Kalmar-Sweden-Finland

[ภาณุ ปาตานี]

No.20

ต่อจากหน้า 10

ว่ากันต่อนะครับ

               ระบบการเรียนการสอนที่นี่ก็จะใช้เวลาใน Class อาทิตย์ละ 3 วันๆละ 3 ชั่วโมง โดยในแต่ละชั่วโมงก็จะมีการพัก 10 นาที เหตุผลที่อ้างก็คือ จากการวิจัยพบว่าสมาธิคนเราจะมีไม่เกิน 1 ชั่วโมง ดังนั้นจึงต้อง Break ทุกๆ ชั่วโมง อันนี้สงสัยว่าจะสู้เด็กไทยเราไม่ได้นะครับ อาจารย์พูดอย่างเดียว 2-3 ชั่วโมงรวดเดียว นิสิตฟังมั่ง ไม่ฟังมั่ง หลับบ้าง คุยบ้าง เข้าห้องน้ำบ้าง ก็ว่ากันไป
  
              ในการเรียนนั้นจะมี Schedule ที่ชัดเจนและเป็นไปตามนั้น โดยจะมีการมอบหมายให้อ่านหนังสือล่วงหน้า (ก็ไม่เยอะหรอกครับ ประมาณ 250-300 หน้าต่ออาทิตย์เท่านั้น (ว้อย)

              วันแรกอาจารย์ก็จะ Briefs Theories ที่ (ถือว่า) เราได้อ่านมาแล้วให้ฟัง จากนั้นก็จะแบ่งกลุ่มและมอบหมาย a Case Study ให้
              วันที่สองนักศึกษาแต่ละกลุ่มก็เอา The Case ตามที่ได้รับมอบหมายมา Presents จากนั้นแต่ละกลุ่มก็แสดงความเห็นต่อการ Presents ของแต่ละกลุ่ม
             วันที่สามอาจารย์กับนักศึกษาก็จะ Discuss กันในหัวข้อดังกล่าว
      
            แต่พี่น้องครับ ทั้งสามวันในห้อง ทั้งอาจารย์ ทั้งลูกศิษย์ Discuss กันนะครับ..แย่งกันอุตลุด...ดุเดือดครับ..ดุเดือด
            
            อาทิตย์แรกของผม..ผมก็แค่สงสัยว่า.."ตกลงใครสอนใครกันวะนี่"

[YOTSAWIN]

เพื่อนยา  อยู่กรุงเทพแล้ว ว่างนัดเจอกันด้วยเพื่อน

[ภาณุ ปาตานี]

		อ้างถึง			ข้อความของ YOTSAWIN เมื่อ 31 มกราคม 2553, 06:32:13
	เพื่อนยา  อยู่กรุงเทพแล้ว ว่างนัดเจอกันด้วยเพื่อน

ครับเจี๋ยบ...ดีใจครับจะได้เจอเพื่อน

[YOTSAWIN]

		อ้างถึง			ข้อความของ YA เมื่อ 31 มกราคม 2553, 06:38:30
	อ้างถึง ข้อความของ YOTSAWIN เมื่อ 31 มกราคม 2553, 06:32:13 เพื่อนยา  อยู่กรุงเทพแล้ว ว่างนัดเจอกันด้วยเพื่อน ครับเจี๋ยบ...ดีใจครับจะได้เจอเพื่อน

แล้วโทรมานะ
0867718778

[ภาณุ ปาตานี]

		อ้างถึง			ข้อความของ YOTSAWIN เมื่อ 31 มกราคม 2553, 06:43:33
	อ้างถึง ข้อความของ YA เมื่อ 31 มกราคม 2553, 06:38:30 อ้างถึง ข้อความของ YOTSAWIN เมื่อ 31 มกราคม 2553, 06:32:13 เพื่อนยา  อยู่กรุงเทพแล้ว ว่างนัดเจอกันด้วยเพื่อน ครับเจี๋ยบ...ดีใจครับจะได้เจอเพื่อน แล้วโทรมานะ 0867718778

ครับเจี๊ยบ...เบอร์เราส่งให้ทาง PM แล้วครับ
อ้อ..คุณเกรียงศักดิ์ ทราบแล้วเปลี่ยนด้วยครับ

[Khun28]

สวัสดีครับพี่ยา
          ผมเพิ่งได้เข้ามาอ่านกระทู้ของพี่เมื่อวาน อ่านแล้วได้ทั้งสาระและความสนุกสนาน  อย่าลืมมาเล่าต่อนะครับ  ผมจะคอยติดตามอ่าน


ป.ล.  ผมดูรูปถ่ายในห้องพี่ไม่ได้เลย ไม่รู้เกิดจาก net ที่นี่ block ไว้หรือเปล่า  เลยต้องอาศัยอ่านอย่างเดียว

[Khun28]

