05 กรกฎาคม 2567, 02:04:35
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 18 19 [20] 21 22 ... 472   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ  (อ่าน 2433469 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #475 เมื่อ: 15 กันยายน 2553, 20:57:47 »

พี่เหยง,
ที่นั่นเป็นยังไงบ้างคะ?
บ้านหนิงฝนตกเปาะแปะ
หนาวเย็น 16 °c
อดไปชิมไวน์คะ


nn.27
      บันทึกการเข้า


เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #476 เมื่อ: 15 กันยายน 2553, 21:24:36 »

หนุงหนิง

เฉลี่ยตอนนี้ประเทศไทยค่อนข้างจะแย่ จากสภาพอากาศที่เลวร้าย
ภาคเหนือในหลายๆจังหวัด รวมทั้งภาคอีสาน เกิดภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ฝนแล้งมาหลายเดือน
ฝนเริ่มตกตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม เป็นต้นมาและตกหนักตั้งแต่ 11 สิงหาคม
ฝนตกและน้ำไหลจากเขาลงมาท่วมพื้นราบ สพาน สาธารณูปโภคเสียหาย แล้วทุกอย่างก็กลับคืนสู่ปกติ
จากนั้นฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ตามด้วยความเสียหายต่างๆ รวม 5 รอบแล้วจนถึงวันนี้
ข้าวที่ปลูกมาตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน เสียหายเป็นส่วนใหญ่โดยถูกน้ำท่วม
และที่หลายๆคนกลัวคือ กลัวว่าฝนจะขาดเม็ดไปทันที โดยไม่มีการตกเล็กตกน้อยอีก จะมีผลให้เกษตรกรปลูกพืชซ้ำขึ้นใหม่ไม่ทัน
จะเป็นการสูญเสียโอกาสไปในปีนี้ทันที




7000  win
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #477 เมื่อ: 16 กันยายน 2553, 08:42:16 »

คุณเหยง
กล้วยไข่ที่เอามาปลูกที่บ้านคราวโน้นออกลูกแล้ว
กำลังรอทานอยู่ ดีใจจัง
ของที่สวนเป็นไงมั่ง
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #478 เมื่อ: 16 กันยายน 2553, 12:58:36 »

พี่ป้อม,
จะได้เจอะพี่สิงห์มั้ยพี่ อาทิตย์หน้า?


nn.
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #479 เมื่อ: 16 กันยายน 2553, 13:03:08 »

พี่เหยง,
งานไวน์ปีนี้แย่เลยค่ะ!
ฝนตกเกือบจะทุกวัน.
ข้อดีคือผู้ผลิตเหล่านี้
จะไปถ่ายเทไวน์งานอื่นๆ
ที่จะเริ่มมีช่วง Alte Weiber Wetter
late summer night...

ได้เมากันอีกแหล่ววว


nn.
      บันทึกการเข้า


เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #480 เมื่อ: 16 กันยายน 2553, 20:24:46 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sittipong เมื่อ 16 กันยายน 2553, 08:42:16
คุณเหยง
กล้วยไข่ที่เอามาปลูกที่บ้านคราวโน้นออกลูกแล้ว
กำลังรอทานอยู่ ดีใจจัง
ของที่สวนเป็นไงมั่ง


ผมปลูกมะม่วงไป 2 ต้น ให้ลูกดกมาก แต่ไม่เคยได้ทานเลย
กล้วยปลูกให้ทั้งกล้วยไข่ และกล้วยน้ำว้า เห็นคนงานแขวนกล้วยน้ำว้ายกเครือให้นกปรอดหัวจุกกิน ส่วนกล้วยไข่ไม่เคยเห็น
เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน พาแม่บ้านไปซื้อต้นมะม่วงมาปลูกเพิ่ม พร้อมทุเรียนอีก 1 ต้น(ในราคาต้นละ 200 บาท)
และมะพร้าวน้ำหอมอีก 5 ต้น
อย่างไรก็ตามทำใจแล้วครับ..ถวายเจ้าที่ เจ้าทางทั้งหมดจะได้สบายใจ

กล้วยไข่กินกับกระยาสาร์ท อร่อยมากๆ ขอบอก
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #481 เมื่อ: 16 กันยายน 2553, 20:26:16 »

อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 16 กันยายน 2553, 13:03:08
พี่เหยง,
งานไวน์ปีนี้แย่เลยค่ะ!
ฝนตกเกือบจะทุกวัน.
ข้อดีคือผู้ผลิตเหล่านี้
จะไปถ่ายเทไวน์งานอื่นๆ
ที่จะเริ่มมีช่วง Alte Weiber Wetter
late summer night...

ได้เมากันอีกแหล่ววว


nn.

พี่ก็มีไวน์เก็บไว้บ้าง เผื่อปีหน้าไง
อย่างไรก็ดี มันเป็นไวน์ made in USA จ๊ะ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #482 เมื่อ: 16 กันยายน 2553, 20:32:09 »

จากคุณเปลว สีเงิน นสพ.ไทยโพสต์...................อ่านหน่อยครับ ๒๐ กันยายน นี้เอง เดี๋ยวจะพลาดโอกาสสำคัญไป

