22 พฤศจิกายน 2567, 21:41:08
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 28 29 [30] 31 32 ... 472   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ  (อ่าน 2589788 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #725 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2553, 08:34:05 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 23 ตุลาคม 2553, 22:10:06
อ้างถึง
ข้อความของ มีนา เมื่อ 23 ตุลาคม 2553, 15:00:35
น้องเหยง พี่ดูรายการปิยมหาราชานุสรณ์ ช่อง 9 มีภาพประกอบเพลงถ่ายที่คณะต่างๆ

..รัฐ  ขึ้นภาพพี่ดวงใจ ดีเทศน์
..เภสัช จิรนันท์ พิตรปรีชา
..บ/ช  เป็นท่านอดีตอธิการบดีหญิง จำไม่ผิดน่าจะนามสกุล กีระนันทน์
..วิศวะ นึกชื่อไม่ออก เคยเป็นโฆษก กท.สธ. เห็นตัวจริงในงานกระทรวง พี่เขาแต่งตัวเท่มาก บุคลิกเชื่อมั่นตัวเองดี


 ยังสงสัยต้องถามเหยง จิรนันท์ จบเภสัช เหรอคะ


พี่ครับ ปกติ รายการ "23 ตุลา ปิยมหาราชนุสรณ์" จะมีตรงวันมิใช่หรือ นี่ผมรอดูอยู่ครับ แต่กลับมีรายการ KPN Award

..ได้ดูโดยบังเอิญ เมื่อวานนี้(23 ต.ค.) หมุนเปลี่ยนไปช่อง 9 ประมาณบ่ายโมงกว่า เห็นพี่ตู้ จรัสพงษ์ กับ วสุ จิ๊บ ร.ด. เป็นโฆษก

..วันที่ 18 ต.ค. ไปงานจุฬา-ชล  รู้เพียงว่าจะมีออกทีวีรับบริจาควันปิยะ  ยังคิดว่าเป็นช่วงกลางคืน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #726 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2553, 12:53:25 »

เพิ่งกลับไปอ่านข่าวจากเว็ปของ สนจ. พบว่าเปลี่ยนเวลาออกรายการเป็นช่วงเที่ยวของวันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม ผิดกับทุกปีที่จัดช่วง 22.00 น. เป็นต้นไป ที่ช่อง 9
ปัญหาน่าจะมาจาก Reality Show ของช่อง 9 นั่นเอง เป็น KPN Award ซึ่งต้องมีทุกเสาร์-อาทิตย์, ดึกนัก..ไม่มีใครชมหรอกครับ!!
เดี๋ยวนี้เงินง้างได้ทุกอย่าง..แล้วมัน(ช่อง 9)จะพูดเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ ไปทำไมกัน ??
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #727 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2553, 13:13:58 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 14 ตุลาคม 2553, 21:00:02
กลับจาก เซียงกง-รังสิต ใกล้ๆตลาดไท แล้วครับ

ไปดูเครื่องยนต์สำหรับรถตักล้อยาง Komatsu 510 Play Loader ซึ่งผิดหวังมีเครื่องเก่าเพียงตัวเดียวและคนละรุ่นกัน

บ่ายหน้าไป เซียงกง-วังน้อย พบว่ามีอยู่ 3 เครื่องและใช้ได้ดี 1 เครื่อง จึงซื้อกลับมาครับและเพิ่มถึงเดี๋ยวนี้เอง


 
เพิ่งฟิตเครื่องใหม่ที่ไปซื้อจาก "เซียงกง วังน้อย" และประกอบเข้าจนใช้การได้แล้วครับ

เพิ่มเติม: ที่สามารถใช้ได้ ก็เพราะเราใช้หัวหมูและไฟน์วินตัวเดิมประกอบเข้ากับปลายของเครื่องยนต์ตัวใหม่ ซึ่งส่วนนี้จะเป็นตัวไปหมุนเกียร์ให้ทำงาน
เมื่อใช้ตัวเดิมประกอบเข้าไป ทุกอย่างเป็นอันใช้ได้ เพราะเครื่องยนต์เขาสร้างมาในบล็อกเดิม ขนาดต่างๆจึงเข้ากันได้ทั้งหมด




