25 พฤศจิกายน 2567, 18:51:21
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 90 91 [92] 93 94 ... 131   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"  (อ่าน 798814 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 20 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2275 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2553, 08:25:22 »

โกหกตั้งแต่เริ่มการอภิปราย เปลี่ยนคลิ๊ป เรื่องเดียวกันแต่อ้างไปคนละเรื่อง ไม่พูดถึงกรณีประชาชนเดือดร้อนจากการที่ทรัพย์สินถูกเผา ถูกขโมย ไม่สามารถทำกินได้นานเป็นเดือน

ความจริงด้านเดียว
บทบรรณาธิการ 1 มิถุนายน 2553 - 00:00

ความเท็จทั่วสารทิศ
     การอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรก  แค่เริ่มต้นก็มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงกันอย่างหน้าด้านๆ ไม่ใช่บิดเบือนธรรมดา แต่ระดมกันบิดเบือนโดย ส.ส.พรรคเพื่อไทย นั่นคือ กรณีการถ่ายทอดสดการประชุมของสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ทั้งที่เหตุมีอยู่นิดเดียวคือ NBT ได้ย้ายดาวเทียมในการส่งสัญญาณ บังเอิญว่าคนเสื้อแดงในภาคเหนือและอีสานไม่ได้เปิดดู NBT มานานแล้ว ครั้นมาเปิดอีกทีเห็นจอมืด ก็โวยวายไปยังผู้แทนราษฎรของเขา แล้วกลายเป็นที่มาของการโจมตีรัฐบาลว่าปิดหูปิดตาประชาชน นี่คือตัวอย่างของการไม่เคยค้นหาความจริง แต่มุ่งสร้างความเข้าใจผิดเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
     นั่นเป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ง่าย แต่ก็ยังมีปัญหาชักจูงให้เข้าใจผิดกันได้ แล้วเรื่องที่เข้าใจยากๆ เช่น การกระชับพื้นที่ หรือ จะเรียกว่าสลายการชุมนุมก็ตามแต่ ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ยากต่อการเข้าใจ จะมีการนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมืองกันมากมายขนาดไหน การให้ความจริงเพียงด้านเดียว หรือ ความเท็จเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเมือง จะสร้างปัญหาให้กับประเทศไทยหลังผ่านพ้นการอภิปรายครั้งนี้ไป
     มีประชาชน ทหาร ตำรวจ เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 10 เมษายน ต่อเนื่องมาถึง 19 พฤษภาคม ทั้งสิ้นกว่า 80 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 2 พันคน พรรคเพื่อไทยให้ข้อมูลด้านเดียว คือ ทั้งหมดเสียชีวิตเพราะการสาดกระสุนจากทหาร การเผาเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นเตอร์วัน อาคารมาลีนนท์ แบงก์กรุงเทพฯ และอื่นๆ ที่เป็นจุณ รัฐบาลไม่สามารถจับกุมใครได้แม้แต่คนเดียว จึงไม่ใช่ฝีมือคนเสื้อแดงแน่นอน พรรคเพื่อไทยยังอภิปรายในสภาว่า เป็นแผนของรัฐบาล เพราะหลังมีการเผาไม่มีการประสานให้รถดับเพลิงเข้าไปในพื้นที่เพื่อดับไฟแม้แต่คันเดียว...ไอ้คนพวกนี้ไปหลับที่ไหนมา
     เหตุผลหลักที่ทหาร-ตำรวจไม่สามารถจับกุมกลุ่มคนเสื้อดำ ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธส่วนตัวของใครบางคนนั้น เป็นเพราะคนชุดดำเคลื่อนไหวและปฏิบัติการปะปนอยู่ในหมู่คนเสื้อแดง เมื่อแกนนำคนเสื้อแดงสั่งสลายการชุมนุม คนชุดดำบางส่วนเปลี่ยนชุดหลบหนีไปพร้อมคนเสื้อแดง บางส่วนถูกจับกุม บางส่วนยังปักหลักสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ เหตุที่รถดับเพลิงเข้าระงับเหตุไฟไหม้ไม่ได้ก็อย่างที่เป็นข่าวแพร่หลายเป็นการทั่วไปก่อนหน้านี้ว่า คนชุดดำยิงสกัดไม่ให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าไปปฏิบัติงานได้ จนมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
     มีการนำกรณีการจับกุมพระสงฆ์มาอภิปราย และตั้งใจที่จะเน้นเป็นพิเศษว่าทหารโดยคำสั่งของรัฐบาลย่ำยีพระพุทธศาสนา ซึ่งแน่นอนว่ามีเป้าประสงค์เพื่อสร้างความเกลียดชัง เพราะเป็นประเด็นละเอียดอ่อนที่สร้างความเข้าใจผิดได้ง่าย จะสังเกตเห็นว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่นำเรื่องนี้มาอภิปราย ตัดตอนเหตุการณ์ไม่พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่พระสงฆ์จะถูกจับกุม กลับใช้เพียงภาพถ่ายอธิบายว่า รัฐบาลย่ำยีศาสนา เป็นความจริงเพียงเสี้ยวเดียวที่เต็มไปด้วยความเท็จ มีความจริงที่มากกว่านั้นคือ กลุ่มสงฆ์ที่ถูกจับกุมให้การอารักขากลุ่มติดอาวุธ
    ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ความไม่สงบนี้ มีทางเดียวที่สร้างความกระจ่างได้คือ ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติรรม ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ขณะที่ความเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องของคนเสื้อแดงด้วยการลงไปเล่นเกมใต้ดิน โดยการบงการของ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ต้องจับตาดูต่อไปว่าปฏิบัติการที่จะเกิดขึ้น จะนำความรุนแรงมากกว่าที่ผ่านมาหรือไม่ และหากมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง กลุ่มนี้จะยังเคลื่อนไหวต่อหรือไม่
     การเปลี่ยนขั้วการเมืองครั้งต่อไปจะมีความสำคัญมาก หากยังพบว่าขบวนการใต้ดินซึ่งมีกระแสข่าวว่า เริ่มมีการซ่องสุมกำลังโดยใช้ประเทศกัมพูชาเป็นฐานที่มั่น และจังหวัดสกลนครเป็นฐานบัญชาการเคลื่อนไหว มีการก่อการร้ายภายใต้การบริหารของพรรคเพื่อไทย แสดงให้เห็นว่าขบวนการใต้ดินมีจุดประสงค์มากกว่าการล้มรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ พวกเขาต้องการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อสร้างรัฐไทยใหม่อย่างที่เคยประกาศก่อนหน้านี้
     แต่ถ้าขบวนการใต้ดินยุติการเคลื่อนไหวทันทีที่พรรคเพื่อไทยเข้าบริหารประเทศ ก็สรุปได้ว่า พรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง กองกำลังติดอาวุธ คือ กลุ่มก้อนเดียวกันแยกกันไม่ออก และจะมีความจริงที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ นั่นคือ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยประเทศเดียวในโลกที่มีผู้ก่อการร้ายคอยให้การสนับสนุน.

