22 สิงหาคม 2567, 20:47:33
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 210 211 [212] 213 214 ... 472   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ  (อ่าน 2489000 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #5275 เมื่อ: 30 มกราคม 2555, 08:53:12 »

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 29 มกราคม 2555, 21:41:49
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 19 มกราคม 2555, 21:25:00
มองขึ้นไปบนต้น พบจัดที่น่าจะเป็นดอกอยู่ 1 จุด ซึ่งจุดนี้ ถูกนักถ่ายภาพ จับภาพกันไปทั้งสิ้น








สวัสดีครับพี่เหยง ... 

เก็บ นางพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระ เมืองไทย จากดอยแม่สลอง จ.เชียงราย มาฝากครับ ...
















...ซากุระเมืองไทย...สวยค่ะ...

...น้อง ดร.มนตรี...ไปช่วงหน้าหนาว...

...อากาศกำลังดีเลยค่ะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5276 เมื่อ: 30 มกราคม 2555, 20:15:51 »

สวัสดีครับ พี่ตู่

ในภาคเหนือหลายๆจังหวัดของไทย น่าจะมีต้นซากุระ หรือพญาเสือโคร่ง ขึ้นอยู่
แต่มีเพียงบางจังหวัดเท่านั้น ที่โปรโมตการท่องเที่ยวดูต้นซากุระ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5277 เมื่อ: 30 มกราคม 2555, 20:41:01 »

     มีอาจารย์บางคนที่แสดงตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำในช่วงวิกฤติน้ำท่วม และถูกรัฐบาลตั้งให้อยู่ฝ่ายเลขานุการของคณะ กยน. ออกมาวิพากย์ว่า ไม่จำเป็นต้องมี ดร.สุเมธ, ดร.สมิทธิ, อดีตอธิบดีปราโมทย์ ไม้กลัด อยู่ต่อไปก็ได้นั้น
     ผมว่า อาจารย์พวกนี้ไม่มีกึ๋นเพียงพอว่า กยน.แค่คนเขียนบท อีกพวกจะเป็นคนเบิกและใช้เงิน 350,000 แสนล้านบาท ตรงนี้ต่างหากที่ท่านทั้งสามรับไม่ได้ ซึ่งได้ออกมาบอกสังคม พวกนั้นคิดกันแต่เรื่องงบประมาณ ?? รวมทั้งข้อมูลที่ว่า ใช้เวลาไม่กี่นาทีผ่านงบโครงการนับแสนล้านบาท ??
     แล้วที่สุดอาจารย์พวกนั้นจะรู้ว่า ตัวเองเป็นเพียง สุนัขรับใช้ ??!!


กยน...น้ำลดตอผุด ภาพฟ้องนายกฯ ราคาคุย
บทบรรณาธิการ30 มกราคม 2555 - 00:00

    ความอัดอั้นตันใจของคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) นำโดยนายสมิทธ ธรรมสโรช อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งระบุออกมาต่อหน้าสาธารณชนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นับว่าส่งผลกระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มากก็น้อย สังเกตได้จากการเคลื่อนไหวของคณะรัฐมนตรี ซึ่งรีบเร่งออกมาร้องขอและยับยั้งการลาออกของคณะกรรมการบางคนทันทีทันควัน แต่อย่างไรก็ตาม การเสียหน้าของรัฐบาลกล่าวได้ว่า ไม่ร้ายแรงหนักหนาสาหัสเท่ากับการสูญเสียโอกาสและเวลาของทุกฝ่าย ที่อยากเห็นมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างบูรณาการด้วยความจริงจัง จริงใจ และยั่งยืน   
      กยน.ก่อกำเนิดเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2554 หลังวิกฤติมหาอุทกภัยภายใต้ยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ฟื้นความเชื่อถือ และ สร้างความมั่งคั่งและมั่นคงของประเทศจากวิกฤติภัยธรรมชาติให้กลับฟื้นคืนมาในระยะยาวอย่างยั่งยืนและเป็นระบบ โดยเชื้อเชิญผู้ทรงคุณวุฒิประกอบกันเป็นคณะกรรมการดำเนินการเป็นกรณีพิเศษ และมีนายกรัฐมนตรีนั่งเป็นประธาน พร้อมกับการกำหนดอำนาจหน้าที่สำคัญคือ  ทบทวนนโยบาย แผนงาน และแผนปฏิบัติการ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ ระดมความคิดเห็นและความรู้เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการแก้ปัญหาและวางระบบการบริหารจัดการน้ำของประเทศ รวมทั้งจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ และวางกรอบการลงทุนด้านการบริหารทรัพยากรน้ำของประเทศ เสนอแก่รัฐบาล   
      ถือว่าเป็นความหวังใหม่ที่น่าจะจรัสเจิดจ้า ดูสะสวยพวยพุ่งเหมือนนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย เพราะคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแต่ละรายนามแต่ละท่าน กล่าวได้ว่า มีความรู้และมีประสบการณ์ในด้านการจัดการน้ำเป็นอย่างดี นอกจากนั้น ต่างก็มีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะร่วมมือร่วมใจหาหนทางพาประเทศชาติบ้านเมืองออกจากวิกฤติมหาอุทกภัย โดยเฉพาะการมี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตอบรับนั่งเป็น ที่ปรึกษา กยน. เท่ากับเป็นแกนนำสำคัญช่วยสร้างเสริม ต่อเติม ภาพลักษณ์การเอาจริงเอาจังในการบูรณาการทรัพยากรน้ำของรัฐบาลได้อย่างยอดเยี่ยม
      แต่ชีวิตจริงในการลงมือปฏิบัติ ดูเหมือนจะแตกต่างจากความสวยหรูบนหน้ากระดาษโดยสิ้นเชิง เพราะหลังจากที่ กยน.เริ่มระดมสมองและความคิดเห็นในวันแรก ปรากฏกระบวนการของการทำงานที่ขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วทันอกทันใจ ที่สุดกลับกลายเป็นการแต่งตั้งที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ตามที่มอบหมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นนักการเมือง และพี่น้องผองเพื่อนภายใต้สังกัดพรรคเพื่อไทยของนายกฯ แม้กระทั่งกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "คนเสื้อแดง" ก็นั่งแน่นขนัดอยู่ในการประชุมของ กยน. โดยมิได้สนใจใยดีถึงคุณสมบัติที่พึงมีสำหรับการทำงานกับ กยน. และเพื่อการบูรณาการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพและยั่งยืนแต่อย่างใด
      ความเชื่อและความมั่นใจว่า กยน.ผู้ทรงคุณวุฒิ 25 คนกับที่ปรึกษา จะใช้สรรพกำลังและสมองมาบูรณาการร่วมกัน เพื่อต่างสามารถเสริมประสิทธิภาพให้แก่ระบบงานพัฒนาการของประเทศได้อย่างยั่งยืน จึงเป็นแค่ความฝัน หรือไม่แตกต่างจากยุทธศาสตร์การสร้างภาพของรัฐบาล เพราะไม่เพียงไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการพิจารณาแผนบริหารจัดการน้ำทุกส่วน โดยการนำข้อมูลปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมาใช้เป็นแนวทาง เพื่อวางระบบการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังไม่มีใครจะลงนั่งตัดสินใจว่า หากต้องดำเนินโครงการฟลัดเวย์เพื่อการระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว จะจัดการอย่างไรกับสิ่งกีดขวางทางน้ำต่างๆ ด้วย
      สถานการณ์ที่เกิดขึ้นใน กยน. ไม่ได้แค่ฟ้องบอกถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการของรัฐบาลที่สัญญิงสัญญากับประชาชนว่า จะจัดการปัญหาวิกฤติน้ำท่วมเป็นวาระแห่งชาติอันดับต้นๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำให้เห็นอีกครั้งว่า รัฐบาลชุดนี้ดีแต่พูด อวดอ้างตั้งโครงการให้ดูดีมีโมเดล ใช้ภาษาเลิศหรูฝรั่งปนไทย แต่เนื้อแท้ปราศจากความจริงใจ เพราะการสรรหาโครงการมาใช้เงินงบประมาณแผ่นดินมวลใหญ่เป็นกรณีพิเศษ เป็นคำตอบสุดท้าย นอกจากนั้นน้ำลดแล้วตอผุด จึงพบว่า สิ่งกีดขวางทางน้ำนั้นอยู่เหนือผลประโยชน์ของใคร.