เครื่อง 510 ถูกแทนที่ด้วยเครื่อง 105-5 ไปด้วยกันได้เป็นอย่างดี แต่ราคาแพงกว่ากันถึง 65,000 บาทจาก 43,000 บาท
ใครที่มีปัญหารถตักล้องยาง Komatsu 510 Playloader ใช้เครื่อง 510 จะเปลี่ยนใช้เครื่อง 105-5 ก็ได้ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #728 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2553, 13:23:59 »

สภาพน้ำท่วมในแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าตลาดปากน้ำโพ ณ เวลา 9.15 น. วันนี้ครับ

 

ระดับน้ำเหลืออีก 3 ขึ้นบันได จึงจะเริ่มเท่ากับระดับพื้นผิวถนนในตลาดปากน้ำโพ และถ้าสูงกว่านั้นคือเริ่มท่วมครับ



ภาพเปรียบเทียบระหว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา กับพื้นผิวถนนเลียบแม่น้ำ หน้าตลาดสดปากน้ำโพ



ภาพไกล มองเห็นศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์ ซึ่งจมน้ำไปประมาณศอกเศษๆ แล้ว
มีข้อดีในครั้งนี้คือ น้ำจากลุ่ม"น้ำยม-น่าน" ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำท่วม ซึ่งก็คือ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย แพร น่าน ไม่มีปัญหาเรื่องฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมในพื้นที่นี้ จึงไม่มีน้ำหลากลงมาผสมกับน้ำจากลุ่ม"น้ำปิง-วัง"ที่ย่ำแย่อยู่ในขณะนี้

      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #729 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2553, 14:53:44 »

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=NYScoN8V5dw" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=NYScoN8V5dw</a>
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #730 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2553, 18:16:35 »



อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 24 ตุลาคม 2553, 14:53:44
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=NYScoN8V5dw" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=NYScoN8V5dw</a>

 ...  หึหึ รักนะ รักนะ รักนะ   sing

 ขอบคุณครับ  sorry
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #731 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 10:14:00 »

ขอบคุณพี่ป๋อง และขอบใจ ดร.มนตรี ครับ

สำหรับเพลงที่โพสต์ปลอบใจคนปากน้ำโพ ซึ่งหลายๆ คน กำลังทุกข์หนักกับภัยน้ำท่วมในขณะนี้

ข่าวมาเพิ่มเติมว่า ระดับน้ำหน้าตลาดเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากน้ำเหนือจากแม่น้ำปิงไหลลงมาสมทบ ในขณะที่การปล่อยน้ำที่เขื่อนชัยนาทค่อนข้างอืด เนื่องจากน้ำทะเลเริ่มขึ้นขึ้นมาแล้ว และมีผลถึงวันที่ 27 นี้ น้ำจะท่วมทั้งตลาด รวมทั้งที่บ้านหรือไม่กำลังติดตามอยู่ครับ
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #732 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 10:37:19 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 23 ตุลาคม 2553, 21:20:42
อ้างถึง
ข้อความของ มีนา เมื่อ 23 ตุลาคม 2553, 15:00:35
น้องเหยง พี่ดูรายการปิยมหาราชานุสรณ์ ช่อง 9 มีภาพประกอบเพลงถ่ายที่คณะต่างๆ

..รัฐ  ขึ้นภาพพี่ดวงใจ ดีเทศน์
..เภสัช จิรนันท์ พิตรปรีชา
..บ/ช  เป็นท่านอดีตอธิการบดีหญิง จำไม่ผิดน่าจะนามสกุล กีระนันทน์
..วิศวะ นึกชื่อไม่ออก เคยเป็นโฆษก กท.สธ. เห็นตัวจริงในงานกระทรวง พี่เขาแต่งตัวเท่มาก บุคลิกเชื่อมั่นตัวเองดี


