26 พฤศจิกายน 2567, 18:42:07
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 21  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: การเมืองเป็นเรื่องสนุก ( จะเป็นประเด็นปลีกย่อย..เกร็ดเล็กๆน้อยๆ..ถากถาง..ขำขัน.)  (อ่าน 236317 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #75 เมื่อ: 20 มีนาคม 2553, 21:30:29 »

เพลงแม้ว!!!มอนเตฯ

 

สู้เถอะพี่น้อง เสียงขอร้องจากแม้วมอนเตฯ

อยู่ริมทะเล ประเทศมอนเตรเนโกร

 นั่งจิบกาแฟ เอกเขนก กินเค๊กชิ้นโต

 ลิงค์วีดีโอ บงการเผาผลาญบ้านไทย

  ตากแดดตากฝน สู้เพื่อคนมอนเตรเนโกร

 พาลูกอวดโชว์ มอนเตเนโกรซื้อเกาะเอาไว้

 เป็นนักโทษหนี ใส่ร้ายย่ำยีศักดิ์ศรีศาลไทย

 วันนี้กำลังจุดไฟ เผาไหม้เมืองไทยแหลกราน

 
ภาพคนเสื้อแดง อ่อนแรงหิวโหยโรยรา

 ทักษิณจูงพิณทองทายิ้มร่ารื่นเริงสำราญ

 ภาพคนเสื้อแดงแดดแรงรุ่มร้อนกลางลาน

 ลูกโอ๊คและแพทองธารเบิกบานที่เมืองมอนเตรฯ

 
สู้เถอะพี่น้องเสียงขอร้องจากคนเมืองไกล

ให้สู้ต่อไป ผู้ชายสัญชาติมอนเตรเนโกร

 จะแดดจะฝนให้สู้ทนอย่าได้เยโย

 มอนเตเนโกร ลูกสาวลูกชายผมสบายดี

 สู้กันต่อไป ลูกสาวลูกชายผมสบายดี

 >ตากแดดกันไป ลูกสาวลูกชายผมสบายดี

 >ตากฝนกันไป ลูกสาวลูกชายผมสบายดี

 โง่กันต่อไป ลูกสาวลูกชายผมสบายดี

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
Kittiwit Pk
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 281

« ตอบ #76 เมื่อ: 20 มีนาคม 2553, 22:39:53 »


   เวรจริง
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #77 เมื่อ: 21 มีนาคม 2553, 22:09:41 »

อ้างถึง
ข้อความของ kitty-wit เมื่อ 20 มีนาคม 2553, 22:39:53

   เวรจริง
เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #78 เมื่อ: 22 มีนาคม 2553, 16:01:13 »



เพื่อไว้อาลัย ถึงนายตำรวจคนดี แห่งอ.บันนังสตาร์ จังหวัดยะลา ที่ นายกรัฐมนตรี ไม่เหลียวแล  ถ้าหากมีการตั้งค่าหัวไว้แล้ว ต้องย้ายออกจากพื้นที่ทันที
      บันทึกการเข้า

seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #79 เมื่อ: 22 มีนาคม 2553, 22:15:33 »

อย่าพลาด! ระดมทุนช่วย “ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์” 28 มี.ค.นี้
 
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มีนาคม 2553 19:04 น.
 
 

    ASTVผู้จัดการ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม นี้ ทางสำนักปฏิบัติธรรมสันติอโศก กรุงเทพฯ จะจัดงานระดมทุนเพื่อช่วยเหลือ นายอังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ ในวัย 83 ปี ซึ่งกำลังประสบความยากลำบากในการใช้ชีวิต เนื่องจากปัจจุบันป่วยเป็นโรคเรื้อรังหลายโรค คือ โรคหัวใจและโรคเบาหวาน ขณะที่งานศิลปะทั้งภาพเขียนและบทกวีก็ไม่สามารถขายได้ดีเหมือนเช่นในอดีต
       
       สมณะโพธิรักษ์ ผู้ก่อตั้งพุทธสถานสันติอโศก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การจัดงานช่วยเหลือนายอังคารนั้น จะมีขึ้นตลอดทั้งวันกิจกรรมหลากหลายรูปแบบภายใต้ชื่องานว่า “อังคาร ผู้ผ่านปัจฉิมวัย” โดยเป็นกิจกรรมผสมผสานทั้งบันเทิงและวิชาการ
       
       “นายอังคาร เป็นกวีที่มีความคิดระดับภูมิธรรม ไม่ใช่กวีในเชิงโลกีย์ แต่มีธรรมะที่ผู้คนเข้าไม่ถึง รวมทั้งเป็นจิตรกรที่มีฝีมือชั้นยอดของประเทศไทย มีความลึกซึ้งทางจิตวิญญาณ และภูมิปัญญาตกผลึก ในความเห็นส่วนตัวบอกได้ว่าในรอบ 100 ปีอาจจะมีศิลปินเช่นนี้เกิดขึ้นสักคน
       
       “ชีวิตของ ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ เป็นคนที่ติดดิน ไม่เบียดเบียนผู้อื่น แม้ตัวเองจะตกทุกข์ได้ยากก็ไม่ร้องขอ หรืออ้อนวอนจากใคร เขาไม่มีกิเลสและยอมอดเยี่ยงอย่างเสือ การจัดงานหาเงินช่วยเหลือท่านอังคารในครั้งนี้เป็นความต้องการของกัลยาณมิตรและผู้เคารพศรัทธาในชีวิตและผลงานท่านอังคาร ที่อยากเห็นศิลปินท่านนี้จรรโลงงานศิลปะให้ยืนยาวนานที่สุด จึงต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ” สมณะโพธิรักษ์ กล่าว
       
       สำหรับงาน “อังคาร ผู้ผ่านปัจฉิมวัย” จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2553 นี้ ณ สำนักปฏิบัติธรรมสันติอโศก ย่าน ถ.นวมินทร์ เขตบึงกุ่ม โดยงานจะจั้งตั้งแต่ช่วงเช้าถึงค่ำ โดยรูปแบบงานจะมีกิจกรรมบนถนนคนเดิน ดนตรีคอนเสิร์ต ทั้งลูกกรุง ลูกทุ่ง และเพื่อชีวิต โดยผู้ร่วมงานไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่สามารบริจาคได้ตามกำลังทรัพย์และความศรัทธา
       
       สำนักปฏิบัติธรรมสันติอโศก
       65/1 ซอย 44 (เทียมพร) ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม
       เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10240
       โทร.0-2374–5230
       
       นอกจากนี้ ผู้ที่มีจิตศรัทธายังสามารถโอนเข้าบัญชี
       
       คุณอุ่นเรือน กัลยาณพงศ์ (ภรรยาท่านอังคาร) ธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 009-2-60612-1 ได้อีกด้วย

 
 
 
 
 
 
 