http://www.thaipost.net/news/300112/51794
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #5278 เมื่อ: 30 มกราคม 2555, 23:01:56 »

สวัสดีครับ พี่ตู่ ... พี่เหยง ...


มาทานข้าวกับเพื่อน สมัยมัธยม จาก โรงเรียน นครสวรรค์ ....  พาเพื่อนมาสวัสดีพี่เหยง ครับ


ปล. 

เพื่อน จบจาก จุฬาฯ เหมือนกันครับ  ป.โท วิศวฯ จุฬาฯ (ป.ตรี วิศวะ มช.)


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5279 เมื่อ: 31 มกราคม 2555, 09:39:47 »

สวัสดี ดร. มนตรี และเพื่อนของดอกเตอร์

แล้วเพื่อนของ ดร.มนตรี ตอนนี้อยู่ที่ไหนครับ
ยังอยู่ที่นครสวรรค์หรือเปล่า ??
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5280 เมื่อ: 31 มกราคม 2555, 09:45:48 »

อากาศในภาคเหนือ ยังหนาวเย็นลง 2-3 องศา ยังมีหนอกหนาในตอนเช้า ขับรถต้องระมัดระวัง ทั้งยังมีฝนกระจาย ภาคใต้โดยเฉพาะในอ่าวไทย คลื่นลมยังแรง คลื่นสูง 1-2 เมตรและมีฝนตกหนักในบางพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศ ประจำวันที่ 31 มกราคม 2555 เมื่อเวลา 04:00 น.  

    บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุม ประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามา ปกคลุมประเทศไทย ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจายในระยะนี้ อนึ่ง คลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักในบางพื้นที

                              พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  ตอนบนของภาคอากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศเย็น โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม และนครราชสีมา โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง กระบี่ และตรัง อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5281 เมื่อ: 31 มกราคม 2555, 17:09:49 »

วันนี้ไม่มีแดด ฝนเล็กน้อยมาก

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 31 มกราคม 2555
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 16:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุม
ประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้
ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเป็นแห่งๆ และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ในระยะนี้
สำหรับคลื่นกระแสลมตะวันออกยังคงเคลื่อนเข้ามาปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ในระยะ 1-2 วันนี้

 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5282 เมื่อ: 31 มกราคม 2555, 19:41:19 »

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ประกาศภัยแล้ง 5 อำเภอในจังหวัดน่านคือ เฉลิมพระเกียรติ ทุ่งช้าง สันติสุข เวียงสา นาน้อย
เนื่องจากน้ำแห้งขอดในแม่น้ำน่านและแม่น้ำสาขา
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5283 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2555, 18:50:31 »

มีหย่อมความกดอากาศกำลังปานกลางจากจีน เข้ามาในช่วง 2-5 กุมภาพันธ์ ฝนอาจตกลงมานำและอากาศเย็นลง 3-5 องศา
ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 เมตร

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 16:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็น ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ
อนึ่ง คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบนในช่วงวันที่ 2-5 ก.พ.55 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนในระยะแรกต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส


                              พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 17:00 วันนี้ ถึง 17:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น และมีหมอกในตอนเช้า โดยกับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

ภาคกลาง  อากาศเย็นทางตอนบนของภาค ส่วนทางตอนล่างของภาคมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5284 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2555, 18:52:48 »

ความจริงเรื่อง EM Ball จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ

คณะวิทย์ฯจุฬาฯสรุปผล"อีเอ็มบอล"ไม่ได้ช่วยแก้น้ำเสีย ยังส่งผลให้ออกซิเจนในน้ำลดลง
วันที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 17:22:07 น.
 

จากกรณีการถกเถียงเรื่อง การนำอีเอ็ม (EM-effective microorganism) มาใช้ในการบำบัดน้ำเสียอย่างแพร่หลาย ทั้งในรูปของน้ำอีเอ็ม และลูกบอลอีเอ็ม (EM ball) ในช่วงน้ำท่วมว่า ได้ผลในการบำบัดน้ำเสียจริงหรือไม่นั้น

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะสถาบันวิชาการที่เป็นเสาหลักของประเทศไทย นำโดย 1.ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ หารหนองบัว คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ 2.รองศาสตราจารย์ ดร.สุเทพ ธนียวัน หัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยา 3.รองศาสตราจารย์ ดร.กำธร ธีรคุปต์ หัวหน้าภาควิชาชีววิทยา 4.รองศาสตราจารย์ ดร.ไทยถาวร เลิศวิทยาประสิทธิ หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล 5.ศาสตราจารย์ ดร.อรัญ อินเจริญศักดิ์ อาจารย์ภาควิชาชีวเคมี 6.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา 7.อาจารย์ ดร.อนุสรณ์ ปานสุข อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา และ 8.อาจารย์ ดร.สราวุธ ศรีทองอุทัย อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนถึงข้อดี ข้อเสีย ข้อจำกัด และทางเลือกในการใช้อีเอ็มสำหรับสถานการณ์น้ำท่วม

