22 พฤศจิกายน 2567, 19:24:46
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 [2]  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: [ราชการ] คิดอย่างไรกับหนังสือฉบับนี้  (อ่าน 30986 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #25 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 08:17:40 »






ส่ง เก้าอี้ ตย.  4 แบบ มาให้คุณรัสมี ไทยสิทธิพงศ์ เลือกครับ
ส่วน อจ. เต้ และ น้องหะยี ก็เลือกไว้ใช้งานได้นะครับ



แล้วขอส่งเก้าอี้ มาให้...... แห่งสำนักงานสรรพากร ศรีประจันต์ ไว้ใช้งานประจำตำแหน่ง
ประชาชนที่มาติดต่องาน จะได้ไม่สับสน ว่าใครใหญ่กว่าใคร

      บันทึกการเข้า

Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #26 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 09:07:04 »

ผมว่าเก้าอี้สำนักงานตัวสีชมพู มันเหมือนเก้าอี้ร้านเสริมสวยมากกว่า
ถ้าต้องนั่งทั้งวัน คงปวดหลังแน่นอน
ไม่ถูกต้องตามหลัก การยศาสตร์ครับ
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #27 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 13:50:49 »

ตัวสุดท้ายดูสยองไปนิดส์ไหมคะ  ..พี่วณิชย์ ??     ฮือๆ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
ว่าน
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,592

« ตอบ #28 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 14:06:50 »

ง่ะ เก้าอี้หนูก็ใหญ่กว่าหัวหน้ากลุ่มวิชาฯ อ้ะค่ะ

หนูจะโดนสั่งย้ายไหมเนี่ย หงิหงิ


5 5 5
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #29 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 14:08:50 »

อ้างถึง
ข้อความของ ว่าน เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2553, 14:06:50
ง่ะ เก้าอี้หนูก็ใหญ่กว่าหัวหน้ากลุ่มวิชาฯ อ้ะค่ะ

หนูจะโดนสั่งย้ายไหมเนี่ย หงิหงิ


5 5 5

ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีค่ะ  นุ้งว่าน .. คริคริ
    หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #30 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 17:25:10 »

เก้าอี้ตัวนี้ของพี่วณิชย์ .. ทำให้หยีนึกถึงหนังที่ชอบมากอีกเรื่องหนึ่ง ..


      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #31 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 17:26:30 »

หนังเรื่องนั้นคือ .. The Green Mile ..

ดูกี่รอบก็ไม่เบื่อ ..

ความเป็นจริงในชีวิตที่เกิดขึ้นกับเราได้ แทบจะทุกวัน
นั่นคือ .. การตัดสินคนจากสิ่งภายนอกที่เห็น โดยไม่ได้มองลึกเข้าไปข้างใน
   






      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
พศินน์
Full Member
**

ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2535
คณะ: วิศวฯ
กระทู้: 511

« ตอบ #32 เมื่อ: 01 มีนาคม 2553, 19:35:36 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2553, 17:26:30
หนังเรื่องนั้นคือ .. The Green Mile ..

ดูกี่รอบก็ไม่เบื่อ ..

ความเป็นจริงในชีวิตที่เกิดขึ้นกับเราได้ แทบจะทุกวัน
นั่นคือ .. การตัดสินคนจากสิ่งภายนอกที่เห็น โดยไม่ได้มองลึกเข้าไปข้างใน
   









   
 การตัดสินคนจากสิ่งภายนอกที่เห็น โดยไม่ได้มองลึกเข้าไปข้างใน

lสังคมไทย กลายเป็นแบบนี้ ส่วนมากแล้ว...




ปัญหาเรื่องเก้าอี้ตามข่าวนั้น น่าจะมีปัญหาจากเรื่องอื่นมากกว่าเรื่องเก้าอี้ หรือปล่าวครับ???

   
      บันทึกการเข้า

sound mind in sound body
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #33 เมื่อ: 02 มีนาคม 2553, 19:49:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2553, 17:26:30
หนังเรื่องนั้นคือ .. The Green Mile ..

ดูกี่รอบก็ไม่เบื่อ ..

ความเป็นจริงในชีวิตที่เกิดขึ้นกับเราได้ แทบจะทุกวัน
นั่นคือ .. การตัดสินคนจากสิ่งภายนอกที่เห็น โดยไม่ได้มองลึกเข้าไปข้างใน
   








ผมชอบเรื่องนี่ เหมือนกันครับ
      บันทึกการเข้า
TAE2540
Full Member
**


ไม่มีคำว่าสายเสียแล้ว สำหรับความรักที่แท้จริง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2540
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 507

เว็บไซต์
« ตอบ #34 เมื่อ: 02 มีนาคม 2553, 21:23:32 »

อ้างถึง
ข้อความของ Pae เมื่อ 02 มีนาคม 2553, 19:49:51
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2553, 17:26:30
หนังเรื่องนั้นคือ .. The Green Mile ..

ดูกี่รอบก็ไม่เบื่อ ..