ศตวรรษรำลึก "ปิยมหาราช"
By thaipost
Created 16 Sep 2553 - 00:00

     เห็นไร้สติ-ไร้สาระกันแต่วันที่ ๑๙ กันยา ผมก็อยากนำเรื่องที่ควร "ได้สติ-มีสาระ" มาบอกกันบ้าง คือวันที่ ๒๐ กันยาที่จะถึงนี้ เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ "พระพุทธเจ้าหลวง" ครบรอบปีที่ ๑๕๗ ในโอกาสประเสริฐเวียนบรรจบ ใจภักดิ์จงพร้อม น้อมรำลึกถึงพระคุณ ธ ผู้ทรงต่อสู้หมู่ต่างชาติที่รุกราน "พระทัยนี้ทรงเจ็บ" แต่มิทรงยอมเป็นทาส กล้ำกลืนสละกิ่งฝอย เพื่อรักษาต้นรากใหญ่ "แผ่นดินสยาม" ให้พ้นจากรายนามประเทศอาณานิคมฝรั่งเศสและจักรวรรดิอังกฤษ สถิตความเป็น "ไท" อยู่ชาติเดียวในภูมิภาคนี้ ตราบ ณ วันนี้
     "พระพุทธเจ้าหลวง" คือพระองค์ใด ต้องรีบขยายความก่อน อาจสงสัยกัน เพราะวัยรุ่น วัยกลางเก่า-กลางใหม่ กระทั่งวัยดึกหลายๆ คนก็อาจยังไม่รู้ หรือรู้แล้วเลือนๆ ไป เพราะไม่ค่อยได้ยินบ่อยนัก
     "พระพุทธเจ้าหลวง" ก็คือ "สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพ มหามงกุฎ  บุรุษรัตนราชวรวิวงศ์วรุฒมพงศบริพัตร สิริวัฒนราชกุมาร" พระโอรสองค์ที่ ๙ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ แห่งราชจักรีวงศ์ ประสูติเมื่อ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๓๙๖
และทรงขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ ๕ หลังพระราชบิดาสวรรคตเมื่อ ๑ ตุลาคม ๒๔๑๑ ขณะนั้น ทรงพระชนมายุเพียง ๑๕ พรรษา และ ๔๒ ปีแห่งการเป็นพระมหากษัตริย์ไทย พระองค์ทรงสร้าง "ศตวรรษใหม่" เป็นเส้นทางให้ประเทศไทยได้เดินตราบ ณ วันนี้ และเสด็จสวรรคตเมื่อ ๒๓ ตุลาคม  ๒๔๕๓ ด้วยพระชนมายุเพียง ๕๘ พรรษา
     พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ก็คือ ธ ผู้สร้าง ที่มวลพสกยกพระองค์เป็น "พระพุทธเจ้าหลวง" และ "สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า" ส่วนใหญ่ เราทั้งหลายรุ่นนี้มักขานพระนามพระองค์ว่า พระปิยมหาราชบ้าง เสด็จพ่อ ร.๕ บ้าง แต่ไม่มีใครได้พบว่าพระนามตามจารึกในพระสุบรรณบัฏมีว่าอย่างไร ฉะนั้น วันนี้ ควรทราบกันไว้
     "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพยมหามงกุฏ บุรุษรัตนราช รวิวงศ วรุตมพงศบริพัตร วรขัติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาศ อุภโตสุชาติสังสุทธเคราะหณี จักรีบรมนาถ อดิศวรราชรามวรังกูร สุจริตมูลสุสาธิต อรรคอุกฤษฏไพบูลย์ บุรพาดูลย์กฤษฎาภินิหาร สุภาธิการรังสฤษดิ์ ธัญลักษณวิจิตรโสภาคยสรรพางค์ มหาชโนตมางคประณต บาทบงกชยุคล ประสิทธิสรรพศุภผลอุดมบรมสุขุมมาลย์ ทิพยเทพาวตารไพศาลเกียรติคุณอดุลยพิเศษ สรรพเทเวศรานุรักษ์ วิสิษฐศักดิ์สมญาพินิตประชานาถ เปรมกระมลขัติยราชประยูร มูลมุขมาตยาภิรมย์ อุดมเดชาธิการ บริบูรณ์คุณสารสยามาทินครวรุตเมกราชดิลก มหาปริวารนายกอนันต์ มหันตวรฤทธิเดช สรรวิเศษสิรินทร อเนกชนนิกรสโมสรสมมติ ประสิทธิ์วรยศมโหดมบรมราชสมบัติ นพปดลเศวตฉัตราดิฉัตร สิริรัตโนปลักษณมหาบรมราชาภิเษกาภิลิต สรรพทศทิศวิชิตชัย สกลมไหศวริยมหาสวามินทร์ มเหศวรมหินทรมหารามาธิราชวโรดม บรมนาถชาติอาชาวศรัย พุทธาทิไตรรัตนสรณารักษ์ อดุลยศักดิ์อรรคนเรศราธิบดี เมตตากรุณาสีตลหฤทัย อโนปมัยบุญการ สกลไพศาลมหารัษฎาธิบดินทร ปรมินทรธรรมิกหาราชาธิราช บรมนาถบพิตร พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว"
     ครับ...ส่วนใหญ่เราจะจำและเฉลิมฉลองวันราชสมภพ แต่สำหรับ "พระพุทธเจ้าหลวง" ปวงชาวไทยจำแน่น-จำนาน-จำได้ตลอดกาลเฉพาะแต่วันเสด็จสวรรคต คือวันที่ ๒๓ ตุลาคม และเป็นวันสำคัญประจำชาติเรียกว่า "วันปิยมหาราช"
     ส่วนวันที่ ๒๐ กันยายน แทบไม่มีใครจำได้ว่าเป็นวันพระราชสมภพของ ร.๕ เราจัดงานเป็นการรำลึกถึงกันแต่วันเสด็จจากไปของพระองค์ ๒๓ ตุลา ด้วยความเศร้า อันที่จริง วันราชสมภพ หรือ "วันเกิด" น่าจะเป็นวันที่เราทั้งหลายได้เฉลิมฉลองรำลึกถึงพระองค์ "ด้วยความสุข" ด้วยเช่นกัน  
     เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว ๑๙ กันยา ที่พี่ๆ น้องๆ คนไทยใส่เสื้อแดง นัดกันมาเคลื่อนไหวที่สี่แยกราชประสงค์ แสดงปฏิกิริยาถึงวันที่คณะทหารยึดอำนาจรัฐบาลทักษิณนั้น ผมว่าไม่เกิดประโยชน์และผลดีอะไรกับส่วนรวม ทั้งกับตัวท่าน ครอบครัวท่าน และพี่น้องคนไทยด้วยกันทุกคน
     รวมใจกันไปน้อมสักการะ-รำลึกถึงวันราชสมภพของ "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า จะสร้างสรรค์ และสิริมงคลบังเกิดกับชาติบ้านเมือง รวมถึงตัวเองมากกว่า ท่านคิดว่าอย่างนั้นไหม?