http://www.thaipost.net/news/010610/22866
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2276 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2553, 08:32:54 »

คอลัมม์ "คนปลายซอย" บอกถึงสถานการณ์วันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2553 เป็นรายชั่วโมง ให้เด่นชัดขึ้น

ตะกอนที่ได้จาก Central World ๑๙/๕/๕๓
เปลว สีเงิน 1 มิถุนายน 2553 - 00:00

     คิดว่าทุกท่านคงมีความสุขกับการได้ติดตามชม-ติดตามฟังการ "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" ของฝ่ายค้านเมื่อวานนี้นะครับ และวันนี้ (๑ มิ.ย.๕๓) ยังมีต่ออีกวัน ขอบอกว่าลืมได้ แต่พลาดไม่ได้ ถ้า (ทน) ฟังจบทั้ง ๒ วันแล้วได้ความว่าอย่างไร และท่านรู้สึกตอบสนองอย่างไร อย่าลืมเล่าให้ฟังบ้างละกัน หะแรกผมก็ตั้งท่าจะดูให้ครบทุกเม็ดอยู่หรอก แต่ "ใจไม่ด้านพอ" ลงท้ายต้องปิดเสียง แช่แต่ภาพไว้ชำเลือง
     เฮ้อ....ดูแล้ว ฟังแล้วก็ต้องปลง พวกฝ่ายค้านนี่เขาเก่ง เมืองไทยแทบเหลือแต่ซาก แต่เขาก็ยังสามารถขุดซากแห่งความอัปยศขึ้นมาเลือกแทะหน้าจอได้หน้าตาเฉย ก็ต้องยอมเขาละ...แบบนี้!
     ผมมองไม่เห็นประโยชน์อันใดจากประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา ถ้าระบบยังไม่สามารถคัดกรอง "คนคุณภาพ" ด้วยคุณธรรมเข้ามาทำหน้าที่ และถ้าจะยึดตามคำกล่าวอ้างของบาง ส.ส.ที่อภิปรายว่า "ผมเป็นตัวแทนประชาชน...ประชาชนเลือกผมมา" ในเชิงตรรกะมันก็สะท้อนความจริงสังคมชาติวันนี้ว่า
     คุณภาพสังคมไทย เท่ากับคุณภาพ ส.ส.!?
     มันเป็นความจริงที่เจ็บปวดมากทีเดียว ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็คิดอย่างนั้น แต่ก็คนส่วนใหญ่อีกนั่นแหละ ในทางปฏิบัติ จะพูด-จะทำ "ตรงข้าม" กับสิ่งที่คิด
     จะว่าไปแล้ว ประเทศไทยวันนี้ "ตกหล่ม-จมปลัก" ประชาธิปไตยรูปแบบ จนกลายเป็น "เหยื่อ" ถาวรของนักเลือกตั้งอาชีพไปแล้ว!
     พักเรื่องตัวเงิน-ตัวทอง มาคุยเรื่องเป็นเงิน-เป็นทองของผมดีกว่า มีแฟกซ์ค้างอยู่ในตะกร้าตั้งแต่วันเสาร์ อ่านเดาๆ ลายเซ็นเพรียวลมตอนท้ายของข้อความ ๒-๓ บรรทัดว่า น่าจะเป็น "คุณอรทัย"
     บอกว่าดีใจที่คนไทยโพสต์ "หนีไปตั้งหลัก" จากเหตุการณ์ ๑๙ พฤษภา ปลอดภัยกลับมาทุกคน ก็เลยโอนเงินเข้าบัญชีบริษัทสารสู่อนาคตมา ๓,๐๐๐ บาท เป็นการสนับสนุน "เว็บไซต์ไทยโพสต์" ที่อ่านฟรีทุกวัน แล้วอย่างนี้จะให้ผมพูดอะไรได้นอกจาก "ขอบคุณ" และ "ขอบคุณ"
 และไม่อิดออดใดๆ รับไว้ทันทีเลย!
     คุณอรทัยบอกว่า "ดีใจ" ผมก็พลอยโล่งอก-โล่งใจไปด้วย เพราะยังขวัญผวา นอนละเมอยังไม่หายกับรหัสลับ "ตกใจ" ของคุณณัฐวุฒิเขา ที่ว่า คนเสื้อแดงตกใจวิ่งเข้าร้านเพชร ร้านขายกระเป๋า ขายนาฬิกา-แว่นตา ในห้างเซ็นทรัล และ..
    ตกใจ เผาเลย!!!!
     อันที่จริง ที่พวกกบฏทักษิณ "เผาบ้าน-เผาเมือง" ครั้งนี้ มันก็มีอานิสงส์เป็นสิ่งดีอยู่เหมือนกัน เท่าที่เห็นชัดเจนคือ ทำให้คนไทย "รักบ้าน-รักเมือง" มากขึ้น และที่น่าดีใจคือ ทำให้หันมารัก-สามัคคีกันเหนียวแน่น ซึ่งเห็นได้จากภาพที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
     ร่วมแรง-ร่วมใจ ออกไปกวาดถนน และ...ช็อปกระจาย!!
     ที่ต้องแอบดีใจสุดๆ คือ ทำให้หนุ่ม-สาว-เยาวชน "คนรุ่นใหม่" ตื่นตัว หันมาสนใจเรื่องบ้าน-เรื่องเมืองในรอบ ๓๐ ปีเลยก็ว่าได้ และไม่เพียงตื่นตัวเฉยๆ ยังแสดงออกซึ่งความรักหวงแหนบ้านเมืองและสถาบันด้วย "ปฏิบัติการร่วม" เป็นงานเป็นการกันไปเลย
     เมื่อ ๓๐ ปีที่แล้ว ในเหตุการณ์ ๑๔ ตุลา และ ๖ ตุลา ประชาชน คนหนุ่มสาว "เกลียดทหาร" ชนิดว่า ทหารออกจากบ้านไปทำงานต้องแต่ง "นอกเครื่องแบบ" ถึงที่ทำงานแล้วค่อยเอาเครื่องแบบมาสวม
     แต่ครบ ๓๐ ปีรอบนี้ตรงกันข้าม ประชาชน คนหนุ่มสาวกลับ "รักทหาร" เต็มหัวใจ เพราะครั้งก่อน ทหารเป็นผู้กระทำ แต่ครั้งนี้ ทหารตกเป็นผู้ถูกกระทำ และใช้ความอดทน-อดกลั้น กอบกู้รักษาประเทศชาติ-สถาบัน ให้รอดจากพวกกบฏทักษิณ ยอมตาย ยอมขายขี้หน้า และยอมให้ ส.ส.บางคนใช้สภาเป็นฐานโจร
     ก่น-กล่าวโทษ!?
     บทสรุปที่ได้จาก ๑๙ พฤษภา ก็คือ ไม่ว่าการบ้าน-การเมือง-การทหาร "ทุกการ" แหละ ใครจะทำอะไร ถ้าเอาหลังอิงมหาประชาชนไว้ แคล้วคลาดปลอดภัย แถมมีโชค-มีชัยทุกรายไป...บอกไม่เชื่อ!
