Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 07 เมษายน 2553, 19:38:24 » |
|
“เครือข่ายจุฬาฯ” สุดทนม็อบแดง ร่อนอีเมลปลุกพลังเงียบแสดงพลัง 9 เม.ย.
ผศ.นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายจุฬาฯ เชิดชูคุณธรรมนำประชาธิปไตย (จคป.) และผู้ประสานงานเครือข่ายพลังเงียบ กล่าวว่า จากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ตนทราบดีว่า ทุกคนคงมีความอึดอัดมาก และเกิดความเดือดร้อนกันอย่างถ้วนหน้า จึงประสงค์ที่จะรวมคนที่มีแนวคิดเดียวกันอย่างเป็นกลุ่มก้อน เพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านการยุบสภา และไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่สร้างความเดือดร้อนต่างๆ ให้กับประชาชน “การเริ่มต้นครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวสืบเนื่องมาจากวันที่ 2 เมษายน จากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อสีชมพู ซึ่งเราก็ได้เจอกันแล้ว พูดคุยแสดงความคิดเห็นต่อกัน ซึ่งประจวบกับที่ผมก็กำลังรวบรวมรายชื่อคัดค้านการยุบสภาอยู่พอดี และก็ได้กลุ่มของอาจารย์ ตรีดาว อภัยวงศ์ มาช่วยกัน เลยตั้งใจจะจัดเป็นเวทีในการออกแสดงความคิดเห็นที่เป็นภาคประชาชน และก็เริ่มการติดต่อเพื่อชักชวนพลังเงียบที่สนใจโดยการส่งอีเมล และมันก็เป็นลูกโซ่ออกไป ให้คนอ่านที่สนใจได้ลองมาคุยกันถึงความเดือดร้อนจากการชุมนุม ความไม่เห็นด้วย ตลอดจนความอึดอัดต่างๆ ที่น่าจะปรับเปลี่ยนเป็นทิศทางแก้ไขโดยเราจะจัดเตรียมเวทีเครื่องเสียงไว้ให้ได้แสดงเสียงกันอย่างเต็มที่ ส่วนกระบวนการต่อไปก็อาจจะเป็นการรวบรวมเสียงให้เป็นกลุ่มก้อน หรืออาจะแถลงการณ์ความต้องการต่อไป” ทั้งนี้ เนื้อหาในอีเมลพลังเงียบฉบับดังกล่าวมีดังนี้ พลังเงียบทั้งหลาย ท่านกำลังมีอาการ อึดอัด เครียด วิตก กินไม่ได้ นอนไม่หลับมองไม่เห็นอนาคตของชาติ ขอเชิญมารวมตัวกันในงานชุมนุม “เราจะไม่เงียบอีกต่อไป ณ สวนจตุจักร ในวันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2553 เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป (สีอะไรก็ได้ แต่งด สีแดง)"
ขอขอบคุณ ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 เมษายน 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000048349
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 07 เมษายน 2553, 21:14:40 » |
|
สธ.หวั่นโรคสมัยใหม่คุกคามคนเมือง ชู 7 เมษา วันอนามัยโลก “พลิกชีวิต-พัฒนาเมือง”
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงสาธารณสุข จัดกิจกรรมเนื่องในวันอนามัยโลก ปี 2553 ตั้งเป้าพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเมืองรองรับการขยายตัวของประชากรในเขตเมือง พร้อมหวังลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคสมัยใหม่ที่เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง วันนี้ (7 เม.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยในพิธีเปิด การจัดกิจกรรมเนื่องในวันอนามัยโลก ปี 2553 ณ ห้องประชุมไพจิตร ปวะบุตร อาคาร 7 ชั้น 9 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่า
ทุกวันที่ 7 เมษายนของทุกปี องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้เป็น “วันอนามัยโลก” และในปี 2553 นี้ ประเด็นที่ได้รับความสนใจและถูกกำหนดเป็นเนื้อหาสำคัญของวันอนามัยโลกคือเรื่องความเป็นเมืองกับสุขภาพ โดยกำหนดการรณรงค์ภายใต้หัวข้อ
“สุขภาพเขตเมืองเป็นเรื่องสำคัญ” (Urban Health Matters)
เพราะปัจจุบันความเป็นเมืองกำลังขยายตัวไปทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันพบว่า
ประชากรทั่วโลกที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองมีมากกว่าร้อยละ 50 หรือประมาณ 3,300 ล้านคน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 67 หรือประมาณ 5,000 ล้านคน ในปี 2573
โดยประชากรโลกประมาณ 2 ใน 3 อยู่ในเขตเมือง และในจำนวนนี้มีแนวโน้มอยู่ในชุมชนแออัดร้อยละ 28 โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ความเป็นเมืองมีการขยายตัวมากขึ้นตามลำดับ และไม่ได้จำกัดเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเมืองปริมณฑล และเทศบาลเมืองต่างๆ เพราะจากข้อมูลปี พ.ศ.2552 ประเทศไทย มีประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองประมาณร้อยละ 36 ของประชากรทั้งประเทศหรือประมาณ 22 ล้านคน และคาดว่าในปี 2563 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า จะเพิ่มเป็นร้อยละ 38 หรือประมาณ 25 ล้านคน นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า การเคลื่อนย้ายประชากรจากชนบทสู่เมืองทั้งเพื่อการประกอบอาชีพและการศึกษาพบว่ายังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อความพร้อมด้านการจัดหาและให้บริการสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก ขั้นพื้นฐาน อีกทั้งก่อให้เกิดปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมและปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และคนยากจน เสี่ยงต่อการเกิดโรคสมัยใหม่ เพราะความเป็นเมืองทำให้ประชาชนมีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ขาดการออกกำลังกาย บริโภคอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ก่อเกิดโรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น รวมทั้งเกิดปัญหาสังคม เช่น อาชญากรรม และยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายที่จะส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชนทุกกลุ่มวัย ด้วยการเร่งพัฒนายุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาพประชาชนเขตเมือง ทั้งในด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมเขตเมือง การป้องกันและควบคุมโรค การพัฒนาคุณภาพระบบบริการสาธารณสุขทุกระดับเพื่อลดช่องว่างและความไม่เป็นธรรมด้านสุขภาพของประชาชน โดยกำหนดให้วันที่ 7 เมษายน วันอนามัยโลก เป็นวันเริ่มต้นของการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเมือง “พร้อมทั้งจัดทำโครงการ 1,000 เมือง 1,000 ชีวิต พิทักษ์คุณภาพชีวิตคนเมือง เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการจัดการเมืองของเทศบาลต่าง ๆ เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยการสรรหาเมืองดีเด่นเข้าร่วมกิจกรรม