 ยังสงสัยต้องถามเหยง จิรนันท์ จบเภสัช เหรอคะ


พี่จิรนันท์ พิตรปรีชา ระหัส 15คณะเภสัชฯ และเป็นดาวจุฬาฯ ปี 2515 ก่อน ติ๋ม-จันทร์ฉาย สิงหนายก ครุ & RCU16
หลังเกิดวิกฤติการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ได้ตัดสินใจเข้าป่า โดยอยู่ในเขตงานพิษณุโลก - เพชรบูรณ์ - เลย
และในช่วงนั้นจึงมีคู่ชีวิตคือ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
ออกจากป่าในสมัย พลเอกสายหยุด เกิดผล โดยออกจากป่าในเขตงานที่อำเภอลานสัก อุทัยธานี พร้อมคุณเสกสรรค์
จากนั้นได้รับทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศพร้อมคุณเสกสรรค์
พี่จิรนันท์ ชอบงานกวีและได้รับรางวัลซีไรต์ แต่ผมจำชื่องานที่ได้รับรางวัลไม่ได้
ลูกชายของพี่จิรนันท์-คุณเสกสรรค์ ได้เหรียญทองโอลิมปิคในการแข่งขันระดับชาติด้วย(จำไม่ได้อีกเช่นกันว่าสาขาไหน??)
และเราคงต้องถือว่า พี่จิรนันท์ เป็นชาวจุฬาฯ อย่างเต็มความภาคภูมิครับ
...จิรนันท์  พิตรปรีชา...ได้รางวัลซีไรท์ปีไหนจำไม่ได้ค่ะ...จากผลงานชื่อ...ใบไม้ที่หายไป...
...เป็นหนังสือกวีรวมเล่ม...พี่ตู่ก็มีอยู่เล่มนึงค่ะ...หน้าปกถ้าจำไม่ผิดเป็นรูปใบเมเปิลสีส้มๆค่ะ...
...ตอนนี้ก็กำลังหาอยู่ว่าไปเก็บไว้ที่ไหนค่ะ...
...เนื่องจากว่าเป็นคนที่ชื่นชอบคุณจิรนันท์มาก...ได้เห็นเธอจากการเป็นพิธีกรรายการนึงที่หอประชุมจุฬาฯตอนเธอเป็นน้องใหม่ค่ะ...
...สวย...มีเสน่ห์...และน่ารักมากค่ะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #733 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 10:44:32 »

อ้างถึง
ข้อความของ มีนา เมื่อ 24 ตุลาคม 2553, 08:34:05
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 23 ตุลาคม 2553, 22:10:06
อ้างถึง
ข้อความของ มีนา เมื่อ 23 ตุลาคม 2553, 15:00:35
น้องเหยง พี่ดูรายการปิยมหาราชานุสรณ์ ช่อง 9 มีภาพประกอบเพลงถ่ายที่คณะต่างๆ

..รัฐ  ขึ้นภาพพี่ดวงใจ ดีเทศน์
..เภสัช จิรนันท์ พิตรปรีชา
..บ/ช  เป็นท่านอดีตอธิการบดีหญิง จำไม่ผิดน่าจะนามสกุล กีระนันทน์
..วิศวะ นึกชื่อไม่ออก เคยเป็นโฆษก กท.สธ. เห็นตัวจริงในงานกระทรวง พี่เขาแต่งตัวเท่มาก บุคลิกเชื่อมั่นตัวเองดี


 ยังสงสัยต้องถามเหยง จิรนันท์ จบเภสัช เหรอคะ


พี่ครับ ปกติ รายการ "23 ตุลา ปิยมหาราชนุสรณ์" จะมีตรงวันมิใช่หรือ นี่ผมรอดูอยู่ครับ แต่กลับมีรายการ KPN Award

..ได้ดูโดยบังเอิญ เมื่อวานนี้(23 ต.ค.) หมุนเปลี่ยนไปช่อง 9 ประมาณบ่ายโมงกว่า เห็นพี่ตู้ จรัสพงษ์ กับ วสุ จิ๊บ ร.ด. เป็นโฆษก

..วันที่ 18 ต.ค. ไปงานจุฬา-ชล  รู้เพียงว่าจะมีออกทีวีรับบริจาควันปิยะ  ยังคิดว่าเป็นช่วงกลางคืน
...พี่ก็ได้ดูโดยบังเอิญเหมือนกัน...นี้...
...ดูตอนที่มีซูโม่ต่างๆออกมาเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับจุฬาค่ะ...ก็ขำๆดี...
...ตอนกลางคืนพี่ได้ไปไหว้เสด็จพ่อ ร.5 ที่หน้าศาลากลางด้วยจ้ะ...
...พอดีนัดทานข้าวกับพี่สาวหมอ...โซ้ยโกเลยชวนให้ไปไหว้เพราะโกต้องจัดซุ้มและตั้งของไหว้ทุกปี...
...มีประชาชนทยอยเข้าไปไหว้เยอะเหมือนกันค่ะ...
...ขากลับฝนตกตลอดทางตั้งแต่ชลบุรีถึงพัทยา...
...ยังหวั่นๆอยู่ว่าน้ำจะท่วมค่ะ......แต่รอด...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #734 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 10:46:00 »

คนไทยน้ำใจงาม..จนขึ้นชื่อ เป็นผู้บริจาค ลดับที่ 3 ของโลก..อ่านครับ

สังคมไทยใจบุญสุนทาน บริจาคจนติดอันดับโลก
24 ตุลาคม 2553 22:17 น.

