เหยง 16
|
|
« ตอบ #9625 เมื่อ: 29 กันยายน 2556, 22:07:09 » |
|
ค่อนข้างจะละเอียด และลงเรื่องของทั้ง 2 ฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ผมเป็นชาวนครสวรรค์ที่ไม่เอาเขื่อนนะครับชาวบ้านนครสวรรค์หนุนรัฐเกินร้อยสร้างเขื่อนแม่วงก์ ขณะที่ จนท.อุทยานฯแนะเปลี่ยนจุดก่อสร้าง วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 20:55:51 น. ภายหลังจากที่ รัฐบาลประกาศเดินหน้าก่อสร้าง "เขื่อนแม่วงก์" ในบริเวณเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ท้องที่หมู่ 4 ต.แม่เล่ย์ อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ ได้ปลุกกระแสให้นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน ซึ่งก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยที่จะสนับสนุนการก่อสร้างในครั้งนี้นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแสวง พลลักษณ์ ชาวบ้าน หมู่8 ตำบลเขาชนกัน ได้ระบุ ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลเขาชนกัน จ.นครสวรรค์ ขอยืนยันว่าจะเดินหน้าสนับสนุนรัฐบาลสร้างเขื่อนแม่วงก์อย่างเต็มที่ เนื่องจากเห็นว่าหากก่อสร้างเขื่อนสำเร็จ จะทำให้เกษตรกรในพื้นที่อำเภอลาดยาว อำเภอแม่วงก์ และ ชาวบ้านอีก 2 จังหวัดได้แก่หวัดกำแพงเพชร อุทัยธานี ได้ประโยชน์จากการทำอาชีพเกษตรกรรม จากเดิมเคยทำนาได้ปีละ1ครั้งก็สามารถทำนาได้ปีละ3ครั้ง จะสร้างรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่มีรายได้เพิ่มแน่นอน นอกจากนี้ ที่ผ่านมาเกิดปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งซ้ำซาก ปีที่ผ่านมาชาวบ้านได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมปีละ2ครั้ง และปีนี้ก็เจอน้ำท่วมแล้ว2ครั้ง เนื่องจากน้ำจะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ลักษณะเช่นนี้จะวนเวียนกับชาวบ้านทุกปีเมื่อเข้าสู่ฤดูน้ำหลาก หากมีเขื่อนแม่วงก์ปัญหานี้จะแก้ได้ และหน้าแล้งก็จะมีน้ำทำนาเพียงพอ
“ขณะนี้ชาวบ้านบอกได้เลยว่าต้องการเขื่อนแน่นอน ส่วนจะก่อสร้างตรงจุดไหนอย่างไรไม่ทราบ แต่บอกว่าหากมีเขื่อนชาวบ้านกินดีอยู่ดีแน่นอน ดังนั้นจะเดินหน้าหนุนรัฐบาลเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์เพื่อให้เกิดเขื่อนแม่วงก์ให้ได้ จึงฝากขอร้องให้ผู้ที่คัดค้านเห็นใจชาวบ้านด้วย ชาวลาดยาวไม่ใช่ว่าจะไม่รักธรรมชาติ แต่ก็ขอให้คนไทยรักชาวบ้านเช่นกัน นึกถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านด้วย”นายแสวงกล่าว
ด้านนายสุพัฒน์ชัย จันทรานุสรณ์ ชาวบ้านวังม้า อ.ลาดยาว กล่าวว่า ส่วนตัวก็สนับสนุนการสร้างเขื่อนแม่วงก์ แต่ขณะนี้มีข้อถกเถียงเรื่องการอนุรักษ์ และเรื่องของความคุ้มค่าในการใช้ประโยชน์ ก็รับฟังและยืนยันว่าชาวบ้านต้องการเขื่อนจริงๆ หากไม่ได้เขื่อนอ่างเก็บน้ำก็ได้ของให้รัฐบาลทำให้ชาวบ้านจริงๆ เพราะว่าชาวบ้านต้องการน้ำทำนา เวลาหน้าแล้งก็แล้งไม่มีน้ำใช้ เวลาหน้าฝนน้ำก็ท่วมปัญหาเหล่านี้หากมีหน่วยงานรัฐบาล ช่วยชาวบ้านไม่ว่าจะสร้างเขื่อนหรือไม่สร้างเขื่อนชาวบ้านพอใจ ส่วนประเด็นการคัดค้านก็เข้าใจว่าต่างคนต่างทำหน้าที่ แต่ทั้งนี้ของให้นึกถึงข้อเท็จจริงของคนในพื้นที่เป็นหลัก
“ประเด็นการอนุรักษ์ฝ่ายต่อต้านพูดเมื่อไหร่ พูดที่ไหนก็จุดติด เพราะว่าคนจะมีจิตนาการได้ว่า ป่าไม้จะเสียหาย น้ำจะท่วมกว้างไกลขนาดใหญ่ ออกมาต่อต้านกันเรือนหมื่นเรือนแสน แต่ชาวนาพูดให้ตายเสียงก็ไม่ดังหรอก เพราะว่าพูดไม่เป็น ดังนั้นชาวบ้านไม่มีทางเลือกต้องสนับสนุนรัฐบาลให้เป็นตัวแทนช่วยพูดให้”นายสุพัฒชัยกล่าว
ด้านนายบุญสุข พรหมรักษ์ กำนันตำบลวังซ่าน อ.แม่วงก์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาในพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมฉับพลันและภัยแล้งซ้ำซาก แล้งหนักมาก จึงมีโครงการเขื่อนแม่วงก์เกิดขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยต้านกระแสน้ำป่าจากเทือกเขาแม่วงก์ที่ไหลบ่าลงมาแล้ว ยังช่วยให้เกษตรกรใน จ.กำแพงเพชร นครสวรรค์ และอุทัยธานี มีน้ำใช้ในช่วงฤดูแล้งด้วย โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ใน อ.แม่วงก์ และ อ.ลาดยาว เห็นด้วยกับโครงการนี้เพราะรอคอยมานานกว่า 30 ปี
ขณะที่ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เปิดเผยว่า พื้นที่สร้างเขื่อนแม่วงก์เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นหัวใจของป่าพื้นราบ ส่วนตัวมองว่าสิ่งที่จะเสียไปคือผืนป่านับหมื่นไร่ ไม่คุ้มค่ากับการก่อสร้าง เพราะหากเปรียบกับปริมาณน้ำท่วมในแต่ละปี เขื่อนแม่วงก์รับน้ำได้เพียง1% เท่านั้น รวมทั้งสามารถส่งน้ำไนพื้นที่ชลประทานได้เพียง 1 แสนไร่เท่านั้น แต่ก็ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้มาก ส่วนจะสร้างหรือไม่สร้างเขื่อนแม่วงก์ก็เป็นเรื่องของรัฐบาล ทางที่ดีที่สุดรัฐควรรับฟังข้อเสนอแนะให้รอบด้าน โดยเฉพาะแนวสันเขื่อนตั้งอยู่บริเวณแก่งลานนกยูง ในเขตอุทยานฯ แม่วงก์ หรือนักท่องเที่ยวเรียกว่าลานนกยูง ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีนกยูงอาศัยอยู่จำนวนมากด้วย