     พูดถึงแต่ทหาร ลืมตำรวจไป ความจริงมีข้อความหนึ่งถูกส่งเข้าอีเมล์ผมต่อเนื่องเป็นสัปดาห์แล้ว เป็นบันทึกภาคสนามของ "นักข่าวเนชั่นทีวี" ผมอ่านแล้ว เป็นคำตอบถึงบทบาท-หน้าที่ตำรวจได้อย่างดี อ่านดูนะครับ
      นภพัฒน์จักร อัตตนนท์ **Nation Channel*
      ที่เห็นและเป็นอยู่* *: บันทึกเหตุการณ์ 19 พฤษภา '53**
     เราถือเป็น 48 ชั่วโมงที่ประเทศไทยพบกับความเปลี่ยนแปลงทั้งในหน้าประวัติศาสตร์การเมือง  และแน่นอนในเรื่องผลกระทบกับชีวิตของประชาชน ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 19 พฤษภาคม จนถึงตกเย็นของวันที่ 20 พฤษภาคม ผมได้ลงไปเกาะติดรายงานข่าวจากภาคสนาม ซึ่งหลายอย่างผมได้นำเสนอผ่านหน้าจอโทรทัศน์ แต่อีกหลายสิ่งอย่างที่ไม่สามารถพูดออกไป...
 บันทึก 'ที่เห็นและเป็นอยู่' มีเจตนาเพื่อเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แน่นอนด้วยวิกฤติทางการเมืองตอนนี้ หลายสิ่งอย่างไม่ใช่เรื่องดีนัก และบันทึกนี้อาจสร้างอารมณ์โกรธแค้นไม่พอใจคนบางคน หรือองค์กรบางองค์กรได้ แต่เจตนาที่เขียนบันทึกนี้ไว้เพื่อให้ได้ถ่ายทอดความจริงให้เราได้จดจำและเรียนรู้ต่อไป
     19/05/53 ราวเที่ยงคืนกว่าๆ: ผมได้รับโทรศัพท์ บอกว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีความพยายามของทหาร ในการเข้ามากดดันการชุมนุมที่เวทีราชประสงค์ แหล่งข่าวที่รายงานผมน่าเชื่อถือพอสมควร แต่สิ่งที่ผมทำได้ก็เพียงแค่การเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมโทรศัพท์ไปบอกทีมงานออกอากาศให้เตรียมพร้อม และเข้านอนไปตอน 01.00 น. พิเศษหน่อยคือคืนนั้นผมเปิดเสียงโทรศัพท์ทิ้งไว้ตอนนอน
     03.30 น.: โทรศัพท์ดังระหว่างผมนอนหลับไปได้ไม่ถึง 3 ชั่วโมง แหล่งข่าวคนเดิมโทรมารายงานความคืบหน้าว่าปฏิบัติการทางทหารกำลังจะเริ่มแล้ว ผมโทรไปย้ำกับทีมออกอากาศโทรไปรายงานให้ บก.ที่โต๊ะ ตอนแรกเตรียมตัวออกจากบ้านทันที แต่ บก.ที่โต๊ะเตือนสติไว้ว่าให้ออกจากบ้านหลังพระอาทิตย์ขึ้นดีกว่าเพื่อความปลอดภัย
     07.00 น.: ออกจากบ้าน มุ่งหน้าราชประสงค์ ตั้งใจไปที่จุดไข่แดงของการชุมนุมของกลุ่ม นปช.แต่มาตรการอันรัดกุมของทางทหารทำให้ต้องจอดรถอยู่ที่หน้าจามจุรีสแควร์ ไม่สามารถเข้าไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเหมือนทุกครั้งได้ บวกกับเหตุการณ์การปะทะกันระหว่าง นปช.กับทหารที่บริเวณสามย่าน ทำให้ตัดสินใจลงไปทำข่าวตรงจุดนี้ และทิ้งการทำข่าวการสลายการชุมนุมที่บริเวณแยกศาลาแดงไป
     12.00 น.: หลังการปะทะกันรวม 3 รอบ มีทั้งระเบิด M79 ประสุนจริงและกระสุนยาง มีคนเจ็บอย่างน้อย 2 ราย เมื่อสงบลงผมจึงตัดสินใจเดินเท้าจากสามย่านมุ่งหน้าอังรีดูนังต์ เพื่อไปติดตามสถานการณ์ที่เวทีราชประสงค์ ซึ่งบรรยากาศการเดินเท้า ณ จุดนั้น ระยะทางอย่างมาก 3 กิโลเมตร แต่สำหรับผม มันเป็น 3 กม.ที่วังเวงที่สุดในชีวิต เพราะบรรยากาศการปะทะกันเกิดขึ้นตลอดทั้งเช้าช่างดูรุนแรงจริงๆ
     13.00 น.: รายงานสดรอบ 12.30 น. เสร็จ ก็ได้รับข่าวการประกาศมอบตัวของแกนนำ นปช. ซึ่ง ณ นาทีนั้นผมประหลาดใจ ระคนดีใจเพราะการมอบตัวของแกนนำ นปช.เท่ากับการยุติการชุมนุม และนั่นก็จะหยุดการเข้ามาสลายที่จุดไข่แดงของทหาร ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริงคนนับสิบนับร้อยอาจต้องสูญชีวิตลง รวมถึงหลายคนที่ผมเกาะติดสัมภาษณ์มาตลอดเวลา ซึ่งในขณะนั้น การประกาศยุติการชุมนุมของคุณณัฐวุฒิและคุณจตุพร เกือบทำให้ผมรู้สึกว่า นปช.นี่แหละคือผู้ชนะในการประลองศึกการเมืองครั้งนี้แล้ว
     14.00 น.: ไม่กี่นาทีหลังจากการมอบตัวของ 6 แกนนำ นปช. จากความรู้สึกที่ดีที่ ณ นาทีนั้นผมมอบให้กับเหล่าแกนนำ ที่แม้ว่าหลายอย่างที่ผ่านมาผมไม่เห็นด้วย แต่การปักหลักอยู่กับผู้ชุมนุมจนนาทีสุดท้ายก็ทำให้รู้ว่าแกนนำกลุ่มนี้ไม่ทิ้งคนของตัวเอง และ เมื่อถึงวินาทีสุดท้ายก็รักษาชีวิตของผู้ชุมนุม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี ความรู้สึกที่ดีเหล่านั้นก็หมดลงด้วยเหตุการณ์ต่อไปนี้