 
       ภาพน้ำสีขุ่นไหลเชี่ยวกรากท่วมถนน ท่วมบ้านเรือน ภาพคนกำลังคว้าข้าวของจำเป็นใส่กะละมังใบยักษ์ อุ้มลูกจูงมือหลานเดินฝ่าน้ำออกจากบ้าน ภาพที่ชวนให้เศร้าและสัมผัสได้ถึงความสูญเสีย
       
       ขณะที่ภาพดังกล่าวฉายซ้ำไปซ้ำมาอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ ภาพที่ฉายเคียงคู่กันไปตลอดก็คือ ภาพของธารน้ำใจจากคนไทยด้วยกันที่หลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย ภาพความช่วยเหลือของหน่วยงานต่างๆ ทั้งที่เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่และช่วยรับข้าวของบริจาค ไปจนถึงการประชาสัมพันธ์ช่องทางรับบริจาคเงินที่สามารถเอาไปแปรรูปเป็นของใช้จำเป็นได้ทุกชนิด
       
       ปรากฏการณ์คนไทยใจบุญที่เกิดขึ้นในขณะนี้ หรือในหลายๆ ครั้งที่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น สึนามิหรือแผ่นดินไหวที่เฮติ ทำให้เรื่องที่จะกล่าวต่อไปเป็นเครื่องการันตีสังคมแห่งการให้ของคนไทยได้เป็นอย่างดีที่สุด เพราะมูลนิธิการกุศลระหว่างประเทศ (Charities Aid Foundation-CAF) ได้จัดอันดับให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่บริจาคเงินช่วยเหลือผู้อื่นมากเป็นอันดับ 3 ของโลก
       
       ที่มาของอันดับ 3
       
       มูลนิธิการกุศลระหว่างประเทศซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศอังกฤษ และมีสาขาย่อยอยู่ในหลายๆ ทวีป ได้ทำการสำรวจและจัดอันดับ 153 ประเทศทั่วโลกเกี่ยวกับการกุศล ซึ่งใช้พฤติกรรม 3 แบบเป็นเกณฑ์จัดอันดับ คือ การเป็นอาสาสมัครเพื่อการกุศล, การช่วยเหลือคนแปลกหน้า และการบริจาคเงิน การสำรวจนี้ใช้วิธีสอบถามประชาชนจำนวน 500-2,000 คน แล้วแต่ขนาดของประเทศว่าในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมาได้เคยทำการกุศลใดมาบ้าง ผู้ที่มาวินเป็นอันดับ 1 ของโลกคือ ประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ (57 เปอร์เซ็นต์) รองลงมาคือประเทศแคนาดา และไอร์แลนด์ (56 เปอร์เซ็นต์)
       
       สำหรับประเทศไทยก็ไม่น้อยหน้าชาติใดในโลก เพราะติดอันดับที่ 25 (42 เปอร์เซ็นต์) และเมื่อเจาะไปที่การบริจาคเงินอย่างเดียวแล้ว ไทยกลับไต่อันดับขึ้นมาเป็นที่ 3 ของโลก (73 เปอร์เซ็นต์) เท่ากับประเทศอังกฤษ
       
       เหตุการณ์นี้บอกอะไรได้บ้าง?
       
       สังคมพุทธ-วัฒนธรรมแห่งการให้
       
       ในหนึ่งวัน คนหนึ่งคนจะถูกสะกิดต่อมผู้ 'ให้' เกือบตลอดเวลา ผ่านทางตู้บริจาค ขอทานบนสะพานลอย หรือไฮเทคกว่านั้นคือทางข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือ และก็มักจะรู้สึกจากใจจริงว่าอยากจะให้เสมอ เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะคนไทยเป็นผู้ที่มีจิตใจของการให้ โดยได้รับการปลูกฝังด้วยวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนาเรื่องของการทำทานมาแต่ครั้งโบราณกาล พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี ได้อธิบายถึงรากฐานแห่งความเชื่อนี้ว่า
       
