25 พฤศจิกายน 2567, 22:40:16
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1] 2  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: พระธาตุของหลวงตามหาบัว  (อ่าน 61926 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jimsy
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 195

« เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 14:39:35 »

พระธรรมวิ สุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน)
   

 

 
   

 


ประวัติหลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
ท่านเป็นลูกศิษย์ผู้สืบทอดปฏิปทาของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ยังทรงธาตุทรงขันธ์เป็นที่พึ่ง ที่อาศัยของเหล่าศิษย์กรรมฐาน ทั้งบรรพชิต และฆราวาส ปฏิปทาขององค์หลวงตาถอดแบบมาจาก ปฏิปทาของหลวงปู่มั่น โดยตรง ท่านสามารถชี้แนะแนวทางให้กับ เพื่อนสหธรรมิกให้ได้บรรลุผ่านในปัญหาของการภาวนาเป็นจำนวน หลายรูปด้วยกัน ท่านมีศิษยานุศิษย์ฝ่ายบรรพชิตที่ได้กลายเป็น พ่อแม่ครูบาอาจารย์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์หลวงตา ได้เป็นผู้นำในการทำผ้าป่าช่วยชาติ แก้วิกฤตการเงินภายในประเทศ ซึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทยไม่เคยมีมาก่อน ปัจจุบัันองค์หลวงตา ยังทรงธาตุขันธ์อยู่ เศษกายหรือสิ่งใด ๆ ก็ตามที่องค์ท่านได้บริโภค ล้วนแต่ได้กลายเป็นพระธาตุ เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของพุทธศาสนิกชน เป็นจำนวนมาก
    

 
   


พระธาตุอันเกิดจากเส้นเกศาขององค์หลวง ตา มีลักษณะเป็นเกร็ดเล็ก ๆ สีแดง



 
   



เส้นเกศาธาตุขององค์หลวงตามีลักษณะใส ประดุจใยแก้ว

 

 
   

พระธาตุชุดนี้เป็นพระธาตุที่แปรสภาพจากชานหมากขององค์ หลวงตา ซึ่งเจ้าของพระธาตุ ได้เก็บชานหมากขององค์หลวงตามาไว้บูชาตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ปัจจุบันชานหมากเหล่านั้นได้แปรสภาพเป็นพระธาตุโดยสมบูรณ์แบบ มีสีสัน พรรณะ เหมือนพระบรมสารีริกธาตุ เป็นที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง

   

 
   


พระธาตุชานหมากขององค์หลวงตาที่ผู้มีจิตศรัทธาได้มอบ ถวายเข้าพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์วัดสันติธรรม จำนวน ๑๒ องค์ ส่วนองค์ที่เป็นเกร็ดสีแดง เป็นพระธาตุเกศา


ภาพขยายพระธาตุชานหมากองค์เล็กมีลักษณะใสเป็นปริมณฑล ขนาดเท่าเมล็ดผักกาด



ณ วิหารบูรพาจารย์ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทีมงานเว็ปไซต์ ได้ไปนมัสการหลายครั้ง นับตั้งแต่เริ่มสร้างเป็นต้นมา และได้สังเกตที่เจดีย์แก้วบรรจุนขาธาตุ (เล็บ) ขององค์หลวงตา พบว่ามีนขาธาตุองค์หนึ่งได้แปรสภาพจากเล็บ กลายเป็นพระธาตุสมบูรณ์แล้ว จึงได้พยายามถ่ายภาพมาให้ชมครับ


เจดีย์บรรจุนขาธาตุ ประดิษฐานหน้าหุ่นขี้ผึ้นรูปเหมือนขององค์หลวงตามหาบัวครับ



นขาธาตุขององค์หลวงตาแปรสภาพเป็นพระธาตุพรรณเหลือง อำพัน โดยสมบูรณ์
ถ่ายภาพเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๒