ดร.สุพจน์กล่าวว่า ผลการตรวจสอบสรุปว่าการเติมอีเอ็ม หรือเติมผลิตภัณฑ์จากอีเอ็ม ลงไปในน้ำเสียจากแหล่งน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งผลให้น้ำมีคุณภาพดีขึ้นในทางตรงกันข้าม การเติมอีเอ็มลงไปในน้ำ กลับส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนภายในน้ำลดลง ซึ่งผลการศึกษาที่ได้ออกมาในครั้งนี้จึงช่วยยืนยันข้อสังเกตและข้อเสนอแนะที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีใจความสรุปว่า ถ้าต้องการนำอีเอ็มมาใช้กับน้ำเสียในสถานการณ์น้ำท่วมนั้น ควรใช้เฉพาะน้ำอีเอ็ม ไม่ใช่ลูกบอลอีเอ็มโดยให้ใช้เฉพาะในบริเวณน้ำท่วมขังเป็นพื้นที่แคบ และให้ตระหนักว่าเป็นการใช้แก้ขัด เพียงเพื่อบรรเทากลิ่นเหม็นและช่วยให้น้ำใสขึ้นชั่วคราวเท่านั้น การใช้อีเอ็มไม่ได้ทำให้น้ำเสียมีออกซิเจนเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นน้ำดีได้ และวิธีการบำบัดน้ำเสียได้ดีที่สุดอย่างยั่งยืน คือ ช่วยกันเก็บขยะของเสียออกจากแหล่งน้ำ ไม่ทิ้งขยะเพิ่ม เร่งระบายน้ำให้ไหล ไม่ขังนิ่ง และหาทางเพิ่มออกซิเจนในน้ำ เช่น การใช้กังหันน้ำชัยพัฒนา


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1328091780&grpid=00&catid=&subcatid=
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5285 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2555, 19:50:04 »

ยังคิดจะให้ชาวบ้านรองรับน้ำแทน กทม. อีก ??

"อานนท์"เผยทำพื้นที่รับน้ำได้แค่ 2 ล้านไร่ ยันแผนบริหารน้ำรบ.ชัดเจนมีหลักการ หากทำสำเร็จกทม.-ปริมณฑลเหลือท่วมแค่ครึ่งเดียว
วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555 เวลา 19:20:02 น
 

เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) กล่าวภายหลังการหารือกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงการลงพื้นที่พบปะประชาชน ในวันที่ 13-17 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะเป็นการลงพื้นที่เพื่อดูต้นน้ำในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมด้วย ว่า ในวันที่ 13 จะไปดูพื้นที่ต้นน้ำและไล่ลงมาเรื่อยๆ โดยในวันที่ 17 จะไปตรวจดูบริเวณประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ โดยจะดูแนวทางและหลักการในการจัดการน้ำเพื่อให้ประชาชนเข้าใจเป็นรูปธรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการพูดคุยถึงเรื่องจุดรับน้ำหรือไม่ ดร.อานนท์กล่าวว่า ในพื้นที่น้ำนองนั้นเป็นพื้นที่ที่เกิดน้ำนองเองตามธรรมชาติอยู่แล้ว เบื้องต้นอาจจะไม่ทำทั้งหมด อาจจะทำเพียง 2 ล้านไร่ ซึ่งพื้นที่น้ำนองมีมากกว่านั้น และต่อไปจะมีการบริหารพื้นที่น้ำนองเพื่อควบคุมการไหลเข้าออกของน้ำ และจะมีการฟื้นฟูเยียวยาและส่งเสริมเรื่องการประกอบอาชีพในพื้นที่ ให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่นั้นได้ด้วย โดยกลุ่มแรกอยู่ที่ จ.พิษณุโลก พิจิตร จนมาถึงนครสวรรค์ และใต้นครสวรรค์ลงมาจะอยู่แถว จ.พระนครศรีอยุธยา ไปจนถึง อ.สามพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยชะลอน้ำได้เยอะ โดยเริ่มต้นจะนำร่องในเรื่องนี้ก่อนและถ้าได้ผลดีจะค่อยๆ ขยาย

"สมมุติฝนเหมือนปีที่แล้ว เราจะสามารถป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณโดยรอบกรุงเทพฯและปริมณฑลได้ โดยปริมาณน้ำจะเหลือเพียงครึ่งเดียว ถ้าในเชิงพื้นที่ เชิงความลึก และระยะเวลา คือยังมีท่วมอยู่ ในกรณีที่เราบริหารจัดการโดยใช้มาตรการที่เสนอในปีนี้ คือทุกอย่างทำได้ตามแผน แต่เราคาดว่าฝนไม่น่าจะเลวร้ายไปกว่าปีที่แล้ว แต่ถ้าโชคร้ายหรือแย่กว่าปีที่แล้ว หากการบริหารจัดการน้ำดี ผลก็น่าจะดีกว่าปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เรามั่นใจว่าปริมาณน้ำจะน้อยกว่าปีที่แล้วแน่ๆ อยู่ที่ว่าจะน้อยมากหรือน้อยแค่ไหน" นายอานนท์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีจุดไหนที่ยังเป็นกังวลและเป็นอุปสรรคบ้างหรือไม่ ดร.อานนท์กล่าวว่า มีเรื่องพื้นที่น้ำนอง เพราะมาตรการในการบริหารจัดการเพื่อลดน้ำท่วมขังในพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ และพื้นที่เมือง หลักหนึ่งเราต้องยืดระยะเวลาการท่วมขังในพื้นที่ทุ่งรับน้ำ เช่น ปีที่แล้วเริ่มท่วมเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ถ้าปีนี้ฝนเหมือนปีที่แล้ว ประมาณเดือนพฤษภาคมก็จะมีน้ำท่วมขังแล้ว การท่วมขังนานก็จริง แต่น้ำจะไม่ลึก ทั้งนี้ปริมาณน้ำสูงสุดประมาณกลางเดือนตุลาคมที่ล้อมรอบ กทม.อยู่ที่ 6-7 พันล้านลูกบาศก์เมตร แต่ถ้ามาตรการทุกอย่างที่ทำอยู่สำเร็จ จะคุมปริมาณน้ำสูงสุดอยู่ที่ 4 พันล้านลูกบาศก์เมตร ต้องยอมรับว่ามีท่วมอยู่

เมื่อถามว่า มีความกังวลปัญหามวลชนที่อยู่ในพื้นที่ 2 ล้านไร่หรือไม่ ดร.อานนท์กล่าวว่า เราจะเรียกว่ากลัวก็ไม่ได้ คำว่ากลัวแต่ถ้าไม่ทำงานก็ไม่ได้ เราควรจะพูดกันตั้งแต่ต้นๆ เพราะขณะนี้เรายังมีเวลาในการทำความเข้าใจ ซึ่งในสัปดาห์นี้คณะทำงานชุดที่นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งขึ้นจะดำเนินการ และตนก็เป็นที่ปรึกษาในคณะทำงานชุดนี้ด้วย อย่างไรก็ตามพื้นที่รับน้ำ 2 ล้านไร่นั้นจะต้องใช้ในปีนี้ด้วย

 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1328011518&grpid=00&catid=00&subcatid=0000
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5286 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2555, 19:50:40 »

สวัสดี น้องหะยี

เข้าเว็ปแล้วหรือ ??
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #5287 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2555, 19:55:05 »

สวัสดีค่ะ  พี่เหยง ..