     14.20 น.: ท่ามกลางควันดำที่ก่อตัวขึ้นหลังเวที นปช. นาทีนั้นผมยังเข้าใจว่าเกิดจากความคึกคะนองของผู้ชุมนุมไม่กี่คน (ในทีวียังรายงานไปเช่นนั้น) ไม่ได้มีความคิดเรื่องการเจตนาวางเพลิงห้าง Central World แม้แต่น้อย แต่ทันใดนั้นก็เกิดเหตุการณ์ที่น่าตกใจ ผมเห็นคนพยายามจุดไฟเผาสวนรอบๆ ตัวอาคาร จากนั้นก็ขว้างยางรถยนต์สลับกับระเบิดขวดเข้าใส่เพื่อให้ไฟลุกมากขึ้น และภาพสุดท้ายที่จะได้เห็นจากในวิดีโอนี้ คือ ผมเห็นคนขว้าง 'ถังแก๊ส' เข้าใส่กองเพลิง ย้ำชัดเจนถึงเจตนา ที่จะเผาอาคาร Central World ให้เสียหายได้มากที่สุด
     15.30 น.: กว่าชั่วโมงที่ผมเป็นสักขีพยานกับความพยายามของ *กลุ่มก่อการร้าย *(ก่อนหน้านี้ไม่เคยเรียก แต่ครั้งนี้ผมว่าคำเรียกนี้เหมาะสมแล้ว) ที่ตั้งใจแผดเผาอาคาร Central World ให้ราบคาบแบบที่ผมขอใช้คำว่า 'พยายามแล้ว พยายามอีก' เพราะหลายครั้ง ไฟก็มอดก็ดับไป แต่คนกลุ่มนี้ก็จะใช้วิธีการเดิม คือจุดไฟเผา-ขว้างระเบิดขวด-ปาถังแก๊สเพื่อบรรลุเป้าหมายให้ได้ จนถึงจุดหนึ่งผมก็เห็นควันไฟเหล่านี้ออกมาจากตัวอาคาร Central World ซึ่งเป็นจุดที่ผมเริ่มเศร้าใจกับความจริงที่ว่าอาคารแห่งนี้อาจจะกลายเป็นอดีตในอีกไม่นาน
     16.00 น.: เมื่อเริ่มตั้งสติได้ ผมก็เริ่มเดินสำรวจความพยายามของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในรอบรั้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตรงข้าม Central World) ที่น่าเศร้าคือ ตำรวจกว่า 300-400 คน ไม่มีใครแสดงถึงความพยายามในการหยุดยั้งการกระทำของกลุ่มก่อการร้าย หนำซ้ำผมเห็นหลายคน 'ซี้ดปาก' ด้วยความสะใจ ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงระเบิดดังๆ ตำรวจหลายคนควักกระเป๋าล้วงกล้องดิจิตอลเก็บภาพตัวเองกับควันโขมงเหนืออาคาร Central World ไว้เป็นที่ระลึก ราวกับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าจดจำแห่งหนึ่ง
     16.30 น.: หลังประสบความสำเร็จกับเป้าหมายเผาผลาญห้าง Central World กลุ่มก่อการร้ายเริ่มหันมาให้ความสนใจกับสื่อมวลชน รถถ่ายทอดสดของช่อง 3 หลังได้ยินข่าว นปช.กลุ่มหนึ่งไปบุกที่อาคารสำนักงานที่พระราม 4 ถึงกับต้องถอยรถมาจอดหลบ และแกะป้ายสติกเกอร์โลโก้ช่อง 3 ออก
     16.45 น.: ความรุนแรงลุกลามขึ้น กลุ่มก่อการร้ายบางคนชี้นิ้วเข้ามาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการชักปืนขึ้นยิงสาดกระสุนเข้ามาข้างใน ช่างภาพหลายสำนักพยายามเก็บภาพสำคัญนี้ไว้ นักข่าวหลายคนวิ่งหลบหนีแต่ก็ยังพยายามทำหน้าที่ในการรายงานข่าวของตัวเองอยู่ ผมหันไปสำรวจบรรยากาศโดยรอบที่น่าตกใจ (หรือไม่น่าตกใจ?) คือผมเห็นตำรวจก้มหลบหลังตัวอาคารแทบทุกคน เรียกได้ว่าหลบก่อนช่างภาพบันทึกข่าวซะอีก
     17.00 น.: ผมเดินเท้าออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้เส้นทางถนนอังรีดูนังต์ ครั้งนี้แค่เดินไม่ได้ครับ ผมวิ่งจ้ำอ้าว มุ่งหน้าจุดออกอากาศให้ได้เร็วที่สุด สาเหตุที่กลัวมากกว่าปกติ เพราะได้แวะสอบถาม อปพร.ที่พยายามเข้าไปดับไฟที่สยามสแควร์แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากกลุ่มก่อการร้ายระดมยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ อปพร. ทั้งคำพูดนี้ไว้กับผมว่า "ไอ้น้องเดินออกไประวังละกัน กระสุนมันก็วิ่งไปทุกทิศแหละ"
     18.00 น.: ออกอากาศรอบสุดท้ายสำเร็จ ผมเดินทางออกจากถนนอังรีดูนังต์ทันทีพร้อมกับถอดปลอกแขนนักข่าวสีเขียวออก หลังทราบข่าวว่าแกนนำ นปช.ที่ดินแดง ปราศรัยมุ่งหมายทำร้ายสื่อมวลชน ระหว่างนั่งรถกลับมาที่บ้าน สิ่งที่อยู่ในสมองผมคือพระบรมราโชวาทขององค์ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" เรื่องของ 'หน้าที่' อย่างที่ผมทำหน้าที่นักข่าวของผมเกาะติดรายงานสถานการณ์ หลบกระสุน-หลบระเบิดเพื่อได้รายงานความคืบหน้าให้กับประชาชนได้รับทราบ
     ทำให้ผมสงสัยว่าตำรวจ 300-400 คนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ณ นาทีนั้น นาทีที่คุณมีกำลังคนและอาวุธมากกว่ากลุ่มก่อการร้ายหลายเท่า พวกคุณไม่ได้มี 'หน้าที่' ที่ต้องออกปกป้องคุ้มครองชีวิตของประชาชนหรือ?
     ครับ..จบลงแค่นี้ "คุณนภพัฒน์จักร" กลั่นออกมาได้ใส..บริสุทธิ์ ไม่จำเป็นที่ผมจะไปแตะต้องอะไรให้ของเขาหมอง.