โดยความเป็นเมืองดีเด่นต้องครอบคลุมใน 6 มิติ ได้แก่
ด้านเศรษฐกิจ ด้านวัฒนธรรม ด้านการศึกษา ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสาธารณสุข และ ด้านสังคม
ซึ่งขณะนี้มีเทศบาลเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 51 เมือง และกำลังเตรียมการเข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มเติมจำนวน 16 เมือง รวม 67 เมือง และมีบุคคลตัวอย่างที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาคุณภาพชีวิตจนที่ประจักษ์แล้วจำนวน 9 คน ที่จะร่วมรณรงค์และดำเนินการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมยกระดับสภาพแวดล้อมชุมชนแออัดเขตเมือง และพัฒนาภูมิทัศน์และพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองเพื่อการพักผ่อนและการออกกำลังกาย เพื่อให้ประชาชนในเขตเมืองอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สะอาด ปลอดภัย เอื้อต่อการมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม
ทั้งนี้ เมืองที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับประกาศเกียรติคุณเป็นเมืองต้นแบบของโลกในที่ประชุมระดับโลก (Global Forum) ณ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนพฤศจิกายน 2553 ต่อไป” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในที่สุด
ขอขอบคุณ ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 เมษายน 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000048554
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 08 เมษายน 2553, 14:45:54 » |
|
พายาไปหาหมอ ข้อที่คนไข้ควรรู้ ผศ.ดร.ภูรี อนันตโชติ จั่วหัวแบบนี้ หลายคนคงอุทาน “อะไรฟะ พายาไปหาหมอ ? ? ? ” พร้อมกับหน้างงๆ แกมสงสัย ว่าทำไมต้องพา “ยา” ไปหาหมอ เพราะปกติมีแต่เมื่อป่วยแล้วต้องพา “ตัวเอง” ไปหาหมอเพื่อจะไปเอา “ยา” งานนี้ ผศ.ดร.ภูรี อนันตโชติ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะกรรมการมูลนิธิเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบยา (วพย.) มีคำตอบมาให้หายสงสัยกัน “ส่วนใหญ่พฤติกรรมคนไข้โดยมากแล้ว คือ เมื่อเกิดอาการป่วย จะมาพบแพทย์แล้วก็รับยากลับบ้าน พอกินยาไปได้สักพักจนอาการป่วยหาย คนไข้มักเลิกกินยา ยาที่ได้รับไปก็จะเหลืออยู่ในบ้าน เป็นแบบนี้หลายๆ หน ยาก็จะเหลือเยอะ กรณีแรกที่เราจะได้หากเราเอายาที่เรามีไปพบแพทย์ หรือจำชื่อยาว่าเรามียาอะไรบ้าง แพทย์ก็จะไม่ต้องจ่ายยาที่เรามี เราก็ไม่ต้องจ่ายเงินค่ายา หรือถ้าเป็นประกันสังคมหรือบัตรทอง ประเทศก็สามารถประหยัดงบประมาณเรื่องยาไปได้มาก” ประการสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยของคนไข้โดยตรงที่อาจารย์เภสัชคนเก่งรายนี้ให้ความกระจ่างก็คือ กรณีของคนไข้บางคน โดยเฉพาะคนไข้สูงอายุ ที่ป่วยด้วยโรคมากกว่า 1 โรค อาจจำเป็นต้องไปพบแพทย์มากกว่า 1 ราย มากกว่า 1 โรงพยาบาล และได้ยารักษาโรคมาหลายชนิด “ยาบางชนิดหากกินคู่กัน ฤทธิ์ยาจะขัดแย้งกันเอง กินคู่กันไม่ได้ ในขณะที่ยาบางชนิดหากกินคู่กันจะเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกัน หากกินคู่กันคนไข้อาจจะได้รับฤทธิ์ของยามากเกินจำเป็น เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด กับยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs (Non Steroidal Anti-inflamatory Drugs) หรืออาจทำงานแล้วลดประสิทธิภาพของยาตัวใดตัวหนึ่งให้ลดลง เช่นรับประทานยาคุมกำเนิด และยาปฏิชีวนะร่วมกัน ทำให้ยาคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพลดลง และอาจจะตั้งครรภ์ได้ ผศ.ดร.ภูรี อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า ในกรณีที่คนไข้เปลี่ยนหมอ ในบางครั้งคนไข้จำชื่อยาไม่ได้หรือเรียกชื่อยาผิดพลาดไม่ถูกต้อง ก็อาจทำให้แพทย์และเภสัชกรไม่ทราบว่าคนไข้ใช้ยาอะไรอยู่ก่อน และยากต่อการวางแผนการรักษาและให้ยา ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความต่อเนื่องกับแผนการรักษาเดิม
“คือแพทย์เองก็ไม่มีเวลาซักประวัติคนไข้มากนัก อาจจะด้วยเพราะเวลาน้อย ตรวจคนไข้ตลอดทั้งวัน เวลาเฉลี่ยในการตรวจต่อคนคงมีไม่มากนัก แล้วบางครั้งคนไข้ก็อธิบายไม่เก่ง ไม่กล้าคุยกับแพทย์ การเอายาที่กินอยู่เป็นประจำ หรือยาที่ได้มาจากการรักษาก่อนหน้านี้ไปด้วย จะช่วยในการวินิจฉัยและเลือกแนวทางการรักษารวมถึงการตัดสินใจให้ยาของแพทย์ได้มากขึ้นในเชิงของข้อมูล หรือหากมียาเยอะมาก ก็สามารถใช้วิธีจดลิสต์ชื่อยามาให้แพทย์ดูก็ได้ แต่ต้องจดให้ละเอียดและถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นชื่อยารวมถึงปริมาณขนาดของยานั้น เพราะยาแต่ละชนิดก็มีปริมาณขนาดไม่เท่ากันเพื่อให้แพทย์เลือกสั่งจ่ายตามอาการของคนไข้ที่มากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป” กรรมการมูลนิธิ วพย.รายนี้ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า การให้ข้อมูลเรื่องยาแก่แพทย์ผู้รักษาหรือ “ปฏับัติการพายาไปหาหมอ” นั้นสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่ง แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำกันเพราะไม่ค่อยตระหนัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งนี้คือความปลอดภัยและประโยชน์ของคนไข้โดยตรง เพราะในทางทฤษฎีแล้ว การกินยาคู่ที่ไม่ควรกินด้วยกัน ถ้ากินติดต่อกันนานๆ ก็มีสิทธิ์อันตรายถึงชีวิตได้ “แม้ในทางปฏิบัติการกินยาคู่ที่ออกฤทธิ์ซึ่งกันและกันเมื่อคนไข้รู้สึกผิดปกติหรือไม่สบายตัวด้วยอาการข้างเคียงต่างๆ ก็จะมาพบแพทย์เพื่อให้แพทย์เปลี่ยนยาให้ แต่อย่างไรก็ตาม การให้ข้อมูลแก่แพทย์ให้มากที่สุดก็เป็นประโยชน์และสวัสดิภาพของคนไข้โดยตรงที่ควรใส่ใจ
ขอขอบคุณ ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 เมษายน 2553
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000048612
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 08 เมษายน 2553, 22:20:23 » |
|
เครือข่ายจุฬาฯ ยกเลิกชุมนุม 9 เม.ย.