“การก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ทุกฝ่าย ควรหาทางออกร่วมกันอย่างสันติ แต่หากจะให้ดีที่สุดควรเปลี่ยนจุดการก่อสร้างเขื่อน จากเดินจะวางสันเขื่อนในป่าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ตรงลานนกยูง รัฐควรควรขยับเดินหน้าออกจากป่าไปสัก7-8กิโลเมตร ไปก่อสร้างเขื่อนบริเวณเขาชนกัน ตำบลแม่เลย์ แทน ซึ่งจะส่งผลกระทบกับป่าน้อยสุด และเขื่อนก็สามารถเก็บน้ำได้มากที่สุด สามารถส่งไปช่วยพื้นที่การเกษตรกรมากถึง4-5แสนไร่ เชื่อว่าทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์สูงสุด และแผนดังกล่าวนี้ก็มีอยู่แล้ว หากรัฐจริงใจไม่บิดเบือนแผนเดิม ขอให้ผู้เกี่ยวข้องตัดสินใจอย่างถูกต้องเท่านั้น เชื่อว่าหากทบทวนแผนนี้ฝ่ายอนุรักษ์ และฝ่ายสนับสนุนจะให้ประโยชน์ร่วมกันในที่สุด"http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1380457342&grpid=&catid=19&subcatid=1906
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9626 เมื่อ: 30 กันยายน 2556, 09:28:52 » |
|
พายุไต้ฝุ่น"หวู่ติ๊บ" มีกำลังแรงพอ ที่จะมาสลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำที่จังหวัดเพชรบูรณ์-พิษณุโลก น่าจะมีฝนตกไปถึงจังหวัดตาก เพื่อให้มีน้ำไหลลงเขื่อนภูมิพล ซึ่งความจุน้ำในขณะนี้ยังไม่ถึง 50% อย่างไรก็ตามมีร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พาดผ่านทะเลอันดามัน อ่ายไทย ภาคตะวันออกและภาคใต้ ฝนในบริเวณดังกล่าวยังมากและหนาแน่น ต้องระมัดระวังทั้งน้ำท่วม คลื่มสูง-ลมแรง
พยากรณ์อากาศ ประจำวันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2556 ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุ “หวู่ติ๊บ” " ฉบับที่ 11 (266/2013) ลงวันที่ 30 กันยายน 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (30 ก.ย. 56) พายุไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ” (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 250 กิโลเมตรทางตะวันออกของเมืองเว้ (HUE) ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 16.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 110.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่เมืองเว้ ประเทศเวียดนามในวันที่ 30 กันยายน 2556 จากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วโดยจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณ จ.นครพนม และคาดว่าจะสลายตัวบริเวณรอยต่อของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะทำให้ด้านตะวันออกและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งภาคเหนือด้านตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติดังกล่าวไว้ด้วย โดยจะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นทางด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในบ่ายวันนี้ (30 ก.ย. 56) อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้ ไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครพนม หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง กาญจนบุรี ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 70 อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9627 เมื่อ: 30 กันยายน 2556, 15:04:45 » |
|
ตามเรื่องเขื่อนแม่วงก์ต่อครับ....ค้านเขื่อนแม่วงก์แบบไหนดี? ดราม่า มึงกู แบบเหนือเมฆ หรือ ฟินๆ แบบชนชั้นกลางวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 09:15:20 น. (ที่มา:มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ 27 ก.ย.-3 ต.ค.2556) การเดินเท้าเพื่อคัดค้านรายงานการวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) โครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ซึ่งเป็น 1 ในโครงการเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยกลุ่มของมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร ที่นำโดย นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิ และเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และกลุ่มรักษ์ป่าแม่วงก์ ซึ่งเดินเท้าออกมาจากพื้นที่ลานนกยูง อันเป็นพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นหัวงานการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ไปสู่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นใจกลางของเมืองหลวง
การเดินเท้าครั้งสำคัญก็เพื่อประกาศ และกระจายข่าวให้ประชาชน 2 ข้างทาง ระหว่างทางเดิน บนเส้นทาง 388 กิโลเมตร ให้ทราบผลเสียของการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ และ จ.กำแพงเพชร โดยเริ่มเดินตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน กำหนดถึงหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 22 กันยายน
จุดเด่นของการคัดค้านครั้งนี้ ก็คือ ตลอดเส้นทางเดินเท้าของกลุ่มนายศศิน และเครือข่ายรักษ์สิ่งแวดล้อมนั้น ได้มีชาวบ้าน ดารา นักร้อง นักธุรกิจ เซเลบ นักเรียนนักศึกษา และคนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง และหน้ากากขาว เข้ามาร่วมเดินสมทบจำนวนมาก เป็นขบวนการคัดค้านนโยบายรัฐบาล ที่รวมคนได้หลากหลาย อย่างไม่น่าเชื่อ