http://www.thaipost.net/news/010610/22868
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #2277 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2553, 10:16:02 »

ผมนึกว่ามีผมคนเดียว ที่ไม่สามารถทนฟังการอภิปรายในสภาเมื่อวานนี้ได้
ผมคงถูกคุณเปลว สีเงิน ล้างสมองเสียแล้วเป็นแน่แท้

      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
mek
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2540
คณะ: Vet 61
กระทู้: 627

« ตอบ #2278 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2553, 10:45:16 »

ผมก็ทนฟังไม่ค่อยได้เหมือนกันครับ เหมือนดู people channel เลย ต้องคอยเปลี่ยนเป็นระยะ ๆ ทนฟังไม่ไหวจริง ๆ พูดจาไปหน้าด้าน ๆ
      บันทึกการเข้า

Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #2279 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2553, 10:53:19 »


    สวัสดีครับเหยง

                 ไม่อยู่บ้านหลายวันเพิ่งกลับมาถึงบ้านวันนี้  เปิดดูเว็บ cmadong จึงเพิ่งทราบว่าวันที่ 30 พค.นี้ เป็นวันเกิด

   ของเหยง   จึงขออวยพรวันเกิดย้อนหลังขอให้เหยงมีความสุขมากๆ,มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและมีโชคดีตลอดไป
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2280 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2553, 11:01:56 »

ขอบพระคุณพี่แก้ว สำหรับคำอวยพรครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2281 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2553, 11:06:07 »

อย่าว่าแต่พวกเราที่ทั้งฟัง ทั้งดู การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ อย่างละเหี่ยใจไปกับสภาบันรัฐสภาไทย