เพื่อความ หลากหลายทางข้อมูล จึงขออนุญาตนำข้อมูลจาก http://www.doisaengdham.com/article_detail.php?id=137 มานำเสนอในที่นี้ด้วยเพื่อให้เครื่องเจริญศรัทธาของ ท่านผู้อ่าน
ขอเล่าเกร็ดที่น่าสนใจ เนื่องจากผู้เขียนได้มีโอกาสพบเห็นเหตุการณ์ที่น่าแปลกใจ  คือเส้นเกศาของหลวงตามหาบัวที่บรรจุในผะอบ เกิดเม็ดสีดำเล็ก ๆ จำนวนมาก มีลักษณะเป็นเงามันสวยงามระยิบระยับ ส่วน เกศานั้นไม่พบ  ผู้เป็นเจ้าของได้เล่าว่าเกศาของหลวงตานี้ได้เก็บมานาน นับ ๑๐ ปีแล้ว  ซึ่งในขณะนั้นหลวงตาท่านยังไม่สูงวัย มากนัก  ยังมีเส้นผมสีดำ   หลังจากนั้น ปลายเดือนเมษายน ๒๕๕๑ ได้ไปดูแลหิ้งพระ ก็พบผะ อบปรากฏลักษณะดังกล่าว


จากภาพ ผะอบที่บรรจุเกศาหลวงตามหาบัว ไม่ปรากฏเส้นเกศา  แต่มีวัตถุลักษณะเป็นเม็ดเล็ก ๆ สีดำเป็นมันเงาสวยงาม



เมื่อสำรวจดู พบว่าที่ก้นผะอบ จะมีเส้นเกศาเล็ก ๆ ปรากฏอยู่  และมีลักษณะสั้นลงกว่าเดิมประมาณ ๕-๖ ส่วน  ภาพขยาย ๒๐๐ เท่า จะเห็นความมันเงาสวยงามคล้ายลักษณะของพระธาตุอย่างชัดเจน เป็นไปได้ว่า เส้นเกศาของท่านได้กลายเป็นพระธาตุ เช่นของครูบาอาจารย์บางองค์ที่เคยปรากฎ

   

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
      บันทึกการเข้า
เพื่อนเดียว-69
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu69
กระทู้: 152

« ตอบ #1 เมื่อ: 15 มีนาคม 2553, 17:42:09 »

สาธุ

อยากให้พี่่ๆน้องๆ หาโอกาสไปกราบจัง

ในหนังสือธรรมะสำคัญ "บุบพสิกขา..."

กล่าวโดยสาระว่า


ผู้ใด เมื่อได้เห็นพระอริยะ พร้อมกับแผ่เมตตาไปสู่พระอริยะนั้นๆ ตาจะไม่เป็นต้อ เป็นเอนกชาติ.
      บันทึกการเข้า

หน้าที่ของมนุษย์ คือการศึกษาธรรม เรียนรู้ธรรม เพื่อยอมรับธรรม

ธรรม คือธรรมชาติของรูปนาม
jimsy
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 195

« ตอบ #2 เมื่อ: 03 เมษายน 2553, 11:54:39 »

   มีวิธีแผ่มั๊ยคะ...แผ่ยังไงเอ่ย....เพราะมีโอกาสพบพระอริยะบ่อย ๆ
      บันทึกการเข้า
เพื่อนเดียว-69
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu69
กระทู้: 152

« ตอบ #3 เมื่อ: 13 เมษายน 2553, 14:28:24 »


พี่ jimsy ลองน้อมไปในเมตตาของพรหมวิหาร เป็นทางเดินดู

เช่น เมื่อพี่ไปกราบเยี่ยม ครูบาอาจารย์ ที่ป่วยอยู่ ใจน้อมไปอย่างไร

อยากใ้ห้ท่านมีสังขารที่สุขสบาย เป็นที่พึ่งของลูกศิษย์ลูกหา เป็นต้น

หมายเหตุ แนะนำครูบาอาจารย์ ท่านหนึ่งที่หลวงปู่มหาบัว ยกย่องว่าเป็น ธรรมทั้งแท่ง มานานมากแล้ว

หลวงปู่ลี กุสลธโร อายุน่าจะ 88 ปี พรรษาที่ 60 วัดภูผาแดง  อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

ในวงของพระป่า จะว่าเป็นองค์รองจากหลวงปู่มหาบัว ก็ไม่ผิด

ท่านไม่ค่อยเทศน์ ถ้าจะพูด ก็พูดอิสาน

      บันทึกการเข้า

หน้าที่ของมนุษย์ คือการศึกษาธรรม เรียนรู้ธรรม เพื่อยอมรับธรรม

ธรรม คือธรรมชาติของรูปนาม
jimsy
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 195