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #80 เมื่อ: 23 มีนาคม 2553, 14:44:51 »

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=OxFyQ7OIF9k" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=OxFyQ7OIF9k</a>
เพลงใหม่ล่าสุด "แม้ว ซังเต" เอ้ย "แม้ว มอนเต"
      บันทึกการเข้า

seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #81 เมื่อ: 23 มีนาคม 2553, 21:38:26 »

วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20:38:40 น.   มติชนออนไลน์

"ทักษิณ"ยังเจ็บคอไม่หาย ทวิตงดจ้อปลุก"เสื้อแดง"อีกวัน โต้ยังอยู่"ดูไบ" ไม่ได้หนีไปไหนตามข่าวลือ

"ทักษิณ" อ้างป่วยของดปราศรัยอีกวัน

มื่อเวลาประมาณ 19.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้พิมพ์ข้อความลงในเว็บไซต์ทวิตเตอร์ส่วนตัว "ทักษิณไลฟ์" ว่า
 "ขอ อนุญาตลาป่วยอีกวันครับคอยังเจ็บอยู่ยังไม่สามารถปราศรัยได้แต่ผมยังอยู่ที่ ดูไบไม่ได้เดินทางไปไหนตามข่าวลือครับ"


 

"นพดล" ชี้คนธรรมดาเจ็บป่วยได้ ไม่จำเป็นต้องโกหก

 

นายนพดล  ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายกษิต  ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าได้รับรายงานว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกจากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อคืนวันที่ 22 มีนาคม ว่า ตนไม่ทราบ แต่ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ได้พูดถึงกำหนดการเดินทางไปประเทศอื่น จึงคิดว่าขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะอยู่ที่เมืองดูไบ ส่วนที่นายกษิต ระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่าเจ็บคอและงดวิดีโอลิงก์เพราะกำลังเดินทางไปที่อื่นนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนธรรมดาต้องมีเจ็บมีป่วยบ้าง และไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องโกหก

 



"กษิต"เผย"ทักษิณ"ออกจากดูไบแล้วอ้าง เจ็บคอ งดวิดีโอลิงก์

ที่พรรคประชาธิ ปัตย์ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ระบุงดวีดีโอลิงก์ โดยอ้างว่าเจ็บคอว่า ได้รับรายงานว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกจากเมืองดูไบ เมื่อคืนวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทราบว่าจะเดินทางไปที่ไหน ซึ่งตนได้ให้เจ้าหน้าที่ติดตามอยู่

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #82 เมื่อ: 23 มีนาคม 2553, 21:51:43 »

แถลงการณ์ยัน 'หลวงตามหาบัว' ไม่สังฆกรรมเสื้อแดง

ไทยรัฐออนไลน์ 23มีค.2553


วัดป่าบ้านตาดแถลงการณ์ยัน "หลวงตามหาบัว" ไม่เคยบริจาคเงิน มอบวัตถุมงคลให้ม็อบ ตามที่สื่อเสนอข่าว ไม่มีมูลความจริงนำพาไปสู่ความแตกแยกทั้งในด้านพระพุทธศาสนา รวมทั้งวัด...

เมื่อ วันที่ 23 มี.ค. พระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน รองเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี กล่าวว่า คณะสงฆ์วัดป่าบ้านตาดได้ออกแถลงการณ์ว่า ตามที่มีข่าวทางสื่อมวลชนเสนอข่าวว่า พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ได้บริจาคเงิน และมอบวัตถุมงคลให้กับกลุ่มบุคคลในการเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นทางการเมือง นั้น ทางวัดป่าบ้านตาดขอชี้แจงว่า การนำเสนอข้อมูลข่าวสารดังกล่าว โดยอ้างหลวงตามหาบัว เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริง ซึ่งอาจจะนำไปสู่ความแตกแยกทั้งในด้านพระพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชน ตลอดจนนำความเสื่อมเสียเข้าไปภายในวัดได้ ซึ่งข้อมูลข่าวสารที่กลุ่มบุคคลเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนต่างๆนั้น ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด.
ไทยรัฐออนไลน์

    * โดย ทีมข่าวภูมิภาค
    * 23 มีนาคม 2553, 20:40 น.

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #83 เมื่อ: 24 มีนาคม 2553, 07:48:26 »

      บันทึกการเข้า

seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #84 เมื่อ: 24 มีนาคม 2553, 10:11:01 »

หนทางที่ 4
รายงานข่าวโดย: ณ กาฬ 23 มีนาคม 2553 เวลา 21:48 น.posttodayonline

มาแล้ว มาตามนัด จิ๋วหวานเจี๊ยบ-พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นำทีม สส.เพื่อไทย เปิดแถลงถึงจุดยืนต่อสถานการณ์ทางการเมือง

ไม่แปลกประหลาดที่ข้อเรียกร้องของพรรคเพื่อไทย สอดคล้องกับม็อบแดงโดยแท้ เป็นการพิสูจน์อีกครั้ง ม็อบแดง และพรรคเพื่อไทยจะเป็นของใครไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ ทักษิณ ชินวัตร

ข้อเรียกร้องของพรรคเพื่อไทย คือ 1.ให้ยุบสภา 2.พรรคเพื่อไทยจะพบพรรคร่วมรัฐบาลแสวงหาทางออกด้วยสันติวิธี 3.หากมีการเลือกตั้ง ทุกฝ่ายต้องเคารพผล

นี่แหละ 3 หนทางสันติที่ เสื้อแดง+เพื่อไทย โก่งร้องในทำนองเพื่อแม้ว

ทว่าความจริงแล้วยังมีหนทางที่ 4 อีก นั่นคือให้ทักษิณหยุดเคลื่อนไหว

แล้วรอไปให้สภาหมดอายุ เลือกตั้งพิสูจน์กันใหม่

ม็อบแดงหยุด สส.เพื่อไทยหยุด ความปั่นป่วนหยุด

มหาสันติวิธี ยิ่งกว่ามหาไพร่ ง่ายกว่ากันเยอะ


แต่ข้ออ้างที่แดงและเพื่อไทยรอไม่ได้ก็คือ รัฐบาลไม่เป็นประชาธิปไตย มีที่มาไม่ถูกต้อง

ว่าไปคำพูดนี้ก็มีน้ำหนักอยู่ เพราะรู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เกิดขึ้นได้ด้วยสีเขียวอุ้มสม

แต่ถ้าจะเปิดใจกันให้กว้างกว่า เราควรตั้งหลักว่าต้องการประชาธิปไตยที่รูปแบบหรือเนื้อหา

ถ้าต้องการที่รูปแบบ ประชาธิปไตยจะมีค่าแค่เพียง 1 นาที เมื่อกาบัตรหย่อนหีบเลือกตั้งเท่านั้น แล้วทุกคนก็หมดสิทธิ