แรงไม่แรง แปลกไม่แปลก ดราม่าหรือไม่ดราม่า ขอให้ดูความรู้สึกและอารมณ์ ของ "นก" ฉัตรชัย เปล่งพานิช นักแสดงและผู้จัดละครชื่อดัง ซึ่งได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ที่ชื่อ @mr_plengpanich เพื่อร่วมคัดค้านเขื่อนแม่วงก์ ในท่าทีดุดันและโกรธแค้นแบบสุดๆ แบบ "เหนือเมฆ"
"ถ้ามึงจะทำร้ายผืนป่า ทำร้ายธรรมชาติ ทำร้ายบ้านเกิดเมืองนอนอยู่อย่างนี้ สัตว์นรกจะมารอรับมึงแน่ แต่มึงคงไม่ตกใจ เพราะมึงเห็นในกระจกอยู่ทุกวัน คิดทำสิ่งสร้างสรรค์บ้างได้มั้ย"
เพียงไม่นาน ในโลกโซเชียลมีเดีย หรือ โลกเสมือนจริง ได้มีผู้เข้าไปกดถูกใจและแสดงความเห็นมากมาย และแน่นอนว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) คือ "มึง" ในสายตาของ นก ฉัตรชัย และชนชั้นกลางในเมือง ผู้หวงแหนและรักผืนป่า
ปลอดประสพ ถูกถล่มยับ ทั้งจาก นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.ประชาธิปัตย์ รวมถึงในสื่อปากกล้า แบบไม่ยั้ง เพราะคิดว่า ไม่ผิดตัว และด้วยคุณลักษณะ เรียกแขก ทำให้เกิดปรากฏการณ์ ล็อกเป้าถล่ม
ร้อนถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องออกโรงมาจัดการเอง เพราะเชื่อว่า ขืนปล่อยไว้ จะลามสู่รัฐบาลได้ในที่สุด โดยในการประชุม ครม. อังคารที่ 24 กันยายน นายกฯ ได้กำชับให้ นายปลอดประสพ สุรัสวดี เชิญ นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร เข้ามาร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นด้วย
นอกจากนี้ นายกฯ ยังสั่งให้นายปลอดประสพ เพิ่มการชี้แจงต่อสาธารณะให้มากขึ้นเกี่ยวกับประเด็นโครงการเขื่อนแม่วงก์ ว่ารัฐบาลไม่ได้ต้องการทำลายทรัพยากรป่าไม้สัตว์ป่า หรือสิ่งแวดล้อม แต่รัฐบาลเป็นห่วงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เฮียเพ้ง นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน วิเคราะห์ขบวนการคัดค้าน ครั้งนี้ว่า กลุ่มคัดค้านอีเอชไอเอโครงการเขื่อนแม่วงก์ เป็นกลุ่มปัญญาชน จะต้องให้เกียรติ มิเช่นนั้นจะมีกลุ่มการเมืองเข้าไปบิดเบือนประเด็นการเรียกร้องเป็นประเด็นทางการเมือง จึงควรเชิญคนกลุ่มนี้มาร่วมเวทีด้วย
เมื่อโดนแรงกดดันรอบทิศ นายปลอดประสพ ก็เปิดปากแฉว่า "พวกคุณค้านผิดคน ไม่ควรมาค้านผม แต่ต้องไปค้าน คุณปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน คุณปราโมทย์แก่แล้ว จึงลืมไปว่าเคยพูดไว้ว่าอย่างไร กรมชลประทานเป็นคนออกแบบ (นะ) เป็นคนตั้งงบประมาณ เป็นคนทำอีเอชไอเอ ไม่ใช่ผม คุณปราโมทย์ ทำมา 20 ปี ผมเป็นคนมาดูว่าลำน้ำสายนี้ คือ สะแกกรังไม่มีอะไรไปควบคุมต้นน้ำจริงๆ พอเวลาหน้าน้ำฝนตกลงมาปริมาณน้ำเต็มที่ 600-800 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงเห็นด้วยและนำเข้ามาทำเป็นโครงการ และมีการออกแบบใหม่"
นายปลอดประสพ ยังบอกด้วยว่า จะนำจดหมายของนายปราโมทย์ เมื่อครั้งเป็นอธิบดีกรมชลประทานที่ทำถึงตนในช่วงที่เป็นอธิบดีกรมป่าไม้เกี่ยวกับเขื่อนแม่วงก์มาให้ดู
ข้อถกเถียงเรื่องเขื่อนแม่วงก์ ยังดำเนินต่อไป จากฉากแรกที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึก รักหวงแหนผืนป่าแบบเต็มจอ จากนั้นเมื่อสังคมเริ่มถกเถียงเรื่องความรู้และความจริง เครื่องหมายคำถามก็เริ่มโผล่ขึ้นตามมา
"ศรยุทธ์ เอี่ยมเอื้อยุทธ" แสดงความเห็นเรื่อง ค้านเขื่อน แต่อย่าหยุดที่สีเขียว ผ่านประชาไท ตอนหนึ่งว่า "ผมคิดว่ากระแสอนุรักษ์นี้ "เขียวจัด" เกินไป ผมค้านเขื่อนครับแต่ไม่อินกับขบวนการนี้ ผมนึกถึงโจทย์ท้ายๆ ที่ลุงสืบทิ้งไว้ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลง นั่นคือ ประเด็นเรื่องการอยู่ร่วมกันของคนกับป่า...ไม่ใช่ประเด็นเรื่องการอนุรักษ์ป่าเพียงอย่างเดียว"
กระแสที่เขียวจัดเช่นนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับ "ปลอด" เพียงแต่เลือกกันคนละฝ่าย มีโลกกันคนละใบ แม้ว่าปลอดจะทำหน้าที่ "สนอง" อย่างเดียวก็ตาม ไม่มีอุดมการณ์ประเภทมองชีวิตคนอย่างเท่าเทียมอะไร...ปัญหาเรื่องนี้จึงไม่เคย
หรือ ข้อเขียนเรื่อง "ค้านเขื่อนแม่วงก์ ความฟินของชนชั้นกลาง" โดย noname ที่ตอนหนึ่งระบุว่า หวังว่าสิ่งที่ได้เห็นจะไม่ได้เป็นแค่ภาพลวงตา ไม่ใช่อีเว้นต์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครั้งชั่วคราว เพื่อให้ชนชั้นกลางได้ฟินกับการเสพและสำแดงอัตลักษณ์ "นักอนุรักษ์" ของตนเอง ผ่านกิจกรรม "จิตอาสา" บทกวี และดนตรีเพื่อชีวิต ที่ประกาศก้องถึงความรักและหวงแหนธรรมชาติ
หวังว่ามันจะไม่ใช่เพียงการฉกฉวยโอกาสในการเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อมเพื่อด่าทอรัฐบาลที่ชนชั้นกลางหลายคนชิงชัง ไม่ใช่แค่การร่วมประณาม "ทุนนิยมสามานย์" ที่ขับเคลื่อนโดย "นักการเมืองโกงกิน" แบบแผ่นเสียงตกร่อง ไม่ใช่แค่ดราม่าเชิดชู "คนดี" ฮีโร่ของสังคมตามพล็อตละครตอนเย็นแบบเดิมๆ
ซึ่งพอชนชั้นกลางได้ร่วมกิจกรรมจนฟินกันเสร็จสรรพแล้ว ก็พากันปัดตูด ขับรถพรีอูสกลับบ้าน ไปนอนผึ่งแอร์เบอร์ห้ารักษาสิ่งแวดล้อมอย่างสบายอารมณ์ สงสัยเพียงว่า "ความเป็นธรรมทางสังคม" จะเกิดได้ด้วยขบวนการเคลื่อนไหวแบบนี้จริงหรือไม่?