วันนี้ (8 เม.ย.) ผศ.นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายจุฬาฯ กล่าวว่า เดิมเครือข่ายจุฬาฯ จะนัดชุมนุม “เราจะไม่เงียบอีกต่อไป” ณ สวนจตุจักร ในวันศุกร์ที่ 9 เม.ย.2553 เวลา 16.00 น. แต่เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และไม่อยากให้กลุ่มคนเสื้อแดงใช้เป็นข้ออ้างว่า รัฐบาลปล่อยให้คนกลุ่มอื่นมาชุมนุม ดังนั้น เครือข่ายจุฬาฯ ยกเลิกการชุมนุมดังกล่าว.
ขอขอบคุณ น.ส.พ.เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี ที่ 08 เมษายน 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=8&contentID=58951
นำมาบอกพวกเราว่ายกเลิกชุมนุมแล้ว หลังประกาศภาวะฉุกเฉินร้ายแรง แล้ว จะนำความสันติ หันหน้าเข้ามาคุยกัน เพื่อให้ได้ชนะ ชนะ ได้ทุกๆ ฝ่าย
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 09 เมษายน 2553, 16:12:14 » |
|
เหลืองมาแล้ว พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)และคณะ ร่วมกันกดดันให้รัฐบาลดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับกลุ่มเสื้อแดง เพราะถือเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมายและส่อเค้านำไปสู่ความรุนแรง ขอขอบคุณ น.ส.พ.แนวหน้า วันศุกร์ ที่ 9/4/2010 ที่เอื้อเฟื้อข่าว http://www.naewna.com/news.asp?ID=206702
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 09 เมษายน 2553, 21:40:44 » |
|
"จุรินทร์"เร่งยกสถานีอนามัย9.7พันแห่งเป็น รพ.สต.คุ้มครองสุขภาพ ของประชาชนในหมู่บ้าน
พณฯ ท่าน จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.)ดำเนินการจัดทำแผนเร่งรัดในการยกระดับสถานีอนามัย (สอ.) 9,770 แห่ง เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยจะประสานสำนักงบประมาณเพื่อของบประมาณในส่วนของ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟู และเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 เพิ่มเติมอีก 8,200 ล้านบาท เพื่อใช้ปรับปรุงกายภาพของ สอ. พัฒนาบุคลากรและความพร้อมในส่วนอื่นๆ
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า การยกระดับแบ่ง สอ.เป็น 2 รูปแบบ ได้แก่
1.รพ.สต.เดี่ยว มี 2,800 แห่ง จะมีบุคลากรหลัก 4 ตำแหน่ง คือ เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน นักวิชาการสาธารณสุขชุมชน แพทย์หรือพยาบาลเวชปฏิบัติหรือพยาบาลวิชาชีพ และสหวิชาชีพ วิชาชีพใดวิชาชีพหนึ่ง เช่น เภสัชกร เป็นต้น และ
2.รพ.สต.เครือข่าย ซึ่ง 1 เครือข่ายจะประกอบด้วย รพ.สต. 2-3 แห่ง รวม 2,700 เครือข่าย ภายใน รพ.สต.จะมีบุคลากรเพิ่มจาก 4 ตำแหน่งแรกอีก 3 ตำแหน่ง เป็นสหวิชาชีพต่างๆ ส่วน รพ.สต.ที่นำร่องในปี 2552 ทั้ง 1,000 แห่ง อยู่ระหว่างการประเมินผล
“กรณีรถพยาบาล 829 คัน ที่เดิมจะใช้งบ พ.ร.ก.ที่อนุมัติ 1,400 ล้านบาทในการจัดซื้อใช้ใน รพ.สต.นั้น
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.กำลังดำเนินการทบทวนว่าควรจะยกเลิกหรือไม่” นายจุรินทร์กล่าว
ด้าน นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัด สธ. กล่าวว่า งบไทยเข้มแข็งในส่วนของ พ.ร.ก.ที่จะขอเพิ่มจะใช้ยกระดับ สอ.เป็น รพ.สต.ในปี 2553 แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
1.สอ.ที่รับผิดชอบประชากรต่ำกว่า 3,000 คน จัดสรรแห่งละ 5 แสนบาท มี 2,800 แห่ง
2.รับผิดชอบ 3,001-7,000 คน แห่งละ 7 แสนบาท มี 5,470 แห่ง และ
3.มากกว่า 7,000 คน แห่งละ 9 แสนบาท มี 1,500 แห่ง และ
4.สอ.ที่เป็นอาคารชั้นเดียวและก่อสร้างใหม่ 400 แห่ง จัดสรรแห่งละ 4,050,000 บาท
อนึ่งก่อนหน้านี้มีการจัดสรรงบประมาณในส่วนของ พ.ร.ก.เพื่อปรับปรุง สอ.เป็น รพ.สต. เพียง 2,000 แห่ง แห่งละ 1.35 ล้านบาท จาก สอ.ทั้งหมด 9,770 แห่ง
ขอขอบคุณ น.ส.พ.คมชัดลึก วันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2553
http://www.komchadluek.net/detail/20100405/54932/%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A29.7%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%9E.%E0%B8%AA%E0%B8%95.%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A0%E0%B8%84%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99.html
สถานพยาบาลใกล้บ้าน ที่่มีคุณภาพ เข้าถึงง่าย เป็นไปตามตัวชี้วัดตัวที่ 3 และ 4 ของ การสาธารณสุขมูลฐาน ที่จะทำให้ประชาชนสุขภาพดี ดูแรื่อง สาธาณสุขมูลฐาน ที่ประเทศสมาชิกของ องค์การอนามัย ร่วมกันคิด ให้เกิดสุขภาพดีถ้วนหน้าของชาวโลก ตั้งแต่ปี 2529 ผ่านมา ปี 2553 เป็นเวลา 24 ปี มาแล้ว แต่ตัวชี้วัด 4 ตัวชี้วัด ก็ยังไม่สำเร็จ ข่าวที่นำมาลงนี้ มีนโยบายที่จะให้ สถานีอนามัยที่มีอยู่ทุกตำบลแล้ว พัฒนาเป็น ร.พ.สร้างเสริมสุขภาพตำบล จะทำให้สุขภาพดีถ้วนหน้าของพลโลก ในประเทศไทย ใกล้เป็นจริงได้ ดู เพิ่มเติมได้ที่
http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3394.0.html
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 11 เมษายน 2553, 08:14:21 » |
|
พณฯ ท่่าน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์พิเศษ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ จำเป็นต้องทำเพื่อรักษากฎหมาย ไม่เช่นนั้นต่างชาติจะมองว่าประเทศอ่อนแอ ยันต้องพิสูจน์ผลการเสียชีวิตด้วยความโปร่งใสเป็นธรรม โดยพร้อมอยู่ทำหน้าที่ต่อเพื่อรักษาบ้านเมืองให้สงบ...