แล้วเราก็ต้องก้มหน้ารับผลการที่พรรคการเมืองแผ่อิทธิพล ผูกขาดอำนาจทั้งสภาล่าง สภาบน ทำลายกลไกคาน-ดุลตรวจสอบในระบอบทั้งหมด

ใครวิพากษ์วิจารณ์จะกลายเป็นขาประจำ ประชาชนจังหวัดไหนถ้าไม่เลือก สส.ยกพรรค จังหวัดนั้นก็ไม่ต้องได้งบประมาณ

เราต้องทนคำวาทะ โจรกระจอก ที่นำไปสู่ความรุนแรงในภาคใต้ หรือนโยบายประชานิยมที่มีการคอร์รัปชันเชิงนโยบายเป็นของแถม

เหล่านี้คือวิถีประชาธิปไตยที่แท้ หรือเป็นแค่เพียงรูปแบบ

แต่หากต้องการประชาธิปไตยที่เป็นเนื้อหา รัฐบาลต้องถูกตรวจสอบ ต้องปล่อยให้กลไกคาน-ดุลทำหน้าที่ตามปกติ

ไม่มีใครปฏิเสธหรอก รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีปัญหาคอร์รัปชัน แต่เป็นหน้าที่ อภิสิทธิ์ ต้องจัดการ ไม่เช่นนั้นก็อยู่ไม่ได้

เราจึงจำเป็นต้องเข้าใจประชาธิปไตยที่เน้นรูปแบบหรือเนื้อหา

เพราะฝูงผีกำลังตั้งท่าใส่เสื้อประชาธิปไตยมาหลอกหลอน!!!


      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #85 เมื่อ: 24 มีนาคม 2553, 14:41:57 »

อ่านคลายเครียด



  ถาม: เจองู กับ เจอแขก
            ท่านเลือกจะตีงูหรือตีแขก?

 
  ตอบ : ตีทักษิณก่อน

ถาม : ถ้ามีไม้ 2 อัน อันแรกตีทักษิณก่อน แล้วอันที่ 2 ล่ะ?

ตอบ : ตีทักษิณอีกที (กลัวมันไม่ตาย)
 

 
 
 
 
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #86 เมื่อ: 24 มีนาคม 2553, 22:49:15 »

ลือสะพัด! อ.จุฬาฯ เสื้อแดง ทำข้อสอบ ป.โท หายกลางม็อบ
 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มีนาคม 2553 17:54 น.

ลือหึ่งอาจารย์คณะอักษร รั้วจามจุรีสีชมพู ผู้ฝักใฝ่การชุมนุมร่วมกับคนเสื้อแดง หอบ
 “ข้อสอบประมวล” ของนิสิตปริญญาโท หลักสูตร EIL ไปตรวจกลางม็อบแดง
 ผลปรากฏข้อสอบหายทั้งปึก นิสิตซวยเจอให้สอบใหม่ เจ้าตัวอ้าง ทำหายในร้านกาแฟ

 
  มีรายงานข่าวว่า เกิดเหตุอาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
 ที่รับผิดชอบสอนในหลักสูตรสหสาขาวิชาภาษาอังกฤษ เป็นภาษานานาชาติ (EIL) รายหนึ่ง
ได้ทำข้อสอบประมวลข้อเขียนของนิสิตปริญญาโท หลักสูตรสหสาขาวิชาภาษาอังกฤษ เป็นภาษานานาชาติ
 ที่ได้จัดสอบไปแล้วหายไป และได้ให้นิสิตกลุ่มดังกล่าวสอบใหม่อีกครั้ง โดยอ้างว่าทำข้อสอบหายในร้านกาแฟ
       
       จากกรณีดังกล่าวทำให้มีเสียงร่ำลือในหมู่นิสิตและคณาจารย์ผู้ทราบข่าว และทราบว่า
อาจารย์รายนี้มีแนวคิดนิยมกลุ่มเสื้อแดง และมักจะเดินทางไปร่วมการชุมนุมอย่างสม่ำเสมอ
 โดยเฉพาะในช่วงการชุมนุมใหญ่ล่าสุดของกลุ่ม นปช.ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าข้อสอบของนิสิตน่าจะหายในม็อบเสื้อแดงมากกว่า
 และคาดว่า อาจารย์รายนี้น่าจะเอาไปตรวจในม็อบ และทำหายไป มากกว่าที่จะทำหายในร้านกาแฟ
เพราะโดยปกติแล้วนิสัยของอาจารย์รายนี้ ไม่ได้ชื่นชอบการนั่งร้านกาแฟ และหากทำหายในร้านกาแฟจริง
 ก็น่าจะติดตามหรือสอบถามที่ร้านได้บ้าง
 


เฉลย เป็นคนรับจ้างสอน คณะ อักษรศาสตร์ เป็นสุภาพสตรี นิยม สีแดง
 
 
 
 
 
 
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
อ้อย 14
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,055

« ตอบ #87 เมื่อ: 25 มีนาคม 2553, 11:47:58 »

 emo4:))ป่านฉะนี้ ข้อสอบปึกนั้น คงถูกเอาไปรองนั่ง....ปูพื้นไว้วางจานส้มตำ ข้างเหนียว....บังแดด...และ สุดท้าย เช็ดก้น บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
อ้อย 14
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,055

« ตอบ #88 เมื่อ: 25 มีนาคม 2553, 11:53:19 »

เอามาฝากให้อ่าน...จ๊ะ

ถึงเพื่อนที่ชอบสีแดง,

เมื่อตอนบ่ายโมงของวันเสาร์ที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่เราซื้อของจากเอ็มโพเรียมเสร็จแล้วราวๆ บ่ายสองโมง
เรากับแม่ก็ตกลงที่จะใช้เส้นทางผ่านสุขุมวิท 31 ไปเข้าเพชรบุรีตัดใหม่ โดยที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวว่ามีการชุมนุมกันอยู่ที่หน้า
บ้านนายกฯ ในตอนที่เราจะเข้าซอย ได้มีการเอาแผงมากันด้านขาเข้าปากซอย 31 ส่วนด้านขาออกที่จะมายังถนนสุขุมวิทนั้น
มีผู้หญิงสวมเสื้อแดงยืนกันอยู่ และไม่มีอาการสนอกสนใจถึงรถราที่วิ่งเข้าวิ่งออกในซอยนั้นเท่าไรนัก เราก็เลยบีบแตรรถเพื่อ
ให้ผู้หญิงคนนั้นหลีกให้พ้นทาง แล้วเราก็ขับรถเข้าซอยไป... ระหว่างทางเรากับแม่เห็นผู้ชายใส่เสื้อสีแดง ย้อมผมสีส้มยืน
ปัสสาวะอยู่ริมถนน (อย่างไม่อายสายตาใคร) บนรั้วสีขาวของชาวบ้านในซอย 31 โดยที่ในตอนนั้นยังฉุกคิดไม่ทันเสียด้วยซ้ำ
ว่าเกิดอะไรกันขึ้น

