ฉบับที่สอง
ชีวิตที่ยังไม่รู้จักคำว่า แรงบันดาลใจ และัยังไม่ได้ทำงานสักกะที คลานบนทางเรียบ เรื่อย ๆ เรียง ๆ
-------------------------------------------------------------------
ด้วยความที่
"คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล"ย้อนกลับไป ก่อนจบปริญญาตรี
เพื่อนสนิทคนหนึ่งที่คณะ ชวนสอบเรียนปริญญาโทสาขาเดียวกัน จะได้มีเพื่อนเรียน
โดยอ้างว่า คุณบิดาของเธอซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่และมีชื่อเสียงของวงการการศึกษาไทยบอกว่าดี
ข้าพเจ้า ดีก็ดี ก็เพื่อนชวนนี่นา แต่ไม่รู้หรอกว่า เรียนไปทำไม
ไม่อ่านหนังสืออีกแว้วววววว ประวัติศาสตร์ซ้ำเดิม แต่สอบติด (ห้ามเอาตัวอย่าง เพราะไม่ใช่สิ่งที่ดี)
จนน้องรูมเมทที่น่ารัก คณะอักษรกับแพทย์ บอกว่า พี่สอบติดได้ไงอ่ะ
เรียนไปเรื่อย ๆ เห็นมะ ยังไม่ได้ทำงานเลย
อ่า........แต่ข้าพเจ้าอยากมีเงินใช้ มากกว่าที่ได้รับจากมารดา ซึ่งคงไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย
อาทิ ค่าอพาร์เม้นท์ เอเชีย ณ เพชรบุรี ซอย 5 ค่าหนังสือ ค่าถ่ายเอกสาร ค่าทำรายงาน ค่าทัศนศึกษา เป็นต้น
ก็เลย
1. เป็น TA. (teaching assistant) ของภาควิชา ซะ 3 ปี เพราะไม่มีใครสมัคร (ข้าพเจ้าเรียนอย่างเต็มที่ 4 ปีจบ คนอื่นเขาเรียนกัน 2-3 ปี)
2. สอนการบ้านให้เด็กประถม ตรงนี้ เป็นที่ประทับใจของผู้ปกครองอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นอาจารย์นิติ 2 คน เจ้าของบริษัทผลิตกระดาษ เจ้าของคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ข้าพเจ้าก็ยังงง ว่า เขาประทับใจได้อย่างไร และทุกวันนี้ ก็ยัง ชื่นชมซึ่งกันและกันอยู่
(ลูกศิษย์รุ่นเล็กของข้าพเจ้า จบ เนติบัณฑิต กำลังทำ Ph.D เป็นเจ้าของกิจการใหญ่โต แล้วนะ)
เรื่องเรียนเป็นเรื่องรอง
แต่เรื่องหลักระหว่างเรียนโทตลอด 4 ปีนั้นคือ เผลอเข้าไปอยู่ในแวดวงคุณหญิงคุณนายระดับประเทศ โดยไม่ได้ตั้งใจ
โดยได้รับการชักชวนจากคุณหญิงท่านหนึ่ง ซึ่งขณะนั้นเป็นประธานสภาสตรีแห่งชาติ
จนเพื่อน ๆ ล้อว่า ที่อยู่อาศัยของข้าพเจ้าคือ บ้านมนังคศิลา เพราะเล่นไปอยู่ที่นั่น เกือบทุกวัน
ตรงนี้อาจจะเป็นที่หนึ่ง ที่หล่อหลอมบุคลิกภาพของข้าพเจ้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ข้าพเจ้าก็ยังไม่ได้ทำงานอยู่ดี
เรียบไหม ท่านรอน ทุกอย่าง ไปตามมีตามเกิด ไม่เคยคิดอะไรเลย