เข้าได้แว้บเดียวค่ะ  วันนี้ทานข้าวกลางวันที่บ้าน เลยยกจานข้าวมานั่งหน้าคอม
ช่วงนี้งานชุลมุนนิดหน่อยค่ะ  หลายเรื่องเลย
จึงไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาคุยเหมือนเดิม
หรือบางทีก็ได้เข้ามาอ่านแบบแป้บ ๆ เท่านั้นเอง

พี่เหยงสบายดีนะคะ
    รักนะ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5288 เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2555, 11:37:41 »

สวัสดีจ๊ะ หะยี

พี่สบายดี แล้วที่พี่ปี๊ดบอกว่า ต้องฝึกรำ
ตอนนี้ก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #5289 เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2555, 12:38:45 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 31 มกราคม 2555, 09:39:47
สวัสดี ดร. มนตรี และเพื่อนของดอกเตอร์

แล้วเพื่อนของ ดร.มนตรี ตอนนี้อยู่ที่ไหนครับ
ยังอยู่ที่นครสวรรค์หรือเปล่า ??


สวัสดีครับพี่เหยง ...

ตอนนี้เพื่อนคนนี้ เป็นเจ้าของ บริษัทฯ รับเหมา อยู่ ที่ กทม. ครับ ...


ุรุ่นเดียวกับผมที่ยังอยู่นครสวรรค์และจังหวัดใกล้เคียง เท่าที่พอจะจำได้ นะครับ เผื่อมีโอกาสรับใช้พี่เหยง ...

1. นพ. พรชัย ชอบทางศิลป์  ... รพ. สวรรค์ประชารักษ์
2. ทพ. สุรศักดิ์ ธีระรังสิกุล ... คลินิก ตรงร้านข้าวต้มนายเจือ
3. พต. (หญิง) สุรีมาศ ฉลาดธัญกิจ ... รพ. ค่ายจิรประวัติ
4. พ.ต.อ. สุขเกษม สุนทรวิภาต ... ผกก. สภ. สวรรคโลก
5. พ.ต.ท. ไพโรจน์ บุญยพาส ... รอง. ผกก. สภ. คลองขลุง
6. พ.ต.ท. ไพศาล คงเพชรศักดิ์ ... รอง. ผกก. อุตรดิตถ์
7. พฤษภ ศรีบุรี  ... ผอ. สำนักงาน ทางหลวงชนบท
8. อิทธิ สุเมธาโชติกร ... จึงใจ้หมง การเกษตร


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5290 เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2555, 22:09:20 »

ดร. มนตรี

ขอบใจสำหรับชื่อเพื่อนที่ให้ไว้ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5291 เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2555, 22:11:44 »

วันนี้งานมากสักนิค เพราะพรุ่งนี้มีประชุม กรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด
ต้องอ่านและเตรียมเอกสารเสนอที่ประชุม โดยเฉพาะการช่วยเหลือวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา
พรุ่งนี้จะนำเอารายละเอียดมาแจ้งให้ทราบครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5292 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2555, 15:24:31 »

มาสวัสดีชาวหอและทุกท่านครับ

เพิ่งกลับถึงบ้าน หลังประชุม
13-17 กุมภาพันธ์ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ จะไปที่พิษณุโลก-พิจิตร(บึงสีไฟ)-นครสวรรค์(บึงบรเพ็ด)-ชัยนาท(เขื่อนเจ้าพระยา)-ลพบุรี-ปทุมธานี
เพื่อดูความคืบหน้าของการแก้ไขน้ำท่วม ซึ่งมีงบออกไปแล้ว 20,110.5572 ล้านบาท
(สองหมื่นหนึ่งร้อยสิบล้านบาท-มีเศษ)
แต่ปัญหาการเบิกจ่ายและโครงการไม่คืบหน้า-คนไทยทำงานด้วยปากซะเป็นส่วนใหญ่


งานทางปากก้าวหน้า แต่เนื้องานจริงๆ ยังไม่ได้ทำเลยครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5293 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2555, 15:40:46 »

เรากำลังเป็นทาสของเครื่องมือสื่อสาร โดยเสียความเป็นส่วนตัวไปเรื่อยๆ
รวมทั้งออกห่างสัมคมมนุษย์มากขึ้น


ไม่ตลก !!! คนอเมริกัน 75 % เอาโทรศัพท์มือถือเข้าไปใช้ในห้องน้ำ
วันที่ 03 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 14:30:52 น.
โดย จำเริญ ตัณฑ์สมบุญ | กรุงวอชิงตัน / voa thai


การสำรวจของ 11 mark บริษัทการตลาด   พบว่า 75 % ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในอเมริกาเคยนำโทรศัพท์เข้าไปใช้ในห้องน้ำ และในกลุ่มคนอายุ 28 – 35 ปี ตัวเลขนี้สูงถึง 91 % ที่เคยใช้โทรศัพท์เพื่อติดต่อสื่อสาร ส่ง SMS เข้าเว็ป ใช้ Apps ต่างๆ  หรือช๊อปออนไลน์ขณะนั่งส้วม ในขณะที่ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปตัวเลขดังกล่าวลดลงมาเหลือ 47 %

25 % ของคนอเมริกันบอกว่าตนจะไม่ยอมเข้าห้องน้ำถ้าไม่มีโทรศัพท์มือถือติดมือไปด้วย และในขณะที่ 63 % บอกว่าเคยรับโทรศัพท์ขณะที่อยู่ในส้วม 41 % ยอมรับว่าเคยโทรหาคนอื่นขณะที่กำลังมีความสุขอยู่ในสุขา