« ตอบ #4 เมื่อ: 19 เมษายน 2553, 12:11:45 »


             ขอบพระคุณมากนะคะน้อง..จะลองไปปฏิบัติดู...แต่ที่ทราบเวลาพบท่านเราก็มองและกราบท่านด้วยความปิติอยู่แล้ว เท่้าที่รู้สึกกับตัวเองขณะนี้คือ เพื่อนรุ่นเดียวกันเขาใส่แว่นสายตายาวกันเป็นแถวแต่พี่ไม่ต้องใช้เลย
    นอกจากแว่นสายตาสั้นที่ต้องใช้เป็นตั้งแต่เป็นนิสิต สั้นก็ไม่ได้เพิ่มมากขึ้นเท่าไร แล้วก็ใช้แต่ตอนขับรถกลางคืนเท่านั้น...

      แล้วพอดีพี่เพิ่งคุยกับพี่คนหนึ่งที่เป็นลูกศิษย์หลวงปู่เหรียญ เขาเคยเป็นมะเร็ง 2 รอบ ก็ปฏิบัติภาวนาจนหาย  พี่เขาบอกว่าถ้าไปอย่าลืมไปกราบหลวงปู่บุญมี ที่วัดป่านาคูณ บ้านเผือ อุดร ด้วยค่ะ...

        นี่แหละธรรมะโอสถของจริงใช่ไหมคะ....
 
      บันทึกการเข้า
Begita
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2542
กระทู้: 32

« ตอบ #5 เมื่อ: 20 เมษายน 2553, 20:02:44 »

สาธุ ครับ ถ้าได้เจอกัน ที่วัดป่าบ้านตาด ก็ทักทายกันได้นะครับ

ส่วนตัวผมไปกราบท่านอย่างน้อยเดือนละครั้ง นอกนั้นงานถวายทองคำ งานเปิดสามแดนโลกธาตุ งานบูรพาจารย์ งานกฐิน ครับ 

คงได้มีโอกาสเจอกันครับ

บุญรักษาครับ
      บันทึกการเข้า

เมื่อแยกจิตและกายออกจากกัน จะเห็นว่าเราไม่มี และ ไม่มีเรา
jimsy
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 195

« ตอบ #6 เมื่อ: 27 เมษายน 2553, 18:09:12 »

      

        โมทนาสาธุค่ะ...เมื่อกี้นี้เพิ่งมีเพื่อนชวนไว้ว่า ให้ไปวัดท่านในงานเปิดสามแดนโลกธาตุในวันที่ 1 มิย.นี้มีใช่ไหมจ๊ะ....คืองานอารัยเอ่ย...

   งานนี้อยากจะไปอยู่ชอบขึ้นรถไฟ แต่ไม่มีรถไป ไม่ชอบนั่งรถตู้นานน่ะจ้ะ  มีคำแนะนำไหมจ๊ะ...น้อง Begita ว่าจะไปวิธีไหนดี     

           
            ถ้าไปก็อยากไปกราบครูบาอาจารย์ท่านอื่นด้วยเลยน่ะค่ะ....
  
      บันทึกการเข้า
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #7 เมื่อ: 27 เมษายน 2553, 22:29:13 »

...สาธุค่ะ  เคยพบพระอริยะสงฆ์(สมเด็จพระสังฆราชย์) ขนลุกซู่ด้วยความปลื้มปิติ
 
ไม่ได้แผ่เมตตา เพิ่งได้ความรู้จากเพื่อนเดียว-69

...ขอบคุณน้องๆทุกคนที่นำเรื่องดีๆมาบอก
      บันทึกการเข้า
เพื่อนเดียว-69
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu69
กระทู้: 152

« ตอบ #8 เมื่อ: 28 เมษายน 2553, 14:52:59 »

หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ วัดป่าบ้านนาคูณ อ.บ้านผือ อุดร