วิวาทะว่าด้วย เขื่อนแม่วงก์ ยังไม่จบ และบางทีรัฐบาลยิ่งลักษณ์ อาจถอดใจพับโครงการไปเฉยๆ แต่สิ่งที่สังคมไทยน่าจะได้ถกเถียงกันมากขึ้นคือ ความรู้ ไม่ใช่ แรงเหวี่ยงแห่งอารมณ์ความรู้สึก
ร่วมคลิกไลค์แฟนเพจมติชนสุดสัปดาห์ผ่านทางเฟซบุ๊กได้ที่ www.facebook.com/matichonweeklyhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1380506782&grpid=01&catid=&subcatid=
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9628 เมื่อ: 30 กันยายน 2556, 15:15:31 » |
|
ให้ตามอีกเรื่องครับ...ปริมาณข้าวในโครงการ ??, ไหนว่าขายออกไปให้จีนหลายล้านตันแล้วยังไง ??ชาวนา"วุ่น"ธ.ก.ส.เบรกจ่ายเงิน จำนำข้าวค้างกว่า3แสนตันห่วงเกินงบ หลังอคส.-อ.ต.ก.เร่งออกใบประทวนวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 10:31:12 น. ธ.ก.ส.สั่งเบรกจ่ายเงินจำนำข้าวให้เกษตรกร หลังพบ อคส.-อ.ต.ก.เร่งออกใบประทวนค้างจ่ายปริมาณข้าวกว่า 3 แสนตัน หวั่นเกินวงเงินที่เหลืออีกประมาณ 4 พันล้าน ส่วนข้าวภาคกลางที่เข้าโครงการไม่ทัน รอ กขช.ตัดสินใจ หากช่วยต้องมีมติ ครม.รองรับ หวั่นมีความผิดโทษฐานทำเกินคำสั่ง คาดต้องใช้เงินอีกหมื่นล้าน
แหล่งข่าวจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมีเกษตรกรมาขอเบิกเงินในโครงการรับจำนำในฤดูการผลิตปี 2555/56 กับ ธ.ก.ส.อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะปิดโครงการสำหรับพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปแล้วตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา โดยพบว่า องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ได้ออกใบประทวนไปแล้วกว่า 3 แสนตัน ทั้งนี้ ธ.ก.ส.คงไม่สามารถจ่ายเงินได้ทุกราย เพราะต้องทำตามกฎเกณฑ์ที่จะไม่จ่ายเงินให้กับใบประทวนที่ออกหลังวันที่ 15 กันยายน 2556 จึงได้สั่งตัดการเบิกจ่ายเงินแล้วทุกสาขาและกำชับให้พิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งการจ่ายเงินจะต้องใช้รหัสในการเข้าไปสั่งจ่ายเงินและผ่านการอนุมัติจากส่วนกลางเท่านั้น
แหล่งข่าวกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ธนาคารได้จ่ายเงินจำนำข้าวไปแล้ว 3.41 แสนล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3.45 แสนล้านบาท หรือเหลือเงินอีกเพียง 4 พันล้านบาท มีปริมาณข้าวเข้าโครงการแล้ว 21.6 ล้านตัน จากเป้าหมาย 22 ล้านตัน จึงยังเหลืออีกประมาณ 4 แสนตัน หากปล่อยให้จ่ายเงินทั้งหมดทีเดียว 3 แสนตันคาดว่า จะใช้เงินประมาณ 4 พันล้านบาท ที่เหลือหมดภายในสัปดาห์เดียว และมีความเสี่ยงที่จะเกินวงเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติได้ จึงต้องชะลอการจ่ายเงินไว้ก่อน เพราะยังมีข้าวจากภาคใต้ที่ออกมาช้ากว่าภาคอื่นอีกจำนวนหนึ่ง
"ช่วงใกล้จะปิดโครงการ อคส.และ อ.ต.ก.เร่งออกใบประทวนทั้งๆ ที่รู้ว่าปริมาณข้าวใกล้เต็มกรอบที่รับจำนำแล้ว ทำให้ขณะนี้มีใบประทวนค้างอยู่กว่า 3 แสนตัน โรงสีต่างๆ จึงมีการวิ่งเต้นให้การเมืองกดดันให้ ธ.ก.ส.เร่งจ่ายเงิน แต่ธนาคารจำเป็นต้องพิจารณาอย่างเข้มงวดและระมัดระวัง ไม่ทำเกินกว่าที่ ครม.อนุมัติไว้ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดในฐานการปฏิบัติงานด้วย" แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในส่วนของข้าวภาคกลางที่ยังเข้าโครงการไม่ทันและมีการเรียกร้องอยู่นั้น คงต้องรอมติจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ก่อนว่า จะมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือผ่อนผันให้เข้าร่วมโครงการหรือไม่ หากให้เข้าโครงการได้ก็อาจจะใช้เงินอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท แต่ต้องมีมติ กขช.รองรับและนำเข้าสู่การพิจารณาอนุมัติของ ครม.ก่อน ธ.ก.ส.จึงจะดำเนินการเพิ่มเติมได้
(ที่มา:มติชนรายวัน 30 ก.ย. 2556) ร่วมเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กกับมติชนออนไลน์ www.facebook.com/MatichonOnlinehttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1380508390&grpid=&catid=05&subcatid=0503
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9629 เมื่อ: 30 กันยายน 2556, 15:24:44 » |
|
วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 05:24 น. ข่าวสดออนไลน์ ยอมขาดทุนบทบรรณาธิการ โครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่รู้กันแต่แรกเริ่มว่าต้อง "ขาดทุน"
คำถามอยู่ที่ว่าจำเป็นต้องขาดทุนหรือไม่ และขาดทุนนานเท่าใด
หากย้อนคิดถึงว่าชาวนาถูกระบบกลไกตลาดเอาเปรียบมาเป็นเวลาหลายสิบปี ทั้งที่เป็นกลุ่มผู้ผลิตสินค้าที่มีความสำคัญต่อประเทศจนไทยติดกลุ่มผู้ส่งออกข้าวชั้นนำของโลก
การคืนหนี้บุญคุณให้ชาวนาไม่เป็นเพียงเรื่องจำเป็น แต่ควรทำ
ตัวเลขขาดทุนจำนำข้าวที่มีผลคำนวณช่วงกลางปีนี้อยู่ที่ราว 2 แสนล้านบาท
เป็นตัวเลข "ไม่สวย" ในระบบบัญชี แต่คุ้มค่าหรือไม่ ตอบด้วยตัวเลขอย่างเดียวไม่ได้
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยา ลัยหอการค้าไทย เพิ่งเปิดสำรวจล่าสุดถึงมุมมองคนสองกลุ่มที่มีต่อโครงการรับจำนำข้าว
