@==ซีมะโด่งทัวร์ปักกิ่ง===@

[เหยง 16]

199. วัดลามะ 19

[เหยง 16]

200. วัดลามะ 20

                                                 เทพเจ้ากวนอู-เทพแห่งความซื่อสัตย์

[เหยง 16]

201. วัดลามะ 21

ถึงตรงนี้ ถ่านสำหรับกล้องหมดไฟแล้วครับ ไม่สามารถถ่ายได้อีก และต้องหาที่ชาร์ทอีกแล้ว เนื่องจากเสื่อมและหมดอายุ
ขออนุญาต นำภาพจากเน็ตลงแทนนะครับ

                                              พระศรีอริยเมตไตรย หรือ Maitreya Buddha
                         
                                 

ชมภาพและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.google.co.th/search?sourceid=navclient&aq=0&oq=Lama+Temple&ie=UTF-8&rlz=1T4CYBA_enTH311TH311&q=lama+temple+beijing

http://images.google.co.th/images?sourceid=navclient&rlz=1T4CYBA_enTH311TH311&q=lama+temple+beijing&um=1&ie=UTF-8&ei=-DDLSsLrDc2AkQXjrIE1&sa=X&oi=image_result_group&ct=title&resnum=5

http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.chinapicturespub.com/wp-content/uploads/2009/02/20058179052289.jpg&imgrefurl=http://www.chinapicturespub.com/municipality/beijing-china/the-lama-temple.html&usg=__BMgBXZVJJ9MLigukhELlseraRHI=&h=600&w=420&sz=99&hl=th&start=2&um=1&tbnid=LUKXpptitxyXmM:&tbnh=135&tbnw=95&prev=/images%3Fq%3Dlama%2Btemple%2Bbeijing%26hl%3Dth%26rlz%3D1T4CYBA_enTH311TH311%26sa%3DX%26um%3D1

[เหยง 16]

202. วัดลามะ 22

ไกด์อธิบายว่า พระลามะจะใช้น้ำน้อยที่สุด เพียงเพื่อให้อยู่รอด ในปีหนึ่งๆ จะอาบน้ำน้อยครั้งที่สุด โดยเลือกเฉพาะวันสำคัญ

ในหมู่บ้าน ชาวบ้านที่เสียชีวิต จะนำศพไปวางให้แร้งกา จิกกินจนเหลือแต่กระดูก จึงจะเก็บกระดูกมาบรรจุไว้, หากใกล้น้ำ
จะถ่วงศพ ให้ปลากิน แล้วงมเอากระดูกไปบรรจุ, แต่หากเป็นศพของพระ จะไม่ใช้พิธีกรรมดังกล่าว โดยบรรจุศพไว้เลย

พระลามะจึงไม่ทานนก, ทานปลา ด้วยเหตุฉะนี้แล..

[เหยง 16]

203. ศูนย์ชา Dr. Tea 1
ประมาณ 11.25 น. รถพาเราออกจาก วัดลามะ หรือ  Lama Temple - Yonghegong เดินทางไปสนามกีฬาเก่าของกรุงปักกิ่ง
และเมื่อไปถึง ก็พบว่า มีรถบัสจอดอยู่หลายคัน ไกด์ชาญชัยจึงเปลี่ยนสถานที่ให้คณะของเราไปชิมชาที่ศูนย์ชา ซึ่งใช้เวลา
เดินทางไปเพียง 5 นาทีจากสนามกีฬาเก่าของกรุงปักกิ่ง ซึ่งไปถึงเมื่อเวลาประมาณ 11.45 น.ครับ

           

[เหยง 16]

204. ศูนย์ชา  Dr. Tea 2

เข้าไปภายในอาคารแล้ว จะมีห้องซอย แต่ละห้องจะมีที่นั่งจัดไว้รองรับทัวร์ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องและตลอดเวลา
เพราะทางการเขาจัดไว้แล้วว่าต้องเข้า ซึ่งคณะของเราก็เข้าหาที่นั่งกัน

[เหยง 16]

205. ศูนย์ชา  Dr. Tea 3

[เหยง 16]

206. ศูนย์ชา  Dr. Tea 4

รอบด้านมีทั้งภาพ ชาชนิดต่างๆ ตั้งแสดง และด้านหน้าพนักงานสาวสวยพูดภาษาไทยได้ชัดเปรี๊ยะกำลังชงชาให้ชิม

     

[เหยง 16]

207. ศูนย์ชา  Dr. Tea 5

มีภาพแสดงของเจ้าของใบชาที่สามารถขายได้ถึง 160 ล้านหยวน (ไม่ทราบจำนวน, น้ำหนัก) ติดไว้ ทราบว่ามีทุกห้อง
แต่ผมคิดไปว่า เขาอุทานคำว่า ฮ้อ!!! เสียมตือ ไล้เลี่ยว??



