"รถเก๋งไฟฟ้ามีจริงแล้วทั้งค่ายรถตะวันตก และ ตะวันออก"

[Samrotri2517]

นิสสัน ลีฟ

 

พบข่าวดี นำมาบอกพวกเราว่า

เทคโนโลยี่รถเก๋งใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานขับเคลื่อนมีจริงแล้ว

จะช่วยลดการเผาไหม้น้ำมัน ลดภาวะโลกร้อนได้ และ ทำให้เราต้องเสียดุลย์

ในการซื้อน้ำมันที่ขึ้นมาตลอด  อีกไม่นานจะหมดลงไม่มีน้ำมันให้เติมด้วย

จึงนำมาเสนอ พวกเราที่อยากซื้อรถเก๋งใหม่ ให้อดใจรอ

คงจะมาเร็วๆ นี้ ไม่ต้องเป็นทาสน้ำมัน ที่ทำให้โลกร้อนด้วย

ดูข่าวเพิ่มเติมที่

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=521&contentID=13043

 

[Samrotri2517]

โตโยต้าลุยผลิต EV ปี 2012

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   17 ตุลาคม 2552 13:22 น.

       ข่าวต่างประเทศ - หลังยืนยันว่าจะเริ่มเดินหน้าเข้าสู่ตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้า

หรือ EV-Electric Vehicle อย่างแน่นอนแต่เป็นปี 2012

ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับโตโยต้าและโปรเจ็กต์รถยนต์ประเภทนี้ คือ



ทางแบรนด์นัมเบอร์วันของโลกเตรียมใช้ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นฐานหลัก

สำหรับการผลิตโดยจะมีทั้งรถยนต์พลังไฟฟ้าพันธุ์แท้ที่จะออกสู่ตลาดตามกำหนด

ที่ประกาศออกมา และ การเดินหน้าผลิตรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงในปี 2015

 

       ข่าวนี้ได้รับการเปิดเผยทางเว็บไซต์ Green Car Congress ซึ่งระบุว่า

ทางด้านอากิโอ โตโยดะ ประธานคนใหม่ล่าสุดของโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน

ให้ความสนใจเกี่ยวกับรถยนต์ทั้ง 2 ประเภทนี้ ว่า โตโยต้าจะวางตำแหน่งให้

รถยนต์พลังไฟฟ้าเป็นพาหนะสำหรับการเดินทางในระยะสั้น และ

รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงสำหรับการเดินทางระยะทางไกล
       
       แม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดของโครงการ แต่เชื่อว่า

ทางโตโยต้าเอาจริงกับทั้ง 2 โปรเจ็กต์อย่างแน่นอน เพราะ

ทางด้านทัตซึอากิ โยโกยาม่า หัวหน้าในส่วนวิศวกรรมและการผลิตของโตโยต้า

อเมริกาเหนือ ได้กล่าวในที่ประชุมของ California Air Resources Board (ARB) ว่า

โตโยต้าได้เดินหน้าวิจัยและพัฒนารถยนต์ทั้ง 2 ประเภทเพื่อให้เกิดความเหมาะสม

สำหรับการจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ และเชื่อว่าภายในปี 2015 ทางโตโยต้าจะ

สามารถลดต้นทุนการผลิตรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงให้ต่ำลงจาก

ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันลงถึง 10 เท่า

อ่านข่าวทั้งหมดได้ที่

http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9520000121395

 

[Samrotri2517]

บรรษัทอุตสาหกรรมรถยนต์เซี่ยงไฮ้ ของจีน ได้ประดิษฐ์รถยนต์ที่ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และ
พ่นไอเสียออกมาเป็น ก๊าซออกซิเจน โดยเอาอย่างมาจากการสังเคราะห์แสงของพืชพรรณ



บรรษัทซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทรถยนต์เยเนอรัลมอเตอร์สได้นำรถต้นแบบการสังเคราะห์แสง
ยี่ห้อ "ยี ซี่" ออกแสดงในงานเอ็กซ์โป2010ที่นครเซี่ยงไฮ้โดยหลังคารถมีรูปร่างเหมือนกับใบไม้