       “เราจะเห็นได้ว่าหลักธรรมทางพุทธศาสนาที่เป็นระดับหลักธรรมสำคัญ แทบทั้งนั้นเริ่มต้นด้วยทาน เช่น หลักการทำบุญ 10 ประการที่เรียกว่าบุญกิริยาวัตถุก็เริ่มต้นด้วยข้อแรกคือ ทาน หลักทศพิธราชธรรมของนักการเมืองหรือธรรมาภิบาลสำหรับนักการเมืองก็เริ่มต้นด้วยทานเหมือนกัน ขณะเดียวกัน สังคมไทยก็มีการปลูกฝังอุดมคติแห่งการเป็นผู้ให้ผ่านงานพิธีกรรมต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานเทศมหาชาติพระเวชสันดรชาดก และพระเวชสันดรก็เป็นตัวอย่างของพระผู้ให้ นี่คือวิธีที่สังคมไทยปลูกฝังอุดมคติแห่งการให้โดยอาศัยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาเป็นเครื่องมือ คนไทยจึงกลายเป็นชาตินักให้ คนไทยมีหัวจิตหัวใจที่ผูกพันกับศาสนามาแต่เดิม”
       
       ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ทำงานด้านการกุศลมาอย่างยาวนาน เบญจวรรณ ตัมพานุวัตร ประธานมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต องค์กรหนึ่งที่มีส่วนช่วยรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในเหตุการณ์น้ำท่วม เธอคิดว่าการได้รับการจัดอันดับสูงขนาดนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ต่างประเทศเห็นคนไทยเป็นคนจิตใจดีมีน้ำใจ
       
       “เราถูกสอนมาว่าให้ทำความดีเผื่อแผ่ผู้อื่น ช่วยผู้ที่ด้อยกว่าเมื่อมีโอกาส และทุกคนที่มีความคิดและแสดงออกเช่นนี้คือชาวพุทธแท้ๆ ช่วยหรือบริจาคได้ตามกำลังเรา ถ้าไม่ช่วยกันยามลำบากแล้วจะไปช่วยกันตอนไหน คนเราจะเห็นน้ำใจความเมตตากันก็ตอนลำบาก”
       
       เศรษฐศาสตร์ของการให้
       
       แม้แต่ในเชิงเศรษฐศาสตร์เอง ก็มองปรากฏการณ์นี้ว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องของพระพุทธศาสนาอย่างไม่ต้องสงสัย หากแต่มีนัยทางเศรษฐศาสตร์ซ่อนอยู่ในกรอบความคิดแบบพุทธเหมือนกัน
       
       รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ ยอมรับว่าไม่แปลกใจกับปรากฏการณ์ที่เกิดนี้ เพราะหากมองในแง่ของวัฒนธรรมต้องยอมรับว่า พระพุทธศาสนานั้นมีส่วนสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะความคิดที่ว่า การบริจาคหรือการให้ทานคือการสะสมบุญประเภทหนึ่ง
       
       “ถ้าตัวเลขนี้เป็นจริงก็ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงพื้นฐานของคนไทยที่ชอบช่วยเหลือคนที่ลำบาก และผูกพันกับแนวคิดทางศาสนาค่อนข้างมาก ซึ่งหากถามว่าการให้แบบนี้หวังผลไหม ก็ต้องยอมรับว่าใช่ โดยในใจอาจจะรู้สึกว่าได้รับตอบแทนในที่สุด ซึ่งอาจจะมาในรูปของผลบุญก็จะส่งต่อไปยังชาติหน้า
       
        “ไม่เพียงแค่นั้น ตามหลักเศรษฐศาสตร์ยังมองอีกว่า การให้ก็เป็นเหตุให้เกิดความสุขเช่นเดียวกับการรับ ซึ่งการบริจาคก็ทำให้เกิดความสุขเช่นกัน”
       
       บริจาคใดคนไทยต้องการ
       
       ไม่มีใครปฏิเสธว่าการให้ทานในรูปแบบของเงิน เป็นการบริจาคที่ง่ายที่สุด เพราะสะดวกรวดเร็ว มีพกอยู่กับตัวตลอดเวลา และไม่ต้องลงแรง
       