		อ้างถึง			ข้อความของ YOTSAWIN เมื่อ 31 มกราคม 2553, 06:43:33
	อ้างถึง ข้อความของ YA เมื่อ 31 มกราคม 2553, 06:38:30 อ้างถึง ข้อความของ YOTSAWIN เมื่อ 31 มกราคม 2553, 06:32:13 เพื่อนยา  อยู่กรุงเทพแล้ว ว่างนัดเจอกันด้วยเพื่อน ครับเจี๋ยบ...ดีใจครับจะได้เจอเพื่อน แล้วโทรมานะ 0867718778

ขออนุญาต บันทึกเบอร์มือถือพี่เจี๊ยบไว้ด้วยนะครับ

[ภาณุ ปาตานี]

No.21      

ต่อครับ
                 
                   สำหรับผมนะครับ ตอนเริ่มต้นเรียนวิชาแรก ผมยังไม่ค่อยกล้าแสดงความเห็นครับ คือพวกนี้นะครับ อาจารย์พูดยังไม่ทันจบเลย กว่าครึ่งห้องยกมือกันพรึบ ท่าทางตอนปริญญาตรีเขาคงจะสอนวิชาหมอดูให้ มันถึงได้คาดการณ์กันล่วงหน้าแล้วว่ามันจะตอบอะไร

                    อาจารย์พ่นลมปากยังไม่ทันหุบเลยทั้งที่อาจารย์ก็ฟันไม่เหยินนะครับ  มือขาวเผือกๆโชว์กันเต็มหราเลยครับ จะขาดก็แต่ไอ้มือสีแนวเอเชียเรา นี่ละครับที่หายไป อาจจะมีบ้างมือฝรั่งที่หายไปสัก 20 เปอร์เซ็นต์ คือมันก็เป็นพวกฝรั่งขี้เกียจเรียนนะครับ แต่ส่วนใหญ่แล้ว..ยกมือครับ

                   โอ้โฮ.ฝรั่งพวกนี้ขยันตอบจริงๆเลยครับ ฟังคำตอบแล้ว มีตั้งแต่ตอบแบบเข้าเมือง เข้าอำเภอ เข้าตำบล ยันออกทะเล Baltic ไปโน่นนะครับ บางรายออกทะเลไปถึง Pacific ข้ามมายังทะเลอ่าวไทยของเราก็มีนะครับ มีอยู่ 2-3 ราย ที่ตอบมากๆแต่ไม่ได้เรื่องถึงขนาดออกทะเลสาปสงขลาเลยก็มีนะครับ ถึงขั้นอาจารย์แกล้งไม่เห็นมือเลยก็มีนะครับทั้งที่มือมันก็ขาวจั๊วะออกอย่างนั้น

                   ผมก็เลยคิดว่าไอ้นี่สงสัยจะมือขาวไป อาจารย์เลยไม่เห็น ครั้นพอคนอื่นๆตอบเกือบหมดแล้ว อาจารย์ก็จะต่อเรื่องอื่น รายนี้ก็ประท้วงว่าตนเองยังยกมืออีกคน อาจารย์ก็เก๋าครับ ชวนคุยเรื่องอื่นแทน พอไอ้นี่เผลอปั๊บ อาจารย์รีบชิงเปลี่ยนหัวข้อเลยครับ ไอ้นีก็งงว่า เอ๊ะ!ตูได้ตอบหรือยังนี แต่ก็ผ่านไปครับ

                 ก็เหมือนบ้านเราแหละครับการตอบมีทั้งได้เรื่องไม่ได้เรื่อง แต่มีข้อที่แตกต่างก็คือ กล้าตอบ และรับฟังความเห็น ไม่มีถูกผิด และไม่มี "หน้าแตก" ครับ เพียงแต่ตอบแล้วจะ "น่าเบื่อ" หรือ "ไร้สาระ" หรือ "ไม่เข้าประเด็น" หรือไม่ก็เป็นอีกเรืองหนึ่งครับ

                  

[ภาณุ ปาตานี]

		อ้างถึง			ข้อความของ Khun28 เมื่อ 31 มกราคม 2553, 06:54:52
	สวัสดีครับพี่ยา           ผมเพิ่งได้เข้ามาอ่านกระทู้ของพี่เมื่อวาน อ่านแล้วได้ทั้งสาระและความสนุกสนาน  อย่าลืมมาเล่าต่อนะครับ  ผมจะคอยติดตามอ่าน ป.ล.  ผมดูรูปถ่ายในห้องพี่ไม่ได้เลย ไม่รู้เกิดจาก net ที่นี่ block ไว้หรือเปล่า  เลยต้องอาศัยอ่านอย่างเดียว