ความเป็นจริงในชีวิตที่เกิดขึ้นกับเราได้ แทบจะทุกวัน
นั่นคือ .. การตัดสินคนจากสิ่งภายนอกที่เห็น โดยไม่ได้มองลึกเข้าไปข้างใน
   








ผมชอบเรื่องนี่ เหมือนกันครับ

เหมือนกันครับ ผมดู 3 รอบ
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #35 เมื่อ: 02 มีนาคม 2553, 21:31:18 »

พี่ก็ดูหลายรอบค่า
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
ว่าน
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,592

« ตอบ #36 เมื่อ: 02 มีนาคม 2553, 21:34:51 »

แหะๆ หนูไม่ได้ดูเรื่องนี้ค่ะ หนูชอบเรื่อง The Shawshank Redemption ค่ะ

เอ่อ เกี่ยวกับเขาไหมเนี่ย หงิหงิ


^^"
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #37 เมื่อ: 02 มีนาคม 2553, 22:07:04 »

อยู่เป็นครูมา 26 ปี  ยังไม่เคยมีโต๊ะ  เก้าอี้ส่วนตัวเลยเพราะสอนเวียนตลอด  เวลาที่ใช้ก้นั่งเก้าอี้พลาสติกในห้องเรียนหรือไม่ก้เก้าอี้เด้ก  มาเทอมนี้เป็นครูประจำชั้นต้องมีโต๊ะ กับเก้าอี้สำหรับครูประจำชั้น  โต๊ะก็อ๊อกซ์ต่อเอง  เก้าอี้ก็พลาสติกวันๆ หนึ่งไม่ค่อยได้นั่งเท่าไร  เวลาตรวจงานเด้กก็นั่งโต๊ะเด็ก
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #38 เมื่อ: 03 มีนาคม 2553, 07:28:49 »

อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 02 มีนาคม 2553, 22:07:04
อยู่เป็นครูมา 26 ปี  ยังไม่เคยมีโต๊ะ  เก้าอี้ส่วนตัวเลยเพราะสอนเวียนตลอด  เวลาที่ใช้ก้นั่งเก้าอี้พลาสติกในห้องเรียนหรือไม่ก้เก้าอี้เด้ก  มาเทอมนี้เป็นครูประจำชั้นต้องมีโต๊ะ กับเก้าอี้สำหรับครูประจำชั้น  โต๊ะก็อ๊อกซ์ต่อเอง  เก้าอี้ก็พลาสติกวันๆ หนึ่งไม่ค่อยได้นั่งเท่าไร  เวลาตรวจงานเด้กก็นั่งโต๊ะเด็ก

แบบนี้ ก็ดีนะครับพี่ตุ๋ย
ไม่ต้องกลัวใครมาเลื่อยขาเก้าอี้
      บันทึกการเข้า
บ่าวหน่อ เมืองพลาญ
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 490

เว็บไซต์
« ตอบ #39 เมื่อ: 04 มีนาคม 2553, 17:34:20 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sittipong เมื่อ 02 มีนาคม 2553, 21:31:18
พี่ก็ดูหลายรอบค่า


ผมดูรอบเดียวครับ กะว่าจะดู 3 รอบเหมือนกัน แต่เพื่อนยืมไปดูก่อนแล้วไม่คืน เลยได้แค่รอบเดียว ฮิฮิ
      บันทึกการเข้า

RCU80 จงเจริญ
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #40 เมื่อ: 04 มีนาคม 2553, 21:37:21 »

อ้างถึง
ข้อความของ Pae เมื่อ 03 มีนาคม 2553, 07:28:49
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 02 มีนาคม 2553, 22:07:04
อยู่เป็นครูมา 26 ปี  ยังไม่เคยมีโต๊ะ  เก้าอี้ส่วนตัวเลยเพราะสอนเวียนตลอด  เวลาที่ใช้ก้นั่งเก้าอี้พลาสติกในห้องเรียนหรือไม่ก้เก้าอี้เด้ก  มาเทอมนี้เป็นครูประจำชั้นต้องมีโต๊ะ กับเก้าอี้สำหรับครูประจำชั้น  โต๊ะก็อ๊อกซ์ต่อเอง  เก้าอี้ก็พลาสติกวันๆ หนึ่งไม่ค่อยได้นั่งเท่าไร  เวลาตรวจงานเด้กก็นั่งโต๊ะเด็ก

แบบนี้ ก็ดีนะครับพี่ตุ๋ย
ไม่ต้องกลัวใครมาเลื่อยขาเก้าอี้


ไม่โดนเลื่อยขาเก้าอี้ .. แต่อาจโดนเตะตัดขาแทน .. คริคริ    เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
ภาณุ ปาตานี
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,254

« ตอบ #41 เมื่อ: 09 มีนาคม 2553, 06:24:53 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 04 มีนาคม 2553, 21:37:21
อ้างถึง
ข้อความของ Pae เมื่อ 03 มีนาคม 2553, 07:28:49
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 02 มีนาคม 2553, 22:07:04
อยู่เป็นครูมา 26 ปี  ยังไม่เคยมีโต๊ะ  เก้าอี้ส่วนตัวเลยเพราะสอนเวียนตลอด  เวลาที่ใช้ก้นั่งเก้าอี้พลาสติกในห้องเรียนหรือไม่ก้เก้าอี้เด้ก  มาเทอมนี้เป็นครูประจำชั้นต้องมีโต๊ะ กับเก้าอี้สำหรับครูประจำชั้น  โต๊ะก็อ๊อกซ์ต่อเอง  เก้าอี้ก็พลาสติกวันๆ หนึ่งไม่ค่อยได้นั่งเท่าไร  เวลาตรวจงานเด้กก็นั่งโต๊ะเด็ก
แบบนี้ ก็ดีนะครับพี่ตุ๋ย
ไม่ต้องกลัวใครมาเลื่อยขาเก้าอี้