นายมา เซินคุน ผู้ออกแบบรถ ได้อธิบาย ว่า หลังคารถจะดูดรับพลังงานแสงอาทิตย์ และ
มาแปลงให้เป็นพลังงานไฟฟ้า

บล็อกเกอร์ซีเนตได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า รถมีโครงทำด้วย "โลหะอินทรีย์"
ซึ่งจะดูดเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำมาใช้ทำไฟฟ้า เก็บอยู่ในแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน.

ขอขอบคุณเวบไทยรัฐวันเสาร์ที่ 29 พ.ค.53 ที่เอื้อเฟื้อข่าว

http://www.thairath.co.th/content/life/85437

 

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

 

เรียนแบบคลอโรฟิลล์ของใบไม้ทีี่ใช้คาร์บอนไดออกไซด์กับแสงแดด
เพื่อเกิดเป็นอาหารและออกซิเจน

แต่ของรถนี้แจ้งว่า ใช้โลหะอินทรีย์ดูดคาร์บอนได้ออกไซด์ และน้ำ
มาใช้ทำไฟฟ้าไว้ขับเคลื่อนรถ มีออกซิเจนเป็นของเสียออกมาแทน

มีจริงหรือพวกเรา น่าสงสัยไม่น่าเป็นไปได้   ต้องรอจีนเปิดเผยกลไก
หลังได้ลิขสิทธิ์ทางปัญญาแล้วจะได้รู้กัน ว่า

ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์ที่ปัญญามนุษย์จะทำไม่ได้

 

[Samrotri2517]

ขอขอบคุณเวบไทยรัฐ วันพฤหัส 24 มิถุนายน 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.thairath.co.th/content/life/91417



วิจัยเจอรถยนต์์ใช้แบตเตอรี่เป็นความเพ้อฝันรถใช้ไฟฟ้าล้มเหลว

สถาบันวิศวกรรมและเทคโนโลยีอังกฤษ ศึกษาวิจัยได้ผลว่า ความหวังว่ารถยนต์ใช้แบตเตอรี่
จะช่วยรักษาสภาพดินฟ้าอากาศโลกได้ โดยลดการปล่อยคาร์บอนออกมาลงนั้น เป็นได้แต่เพียง

"ความเพ้อฝัน"

คณะผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า เพราะเทคโนโลยีที่ใช้ทำแบตเตอรี่ของรถนั้นล้าหลังมาก
จนอาจจะสูญสิ้นลงภายในเวลา 2 ปี นอกนั้นสิ่งที่เรียกประสิทธิภาพของการใช้พลังงาน
ก็อาจจะต้องแพงจัด และยังวิ่งไม่ได้ไกลเท่าไหร่เมื่อชาร์จแบตเตอรี่ไปทีหนึ่ง น้อยกว่าที่ผู้ผลิตอ้างกัน

สถาบันกล่าวว่า ผลงานของรถไฟฟ้า ตามที่ผู้ผลิตอ้างนั้น

"เป็นเรื่องนึกฝันไปเองโดยแท้"

ตัวแบตเตอรี่ก็อาจจะอ่อนแรงลงไปเองภายใน 2 ปี จำเป็นจะต้องเปลี่ยนใหม่ซึ่งต้องเสียเงินแพง
แบตเตอรี่ซึ่งใช้เทคโนโลยีลิเธียม-ไอออนเหมือนกับโทรศัพท์มือถือ
ยังทำให้รถวิ่งระหว่างการประจุได้ไม่เกิน 100 กม.

 


หัวใจสลาย เลยเรา รอรถไฟฟ้า ไม่ต้องพึ่งน้ำมัน ที่แท้ เป็นข่าวหลอก ข่าวไม่จริง

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=anotherside&month=04-2009&date=26&group=8&gblog=135