        สวัสดีครับ น้องขุน..อยู่เมืองจีนใช่ไหมครับ

        ขอบคุณครับน้องขุน..ดีใจครับที่เป็นน้อง 28 คนแรก ที่เจอในกระทู้ ต้องถือว่ารุ่นนี้เป็น น้องคลาน(ในโคลน)ตามกันมาครับ มาเยี่ยมกันบ่อยๆ นะครับ พี่จะเขียนเรื่อยๆ ครับ ดีใจที่ชอบและติดตาม (บ้ายออีกแล้วครับพี่ตะวัน)

        ส่วนรูปถ่ายนั้น มีรูปสาวสวย เซ็กซีตรึม เลยนะน้อง ต้องพยายามดู (ฮา...เอามาหลอกล่อ) ลองแก้ไขดูนะครับ จะได้เพิ่มอรรถรส

[ภาณุ ปาตานี]

No.22

ต่อเลยครับ
                   ส่วนผมนะครับ...ยัง Culture Shock อยู่ครับ...อย่าหวังดอกพิกุลจะร่วงจากปากผมเลยครับ...
                  
                   ด้วยความที่ในช่วงแรกของการเรียน ผมมีปัญหาทางการใช้ภาษาอังกฤษมาก อันเนื่องจากวิธีการออกเสียงที่ไม่คุ้นเคย ทำให้ผมนั่งเงียบ ไม่กล้าตอบ แถมฟังแล้วไม่แน่ใจว่าไอ้คำที่อาจารย์พูดเป็นคำไหน แม้ว่าผมจะคุ้นเคยกับศัพท์ทางธุรกิจโดยผลจากการทำงานมานาน แต่ก็สับสนกับวิธีการเรียนทางด้านบริหารธุรกิจมาก ไหนจะ Present discuss การเข้ากลุ่ม ภาษาอีก ไหนจะต้องกินข้าว ทำกับข้าว อากาศหนาวถึงหนาวมาก          ความมั่นใจอันกล้าแกร่งของผมหายหมดเลยครับ! Culture Shock จริงๆครับ

                  แค่เรียกชื่อเพื่อนชาว Austrian "George" คนเดียววันแรกก็เหนื่อยแล้วครับ ผมว่า "จ๊อด" มันบอกว่าไม่ใช่ "จ๊อด"  แต่ชื่อ "จ๊อด" ผมก็เรียกว่า "จ๊อด" แล้วนี่นา มันบอกไม่ใช่ต้อง "จ๊อด" ตกลงวันนั้นก็เลย"จ๊อด"กันทั้งวันแบบขำๆ แล้วก็สนิทกัน คือที่จริงแล้วต้องออกเสียงเป็นคล้ายๆ "จิยอร์จ" แล้วมาเน้นตรง คำหลัง แล้วทั้ง"จ"ต้องควบกล้ำกับ "ย" อย่างรวดเร็วแล้วจบด้วยแม่ "กจ"  ....งงไหมครับ

                 ครับ..งวดนี้เลย "ประทับใจจ๊อด" ไปเลยครับ

                
                  
                

[ภาณุ ปาตานี]

No.23

ต่อครับ
                  ความไม่มั่นใจเกิดขึ้น ก็พยายามกลับมาทบทวนตนเองว่า อันที่จริงก่อนที่จะไป ทำไมเวลาอยู่เมืองไทยกลับคุยกับฝรั่งในเมืองไทยรู้เรื่องดี ก็เลยเข้าใจได้ว่า ฝรั่งที่อยู่เมืองไทยนั้นเข้าใจวิธีการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทยและภาษาการออกเสียงของคนไทย เลยปรับตัวเข้าหาคนไทยได้ เพราะฉะนั้น จะออกเสียงตัวสะกดยังไง จะมี do หรือ be หรือไม่ พี่แกก็รับได้หมดครับ กริยาจะเติม S หรือไม่ คำนามทั่วไปจะเติม S หรือไม่ Articles มีหรือไม่มี ไม่ใช่ปัญหา..แถมพอพูดเสร็จแล้วมีนะ Na ตามก็ OK ครับ รวมทั้ง Tense ไหนก็แล้วแต่ คือจะ go ตอนนี้ go ชาติที่แล้ว หรือ go พรุ่งนี้ พี่แกรับได้หมดครับ

                  แต่นั่นคือสิ่งดีครับ..ภาษามีไว้สำหรับการสื่อสาร ไม่ได้มีไว้เพื่อตรวจสอบหรืออวดภูมิรู้กัน.. เว้นแต่เป็นอาชีพที่จำเป็นจะต้อง Professional ทางด้านนั้นๆ หรือในลักษณะของการเป็นนักศึกษา หรือวิทยากร ก็เป็นหน้าที่และเป็นไปตามวัฒนธรรมขององค์กรที่เราอยู่ร่วมกันนะครับ

                   "ความรู้ทุกด้านมีไว้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ครับ...มิได้มีไว้อวด" เพียงแต่ทุกสิ่งในโลกหากเราสามารถทำได้ดีกว่าและถูกต้อง แน่นอนครับ มันก็ย่อมดีกว่า เพราะจะไม่ได้ไม่เป็นภาระให้กับคนอื่น และคนอื่นจะได้ไม่ต้องปรับตัวตามเรามากนะครับ