จนกระทั่งเราวิ่งเข้ามาจนถึงหน้าร้าน Homework ซึ่งบริเวณนั้นถูกปิดอยู่โดยกลุ่มคนที่ใส่เสื้อแดง พอรถเราหยุด เราก็เห็นผู้ชาย
ตัวใหญ่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ถือธงไทยปลิวไสวมาหยุดอยู่ที่ข้างๆ ตัว พร้อมกับลงมาจากมอเตอร์ไซค์แล้วก็เริ่มเคาะที่กระจกรถ
เรา จากนั้นก็พูดว่า “มรึ..งบีบแต.. ทำไม?”... ส่วนเราก็พยายามมองไปที่ท้ายรถคันข้างหน้าเพราะไม่อยากจะไปยุ่งด้วย ซึ่งการทำ
แบบนั้นก็ไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้นเท่าไหร่นัก ... หลังจากนั้นแค่อึดใจ ก็มีชายฉกรรจ์อีกประมาณ 4 - 5 คนเดินมามุงที่รถเรา
ซึ่งขณะนั้นผู้ชายคนเดิมก็ย้ำคิดย้ำทำอาการเดิมๆ อยู่ โดยเคาะที่กระจกรถแล้วก็พูดต่อ.... “มรึ..งบีบแต..ทำไม?” แม่ของเราซึ่งอายุ
75 แล้ว ก็คงจะเริ่มกลัวแต่ก็ยังมีสติพอที่จะบอกให้เรากลับรถและวนกลับไปยังหน้าซอย แต่พวกผู้ชายเหล่านั้นก็ยังไม่ลดละที่จะมา
ยืนมุงรถเราอยู่... และถามซ้ำประโยคเดิมๆ จนเราทนไม่ได้ เราเลยหันกลับไปมองหน้าคนที่เคาะกระจก แล้วพูดว่า “แล้วจะทำไม?” ...
พอผู้ชายตัวใหญ่คนนั้นอ่านปากเราสำเร็จ เขาก็เริ่มเปลี่ยนจากประโยคคำถามเดิม เป็นประโยคคำถามใหม่ “มรึ..งบีบแต.. ด่ากูใช่ไม๊?” ...
เราก็ไม่ตอบและหันหน้าหนีเพื่อที่จะรอให้รถคันข้างหน้าขยับ และเราก็จะได้ขยับด้วย... แต่ก็ดูเหมือนไม่สำเร็จ “โธ่...อีเหรี้..ย.!!!”….
“อีสั...ว์!!” และอีกสารพัดอี... แต่เดชะบุญรถคันข้างหน้าเราเริ่มขยับได้... เราก็เลยสามารถที่จะขยับตาม และเริ่มที่จะกลับรถได้

พอรถเราเริ่มหันไปทางทิศปากซอยได้... พวกผู้ชายตัวใหญ่ๆ ใส่เสื้อแดง... รวมทั้งเสื้อดำมีผ้าปิดหน้า (ผ้าเจาะรูที่ลูกตาสองข้าง)
ก็ยังไม่ลดละที่จะเดินมาประชิดข้างๆ ตัวเราอีก...พร้อมทั้งพยายามดึงประตูรถ (ทั้งทางฝั่งเรา และฝั่งของแม่) และเอาหัวแหวน
(ขนาดใหญ่) มาเคาะที่กระจกด้านที่เรานั่ง หลายๆ ครั้งหลายหน จนเราทนไม่ได้ ต้องหันกลับไปพูดว่า “กูจะกลับบ้าน”....เท่านั้นแหละ
ผู้ชายที่ยืนอยู่ก็ยิ่งกระชากประตูรถแรงขึ้นๆ ทั้งทางฝั่งเรา และฝั่งแม่เรา “มรึ..งบีบแต...หาแม่มรึ..งเหรอ?? … มรึ..งลงมาเดี๋ยวนี้เลย!!... อีเหรี้..ย”
“โธ่...อีสั..ว์”.... ฯลฯ (นี่... ถ้าคว้านรูลูกตาไอ้โม่งให้มันกว้างกว่านี้อีกสักนิดก็คงจะเห็นหรอกนะว่า... แม่กูนั่งอยู่นี่!!) แล้วก็เคาะๆๆๆ แรง
มาก... จนเราต้องหันหน้าไปจ้องตากับผู้ชายคนนั้น... จ้องกันได้ไม่นาน... ผู้ชายคนนั้นก็ทำท่าทำทางฮึดฮัด และพยายามที่จะหยิบอะไร
ออกมาจากสะเอว (เหมือนกระเป๋าใบเล็กๆ รูปทรงกะทัดรัด) …. แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราหยุดที่จะจ้องเข้าไปในรูเล็กๆ ที่ปิดบังลูกตาของผู้ชาย
คนนั้นอยู่... เพราะเราก็อยากรู้เหมือนกันว่า “แล้วจะทำไม?” … ยิ่งจ้องผู้ชายคนนั้นก็ยิ่งฮึดฮัด เขย่าที่เปิดประตูรถแรงขึ้นๆ... จนเราได้ยิน
เสียงผู้ชายอีกคนพูดว่า “ปล่อยมันไปเหอะ... ผู้หญิง... ผู้หญิง... ปล่อยมันไปเหอะ”… พอเราได้สติ นึกขึ้นได้ว่าแม่นั่งอยู่ด้วย เราก็เลยเข้า
เกียร์เดินหน้า แต่มิวายก็ได้ยินเสียงรถ “ถูกถีบ” ตามมาให้เราได้ยินก่อนที่จะขับรถจากไป

จากเหตุการณ์ที่เราเล่า เป็นเรื่องที่เราประสบด้วยตัวเอง... ไม่มีการตัดต่อ ไม่มีการใส่สีใส่ไข่ให้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่เราต้องพูดอย่างนี้ก็
เพราะว่าหลายๆ ครั้ง เพื่อนสีแดงของเราชอบบอกว่าข่าวสารบ้านเมืองของเราถูกบิดเบือน พวกชาวบ้านอย่างเราถูก “ปิดหูปิดตา” … เพื่อนๆ
บางคนอาจจะเห็นว่าเรา “วอน” หาเรื่อง หรืออาจจะมีความรู้สึกกับเรื่องราวที่เราเราให้ฟังนี้ไปได้อีกหลากหลาย แต่สำหรับแม่ของเรา ซึ่งไม่
เคยเจอะเคยเจออะไรประชิดตัวอย่างนี้มาจนอายุ 75… แน่นอน เป็นเรื่องที่ทำให้แม่ตกใจมาก และสั่นกลัวไปทั้งวัน จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น
แม่ก็ยังตกใจกลัวอยู่ ... ส่วนตัวเราเองตั้งแต่วินาทีที่ขับรถพ้นคนกลุ่มนั้นออกมา ความรู้สึกที่เกิดขึ้น และชัดเจนที่สุดที่สามารถอธิบายได้คือ
“นี่มันอะไรกัน?” อะไรที่ทำให้คนที่ไม่รู้จักกัน ไม่เคยมีเรื่องมีราวกัน สามารถที่จะปฏิบัติต่อกันได้ขนาดนี้? และเราก็บอกได้เลยว่าในสายตา
และท่าทางของคนเหล่านั้น เราสามารถรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังที่มีมากมายราวกับสะสมมาตั้งแต่ชาติปางก่อน