เมื่อเวลา 23.45 น.วันที่ (10 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์พิเศษผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ โดยกล่าวว่า
ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ในเหตุการณ์ เมื่อช่วงค่ำของวันนี้ นับตั้งแต่มีปัญหาเรื่องการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ทางการเมืองที่มีบุคคลเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในประเทศและมีความเห็นแตกต่างอย่างรุนแรง
โดยรัฐบาลพยายามบริหารสถานการณ์โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศโดยเฉพาะการรักษาระบบและกฎหมาย ซึ่งเห็นว่าตลอดระยะเวลาการชุมนุม รัฐบาลไม่เคยปฏิเสธข้อรียกร้องของผู้ชุมนุมเลยแต่ประสงค์เพื่อการพูดคุยโดยใช้เหตุและผลเพื่อหาข้อยุติกันทุกฝ่าย เป็นครั้งแรกที่นายกฯมาเจรจากับแกนนำเป็นระยะเวลาถึง 2 วัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในที่สุดการเจรจาก็ไม่บรรลุผล รวมทั้งการชุมนุมก็นำไปสู่การละเมิดกฎหมาย เกินกว่าที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองหรือรองรับได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นมาโดยตลอดคือในด้านหนึ่งผู้ชุมนุมพยายามยกระดับการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ อีกด้านสังคมอยากให้รัฐบาลพยายามบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุม แม้ว่าตลอดระยะเวลารัฐบาลใช้วิธีอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด ถูกตำหนิว่าอ่อนแอไม่บังคับใช้กฎหมายโดยเฉพาะกับกลุ่มที่ได้รับความเดือนร้อนที่ต้องการให้การชุมนุมยุติลง เพราะหลายฝ่ายต้องการให้การชุมนุมยุติลง เนื่องจากมีผู้พยายามพร้อมใช้ความรุนแรง และก่อให้เกิดวินาศกรรมหลายครั้ง
“สถานการณ์ใน 2- 3 วันที่ผ่าน ทำให้รัฐบาลไม่มีทางเลือก จึงต้องแสดงแดงออกด้วยการบังคับใช้กฎหมาย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของผู้ชุมนุมกระทบกระเทือนต่อความเชื่อมั่นว่า ของประชาชนทั่วไปว่ากฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวกระทบกับสถาบันที่สำคัญในการปกป้องอธิปไตยและสถาบันหลักของชาติ ถ้ารัฐบาลไม่ดำเนินการใดเลยจะสะท้อนความอ่อนแอ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุผลนี้ จึงต้องแสดงออกการบังคับใช้กฎหมาย โดยเลือกขอพื้นที่บางส่วนเพื่อคืนกับประชาชนทั่วไป รัฐจึงต้องแสดงออกด้วยการบังคับใช้ กฎหมาย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด ที่ชัดเจน คือ โดยเฉพาะการกำหนดแนวทางที่ใช้จะกระสุนจริง คือ มีสองกรณีคือยิงขึ้นฟ้าและเจ้าหน้าที่ปกป้องตัวเองจากอันตรายอย่างจวนตัว โดยตลอดเวลาช่วงบ่ายจนค่ำ
จากข่าวสารพบว่า การชุมนุมและการพยายามขอคืนพื้นที่ประสบปัญหาอุปสรรคต่างๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าพบภาพของอาวุธ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการใช้อาวุธ เอ็ม 79 ซึ่งทำให้ทหารเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตที่เป็นพลเรือนอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะต้องการทำการพิสูจน์ว่าเสียชีวิตที่ไหน อย่างไร เมื่อไร สาเหตุใด การสูญเสีย ทั้งนี้ขอร้องว่าขณะนี้ไม่ควรหยิบยกประเด็นโดยกล่าวหาว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นฝีมือของฝ่ายใด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า กรณีความสูญเสียที่เกิดขึ้นต้องดำเนินการพิสูจน์เพื่อให้ความจริงเกิดขึ้นในสังคม ตนและรัฐบาลยังมีหน้าที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ต่อไปและพยายามทำทุกทาง ที่จะให้บ้านเมืองสงบและอยู่ในความถูกต้อง ขอให้คำมั่นว่าการดำเนินการของรัฐบาลจะตรงไปตรงมา โปร่งใส เป็นธรรม คิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ประชาชนสูงสุด ประชาชนเป็นหลัก จะไม่ยึดผลประโยชน์ของตัวเองแม้แต่น้อยนิด
ขอขอบคุณ น.ส.พ.ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ ที่ 11 เมษายน 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.thairath.co.th/content/pol/76137
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: 12 เมษายน 2553, 08:10:41 » |