[ภาณุ ปาตานี]

No.24

 ว่ากันต่อเลยนะครับ
      
                 เมื่อการเรียน การใช้ภาษา ก่อให้เกิดความไม่มั่นใจของตัวผม ผมจะทำไงละครับ??? เก๋าครับ เก๋าพอ! คือที่นั่งในห้องจากซ้ายไปขวาจะมีสามแถวแบบ 2-3-2 คล้ายที่นั่งของเครื่องบินภายในประเทศนะครับ

                  จากประสบการณ์ของผม ทำให้ผมมองเพื่อนที่ตัวใหญ่ๆ ยิ่งใหญ่ยิ่งดีที่นั่งตรงกลางว่านั่งแถวไหน แล้วผมก็จะหาที่นั่งด้านหลังตรงกลางแถวนั้นครับ เพื่อที่จะได้ไม่ให้อยู่ในสายตาของอาจารย์ครับ เพราะมันก็จะบังผมซึ่งตัวเล็กอยู่แล้ว รอดตัวครับ รอดตัว แต่ก็นั่นแหละ เวลาอาจารย์เดินมาทางด้านหลังครับ เสียวแปล๊บเลยครับ! แล้วอาจารย์ที่นี่ก็ขยันเดินด้วยนะซิ ไอ้เราก็ได้หลบตา ทำทีเป็นอ่านหนังสือแทนครับ แต่ละครั้งที่ผ่านไป เสียวแปล๊บตลอดครับ

                มีอยู่ครั้งหนึ่ง อาจารย์เดินมาที่แถวผม แล้วชี้มาที่ผม..ทั้งที่ผมไม่ได้ยกมือนะครับ.โอโฮ หน้ามืดครับพี่น้อง ใจไปอยู่ที่ตาตุ่มครับ ในใจคิดว่าซวยแล้วตู..ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดกว่านั้น อาจารย์ก็พูดว่า "ว่าไง..Sergej" แล้วเพื่อนชาว Lithuanian ก็ตอบความเห็นไป จากนั้นอาจารย์ก็เดินจากไป

                ผมนะหรือครับ.....เฮ้อ..โล่ง...ที่แท้ก็ไอ้ Sergej ที่อยู่ข้างซ้ายของผมยกมือ ไอ้เราหรือก็จะหายใจคว่ำอยู่ตั้งนาน..ไอ้เจ นะ ไอ้เจ ยุ่งจริงเลย.เครียดครับยอมรับว่าเครียดมาก เล่นเอากินไม่ได้นอนไม่หลับเลยครับ...แต่มาแล้วก็ต้อง"พยายาม"นะครับ

               ผมเป็นคน"ยอม" นะครับ แต่ผมไม่เคย "ยอมแพ้" ครับ

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ YA เมื่อ 31 มกราคม 2553, 07:55:10
	ต่อครับ                   ความไม่มั่นใจเกิดขึ้น ก็พยายามกลับมาทบทวนตนเองว่า อันที่จริงก่อนที่จะไป ทำไมเวลาอยู่เมืองไทยกลับคุยกับฝรั่งในเมืองไทยรู้เรื่องดี ก็เลยเข้าใจได้ว่า ฝรั่งที่อยู่เมืองไทยนั้นเข้าใจวิธีการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทยและภาษาการออกเสียงของคนไทย เลยปรับตัวเข้าหาคนไทยได้ เพราะฉะนั้น จะออกเสียงตัวสะกดยังไง จะมี do หรือ be หรือไม่ พี่แกก็รับได้หมดครับ กริยาจะเติม S หรือไม่ คำนามทั่วไปจะเติม S หรือไม่ Articles มีหรือไม่มี ไม่ใช่ปัญหา..แถมพอพูดเสร็จแล้วมีนะ Na ตามก็ OK ครับ รวมทั้ง Tense ไหนก็แล้วแต่ คือจะ go ตอนนี้ go ชาติที่แล้ว หรือ go พรุ่งนี้ พี่แกรับได้หมดครับ                   แต่นั่นคือสิ่งดีครับ..ภาษามีไว้สำหรับการสื่อสาร ไม่ได้มีไว้เพื่อตรวจสอบหรืออวดภูมิรู้กัน.. เว้นแต่เป็นอาชีพที่จำเป็นจะต้อง Professional ทางด้านนั้นๆ หรือในลักษณะของการเป็นนักศึกษา หรือวิทยากร ก็เป็นหน้าที่และเป็นไปตามวัฒนธรรมขององค์กรที่เราอยู่ร่วมกันนะครับ                    "ความรู้ทุกด้านมีไว้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ครับ...มิได้มีไว้อวด" เพียงแต่ทุกสิ่งในโลกหากเราสามารถทำได้ดีกว่าและถูกต้อง แน่นอนครับ มันก็ย่อมดีกว่า เพราะจะไม่ได้ไม่เป็นภาระให้กับคนอื่น และคนอื่นจะได้ไม่ต้องปรับตัวตามเรามากนะครับ