กลุ่มผู้ประกอบการส่งออกข้าวไทย เห็นว่าควรยกเลิกโครงการรับจำนำทันที โดยร้อยละ 70.6 เห็นว่ามีผลเสียต่อประเทศมากกว่า เพราะรัฐบาลตั้งราคารับจำนำสูงเกินไป ทำให้แข่งขันด้านราคาไม่ได้
การส่งออกข้าวไทยจึงลดลงถึง 82% ตกจากอันดับ 1 ของโลก และคุณภาพข้าวแย่ลง
แต่ชาวนา ร้อยละ 63.7 เห็นว่าภาพรวมโครงการรับจำนำข้าวส่งผลให้ชีวิตของครอบครัวดีขึ้น
เนื่องจากช่วยลดภาระหนี้สินเดิม มีเงินใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จากราคาข้าวที่ดีขึ้นทำให้มีเงินออมมากขึ้น
นอกจากนี้ ต้องการให้ดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวต่อเนื่องไปอีก 3-4 ปี อาจลดวงเงินจาก 15,000 บาทต่อตันลงได้ แต่เลิกไม่ได้
ผลการสำรวจดังกล่าวเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่รัฐบาลน่าจะใช้วางแผนอุดช่องโหว่ในโครงการรับจำนำข้าว
ยิ่งในยามเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง กระทบต่อการส่งออกโดยรวม
และในยามที่เกษตรกรผู้ปลูกผลผลิตอื่นที่ไม่ใช่ข้าว ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐเช่นกัน
คาดการณ์ได้ว่า โครงการรับจำนำข้าวจะถูกโจม ตีอย่างหนักต่อไป เพราะตัวเลขขาดทุนจะไม่ลดลง
โจทย์ของรัฐบาล นอกจากต้องป้องกันและปราบปรามการทุจริตในกระบวนการรับจำนำอย่างต่อเนื่องแล้ว
ต้องอธิบายให้สังคมเข้าใจร่วมกันว่า เหตุใดจึงต้องยอมให้ตัวเลขในบัญชีนี้ติดลบhttp://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE1ETXlNRFk0T0E9PQ==&catid=07
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9630 เมื่อ: 30 กันยายน 2556, 16:23:52 » |
|
เพียงเสียงทักทายจากไต้ฝุ่นหวูติ๊บ หลายจังหวัดเวียดนามน้ำท่วมเละ30 กันยายน 2556 14:31 น. เด็กดีเดินและจูงรถจักรยานลุยน้ำไปเรียนตามปรกติในเมืองโฮยอาน จ.กว๋างนาม ในตอนเช้าวันจันทร์ 30 ก.ย.นี้ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า ย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำของเมืองมรดกโลกระดับน้ำท่วมสูง 30-40 ซม. สร้างความยากลำบากไปทั่ว สื่อของทางการรายงานว่าจังหวัดชายทะเลตั้งแต่นครด่าหนังขึ้นไปจนถึง จ.เหงะอาน มีคลื่นสูง 3-4 เมตรเข้ากระทบฝั่งตลอดทั้งคืน ไต้ฝุ่นหวูติ๊บมีกำหนดเคลื่อนเข้าฝั่งในบ่ายวันนี้. -- ภาพ: TTO ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เกิดฝนตกหนักในหลายจังหวัดตอนกลางเวียดนามในคืนวันอาทิตย์ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา เมืองเก่ามรดกโลกโฮยอาน (Hoi An) เกิดน้ำท่วมขัง อุทกภัยยังลามถึง จ.เถือะเทียนเหว (Thua Thien Hue) เหนือขึ้นไป และใน จ.เหงะอาน (Nge An) ตอนเช้าวันจันทร์ 30 ก.ย.นี้ มีโรงเรียนนับร้อยแห่งต้องปิดไปโดยอัตโนมัติเนื่องจากน้ำท่วมสูง นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะไต้ฝุ่นลูกใหญ่ยังอยู่ห่างจากฝั่งออกไปกว่า 300 กิโลเมตร ในหลายพื้นที่ฝนยังตกหนักติดต่อกันมาจนถึงขณะนี้ หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม น้ำจากแม่น้ำในเมืองโฮยอาน จ.กว๋างนาม (Quang Nam) ได้เอ่อล้นขึ้นท่วมท้นตัวเมือง และถนนหนทางตั้งแต่ากลางคืน ระดับน้ำ 30-40 ซม. สร้างความยากลำบากให้แก่ประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมา แต่นักเรียนจำนวนมากก็ยังคงลุยน้ำเพื่อไปเรียนในท่ามกลางฝนตกโปรยปราย ทางการระดมเรือกว่า 20 ลำ และอากาศยานเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยรุนแรง ซึ่งมีจำนวนมากหลังคาบ้านเรือนถูกพัดหายไป จังหวัดชายทะเลตั้งแต่นครด่าหนัง ขึ้นไปจนถึง จ.เหงะอาน ต้องเจอคลื่นสูงตั้งแต่ 3-4 เมตร ซัดเข้าฝั่งตลอดคืนที่ผ่านมา ทางการท้องถิ่นต่างๆ กำลังเร่งสำรวจความเสียหาย โดยคาดว่าจะมีเรือประมงที่เข้าจอดชายฝั่งถูกคลื่นพัดพาหายไป หรือเสียหายจำนวนไม่น้อย ที่ อ.เลถวี (Le Thuy) จ.กว๋างบี่ง (Quang Binh) มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายราว 220 ครัวเรือน อีกจำนวนมากได้อพยพไปอาศัยในแหล่งหลบภัยชั่วคราวในเช้าวันนี้ ชาวสวนยางกล่าวว่า ต้นยางพาราในสวนยางบนเนินเขาถูกพายุพัดหักโค่นลงเป็นจำนวนมาก ในเมืองโด่งเฮย (Dong Hoi) เมืองเอกของจังหวัด มีต้นไม้หักโคนลงกีดขวางเส้นทางจราจรเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการจราจรติดขัดไปทั่ว กองบัญชาการทหารจังหวัดได้ระดมพลราว 300 นาย ร่วมกับกำลังตำรวจอีก 150 นาย พร้อมเรือ 35 ลำ เรือเล็กอีกหลายสิบลำ ออกให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบเคราะห์ เตื่อยแจ๋กล่าว ตอนเช้าวันจันทร์นี้ หวูติ๊บ ยังคงอยู่ห่างจากฝั่ง จ.เหงะอาน ราว 170 กม. ขณะเป็นไต้ฝุ่นระดับ 2 คาดว่าจะเข้าถึงฝั่งในเวลาประมาณ 17 น.วันนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง ซึ่งเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ได้สั่งการในวันอาทิตย์ให้จังหวัดต่างๆ กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งฝ่ายพลเรือน และทหาร ติดตามช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยอย่างทันการณ์ และอย่างไม่มีเงื่อนไข เตื่อยแจ๋กล่าว. . นายหว่างจุงหาย (Hoang Trung Hai) รองนายกรัฐมนตรีลงเยี่ยมเยือนราษฎรผู้ประสบภัยใน จ.