     พระพุทธเจ้าหลวง คือชีพจรกำเนิดของประเทศไทย และคนไทยในศตวรรษนี้ กล่าวเฉพาะบางส่วน  พระองค์ทรงปกป้องแผ่นดินไทยทุกวิถีทางจากการรุกรานของฝรั่งเศสและอังกฤษถึงขั้น "ตรอมพระทัย" ยาวนาน โดยเฉพาะเมื่อคราวเสียฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงให้ฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๖ ยืดเยื้อเรื้อรังไปถึงจันทบุรี ปี ๒๔๔๙ แถมอังกฤษยังสมคบเข้ามาซ้ำเอาไทรบุรี ปะลิส กลันตัน ตรังกานู ไปอีก ในปี ๒๔๕๑
     พระผ่านฟ้า พระผู้เป็นบิดาเหนือบิดาของปวงพสกไทย ทรงหมองหม่นในพระทัยถึงขั้นพระประชวร และมิมีใดจะถ่ายทอดทุกข์ที่ถมทับพอให้พระทัยระงับโศก จากวิโยคดินแดนอันฝรั่งเศส-อังกฤษใช้กำลังเหนือกว่าข่มเหงรังแก "แตกแผ่นดินไทย" เอาไปเป็นของเขาได้ ก็มีเพียงสมุดไทยให้จารึกฝากรอยเจ็บถึงลูกหลานผ่าน "พระราชนิพนธ์" โคลงสี่สุภาพ ดังโคลงหนึ่งความว่า
     เจ็บนานหนักอกผู้               บริรักษ์ ปวงเฮย
  คิดใคร่ลาลาญหัก                 ปลดเปลื้อง
     ความเหนื่อยแห่งสูจัก         พลันสร่าง
  ตูจักสู่ภพเบื้อง                      หน้านั้นพลันเกษมฯ
      ครับ....อ่านแล้วต้องซบ ด้วยน้ำตาซึม อุระพระองค์ร้าวดั่งจะแยกแตกเป็นเสี่ยง ด้วยมโนแห่งมนุษย์สวรรค์ "พระผู้เป็นเจ้าแห่งแผ่นดิน" นั้น มิทรงยินยอมเลย แต่ผู้รุกรานเขาหักหาญด้วยวิทยาการ อาวุธ และสันดานเล่ห์ร้าย อันไทยเราแม้ต่อกรจนชีวาหาไม่ ก็สุดเอาชนะได้ จำต้องเดินนโยบาย "สละอวัยวะรักษาชีพ" ชีพ คือชาติอันเป็นไท แต่ความรู้สึกจากเบื้องลึกในอุระขององค์พระผู้เป็นปิ่นแห่งสยามนาม "พระพุทธเจ้าหลวง" ยามนั้น
 "คิดใคร่ลาลาญหัก ปลดเปลื้อง........"!
      พระองค์เหนื่อยยิ่งนักแล้ว มีแต่ความตายเท่านั้นที่จะทำให้พระองค์ทรงหายจากเหนื่อยนั้นได้  พระองค์ต้องการจากภพนี้ไปสู่ภพเบื้องหน้า เพราะสุดทนที่จะอยู่ในสภาพพระเจ้าแผ่นดินผู้ "เจ็บนานหนักอกผู้ บริรักษ์ ปวงเฮย" มีแต่ภพเบื้องหน้าเท้านั้นที่จะช่วยให้พระองค์สร่างโศกจากการสูญสู่เกษมได้ ล้ากายมิเป็นไร ล้าใจเยี่ยงนี้สิ ยากทน.....
      ๒๐ กันยายน ๒๕๕๓ คือวันพระราชสมภพของ "สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า" ครบรอบปีที่ ๑๕๗
แต่วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๓ คือวัน "ครบ ๑๐๐ ปี" แห่งการเสด็จสวรรคตของ "สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า"
      ผมจึงถือโอกาสนี้ "เตือน" ความทรงจำของพวกเราอันมีพระองค์สถิตอยู่กลางใจทุกคนได้ระลึกรู้  พสกนิกรผู้กตัญญูควรปฏิบัติอย่างไรในวันที่ ๒๐ กันยานี้ก็ดี ในวันครบ ๑๐๐ ปีแห่งการจากไปของพระองค์ก็ดี ขอได้มีสตินำไปใคร่ครวญ เพื่อการกตเวทิตาคุณร่วมกันในฐานะไทย-ลูกหลานเสด็จพ่อ ร.๕  ด้วยกันทุกคน
      ถ้ายังตั้งต้นไม่ถูก ผมจะบอกให้ตาม "หมายงาน" ในมือผม คุณธิราช รุ่งเรืองกนกกุล ในนาม "กลุ่มศิลปินรักษ์แผ่นดิน" จะเปิดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ "ถ้วนศตวรรษรำลึก ปิยมหาราชา" ขึ้นที่อาคาร ไทยรักษ์แผ่นดิน วัดสุทธิวาตวราราม ท่าฉลอม สมุทรสาคร วันที่ ๑๙ กันยานี้
      ใครใคร่ไป-ไปได้ทั้งวัน แต่ตอน ๑๕.๐๐ น. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมว.สำนักนายกฯ จะทำพิธีเปิดงาน อยากทราบรายละเอียดโทร.ไปที่เบอร์ ๐๘-๖๙๙๓-๙๒๙๐ ชมรมไทยรักษ์แผ่นดิน
      พระคุณของพระพุทธเจ้าหลวงนั้นเรียกว่า "มากพ้น รำพัน" จริงๆ อย่าว่าแต่ในหมู่คนไทยเราเลย  แม้แต่ชาวโลก-ยูเนสโกยกย่องให้เอกสารและจดหมายเหตุ รัชกาลที่ ๕ เป็นมรดกความทรงจำยิ่งใหญ่ของโลกประจำปี ๒๕๕๓ ผมเคยดูแวบๆ รายการ "กระจกหกด้าน" ทางช่อง ๗ สี เขาจัดทำเป็นสารคดีกระจกหกด้านชุด "ปิยมหาราชานุสรณ์ ร.ศ.๒๒๘" ร่วมเฉลิมฉลอง
      แต่ไม่ทันใจเลย รายการกระจกหกด้านมีทุกวันช่วงบ่ายๆ ก็จริง แต่เวียนวันละชุด ดูชุด "ปิยมหาราชานุสรณ์ ร.ศ.๒๒๘" แล้ว ก็ต้องชะเง้อรอเป็นเดือนกว่าจะเวียนมาอีกที หมดอยากเลย เขาบอกว่ามีตั้ง  ๕๒ ตอน เช่น พระราชาผู้เป็นที่รักยิ่ง, บ้านเมืองยุคเปลี่ยนแปลง, ยุวราชาติสยาม, สู้กับมหาอำนาจ ฯลฯ
      นี่..กว่าจะได้ดูครบ ผมอาจ "จบก่อน" ก็เป็นได้ แต่เขาปลอบใจให้สมัครเป็น "สมาชิกแมกกาซีนออนไลน์ ผมยังเฉยๆ อยู่ ถ้าท่านสนใจลองเปิดไปที่ www.krajokhokdan.com [1] ได้ความว่าไง บอกผมด้วยแล้วกัน
      ก็มาคิดๆ ดู กระจกของคุณ "สุชาดี มณีวงศ์" ยังมีตั้งหกด้าน แต่ละด้านเขาก็นำเสนอแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น แล้วสังคมข่าวสารทุกวันนี้ ทำไมจึงมีแต่ "ด้านไม่ดี" เป็นข่าวให้นำเสนอด้านเดียวได้ทุกวัน เดี๋ยวลอบสังหารนายกฯ เดี๋ยว ๑๙ กันยา เสื้อแดงถล่มเมือง ป่นปี้ยี่ยำบ้านเมืองตัวเองไม่พอ ยังไปดึงเอาแขก-เอารัสเซียมาเป็นเชื้อทำลายชาติหน้าตาเฉย ดูๆ แล้วก็ไม่เข้าใจ บ้านเมืองนี้ ทำไมจึงมากไปด้วย "คนอาศัยแผ่นดินเกิด"?