อ๊วกแล้ว...อ๊วกอีก!!!
ท่านขุนน้อย 1 มิถุนายน 2553 - 00:00

      อุตส่าห์รับประทานยาแก้แพ้เอาไว้ก่อนล่วงหน้าประมาณ 1 กำมือ...แต่สุดท้าย ก็ยังคงต้องอ๊วกแตก  อ๊วกแตน จนได้ ระหว่างที่ต้องอดทน อดกลั้น รับฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ของพรรคฝ่ายค้านวันวานนี้ โดยเฉพาะช่วงที่คุณพี่ สุนัย ด่าง แห่งจังหวัดนครสวรรค์ ลุกขึ้นมาโยกไหว ไกวตัว สร้างความเปรี้ยวเท้า ให้กับใครต่อใคร ชนิดไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อยนั่นแหละ ต่อให้ยาแก้แพ้นับเป็นกระสอบๆ ก็ยังเอาไม่อยู่!!!
          -------------------------------------------------
     เฮ้ออ์อ์อ์...สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของปวงชนชาวไทย  อะไรมันจะน่าทุเรศ น่าเกลียด น่าชัง ช่างทำไปได้ถึงเพียงนี้ ขนาดบ้านเมืองเพิ่งจะฉิบหาย วายวอด เห็นกันชัดๆ จะจะ คาตา อันเนื่องมาจากบรรดานักการเมืองที่ไม่ได้คิดจะใช้เวทีรัฐสภาเป็นทางออก หันไปโดดขึ้นเวทีของแก๊งป่วนบ้าน ป่วนเมือง อย่างเป็นระบบ แต่หลังจากร่วมมือกับโจรเผาบ้าน เผาเมือง ไม่สำเร็จ หลังจากชักชวนราษฎรให้มาบาดเจ็บ ล้มตาย นับเป็นสิบๆ ร้อยๆ ยังอุตส่าห์มีหน้ากลับมาใช้เวทีรัฐสภาเป็นช่องทางในการระบาย ใส่ร้าย ป้ายสี โกหก พกลม กันอย่างเป็นกระบวนการซะอีก...
         --------------------------------------------------
     ทำไงได้...ถ้าหากยึดหลักว่าราษฎรเป็นอย่างไร? ผู้แทนของราษฎรย่อมต้องเป็นไปเช่นนั้น ความชั่วช้า เลวทราม ไร้คุณภาพ คุณธรรม ของผู้แทนฯ แต่ละราย ก็คงไม่ต่างไปจากภาพสะท้อนความเป็นไปของราษฎรในแต่ละเขตพื้นที่เลือกตั้งนั่นแหละ ประชาธิปไตยที่ว่ากันว่า...เป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน แต่ถ้าหากประชาชนดันชั่วซะอย่าง!!! โอกาสที่เราจะปฏิเสธนักการเมืองชั่วๆ นักการเมืองที่ไร้คุณภาพ ไร้คุณธรรม ถนัดในการโกหก พกลม ไปวันๆ มันคงแทบเป็นไปไม่ได้ มีแต่ต้องอดทน อดกลั้น รับประทานยาแก้อ๊วกเป็นกระสอบๆ ระหว่างรับฟังการอภิปรายเรื่องราวต่างๆ ในรัฐสภาอันทรงเกือกไปโดยตลอด...
         ---------------------------------------------------
     และจะไปด่าว่า ด่าทอ นักการเมืองเป็นรายๆ ก็คงไม่มีประโยชน์โพดผลอะไรซักเท่าไหร่ ขนาด ป๋าเปลว สีเงิน ท่านอุตส่าห์ให้เกียรติ นำไปเปรียบเทียบกับ สัตว์เดียรัจฉาน ก็แล้ว แต่ยังไม่สามารถกระตุ้นต่อมสำนึกให้ผลิตสารความละอายต่อบาป ความเกรงกลัวต่อบาป พอที่จะทำให้เกิดการแสดงออกถึงหิริ โอตตัปปะ ใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย การยึดมั่นอยู่กับผลประโยชน์ของพรรคพวก และตัวกูเอง ไม่เพียงแต่จะทำให้ระบอบประชาธิปไตย หลงทิศ หลงทาง เคว้งคว้าง วนไปวนมา อยู่ในวัฏจักร วงจรอุบาทว์ มานานเกือบศตวรรษ ยังทำให้คุณค่า ความหมาย ของคำว่าประชาธิปไตย...ดูจะเป็นอะไรที่ด้อยค่า  เป็น อันตราย ต่อความสุข ความสงบเรียบร้อย ของบ้านเมือง และปวงชนชาวไทยหนักขึ้นๆ ทุกที...
      --------------------------------------------------------
     พูดง่ายๆ ว่า...นับวัน เวทีที่เรียกๆ กันว่า เวทีรัฐสภา อันเป็นแหล่งสิงสถิตของบรรดาผู้แทนราษฎรอันทรงเกือกทั้งหลายนั้น นอกจากจะไม่สามารถใช้เป็น ทางออก ในการ แก้ไขปัญหา ให้กับบ้านเมืองได้แล้ว ยังกลายเป็นเวทีในการ สร้างปัญหา หนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะถ้าหากไม่ใช่บรรดานักการเมืองอันทรงเกือกเหล่านี้ โดดลงไปชักลากราษฎรรายละ 3,000 คน เป็นอย่างน้อย จากเขตเลือกตั้งของตัวเองในแต่ละเขต ให้มาร่วมกันสร้าง เวทีข้างถนน ตามยุทธศาสตร์ เป่านกหวีด ของเสื้อแดงตัวพ่อ หรือ ผู้ก่อการร้ายตัวพ่อแล้ว ปัญหาต่างๆ ในบ้านเมืองมันคงไม่ลุกลาม บานปลาย ไปได้ถึงขั้นนี้ หรือ ยังเป็นปัญหาซึ่งสามารถอาศัย เวทีรัฐสภา ขจัดความขัดแย้ง แตกต่างใดๆ ลงไปได้บ้างไม่มาก ก็น้อย...