ถือว่าเป็นพี่ใหญ่ ในบรรดาพระลูกศิษย์ของหลวงปู่มหาบัวเลยทีเดียว

พรรษาน่าจะ 63 อายุน่าจะ 83-84 ปีแล้ว

      บันทึกการเข้า

หน้าที่ของมนุษย์ คือการศึกษาธรรม เรียนรู้ธรรม เพื่อยอมรับธรรม

ธรรม คือธรรมชาติของรูปนาม
jimsy
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 195

« ตอบ #9 เมื่อ: 28 เมษายน 2553, 20:02:13 »

       
           

                  สาธุ...ขอบคุณจ้ะที่มีรูปสวย ๆ ของครูบาอาจารย์มาให้กราบ....จะพยายามไปให้ได้ค่ะ....เห็นภาพก็ชื่นใจแล้ว ท่านผ่องใสนะคะ....
      บันทึกการเข้า
Begita
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2542
กระทู้: 32

« ตอบ #10 เมื่อ: 29 เมษายน 2553, 09:34:17 »

อ้างถึง
ข้อความของ jimsy เมื่อ 27 เมษายน 2553, 18:09:12
     

        โมทนาสาธุค่ะ...เมื่อกี้นี้เพิ่งมีเพื่อนชวนไว้ว่า ให้ไปวัดท่านในงานเปิดสามแดนโลกธาตุในวันที่ 1 มิย.นี้มีใช่ไหมจ๊ะ....คืองานอารัยเอ่ย...

   งานนี้อยากจะไปอยู่ชอบขึ้นรถไฟ แต่ไม่มีรถไป ไม่ชอบนั่งรถตู้นานน่ะจ้ะ  มีคำแนะนำไหมจ๊ะ...น้อง Begita ว่าจะไปวิธีไหนดี     

           
            ถ้าไปก็อยากไปกราบครูบาอาจารย์ท่านอื่นด้วยเลยน่ะค่ะ....
   

การเดินทางสะดวกทุกๆ ทางครับ 

1. เดินทางโดยรถทัวร์ (อันนี้ชอบเป็นการส่วนตัว เพราะว่ารถทัวร์อุดร มีให้เลือกเยอะมากๆ ชั้น goldclass ของนครชัยแอร์นั่งสบายกว่า ชั้นนอนของรถไฟอีกครับ ลงที่อุดร ส่วนจะเข้าวัดป่าบ้านตาดยังไง นั้นง่ายมากๆ ครับ  ถามใครก็ได้ คิวรถที่ไหนก็ได้
หรือนัดกับญาติธรรม ให้มารับก็สะดวกครับ แนะนำว่าต้องเดินทางก่อนวันงานนะครับ ไม่งั้นรถจะติดมากๆ

2. เดินทางมาอุดรโดยเครื่องบิน ก็สะดวกรวดเร็วดีครับ แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงตามไปด้วย

3. นัดกับญาติธรรมที่มาจากกรุงเทพฯ ครับ ผมว่าทุกๆ ท่านคงยินดีให้ร่วมทางครับ (อันนี้คงต้องแล้วแต่ สายบุญด้วยครับผม^^)


ถ้ามาถึงอุดรแล้ว ไม่สะดวกเดินทางเข้าบ้านตาดจริงๆ ก็ประสานกับผมอีกครั้งในวันใกล้เดินทาก็ได้ ครับเพราะถ้าวันงาน ที่บ้่านตาดผมคงไปอยู่ที่นั่นตั้งแต่คืนก่อนหน้า ครับผม

บุญรักษาครับ
      บันทึกการเข้า

เมื่อแยกจิตและกายออกจากกัน จะเห็นว่าเราไม่มี และ ไม่มีเรา
เพื่อนเดียว-69
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu69
กระทู้: 152

« ตอบ #11 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553, 10:47:58 »

งานเปิดโลก วันที่ 30 พ.ค. ระวังไปผิดวัน

ลองดูที่ลิงค์  http://watpa.com/board_detail.asp?board_id=2937
      บันทึกการเข้า

หน้าที่ของมนุษย์ คือการศึกษาธรรม เรียนรู้ธรรม เพื่อยอมรับธรรม

ธรรม คือธรรมชาติของรูปนาม
Anusra
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2528
คณะ: Arts
กระทู้: 31

« ตอบ #12 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 21:37:09 »

อ้างถึง
ข้อความของ jimsy เมื่อ 28 เมษายน 2553, 20:02:13
     
          

                  สาธุ...ขอบคุณจ้ะที่มีรูปสวย ๆ ของครูบาอาจารย์มาให้กราบ....จะพยายามไปให้ได้ค่ะ....เห็นภาพก็ชื่นใจแล้ว ท่านผ่องใสนะคะ....