และ 16 % ของกลุ่มคนอายุ 28 – 35 ปีบอกว่าเคยช๊อปออนไลน์จากในห้องเล็กนี้ด้วย

ผู้ที่มีลูกแล้วสารภาพว่าตนฉวยประโยชน์จากเวลาส่วนตัวนี้พูดคุยทางโทรศัพท์กับคนอื่น ในขณะที่คนซึ่งยังไม่มีลูกจะใช้ประโยชน์จากเวลาอันมีค่านี้น้อยกว่า และ 20 % ของผู้ชายยอมรับว่าตนเคยโทรศัพท์แบบประชุมสายขณะกำลังนั่งระบายทุกข์ ส่วนในกลุ่มผู้หญิงนั้น 13 % ก็ยอมรับว่าเคยทำเช่นกัน

 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1328253666&grpid=03&catid=06&subcatid=0600
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5294 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2555, 15:54:28 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 03 กุมภาพันธ์ 2555, 15:24:31
มาสวัสดีชาวหอและทุกท่านครับ

เพิ่งกลับถึงบ้าน หลังประชุม
13-17 กุมภาพันธ์ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ จะไปที่พิษณุโลก-พิจิตร(บึงสีไฟ)-นครสวรรค์(บึงบรเพ็ด)-ชัยนาท(เขื่อนเจ้าพระยา)-ลพบุรี-ปทุมธานี
เพื่อดูความคืบหน้าของการแก้ไขน้ำท่วม ซึ่งมีงบออกไปแล้ว 20,110.5572 ล้านบาท
(สองหมื่นหนึ่งร้อยสิบล้านบาท-มีเศษ)
แต่ปัญหาการเบิกจ่ายและโครงการไม่คืบหน้า-คนไทยทำงานด้วยปากซะเป็นส่วนใหญ่


งานทางปากก้าวหน้า แต่เนื้องานจริงๆ ยังไม่ได้ทำเลยครับ

และยังมีเงินงบประมาณให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
ในกรอบที่ ครม. อนุมัติเพิ่มอีก 40,872.6455 ล้านบาท (สี่หมื่นแปดร้อยเจ็ดสิบสองล้านบาท-มีเศษ)
ซึ่งออกมาเพิ่มเติม ในขณะที่เงินชดเชยบ้านละ 5,000 บาท ยังสามารถทำเรื่องขอรับได้ถึงสิ้นเดือน ก.พ. นี้
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5295 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2555, 19:04:34 »

ข่าวดีจากกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง....
อย่างไรก็ตาม ภาพบ้านน้ำท่วมและหากมีหนังสือรับรอง ก็อาจจำเป็นต้องใช้ประกอบ

คลังซับน้ำตาเหยื่อน้ำท่วม ซ่อมบ้านลดหย่อนภาษีได้ 1 แสน ซ่อมรถ 3 หมื่น
3 กุมภาพันธ์ 2555 01:56 น.


       คลังใจป้ำหั่นภาษีช่วยเหยื่อน้ำท่วม "อารีพงศ์" ยืนยัน ค่าซ่อมบ้าน ลดหย่อนได้ 1 แสนบาท ส่วนค่าซ่อมรถหักลดหย่อนได้ 3 หมื่น จากน้ำท่วม หักลดหย่อนภาษีได้ 1 แสนและ 3 หมื่นบาท แนะผู้มีสิทธิ์ต้องเตรียมเอกสารหลักฐานในการชำระเงินจากอู่รถยนต์และผู้รับเหมาให้มีความพร้อม
       
       นายอารีพงศ์ ภู่ชะอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบปัญหาอุทกภัยให้ได้รับการลดหย่อนภาษีประจำปี 2554 เพื่อนำมาหักลดหย่อนภาษีสำหรับการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี ตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2555 นั้น เช่น ค่าใช้จ่ายจากการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหักลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท ค่าใช้จ่ายซ่อมรถยนต์ถูกน้ำท่วม หักโดยต้องนำมาหักลดหย่อนตามจริงไม่เกิน 30,000 บาท รวมถึงค่าลดหย่อนอื่นๆ ด้วยการให้ประชาชนบันทึกลงในช่องค่าลดหย่อนอื่นๆ
       
       ทั้งนี้ ประชาชนที่อยู่ในข่ายการได้รับความช่วยเหลือต้องเตรียมเอกสารหลักฐานในการชำระเงินจากอู่รถยนต์และผู้รับเหมาให้มีความพร้อมเพื่อยื่นภาษี ส่วนผู้ยื่นแบบทางอินเตอร์เน็ตให้เร่งยื่นแบบกรมสรรพากรจะได้เร่งคืนภาษีให้โดยเร็ว

 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9550000015368
 

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5296 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2555, 19:11:45 »


 
พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 16:00 น.  คลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ในช่วงวันที่ 3-4 ก.พ. 2555 ในบริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามา ปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง ในระยะนี้

                        พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 17:00 วันนี้ ถึง 17:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สงขลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ออกประกาศ : 3 กุมภาพันธ์ 2555 17:00
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5297 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2555, 19:25:58 »

คั่นรายการด้วยข่าวจากมติชน ออนไลน์ ครับ..

ฮือฮา ญี่ปุ่นนับแสนร่วมพิธีแห่"อวัยวะสืบพันธุ์ชาย-หญิง"กระตุ้นประชากรมีลูกดก(ชมคลิป)
วันที่ 03 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 15:00:56 น.
 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวญี่ปุ่นนับแสนคนได้เข้าร่วมพิธีแห่"อวัยวะสืบพันธุ์ชาย-หญิง"ซึ่งมีการจัดขึ้นทั่วประเทศ โดยพิธีใหญ่ถูกจัดขึ้นที่ศาลเจ้าทากาตะ ในเมืองโกมากิ โดยมีการแบกไม้สลักอวัยวะสืบพันธุ์ชายขนาดยาว 2-6.5 ฟุต ตามด้วยการแบกไม้สลักอวัยวะเพศหญิงในช่วงบ่าย ซึ่งมีผู้ชาย 40 คน แบกไม้สลักดังกล่าวไปยังศาลเจ้าโอกาตะ ด้วย นอกจากนี้ ในเทศกาลดังกล่าว ยังมีการขายอาหารและสิ่งของที่ระลึก คือ แท่งอวัยวะสืบพันธุ์ด้วย ซึ่งมีลักษณะหลายประเภทให้เลือกสรรและซื้อหา รวมทั้งเทียนรูปอวัยวะเพศชาย สิ่งแกะสลักฯ ตั่งหูอวัยวะเพศชาย ซึ่งเป็นที่นิยมมากด้วย