ไม่โดนเลื่อยขาเก้าอี้ .. แต่อาจโดนเตะตัดขาแทน .. คริคริ    เหอๆๆ

เอาไปทำก้อย แทนบ่าง
      บันทึกการเข้า
(n_n)Cellkrub
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 579

« ตอบ #42 เมื่อ: 09 มีนาคม 2553, 15:48:57 »

นี่ถ้าหัวหน้านั่งเก้าอี้พลาสติกกลม ลูกน้องคงต้องเอาสาดมารองก้นแทนซะล่ะมั้ง ฮ่าๆๆ

แปลกดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #43 เมื่อ: 15 มีนาคม 2553, 12:29:53 »

กรณีใหม่ครับลง นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์

ทุกข์ของครูใกล้เกษียณ
ถูกทุกข้อ                                                                                                                             15 มีนาคม 2553  00.00

เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

ข้าพเจ้านางสาวศิรารัตน์ หงษ์ทองกิจเสรี ตำแหน่งครู ค.ศ.2 โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยา (ญ.ส.) สังกัดสำนักงานการเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดสงขลา เขต 2 (สพท.เขต 2) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110 โทรศัพท์ 08-3192-1451 เลขที่บัตรประชาชน 3 93040002222 9

ดิฉันรับราชการครูมาถึง 30 ปี ไม่เคยคิดที่จะยอมก้มหัวให้กับผู้บริหารที่ไม่มีความจริงใจต่อนักเรียน จึงเป็นของธรรมดาที่ชีวิตราชการของดิฉันจะไม่รุ่ง ไม่เพียงแต่ไม่รุ่งดิฉันยังถูกผู้บริหารกลั่นแกล้งสารพัด ด้วยการออกคำสั่งลงโทษโดยไม่ยึดระเบียบวินัยราชการ

มาถึงวันนี้ดิฉันถูกโรงเรียนออกคำสั่งลงโทษตัดเงินเดือน ไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนมาแล้ว 5 คำสั่ง โดยตั้งข้อกล่าวหาเดิมๆ ว่ากล่าวหาผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ สอบสวนดิฉันเสร็จไม่ถึง 2 สัปดาห์ สรุปรายงานผลการสอบสวนว่าดิฉันผิดจริง แล้วออกคำสั่งลงโทษทันที

โรงเรียนกล่าวหาพร้อมกับตั้งกรรมการสอบสวน และออกคำสั่งลงโทษใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือน โดยไม่ต้องยึดระเบียบวินัยราชการ โรงเรียนมักอ้างว่าตนเองมีอำนาจเต็ม 100% ดิฉันต้องกลายเป็นเหยื่อสนองอำนาจอย่างไม่เป็นธรรมของผู้บริหาร

ไม่นึกเลยว่าฉันต้องกลายเป็นเหยื่อ ให้ผู้บริหารบ้าอำนาจเหล่านี้เชือดครั้งแล้วครั้งเล่าถึง 5 คำสั่ง และคำสั่งที่ 6 กำลังจะตามมาอีก

ดิฉันกล้าประกาศเรียกตัวเองว่าเป็นครูที่ดี สามารถเป็นครูตัวอย่างให้กับครูทั้งประเทศได้ ประเมินการเรียนการสอนออกมา คะแนนเป็นที่หนึ่งของโรงเรียนเกือบทุกปี แต่ก็ถูกเปลี่ยนข้อมูลไปทุกครั้ง

ดิฉันไม่ยอมก้มหัวให้กับความเลวร้ายของสังคม แต่ดิฉันอยู่ในขอบเขตของตนเอง อย่างเช่นโรงเรียนให้ผู้ปกครองไปชำระค่าพัฒนาคุณภาพการศึกษา (ไม่มีคำว่าค่าเล่าเรียน) โดยจ่ายผ่านธนาคารเป็นเงิน 1,950 บาท ต่อมาโรงเรียนออกใบเสร็จให้นักเรียนเป็นเงิน 1,650 บาท

นักเรียนมาถามดิฉันว่า แม่ให้มาถามว่าจ่ายเงินกับธนาคารไป 1,950 บาท แต่ทำไมออกใบเสร็จให้นักเรียน 1,650 บาท ดิฉันตอบว่าไม่ทราบให้ไปถาม ผอ.เอาเอง

ต่อมามีผู้ปกครองโทรศัพท์เข้าไปในรายการร่วมด้วยช่วยกัน โรงเรียนออกใบเสร็จให้นักเรียนเพิ่มอีกคนละ 200 บาท นักเรียนบอกว่าเงินยังได้ไม่ครบ คนดีของผู้อำนวยการรีบไปประกาศกับนักเรียนหน้าเสาธงว่า ถ้าผู้ปกครองมีอะไรสงสัยให้มาคุยกับผู้อำนวยการ

และอีกหลายๆ เรื่อง ดิฉันต้องกลายเป็นผู้ต้องสงสัยโดยไม่ได้ทำอะไร (คนอย่างดิฉันเป็นคนจริงและคนกล้า ไม่ทำอะไรลับหลังหรือแทงหลังใคร)

จริงๆ แล้วเมื่อก่อนดิฉันเคยต่อสู้ ปกป้องผลประโยชน์ให้นักเรียนในที่ประชุมครู ถูกกลุ่มผู้บริหารและพรรคพวกต้อนดิฉัน รวมไปถึงไล่ดิฉันออกจากที่ประชุมก็โดนมาแล้ว ในที่สุดดิฉันเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรกับการต่อสู้กับคนที่หาความดีไม่ได้ จึงยุติบทบาทตัวเองและทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด

แต่โรงเรียนกลับอาฆาตแค้นที่ดิฉันเป็นที่รักของนักเรียน ผู้ปกครองให้ความไว้วางใจ จึงจงใจกลั่นแกล้งดิฉันสารพัดเรื่อง ดิฉันได้ทำหนังสือร้องเรียนไปที่กรมสามัญศึกษา (สพฐ.) แต่ไม่ได้รับการเหลียวแลช่วยเหลือแต่ประการใด

จนทนไม่ได้จึงไปหานักการเมืองท่านหนึ่ง เขาไม่ช่วยเหลืออะไรเลย แต่แนะนำให้ไปฟ้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ดิฉันก็ฟ้องไปที่ผู้ตรวจฯ ต่อมาผู้ตรวจให้ดิฉันชี้แจงกลับด้วยความที่ไม่มีความรู้ ดิฉันได้รับหนังสือเลยกำหนด 15 วันจึงไม่ได้ชี้แจงกลับ ผู้ตรวจฯ สั่งให้ยุติเรื่องทั้งหมด จึงเป็นที่มาของการออกคำสั่งลงโทษดิฉัน ดังรายละเอียดดังนี้

ปี พ.ศ.2548 ผู้บริหารได้ออกคำสั่งลงโทษดิฉัน 3 คำสั่ง ภายในเวลา 6 เดือนก่อนที่จะเกษียณอายุราชการไป โดยทำหนังสือแบบ สว 2 สว 3 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 (สร้างหลักฐานลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 ทั้งหมด 6 แห่ง)

ดิฉันรับหนังสือวันที่ 28 มีนาคม 2548 โรงเรียนออกคำสั่งที่ 34/2548 (คำสั่งที่ 1) ลงโทษให้ข้าพเจ้ารอการเลื่อนขั้นเงินเดือน ลงวันที่ 12 เมษายน 2548 (ขั้นเงินเดือนราชการปรับทุกวันที่ 1 เดือนเมษายน และตุลาคมของทุกปี)

ดิฉันได้ถามเขาว่า ออกคำสั่งให้ดิฉันรอการเลื่อนขั้นเงินเดือนด้วยเรื่องอะไร ดิฉันทำผิดอะไรหรือ หากดิฉันทำผิดโรงเรียนต้องตั้งข้อกล่าวหา และตั้งกรรมการสอบสวนดิฉันก่อนออกคำสั่งลงโทษ (ดิฉันถามวันที่ 2 พฤษภาคม 2548)

ผู้อำนวยการท่านนั้นตอบว่าต้องการสั่งสอนให้รู้สำนึก โดยอ้างคำสั่ง สพท.ที่ 75/2548 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 ตั้งข้อกล่าวหา 3 ข้อ 1.ใส่ร้ายผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ข้อ 2.ทำให้สังคมแตกความสามัคคี ข้อ 3.กระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา

โรงเรียนรีบออกคำสั่งที่ 61/2548 ลงโทษตัดเงินเดือนดิฉัน 10% เป็นเวลา 2 เดือน ดิฉันโต้แย้งว่าข้าราชการที่ทำผิดวินัย โรงเรียนมีอำนาจตัดเงินเดือนได้ 5% 1 เดือน โรงเรียนก็แก้ไขคำสั่ง 68/2548

ดิฉันทำหนังสืออุทธรณ์คัดค้านไปถึง สพฐ. ทุกอย่างเงียบสนิท

ต่อมาวันที่ 22 กันยายน 2548 โรงเรียนออกคำสั่งลงโทษไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนดิฉันโดยไม่แจ้งให้ดิฉันทราบ แล้วผู้บริหารก็เกษียณอายุราชการไป

ดิฉันเอาคำสั่งทั้ง 3 คำสั่งไปฟ้องศาลปกครอง ปรากฏว่าศาลปกครองยกฟ้องทั้งหมดทั้ง 3 คำสั่ง ดิฉันไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมาย ดิฉันใช้สามัญสำนึกคิดเอาเองว่า หลักฐานที่โรงเรียนร่วมกับ สพท.ออกเอกสารวันเดียวกันลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 ทั้งหมด 6 ครั้ง และเอกสารตัดเงินเดือนดิฉันลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2548 ทั้งหมด 4 แห่ง มันเป็นหลักฐานเท็จทั้งหมด

โรงเรียนไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนให้ดิฉัน ก็ไม่มีการแจ้งให้ดิฉันทราบก่อนว่าทำผิดอะไร แถมมีการเอาคำสั่ง สพท.277/48 มายัดไส้คำสั่งโรงเรียน ทำให้ดิฉันเข้าใจผิดฟ้องศาลปกครองไม่สำเร็จ ต้องไปอุทธรณ์ที่ศาลปกครองสูงสุด

โรงเรียนออกคำสั่งลงโทษดิฉันโดยไม่ยึดระเบียบใดๆ และที่น่าแปลกใจมากคือ โรงเรียนยกเลิกคำสั่งลงโทษดิฉัน ไม่มีการแจ้งให้ดิฉันทราบ แต่ทำเอกสารไปประกอบคดีหมายเลขดำที่ 136/48 คดีหมายเลขแดงที่ 50/2552 และคำสั่งโรงเรียน 107/2548 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2548