เปลว สีเงิน

--------------------------------------------------------------------------------

Source URL: http://www.thaipost.net/news/160910/27508
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #483 เมื่อ: 16 กันยายน 2553, 20:48:04 »

คุณป้อม....ข่าวด่วน

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 16 กันยายน 2553, 20:36:06
วันที่ 20-21-22 กันยายน ผมไปเชียงใหม่-เชียงรายครับ ไปทั้งทำงานและเยี่ยมเพื่อนฝูงครับ
สวัสดี
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #484 เมื่อ: 17 กันยายน 2553, 02:09:54 »

พี่เหยงคะ,
วันนี้มีแดด แม้จะลมเย็น15-16°c
นั่งรถไฟไปงาน Weindorfไปกันตอน 4โมงกว่า
คนไม่มาก มามากเอาตอนหลังเลิกงาน.
ตอนนั่งรถไฟเที่ยว 19.37นนั้น
สวนทางกะคนที่เข้ามางาน
พอดีเด็กๆต้องเข้านอนคะ
หนิงชิมไป 4 x 0.1 lt.ต่างชนิด
ขาว 2 แดง 1 rose 1
แฟ็ดคะ!
      บันทึกการเข้า


เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #485 เมื่อ: 17 กันยายน 2553, 13:16:42 »

อ่านสบายๆ อย่าจริงจังครับ และห้ามอ่านแบบอ่านเอาเรื่องด้วย

"ครูเหลือง-แดง" กับ ความยุติธรรมในโรงเรียน
17 กันยายน 2553 10:32 น.