ร้านขายชา ดร. จินตู เป็นของรัฐบาล มีชาเสนอขายในวันนั้นคือ
1. ชาหิมะ หรือชากีบม้า ใบชาสีขาว สรรพคุณลดไข้ แก้ร้อนใน
2. ชาหูเอ่อ หรือ ผู่เอ่อ สรรพคุณบำรุงร่างกาย ลดไขมัน ลดความดันโลหิต
3. ชาอู่หลง หรือ ชาตงฟังเหมยเหยิน สรรพคุณบำรุงเลือด ช่วยย่อย
4. ชามะลิ Jasmine Tea
5. ชาลิ้นจี่
แถมมีถ้วยชาทำด้วยกระเบื้องลายมังกรสีดำ เมื่อชงน้ำชาร้อนใส่ถ้วย มังกรสีดำจะเปลี่ยนสีแดง และตัวตุ๊กตาดินเผา
เมื่อรดด้วยน้ำร้อนแบบเดือดจัด ตุ๊กตาจะฉี่เป็นน้ำไปได้ไกล เป็นตัวแถมเพื่อหลอกล่อให้ซื้อใบชาในรายการขาย

คณะของเราซื้อใบชามาหลายชนิดและหลายคน, และในขณะที่กำลังโพสต์อยู่ขณะนี้ ผมก็ได้ชงชาที่ซื้อมาครั้งก่อน
ชิมไปด้วย บอกตรงๆว่า รสชาดที่ได้รับ ไม่เหมือนที่เขาให้เราชิมครับ อู่หลง ที่ขมปากแล้วจะเริ่มหวาน ไม่ปรากฏครับ
ท่านใดซื้อมา ทดลองชิมได้อย่างไร โปรดแจ้งให้ทราบด้วย 

[เหยง 16]

208. ศูนย์ชา  Dr. Tea 6

ภาพของทิปปี้ กับ ไกด์ชาวไทย-คุณเดช ในห้องจัดแสดง ซึ่งด้านหลังคือโต๊ะไม้ชิงชันขนาดใหญ่ครับ ลายสวยมาก

[Kaimook]

 น้ำอ้อยชอบชามะลิค่ะพี่เหยง
หอมดีค่ะ

[เหยง 16]

209. ศูนย์ชา  Dr. Tea 7

พี่ติ๋ว-จันทร์แจ่ม, พี่ตั้ง-สัมฤทธิ์ (เท่าที่จำได้) อุดหนุนกันหลายกระป๋อง โดย 1 ชุดจะมีราคาอยู่ที่ 300 หยวนครับ

เราออกมาขึ้นรถเมื่อเวลา 12.48 น. ใช้เวลาไปถึง 1 ชั่วโมง 3 นาที ฝนลงเม็ดมาเล็กน้อยและเป็นเช่นนี้ตลอดทาง
อาหารมื้อเที่ยง เป็นอาหารรสชาติกวางตุ้ง แน่นอนถูกปากพวกเราแน่นอน เพราะมีไก่ต้ม ผัดถั่วฝักยาวกับพริก และ
แน่นอนต้องมีไข่เจียว แต่ที่เพิ่มรสชาติจริงๆ มาจากน้ำพริกมะขาม, น้ำพริกนรก, ฯลฯ จากพี่นพดล ที่เตรียมไปในครั้งนี้

[เหยง 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ Kaimook เมื่อ 06 ตุลาคม 2552, 19:32:10
	น้ำอ้อยชอบชามะลิค่ะพี่เหยง หอมดีค่ะ

ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนครับ คนไทยส่วนใหญ่ชอบทานน้ำเย็นหรือน้ำแข็ง เว้นคนเมืองเหนือบ้างที่ชอบน้ำร้อนเพื่อความอุ่น
ประการสำคัญ ใบชาไม่น่าจะแพงได้ขนาดนั้น เช่น กระป๋องใหญ่(น่าจะประมาณ 500 กรัมเต็มที่) 200, 240 หรือ 300 หยวน
คิดแล้วกระป๋องหนึ่งจะเกิน 1,000 บาทขึ้นไป กลายเป็นซื้อมาตั้งทิ้งไว้ หรือชงให้เจ้า (ศาลเจ้าที่ในบ้านเรา) ทานครับ

ประการสำคัญ ทานน้ำชาแล้ว ฟันจะดำเพราะคราบของชาครับ ดำกว่าทานกาแฟ

หากชึ้นเหนือไปเมืองเชียงราย ก็หาซื้อใบชาจากทางเหนือเราก็ได้ ราคาเต็มที่ไม่ถึงกระป๋องละ 1,000 บาทแน่นอนครับ

[เหยง 16]

210. ศูนย์การแพทย์แผนโบราณ 1

13.45 น. นั่งรถออกจากภัตตาคาร กลับไปยังศูนย์การแพทย์แผนโบราณอีกครั้ง ซึ่งตั้งอยู่ในสนามกีฬาเก่าของกรุงปักกิ่ง
รัฐบาลจีนสร้างสนามกีฬาใหม่ หรือ สนามกีฬารังนก เพื่อใช้แข่งขันกีฬาโอลิมปิค ฤดูร้อน แต่สนามแห่งนี้ก็ไม่ได้ทิ้งเพราะ
ยังมีหน่วยงานเกี่ยวกับกีฬาอยู่ โดยเฉพาะการซ้อม การบริหารร่างกาย การเตรียมร่างกายของนักกีฬา และรักษาพยาบาล
โดยส่วนหนึ่งในศูนย์ฯ แห่งนี้หารายได้เข้าประเทศ ดังจะได้กล่าวต่อไปให้ทราบ



