Kalmar-Sweden-Finland

[โบว์ RCU88]

หิวแล้วค่ะพี่... ขออนุญาตไปหาอะไรมากระแทกปากตัวเองซักหน่อยก่อนค่ะ

[หนุน'21]

 

เพิ่งเห็นกระทู้นี้ครับ
คุณน้องยา

มาตามอ่านตามดูรายงานการเดินทาง
ที่น่าจะให้ความเพลิดเพลิน และได้ชมภาพสวยๆด้วย
ภาษาที่ใช้ในการเล่าเรื่อง น่าติดตามมาก
ชื่นชมครับ

 

[swsm]

กระทู้นี้ฟื้นแล้ว .. เล่าต่อเลยค่ะน้องยา
ได้ความรู้ดีจัง   

[ภาณุ ปาตานี]

No.4

ต่อจากหน้าที่ 1

ขอบคุณครับพี่หนุน พีหะยี และน้องโบว์ที่มาแวะชม ครับ เป็นกำลังใจอย่างยิ่งครับ

ก่อนที่จะไปต่อ ขอกล่าวถึงการใช้ภาษาอังกฤษสักหน่อยก็แล้วกัน
ผมว่าเราเป็นประเทศที่เรียนภาษาอังกฤษมาก และเก่ง แต่เราไม่ประสบความสำเร็จในการใช้ภาษาอังกฤษ(เด็กรุ่นใหม่สมัยนี้อาจจะ OK กว่านะครับ)

ขอออกตัวไว้ก่อนว่า นี่คือการเรียนรู้และข้อสังเกตุโดยธรรมชาติ และผมไม่ได้เก่งมากมายนะครับ เล่าเท่าที่รู้จริงๆ หากพี่ๆน้องๆท่านใด เป็นผู้รู้
ขอได้โปรด Feel Free ในการให้ความเห็นได้นะครับ จะได้เป็นความรู้แก่ผมด้วย จะขอบคุณยิ่ง

ผมสังเกตุว่า ตามที่เรารู้กัน ภาษาไทยเราจะมีหลักสำคัญที่บ่งบอกถึงคำ คือจะมีตัวสะกดคือ แม่กก แม่กบ แม่กด แม่กน แม่กง  

ดังนั้นของเราไม่ว่าจะสะกดด้วยตัวอะไรก็แล้วแต่เราก็จะออกเสียงเป็นแม่ทั้งห้านี้แหละครับ(ไม่เกี่ยวกับแม่นาค หรือแม่ฮ่องสอนนะครับ)

ในขณะเดียวกัน วรรณยุกต์ เอก โท ตรี จัตวา ของเราเป็นตัวบ่งบอกว่าเป็นคนละคำ คนละความหมาย เช่น ไก ไก่ ไก้ ไก๊ ไก๋  ก็มีความหมายในตัวมันเอง ส่วนภาษาอังกฤษไม่ใช้วรรณยุกต์ ดังนั้นเสียงของวรรณยุกต์จึงไม่มีความหมายในเชิงคำ แต่เป็นการแสดงถึงอาการ เช่นตกใจ จะเป็นเสียงสูง หรือ ห่อเหี่ยวก็ใช้เสียงต่ำ เป็นต้น

ที่นี้ พอเราเรียนภาษาอังกฤษตามที่ครูสอน (เริ่มโทษครูแล้วครับท่าน) เราก็ใช้ทักษะเดียวกันกับภาษาไทย คือ
is เราจะออกเสียง อีท (แม่กด) พอเราจะบอกกับฝรั่งว่า He is a doctor. ฝรั่งมันก็ตกใจนึกว่า "He eats a doctor" มันก็ตกใจวิ่งหนี
นึ่กว่าจะกินมัน เราก็งง วิ่งหนีทำไมวะ สงสัยไอ้นี้จะกลัวเข็มฉีดยา (ว่าเข้าไปโน่น)

ที่นี้ถ้าเรามากันหลายคน และแนะนำว่า He is a teacher, a manager, a police ฝรั่งคงตกใจมากกว่านี้ ว่ามันจะกินทั้งกลุ่มแน่ ตูจะอยู่ทำไมวะ
เปิดก่อนดีกว่า และคงวิ่งแจ้นตูดชี้เลยครับ