 
       ท่ามกลางความแตกแยกทางความคิดของผู้คน ได้ส่งผลกระทบไปสู่โรงเรียน ดังนั้น คอลัมน์สังคมยุติธรรม วันนี้ จึงขอนำเสนอเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในโรงเรียน ซึ่งผู้เขียนได้ไปพบเห็นและคิดว่าน่าจะนำมาเสนอเพื่อเตือนสติประชาชน ให้มีความรัก ความสามัคคี กันให้มากขึ้น เหมือนกับที่ รัฐบาล กำลังดำเนินโครงการอยู่ในขณะนี้
      
       เรื่องมีอยู่ว่า มีโรงเรียนเล็กๆแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยที่โรงเรียนแห่งนี้ มีข้าราชการครู ซึ่งเป็นทั้งคนที่ชอบการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีเสื้อสีเหลือง เป็นสัณญลักษณ์
      
       และครูที่ชอบ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตผู้นำประเทศ ที่มีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ที่มี"เสื้อสีแดง"เป็นสัณญลักษณ์
      
       วันหนึ่ง ได้มีครูเสื้อแดง ทำการเคลื่อนไหวเพื่อรณรงค์ให้คนในพื้นที่ และพวกที่มีความคิดเดียวกัน ซึ่งมีเพียงไม่กี่คน สนับสนุนการเคลื่อนไหวของ คนเสื้อแดง
      
       ขณะที่มีครูเสื้อสีเหลือง เฝ้าดูอยู่ห่างๆ
      
       อยู่ๆได้มีเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีครูเสื้อสีแดงและกำลังเคลื่อนไหวอยู่ เป็นครูประจำชั้น
      
       ทันใดนั้น ครูเสื้อสีเหลือง ได้เข้าไปสอบถาม เด็กนักเรียนคนนั้น ว่าหนูคิดอย่างไร กับการเคลื่อนไหวของ ครูประจำชั้นของหนู
      
       แต่แทนที่เด็กนักเรียนหญิงผู้ใสซื่อคนนั้นจะตอบในทันที
      
       บิดาของเด็กนักเรียนหญิงที่เดินมาส่งลูก ซึ่งเป็นคนที่มีความรู้เพียงแค่ ป.4 อาชีพทำงานรับจ้างกรีดยางพารา และรับจ้างเก็บมะพร้าว ตลอดจนทุกงานที่สุจริตที่มีใครจ้างเขา ก็จะรับงานนั้นมา เพื่อเลี้ยงครอบครับ ปะทังชีวิตของเขา โดยที่ครอบครับ เขาอยู่อย่างอบอุ่น พ่อ แม่ ลูก
      
       เหตุที่ผู้เขียนถึงกับตะลึง และเห็นว่า น่าจะมีประโยชน์กับผู้อ่าน คือ...บิดาเด็กนักเรียนหญิง ที่มีความรู้แค่ ป.4 เขาตอบแทนลูกว่า "ผมไม่โทษทั้งเสื้อเหลือง และเสื้อแดง เนื่องจากเข้าใจในความคิด ความรู้สึกของแต่ละคน โดยที่ผมเชื่อว่า ทั้งสีแดง และสีเหลือง เขาทำในสิ่งที่เขาเชื่อว่า ดี ถูกต้อง ส่วนผลสรุป สุดท้ายใครผิด ใครถูก ก็อยู่ที่การกระทำ"
      
       เขาย้ำว่า ครูของลูกผม เขาใส่เสื้อสีแดง แต่ผมซึ่งเป็นพ่อของลูก ใส่เสื้อสีเหลือง ผมก็ไม่ได้โกรธ หรือเกลียดครูของลูกผม เพราะผมเชื่อว่า เขาสอนให้ลูกผมเป็นคนดี เขาให้วิชาความรู้แก่ลูกผม
      
       ส่วนคำพูดที่เข้าย้ำทิ้งท้ายว่า...สำหรับการแบ่งฝ่าย เหลือง แดง ในยุคนี้ เชื่อแน่นอนว่า จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ในประเทศไทย และวันนั้น วันที่ลูกของผมเขาโตขึ้นมา และเมื่อเขาได้อ่านประวัติศาสตร์แห่งการต่อสู้ เขาก็จะได้รู้ซึ้ง และรับรู้ในที่สุด ว่าประชาธิปไตย ไม่ใช่ของที่ได้มาง่ายๆ และเมื่อเป็นเช่นนี้ ผมเชื่อว่า ลูกผมจะเป็นคนดี รักประชาธิปไตย รักชาติ รักศาสนา และพระมหากษัตริย์
      
       จากเหตุบังเอิญที่พบเจอ ถือว่า เป็นคำพูดที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง แทนที่พ่อของเด็กนักเรียนหญิง ซึ่งใส่เสื้อสีเหลือง เขาจะสอนลูกของเขา ไม่ให้ไปเชื่อครูประจำชั้นที่ใส่เสื้อสีแดง และสอนให้เกลียดชังครูคนนั้น แต่เขากลับสอนในสิ่งที่ดี โดยที่ผู้คนที่ได้รับฟัง ถึงกับอึ้ง และแทบไม่น่าเชื่อว่า นี่คือความคิดของบิดาที่จบเพียงชั้น ป.4 แต่หัวจิต หัวใจ ของเขา ช่างประเสริฐจริง...
      
       ด้านครูเสื้อเหลือง มองเรื่องการแบ่งแยกสี ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนว่า ถือเป็นเรื่องปกติ ที่แต่ละคนจะเห็นต่าง และสำหรับโรงเรียนของเรา แม้จะเห็นต่าง แต่เราก็ไม่มีความแตกแยก และจะเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะสิ่งสำคัญที่สุด คือ ทำอย่างไร ให้ลูกศิษย์ เป็นคนดีของสังคม
      
       นี่คือเรื่องจริง กับสังคมแห่งความยุติธรรม ที่เกิดขึ้น กับโรงเรียนเล็กๆแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช...