รายงานระบุว่า สำหรับเทศกาลแห่อวัยวะสืบพันธุ์ชาย-หญิง ของญี่ปุ่นนี้ เป็นธรรมเนียมเดิมแต่โบราณกาลของญี่ปุ่น ซี่งปัจจุบันถูกมองว่ามีนัยยะเปรียบเหมือนการวิงวอนเรียกร้องต่อสวรรค์ให้ญี่ปุ่นมีประชากรลูกดก ในห้วงที่ประเทศกำลังประสบวิกฤตขาดแคลนประชากร โดยการแห่อวัยวะสืบพันธ์หญิง ถือเป็นการบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งความสมบูรณ์ด้านอาหารและการเฉลิมฉลอง โดยพ่อแม่จะแต่งกายให้ลูกเป็นพิเศษ รวมทั้งการอธิษฐานขอทายาท และการดื่มสาเก รวมทั้งเบียร์ และขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นระบุว่า พิธีการแห่อวัยวะสืบพันธุ์ดังกล่าว มีรากเง้าจากความเชื่อโบราณของชาวญี่ปุ่นเกี่ยวกับการเติบโตและการพัฒนาของทุกสรรพสิ่ง


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1328247582&grpid=01&catid=&subcatid=




 


ดูคลิ๊ปครับ....

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=N0B-xisssPY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=N0B-xisssPY</a>
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5298 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2555, 19:56:31 »

ไม่มีใครยอมอธิบายความจริง รวมทั้งรายละเอียดของ พรก.โอนหนี้ฯ
ลองฟัง "คุณเปลว สีเงิน" วิเคราะห์ดูครับ


ระวัง..พ.ร.ก.โอนหนี้ "หลุมฝังรัฐบาล"

เปลว สีเงิน                                                                                                                      3 กุมภาพันธ์ 2555 - 00:00

     คงเพราะ "นางสาวยิ่งลักษณ์" มายืนอ่านโพยตอบกระทู้สดในสภาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์รัฐสภาประชาธิปไตยทักษิณกระมัง ฝนเลยซัดซะโชกกรุงเทพฯ ผมดูและฟังแล้ว ก็อยากจะกราบเรียนนายกฯ หญิงด้วยความอดสูเป็นที่ยิ่งว่า ลำบากนักก็ลาออกไปอยู่ในบทที่ถนัด เช่น บทนางเอกมิวสิกวิดีโอ น่าจะเหมาะสมกว่ามาอยู่ในบท "นายกฯ" ของคนไทยทั้งประเทศนะครับ
    วันนี้-ผมคงไม่คุยอะไร เพราะเป็น "เจ้าชายน้ำตาล" แค่อากาศแปรปรวน  ๓-๔ วันก็แย่อยู่แล้ว พอมาเจอฝนชะปูซ้ำเมื่อวาน เลยละลายท่วมไปกับสายน้ำมูก-น้ำตา ที่ตั้งใจจะไปชะเง้อกำแพงธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ดูศิษย์เก่าวารสาร มธ. ไปแสดงเจตนารมณ์ตรงข้ามกับกลุ่มนิติราษฎร์
    ก็เลยด๋อย!
    สรุปสาระว่าด้วยเรื่องการบ้าน-การเมืองดีกว่า เป็นอันว่า พ.ร.ก. ๒ ฉบับ  คือ พ.ร.ก.กองทุนส่งเสริมประกันภัย และ พ.ร.ก.ช่วยเหลือผู้เสียหายจากอุทกภัย ผ่านสภาเป็น พ.ร.บ.เรียบร้อยแล้ว
    เหลือ ๒ ฉบับ ที่ประชาธิปัตย์ และวุฒิสมาชิกยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นการออก พ.ร.ก.ขัดกฎหมาย คือ พ.ร.ก.โอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ  ๑.๑๔ ล้านล้านบาท ไปให้แบงก์ชาติ และ พ.ร.ก.ให้อำนาจคลังกู้ ๓.๕ แสนล้าน  ไปสร้างอนาคตประเทศใหม่ และบริหารน้ำท่วม
    ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้วินิจฉัยแล้ว และวันจันทร์ที่จะถึง (๖ ก.พ.๕๕) เรื่องน่าจะเข้าที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แต่เท่าที่ฟังนายกิตติรัตน์ ณ  ระนอง รมว.คลัง ท่านบอก ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาแล้ว ก็จะเดินหน้า "กู้ ๓.๕ แสนล้าน"
    โดยไม่รอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ!
    เอา...ทำได้ก็ว่าไป แต่ประเด็นกู้ ๓.๕ แสนล้านนี้ ไม่น่าห่วง แต่ พ.ร.ก.โอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ๑.๑๔ ล้านล้านนี่ซี ดูยังไงก็มองไม่เห็นความจำเป็นที่มีความสำคัญเร่งด่วนต้องออกเป็น พ.ร.ก.ตามกรอบที่มาตรา ๑๘๔ กำหนด
    ก็น่าเสียว คือถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า "ขัดรัฐธรรมนูญ"
    รัฐบาล "เจ๊ง" ทันที!
    ทำไมผมจึงว่าน่าจะขัดรัฐธรรมนูญ อธิบายเองคงไม่แจ่มแจ้งเท่าเจ้าของเรื่อง เพราะอดีตท่านเป็นรัฐมนตรีคลังคือ "นายกรณ์ จาติกวณิช" ท่านรวบรวมประเด็นโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กไว้ดีมาก ขออนุญาตลอกเลย ดังนี้
    สำหรับทุกๆ คนที่สนใจในรายละเอียด ผมขอนำสรุปเหตุผลว่า...ทำไม  พ.ร.ก.โอนหนี้ถึงขัดหลักการตรากฎหมายโดยรัฐธรรมนูญครับ เป็นสรุปที่ยาวเพียงเพราะเหตุมันเยอะครับ
    สรุป "พ.ร.ก.โอนหนี้ฯ" ส่อขัดรัฐธรรมนูญ
    1.ข้อเท็จจริงของ พ.ร.ก.โอนหนี้ฯ
    1.1 เหตุผลในการออก พ.ร.ก.โอนหนี้ฯ ตามหมายเหตุแนบ พ.ร.ก.บอกว่า
    - อยากโอนหนี้ เพราะจะได้ลดภาระงบประมาณเพื่อชำระดอกเบี้ยเงินกู้ที่กู้มาเพื่อช่วยเหลือการดำเนินการของกองทุน
    - อยากโอนหนี้ เพราะจะปรับปรุงการจัดหาแหล่งเงินในการนำไปชำระต้น และดอกของหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ
    - อยากโอนหนี้ เพราะหากปรับปรุงจะทำให้มีเงินไปสมทบฟื้นฟูน้ำท่วม  เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน ไม่ทำจะทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
    1.2 ลำดับความเป็นมาของการออก พ.ร.ก.โอนหนี้ฯ
    - ดร.โกร่งพูดแนวทางเดียวกับรองนายกฯ กิตติรัตน์ อยากลดหนี้ ต่อ  GDP โดยโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ให้ ธปท.ให้ลงไปอีก 10% จากปัจจุบัน 40%  เพื่อจะได้กู้เพิ่มได้อีก ซึ่งด่วนมาก
    - โดนค้านมากมายจากหลายฝ่าย รวมทั้งจากแบงก์ชาติ สุดท้าย ครม.ก่อนออก พ.ร.ก.ตัดส่วนที่ให้ ธปท.รับผิดชอบออกเป็นให้กองทุนฟื้นฟูฯ รับผิดชอบจ่ายต้น-ดอกแทน
    - เพิ่มส่วนที่เป็นแหล่งรายได้ใหม่ ให้กองทุนฯ มีรายได้เพิ่มจากสมาคมคุ้มครองเงินฝาก 1.3 กรอบความยั่งยืนทางการคลัง คือหลักที่กำหนดสำหรับเกณฑ์จำกัดในการกู้ยืมของประเทศ
    - กรอบฯ หลักที่ 1 อัตราหนี้สาธารณะต่อ GDP เหมาะสมที่ 60% ณ  ธันวาคม อยู่ประมาณ 40% เท่านั้นเอง
    - กรอบฯ หลักที่ 2 ภาระหนี้ต่องบประมาณ คือ ภาระจ่ายต้นดอกต่องบรายจ่ายรวมปีนั้นๆ เหมาะสมที่ 15% ณ ธันวาคม เลขเอกสารงบปี 55 อยู่ที่  9.33% เท่านั้นเอง 1.4 ความเห็นของอดีต รมว.คลังใน ครม.ชุดที่ออก พ.ร.ก.แฉเองว่า "ใช้เลขผิด"
    - เลขที่ใช้ผิดคือ ภาระหนี้ต่องบประมาณ อดีต รมว.คลัง บอกว่าใน ครม.บอกใช้เลข 12% แต่ความจริงคือ 9.33% และรองนายกฯ ได้ให้เหตุผลว่า 12%  ใกล้ 15% เต็มที จึงจำเป็นต้องโอนหนี้ฯ ออกไป ให้ภาระจ่ายดอกเบี้ยนี้ลดลง จะได้กู้เพิ่มได้ และให้ข้อมูลว่า ในสัดส่วน 12% ที่ตัวเองพูด คือหลักจากตัดภาระดอกเบี้ยของหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ออกแล้ว ซึ่งหากคำนวณ ถ้าตัดภาระดอกเบี้ยนั้นออกแล้ว 9.33 ต้องถูกลบต่อไปอีก เหลือที่แค่ 6.46% สรุป รองนายกฯ ให้เหตุผลถึงสมการกลับด้าน ควรลบ แต่เอาไปบวก 1.5 สภาวะเศรษฐกิจตอนนี้อยู่ในเกณฑ์ดี จึงไม่ได้แร้นแค้นที่จะต้องรีบร้อนโอนหนี้ฯ แต่อย่างใด
    - เอกสารงบของรัฐบาลบอกเองว่า ขยายตัวได้ 4.5-4.5%
    - Moody's ปรับความน่าเชื่อถือไทย จากเชิงลบ เป็นเสถียรภาพ