|
นายฮานส์ แวน บาเลน ประธานลิเบอรัลอินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งมี 107 พรรคเสรีนิยมประชาธิปไตยเข้าร่วมเป็นสมาชิกทั่วโลก ได้แถลงถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า
รัฐบาลไทยจะต้องตัดสินใจระหว่างหลักนิติธรรมกับการเมืองบนท้องถนน ซึ่งเป็นการตัดสินใจระหว่างระบอบประชาธิปไตยในรัฐสภากับการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นประชาธิปไตยบนท้องถนน ซึ่งวันนี้แม้ตนจะไม่ได้พบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯแต่ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกันทางโทรศัพท์ ซึ่งทางเราก็เป็นห่วงและติดตามสถานการณ์การเมืองไทยอย่างใกล้ชิด และอยากให้เมืองไทยสงบไม่แตกแยก ไม่แยกสีเสื้อ และ
สนับสนุนให้รัฐบาลดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้การที่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงมาบุกล้อมรัฐสภานั้น สิทธิในการแสดงออกถือเป็นสิทธิของประชาชน แต่ต้องไม่ละเมิด คุกคาม รุนแรงกับผู้อื่น ตนมีความกังวลกับการชุมนุมที่เกิดขึ้นที่ไกลเกินกว่ารัฐธรรมนูญจะกำหนด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่มี การแถลงข่าวดังกล่าวเป็นช่วงที่กลุ่มเสื้อแดงกำลังบุกเข้ามายังภายในรัฐสภา ทำให้การแถลงข่าวต้องหยุดลงกลางคัน และต่างรีบแยกย้ายกันออกจากห้องแถลงข่าวทันที
ขอขอบคุณ น.ส.พ.เดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 12 เม.ย.2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=627&contentID=58740
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
นำข่่าว องค์กรระดับโลก ลิเบอรัลอินเตอร์เนชั่นแนล มีประเทศสมาชิก 107 พรรคเสรีนิยมประชาธิปไตยเข้าร่วมเป็นสมาชิกทั่วโลก เสนอให้
รัฐบาลไทยจะต้องตัดสินใจระหว่างหลักนิติธรรมกับการเมืองบนท้องถนน ซึ่งเป็นการตัดสินใจระหว่างระบอบประชาธิปไตยในรัฐสภา กับ การเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นประชาธิปไตยบนท้องถนน
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: 12 เมษายน 2553, 15:48:38 » |
|
มาร์คชี้"ก่อการร้าย"ป่วน 10 เม.ย. หวังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ขอขอบคุณ น.ส.พ.ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJM01UQTFOemN6TlE9PQ==
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า ขณะนี้เริ่มเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีบุคคลจำนวนหนึ่งซึ่งถือเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งอาศัยผู้ชุมนุมบริสุทธิ์มาเรียกร้องประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือก่อความไม่สงบในบ้านเมืองหวังผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปัญหานี้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ จนถึงศอฉ.กำหนดที่จะต้องดำเนินการต่อไป โดยมุ่งหมายเพื่อแยกแยะกลุ่มก่อการร้ายออกจากผู้บริสุทธิ์
จึงขอเรียกร้องประชาชนว่าอย่าได้เข้าร่วมกระบวนการนี้ เมื่อแยกแยะชัดเจนก็จะกำหนดมาตรการต่อไปเพื่อแก้ไขสถานการณ์ไม่สงบ ส่วนปัญหาข้อเรียกร้องเรื่องความไม่ยุติธรรม ปัญหาประชาธิปไตยต้องแก้โดยฝ่ายการเมือง ทั้งนี้ตนและพรรคร่วมได้หารืออย่างต่อเนื่องนำข้อเสนอที่ใช้ในการเจรจากับแกนนำนปช.มาเร่งรัดปรับให้เป็นทางออกแก้ปัญหาการเมืองต่อไป การดำเนินการ 2 ส่วนนี้คือจำเป็นต้องแยกแยะให้ชัดเจนกับกลุ่มบริสุทธิ์และกลุ่มผู้ก่อการร้าย และการแก้ปัญหาการเมืองต้องทำอย่างคู่ขนาน ซึ่งขณะนี้หน่วยงานต่างๆ พรรคร่วมดำเนินอย่างเป็นเอกภาพเพื่อมุ่งไปสู่การแก้ปัญหาไม่สงบทั้งหมด
เหตุการณ์ปัญหาในวันที่ 10 เม.ย. จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและต้องมีผู้แสดงความรับผิดชอบ ซึ่งรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการประมวลเหตุการณ์เหมือนช่วงหลัง เม.ย. ปีที่แล้ว ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมให้ความร่วมมือกับองค์กรที่มีหน้าที่โดยตรงและคณะกรรมการที่เป็นอิสระอย่างเช่นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ยืนยันว่าการเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นจะต้องทำอย่างต่อเนื่องทั้งฝ่ายผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ รวมถึงปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจด้วย ซึ่งรัฐบาลจะเร่งเดินหน้าสะสางอย่างเร็วที่สุด