ความรู้สึกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองในวันนั้น... มันได้ทำให้ความรู้สึกเดิมๆ ที่เคยมีแต่ต้องเก็บเอาไว้มันหวนกลับมาในสมองของเราอีก...
เพื่อนๆ ที่ศรัทธาในสีแดงของเราทุกเฉด... เราขอบอกตรงนี้นะว่า “หยุดเถอะ” หยุดที่จะสร้างความอึดอัดให้กับคนรอบข้างที่รักเพื่อน และที่ยิน
ยอมที่จะไม่พูด ไม่เถียง เพียงเพราะต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากัน และแตกคอกันของคนในสังคมเล็กๆ ของเรา ... หลายครั้งที่เรา
หยุด และเลี่ยง เพียงเพราะต้องการให้การสังสรรค์ หรือความสุขที่เรามีร่วมกันขณะนั้นมันสามารถไปต่อได้ ... แต่ตอนนี้เราขอบอกตรงๆ กับ
เพื่อนนะว่า เราไม่สามารถที่จะมีความสุขในลักษณะนี้ได้อีกต่อไปแล้ว

เราไม่รู้หรอกว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เพื่อนบางคนรู้สึกศรัทธาในสีที่ว่านี้ ... มันอาจจะมาจากความเป็นอยู่ที่สุขสบายมากขึ้น หรือเพียงแต่
ศรัทธาเพราะต้องการที่จะแตกต่าง หรือศรัทธาเพราะคนรุ่นเราถูกสอนให้ “รู้จักคิด” และ “แสดงความคิด” เราไม่รู้ ... แต่สำหรับเรา สิ่งที่เรา
รักและศรัทธานั้นเกิดขึ้นมานานกว่าช่วงเวลาที่ “คนๆ นั้น” ก้าวขึ้นมามีอำนาจ และเราก็มั่นใจอีกว่ามันนานกว่าชั่วชีวิต 40กว่าปีของเราด้วยซ้ำ
เพราะความรัก ความศรัทธานี้มีมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยายของเรา และมันก็ฝังลึกเกินกว่าที่เราจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นได้... ดังนั้นเราขอให้
เพื่อนหยุดเถอะ... หยุดสร้างความรู้สึกกดดัน และอึดอัดให้กับคนอื่นๆ ที่รักเพื่อนเสียที...

เรารู้เสียใจที่หลายครั้งต้องมารับรู้ว่ามีหลายครอบครัวที่คนในบ้านมีการ แบ่งสี แบ่งฝ่าย…. ทะเลากันจนทำให้พี่น้องต้องแตกหักกันไป ... แต่
สำหรับเราเอง... เรายังโชคดีที่คนในครอบครัว และคนรอบๆ ตัวเราส่วนใหญ่ไม่ได้ศรัทธา หรือเชื่อในสิ่งที่ “คนๆ นั้น”พยายามทำให้มันเกิดขึ้น
แต่เพื่อนสีแดงของเราทั้งหลาย... นับแต่บัดนี้เราขอบอกเพื่อนว่า...วันนี้เราจะไม่หลีกเลี่ยงการพูดจาตรงไปตรงมากับเพื่อนอีกต่อไป... เราจะ
ไม่ตำหนิติเตียนความคิดเห็นของเพื่อนลับหลังอีกต่อไป... ขอให้เพื่อนรู้เอาไว้ตรงนี้แล้วกันนะว่า การที่เรา... หรือพวกเราเงียบเป็นเพราะว่าเรา
ยังมีความรักในตัวเพื่อนอยู่มาก แต่ถ้าเมื่อใด ความก้าวล่วงความรู้สึกที่ว่านี้มันมีมากขึ้นๆ และเพื่อนยังไม่เลิกดูหมิ่นหรือพูดจาลบหลู่สิ่งที่เราเคารพ
สูงสุดในชีวิตของเราอีก ความรักและความอดทนนั้นมันก็จะคงหมดไปได้ในที่สุดเหมือนกัน

เราขอร้องเพื่อนครั้งนี้เป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้าย เราไม่มีเหตุผลอื่นใดที่จะต้องปกป้องใคร หรือเชื่อคำพูดใดๆ ของใครสิ่งที่เราคิด... สิ่งที่เราเป็น
เกิดจากสิ่งที่เราเห็นและประสบด้วยตัวเองทั้งหมด... เรามีชีวิตที่มีความสุขพอสมควรได้ขนาดนี้... ประเทศของเราสามารถยืนหยัดเป็นประเทศไทย
อยู่ได้ทุกวันนี้ ถ้าไม่ได้เกิดจากการปกครองโดย “ธรรม” ของ “ผู้ปกครอง” แล้วจะเกิดจากใคร? ที่พวกเราได้เก็บเกี่ยวดอกผลแห่งความสุขกันอยู่ได้
ทุกวันนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นในแค่ช่วงเวลาที่ “คนๆ นั้น” ขึ้นมาปกครอง... มันน่าจะนานกว่านั้นนะ!! มันน่าจะนานกว่าชีวิตปู่ ย่าตา ยาย ของพวกเราด้วยซ้ำ ...
คิดดูให้ดี ... เราขอร้อง... อย่ามาทะเลาะกันเพียงเพื่อให้คนๆ เดียวได้ความสะใจอีกเลยได้ไหม?