เห็นด้วยมากเลยครับน้องยา การสื่อสารมันสำคัญว่าจะบอกอะไรกัน
ถ้ามัวไปห่วง ประโยคให้มันถูกต้อง วันหนึ่งพูดได้ไม่กี่ประโยชน์
แต่ถ้าใครเก่งพูดไ้ถูกต้องก็ดีครับ

พี่ก็จะไป บูดาเปสต์ บราติสลาวา(ทางผ่าน) ปร๊าก คลุมลอฟ ซอลสเบอร์ก ฮอลสแตท เวียนนา
เดินทาง 15-27 พค. 7 คน รถเช่า 1 คัน ตระเวณไป เรื่อยๆ แต่จองที่พักไว้แล้ว
(มีครัว กะไปหุงข้าวกินกัน ประหยัดและอร่อยดี)
คงได้เจอกัน นะครับ
ที่น้องไป ก็น่าสนใจมาก โดนเฉพาะฟินแลนด์ แล้วอย่าลืม เก็บภาพ และเรื่องราว
มาเล่าสู่กันฟังนะครับ
อยู่ กทม. ก็ พบปะกันได้ครับ
แล้วพี่จะส่ง เบอร์ ให้ทาง pm

[ภาณุ ปาตานี]

		อ้างถึง			ข้อความของ seree_60 เมื่อ 31 มกราคม 2553, 08:18:49
	อ้างถึง ข้อความของ YA เมื่อ 31 มกราคม 2553, 07:55:10 ต่อครับ                   ความไม่มั่นใจเกิดขึ้น ก็พยายามกลับมาทบทวนตนเองว่า อันที่จริงก่อนที่จะไป ทำไมเวลาอยู่เมืองไทยกลับคุยกับฝรั่งในเมืองไทยรู้เรื่องดี ก็เลยเข้าใจได้ว่า ฝรั่งที่อยู่เมืองไทยนั้นเข้าใจวิธีการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทยและภาษาการออกเสียงของคนไทย เลยปรับตัวเข้าหาคนไทยได้ เพราะฉะนั้น จะออกเสียงตัวสะกดยังไง จะมี do หรือ be หรือไม่ พี่แกก็รับได้หมดครับ กริยาจะเติม S หรือไม่ คำนามทั่วไปจะเติม S หรือไม่ Articles มีหรือไม่มี ไม่ใช่ปัญหา..แถมพอพูดเสร็จแล้วมีนะ Na ตามก็ OK ครับ รวมทั้ง Tense ไหนก็แล้วแต่ คือจะ go ตอนนี้ go ชาติที่แล้ว หรือ go พรุ่งนี้ พี่แกรับได้หมดครับ                   แต่นั่นคือสิ่งดีครับ..ภาษามีไว้สำหรับการสื่อสาร ไม่ได้มีไว้เพื่อตรวจสอบหรืออวดภูมิรู้กัน.. เว้นแต่เป็นอาชีพที่จำเป็นจะต้อง Professional ทางด้านนั้นๆ หรือในลักษณะของการเป็นนักศึกษา หรือวิทยากร ก็เป็นหน้าที่และเป็นไปตามวัฒนธรรมขององค์กรที่เราอยู่ร่วมกันนะครับ                    "ความรู้ทุกด้านมีไว้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ครับ...มิได้มีไว้อวด" เพียงแต่ทุกสิ่งในโลกหากเราสามารถทำได้ดีกว่าและถูกต้อง แน่นอนครับ มันก็ย่อมดีกว่า เพราะจะไม่ได้ไม่เป็นภาระให้กับคนอื่น และคนอื่นจะได้ไม่ต้องปรับตัวตามเรามากนะครับ เห็นด้วยมากเลยครับน้องยา การสื่อสารมันสำคัญว่าจะบอกอะไรกัน ถ้ามัวไปห่วง ประโยคให้มันถูกต้อง วันหนึ่งพูดได้ไม่กี่ประโยชน์ แต่ถ้าใครเก่งพูดไ้ถูกต้องก็ดีครับ พี่ก็จะไป บูดาเปสต์ บราติสลาวา(ทางผ่าน) ปร๊าก คลุมลอฟ ซอลสเบอร์ก ฮอลสแตท เวียนนา เดินทาง 15-27 พค. 7 คน รถเช่า 1 คัน ตระเวณไป เรื่อยๆ แต่จองที่พักไว้แล้ว (มีครัว กะไปหุงข้าวกินกัน ประหยัดและอร่อยดี) คงได้เจอกัน นะครับ ที่น้องไป ก็น่าสนใจมาก โดนเฉพาะฟินแลนด์ แล้วอย่าลืม เก็บภาพ และเรื่องราว มาเล่าสู่กันฟังนะครับ อยู่ กทม. ก็ พบปะกันได้ครับ แล้วพี่จะส่ง เบอร์ ให้ทาง pm