กว๋างจิ ตอนเช้าตรู่วันจันทร์นี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋งสั่งการให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันกาลและอย่างไม่มีเงื่อนไข สื่อของทางการกล่าว. -- ภาพ: TTO ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงซัดกระหน่ำบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายหลายหลังในบริเวณอ่าวด่าหนัง ฝนยังคงตกติดต่อกันมาจนถึงวันจันทร์นี้. -- ภาพ: TTO ต้นไม้หักโค่นลงจำนวนมากในนครเหวสร้างความยากลำบากให้แก่การสัญจร ยังมีรายงานเหตุการณ์คล้ายกันนี้ในเมืองโด่งเฮย จ.กว๋างบี่ง และ จ.เหงะอานที่อยู่สูงขึ้นไป ฝนยังคงตกทั่วไปในภาคกลางตอนบนเวียดนามวันจันทร์นี้ ขณะไต้ฝุ่นหวูติ๊บกำลังจะพัดเข้าฝั่งในตอนบ่าย. -- ภาพ: TTO จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9560000122894
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9631 เมื่อ: 30 กันยายน 2556, 17:45:28 » |
|
อย่าเพิ่งตกใจครับเดือนกันยายนนี้ เจอพายุไป 5 ลูกแล้ว ประกอบด้วย 1.Toraji เกิดเมื่อ 2 ก.ย. 2.Mam yi เกิดเมื่อ 15 ก.ย. 3.Usagi พัดเข้ามาเกาะฟิลิปปินส์ เกาะฮ่องกง ไต้หวัน แผ่นดินใหญ่จีน เกิดเมื่อ 20 ก.ย. 4.Pabug เกิดแถบญี่ปุ่น เมื่อ2 3 ก.ย. ช่วยลดความรุนแรงของ Usagi ลงไปได้ 5.Wutip ที่กำลังพาดงวงอยู่ในขณะนี้ เริ่มเมื่อ 26 ก.ย. ลูกที่ 6 ก่อตัวแล้วครับ น่าจะได้ชื่อว่า "เชอปัด Sepat" ปลาน้ำ้จืดที่มีครีบใช้คลาน จาก Malaysia ครับ ส่วนจะดุเท่า "Wutip ผีเสื้อน้อย"จากมาเก๊าหรือไม่ ?? ต้องตามครับ
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9633 เมื่อ: 30 กันยายน 2556, 21:38:18 » |
|
หนุน
พรุ่งนี้ พายุน่าจะเข้าเมืองไทยที่นครพนม
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9634 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2556, 10:07:18 » |
|
พายุหวู่ติ๊บ เข้ามาในประเทศไทยทั้งจังหวัดนครพนมด้วยการเป็นดีเปรสชั่น และสลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ จากนั้นจะขึ้นทะแยงไปทางเหนือเล็กน้อย ไปสลายเหนือจังหวัดตาก-ลำปาง (ตามรูปพยากรณ์ในภาพสีเขียว)
มีร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พาดผ่านภาคใต้ฝั่งอันดามัน-อ่าวไทย และภาคตะวันออก มีผลให้ฝนมาก คลื่นสูง ลมแรงจุดที่พายุหวูติ๊บ สลายตัวในประเทศไทยภาพจาก JTWC จองสหรัฐภาพจากอุตุนิยมของไทย พยากรณ์อากาศ ประจำวันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2556 ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุ “หวู่ติ๊บ” (WUTIP)"
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. พายุไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ” (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางได้ขึ้นฝั่งเหนือเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม เมื่อวานนี้ (30 กันยายน) เวลา 16.00 น. ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชั่นอย่างรวดเร็วและเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดนครพนมในเช้าวันนี้ (เวลา 01.00 น.) และเมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (1 ต.ค. 56)มีศูนย์กลางอยู่ที่จังหวัดนครพนม กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคาดว่าจะอ่อนกำลังลงอีกเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณรอยต่อของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ด้านตะวันออกและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งภาคเหนือด้านตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติดังกล่าวไว้ด้วย อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้ ไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนหนักบางแห่งกับมีลมแรงบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น และชัยภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง กาญจนบุรี ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง กับมีลมแรงบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 70 อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9635 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2556, 10:14:29 » |
|
COMING SOON
ตามมาอีกลูก ผลพวกที่เริ่มก่อตัวในสิ้นเดือนกันยายน 2556 เรียกชื่อ "ฟิโทว์ Fitow ดอกไม้หอมของไมโครนีเซีย" โดยผ่านชื่อ "เชอปัด Sepat ของมาเลเซีย" ไป คาดว่าพายุลูกใหม่ ไม่น่าจะมีผลต่อประเทศไทย
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #9636 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2556, 10:17:45 » |
|
อากาศแปรปรวนหลายประเทศเลยนะครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9637 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2556, 10:22:23 » |
|
ประเทศไทยมีข่าวตัดไม้พยูงทุกวัน โดนแบบนี้ทุกวัน จะแล้งเป็นทะเลทราบแน่ ??