รักเพื่อนเสมอ และลาก่อนสำหรับเพื่อนที่ยังคงศรัทธาในสีแดง

ref: http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000041339
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #89 เมื่อ: 25 มีนาคม 2553, 12:45:31 »

พิมเสน  ย่อมมีค่ามากเกินกว่าที่จะไปแลกกับเกลือ ..     sorry


ด้วยความเห็นใจอย่างที่สุดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  
หากเป็นเราคงหัวใจละลายตายไปตรงนั้นแล้ววว ล่ะค่ะ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #90 เมื่อ: 25 มีนาคม 2553, 12:46:26 »

อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 25 มีนาคม 2553, 11:53:19
เอามาฝากให้อ่าน...จ๊ะ

ถึงเพื่อนที่ชอบสีแดง,

เมื่อตอนบ่ายโมงของวันเสาร์ที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่เราซื้อของจากเอ็มโพเรียมเสร็จแล้วราวๆ บ่ายสองโมง
เรากับแม่ก็ตกลงที่จะใช้เส้นทางผ่านสุขุมวิท 31 ไปเข้าเพชรบุรีตัดใหม่ โดยที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวว่ามีการชุมนุมกันอยู่ที่หน้า
บ้านนายกฯ ในตอนที่เราจะเข้าซอย ได้มีการเอาแผงมากันด้านขาเข้าปากซอย 31 ส่วนด้านขาออกที่จะมายังถนนสุขุมวิทนั้น
มีผู้หญิงสวมเสื้อแดงยืนกันอยู่ และไม่มีอาการสนอกสนใจถึงรถราที่วิ่งเข้าวิ่งออกในซอยนั้นเท่าไรนัก เราก็เลยบีบแตรรถเพื่อ
ให้ผู้หญิงคนนั้นหลีกให้พ้นทาง แล้วเราก็ขับรถเข้าซอยไป... ระหว่างทางเรากับแม่เห็นผู้ชายใส่เสื้อสีแดง ย้อมผมสีส้มยืน
ปัสสาวะอยู่ริมถนน (อย่างไม่อายสายตาใคร) บนรั้วสีขาวของชาวบ้านในซอย 31 โดยที่ในตอนนั้นยังฉุกคิดไม่ทันเสียด้วยซ้ำ
ว่าเกิดอะไรกันขึ้น

จนกระทั่งเราวิ่งเข้ามาจนถึงหน้าร้าน Homework ซึ่งบริเวณนั้นถูกปิดอยู่โดยกลุ่มคนที่ใส่เสื้อแดง พอรถเราหยุด เราก็เห็นผู้ชาย
ตัวใหญ่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ถือธงไทยปลิวไสวมาหยุดอยู่ที่ข้างๆ ตัว พร้อมกับลงมาจากมอเตอร์ไซค์แล้วก็เริ่มเคาะที่กระจกรถ
เรา จากนั้นก็พูดว่า “มรึ..งบีบแต.. ทำไม?”... ส่วนเราก็พยายามมองไปที่ท้ายรถคันข้างหน้าเพราะไม่อยากจะไปยุ่งด้วย ซึ่งการทำ
แบบนั้นก็ไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้นเท่าไหร่นัก ... หลังจากนั้นแค่อึดใจ ก็มีชายฉกรรจ์อีกประมาณ 4 - 5 คนเดินมามุงที่รถเรา
ซึ่งขณะนั้นผู้ชายคนเดิมก็ย้ำคิดย้ำทำอาการเดิมๆ อยู่ โดยเคาะที่กระจกรถแล้วก็พูดต่อ.... “มรึ..งบีบแต..ทำไม?” แม่ของเราซึ่งอายุ
75 แล้ว ก็คงจะเริ่มกลัวแต่ก็ยังมีสติพอที่จะบอกให้เรากลับรถและวนกลับไปยังหน้าซอย แต่พวกผู้ชายเหล่านั้นก็ยังไม่ลดละที่จะมา
ยืนมุงรถเราอยู่... และถามซ้ำประโยคเดิมๆ จนเราทนไม่ได้ เราเลยหันกลับไปมองหน้าคนที่เคาะกระจก แล้วพูดว่า “แล้วจะทำไม?” ...
พอผู้ชายตัวใหญ่คนนั้นอ่านปากเราสำเร็จ เขาก็เริ่มเปลี่ยนจากประโยคคำถามเดิม เป็นประโยคคำถามใหม่ “มรึ..งบีบแต.. ด่ากูใช่ไม๊?” ...
เราก็ไม่ตอบและหันหน้าหนีเพื่อที่จะรอให้รถคันข้างหน้าขยับ และเราก็จะได้ขยับด้วย... แต่ก็ดูเหมือนไม่สำเร็จ “โธ่...อีเหรี้..ย.!!!”….
“อีสั...ว์!!” และอีกสารพัดอี... แต่เดชะบุญรถคันข้างหน้าเราเริ่มขยับได้... เราก็เลยสามารถที่จะขยับตาม และเริ่มที่จะกลับรถได้

พอรถเราเริ่มหันไปทางทิศปากซอยได้... พวกผู้ชายตัวใหญ่ๆ ใส่เสื้อแดง... รวมทั้งเสื้อดำมีผ้าปิดหน้า (ผ้าเจาะรูที่ลูกตาสองข้าง)
ก็ยังไม่ลดละที่จะเดินมาประชิดข้างๆ ตัวเราอีก...พร้อมทั้งพยายามดึงประตูรถ (ทั้งทางฝั่งเรา และฝั่งของแม่) และเอาหัวแหวน
(ขนาดใหญ่) มาเคาะที่กระจกด้านที่เรานั่ง หลายๆ ครั้งหลายหน จนเราทนไม่ได้ ต้องหันกลับไปพูดว่า “กูจะกลับบ้าน”....เท่านั้นแหละ
ผู้ชายที่ยืนอยู่ก็ยิ่งกระชากประตูรถแรงขึ้นๆ ทั้งทางฝั่งเรา และฝั่งแม่เรา “มรึ..งบีบแต...หาแม่มรึ..งเหรอ?? … มรึ..งลงมาเดี๋ยวนี้เลย!!... อีเหรี้..ย”
“โธ่...อีสั..ว์”.... ฯลฯ (นี่... ถ้าคว้านรูลูกตาไอ้โม่งให้มันกว้างกว่านี้อีกสักนิดก็คงจะเห็นหรอกนะว่า... แม่กูนั่งอยู่นี่!!) แล้วก็เคาะๆๆๆ แรง
มาก... จนเราต้องหันหน้าไปจ้องตากับผู้ชายคนนั้น... จ้องกันได้ไม่นาน... ผู้ชายคนนั้นก็ทำท่าทำทางฮึดฮัด และพยายามที่จะหยิบอะไร
ออกมาจากสะเอว (เหมือนกระเป๋าใบเล็กๆ รูปทรงกะทัดรัด) …. แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราหยุดที่จะจ้องเข้าไปในรูเล็กๆ ที่ปิดบังลูกตาของผู้ชาย
คนนั้นอยู่... เพราะเราก็อยากรู้เหมือนกันว่า “แล้วจะทำไม?” … ยิ่งจ้องผู้ชายคนนั้นก็ยิ่งฮึดฮัด เขย่าที่เปิดประตูรถแรงขึ้นๆ... จนเราได้ยิน
เสียงผู้ชายอีกคนพูดว่า “ปล่อยมันไปเหอะ... ผู้หญิง... ผู้หญิง... ปล่อยมันไปเหอะ”… พอเราได้สติ นึกขึ้นได้ว่าแม่นั่งอยู่ด้วย เราก็เลยเข้า
เกียร์เดินหน้า แต่มิวายก็ได้ยินเสียงรถ “ถูกถีบ” ตามมาให้เราได้ยินก่อนที่จะขับรถจากไป