ขอบคุณครับพี่ตะวัน..สงสัยว่าจะได้ Plan เพื่อแจม(พร้อมกับกินข้าวฟรี)กับพี่ตะวันที่ Salzbourg/ Vienna แล้วมั้งครับ
ผมส่งเบอร์/Email ให้ทาง PM แล้วนะครับพี่
ครับพี่ตะวัน..ดีใจครับที่จะได้รู้จักกับพี่ครับ

[ภาณุ ปาตานี]

                         ครับพี่ตะวัน เรื่องวัตถุประสงค์ของการสื่อสารนี้ สำคัญจริงๆ ครับ
              
                        เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว(รู้สึกแก่จังครับ) ผมไป กรุงโซล เกาหลีใต้กับเพื่อนอีก 3 คนครับ และเราก็ออกไปเที่ยวแถวชานเมือง พอหิวแล้วก็หาอาหารกินกันก็เจอแต่ร้านเนื้อย่างเกาหลีอย่างเดียวเลยครับ ไม่มีร้านอื่นๆ เลย

                        ที่นี้ เพื่อนผมคนหนึ่ง ไม่กินเนื่อ เราก็เลยเดินหาร้านที่เป็นปลาหรือไก่ จนเหนื่อยและหิวมากครับก็ไม่เจอ คนเกาหลีก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ จะถามอะไรก็ไม่ได้คำตอบ ทุกคนเริ่มไม่ไหวกันแล้ว ผมจึงตัดสินใจเด็ดขาดครับ

                        ผมเดินไปที่ร้านอาหาร ร้านหนึ่งซึ่งเราไปถามแล้วคุยกันไม่รู้เรื่องใหม่ แล้วทำมือเป็นรูปปลาว่ายน้ำ เขาก็ไม่เข้าใจ ผมเลยเปลี่ยนท่าเป็น ตีปีกแบบไก่ เท่านั้นแหละครับพี่ เขาก็หัวเราะ แล้วชี้ไปที่ฝั่งตรงกันข้าม จากนั้นพาพวกเราเดินข้ามถนนไปส่งถึงร้านขายไก่ย่าง ซึ่งอยู่ตรอกและลึกลับมากเลย..พวกเราก็เลยขอบคุณกันยกใหญ่...เฮ้อ รอดเลย

                        จนถึงทุกวันนี้ เวลาเจอกันแล้วคุยเรื่องเกาหลีทีไร เพื่อนๆ ยังประทับใจ "ท่าไก่ตีปีก" ของผมและขอให้โชว์อยู่เลยครับ

[ภาณุ ปาตานี]

No.25

 เรามาว่ากันต่ออีกนะครับ
                         อยู่ที่โน่นอาจารย์และเพื่อนๆ จะเรียกผมว่า "Panu" ก็มาจากชื่อผมนั่นแหละครับ เพียงแต่ตัด wat ออกไป
            
                         ผมใช้เวลาเอาตัวรอดไปในการเรียนโดยวิธีการดังกล่าวๆ ไปเรื่อยๆ มีที่นั่งหลังพี่บิ๊กทั้งหลายบ้าง ไม่มีบ้าง หลบตาบ้าง แต่ก็แนวเงียบๆ นะครับ อ่านหนังสือวิชาที่เรียนหนักมาก ใช้เวลาอยู่แต่ในหอ อ่านหนังสืออย่างเดียว เปิดDictionary จนมือหงิก โอมันตั้ง 2-300 หน้าเป็นภาษาอังกฤษ จน House Mate ผม ชื่นชมผมว่า เป็นคนขยันมากเลย ไม่เที่ยว อ่านแต่หนังสืออย่างเดียว

                          ประมาณ 3 บทแรกนี้ ตัวหนังสือภาษาอังกฤษในหนังสือหายไปเลยครับ มีแต่ภาษาไทยที่ผม Note ไว้จนเละเลยครับ ทั้งที่ๆ ที่ผมเปิด Dictionary นั้นนะครับ เป็นศัพท์ที่ผมรู้แล้วเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่ไว้ใจครับยังเปิด Dictionary และ Noted คำแปลครับ กลัวผิดครับ..."คงเป็นสถานการณ์ของคนที่ขาดความมั่นใจนะครับ" ที่ไม่ยอมรับในสิ่งที่ตนเองมี

                         เพื่อนๆ หรือครับ ไม่ต้องพูดครับ ไม่มีเพื่อนครับ เพราะไม่กล้าคุย กลัวผิด ขนาดยืนสูบบุหรี่ใกล้ๆ กันกับเพื่อน ผมก็แค่ยิ้มให้ พูดคุยทักทายบ้างนิดหน่อย เวลาเขามี Party กัน ก็ไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ไปร่วม