นายวิทยา รัตนอรุณ ผู้อำนวยการที่ลงโทษดิฉัน เกษียณอายุราชการวันที่ 30 กันยายน 2548 ทำเอกสารประกอบคดีไปที่ศาลปกครองวันที่ 7 พฤศจิกายน 2548 ไปประกอบคดีหมายเลขดำที่ 178/2548 เลขแดงที่ 84/2552 นายวิทยาใช้สิทธิ์อะไรไปทำหนังสือให้ศาลปกครองในเมื่อเกษียณอายุราชการไปแล้ว สุดท้ายศาลปกครองยกฟ้องหมดทั้ง 3 คดี

โรงเรียนเกิดความเหิมเกริมที่ศาลปกครองยกฟ้อง ดังนั้นในเดือนมิถุนายน 2552 โรงเรียนตั้งข้อกล่าวหาดิฉันเหมือนเดิมอีก คือกล่าวหาผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และทำร้ายผู้อื่น (จริงๆ แล้วดิฉันเป็นฝ่ายถูกทำร้ายร่างกาย ครูผู้เป็นแบบอย่างนั้นทะเลาะทำร้ายร่างกายกันเหมือนหมา ถ้าเห็นเด็กทะเลาะกันอย่าไปด่าเด็กเลย)

ผลการสอบสวนออกมาดิฉันผิดอีก ตัดเงินเดือนดิฉัน 5% เดือนตุลาคม 2552 ไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนให้ดิฉันโดยไม่แจ้งให้ดิฉันทราบ

และ ณ วันนี้ โรงเรียนออกคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนดิฉันด้วยข้อกล่าวหาเดิมอีก คือกล่าวหาผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ผู้อำนวยการคนนี้จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2553 มีตัวอย่างจากนายวิทยาแล้วว่าจะเล่นงานใครอย่างไรก็ได้ เกษียณอายุราชการไปใครฟ้องอะไรตนเองไม่ได้

แต่ครั้งนี้ดิฉันจะไม่มีวันให้พวกข้าราชการชั่วอาศัยตำแหน่งหน้าที่มาเล่นงานดิฉันได้อีก ดิฉันเองก็กำลังจะเกษียณอายุราชการในปีหน้าเช่นเดียวกัน ดิฉันคือข้าในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่ขี้ข้าใคร

เรื่องทั้งหมดนี้ดิฉันได้นำไปร้องทุกข์ กลับไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาอีกครั้งหนึ่ง (นายวิทยา รัตนอรุณ) และที่ศูนย์ร้องทุกข์นายกรัฐมนตรี (นางสาวผ่องศรี เรืองดิษฐ์) ในเรื่องใช้อำนาจมิชอบ ทั้ง 2 หน่วยงานมีหนังสือถึงดิฉันแจ้งว่า ได้ส่งเรื่องกลับไปที่ สพฐ.เพื่อตรวจสอบใหม่

ดิฉันตามเรื่องจนรู้สึกเหนื่อย และดิฉันจะไม่ยอมเกษียณอายุราชการไปอย่างคนมีมลทินเด็ดขาด และจะไม่ยอมให้คนชั่วครองเมือง

หากบรรณาธิการต้องการเห็นเอกสาร รวมทั้งแผ่นบันทึกเสียงที่ดิฉันแอบบันทึกการสอบสวน และเขาด่าประณามดิฉัน ดิฉันพร้อมที่จะส่งไปให้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าดิฉันเล่าเรื่องจริงทั้งหมด

ดิฉันต้องการให้สังคมรับรู้ และอย่าอยู่เฉยหรือเข้าข้างผู้มีอำนาจ โดยทำร้ายเพื่อนร่วมงานเหมือนสังคมครูในโรงเรียนของดิฉัน ครูทุกคนรู้ความสกปรกหลายๆ อย่างแต่ก็ปิดปากเงียบ ไม่เคยมีใครกล้าพูดกล้าถามว่าเงินที่รับบริจาคเอาไปใช้อะไร

ดิฉันขอให้ท่านโปรดให้โอกาสดิฉันตีแผ่ความเลวร้ายของสังคม เพื่อสังคมไทยของเราคงจะดีขึ้นสักวัน อย่าอยู่กันแต่เปลือกทำร้ายเด็ก หากินกับเด็กไปวันๆ เด็กยากจนยังต้องถูกพวกโรงเรียนขูดรีด ไหนว่าเรียนฟรี 8 ชั่วโมงนักเรียนมาโรงเรียนไม่ได้ความรู้ ได้ความรู้เพียง 2 ชั่วโมงที่โรงเรียนเปิดสอนพิเศษเอง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าสถานที่ ค่าโฆษณาไม่ต้องจ่าย

ใครเคยกล่าวว่าเด็กคืออนาคตของชาติ

ขอแสดงความนับถือ

นางสาวศิรารัตน์ หงษ์ทองกิจเสรี

ตอบ ครูศิรารัตน์

ผมลงจดหมายร้องทุกข์ของคุณครู เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้ตรวจสอบ และหวังว่าคุณชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ คงจะช่วยให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ได้

สามวา สองศอก
http://www.thaipost.net/news/150310/19331
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: 15 มีนาคม 2553, 13:47:27 »

อ้างถึง
ข้อความของ เต้ ณ บ้านครู เมื่อ 02 มีนาคม 2553, 21:23:32
อ้างถึง
ข้อความของ Pae เมื่อ 02 มีนาคม 2553, 19:49:51
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2553, 17:26:30
หนังเรื่องนั้นคือ .. The Green Mile ..