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
นำเหตุการณ์ประวัติศาสตร์มาบันทึกไว้และร่วมเป็นกำลังใจให้ท่านนายกฯพาชาติผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: 13 เมษายน 2553, 08:25:16 » |
|
มุกใหม่แบงค์ 1,000 ปลอม
วันก่อนไปกินข้าวกับเพื่อนที่ร้านเล็ก ๆ ริมถนนใน จ.ปราจีนบุรี ไปกินกัน 5 คน กินเสร็จก็สั่งเก็บเงิน ยอมรวม 280 บาท เพื่อนผมจ่ายแบ็งค์ 1,000 บาทให้ไป แม่ค้าก็รับไปแล้วเดินไปจะทอนเงิน
สักพักเดินกลับมาโวยวายว่า แบ็งค์ 1,000 บาท ที่จ่ายให้ไปนั้น เป็น " แบงค์ปลอม " แม่ค้าตะโกนว่าโต๊ะผมเสียงดังมาก แล้ววางแบงค์ปลอม 1,000 บาท ลงบนโต๊ะ ตอนนั้นคนในร้านมีอยู่ 3 - 4 โต๊ะ ก็เริ่มมอง ๆ มาที่โต๊ะผม
เพื่อนผมเพิ่งจะกดเงินมาจากตู้เอทีเอ็ม เป็นแบงค์ใหม่หมด เลขในแบงค์ก็เรียงกัน แต่ใบที่แม่ค้าเอามาวางคืนให้เป็นแบงค์เก่า ก็เลยเถียงกันไปเถียงกันมา แม่ค้าก็ยังไม่ยอม เพื่อนผมมันจึงแกล้งบอกว่า จำเลขในแบงค์ได้ แม่ค้าก็ไม่ยอม
พอดีมีสายตรวจมาซื้อของที่ร้านข้าง ๆ ก็เลยเดินไปเรียกตำรวจมา บอกให้ช่วยค้นตัวแม่ค้า ดูว่า มีแบงค์ 1,000 บาท ใบอื่นหรือไม่ แม่ค้าไม่ยอมให้ค้นตัว แต่เดินไปหยิบทอนมาให้ 800 บาท ( ทอนเกิน ) แล้วบอกตำรวจว่า ไม่มีอะไร ( ตำรวจไม่ยอมโวยวาย )
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงนะครับ อยากจะเตือนทุกคนให้ระมัดระวังมุกใหม่นี้ด้วย จ่ายแบงค์ 1,000 บาท จริง แต่ถูกหาว่าเป็นแบงค์ปลอม ทางที่ดีก่อนจ่ายแบงค์ 1,000 บาท ควรจำหมายเลขในแบงค์ไว้บ้างนะครับ เพื่อความปลอดภัย
ช่วยส่งต่อๆกันให้มาก ๆ นะครับ
ได้มาจากอีเมลล์นำมาบอกพวกเรา ให้ระวังด้วย จำเลขหมายแบงค์ 1,000 ที่จ่ายไปด้วยเพื่อกันเผื่อมีปัญหา
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #45 เมื่อ: 13 เมษายน 2553, 10:25:50 » |
|
"มหาประชาชนเท่านั้นที่"ชาติต้องการ"
ท่านผู้อ่านที่มีความเจ็บปวดต่อสถานการณ์ "ไทยทรยศแผ่นดินไทย" กันเองทั้งหลาย เวลานี้ ไม่จำเป็นต้องถามกันแล้วว่า "อะไรเกิดขึ้นต่อชาติบ้านเมืองอันเป็นที่รักของเรา" และก็ไม่ต้องถามด้วยว่า
" เราควรจะทำกันอย่างไร" ณ ขณะนี้ ท่านยังจำประโยคอมตะประโยคหนึ่งได้ใช่ไหมที่ว่า " พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ" ผมค้นพบแล้วว่า ผู้ที่ประเทศชาติต้องการแท้จริง และตลอดกาล ไม่ใช่ใคร ที่ไหน คือ
ประชาชนมือเปล่า เราๆ ท่านๆ ทั้งหลายนี่เอง
จงกุมสติกันให้มั่น อย่าถาม-อย่าโทษใครทั้งนั้น ทั้งหลายทั้งปวงมันพิสูจน์ด้วยตัวมันเองชัดแจ้งแล้วว่า กลียุคบ้านเมืองขณะนี้ ไม่ใช่จากน้ำมือของพี่น้องประชาชนเสื้อแดง แต่มันมาจากบุคคลคนหนึ่งที่ทรยศต่อชาติบ้านเมือง ต่อพี่น้องประชาชนทุกคน วางแผน-สั่งการ-ซ่องสุมและจัดตั้ง
"กองกำลังทรยศชาติ" มันคนนั้นคือ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"
อ้างมาทวงประชาธิปไตย หลอกใช้พี่น้องประชาชนตามจังหวัดต่างๆ สวมเสื้อแดงมารวมตัวกันชุมนุมเรียกร้อง แล้วใช้กองกำลังทรยศชาติที่ผ่านการฝึกและเพาะเลี้ยงมาแล้วอย่างดี แทรกซึมปะปนเข้ามา ทำทีเป็นว่าร่วมชุมนุมกับพี่น้องเสื้อแดง สงบ-สันติ ด้วยซื่อบริสุทธิ์
แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ มันแฝงเข้ามาพร้อมแผนก่อการจลาจล-ยึดประเทศ และรออาณัติสัญญานจากตัวการใหญ่ที่จะสั่งผ่านวิดีโอลิงค์ โดยอาศัยคราบพี่น้องประชาชนเสื้อแดงที่ชุมนุมกันอย่างบริสุทธิ์ใจบังหน้า ลุกขึ้นก่อการจลาจล เผาบ้านเผาเมืองหวังยึดครองประเทศแล้วสถาปนาอำนาจเถื่อนเป็นประชาธิปไตยระบอบเจ้ามูลเมือง แล้วอัญเชิญกบฏแผ่นดิน
"พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ให้กลับเข้ามา สถาปนาอำนาจใหม่ตาม "ต้นแบบ" ที่มันแอบฝังใจ
นั่นคือ "การปฏิวัติประชาชน ๑๔ กรกฎา" ล้มสถาบันกษัตริย์ แล้วสถาปนาอำนาจใหม่ ดังที่รู้จักกันทั่วไปว่า "ปฏิวัติฝรั่งเศส"