ผมเรียนรู้ว่า การใช้ภาษาอังกฤษก็คือต้องออกตัวสะกดให้ถูกต้อง
ถ้าเราให้ความสำคัญกับวรรณยุกต์ ระหว่าง ไม้เอก จนถึง จัตวา ในภาษาไทยฉันท์ใด
ตัวสะกดในภาษาอังกฤษก็มีความสำคัญฉันท์นั้นละครับ

เช่น IS ต้องออกเสียง อีส ครับ
คนไทยอาจบอกว่าออกเสียงยาก แต่ผมว่าเราออกว่า อีสะ (สะสั้นๆ แบบไม่เต็มใจออกเสียงนะครับ) แค่นี้หละครับ ฝรั่งมั่นใจ ว่าเราไม่กินมันแล้ว

ผมเคยพูดคำว่า Account แบบมั่นใจกับHouse mate ว่า "แอคเคาท์" ได้เรื่องเลยครับ เธอถามผมอยู่นั่นแหละว่า What? ผมก็พูดใหม่ เธอก็ What? พูดกี่ที่เธอก็ What? อยู่นั้นแหละ ผมชักฉุนแล้ว คิดในใจว่า สงสัยเธอพูดภาษาอังกฤษไม่เป็น(ลืมตัวครับว่า House Mate ผมคนนี้ เธอเกิดที่ Nottingham และถือบัตรประชาชนของประเทศอังกฤษ) ผมเลยบอกเธอว่า "แอคเคาท์" ที่เกี่ยวกับรายการของธนาคาร ไม่เข้าใจหรือ? ตอนนั้นสงสัยว่า เธอคงไม่เคยเปิดบัญชีธนาคารครับพี่น้อง แค่นั้นแหละครับ เธอร้อง อ๋อ เลย (ผมก็ยิ้ม มั่นใจว่าเธอไม่เคยมีบัญชีธนาคาร เสร็จตู ยัยฝรั่งบ้านนอก)

ที่ไหนได้ เธอถามผมว่า "ตัว N ของยูหายไปไหน ต้องออกเสียง "แอคเคานท" คือออกเสียงคล้ายกับว่า แอคเคานะเธอ แต่ช่วงท้ายตรง "นะเธอ"ออกแบบไม่เต็มใจออกเสียง (เธอไม่ได้ว่า"นะเธอ.นะครับ ผมคิดเอง )

ค่อยว่ากันต่อนะครับ

 
                                                                                                                                             
                                                                                                                                                           

[หนุน'21]

 

เฮ้ยยยย....ครูยา น้องยา อาจารย์ยา หรือท่านทนายยา
เรียกยังไงดีวะเนี่ย
ชอบวิธีเล่า วิธีเขียนบรรยาย
อ่านไปได้อย่างเพลิดเพลิน ได้ตัวอย่างที่ดีด้วย
ชอบว่ะ
มาเล่าต่ออีกเน้อ
ขอเป็นลูกศิษย์ด้วยคน

 

[โบว์ RCU88]