ดูกี่รอบก็ไม่เบื่อ ..

ความเป็นจริงในชีวิตที่เกิดขึ้นกับเราได้ แทบจะทุกวัน
นั่นคือ .. การตัดสินคนจากสิ่งภายนอกที่เห็น โดยไม่ได้มองลึกเข้าไปข้างใน
   








ผมชอบเรื่องนี่ เหมือนกันครับ

เหมือนกันครับ ผมดู 3 รอบ

ดูเหมือนกันครับ ให้ข้อคิดดี
      บันทึกการเข้า
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #45 เมื่อ: 20 มีนาคม 2553, 17:20:50 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 15 มีนาคม 2553, 12:29:53
กรณีใหม่ครับลง นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์

ทุกข์ของครูใกล้เกษียณ
ถูกทุกข้อ                                                                                                                             15 มีนาคม 2553  00.00

เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

ข้าพเจ้านางสาวศิรารัตน์ หงษ์ทองกิจเสรี ตำแหน่งครู ค.ศ.2 โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยา (ญ.ส.) สังกัดสำนักงานการเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดสงขลา เขต 2 (สพท.เขต 2) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110 โทรศัพท์ 08-3192-1451 เลขที่บัตรประชาชน 3 93040002222 9

ดิฉันรับราชการครูมาถึง 30 ปี ไม่เคยคิดที่จะยอมก้มหัวให้กับผู้บริหารที่ไม่มีความจริงใจต่อนักเรียน จึงเป็นของธรรมดาที่ชีวิตราชการของดิฉันจะไม่รุ่ง ไม่เพียงแต่ไม่รุ่งดิฉันยังถูกผู้บริหารกลั่นแกล้งสารพัด ด้วยการออกคำสั่งลงโทษโดยไม่ยึดระเบียบวินัยราชการ

มาถึงวันนี้ดิฉันถูกโรงเรียนออกคำสั่งลงโทษตัดเงินเดือน ไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนมาแล้ว 5 คำสั่ง โดยตั้งข้อกล่าวหาเดิมๆ ว่ากล่าวหาผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ สอบสวนดิฉันเสร็จไม่ถึง 2 สัปดาห์ สรุปรายงานผลการสอบสวนว่าดิฉันผิดจริง แล้วออกคำสั่งลงโทษทันที

โรงเรียนกล่าวหาพร้อมกับตั้งกรรมการสอบสวน และออกคำสั่งลงโทษใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือน โดยไม่ต้องยึดระเบียบวินัยราชการ โรงเรียนมักอ้างว่าตนเองมีอำนาจเต็ม 100% ดิฉันต้องกลายเป็นเหยื่อสนองอำนาจอย่างไม่เป็นธรรมของผู้บริหาร

ไม่นึกเลยว่าฉันต้องกลายเป็นเหยื่อ ให้ผู้บริหารบ้าอำนาจเหล่านี้เชือดครั้งแล้วครั้งเล่าถึง 5 คำสั่ง และคำสั่งที่ 6 กำลังจะตามมาอีก

ดิฉันกล้าประกาศเรียกตัวเองว่าเป็นครูที่ดี สามารถเป็นครูตัวอย่างให้กับครูทั้งประเทศได้ ประเมินการเรียนการสอนออกมา คะแนนเป็นที่หนึ่งของโรงเรียนเกือบทุกปี แต่ก็ถูกเปลี่ยนข้อมูลไปทุกครั้ง

ดิฉันไม่ยอมก้มหัวให้กับความเลวร้ายของสังคม แต่ดิฉันอยู่ในขอบเขตของตนเอง อย่างเช่นโรงเรียนให้ผู้ปกครองไปชำระค่าพัฒนาคุณภาพการศึกษา (ไม่มีคำว่าค่าเล่าเรียน) โดยจ่ายผ่านธนาคารเป็นเงิน 1,950 บาท ต่อมาโรงเรียนออกใบเสร็จให้นักเรียนเป็นเงิน 1,650 บาท

นักเรียนมาถามดิฉันว่า แม่ให้มาถามว่าจ่ายเงินกับธนาคารไป 1,950 บาท แต่ทำไมออกใบเสร็จให้นักเรียน 1,650 บาท ดิฉันตอบว่าไม่ทราบให้ไปถาม ผอ.เอาเอง

ต่อมามีผู้ปกครองโทรศัพท์เข้าไปในรายการร่วมด้วยช่วยกัน โรงเรียนออกใบเสร็จให้นักเรียนเพิ่มอีกคนละ 200 บาท นักเรียนบอกว่าเงินยังได้ไม่ครบ คนดีของผู้อำนวยการรีบไปประกาศกับนักเรียนหน้าเสาธงว่า ถ้าผู้ปกครองมีอะไรสงสัยให้มาคุยกับผู้อำนวยการ

และอีกหลายๆ เรื่อง ดิฉันต้องกลายเป็นผู้ต้องสงสัยโดยไม่ได้ทำอะไร (คนอย่างดิฉันเป็นคนจริงและคนกล้า ไม่ทำอะไรลับหลังหรือแทงหลังใคร)