ทักษิณจงใจใช้วันที่ ๑๔ กรกฎาตั้งพรรคไทยรักไทย หลายคนเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง เมื่อมีนักวิชาการที่ร่วมงานตั้งพรรคครั้งนั้นออกมาแฉเบื้องหลัง แต่ถึง ณ วันนี้ จาก ๘-๑๓ เมษายน ๒๕๕๒ ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ปอกเปลือก-เปลือยตัวเองให้เห็นเนื้อใน "ไอ้บกฏแผ่นดิน" ล่อนจ้อน ทรยศชาติ ประชาชน ออกมาบัญชาการปล้นบ้าน-ชิงเมือง อันเห็นประจักษ์ตา และเป็นที่สิ้นความเคลือบแคลงสงสัยใดๆ กันไปแล้ว
ท่านผู้อ่านและประชาชนผู้รักชาติ รักบ้านรักเมืองทั้งหลาย ผมเยิ่นเย้อเพราะต้องการย้ำให้ท่านเข้าใจว่า
กลียุคบ้านเมืองครั้งนี้ อย่ามองฉาบฉวยเฉพาะหน้า จงใช้สติมองด้วยแยกแยะ อย่าเหมาโทษพี่น้องเสื้อแดงทั้งหมด เพราะเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าเมื่อพี่น้องเสื้อแดงที่หลงเข้าใจผิดตามคำปลุกปั่น-ยุยงทักษิณแต่แรก เห็นธาตุแท้ทักษิณ และทราบความจริงแล้วว่า ถูกทักษิณหลอกมาเป็น
"ประชาชนทักษิณ" ประกอบฉากเผาบ้าน-ชิงเมือง-ล้มสถาบันเบื้องสูง ไม่มีอะไรที่เรียกว่า "ประชาธิปไตย" ตามที่กล่าวอ้างเลย
จากหลายหมื่น-ถึงเรือนแสนของพี่น้องเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมแต่แรก เมื่อเห็น "หางแดง" ทักษิณโผล่ ได้พากันทยอย ถอยตัวออกห่างจากวงชุมนุมไปเรื่อยๆ ถอดเสื้อแดงทิ้งแล้วกลับบ้าน ไม่ยอมถูกหลอกใช้เป็นสะพานไปล้มสถาบัน-ปล้นบ้านชิงเมืองอีก จากเรือนหมื่น-เรือนแสนที่ว่านั้น เหลือเรือนพันหรือแค่หมื่นต้นๆ และนั่นคือ
" กองกำลังทรยศชาติ" ส่วนหนึ่งที่แฝงเข้ามาด้วยจงใจเจตนาลงมือก่อ! จลาจล โค่นล้มสถาบันบ้านเมือง ดังจะเห็นได้จากรูปแบบ
การยึดสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ รูปแบบการก่อการทั้งหมด กระทั่งอาวุธสงครามที่นำมาใช้ไม่ใช่ความคิดความอ่าน และยิ่งไม่ใช่ระดับปฏิบัติการของชาวบ้านสวมเสื้อแดงธรรมดาซึ่งไม่มีขีดสามารถและประสบการณ์ระดับนั้น หากแต่ว่า เป็นปฏิบัติการของผู้ผ่านการฝึกด้านศึกสงครามทั้งด้านยุทธการ และด้านยุทธิวิธีอย่างที่
"นักรบป่า" ฝึกอบรมกันมาชนิดช่ำชอง
จึงเป็นที่สรุปได้ว่า จลาจลยึดประเทศครั้งนี้ เกิดจากแกน "กองกำลังทักษิณ" กบฏแผ่นดินฝ่ายเดียว ประชาชนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมส่วนใหญ่ ไม่ร่วมมือ ไม่เป็นใจ ไม่เอาด้วย กับการ
กบฏแผ่นดินของทักษิณ เพื่อทักษิณ และโดยทักษิณ โดยแจ้งชัด
ท่านผู้อ่านที่เคารพ ผมบอกแต่ต้นแล้วว่า ประชาชนเต็มขั้นอย่างเราๆ
ท่านๆ เท่านั้นที่ "ชาติต้องการ-ตลอดกาล"
อย่าปัดว่าธุระไม่ใช่เอาแต่โยนใส่บ่าตำรวจ-ทหาร-ข้าราชการงานเมืองฝ่ายเดียว อย่าโทษใคร อย่าเกี่ยงใคร ในภาวะที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน จงร่วมมือกับรัฐบาล กับกองกำลังตำรวจ-ทหารที่ตั้งขึ้นตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อันมีพลเอกทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญช! าการทหารสูงสุด เป็นผู้กำกับดูแล
และจงให้กำลังใจ "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรี ผู้ทำหน้าที่ผู้นำด้วยกำลังใจที่พิสูจน์แล้วว่า แกร่งกล้า อดทนและยืนหยัดอยู่ได้ในขณะที่ใครต่อใครอีกหลายคนต่างอยู่ในลักษณะ "ถอดใจให้โจร"
แต่นายกฯ อภิสิทธิ์ ถึงจะผิด-จะถูกขนาดไหน ในภาวะชาติเผชิญภัย ยังสามารถยืนหยัดเป็นหลักใจ ไม่หันหลังหนีภัยทิ้งให้ประเทศชาติ-ประชาชนต้องเผชิญชะตากรรมเดียวดาย เหมือนขอนไม้ในคลื่นสึนามิ สู้เพื่อชาติ พลาดอย่างอาชาไนย ถึงตาย-เกียรติยศก็ยังดำรงไว้ จงภูมิใจเถอะ
อย่าให้ความเสียใจมาดับไฟนักสู้ในหัวใจท่านเลย ผมขอเป็นกำลังใจ และยืนอยู่เคียงข้างการทำหน้าที่ผู้นำชาติยามวิกฤติของท่าน
และข้อสำคัญ ท่านจงฟังและปรึกษาหารือคนอื่นๆ นอกจากที่อยู่รอบตัวไม่กี่คนให้มากเข้าไว้ ไม่มีใครรู้และเจนจบได้ในทุกเรื่อง อย่างกรณีนี้เช่นกัน งานบู๊กันเป็นของฝ่ายปฏิบัติการ ก็ควรฟังทหาร-ตำรวจเขาอะไรที่เป็นงานบุ๋น คือนโยบายบริหาร นั่นจึงเป็นงาน "กลั่นกึ๋น" ของท่านสั่งการออกไป
เหตุการณ์ครั้งนี้ บ้านเมืองยับเยิน-ย่อยยับยิ่งนัก ไม่ต้องพูดกันแล้วเรื่องจีดีพีเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องความเชื่อมัน ความสำคัญทั้งหมดสรุปรวมอยู่ตรงหน้านี้ว่า จะควบคุมสถานการณ์ และยุติกบฏเผาบ้าน-ยึดเมืองนี้ ได้แบบไหน อย่างไร และ..วันไหน ?