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000130712
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #486 เมื่อ: 17 กันยายน 2553, 13:22:57 »

อ้างถึง
ข้อความของ pornchaiketlek เมื่อ 17 กันยายน 2553, 12:47:01
 
         อาจารย์ กุศล และเหยง

                แผนการเยี่ยมค่าย และสังสรรค์ยังมีอยู่  แต่วันที่ 23 ต.ค. นี้ ไม่พร้อม  ทั้งผุ้ต้อนรับ และผู้เยือน จึงเลื่อนไปก่อน
    
         โรงเรียนบ้านหนองหว้า  พอได้ข่าวว่าเราจะไปเยือน  ได้เสนอขอความอนุเคราะห์มา  ผมจะเสนอที่ประชุมครั้งนี้  
                
         วันเยือนอาจเป็นปลายปีครับ  ถ้าไม่พร้อม  อาจจะยกไปต้นๆ ปีหน้า  ค่อยว่ากันอีกที
  
         แต่สมเกียรติมีแผนพาทัวร์อยู่เหมือนกัน  เร็วๆ นี้


ทุกท่านโปรดทราบ เรื่องการจะไปเยี่ยมโรงเรียนบ้านหนองหว้า รออีกหน่อยครับ
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #487 เมื่อ: 17 กันยายน 2553, 18:33:18 »

งั้นสนุกกันก่อนคะ!
ที่ไหนดี?
พี่กวางดำ
      บันทึกการเข้า


เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #488 เมื่อ: 18 กันยายน 2553, 10:52:17 »

ที่ทำเนียบรัฐบาลครับ สนุกแน่ น้ำท่วมถึงตาตุ่มเลย(เมื่อวานตอนบ่ายโมง-เวลาประเทศไทย)



ราชดำเนิน ทำเนียบรัฐบาล พระพี่นั่งอนันต์ฯ  ท่วมไปตลอดจากฝนตกหนักกว่า 1 ชั่วโมง
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #489 เมื่อ: 18 กันยายน 2553, 15:48:06 »

โอ...
รองเท้าดีๆ
พังหมด!

พยากรณ์อากาศบ้านหนิงวันนี้
ว่าแดดจะดี ลมจะสดชื่น
สดชื่นนี้คือไม่เกิน 18°cค่ะ

พ่อบ้านหนิงเผ่นแต่เช้ามืด
ไปเดินWanderungที่ป่าดำ
กะพวกหนุ่มๆกลุ่มจักรยาน
ยินว่าวันนี้วันปลอดเมียค่า!!

ดี ดี เดี๋ยวหนิงจาไปซื้อกับข้าว
แดดดีอีกหน่อย จาไปเดินในเมือง
จาไปดูรองเท้าลดราคาคะ
จะซื้อให้ท่านนายกแทนคู่ลุยน้ำสักคู่
คิกๆ
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #490 เมื่อ: 18 กันยายน 2553, 15:53:28 »

พี่ clickเข้าในรูป
จะเห็นอากาศ ณ ปัจจุบันบ้านหนิงคะ
มหัศจรรย์เวบแคมคะ
จะactualizeทุกๆ 60 วินาที


***ชมภาพปัจจุบัน สดๆ คลิ๊กที่ภาพนะคะ***

<a href="http://video.nationchannel.com/player.swf?file=http://video.nationchannel.com/data/1/2010/09/10/a5c5be766igh96cgag9aa.flv" target="_blank">http://video.nationchannel.com/player.swf?file=http://video.nationchannel.com/data/1/2010/09/10/a5c5be766igh96cgag9aa.flv</a>
      บันทึกการเข้า


เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #491 เมื่อ: 19 กันยายน 2553, 09:22:58 »

ขอบใจจ๊ะ

เข้าไปดูมาแล้ว ตีสี่กว่าๆ กำลังจะสว่างพอดีเลย
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #492 เมื่อ: 19 กันยายน 2553, 09:36:18 »

อ้างถึง
ข้อความของ Jintana Yhoung-aree เมื่อ 08 กันยายน 2553, 15:44:52
เหยง
วันที่ 24 ก.ย. จะขับรถไปลำพูน
อย่บ้านป่าวอ่ะ?
เผื่อแว๊บ! ไปทักทาย
ทราย 16


อจ.ทราย

ผมส่ง PM ไปให้แล้ว, ได้รับหรือยัง ?
เนื่องจากมีเหตุกระทันหัน คงไม่ได้อยู่รอรับในวันศุกร์นะ..กำลังเคลียร์งานเพื่อกลับนครปฐมวันพฤหัสบดีนี้
ขอโทษด้วยครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #493 เมื่อ: 19 กันยายน 2553, 09:45:08 »

ขอโพสต์ข่าว...เพื่อทราบ

ม.มหิดล-จุฬาฯ ติดอันดับ 1 ใน 400 มหาวิทยาลัยระดับโลก
19 กันยายน 2553 04:01 น.

 
       Times Higher Education จัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก 2010-2011 สหรัฐอเมริกา-อังกฤษ กวาดเรียบ Top 10 ส่วนสองมหาวิทยาลัยไทย ติด 1 ใน 400
       
       Times Higher Education (THE) ประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ประจำปี 2010-2011 ผลปรากฏว่ามีมหาวิทยาลัยของประเทศไทยติดอันดับโลกในระดับ Top 400 จำนวน 2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยมหิดล อันดับที่ 306 และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อันดับที่ 341

 
       โดย รศ.พาสน์ศิริ นิสาลักษณ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า การจัดอันดับครั้งนี้ มีการกำหนดหลักเกณฑ์ตัวชี้วัดที่ใช้ในการพิจารณาขึ้นใหม่ 5 ตัวชี้วัด คือ
       
       Teaching — the learning environment โดยพิจารณาจากบรรยากาศการเรียนการสอน ประกอบด้วย ชื่อเสียงด้านการเรียนการสอน สัดส่วนนักศึกษาปริญญาเอกที่สำเร็จการศึกษาต่ออาจารย์ จำนวนการรับเข้านักศึกษาปริญญาตรีต่ออาจารย์ รายได้ต่ออาจารย์ และสัดส่วนนักศึกษาปริญญาเอกที่สำเร็จการศึกษาต่อนักศึกษาปริญญาตรีที่สำเร็จการศึกษา (ค่าน้ำหนัก 30%)
       