       รศ.ดร.วรากรณ์ กล่าวว่านอกจากจะง่ายที่สุดแล้ว ยังมีภาระผูกพันน้อยที่สุดอีกด้วย ยิ่งเมื่อเทียบกับการให้ประเภทอื่นๆ อย่างเช่นการอุทิศตัวหรือทำงานสาธารณกุศล ซึ่งถือว่าขัดวัฒนธรรมไทยโดยรวมอย่างสิ้นเชิง
       
       “การเข้ามาลงแรง มันไม่ใช่วัฒนธรรมคนไทยนะ เพราะคนไทยพอให้เสร็จก็อย่ามายุ่งกับฉัน ขณะที่การช่วยงานมันเกี่ยวพัน แต่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบอะไรที่มันผูกพันยืดยาว และจากข้อสันนิษฐาน ผมคิดว่าคนที่ชอบบริจาคน่าจะเป็นคนชนชั้นกลางเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งปกติไม่ชอบที่จะยุ่งเกี่ยวกับคนอื่น ให้เงินครั้งเดียวก็จบ ที่สำคัญเราต้องยอมรับด้วยว่าการดำรงชีวิตของคนไทยกับเมืองนอกก็แตกต่างกัน เพราะของเรามันไม่มีเวที ไม่มีลักษณะที่จะไปทำงานอาสาสมัครได้”
       
       แม้จะไม่มีพื้นที่สำหรับอาสาสมัครเพื่องานการกุศลมากนักในบ้านเรา ในสังคมพุทธศาสนาก็ยังมีการทำทานในอีกหลายรูปแบบ ซึ่งพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธีได้จำแนกประเภทออกมาให้เข้าใจได้ง่ายสำหรับคนทั่วไปว่า
       
       “คำว่าการให้ การบริจาค มันมีหลายรูปแบบ ไม่ใช่ว่าพูดถึงการให้ก็ต้องให้เงินเสมอไปนะ เช่น การช่วยเหลือเกื้อกูล การให้โอกาสแก่คนซึ่งขาดโอกาส การให้อภัยแก่คนที่ผิดพลาดไปแล้ว การให้ความรัก ความอบอุ่นแก่บุคคลในครอบครัว หรือการให้ความซื่อสัตย์สุจริตแก่แผ่นดินถิ่นเกิดของตน ตลอดจนถึงการมีจิตใจสาธารณะไม่เห็นแก่ตัว เพราะฉะนั้นเราควรขยายมิติของการให้ให้กว้างขวางออกไป ไม่ใช่แค่ว่าให้เงินให้ทองกันเท่านั้น แต่ควรจะรวมไปถึงการให้ในหลายๆ มิติที่กล่าวมาข้างต้นด้วย
       
       “ถ้าถามว่าการให้อะไรที่เหมาะสมที่สุดในสังคมไทยในเวลานี้นะ อาตมาคิดว่าการให้อภัยซึ่งกันและกันนี่แหละสำคัญที่สุดและจำเป็นที่สุดด้วย อภัยทานถือว่าเป็นทานอันยิ่งใหญ่ ซึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมาสังคมไทยเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดชิงชัง ลองลดตัวเองให้ต่ำแล้วทำประเทศไทยให้สูง เราจะได้ช่วยให้ประเทศไทยมีโอกาสก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน”
       >>>>>>>>>>
       ………
       เรื่อง : ทีมข่าว CLICK
       ภาพ : ธัชกร กิจไชยภณ


จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000149930
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #735 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 11:39:14 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 23 ตุลาคม 2553, 17:36:28
ต้องการ นม บะหมี่มาม่า (ที่ไม่ใช่เส้นหมี่ เพราะต้องต้มก่อนบริโภค) และที่เปิดกระป๋อง .. จำนวนมาก    sorry

อีกครั้งหนึ่งจ๊ะ

เมื่อวานนี้(24 ตุลา) ได้เข้าไปที่อำเภอเก้าเลี้ยว ซึ่งมีพื้นที่น้ำท่วม เนื่องจากเป็นอำเภอติดกับลำน้ำปิง-วัง และอยู่ต่อจากอำเภอบรรพตพิสัย ซึ่งน้ำได้ท่วมตัวตลาดส้มเสี้ยว ซึ่งอยู่สองฝากฝั่งแม่น้ำ