สาธุค่ะ
      บันทึกการเข้า
Begita
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2542
กระทู้: 32

« ตอบ #13 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2553, 21:30:24 »

สาธุ ครับ
      บันทึกการเข้า

เมื่อแยกจิตและกายออกจากกัน จะเห็นว่าเราไม่มี และ ไม่มีเรา
jimsy
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 195

« ตอบ #14 เมื่อ: 31 พฤษภาคม 2553, 13:10:42 »

     

            น้อง Begita จ๊ะ....

                              พี่คงไม่ได้ไปงานเปิดโลกแล้ว เพราะน้องที่ชวนเขาไปกันล่วงหน้าแล้ว พี่ติดงานเป็นเลซองช่วยต้อนรับแขกที่เดินทางมาร่วมประชุมงาน วิสาขบูชาโลก ที่มหาจุฬาลงกรณ์ ราชวิทยาลัย กว่าเสร็จกลับมาบ้านก็หมดแรง ก็ไปร่วมเป็นจิตอาสาช่วยงาน บุญใหญ่นี้เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแล้วกันนะคะ.....
                               ถ้าใครสนใจปีหน้าจะชวน สนุกมากกก....แต่ก็เหนื่อยเหมือนกัน ยิ่งใครพูดภาษาได้หลายภาษาน่าจะเข้าไปช่วย ลางานก็มีใบรับรองให้ บางคนมาจากที่ต่าง ๆ เป็นดร.ก็มี  ของพี่ช่วยรับแขกจากประเทศอินโดนีเซีย ...ได้เพื่อนมาเยอะ มาแอ็ดเฟสบุคส์กันใหญ่....อิ..อิ...
      บันทึกการเข้า
เพื่อนเดียว-69
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu69
กระทู้: 152

« ตอบ #15 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2553, 13:38:00 »

.........หากพี่ jimsy ไปงานเปิดโลกไม่ได้

พี่ลองดูว่า วันที่ 12 สิงหาคม จะว่างไหม เป็นวันครบรอบอายุ 97 ปี ของหลวงตา

ซึ่งเป็นช่วงที่ท่านเปิดโอกาสให้ ลูกศิษย์และผู้ไปร่วมงานได้ขอขมาลาโทษ ต่อหลวงตาท่าน

(หาโอกาสเช่นนี้ยากมาก หรือไม่มีเลย)

ปีหนึ่งๆ จะมีก็แต่โอกาสเช่นนี้เท่านั้น เวลาประมาณ เที่ยงวัน ของวันที่ 12

บางครั้งพวกเราอาจจะมีโอกาส พลาดพลั้ง คิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี ต่อหลวงตาท่าน

ไม่ว่าจะ ชาตินี้ หรือชาติไหนๆ ก็ตาม



      บันทึกการเข้า

หน้าที่ของมนุษย์ คือการศึกษาธรรม เรียนรู้ธรรม เพื่อยอมรับธรรม

ธรรม คือธรรมชาติของรูปนาม
tiantaro
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #16 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2553, 04:23:51 »

สาธุ ครับผม โมทนาด้วยเป็นอย่างยิ่งครับผม
      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #17 เมื่อ: 30 มกราคม 2554, 07:25:01 »


โดยเวบอีไทยแลนด์ดอทคอม วันอาทิตย์ ที่ 30 ม.ค.2554
http://www.ethailand.com/th/news/-71078.html



อาลัย"หลวงตามหาบัว"เกจิดังอีสานละสังขาร
 
เวลา 03.53 น.-30 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า"หลวงตามหาบัว"ญาณสัมปันโน(พระธรรมวิสุทธิมงคล)
เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี พระเกจิอาจารย์ชื่อดังละสังขารอย่างสงบสิริอายุ 98 ปี