จากเหตุการณ์ที่เราเล่า เป็นเรื่องที่เราประสบด้วยตัวเอง... ไม่มีการตัดต่อ ไม่มีการใส่สีใส่ไข่ให้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่เราต้องพูดอย่างนี้ก็
เพราะว่าหลายๆ ครั้ง เพื่อนสีแดงของเราชอบบอกว่าข่าวสารบ้านเมืองของเราถูกบิดเบือน พวกชาวบ้านอย่างเราถูก “ปิดหูปิดตา” … เพื่อนๆ
บางคนอาจจะเห็นว่าเรา “วอน” หาเรื่อง หรืออาจจะมีความรู้สึกกับเรื่องราวที่เราเราให้ฟังนี้ไปได้อีกหลากหลาย แต่สำหรับแม่ของเรา ซึ่งไม่
เคยเจอะเคยเจออะไรประชิดตัวอย่างนี้มาจนอายุ 75… แน่นอน เป็นเรื่องที่ทำให้แม่ตกใจมาก และสั่นกลัวไปทั้งวัน จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น
แม่ก็ยังตกใจกลัวอยู่ ... ส่วนตัวเราเองตั้งแต่วินาทีที่ขับรถพ้นคนกลุ่มนั้นออกมา ความรู้สึกที่เกิดขึ้น และชัดเจนที่สุดที่สามารถอธิบายได้คือ
“นี่มันอะไรกัน?” อะไรที่ทำให้คนที่ไม่รู้จักกัน ไม่เคยมีเรื่องมีราวกัน สามารถที่จะปฏิบัติต่อกันได้ขนาดนี้? และเราก็บอกได้เลยว่าในสายตา
และท่าทางของคนเหล่านั้น เราสามารถรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังที่มีมากมายราวกับสะสมมาตั้งแต่ชาติปางก่อน

ความรู้สึกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองในวันนั้น... มันได้ทำให้ความรู้สึกเดิมๆ ที่เคยมีแต่ต้องเก็บเอาไว้มันหวนกลับมาในสมองของเราอีก...
เพื่อนๆ ที่ศรัทธาในสีแดงของเราทุกเฉด... เราขอบอกตรงนี้นะว่า “หยุดเถอะ” หยุดที่จะสร้างความอึดอัดให้กับคนรอบข้างที่รักเพื่อน และที่ยิน
ยอมที่จะไม่พูด ไม่เถียง เพียงเพราะต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากัน และแตกคอกันของคนในสังคมเล็กๆ ของเรา ... หลายครั้งที่เรา
หยุด และเลี่ยง เพียงเพราะต้องการให้การสังสรรค์ หรือความสุขที่เรามีร่วมกันขณะนั้นมันสามารถไปต่อได้ ... แต่ตอนนี้เราขอบอกตรงๆ กับ
เพื่อนนะว่า เราไม่สามารถที่จะมีความสุขในลักษณะนี้ได้อีกต่อไปแล้ว

เราไม่รู้หรอกว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เพื่อนบางคนรู้สึกศรัทธาในสีที่ว่านี้ ... มันอาจจะมาจากความเป็นอยู่ที่สุขสบายมากขึ้น หรือเพียงแต่
ศรัทธาเพราะต้องการที่จะแตกต่าง หรือศรัทธาเพราะคนรุ่นเราถูกสอนให้ “รู้จักคิด” และ “แสดงความคิด” เราไม่รู้ ... แต่สำหรับเรา สิ่งที่เรา
รักและศรัทธานั้นเกิดขึ้นมานานกว่าช่วงเวลาที่ “คนๆ นั้น” ก้าวขึ้นมามีอำนาจ และเราก็มั่นใจอีกว่ามันนานกว่าชั่วชีวิต 40กว่าปีของเราด้วยซ้ำ
เพราะความรัก ความศรัทธานี้มีมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยายของเรา และมันก็ฝังลึกเกินกว่าที่เราจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นได้... ดังนั้นเราขอให้
เพื่อนหยุดเถอะ... หยุดสร้างความรู้สึกกดดัน และอึดอัดให้กับคนอื่นๆ ที่รักเพื่อนเสียที...

เรารู้เสียใจที่หลายครั้งต้องมารับรู้ว่ามีหลายครอบครัวที่คนในบ้านมีการ แบ่งสี แบ่งฝ่าย…. ทะเลากันจนทำให้พี่น้องต้องแตกหักกันไป ... แต่
สำหรับเราเอง... เรายังโชคดีที่คนในครอบครัว และคนรอบๆ ตัวเราส่วนใหญ่ไม่ได้ศรัทธา หรือเชื่อในสิ่งที่ “คนๆ นั้น”พยายามทำให้มันเกิดขึ้น
แต่เพื่อนสีแดงของเราทั้งหลาย... นับแต่บัดนี้เราขอบอกเพื่อนว่า...วันนี้เราจะไม่หลีกเลี่ยงการพูดจาตรงไปตรงมากับเพื่อนอีกต่อไป... เราจะ
ไม่ตำหนิติเตียนความคิดเห็นของเพื่อนลับหลังอีกต่อไป... ขอให้เพื่อนรู้เอาไว้ตรงนี้แล้วกันนะว่า การที่เรา... หรือพวกเราเงียบเป็นเพราะว่าเรา
ยังมีความรักในตัวเพื่อนอยู่มาก แต่ถ้าเมื่อใด ความก้าวล่วงความรู้สึกที่ว่านี้มันมีมากขึ้นๆ และเพื่อนยังไม่เลิกดูหมิ่นหรือพูดจาลบหลู่สิ่งที่เราเคารพ
สูงสุดในชีวิตของเราอีก ความรักและความอดทนนั้นมันก็จะคงหมดไปได้ในที่สุดเหมือนกัน

เราขอร้องเพื่อนครั้งนี้เป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้าย เราไม่มีเหตุผลอื่นใดที่จะต้องปกป้องใคร หรือเชื่อคำพูดใดๆ ของใครสิ่งที่เราคิด... สิ่งที่เราเป็น
เกิดจากสิ่งที่เราเห็นและประสบด้วยตัวเองทั้งหมด... เรามีชีวิตที่มีความสุขพอสมควรได้ขนาดนี้... ประเทศของเราสามารถยืนหยัดเป็นประเทศไทย
อยู่ได้ทุกวันนี้ ถ้าไม่ได้เกิดจากการปกครองโดย “ธรรม” ของ “ผู้ปกครอง” แล้วจะเกิดจากใคร? ที่พวกเราได้เก็บเกี่ยวดอกผลแห่งความสุขกันอยู่ได้
ทุกวันนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นในแค่ช่วงเวลาที่ “คนๆ นั้น” ขึ้นมาปกครอง... มันน่าจะนานกว่านั้นนะ!! มันน่าจะนานกว่าชีวิตปู่ ย่าตา ยาย ของพวกเราด้วยซ้ำ ...
คิดดูให้ดี ... เราขอร้อง... อย่ามาทะเลาะกันเพียงเพื่อให้คนๆ เดียวได้ความสะใจอีกเลยได้ไหม?