สอบถามชาวบ้านเรื่องเครื่องกระป๋องที่ได้รับ (อบจ.นครสวรรค์ และมูลนิธิต่างๆร่วมกันแจก)
ชาวบ้านบอกว่า มีปลากระป่อง ผักกาดดองกระป๋อง ส่วนหนึ่งมีห่วงดึงเพื่อเปิิดฝา
หากไม่มีห่วงติดอยู่ที่ฝา ก็ใช้มีดในครัว เช่น มีดบางใหญ่ บังตอ  กดเจาะฝากระป่องลงไปเพื่อเปิิดฝาออกครับ ไม่ลำบากมากนัก
ชาวบ้านพูดกันว่า ช่วงน้ำท่วมหลายๆวัน ทะยอยมาแจกก็ได้ สัก 4-5 วันต่อครั้งก็พอทนได้ครับ ขอข้าวสารเยอะๆหน่อย
ลำบากสุดๆ ก็ตรง"สุขา"อยู่หนใดนี่แหละ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #736 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 14:10:36 »

เข้าไปอ่าน Matichon online พอดี, ใครมีไอเดียในเรื่องนี้ว่ายังไง ??

วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19:56:47 น.  มติชนออนไลน์
ส้วมกระดาษ สิ่งจำเป็นยามน้ำท่วม



ในสถานะการน้ำท่วมหลายจังหวัดในประเทศไทย
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราได้เห็น ได้รู้ว่าคนไทยยังมีน้ำใจ
และจิตใจที่เมตตาอยู่ 
 

ณ ขณะนี้ มีหลายองค์กร มีหลายกลุ่มคนที่ร่วมใจกันบริจาคช่วยน้ำท่วม
บ้างก็บริจาคเรื่องเงิน บางก็บริจาคอาหารและของใช้จำเป็น
แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ประสบภัยจำเป็นต้องใช้และหลายคนคิดไม่ถึง
นั้นคือ "ส้วมกระดาษ" ของมูลนิธิซิเมนต์ไทยที่ใช้ง่ายและขนส่งสะดวก
เพื่อใช้บรรเทาทุกข์ขั้นพื้นฐานของผู้ประสบภัย

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1287914261&grpid=01&catid=
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #737 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 18:14:46 »

วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม วันที่สามและวันสุดท้ายของวันหยุด 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช รถกำลังกลับเข้ากรุงเทพในปริมาณที่มากพอสมควร



ภาพนี้ รถยนต์กำลังรอไฟเขียวเพื่อขึ้นสะพานเดชาติวงศ์ เข้า้กรุงเทพ รถติดแม้กระทั่งทางเลี้ยงซ้ายผ่านตลอด

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #738 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 18:18:49 »

บนถนนสายนครสวรรค์-พิษณุโลก (ทางหลวงสาย 117)

ฝั่งทิศตะวันตก- ทุ่งนาฝั่งลุ่มแม่น้ำปิง ซึ่งเจิ่งนองน้ำแล้ว





เห็นไกลๆ คือ นาข้าว ซึ่งจมน้ำไปแล้ว แต่แปลงที่กำลังเหลือง(ภาพบน)อยู่นั้น กำลังออกรวง ยังไม่ทราบชะตากรรมต่อจากนี้ไป
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #739 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 18:24:47 »

ฝั่งตะวันออก- อยู่ในลุ่มน้ำยม-น่าน ซึ่งไม่มีฝนในช่วงที่ผ่านมา เกษตรกรทิ้งนาโดยยังไม่มีการไถหรือหว่านแต่ประการใด ยังไม่มีน้ำเข้ามา





ภาพล่าง อาคารที่เห็นลิบๆ นั้นคือ สำนักงานขนส่งจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งน้ำเคยท่วมจนชั้นล่างใช้การไม่ได้ในปี พ.ศ. 2538 และ 2545
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #740 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 18:27:07 »

ระดับน้ำหน้าตลาดตึกแดง ปากน้ำโพ น้ำขึ้นมาอีก 2 ขั้นบันได คงเหลือขั้นสุดท้ายที่เรือจอดเกยอยู่

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #741 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 18:36:44 »