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9638 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2556, 10:22:52 » |
|
ขออนุญาตออกไปตลาดปากน้ำโพสักนิคครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9639 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2556, 15:50:35 » |
|
กลับมาแล้วครับ... พร้อมกับข่าวมหาวิทยาลัยเยล ได้รับเงินบริจาคจากศิษย์เก่ารายเดียวเป็นเงินถึง 250 ล้านดอลล่าร์ และมหา'ลัย นำเงินบริจาคไปสร้างหอพัก 2 หลังให้นักศึกษาปริญญาตรี 6,000 คนได้พักอาศัย ทุบสถิติ ศิษย์เก่าบริจาคให้มหาวิทยาลัยเยล 7,800 ล้านบาทวันที่ 01 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13:45:13 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 30 กันยายนว่า มหาวิทยาลัยเยล ในรัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา ได้รับเงินบริจาคจากศิษย์เก่าเป็นจำนวนเงินมากถึง 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 7,800 ล้านบาท นับเป็นเงินบริจาคจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 312 ปีของมหาวิทยาลัย
โดยแถลงการณ์ซึ่งประกาศออกมาในช่วงบ่ายของวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมาระบุว่าเงินบริจาคจำนวนดังกล่าวเป็นของนายชาร์ลส์ จอห์นสัน บัณฑิตที่จบการศึกษาไปเมื่อปี 2497 อดีตประธานบริษัทแฟรงคลิน รีซอร์ส อิงค์. บริษัทผู้บริหารจัดการสินทรัพย์ ที่เกษียณอายุไปเมื่อสิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยมหาวิทยาลัยเยลจะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปสร้างพื้นที่พักอาศัยของนักศึกษา 2 แห่ง เชื่อว่าการก่อสร้างดังกล่าวจะช่วยเพิ่มจำนวนนักศึกษาในระดับปริญญาตรีได้ราว 15 เปอร์เซ็นต์ เป็นจำนวนมากกว่า 6,000 คน http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1380609620&grpid=&catid=06&subcatid=0600
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9640 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2556, 16:13:54 » |
|
จากห้วงหาว.. เห็นไต้ฝุ่นถล่มลาว-เวียดนาม1 ตุลาคม 2556 00:33 น. ภาพจากดาวเทียม MTSAT ห้วงเวลาต่างๆ ตั้งแต่บ่ายวันจันทร์ 30 ก.ย.2556 จนถึงกลางดึกวันเดียวกันจับมาเรียงเข้าด้วยกันเป็นภาพต่อเนื่องทำให้มองเห็นนาทีที่ไต้ฝุ่นหวูติ๊บ (Wutip) พัดกระหน่ำเข้าฝั่งเวียดนาม.. หมุนคว้างเข้าสู่แขวงภาคกลางของลาวและคลายความเร็วลงเป็นพายุโซนร้อน.. ภาพจากดาวเทียมหยุดลงที่จุดนั้น แต่พายุยังไม่หยุด แผนภูมิพยากรณ์ของหลายสำนักที่ออกในคืนเดียวกันแสดงเห็นแนวพัดผ่านใหม่ที่หวูติ๊บซัดเข้าใจกลางนครเวียงจันทน์เมืองหลวงของลาวกับภาคอีสานตอนบนของไทยอย่างไม่มีอะไรหยุดยั้งได้. [หรือ..คลิกที่นี่ชมไต้ฝุ่นจากดาวเทียม] http://www.ssd.noaa.gov/PS/TROP/floaters/20W/flash-vis-long.html ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทุกอย่างเป็นไปตามคาด ไต้ฝุ่นหวูติ๊บ (Wutip) เคลื่อนเข้าซัดภาคกลางตอนบนเวียดนามหลังเวลา 17 น. เพียงเล็กน้อยในวันจันทร์ 30 ก.ย.นี้ ทำให้เกิดฝนตกหนักกินบริเวณกว้างลงไปจนถึงนครโฮจิมินห์ในภาคใต้ ขณะทางการระดมกำลังเจ้าหน้าที่หลายพันคนออกช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยตลอดบ่ายจนตกถึงยามค่ำคืน พายุลมแรงทำให้ต้นไม้ถูกถอนราก หรือหักโค่นในหลายตัวเมือง ขณะที่หลายจังหวัดไฟฟ้าดับตั้งแต่เวลาบ่าย ประชาชนหลายล้านต้องอยู่ในความมืด รายงานในเบื้องต้นโดยสื่อของทางการแจ้งว่า มีบ้านเรือนของราษฎรนับหมื่นหลังคาในจังหวัดที่พายุเคลื่อนตัวผ่านถูกพัดหลังคาหายไป หรือได้รับความเสียหาย ก่อนหน้านั้น ทางการได้อพยพราษฎรราว 70,000 คน ออกจากพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ไปอาศัยในสถานที่หลบภัยช่าวคราว ไต้ฝุ่นทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันตั้งแต่นครด่าหนัง ขึ้นไป จ.กว๋างนาม เถือะเทียนเหว กว๋างจิ กว๋างบี่ง ห่าติ๋ง และ จ.เหงะอาน วัดประมาณน้ำฝนได้ตั้งแต่ 150-300 มิลลิเมตร ทั้งนี้ เป็นรายงานของศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลาง ที่ออกเมื่อเวลา 22.30 น. ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งนี้คาดว่า ไต้ฝุ่นได้อ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วขณะเคลื่อนเข้าดินแดนลาว ซึ่งคาดว่าจะกลายสภาพเป็นดีเปรสชัน และมลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในที่สุด .. แต่การณ์กลับตรงข้าม พายุลูกนิ้ทนทายาดกว่าที่คาด.. จนถึงเวลาประมาณเที่ยงคืนวันจันทร์ ภาพต่อเนื่องจากดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา MTSAT ในช่วง 6 ชัวโมงแสดงให้เห็นพายุโซนร้อนลูกใหญ่อาละวาดอยู่เหนือแขวงบอลิคำไซ กับแขวงคำม่วน ของลาว แผนภูมิของหลายสำนักได้แสดงให้เห็นพายุลูกใหญ่กำลังตรงดิ่งซัดเข้าใจกลางนครเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว แผนภูมิพยากรณ์โดยศูนย์ร่วมเตือนภัยไต้ฝุ่นของกองทัพเรือสหรัฐฯ สำนัก Tropical Storm Risk ในกรุงลอนดอน รวมทั้งองค์การอุตุนิยมวิทยาแห่งญี่ปุ่น หรือ JMA (Japan Meteorological Agency) ในกรุงโตเกียว ต่างชี้ให้เห็นปลายทางของพายุลูกนี้อยู่ที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา กับภาคเหนือของไทยไม่เปลี่ยนแปลง. . นาทีสำคัญขณะพายุโซนร้อนหวูติ๊บ (Wutip) หมุนคว้างอยู่เหนือชานแดนเวียดนามกับแขวงบอลิคำไซและแขวงคำม่วนในภาคกลางของลาว มุ่งหน้าถล่มนครเวียงจันทน์ ประชาชนหลายล้านคนในย่านนี้จะต้องจดจำภาพนี้ไปอีกนานเท่านาน จะเป็นเวลาสักกี่ปีก็ลืมไปแล้วนับตั้งแต่มีไต้ฝุ่นพัดในแนวนี้เข้าถล่มอนุภูมิภาคก่อนหน้านี้. ไต้ฝุ่นหวูติ๊บ (Wutip) ขณะมุ่งหน้าข้ามพรมแดนเวียดนามเข้าสู่ดินแดนภาคกลางของลาวในภาพดาวเทียม MTSAT ที่เผยแพร่โดยหอสังเกตการณ์ฮ่องกง (Hong Kong Observatory) เมื่อเวลา 22.03 น.