       Research — volume, income and reputation พิจารณาจากปริมาณ ผลงานวิจัย รายได้ และชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย ชื่อเสียงด้านการวิจัย รายได้จากการวิจัย จำนวนผลงานตีพิมพ์ต่ออาจารย์และนักวิจัย และรายได้วิจัยจากภาครัฐต่อรายได้วิจัยรวม (ค่าน้ำหนัก 30%)
       
       Citations — research influence พิจารณาจากจำนวนการอ้างอิงผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัย แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักวิชาการทั่วโลกในคุณภาพงานวิจัย (ค่าน้ำหนัก 32.5%)
       
       Industry income — innovation พิจารณาจากรายได้ของมหาวิทยาลัยที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่บ่งบอกถึงคุณภาพของการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่สังคม (ค่าน้ำหนัก 2.5%)
       
       International mix — staff and students พิจารณาจากความหลากหลายของนักศึกษาและบุคคลากรนานาชาติในมหาวิทยาลัยซึ่งสะท้อนถึงการเป็นมหาวิทยาลัยนานาชาติ โดยคำนึงถึงอัตราส่วนของบุคลากร -นักศึกษาจากต่างประเทศต่อบุคลากร - นักศึกษาภายในประเทศ (ค่าน้ำหนัก 5%)

 

       สำหรับมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ระดับโลก ได้แก่
       
       1 Harvard University สหรัฐอเมริกา
       2 California Institute of Technology สหรัฐอเมริกา
       3 Massachusetts Institute of Technology สหรัฐอเมริกา
       4 Stanford University สหรัฐอเมริกา
       5 Princeton University สหรัฐอเมริกา
       6 (ครองอันดับร่วม) University of Cambridge สหราชอาณาจักร
       6 (ครองอันดับร่วม) University of Oxford สหราชอาณาจักร
       8 University of California Berkeley สหรัฐอเมริกา
       9 Imperial College London สหราชอาณาจักร
       10 Yale University สหรัฐอเมริกา

 
 
       มหาวิทยาลัยชั้นนำ 1 ใน 10 ระดับเอเชีย ได้แก่
       
       1 University of Hong Kong ฮ่องกง
       2 University of Tokyo ญี่ปุ่น
       3 Pohang University of Science and Technology สาธารณรัฐเกาหลี
       4 National University of Singapore สิงคโปร์
       5 Peking University จีน
       6 Hong Kong University of Science and Technology ฮ่องกง
       7 University of Science and Technology of China จีน
       8 Kyoto University ญี่ปุ่น
       9 Tsinghua University จีน
       10 Korea Advanced Institute of Science and Technology สาธารณรัฐเกาหลี
       
       อนึ่ง การจัดอันดับมหาวิทยาลัยระดับโลกครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของ Times Higher Education (THE) ร่วมกับ บริษัท Thomson Reuters ภายหลังจากนิตยสาร Times Higher Education (THE) แยกตัวออกจากบริษัท Quacquarelli Symonds Ltd. (QS) เมื่อต้นปี 2010 ที่ผ่านมา

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000131504
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #494 เมื่อ: 19 กันยายน 2553, 09:47:54 »

วันนี้คือวันที่ 19 กันยายน ซึ่งวันเดียวกันนี้เมื่อปี 2549 คือวันยึดอำนาจการปกครองของ คปค.

หวังว่าวันนี้คงไม่มีเหตุร้ายอันใดเกิดขึ้นนะครับ
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #495 เมื่อ: 19 กันยายน 2553, 09:58:54 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 16 กันยายน 2553, 20:48:04
คุณป้อม....ข่าวด่วน

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 16 กันยายน 2553, 20:36:06
วันที่ 20-21-22 กันยายน ผมไปเชียงใหม่-เชียงรายครับ ไปทั้งทำงานและเยี่ยมเพื่อนฝูงครับ
สวัสดี
คุณเหยง ข่าวด่วน
ตอนนี้อยู่กรุงเทพฯจ้า มาส่งน้องออมย้ายหอ
จิ้มดีดคอมอยู่แถวทาวน์อินทาวน์
กลับเย็นวันนี้ จ้า
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #496 เมื่อ: 19 กันยายน 2553, 18:19:49 »

คุณป้อมและพี่อู๊ด

เดินทางปลอดภัยครับ
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #497 เมื่อ: 20 กันยายน 2553, 11:45:11 »

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 30 สิงหาคม 2553, 12:08:52
สวัสดีตอนเที่ยงครับพี่เหยง ... ตามหัวข้อกระทู้ ตอนหาที่ท่องเที่ยว 23 ตุลา

ตอนนี้ผมจัดโปรแกรมเที่ยวไทยไว้ 3 สถานที่ ลองดูนะครับ เผื่อท่านใดจะสนใจ ...