		อ้างถึง			ข้อความของ swsm เมื่อ 07 ธันวาคม 2552, 01:21:12
	อ้างถึง ข้อความของ Ya Panuwat เมื่อ 07 ธันวาคม 2552, 00:15:49 Rome ผมว่ามันเหมือนกับ อยุธยา สุโขทัย บ้านเรานะ Amsterdams นี่เหมือนพัฒน์พงศ์ ผสมทางไปสุพรรณบุรี คือระหว่างทางมีแต่ทุ่งนา ครับ  Brussel เหมือนบางซื่อ มีแต่ทางรถไฟ, Swiss เหมือนกับไปทางไปอุตรดิตถ์ ไปเชียงราย ผ่านทางพิษณุโลก(สายเก่า)  มีแต่ทุ่งหญ้า, ส่วนทางSweden หนักไปทางต้นไม้เหมือนกับสวนยางภาคใต้ ผมว่ามันคล้ายกันนะ, Hamburge เหมือนไปท่าเรือแหลมฉบัง, Copenhagen เหมือนสุวรรณภูมิผสมหัวลำโพง, Berlin นี่หนักเลย เหมือนไปงานวัดและมีกำแพงอยู่ ใครๆก็ไปดูกำแพง ผมก็ไปดู สุดท้ายมันก็คือกำแพง รุ้งีไปดูกำแพงวัดพระแก้วดีกว่า, Vienna ก็คงคล้ายกันกับไปวังบูรพา มั้ง ส่วน Munich เหมือนเดินอยู่แถวบางลำพูไปท่าพระจันทร์   ส่วน Helsinki นีเหมือนต่างจังหวัดบ้านเราเลยนะ เมืองเล็ก มีสถานีรถไฟอยู่กลางเมือง  ส่วนเมือง Piza โชคดีที่ผมถาม Davida ชาว Italian เพือนผมว่ามีอะไรมั่ง มันบอกว่ามีแต่หอเอียงๆ นั่นแหละ จะไปดูอะไร ค่ารถก็แพง ผมเลยไม่ไป ขี้เกียจเอียงคอตาม!ส่วน Paris นี้ เหมือนไปงานวัดซิ้อน้ำหอม แล้วก็ดูหอ Eifle ที่เหลือจากนั้นเหมือนวัดพระแก้วนี่แหละครับ. Dusserdolf นี่คงเหมือนๆ นครสวรรค์ อยู่ริมแม่น้ำไรน์ (อ่านว่า งราย ครับ)   (โอ้โฮ-ว่าเข้าไปนั่น เรื่อยเปื่อยนะครับ เอามันส์ -ของจริงเขามีดีครับ) พี่ยาใช้ชีวิตคุ้มจริงๆค่ะ อยากรู้ว่าจนแล้วจนรอดได้ไปหอเอนเมืองPizaมั้ยคะ ไม่ต้องไปแล้วเอียงคอตามก็ได้ ไปถ่ายรูปแบบเอามือไปดันๆ ยันๆไว้แบบที่เค้าชอบถ่ายกันก็น่าจะดี เอิ่มม ว่าแต่พี่เปรียบเทียบเมืองนี้เหมือนจังหวัดนู้น จังหวัดนั้นมาตั้งเยอะ... อยากทราบว่าจังหวัดตากบ้านโบว์เหมือนเมืองไหนบ้างมั้ยคะพี่ คริๆๆ

[ภาณุ ปาตานี]

 สุดท้าย พี่ก็ยังไม่ได้ไปเมือง Pisa ครับ แต่เอาเงินไปซื้อรูปหอเอน กับ กิน Pizza แทน คุ้มกว่าครับ
แต่พี่ใช้เวลาที่โรม กับ วาติกัน ในอิตาลี มากเป็นพิเศษ แล้วจะเล่าให้ฟัง

พอดีเมืองนอกไม่มีประเพณีกระทงสาย...กับ..พระเจ้าตาก..
ขอรอคิดดูก่อนนะ แล้วจะเล่าให้ฟัง

[ภาณุ ปาตานี]

		อ้างถึง			ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 27 ธันวาคม 2552, 21:56:06
	เฮ้ยยยย....ครูยา น้องยา อาจารย์ยา หรือท่านทนายยา เรียกยังไงดีวะเนี่ย ชอบวิธีเล่า วิธีเขียนบรรยาย อ่านไปได้อย่างเพลิดเพลิน ได้ตัวอย่างที่ดีด้วย ชอบว่ะ มาเล่าต่ออีกเน้อ ขอเป็นลูกศิษย์ด้วยคน

ขอบคุณครับพี่หนุน..ที่ติชม
เริ่มรู้สึกอยากเล่าเยอะๆ แล้วละครับ

[โบว์ RCU88]

เล่าเลยค่ะพี่... ตีตั๋วรออ่านอยู่ 

[โบว์ RCU88]

ลาไปนอนแล้วค่ะพี่ๆทุกท่าน

นอนหลับฝันถึงเวียนนาก็น่าจะดีไม่น้อย ฮิๆๆๆ
(เอ๊ะ.. แต่ตะกี้เพิ่งเข้าไปห้องเมียงู แล้วขอให้ฝันว่าถูกงูหล่อๆรัดอยู่เลยนิเรา)

 

[ภาณุ ปาตานี]

 

             บริเวณภายในอาคารของมหาวิทยาลัย

[ภาณุ ปาตานี]

 



                                                         ห้องของเราครับ อยู่ซ้ายมือชั้นล่าง

[ภาณุ ปาตานี]