สำหรับประวัติ"หลวงตามหาบัว"กำเนิด ในครอบครัวชาวนาผู้มีอันจะกิน ณ บ้านตาด อุดรธานี  
วันเกิด 12 ส.ค.2456 มีพี่น้องทั้งหมด 16 คน  สมัยเด็ก เคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา โดย
ได้ร่วมทำบุญตักบาตรกับผู้ใหญ่อยู่เสมอ วัยหนุ่ม เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว
ขยันขันแข็ง ทำงานอะไร ทำจริงๆ...


sorry sorry sorry
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #18 เมื่อ: 30 มกราคม 2554, 08:42:52 »

สาธุ ขอบคุณครับ น้องหมอ ที่แจ้งข่าว  เป็นบุญที่ผมได้ เกิด ในชาตินี้และมีท่านอยู่ด้วย  เราก็ขาดเสาหลักทางจิตใจไปอีก
                          หนึ่งองค์  คงได้แต่เพียงส่งจิตไปกราบท่าน สาธุ
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #19 เมื่อ: 30 มกราคม 2554, 11:32:20 »


อาลัยหลวงตา.......


อรหันต์หนึ่งละแล้วซึ่งสังขาร
สู่นิพพานทางงามตามศาสนา
เรายังอยู่ต้องเรียนรู้ตามครูบา
เพื่ออนาคตสุขไกลทุกข์ภัย
      บันทึกการเข้า
intakanok
มือใหม่หัดเมาท์
*

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11

« ตอบ #20 เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2554, 10:28:08 »

อาลัยหลวงตา  อนุโมทนา สาธุ ค่ะ
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2554, 14:35:56 »

...นั่งดูข่าวทางทีวีของคืนวันที่ 30 ม.ค.ตกใจมากๆเลยค่ะ...
...ได้เคยไปกราบท่านที่วัดป่าบ้านตาดเมื่อตั้งนานมาแล้ว...ประมาณ 20 ปีเห็นจะได้...
...ท่านเป็นพระที่สมถะมาก...ที่วัดท่านก็แบบง่ายๆ...ศาลาฉันก็เป็นศาลาไม้ธรรมดาๆ...
...ไปตอนนั้นที่วัดยังไม่มีน้ำประปาใช้(ตอนนี้มีหรือยังไม่ทราบค่ะ)...ไปถึงประมาณตีสี่ตีห้า...แต่ห้องน้ำวัดก็มีน้ำอยู่เต็มตุ่มแล้ว...
...เพราะพระที่นั่นต้องหาบน้ำใส่ตุ่มไว้ให้ญาติโยมได้ใช้กันค่ะ...ห้องน้ำสะอาดมากๆ...
...ได้มีโอกาสทำบุญและฟังท่านเทศน์ค่ะ...ปลื้มปิติมากๆ...
...หลังจากนั้นหลายปี...ก็ได้มีโอกาสไปร่วมงานทอดผ้าป่าช่วยชาติที่หลวงตามาทอดแถวๆวัดที่พัทยานี้ค่ะ...คนเยอะมากๆ...
...คิดเหมือนกันว่าจะหาโอกาสไปกราบท่านที่วัดป่าบ้านตาดอีก...แต่ท่านก็มาละสังขารเสียแล้วค่ะ
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
jitwang
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 37

« ตอบ #22 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2554, 09:43:53 »

      สรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้น/คงอยู่/และดับไปเป็นธรรมดา
 ผู้ไดที่ได้เกิดเป็นคน ย่อมมีโอกาสทำดีหรือไม่ดี
อยู่ที่เลือกกระทำในสิ่งต่าง ผู้ใด้ก็ตามที่มองความธรรมดาของโลก
เป็นของไม่ธรรมดานั้นย่อมจะต้องหาความจริงต่อไป
ท่านหลวงตาได้ค้นพบธรรมแห่งพระพุทธเจ้าและได้วางแล้ว   สาธุ
      บันทึกการเข้า
nok15
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 529

« ตอบ #23 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2554, 21:33:46 »