เสาร์ 18 ก.ย. Anantara Resort & Spa หัวหิน


http://huahin.anantara.com/default.aspx





สวัสดี ครับพี่เหยง มารายงานตัว

... ภารกิจที่ 1: เที่ยวเมืองไทย ไปหัวหิน ... สำเร็จแล้วครับ ^_^



      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #498 เมื่อ: 20 กันยายน 2553, 12:11:31 »










หัวหินไม่เคยสิ้นมนต์ขลัง (จริงๆ)  หึหึ



เครดิต: http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:c7LNTgsXAjsJ:www.pranburitravel.com/%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A2-%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%82.html+%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87&cd=3&hl=th&ct=clnk&gl=th

ชื่อหัวหินนั้นมีที่มา เล่ากันว่าในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3  พื้นที่เกษตรกรรมบางแห่งของเพชรบุรีเกิดความแห้งแล้งกันดาร ราษฏรบางส่วนจึงละถิ่นฐานแล้วย้ายลงมาทางใต้ จนมาถึงหมู่บ้านสมอเรียง ซึ่งเป็นชื่อแต่เริ่มแรก ที่บ้านสมอเรียงนี้มีชายหาดแปลกกว่าที่อื่น โดยมีกลุ่มหินกระจัดกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก ในขณะที่พื้นดินก็มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การทำนาทำไร่ เวลาต่อมาพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศวรฤทธิ์ (พระองค์เจ้าชายกฤษดาภินิหาร ต้นราชสกุลกฤษดากร) เป็นเจ้านายพระองค์แรกที่สร้างตำหนักหลังใหญ่ชายทะเลด้านใต้ของหมู่หิน และประทานชื่อตำหนักว่า “แสนสำราญสุขเวศน์” ต่อมาทรงปลูกอีกหลังหนึ่งแยกออกมาและตั้งชื่อเป็น แสนสำราญ กับ สุขเวศน์ ไว้ใช้รับเสด็จเจ้านาย นอกจากนี้ทรงสร้างเรือนขนาดเล็กใต้ถุนสูงอีกหลายหลัง ซึ่งต่อๆ มาก็คือ “บังกะโลสุขเวศน์” โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศวรฤทธิ์ ทรงตั้งชื่อหาดทรายบริเวณตำหนักและหาดถัดๆ ไปทางใต้เสียใหม่ว่า “หัวหิน”  เมื่อวันเวลาผ่านไป ชื่อ “หัวหิน” ก็แผ่ขยายกลายเป็นชื่อตำบล และเป็นชื่ออำเภอหัวหินมาจนถึงทุกวันนี้

ในระยะแรก ๆ มีเจ้านายหลายพระองค์มาสร้างตำหนักที่หัวหิน เช่น สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ทรงสร้างตำหนักใหญ่ถึงสองครั้ง ครั้งแรกคือ ตำหนักขาว และครั้งที่สอง คือตำหนักเทา รวมถึงเรือนเล็กอีกหลายหลัง ซึ่งได้กลายเป็นบ้านจักรพงษ์ในเวลาต่อมา และในช่วงเวลาเดียวกับที่มีการสร้างพระราชวังไกลกังวล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน (ต้นราชสกุลบุรฉัตร) ทรงได้จัดสร้างตลาดฉัตร์ไชยขึ้นในที่ดินพระคลังข้างที่ โดยออกแบบให้มีหลังคารูปโค้งครึ่งวงกลมต่อเนื่องกัน 7 โค้ง เพื่อสื่อความหมายว่าเป็นการสร้างขึ้นในรัชกาลที่ 7 บริเวณอาคารและแผงขายสินค้าเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ตัวตลาดโล่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก จัดเป็นตลาดที่ถูกสุขลักษณะที่สุดของประเทศไทยขณะนั้น ส่วนชื่อตลาดฉัตร์ไชยนั้นก็มาจากพระนามเดิมของพระองค์ คือพระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร ตลาดฉัตร์ไชยและโรงแรมรถไฟ หรือโฮเต็ลหัวหินจัดเป็นเป็นสัญลักษณ์สำคัญอันหนึ่งของชายทะเลหัวหิน


นับจากนั้น หัวหินก็ได้กลายเป็นเมืองตากอากาศของประเทศไทยมาเนิ่นนาน และโด่งดังถึงขนาดที่นักแต่งเพลงรุ่นเก๋าขอยืมชื่อมาแต่งเพลงพรรณนาถึงความงามของหัวหินแล้วหลายครั้ง ยกตัวอย่างเพลงหนึ่งที่เก่ามั่ก ๆ แต่ก็คลาสสิกสุด ๆ คือเพลงที่มีชื่อว่า หัวหิน ไม่สิ้นมนต์ขลัง เพลงนี้คนอายุเกินสี่สิบไปแล้วคงไม่มีใครไม่รู้จัก ส่วนคนอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ก็อาจจะเคยได้ยินมาบ้างถ้าเป็นผู้พิสมัยบทเพลงอมตะในอดีต แต่สำหรับฉันรู้จักเพลงนี้ครั้งแรกก็ตอนดูละครเรื่อง ปริศนา  ที่ พี่หมิว-ลลิตา แสดงคู่กับพี่นก-ฉัตรชัย เมื่อสิบกว่าปีก่อนโน้น…น ละครเรื่องนี้เป็นละครย้อนยุค ปริศนาเป็นสาวสมัยใหม่ที่สวมชุดว่ายน้ำแล้วเปิ๊ดสะก๊าดเกินหน้าสาว ๆ แถวหัวหินทุกคน



      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #499 เมื่อ: 20 กันยายน 2553, 14:05:30 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sittipong เมื่อ 19 กันยายน 2553, 09:58:54
คุณเหยง ข่าวด่วน
ตอนนี้อยู่กรุงเทพฯจ้า มาส่งน้องออมย้ายหอ
จิ้มดีดคอมอยู่แถวทาวน์อินทาวน์
กลับเย็นวันนี้ จ้า

เอาล่ะสิ..
ชีวิตช่างเฉียดกันไป สวนกันมา..
traffic jamค่าพี่ป้อม!
กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพพี่
      บันทึกการเข้า


  หน้า: 1 ... 18 19 [20] 21 22 ... 472   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><