    2.ข้อกฎหมายที่ใช้ในการยื่นส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ
    2.1 หลักแบ่งแยกอำนาจตามการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เน้นประเด็นว่า ฝ่ายนิติบัญญัติควรได้ใช้อำนาจในการตรากฎหมายเป็น พ.ร.บ.ที่ผ่านการกลั่นครอง ตรวจสอบอย่างรอบคอบผ่านสภาฯ แต่ฝ่ายบริหารกลับใช้อำนาจโดยอ้างว่าด่วน และอาจส่งผลต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ แล้วชิงไปออกเป็น พ.ร.ก.เอง ทำให้ส่อผิดหลักข้อนี้
    2.2 เงื่อนไขในการตราพระราชกำหนดตามรัฐธรรมนูญ ข้อแรกคือ เพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ (ยื่นคัดค้านเพราะชี้ให้เห็นได้ว่า นอกจากจะไม่ได้รักษาสิ่งนี้ แต่กลับทำให้ความมั่นคงทางเศรษฐกิจแย่ลง) ข้อสองคือ กระทำได้เฉพาะกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วน อันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ (ยื่นคัดค้านเพราะชี้ให้เห็นได้ว่า ไม่ได้เร่งด่วน และมีช่องทางอื่นอีกมากมายให้รัฐบาลออกเป็น พ.ร.บ.)
    2.3 กรอบวินัยการเงิน การคลัง และงบประมาณ ตามรัฐธรรมนูญ
    - โดยปกติระบบงบประมาณจะต้องผ่านกระบวนการของสภาฯ ในการออก พ.ร.บ.งบประมาณ ที่ต้องเคร่งครัดตามหลักวินัยการเงินการคลัง แต่การชิงออกเป็น พ.ร.ก.โดยของบไปใช้ ด้วยการอ้างว่าเร่งด่วน และจะส่งผลต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งหากไม่จริงแล้ว จะขัด 3 หลักนี้ชัดเจน