      สวัสดีค่ะ  ไม่เคยเข้ามาชมห้องนี้เลย(เพิ่งจะเริ่มเก่งไอทีได้ไม่นาน)  เห้็นประเด็นนี้น่าสนใจจึงแวะมาเยี่ยม เป็นคนอุดรหรือเปล่าคะ
ขอบคุณมากนะคะสำหรับสาระดีๆที่นำมาฝากชาวRCU ไม่เคยเห็นภาพเช่นนี้มาก่อนเลย ขออนุโมทนาด้วยจริงๆ
เห็นรูปjimsyแล้วคงเป็นรุ่นน้องของพี่แน่ๆ  จะแวะมาเยี่ยมอีกนะคะ  พี่nok15ค่ะ
      บันทึกการเข้า
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #24 เมื่อ: 08 เมษายน 2555, 04:14:17 »

อัศจรรย์พระธาตุหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

 


ฮือฮาอีกครั้ง เลือด-น้ำเหลืองที่ได้มาจากการทำความสะอาดบาดแผลนิ้วเท้าของหลวงตาตอนที่ยังไม่ละสังขาร กลายเป็นก้อนแข็งคล้ายเม็ดทราย ส่องแสงแวววับอย่างน่าอัศจรรย์
 
(12 ก.พ.) เมื่อวันที่ 11 ก.พ.2554 ที่ผ่านมา ประชาชนที่เดินทางมากราบสรีระหลวงตาพระมหาบัว ต่างฮือฮา เมื่อศิษยานุศิษย์หลวงตาคนหนึ่ง ได้นำเอาโกศบรรจุเลือดและน้ำเหลืองของหลวงตามาให้ดู พบว่าน้ำเหลืองและเลือดที่ได้มาจากการทำความสะอาดบาดแผลนิ้วเท้าของหลวงตาตอนที่ยังไม่ละสังขารแล้วนำมาบูชานั้น ได้กลายเป็นก้อนแข็งคล้ายเม็ดทรายหรือเม็ดน้ำตาลทราย ส่องแสงแวววับอย่างน่าอัศจรรย์ เชื่อว่าก้อนเลือดและก้อนน้ำเหลืองจากหลวงตานี้ น่าจะเป็นพระธาตุเหมือนที่เกศาของหลวงตาเป็นพระธาตุมาก่อนหน้านี้
 
พล.อ.ต.นพ.วิชาญ เปี้ยวนิ่ม หัวหน้าหน่วยนิติเวช คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีกล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นตามทฤษฎีทางการแพทย์ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เพราะปกติหากหากน้ำเหลืองแข็งตัวมาก ก็จะพบเพียงก้อนวุ้นเฉยๆ ไม่ใช่เป็นในลักษณะเม็ดน้ำตาลทราย หรือเม็ดทรายเล็กๆ ส่วนกรณีที่ศพไม่เน่าเกิดจาก 3 ปัจจัย คือ อุณหภูมิสูงมาก ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศต่ำ และอากาศถ่ายเทสะดวก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวถือเป็นภาวะเหมาะสมที่ทำให้สภาพร่างกายของศพไม่เน่าได้ แต่กรณีนี้ไม่พบเห็นบ่อย เกิดขึ้นได้น้อยมาก
 
ด้าน ศ.นพ.ธีรวัฒน์ เหมะจุฑา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การอธิบายกรณีที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องยาก เพราะเมืองไทยเป็นเมืองพุทธศาสนา แพทย์หลายท่านก็นับถือศาสนาพุทธ แม้ว่าจะสามารถนำก้อนเลือด ก้อนน้ำเหลืองดังกล่าวไปพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ถึงที่มาที่ไป ก็อาจดูไม่เหมาะสม เพราะเป็นเรื่องของความศรัทธา ดังนั้น คงไม่สามารถจะเอาวิทยาศาสตร์มาอธิบายปรากฏการณ์ในลักษณะนี้ได้


ที่มา: http://news.sanook.com/1001532/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%A8%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94-%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8/

อันสืบเนื่องมากจากภาพ นสพ. เดลินิวส์ ที่ยังขาดความคมชัด จึงมีผู้ติดตามไปถ่ายภาพพระธาตุ หลวงตามหาบัว แบบ close-up


พระบุพโพธาตุ(น้ำเหลือง) นี้ เมื่อมองด้วยตาเปล่าจะไม่เห็นความแปลกพิเศษแต่อย่างใด แต่เมื่อใช้แสงไฟฉายแรงสูงส่อง ก็จะเห็นประกายเล็ก ๆ ระยิบระยับมากมาย ดูสวยงามมาก


