย์ และคุณอวยพร นั่งร่วมวงเป็นชุดสุดท้าย
ภาพและเรื่องราวจะนำมาเล่าสู่กันฟังในโอกาสต่อๆไปครับ

[เหยง 16]

ขณะนี้ 10.30 น. เล็กน้อย
จะเดินทางกลับนครสวรรค์แล้วครับ
พบกันตอนเย็นๆของวันนี้ นะครับ

[เหยง 16]

เรียนทุกท่าน

กลับถึงนครสวรรค์ช่วง 15.30 น.พอดีครับ

[เหยง 16]

ประมาณเที่ยงเศษๆ ผมขับรถไปถึง ปั๊ม Esso ตรงทางแยกเข้าตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา
แวะเข้าไป เพื่อไต่ถามถึง จู-วราภรณ์ ซึ่งพนักงานที่นั่นให้ขับรถเข้าไปที่บ้าน ซึงอยู่หลังปั๊มนั่นเอง

[เหยง 16]

กดออด บีบแตรรถยนต์เรียกอยู่กว่า 15 นาที ก็ไม่ปรากฎการตอบสนอง ด้วยกลอนประตูรั้วล๊อคทุกตัว
ที่สุดจึงเขียนโน๊ตแจ้งถึง ความคิดถึงของเพื่อนๆ รวมทั้งการไม่พบหน้าในงาน"จุฬาฯ16  5 5 ฮ่า" แปะไว้ที่ประตูรั้ว
และขับรถออกไปบอกพนักงานที่ปั๊มไว้ว่า ไม่มีใครเปิดประตูออกมา แม้จะกดออดหรือบีบแตรรถยนต์เรียกแล้วก็ตาม
จากนั้นจึงขับรถกลับนครสวรรค์ต่อ

และประมาณเวลา 14.02 น. จิ๋ม-วนิดา ได้โทรถามว่าเดินทางกลับแล้วหรือยัง
ผมจึงได้เล่าเรื่องไปหา"จู"ให้ทราบ จากนั้นก็เดินทางต่อและถึงนครสวรรค์ประมาณสามโมงครึ่งครับ

[เหยง 16]

ขออนุญาต สะสางงานค้างสักครู่ เดี๋ยวจะกลับมาโพสต์ภาพและข้อความต่อครับ