    3.พ.ร.ก.โอนหนี้ฯ ขัดรัฐธรรมนูญอย่างไร
    3.1 ไม่ได้ทำในกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วน อันมิอาจหลีกเลี่ยงได้  (แปลว่าจริงๆ แล้วไม่ด่วนเลย และมีวิธีอื่นทำได้อีกมากมาย) 3.1.1 หนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ระดับประมาณ 40% เท่านั้น หากเทียบกับเกณฑ์เหมาะสมคือ 60% - ไม่จำเป็นเร่งด่วน เพราะถึงไม่โอนหนี้ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ ต่อการจะกู้เพิ่ม หรือถึงโอนหนี้ฯ ไป หนี้สาธารณะก็จะถูกนับเป็น 40% เท่าเดิมอยู่ดี ไม่ได้เป็น 30% ได้แต่อย่างใด
    3.1.2 ภาระหนี้ต่องบประมาณอยู่ที่ 9.33% (ตามเลขที่ถูกต้อง) หรือ 12%  (ตามเลขผิดที่อ้าง) เท่านั้น หากเทียบเกณฑ์เหมาะสมคือ 15% - ไม่จำเป็นเร่งด่วน เพราะ "รัฐบาลใช้ตัวเลขภาระหนี้ต่องบประมาณผิดในการพิจารณากฎหมายที่มีผลต่อประเทศ มูลค่า 1.14 ล้านล้านบาท"
    - ไม่จำเป็นเร่งด่วน เพราะ "ถึงแม้รัฐบาลโอนหนี้ เพราะดอกเบี้ยของหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ปัจจุบันอยู่ที่ 6-7 หมื่นล้านบาทต่อปี คิดเป็นแค่ 2.5% ของงบรายจ่ายเท่านั้น
    - ไม่จำเป็นเร่งด่วน เพราะ "ถึงแม้รัฐบาลโอนหนี้ แล้วกู้เพิ่มอีก 350,000  ล้านบาท จะมีดอกเบี้ยเพิ่มที่อัตราเฉลี่ย 4.5% คือ 15,750 ล้านบาท คิดเป็น  0.66% เท่านั้น ซึ่งหากเอา 0.66% รวมกับภาระหนี้ต่อสาธารณะ ทั้งอันที่ถูก และอันที่ผิดจะอยู่ที่แค่ 9.99% และ 12.66% เท่านั้น ไม่เกิน 15% เลยจากทั้งสองตัวเลข
    3.1.3 การตีมูลค่าหนี้สาธารณะของประเทศไทย ไม่ว่าโอนไปอยู่ที่ใด หรือให้ใครรับผิดชอบ ก็ยังเป็นหนี้สาธารณะของประเทศอยู่ดี - ไม่จำเป็นเร่งด่วน  เพราะไม่มีผลต่อการประเมินในการคำนวณจากตัวเลขยอดหนี้สาธารณะ ไม่ว่าจะโดยหน่วยงานทางเศรษฐกิจของไทย หรือต่างชาติ
    3.2 ไม่ได้ทำไปเพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจจริง ตามที่อ้าง ซ้ำร้ายยังทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจมากขึ้นไปอีก
    3.2.1 ทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เพราะไม่ชัดเจนในส่วนของผู้รับผิดชอบจ่ายหนี้เงินต้น และดอกเบี้ยของกองทุนฟื้นฟูฯ หลังโอนหนี้ไปแล้ว บอกให้กองทุนฯ รับผิดชอบ แต่หากกองทุนมีรายได้ไม่พอไม่ได้บอกว่า ให้กองทุนฯ  ต้องทำยังไง ใครช่วยรับผิดชอบกองทุนฯ แล้วหลักในการบริหารหนี้สาธารณะส่วนนี้จะถูกตีความสับสน จนไม่สร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ
    3.2.2 ทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เพราะรัฐบาลอ้างเท็จว่า การโอนหนี้ฯ จะช่วยให้รัฐบาลประหยัดงบการจ่ายดอกเบี้ย ทั้งที่งบปี 2555 ผ่านสภาแล้วไม่สามารถแก้ไขไปใช้ส่วนอื่นได้เลย และงบในการนำไปจ่ายดอกเบี้ยนั้นมีมูลค่าเพียง 6-7 หมื่นล้านบาท ซึ่งน้อยมากหากเทียบกับงบรายจ่ายทั้งหมดของประเทศที่ 2.38 ล้านล้านบาท โดยคิดเป็นแค่ 2.5% เท่านั้น ซึ่งหากจำนวนภาระไม่ได้มากขนาดนั้น เหตุใดจึงต้องดันทุรังออกเป็น พ.ร.ก.ขัดหลักการต่างๆ ให้เสียความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เพียงแค่เพราะภาระดอกเบี้ยที่ไม่ได้ส่งผลเดือดร้อนมากเกินความสามารถแต่อย่างใด
    3.2.3 ทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เพราะจะส่งผลกระทบต่อการเรียกเก็บเงินจากสถาบันการเงินในการนำส่งเข้าสถาบันคุ้มครองเงินฝาก
    - สถาบันการเงินสับสนในอัตราส่วนที่เก็บจากเงินฝากที่ต้องเปลี่ยนแปลงไป โดยที่ยังไม่รู้ชัดเจนว่า จะต้องถูกเก็บเงินเพิ่มอีกเท่าไหร่ กำไรต่อปี และความสามารถในการแข่งขันจะหายไปแค่ไหน - สถาบันคุ้มครองเงินฝากอาจถูกล้วงเงินที่มีอยู่ หรือถูกปรับลดจำนวนอัตราที่นำส่งเข้ามาในการคุ้มครองเงินฝากของประชาชนที่มีเงินต่ำกว่า 1 ล้านบาท กว่า 60 ล้านบัญชีทั่วประเทศ
    3.2.4 ทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้การออกพระราชกำหนดไม่ได้อยู่ในช่วงภาวะวิกฤติที่แท้จริง แต่กลับใช้เพียงเหตุผลอ้างว่าเร่งด่วน
    3.2.5 ทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เพราะ พ.ร.ก.นี้ที่จะส่งผลโดยตรงต่อการใช้อิสระทางอำนาจของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของต่างชาติในการลงทุนในประเทศที่คาดหวังความเป็นอิสระของหน่วยงานอิสระอย่างธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งหาก ธปท.เริ่มถูกฝ่ายบริหารล้วงคอในการบริหารแล้ว ความดำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพทางการเงิน และระบบสถาบันการเงิน และระบบการชำระเงินของประเทศ จะมีภาพถูกแทรกแซงจนเป็นเหตุต่อมาให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจเหมือนเช่น กรีซ หรืออาร์เจนตินาในอดีต
    3.2.6 ไม่ได้เป็นผลดีต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจมากขึ้นแต่อย่างใด  เพราะหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ เป็นหนี้ที่มีการแบ่งความรับผิดชอบชำระเงินต้น และดอกเบี้ยได้อย่างลงตัวมาตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งรัฐบาลใน 14 ปีที่ผ่านมา สามารถบริหารประเทศได้อย่างเป็นปกติ ถึงแม้ในบางปีก็ต้องเผชิญวิกฤติต่างๆ รัฐบาลที่ผ่านมาก็ยังสามารถบริหารจัดการหนี้ที่มีสัดส่วนต่องบประมาณไม่ได้เยอะถึงขั้นเป็นภาระหนักได้มาโดยตลอด
    จบข้อความที่อดีตขุนคลังกรณ์แยกแยะประเด็นเป็นเหตุ-เป็นผลทั้งตามกรอบกฎหมาย และตามข้อเท็จจริงว่าทำไม พ.ร.ก.โอนหนี้ฯ น่าจะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๘๔ ก็อ่านเป็นกรณีศึกษานะครับ ส่วนจะเป็นที่ยุติอย่างไร ต้องรอคำวินิจฉัยจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ...อีกไม่นานเกินรอ.


http://www.thaipost.net/news/030212/52019
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5299 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2555, 22:46:28 »

ขออนุญาตเดินตรวจงานและทำรายงานสักครู่นะครับ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 210 211 [212] 213 214 ... 472   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><