                              ทะเล Baltic ช่วงเดือนสิงหาคม


                              ทะเล Baltic เดือนมีนาคม(เป็นน้ำแข็งหมดเลย)

[ภาณุ ปาตานี]

                                  
                                   บริเวณสนามฟุตบอลกลางเดือนตุลาคม


                                 
                                    อีกมุมหนึ่งของปราสาทแห่งเมือง Kalmar และเป็นสัญญลักษณ์ของเมือง

[ภาณุ ปาตานี]

                                          บริเวณโบสถ์ใจกลางเมือง



                                       
                                          บริเวณตลาดนัดลานกลางเมือง

[ภาณุ ปาตานี]

                  หลังจากพยายาม Download มาหลายวัน สำเร็จเสียที
                          แล้วค่อยมาว่ากันต่อนะครับ
                  

[ภาณุ ปาตานี]

No.5

ขอต่อเรื่องภาษาอังกฤษอีกหน่อยนะครับ

ทีนี้พอเราออกเสียงตามตัวสะกดตามที่กล่าวถึงล่วงหน้าไปแล้ว(ในหน้านี้ครับ)
เราก็มาพูดถึงการออกเสียงตามพยัญชนะในภาษาอังกฤษ
โดยทั่วไป ผมก็เห็นว่าส่วนใหญ่ก็เหมือนกับอักษรไทยทุกประการ

จะมีต่างกันบ้างก็ตรงตัว G, J ,Z ซึ่งจะไม่ ก หรือ จ หรือ ซ มันมากกว่านั้น ถึงผมจะออกเสียงได้ แต่ผมยอมรับว่ามันเป็นความสามารถเฉพาะตัวจริงๆครับ จะอธิบายเป็นหนังสือยากมากว่าจะออกเสียงอย่างไร แต่ก็พออนุโลมเป็นตัว ก,จ,ซ สำหรับใช้งานนะครับ (เนื่องจากมันฝืนกับภาษาไทยของเรามากไปครับ)  คนฟังปกติเขาก็พยามจะฟังอยู่แล้วและก็พยายามที่จะเข้าใจอยู่แล้ว ก็คงพอจะอนุมานได้ ถ้าฝรั่งฟังไม่ได้ ไม่เข้าใจ  ก็ถือว่า "ฝรั่งมันโง่" ก็แล้วกันครับ เราพูดดีแล้วครับ ค่อยฝึกไปเดี๊ยวก็ดีขึ้นเอง ข้อสำคัญตัวสะกดแม่ต่างๆ ตามที่ผมกล่าวไว้ข้างต้นเอาให้ครบถ้วนก็แล้วกันนะครับ

อย่าง st นี่ก็แม่ กสท (อ่าน แม่กส-เถอะ)- (ไม่ใช่การสื่อสารแห่งประเทศไทยนะครับ) คือ อย่างคำว่า Last นี่ ถ้าเริ่มต้นจาก "ลาซะเถอะ" แสดงว่ามาถูกทางแล้วครับ แล้วค่อยปรับตามเสี่ยงของฝรั่งเขา อย่ากลับไปหาแม่กด เป็น "ล๊าด" อีกละครับ เดี๋ยวฝรั่งมันนึกว่า เรามาจากทางใต้และกำลังจะไปตลาดแทน (ทางใต้เรียกตลาดว่า "ล๊าด") เพราะฉะนั้นถ้าเห็นตัวสะกดสุดท้ายเป็น st เมื่อไร ก็จำแต่เพียง "ซะเถอะ"ตอนท้ายก็แล้วกัน

Thing ถ้าจะออกเสียงให้ถูก ต้องเอานิ้วมาทาบกับริมฝีปากในท่า จุ๊จุ๊ แล้วพูดคำนี้ ถ้าพูดคำนี้แล้ว "นิ้วเปียก" นั่นแหละถูกต้องแล้ว ถ้าไม่เปียกมันจะกลายเป็น Ting หรือไม่ Sing ไปนะครับ ( ฮ้า..ขนาดนั้นเชียวหรือ เหม็นน้ำลายตายชัก กว่าจะพูดได้) ไม่เป็นไรครับ ดูดนิ้วเข้าไปใหม่ จะได้ไม่ขาดทุน
มันจะเปี่ยกทั้งนิ้วไงครับ