มองเทียบระดับน้ำนอกเขื่อน กับแนวถนนที่มีคันคอนกรีต





ฟุตบาทคอนกรีตเลียบถนนที่คั่นแม่น้ำเจ้าพระยานี้ สร้างในสมัย ผวจ.เดชชาติ วงศ์โกมลเชษฐ์ (รัฐศาสตร์ จุฬาฯ) เป็นผู้ว่าฯ นครสวรรค์
สร้างเพื่อเป็นคันกั้นน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาล้านเข้าท่วมเมืองนครสววรค์
......ซึ่งในปี 2538 เรือหรือแพที่ชาวเรือใช้อาศัยและทอดสมอติดฝั่งแบบที่เห็น ถูกแรงน้ำพาเรือชนกระแทกกระสอบทราบที่กั้นล้ม
และจากนั้นเพียงชั่วโมงเดียว น้ำเข้าท่วมตลาดปากน้ำโพสูงกว่า 1 เมตร จนน้ำนานเป็นเดือน
......ในปี 2545 เทศบาลใช้ถังน้ำมัน 200 ลิตรบรรจุหินคลุกตั้งสกัดน้ำและเรียงกระสอบทรายไว้ด้านหลัง เรือหรือแพกระแทกถัง 200 ลิตรไม่สะท้าน
ปีนั้นจึงไม่ท่วม ทั้งๆที่ระดับน้ำสูงกว่าแนวถนนกว่า 1 เมตรแล้ว

แต่ที่อ่างทอง เทศบาลสร้างผนังแบบนี้กั้นแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ไม่ได้ตอกเสาเข็มลงคานคอนกรีตรับ ปี 2545 น้ำพังผนังแบบนี้และน้ำท่วมอ่างทอง



      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #742 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 18:39:35 »

ภาพหลังโกดังครับ น้ำท่วมผิวถนนที่เห็นหลักเขตคอนกรีต(หลักตรงกลางภาพ)แล้ว





      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #743 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 18:41:47 »

ภาพของไร่ข้าวโพดข้างโกดัง(ที่เห็นไกลๆ) มีคันนากั้นน้ำไว้ให้ หากน้ำขึ้นอีกสัก 50 ซ.ม. ไร่นี้จะมีปัญหาครับ

      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #744 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 21:44:34 »

วิเคราะห์ข้อมูลดูแล้ว ตลาดปากน้ำโพจะรอดไหมครับ
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #745 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 22:05:39 »

พี่ป๋องครับ

ผมกำลังตามดูน้ำจากแม่น้ำปิง ซึ่งไหลลงมาจากจังหวัดกำแพงเพชร ที่ขณะนี้ทรงตัวแล้ว ขอเพียงฝนอย่าตกเพิ่มในอีก 2-3 วันข้างหน้า
ปัญหาต่อไปคือ เขื่อนชัยนาท สมควรปล่อยน้ำ ตามปริมาณที่กำหนด ไม่มากไป-ไม่น้อยไป
ตัวเมืองนครสวรรค์ก็ไม่น่ามีปัญหา และที่สำคัญ ชาวนครสวรรค์ส่วนใหญ่ช่วยบริจาคเงิน สิ่งของ มากทีเดียว จึงไม่อยากให้ผิดหวัง
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #746 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2553, 08:53:45 »

พี่ป๋องครับ

เมื่อคืนนี้ ตั้งแต่เวลา 01.30 น. ถึงเช้้านี้ 08.10 น. ฝนตกตลอดคืน ค่อนข้างหนักทีเดียว
เมื่อเช้า พ่อค้าที่ตาคลีแจ้งว่า ฝนตกจนน้ำท่วมอำเภอตาคลี ถึงเข่าทีเดียว แต่น้ำเริ่มลดในเขตเทศบาลลงบ้างแล้ว
สงสัยเหมือนกัน "ฟ้ากลั่นแกล้ง" และ "ผีซ้ำ" เป็นแน่ จะส่งผลให้เมืองปากน้ำโพจมน้ำในช่วงปลายฤดูฝน 2553 นี้เป็นแน่
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #747 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2553, 09:06:02 »

กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ แจ้งว่า เช้านี้ 09.09 น. น้ำทะเลหนุนสูงสุด มีผลให้น้ำขึ้นเต็มที่ที่กรุงเทพ โดยระดับน้ำจะขึ้นถึง 2.30-2.40 เมตรครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #748 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2553, 15:47:49 »

ระดับน้ำในวันนี้ ณ หน้าตลาดตึกแดง เวลา 10.00 น. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 5 ซ.ม. ครับจากเมื่อวาน



เทียบกับภาพเมื่อวานนี้ (สถานที่เดียวกัน)





      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #749 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2553, 15:51:33 »

ภาพสถานที่ใกล้เคียงในวันนี้





      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 28 29 [30] 31 32 ... 472   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><