ลูกผู้ชาย-วันนี้ ไม่ต้องไปโทษใคร ความชอบถ้ามี จงแจกจ่ายและยกย่องเขา ส่วนความผิด เมื่อเสร็จภารกิจกู้สถานการณ์แผ่นดิน ท่านต้องเตรียมคำตอบอันเป็นการ " ตัดสินใจ" ที่สาสมกับความสูญเสียของประเทศชาติครั้งใหญ่จากการบริหารในฐานะผู้นำของท่าน
เสียลาภ-ยศ-สรรเสริญ-สุข เสียไปเถอะครับ ถ้าการเสียนั้นเป็นการเสียเพื่อดำรง "ศักดิ์ศรีแห่งผู้นำ" บอกตรงๆ เห็นหน้าท่านออกทีวีตอนสองยามคืนก่อนท่ามกลาง ผบ.เหล่าทัพที่ก้มหน้า ซ่อนแววตาสงบนิ่ง
ในบรรยากาศที่เหมือนแถลงอยู่บนขั้วโลกคนเดียว แต่ท่านนายกฯ ยังสามารถรักษาบุคลิกภาพผู้นำ เพื่อไม่ให้ผู้ตามคือประชาชนอย่างพวกผมพลอยถอดใจ วูบหนึ่ง ผมสงสารท่านสุดขั้วใจจริงๆ
ท่านผู้อ่าน และประชาชนผู้รักบ้านรักเมือง และรักสถาบันทั้งหลาย ณ เวลานี้ เรากำลังถูกกบฏแผ่นดินคุกคามย่ำยีทุกด้าน อย่าแตกแยก อย่าแตกใจ และอย่านิ่งดูดาย เอาแต่เรียกร้องและร้องหาแต่ความ! ช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร และรัฐบาลอย่างเดียว สิ่งสำคัญเฉพาะหน้า เรา-ประชาชน ต้องผนึกแขนงไม้เป็นกอไผ่ รวมพลังต้านภัย ช่วยกันรักษาบ้าน-รักษาสถาบันไว้ไห้จงได้
อย่าเอาแต่นั่งพูด นั่งด่า อวดวิชาการแก่กล้า โชว์วิสัยทัศน์ด้วยการ "ด่าทุกมาตรการ" ที่ตำรวจ-ทหารและรัฐบาลนำออกมาใช้ ผมบอกได้คำเดียวว่า ถ้ามัวแต่แคร์กระแสโลก กระแสสื่อกลุ่มทุนอย่าง CNN ปล่อยให้โจรฆ่าประชาชน เผาเมือง ล้มสถาบัน โดยตำรวจ-ทหาร-รัฐบาลเอาแต่ "พับเพียบปราบ"
เพราะเหตุนี้ผมจึงขอย้ำ "ประชาชนคือคนที่ชาติต้องการ-ตลอดกาล" ถ้าประชาชนไม่รวมตัว-รวมใจ เห็นที ประเทศไทยจะราบคาบ "กบฏไทยผสมเทศ" จะเข้ามายึดครองต้องตามคำว่า " ถิ่นกาขาว" พวกเรา..ไม่เอากันอย่างนั้นมิใช่หรือ ?
รักนายกฯและจะอยู่เคียงข้างท่านตลอดไป
เปลว สีเงิน
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
ได้มาจากอีเมลล์ เห็นว่า ควรนำมาให้พวกเรา ได้อ่านด้วย
เพื่อร่วมเป็น ประชาชน คือ คนที่ชาติต้องการ-ตลอดกาล
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #46 เมื่อ: 13 เมษายน 2553, 11:33:06 » |
|
ที่ประชุมกกต.มีมติ ยุบ ปชป. ขอขอบคุณที่เื้อื้่อเฟื้อข่าว น.ส.พ.เดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 12 เมษายน 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=627&contentID=59696
“กกต.”มีมติยุบพรรคประชาธิปัตย์กรณีเงินบริจาค258ล้านเตรียมแจ้ง อสส.ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 12 เม.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายธนิศร์ ศรีประเทศ รองเลขาธิการ กกต. ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ แถลงผลการประชุม กกต.วาระพิเศษ กรณีคดีเงินบริจาค จำนวน 258 ล้านบาท และ เงินกองทุนสนุบสนุนพรรคการเมืองจำนวน 29 ล้านบาท ที่พรรคประชาธิปัตย์ถูกกล่าวหาอาจกระทำการเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง ทั้งนี้ ที่ประชุม กกต.พิจารณาใน 2 ข้อกล่าวหา โดย
ข้อกล่าวหาแรก กรณีพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเงินบริจาคจากบริษัททีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผ่านทางบริษัท เมซไซอะ บิสิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด เป็นจำนวนเงิน 258 ล้านบาท โดยทำสัญญาสื่อว่าจ้างทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆเป็นนิติกรรมอำพลาง เพื่อหลักเลี่ยงการรายงานการรับบริจาคเงินตามที่กฎหมายกำหนด อาจเข้าข่ายกระทำผิดตามมาตรา 66 (2) (3) แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2541 และมาตรา 94 (3) (4) (5) แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2550 โดย
ที่ประชุมมีมติคะแนนเสียงข้างมากให้นายทะเบียนพรรคการเมืองแจ้งต่ออัยการสูงสุดพร้อมด้วยหลักฐาน เพื่อให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป ตามาตรา 95 ของพ.ร.บ.ประกอบรับธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2550
ข้อกล่าวหาที่สอง กรณีมีผู้แจ้งข้อกล้าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ใช้จ่ายเงินที่ได้รับจากเงินกองทุนสนับสนุนพรรคการเมืองจากสำนักงานกกต.ให้เป็นไปตามบทบัญญัติตามกฎหมายและการจัดทำการใช้จ่ายและการจัดทำการรายงานใช้จ่ายเงินสนับสนุนพรรคการเมืองไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงที่ยื่นต่อ กกต.อันเป็นการเข้าข่ายตามมาตาม มาตรา62 และ65 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2541 และมาตรา 82 และ 93 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2550 โดย
ที่ประชุม กกต. มีมติเอกฉันท์ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ โดยใช้มติเสียงข้างมากแจ้งต่ออัยการสูงสุดเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคประชาธิปัตย์ ตามมาตรา 95 ของพ.ร.บ.ประกอบรับธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2550 นายธนิศร์ กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนจากนี้ทางกกต.ได้มอบหมายให้นายทะเบียนพรรคการเมืองดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดตามความเห็นแจ้งต่ออัยการสูงสุด
เมื่ออัยการสูงสุดได้รับเรื่องแล้วจะจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่หากเห็นว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอก็ต้องแจ้งกลับมายังนายทะเบียนเพื่อตั้งคณะทำงานร่วมกัน แต่หากเห็นว่ายังไม่ได้ข้อยุติ นายทะเบียนพรรคการเมืองก็สามารถส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรง
ทั้งนี้การพิจารณาของนายทะเบียนครั้งนี้ใน2ประเด็นก็เห็นว่า คดีดังกล่าวอาจมีการกระทำความผิดจึงเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญจึงส่งให้ที่ประชุมกกต.พิจารณา เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 ประเด็น.
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
นำข่าวมาเก็บไว้ให้พวกเรา ได้ศึกษาเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
|
|