                        โชคดีที่มีสาวเยอรมัน จิตใจดี Simone เธอนึกอย่างไรก็ไม่รู้ พยายามชวนผมคุย ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังไม่กล้าพูดมากนะครับ   ตอนนั้น...แย่มากครับ...จนผ่านไปได้สัก 3 อาทิตย์..นั่นแหละครับ "สถานการณ์เปลี่ยน" และเป็นที่มาของ

                         "Panu the Rocket" ของเพื่อนๆสนิท เมื่อตอนที่ผมเรียนจบครับ
                  

[โบว์ RCU88]

คุณพี่ยาย่าสวัสดีค่ะ

[ภาณุ ปาตานี]

		อ้างถึง			ข้อความของ โบว์ RCU88 เมื่อ 31 มกราคม 2553, 10:18:34
	คุณพี่ยาย่าสวัสดีค่ะ

สวัสดีครับ...น้องโบว์
ว่าแต่ทำผิดอะไรนักหนา ถึงหวัดดีกับ Sorry เป็นสัญญลักษณ์ แต่ก็เท่ห์ดีนะ

[โบว์ RCU88]

		อ้างถึง			ข้อความของ YA เมื่อ 31 มกราคม 2553, 10:21:38
	อ้างถึง ข้อความของ โบว์ RCU88 เมื่อ 31 มกราคม 2553, 10:18:34 คุณพี่ยาย่าสวัสดีค่ะ สวัสดีครับ...น้องโบว์ ว่าแต่ทำผิดอะไรนักหนา ถึงหวัดดีกับ Sorry เป็นสัญญลักษณ์ แต่ก็เท่ห์ดีนะ

เป็นการสวัสดีแบบอ่อนน้อมถ่อมตนสุดๆอะค่ะ เอาแบบให้ติดพื้นไปเลย ประมาณญี่ปุ่นอะค่ะคุณพี่.. พอดีหน้าเหมือนพวกนิปปอนซะด้วย อะโฮะๆๆๆ
 

[ภาณุ ปาตานี]

		อ้างถึง			ข้อความของ โบว์ RCU88 เมื่อ 31 มกราคม 2553, 10:32:27
	อ้างถึง ข้อความของ YA เมื่อ 31 มกราคม 2553, 10:21:38 อ้างถึง ข้อความของ โบว์ RCU88 เมื่อ 31 มกราคม 2553, 10:18:34 คุณพี่ยาย่าสวัสดีค่ะ สวัสดีครับ...น้องโบว์ ว่าแต่ทำผิดอะไรนักหนา ถึงหวัดดีกับ Sorry เป็นสัญญลักษณ์ แต่ก็เท่ห์ดีนะ เป็นการสวัสดีแบบอ่อนน้อมถ่อมตนสุดๆอะค่ะ เอาแบบให้ติดพื้นไปเลย ประมาณญี่ปุ่นอะค่ะคุณพี่.. พอดีหน้าเหมือนพวกนิปปอนซะด้วย อะโฮะๆๆๆ

เออ..จริงด้วย..น้องโบว์..หน้าคล้ายคนญี่ปุ่น
สมัยก่อน เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอน "มินามาตะ" คนญี่ปุ่นชาวเมือง ฮิโรชิมา กับ นางาซากิ หน้าตาอย่างน้องโบว์นี้แหละครับ
 

[โบว์ RCU88]

โอเคค่ะคุณพี่.. คุณพี่ไม่ว่าหนูเป็นกะเทยเฮติก็นับว่าเป็นพระคุณอย่างสูงแล้วค่ะะะ!!!!!

[โบว์ RCU88]

ขออนุญาตลาไปทำมาหากินก่อนค่ะ เดี๋ยวกลับมาอ่านต่อค่ะ

[เป๋ครับ!!]

		อ้างถึง			ข้อความของ YA เมื่อ 31 มกราคม 2553, 06:45:58
	อ้างถึง ข้อความของ YOTSAWIN เมื่อ 31 มกราคม 2553, 06:43:33 อ้างถึง ข้อความของ YA เมื่อ 31 มกราคม 2553, 06:38:30 อ้างถึง ข้อความของ YOTSAWIN เมื่อ 31 มกราคม 2553, 06:32:13 เพื่อนยา  อยู่กรุงเทพแล้ว ว่างนัดเจอกันด้วยเพื่อน ครับเจี๋ยบ...ดีใจครับจะได้เจอเพื่อน แล้วโทรมานะ 0867718778 ครับเจี๊ยบ...เบอร์เราส่งให้ทาง PM แล้วครับ อ้อ..คุณเกรียงศักดิ์ ทราบแล้วเปลี่ยนด้วยครับ

ว2 ครืด..ครืด

 

[newstar]