อ้อได้ความรู้มาอีกอย่างว่า แมวเยอรมัน ร้อง "แมว" ส่วนแมวอังกฤษร้อง "เหมียว" ครับ



เอาแค่นี้ก่อนแล้วกันครับ เดี่ยวจะไปเที่ยวแล้ว

[swsm]

จะไปเที่ยวที่ไหน .. ป้าไปด้วยยยย     

[swsm]

ขอบอกว่า .. ชอบวิวนี้มากกกก
ถ้ามีบ้านอยู่ริมเล  คงสุขที่สุด

ชอบทะเล ชอบทะเล  ชอบทะเล

[ภาณุ ปาตานี]

		อ้างถึง			ข้อความของ swsm เมื่อ 28 ธันวาคม 2552, 12:18:22
	ขอบอกว่า .. ชอบวิวนี้มากกกก ถ้ามีบ้านอยู่ริมเล  คงสุขที่สุด ชอบทะเล ชอบทะเล  ชอบทะเล

ข้อดีคือ น้ำไม่ค่อยจะเค็มนะครับ ไม่เหนียวตัวเลย

[โบว์ RCU88]

		อ้างถึง			ข้อความของ swsm เมื่อ 28 ธันวาคม 2552, 12:17:27
	จะไปเที่ยวที่ไหน .. ป้าไปด้วยยยย

หนูอยากนั่งจับเข่าคุยกับลูกสาวพี่หยีจังเลยค่ะ 

[swsm]

		อ้างถึง			ข้อความของ Ya เมื่อ 28 ธันวาคม 2552, 12:21:23
	ข้อดีคือ น้ำไม่ค่อยจะเค็มนะครับ ไม่เหนียวตัวเลย

ทะเลสาบ .. ก็ชอบ  
ไม่เกี่ยงความเค็มหรือไม่เค็มของน้ำค่ะ    

[swsm]

		อ้างถึง			ข้อความของ โบว์ RCU88 เมื่อ 28 ธันวาคม 2552, 12:28:10
	อ้างถึง ข้อความของ swsm เมื่อ 28 ธันวาคม 2552, 12:17:27 จะไปเที่ยวที่ไหน .. ป้าไปด้วยยยย     หนูอยากนั่งจับเข่าคุยกับลูกสาวพี่หยีจังเลยค่ะ

ไมเหรอ ??  จะล้วงความลับของพี่จากลูกสาวหรือคะ ??

คริคริ ..

[โบว์ RCU88]

		อ้างถึง			ข้อความของ swsm เมื่อ 28 ธันวาคม 2552, 12:29:24
	อ้างถึง ข้อความของ โบว์ RCU88 เมื่อ 28 ธันวาคม 2552, 12:28:10 อ้างถึง ข้อความของ swsm เมื่อ 28 ธันวาคม 2552, 12:17:27 จะไปเที่ยวที่ไหน .. ป้าไปด้วยยยย      หนูอยากนั่งจับเข่าคุยกับลูกสาวพี่หยีจังเลยค่ะ  ไมเหรอ ??  จะล้วงความลับของพี่จากลูกสาวหรือคะ ?? คริคริ ..

จะถามว่า.. อยู่บ้านคุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ เล่าให้พี่ฟังหน่อยซิ

แล้วก็จะชวนลูกคุณพี่หะยีมานั่งเล่นในเว็บซีมะโด่งด้วยกัน แล้วก็ถามอีกว่า... คุณแม่เป็นอย่างนี้มั้ยจ๊ะะะะะ

อิอิ 

[swsm]

ลูกสาวพี่มีชีวิตมุมนี้  อยู่ที่ Siam Zone ค่ะ
ทุกคืนแม่ลูกจะนั่งเล่นด้วยกัน  ตามความสนใจของตัวเอง
notebook คนละเครื่อง
แล้วผลัดกันหัวเราะ ..  กร๊าาาก  กร๊าาาาก

ลูกก็รู้ว่าเรามีชีวิตอยู่ที่ซีมะโด่ง
บางทีหัวเราะดัง ๆ เขาก็ชะโงกมาดูว่า  เราหัวเราะอะไร ?? .. คริคริ