                               เป็นภาพของโปสเตอร์ตรงทางเข้าสนามกีฬาเก่าของกรุงปักกิ่งครับ

[เหยง 16]

211. ศูนย์การแพทย์แผนโบราณ 2

                                          ป้ายบอกชื่อหน่วยงานเป็นภาษาอังกฤษครับ

[เหยง 16]

212. ศูนย์การแพทย์แผนโบราณ 3

พวกเราพากันหาที่นั่ง ตามความสะดวก แต่จากการสังเกตุ เขาจะพยายามให้ สามี-ภรรยา นั่งอยู่ติดกัน

คู่ที่นั่งหน้านี้ เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันนะครับ พี่เป้า บ/ช และพี่หลิว Rx ปี 2514, ส่วนที่นั่งหลัง พี่วสันต์ คู่พี่อาภรณ์ กฐินทอง
ตามด้วยพี่วัตสันต์ และน้องรุ้ง จินมิกา พงศ์วราภา

[เหยง 16]

213. ศูนย์การแพทย์แผนโบราณ 4

อีกฝั่งหนึ่ง ผู้จับจองที่นั่งด้านหน้า

[เหยง 16]

214. ศูนย์การแพทย์แผนโบราณ 5

                        ภาพแสดงเนินบนฝามือ และจุดสำคัญที่สามารถความเป็นไปในร่างกาย

[เหยง 16]

215. ศูนย์การแพทย์แผนโบราณ 6

             ภาพแสดงส่วนของฝ่าเท้า และรอบเท้า ที่แสดงออกถึงความสัมพันธ์กับอวัยวะภายใน

[เหยง 16]

216. ศูนย์การแพทย์แผนโบราณ 7

ระหว่างนั้น น้ำร้อนประมาณ 40 องศาเซลเซียสที่มีซองยาก็ถูกยกเข้ามา และทุกคนก็ร้องเช้นกันว่าร้อน สักครู่ก็รับได้

[เหยง 16]

217. ศูนย์การแพทย์แผนโบราณ 8

            ระหว่างนั้น นักเรียนฝึกหัดก็เริ่มทำความสะอาดฝ่าเท้า จากนั้นจึงเริ่มบีบนวดฝ่าเท้า

[เหยง 16]

ขออนุญาตพักสายตาสักครู่ครับ

[เหยง 16]

218. ศูนย์การแพทย์แผนโบราณ 9

ในระหว่างนี้ โฆษกซึ่งต่อมาทราบชื่อว่าคือ อาจารย์สมพงษ์ ชาวตลิ่งชัน กล่าวต้อนรับและบรรยายสรรพคุณของศูนย์ฯ
พร้อมแนะนำหมอแมะ มากประสบการณ์ เพื่อแมะ(จับชีพจร) วินิจฉัยโรค

[เหยง 16]

219. ศูนย์การแพทย์แผนโบราณ 10



เบาหวาน ความดัน ดูจะเป็นโรคยอดนิยมที่ชาวคณะของเราจะถูกวินิจฉัยว่ามีอาการอยู่ พร้อมกับการเสนอยาเพื่อการรักษา
ซึ่งหลายๆ ราย บอกว่าราคาหลักหลายๆหมื่นบาทไทยทีเดียว

ก่อนหน้านี้ คณะทัวร์จากประเทศไทยมากคณะ มาเจอเข้ากับการแมะตรวจโรค จนเข็ดขยาดและเรื่องนี้เลื่องชื่อมากในหมู่
คนไทยที่ไปปักกิ่งว่า ต้องจ่ายเกือบทุกราย จนทัวร์ปักกิ่งของคนไทยลดน้อยถอยลงไปมาก

ดังนั้น ถ้าลูกค้าปฎิเสธ บรรดาหมอแมะ จะค่อยๆลุกหนีจากไปอย่างเงียบๆ และไม่ใส่ใจคนไข้รายนั้นอีกเลย

สมุนไพรของจีน ไม่แตกต่างไปจากของไทยเท่าใด และยังมีการใช้สมุนไพรในการรักษาโรคอยู่อย่างเป็นเนืองนิจ
อย่าไปหลงไหลได้ปลื้มกับมันมากนักครับ แพง และ เปลืองเงินมากๆ เลย

[เหยง 16]

220. ศูนย์การแพทย์แผนโบราณ 11

นักเรียนฝึกหัด ทำได้เพียงการบีดนวดฝ่าเท้า หลายรายยังไม่มีฝีมือ ที่สุดก็มีการสอนกลับ ด้วยการนวดให้ดูครับ..5555



ข้อสังเกตุ: ล่ามสาวในชุดสีชมพู จะพูดไทยได้ชัดเจนมาก ในขณะที่บรรดานักเรียนฝึกหัดนวดก็ใช้ภาษาไทยได้ค่อนข้างดี