หวัดดีครับพี่ยา ยังตามอ่านอยู่นะครับ

น้องโบว์ครับ ไป Happy Birthday พี่เป๋หรือยังอ่ะ

อะอะอะ...เราไม่น่าถามเลย เค้าอาจจะ Call ไปตั้งกะเที่ยงคืนที่ผ่านมาแล้วก็ได้

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ YA เมื่อ 31 มกราคม 2553, 08:41:41
	อ้างถึง ข้อความของ seree_60 เมื่อ 31 มกราคม 2553, 08:18:49 อ้างถึง ข้อความของ YA เมื่อ 31 มกราคม 2553, 07:55:10 ต่อครับ                   ความไม่มั่นใจเกิดขึ้น ก็พยายามกลับมาทบทวนตนเองว่า อันที่จริงก่อนที่จะไป ทำไมเวลาอยู่เมืองไทยกลับคุยกับฝรั่งในเมืองไทยรู้เรื่องดี ก็เลยเข้าใจได้ว่า ฝรั่งที่อยู่เมืองไทยนั้นเข้าใจวิธีการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทยและภาษาการออกเสียงของคนไทย เลยปรับตัวเข้าหาคนไทยได้ เพราะฉะนั้น จะออกเสียงตัวสะกดยังไง จะมี do หรือ be หรือไม่ พี่แกก็รับได้หมดครับ กริยาจะเติม S หรือไม่ คำนามทั่วไปจะเติม S หรือไม่ Articles มีหรือไม่มี ไม่ใช่ปัญหา..แถมพอพูดเสร็จแล้วมีนะ Na ตามก็ OK ครับ รวมทั้ง Tense ไหนก็แล้วแต่ คือจะ go ตอนนี้ go ชาติที่แล้ว หรือ go พรุ่งนี้ พี่แกรับได้หมดครับ                   แต่นั่นคือสิ่งดีครับ..ภาษามีไว้สำหรับการสื่อสาร ไม่ได้มีไว้เพื่อตรวจสอบหรืออวดภูมิรู้กัน.. เว้นแต่เป็นอาชีพที่จำเป็นจะต้อง Professional ทางด้านนั้นๆ หรือในลักษณะของการเป็นนักศึกษา หรือวิทยากร ก็เป็นหน้าที่และเป็นไปตามวัฒนธรรมขององค์กรที่เราอยู่ร่วมกันนะครับ                    "ความรู้ทุกด้านมีไว้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ครับ...มิได้มีไว้อวด" เพียงแต่ทุกสิ่งในโลกหากเราสามารถทำได้ดีกว่าและถูกต้อง แน่นอนครับ มันก็ย่อมดีกว่า เพราะจะไม่ได้ไม่เป็นภาระให้กับคนอื่น และคนอื่นจะได้ไม่ต้องปรับตัวตามเรามากนะครับ เห็นด้วยมากเลยครับน้องยา การสื่อสารมันสำคัญว่าจะบอกอะไรกัน ถ้ามัวไปห่วง ประโยคให้มันถูกต้อง วันหนึ่งพูดได้ไม่กี่ประโยชน์ แต่ถ้าใครเก่งพูดไ้ถูกต้องก็ดีครับ พี่ก็จะไป บูดาเปสต์ บราติสลาวา(ทางผ่าน) ปร๊าก คลุมลอฟ ซอลสเบอร์ก ฮอลสแตท เวียนนา เดินทาง 15-27 พค. 7 คน รถเช่า 1 คัน ตระเวณไป เรื่อยๆ แต่จองที่พักไว้แล้ว (มีครัว กะไปหุงข้าวกินกัน ประหยัดและอร่อยดี) คงได้เจอกัน นะครับ ที่น้องไป ก็น่าสนใจมาก โดนเฉพาะฟินแลนด์ แล้วอย่าลืม เก็บภาพ และเรื่องราว มาเล่าสู่กันฟังนะครับ อยู่ กทม. ก็ พบปะกันได้ครับ แล้วพี่จะส่ง เบอร์ ให้ทาง pm ขอบคุณครับพี่ตะวัน..สงสัยว่าจะได้ Plan เพื่อแจม(พร้อมกับกินข้าวฟรี)กับพี่ตะวันที่ Salzbourg/ Vienna แล้วมั้งครับ ผมส่งเบอร์/Email ให้ทาง PM แล้วนะครับพี่ ครับพี่ตะวัน..ดีใจครับที่จะได้รู้จักกับพี่ครับ

พี่ได้ที่พักแน่นอน ที่เวียนนา และ salzburg แล้วจะเมลไปบอกนะครับ
กรุ๊ฟนี้ จะมีพี่ หอ รุ่น 13 น้องรุ่น 17 พวกกันเองทั้งนั้น
งัยๆก็แพลนมาเจอกันนะครับ คงสนุกดี ได้ไป สังสรรกันที่ต่างประเทศ