จริงๆ แล้วเมื่อก่อนดิฉันเคยต่อสู้ ปกป้องผลประโยชน์ให้นักเรียนในที่ประชุมครู ถูกกลุ่มผู้บริหารและพรรคพวกต้อนดิฉัน รวมไปถึงไล่ดิฉันออกจากที่ประชุมก็โดนมาแล้ว ในที่สุดดิฉันเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรกับการต่อสู้กับคนที่หาความดีไม่ได้ จึงยุติบทบาทตัวเองและทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด

แต่โรงเรียนกลับอาฆาตแค้นที่ดิฉันเป็นที่รักของนักเรียน ผู้ปกครองให้ความไว้วางใจ จึงจงใจกลั่นแกล้งดิฉันสารพัดเรื่อง ดิฉันได้ทำหนังสือร้องเรียนไปที่กรมสามัญศึกษา (สพฐ.) แต่ไม่ได้รับการเหลียวแลช่วยเหลือแต่ประการใด

จนทนไม่ได้จึงไปหานักการเมืองท่านหนึ่ง เขาไม่ช่วยเหลืออะไรเลย แต่แนะนำให้ไปฟ้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ดิฉันก็ฟ้องไปที่ผู้ตรวจฯ ต่อมาผู้ตรวจให้ดิฉันชี้แจงกลับด้วยความที่ไม่มีความรู้ ดิฉันได้รับหนังสือเลยกำหนด 15 วันจึงไม่ได้ชี้แจงกลับ ผู้ตรวจฯ สั่งให้ยุติเรื่องทั้งหมด จึงเป็นที่มาของการออกคำสั่งลงโทษดิฉัน ดังรายละเอียดดังนี้

ปี พ.ศ.2548 ผู้บริหารได้ออกคำสั่งลงโทษดิฉัน 3 คำสั่ง ภายในเวลา 6 เดือนก่อนที่จะเกษียณอายุราชการไป โดยทำหนังสือแบบ สว 2 สว 3 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 (สร้างหลักฐานลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 ทั้งหมด 6 แห่ง)

ดิฉันรับหนังสือวันที่ 28 มีนาคม 2548 โรงเรียนออกคำสั่งที่ 34/2548 (คำสั่งที่ 1) ลงโทษให้ข้าพเจ้ารอการเลื่อนขั้นเงินเดือน ลงวันที่ 12 เมษายน 2548 (ขั้นเงินเดือนราชการปรับทุกวันที่ 1 เดือนเมษายน และตุลาคมของทุกปี)

ดิฉันได้ถามเขาว่า ออกคำสั่งให้ดิฉันรอการเลื่อนขั้นเงินเดือนด้วยเรื่องอะไร ดิฉันทำผิดอะไรหรือ หากดิฉันทำผิดโรงเรียนต้องตั้งข้อกล่าวหา และตั้งกรรมการสอบสวนดิฉันก่อนออกคำสั่งลงโทษ (ดิฉันถามวันที่ 2 พฤษภาคม 2548)

ผู้อำนวยการท่านนั้นตอบว่าต้องการสั่งสอนให้รู้สำนึก โดยอ้างคำสั่ง สพท.ที่ 75/2548 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 ตั้งข้อกล่าวหา 3 ข้อ 1.ใส่ร้ายผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ข้อ 2.ทำให้สังคมแตกความสามัคคี ข้อ 3.กระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา

โรงเรียนรีบออกคำสั่งที่ 61/2548 ลงโทษตัดเงินเดือนดิฉัน 10% เป็นเวลา 2 เดือน ดิฉันโต้แย้งว่าข้าราชการที่ทำผิดวินัย โรงเรียนมีอำนาจตัดเงินเดือนได้ 5% 1 เดือน โรงเรียนก็แก้ไขคำสั่ง 68/2548

ดิฉันทำหนังสืออุทธรณ์คัดค้านไปถึง สพฐ. ทุกอย่างเงียบสนิท

ต่อมาวันที่ 22 กันยายน 2548 โรงเรียนออกคำสั่งลงโทษไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนดิฉันโดยไม่แจ้งให้ดิฉันทราบ แล้วผู้บริหารก็เกษียณอายุราชการไป

ดิฉันเอาคำสั่งทั้ง 3 คำสั่งไปฟ้องศาลปกครอง ปรากฏว่าศาลปกครองยกฟ้องทั้งหมดทั้ง 3 คำสั่ง ดิฉันไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมาย ดิฉันใช้สามัญสำนึกคิดเอาเองว่า หลักฐานที่โรงเรียนร่วมกับ สพท.ออกเอกสารวันเดียวกันลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 ทั้งหมด 6 ครั้ง และเอกสารตัดเงินเดือนดิฉันลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2548 ทั้งหมด 4 แห่ง มันเป็นหลักฐานเท็จทั้งหมด

โรงเรียนไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนให้ดิฉัน ก็ไม่มีการแจ้งให้ดิฉันทราบก่อนว่าทำผิดอะไร แถมมีการเอาคำสั่ง สพท.277/48 มายัดไส้คำสั่งโรงเรียน ทำให้ดิฉันเข้าใจผิดฟ้องศาลปกครองไม่สำเร็จ ต้องไปอุทธรณ์ที่ศาลปกครองสูงสุด

โรงเรียนออกคำสั่งลงโทษดิฉันโดยไม่ยึดระเบียบใดๆ และที่น่าแปลกใจมากคือ โรงเรียนยกเลิกคำสั่งลงโทษดิฉัน ไม่มีการแจ้งให้ดิฉันทราบ แต่ทำเอกสารไปประกอบคดีหมายเลขดำที่ 136/48 คดีหมายเลขแดงที่ 50/2552 และคำสั่งโรงเรียน 107/2548 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2548