ตามเวลาในท้องถิ่นหรือ 20.03 น.เวลาในประเทศไทย. แผนภูมิพยากรณ์ของ JTWC ที่ออกคืนวันจันทร์ 30 ก.ย.2556 แสดงเส้นทางและปลายทางของไต้ฝุ่นหวูติ๊บซึ่งยังไม่เปลี่ยนแปลงจากที่พยากรณ์ก่อนหน้านี้ แผนภูมิชิ้นใหม่นี้ยังแสดงให้เห็นการเคลื่อนผ่านภาคอีสานตอนบนของไทยในขณะยังเป็นพายุโซนร้อน.. อีกไม่กี่ชั่วโมงจะได้เห็น. จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9560000123165
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9641 เมื่อ: 01 ตุลาคม 2556, 22:28:18 » |
|
สวัสดีครับ
ขณะนี้เวลา 22.20 น. นครสวรรค์ในวันนี้ฟ้าเปิดตลอดวัน มีแดด แม้เมฆจะมาก ทั้งที่บ้านและตลาดปากน้ำโพซึ่งอยู่ห่างกัน 12 ก.ม. ไม่มีฝนมาปรากฎให้เห็นเลย
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9642 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2556, 09:01:48 » |
|
สวัสดีครับ
วันพุธที่ 2 ตุลาคม นครสวรรค์ฟ้ามีเมฆมาก แต่แดดออก อากาศค่อนข้างจะอบอ้าวครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9643 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2556, 09:21:35 » |
|
ยังมีฝนตกในพื้นที่"พายุหวู่ติ๊บ" ซึ่งสลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในภาคเหนืออยู่ ขณะที่ภาคอื่นของประเทศไทยมีฝนจากร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พาดผ่านทะเลอันดามัน อ่าวไทย ภาคตะวันออก ในทะเลคลื่นสูง ลมแรงเช่นเดิมพยากรณ์อากาศ ประจำวันพุธที่ 2 ตุลาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนกลาง และร่องมรสุมนี้จะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ในช่วงวันที่ 2-6 ตุลาคม 2556 ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ในระยะนี้
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และ อุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 70 อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9644 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2556, 17:26:19 » |
|
สวัสดีครับ
ตั้งแต่เช้ามา แดดดีและฟ้าเปิด อยู่ดีๆ ฝนตกลงมาอย่างหนักแบบไม่ลืมหู ลืมตา ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นมา ยังตกไม่เลิกครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9645 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2556, 17:40:51 » |
|
ฝนหยุดตกแล้วครับ หลังจากตกมาเพียงครึ่งชั่วโมง กิจกรรมการออกกำลังกายที่อุทยานสวรรค์ยุติลงไปโดยปริยายครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9646 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2556, 17:49:46 » |
|
ยังมีพายุอีก 2 ลูกที่เริ่มเกิดจากปลายเดือนกันยายน และพัฒนาขึ้น อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ไม่มีผลกระทบกดับประเทสไทยโดยตรงเชอปัด- ปลาน้ำจัดจากมาเลเซีย ฟิโทว์- ดอกไม้หอมจากไมโครนีเซีย
|
|
|
|
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์
คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927
|
|
« ตอบ #9647 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2556, 19:40:45 » |
|
สวัสดีครับพี่เหยง ขณะนี้ 19.40 น. ฝนกำลังกระหน่ำ ที่แถวๆบ้าน รัซโยธิน ลาดพร้าว ฉ่ำเลยครับ...
|
“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้ อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9648 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2556, 21:58:34 » |
|
หนุน
ฝนเป็นสมบัติ ผลัดกันรับ ได้ แต่ถ้าตกเกินพอดี ก็เหลือจะรับเช่นกัน
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9649 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2556, 14:31:17 » |
|
ร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก โดยมีหย่อมความกดอากาศต่ำจากเวียตนามตอกลางเข้ามา ทำให้เกือบทุกภาคมีฝนตกหนาแน่น พึงระวังอันตรายจากน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนและน้ำท่วมฉับพลันพยากรณ์อากาศ ประจำวันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10:00 น. ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงยังคงพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออกเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 5 ตุลาคมนี้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังคงมีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 3-5 ตุลาคม 2556 ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี กรุงเทพมหานครรวมทั้งปริมณฑล นครนายก สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ฟิโทว์” (FITOW) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกกำลังเคลื่อนตัวทางทิศเหนือ และพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 80 และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
|
|
|
|
|