พระบุพโพธาตุ(น้ำเหลือง)ของหลวงตามหาบัว ใช้เลนส์พิเศษถ่ายขยายดูเนื้อพระธาตุนี้ ก็พบว่าเป็นลักษณะคล้ายไข่ปลาขนาดเล็กมาก มีทั้งสีเหลืองอ่อน เหลืองเข้ม และสีขาว มากมาย  ซึ่งไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้


พระบุพโพธาตุ(น้ำเหลือง) จากผะอบเดียวกัน แต่มีสีเหลืองเข้ม


พระธาตุจากข้าวก้นบาตรหลวงตามหาบัว สังเกตุดูด้วยตาเห็นว่าไม่เน่าเปื่อย เมื่อถ่ายภาพโดยใช้เลนส์ขยายจะมีลักษณะเป็นประกายเล็ก ๆ ระยิบระยับดังภาพ


พระธาตุข้าวก้นบาตรหลวงตามหาบัว


เกศาหลวงตามหาบัว(ผม) มีบางส่วนที่มีลักษณะคล้ายผลึกเล็ก ๆ ใส ๆ ซึ่งเป็นลักษณะของพระธาตุ เห็นได้ด้วยตาเปล่า


ภาพขยายพระธาตุจากเกศาหลวงตามหาบัว มีลักษณะใส รวมทั้งเส้นเกศาด้วย


พระธาตุจากเกศาหลวงตามหาบัว มีลักษณะสวยงามมาก


พระธาตุจากอัฐิธาตุ(กระดูก)ของหลวงตามหาบัว ถ้าดูด้วยตาจะไม่เห็นความเป็นประกายจนกระทั่งถ้าได้รับแสงจากแดดหรือไฟฉาย ก็จะเห็นความเป็นประกายระยิบระยับ  จากภาพได้ถ่ายโดยใช้กล้องกับเลนส์มาโคร(เลนส์ขยาย) เพื่อให้ได้เห็นประกายแสงชัดเจนขึ้น ซึ่งจากที่พบเห็น อัฐิทุกชิ้นจะมีประกายแต่บางชิ้นมีมากน้อยแตกต่างกันไป


พระธาตุจากอัฐิเถ้าอังคารหลวงตามหาบัว พระธาตุชุดนี้ผู้เขียนดูด้วยตาเปล่าจะไม่เห็นความสวยงามชัดเจนนักเช่นกัน เนื่องจากพระธาตุมีขนาดเล็ก เห็นความเป็นมันเงากับแสงประกายสีทอง แต่เมื่อถ่ายโดยใช้กล้องกับเลนส์ขยายจะพบว่ามีหลายรูปพรรณสันฐานที่สวยงามชัดเจนขึ้น โดยด้านล่างมีพระธาตุที่มีรูปพรรณส้ณฐานที่แปลกคือมีสีคล้ายทองคำ


ทันตธาตุ(ฟัน)หลวงตามหาบัว เป็นฟันซึ่ที่หลุดออกระหว่างท่านพักรักษาตัวอยู่ที่วัดป่าบ้านตาดและได้มอบให้พระเก็บไว้ ซึ่งมีลักษณะเป็นมันเงาเห็นได้ด้วยตาเปล่า


พระบุพโพ-โลหิตของหลวงตา(น้ำเหลือง-เลือด) พระธาตุนี้มาจากก้อนสำลีที่ทำแผลหลวงตา ซึ่งมีคราบน้ำเหลืองและเลือดติดอยู่  ซึ่งทางหมอที่ทำแผลถวายหลวงตาปกติก็จะทิ้งลงถุงดำ แต่มีผู้ขอนำไปเก็บไว้ ต่อมาได้แห้งและเกิดเป็นประกายสีเหลืองสวยงาม จึงได้แกะออกจากสำลีพบมีสัณฐานกลมสีเหลืองซึ่งคาดว่ามาจากน้ำเหลืองขององค์ท่าน ส่วนผลึกสีแดงชมพูคาดว่ามาจากน้ำเลือดที่แต่เดิมติดอยู่กับสำลี


ที่มา: http://www.doisaengdham.org/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7.html
      บันทึกการเข้า

  หน้า: [1] 2  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><