นายวิทยา รัตนอรุณ ผู้อำนวยการที่ลงโทษดิฉัน เกษียณอายุราชการวันที่ 30 กันยายน 2548 ทำเอกสารประกอบคดีไปที่ศาลปกครองวันที่ 7 พฤศจิกายน 2548 ไปประกอบคดีหมายเลขดำที่ 178/2548 เลขแดงที่ 84/2552 นายวิทยาใช้สิทธิ์อะไรไปทำหนังสือให้ศาลปกครองในเมื่อเกษียณอายุราชการไปแล้ว สุดท้ายศาลปกครองยกฟ้องหมดทั้ง 3 คดี

โรงเรียนเกิดความเหิมเกริมที่ศาลปกครองยกฟ้อง ดังนั้นในเดือนมิถุนายน 2552 โรงเรียนตั้งข้อกล่าวหาดิฉันเหมือนเดิมอีก คือกล่าวหาผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และทำร้ายผู้อื่น (จริงๆ แล้วดิฉันเป็นฝ่ายถูกทำร้ายร่างกาย ครูผู้เป็นแบบอย่างนั้นทะเลาะทำร้ายร่างกายกันเหมือนหมา ถ้าเห็นเด็กทะเลาะกันอย่าไปด่าเด็กเลย)

ผลการสอบสวนออกมาดิฉันผิดอีก ตัดเงินเดือนดิฉัน 5% เดือนตุลาคม 2552 ไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนให้ดิฉันโดยไม่แจ้งให้ดิฉันทราบ

และ ณ วันนี้ โรงเรียนออกคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนดิฉันด้วยข้อกล่าวหาเดิมอีก คือกล่าวหาผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ผู้อำนวยการคนนี้จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2553 มีตัวอย่างจากนายวิทยาแล้วว่าจะเล่นงานใครอย่างไรก็ได้ เกษียณอายุราชการไปใครฟ้องอะไรตนเองไม่ได้

แต่ครั้งนี้ดิฉันจะไม่มีวันให้พวกข้าราชการชั่วอาศัยตำแหน่งหน้าที่มาเล่นงานดิฉันได้อีก ดิฉันเองก็กำลังจะเกษียณอายุราชการในปีหน้าเช่นเดียวกัน ดิฉันคือข้าในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่ขี้ข้าใคร

เรื่องทั้งหมดนี้ดิฉันได้นำไปร้องทุกข์ กลับไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาอีกครั้งหนึ่ง (นายวิทยา รัตนอรุณ) และที่ศูนย์ร้องทุกข์นายกรัฐมนตรี (นางสาวผ่องศรี เรืองดิษฐ์) ในเรื่องใช้อำนาจมิชอบ ทั้ง 2 หน่วยงานมีหนังสือถึงดิฉันแจ้งว่า ได้ส่งเรื่องกลับไปที่ สพฐ.เพื่อตรวจสอบใหม่

ดิฉันตามเรื่องจนรู้สึกเหนื่อย และดิฉันจะไม่ยอมเกษียณอายุราชการไปอย่างคนมีมลทินเด็ดขาด และจะไม่ยอมให้คนชั่วครองเมือง

หากบรรณาธิการต้องการเห็นเอกสาร รวมทั้งแผ่นบันทึกเสียงที่ดิฉันแอบบันทึกการสอบสวน และเขาด่าประณามดิฉัน ดิฉันพร้อมที่จะส่งไปให้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าดิฉันเล่าเรื่องจริงทั้งหมด

ดิฉันต้องการให้สังคมรับรู้ และอย่าอยู่เฉยหรือเข้าข้างผู้มีอำนาจ โดยทำร้ายเพื่อนร่วมงานเหมือนสังคมครูในโรงเรียนของดิฉัน ครูทุกคนรู้ความสกปรกหลายๆ อย่างแต่ก็ปิดปากเงียบ ไม่เคยมีใครกล้าพูดกล้าถามว่าเงินที่รับบริจาคเอาไปใช้อะไร

ดิฉันขอให้ท่านโปรดให้โอกาสดิฉันตีแผ่ความเลวร้ายของสังคม เพื่อสังคมไทยของเราคงจะดีขึ้นสักวัน อย่าอยู่กันแต่เปลือกทำร้ายเด็ก หากินกับเด็กไปวันๆ เด็กยากจนยังต้องถูกพวกโรงเรียนขูดรีด ไหนว่าเรียนฟรี 8 ชั่วโมงนักเรียนมาโรงเรียนไม่ได้ความรู้ ได้ความรู้เพียง 2 ชั่วโมงที่โรงเรียนเปิดสอนพิเศษเอง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าสถานที่ ค่าโฆษณาไม่ต้องจ่าย

ใครเคยกล่าวว่าเด็กคืออนาคตของชาติ

ขอแสดงความนับถือ

นางสาวศิรารัตน์ หงษ์ทองกิจเสรี

ตอบ ครูศิรารัตน์

ผมลงจดหมายร้องทุกข์ของคุณครู เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้ตรวจสอบ และหวังว่าคุณชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ คงจะช่วยให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ได้

สามวา สองศอก
http://www.thaipost.net/news/150310/19331

ขอบคุณครับ เพื่อนเหยง จะโทรไปให้กำลังใจครูศิรารัตน์ครับ
      บันทึกการเข้า

  หน้า: 1 [2]  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><