รักเพื่อนเสมอ และลาก่อนสำหรับเพื่อนที่ยังคงศรัทธาในสีแดง

พี่เจี๊ยบ คนต่ำช้าพวกนี้ ไปอยู่ที่ไหนก็ก่อเเต่ความเสื่อม อย่าได้คล่องแวะด้วย เป็นดี อย่าไม่คล่องแวะ มีเรื่อง
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #91 เมื่อ: 25 มีนาคม 2553, 12:51:20 »

พี่อ้อย หรือเปล่า ปาทู .. ไม่น่าจะใช่พี่เจี๊ยบนะ .. ??      งง งง

ง่วงหรือเมา  .. ตอนนี้อย่าขับรถนะคะ
ด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่ง



      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #92 เมื่อ: 25 มีนาคม 2553, 14:28:17 »

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 24 มีนาคม 2553, 14:41:57
อ่านคลายเครียด



  ถาม: เจองู กับ เจอแขก
            ท่านเลือกจะตีงูหรือตีแขก?

 
  ตอบ : ตีทักษิณก่อน

ถาม : ถ้ามีไม้ 2 อัน อันแรกตีทักษิณก่อน แล้วอันที่ 2 ล่ะ?

ตอบ : ตีทักษิณอีกที (กลัวมันไม่ตาย)
 

 
 
 
 


              ถาม     ถ้ามีไม้อันที่ 3  จะตีใครต่อไป?

              ตอบ     ตีอัลไซเม่อร์จิ๋ว


             ถาม       แล้วถ้ามีไม้อีกอันเป็นไม้อันที่ 4 ล่ะ จะตีใครต่อไปดี?

             ตอบ      ต้องตีเตี้ยบรรหาญ

           
             ประเทศอื่นๆอดีตผู้นำที่ลงจากอำนาจและตำแหน่งหน้าที่แล้ว  เขาก็มักจะปฎิบัติทำตัวให้เป็นประโยชน์

       ต่อสังคมและประเทศชาติ  ทำตัวเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ให้แก่บ้านเมืองเป็นที่เคารพนับถือของประชาชน  คอย

      ให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาให้แก่คนที่รับช่วงต่อมา  เข้าให้ความช่วยเหลือยามที่ประเทศชาติเดือดร้อนมี

      วิกฤตการหรือประสบปัญหา ไม่แต่เฉพาะภายประเทศของตนแต่ยังเผื่อแผ่ประเทศอื่นๆยามประสบปัญหาด้วย

      ดังเช่นอดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา,ฟิลลิปปิน,อดีตนายกฯอังกฤษ ฯลฯ 


                 แต่เมื่อกลับมามองย้อนดูบ้านเราในปัจจุบัน  เห็นแล้วก็เศร้าใจและน่าอับอายที่อดีตผู้นำ(นายกรัฐมนตรี)

      ของประเทศเราถึง 3 คน  กลับปฎิบัติตัวไม่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่สมกับที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำของประเทศ

      ไม่ทำตัวให้เป็นที่น่าเคารพนับถือ  ไม่เคยคิดที่จะทำตัวให้เป็นประโยชน์ตอบแทนคุณให้แก่ประเทศชาติและ

      ประชาชน คอยสร้างแต่ปัญหาเพียงเพื่อต้องการสนองตัณหา  อยากกลับมามีอำนาจและความรํ่ารวยจากอำนาจ

      ตำแหน่งหน้าที่กันอีกไม่สิ้นสุด  ไม่เคยคิดกันเลยหรือว่าตอนนี้แต่ละคนก็อายุมาก(แก่)กันแล้ว  อยู่กันอีกไม่กี่

      ปีก็ต้องตายจากโลกนี้ไปสวรรค์(หรือลงนรก)กันทั้งหมด  เวลาตายไปแล้วทั้งเงินและอำนาจก็เอาติดตัวไปไม่

      ได้  มีเพียงเหรียญบาทอันเดียวเท่านั้นที่สัปเหร่อยัดใส่ปากให้ติดตัวเพื่อซื้อที่ทางก่อนตีปิดฝาโลง


                                                 สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์

                                                 เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น

                                                 จงเป็นสุข เป็นสุข เถิด.....

          (ขออาสาสมัครช่วยต่อบทสวดมนต์นี้ให้จบด้วยครับ ไม่อยากพิมพ์ต่อแล้วแต่อยากหาไม้มาสัก 4 อัน)

                                     
                                             



     
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #93 เมื่อ: 25 มีนาคม 2553, 16:11:18 »

อย่ามีเวรแก่กันและกันเลย ..

จงเป็นสุข เป็นสุข เถิด

อย่าได้ทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย ..
     



sorry
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #94 เมื่อ: 25 มีนาคม 2553, 16:12:10 »

ว่าแล้วก็ยื่นไม้ (หน้าสาม ดามด้วยเหล็ก) จำนวน 4 อัน  ส่งให้พี่แก้ว ทันที .. คริคริ     สะใจจัง
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #95 เมื่อ: 25 มีนาคม 2553, 16:15:04 »

อาสาสมัคร มาขอต่อจากพี่ปรีชา ที่เข้มแข็ง-ที่เคารพของพวกเรา


คำแผ่เมตตา

สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์
เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น

อะเวรา
จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด
อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพพะยาปัชฌา
จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด
อย่างได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆา
จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด
อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย

สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ.
จงมีความสุขกาย สุขใจ
รักษาตนให้พ้นจาก ทุกข์ ภัย ทั้งสิ้น เถิด.
........
      บันทึกการเข้า

swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #96 เมื่อ: 25 มีนาคม 2553, 16:16:30 »

โห .. พี่วณิชย์ของจริง  มาเป็นแผงเลยอ่ะ ..      เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #97 เมื่อ: 25 มีนาคม 2553, 17:31:14 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 25 มีนาคม 2553, 12:51:20
พี่อ้อย หรือเปล่า ปาทู .. ไม่น่าจะใช่พี่เจี๊ยบนะ .. ??      งง งง

ง่วงหรือเมา  .. ตอนนี้อย่าขับรถนะคะ
ด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่ง




พี่อ้อยครับ พอดีนึกถึงพี่ที่ทำงานอยู่เลยสับสน ขออำไพ
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #98 เมื่อ: 25 มีนาคม 2553, 17:36:59 »

ใจลอย ..    หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #99 เมื่อ: 25 มีนาคม 2553, 20:19:45 »

รำผิดหรือป๋าทู
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
  หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 21  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><