        -----------------------------------------------------
     แต่เนื่องจากความพยายามแก้แค้น เอาคืน ความพยายามแย่งยื้อผลประโยชน์ อันมีตัวกู-ของกูเป็นที่ตั้งนั่นเอง การนำเอาราษฎรของกู หัวคะแนนของกู ภายใต้เขตเลือกตั้งของกู เข้ามาผสมรวมตัวจนกลายเป็น  ม็อบเสื้อแดง นับจำนวนเป็นหมื่นๆ แสนๆ แถมยังเปิดช่อง เปิดทางให้ กองกำลังไม่ทราบฝ่าย เข้ามาร่วมปฏิบัติการแค้นสวาทแล้วทวงคืน ชนิดการเคลื่อนไหวมวลชนต้องแปรสภาพกลายเป็น การก่อการร้าย ไปจนได้ ทั้งยังทำให้มวลชนของตัวเองตกอยู่ใน อันตราย อันเนื่องมาจากความจำเป็นของรัฐใดๆ ก็แล้วแต่ ที่พึงต้องทำหน้าที่ในการรักษากฎหมาย ระเบียบ กติกา ภายในสังคม มิให้ถูกทำลายลงไปด้วยความไร้เหตุ ไร้ผล หรือ ด้วยความมุ่งหวังเพียงเพื่อจะตอบสนองผลประโยชน์ของคนเพียงคนเดียวเท่านั้น...
      --------------------------------------------------------
     ผู้ที่นำพาราษฎรมาตาย และผู้ที่พยายามนำเอาศพของราษฎร มาใช้ประโยชน์ทางการเมืองอยู่ในขณะนี้ ก็คือ บรรดานักการเมืองเหล่านี้นี่แหละ การหวนกลับมาใช้เวทีรัฐสภากันอีกครั้ง มันจึงไม่ใช่ความพยายามที่จะอาศัยเวทีแห่งนี้เป็นทางออก หรือ เป็นหนทางในการแก้ปัญหาใดๆ ให้กับชาติบ้านเมืองเอาเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นความพยายามที่จะนำเอาทุกสิ่งทุกอย่างมาใช้เป็นเครื่องมือให้กับการแสวงอำนาจ ผลประโยชน์ เพื่อตัวกู ของกู เป็นที่ตั้งเท่านั้นเอง ท่ามกลางความพังพินาศ ฉิบหาย ของประเทศทั้งประเทศ ท่ามกลางเลือดเนื้อชีวิตของราษฎร ตลอดจนเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ซึ่งต่างก็ล้มตายไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย มันจึงไม่ปรากฏท่าทีที่สะท้อนถึงจิตสำนึก ความรับผิดชอบ  ต่อความเป็นตัวแทนปวงชน หรือ แม้แต่ความละอายต่อบาป ความเกรงกลัวต่อบาป อันเป็นสิ่งที่มนุษย์ปกติธรรมดาพึงมีเอาเลยด้วยซ้ำ...
       -------------------------------------------------------
     ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าจะอภิปรายกันกี่วัน  กี่คืน ไม่ว่าจะแสดงโวหาร เหตุผล ข้ออ้าง ใดๆ ก็แล้วแต่ มันก็ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ในทางสร้างสรรค์กับบ้าน กับเมือง กับระบอบประชาธิปไตย หรือ กับเวทีรัฐสภาแม้แต่น้อย มีแต่จะทำประชาชนผู้รับฟัง รับชม ทางบ้าน เกิดอาการอ๊วกแตก คลื่นเหียน วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน ฯลฯ จนต้องรับประทานยาแก้แพ้กันเป็นกระสอบๆ อย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละ แม้นว่าอาจมีผลอยู่บ้างในแง่ที่ การยืมหอกสนองคืน ของรัฐบาล สามารถก่อให้เกิดความหน้าแหก สามารถลากขี้ ลากไส้ ของนักการเมืองประเภทนี้ออกมาให้เห็นกันสดๆ จะจะ แต่ก็นั่นแหละ...มันยิ่งทำให้หน้าตาของระบอบประชาธิปไตยในแบบตัวกู ของกู ยิ่งน่าเกลียด น่าชัง น่าทุเรศ ยิ่งขึ้นไปอีก หรือ ยิ่งกลายเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงความชั่ว ความเสื่อมโทรมทางศีลธรรมที่ซึมลึก และแพร่ระบาดอยู่ในสังคมไทย ชนิดที่มีแต่จะนำไปสู่ประชาธิป...ตาย ได้เสมอๆ...
     ----------------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก ชาร์ลส์ โยสต์ (อีกครั้ง...และอีกครั้ง) ประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องของอารมณ์ หากเป็นเรื่องของการมองการณ์ไกล ระบอบอะไรก็ตามที่ไม่ได้คำนึงถึงการณ์ไกล ก็จะเผาผลาญตนเองให้มอดไหม้ไปในระยะเวลาอันใกล้...
[size]
http://www.thaipost.net/news/010610/22842
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2282 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2553, 11:12:13 »

นานาทรรศกับการดูและฟังอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันแรก และการจับคู่ตั้ง ครม. หาก สนธิ ลิ้ม ได้เป็นนายกฯ

แผ่นเสียงตกร่อง
ถูกทุกข้อ 1 มิถุนายน 2553 - 00:00

เรียน คุณสามวา สองศอก
     วันนี้เปิดดูถ่ายทอดการประชุมสภาผู้แทนแล้ว รู้สึกสมเพช ส.ส.พรรคเพื่อนายจัง ยิ่งตอน ส.ส.น้องชายนายอ๋อย ไฟฉาย ลุกขึ้นได้ก็อภิปรายโจมตีนายกฯ อย่างเอาเป็นเอาตายทันที พูดเหมือนเป็นแผ่นเสียงตกร่องกันไปทั้งพรรค ว่าทหารยิงนักข่าว นายกฯ สั่งฆ่าประชาชน ลอยหน้า ลอยตาพูด ทั้งที่เป็นการอภิปรายเรื่องงบประมาณแท้ๆ
     มันคงมีจิตใจที่ไม่ได้เป็นคนไทยใช่ไหมคะ ทำเป็นบอกนักข่าวต่างประเทศพูด ถ้าเรารักชาติไทยคงจะช่วยแก้ข่าวว่า ยังไม่ได้ตรวจสอบเลยว่าความจริงเป็นอย่างไร ขบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุดมาด่วนปรักปรำ (ความจริงถ้าคนที่มาชุมนุมจะยอมรับฟังรัฐบาลเจรจาบ้าง ก็คงไม่เกิดเรื่องบานปลายเช่นนี้ แต่กลับหน้ามืดตามัวทำตามแกนนำอย่างบ้าคลั่ง บอกให้กลับดีๆ ก็ไม่ยอมกลับ น่าเสียดายชีวิตนักข่าว-ทหารและคนดีๆ ที่โดนลูกหลง)     แล้วยังมีลูกคู่จอมสาระแนประท้วงอยู่ตลอดเวลา อย่างนายสุนัข แหลกละเอียดทั้งวงศ์ตระกูล ซึ่งคนนี้ไม่น่าเกิดมาเป็นคนไทยเลย เลวได้ถึงที่สุด หน้าไม่มียางอายแม้แต่น้อย ประธานบอกให้มันถอนคำพูด มันกลับบอกว่ากี่ร้อยครั้งก็ไม่ยอมถอน (มันควรเป็นผู้แทนหรือไม่) ไม่รู้ว่าคราวหน้าจะมีคนบ้าใบ้เลือกมันเข้ามาอีกหรือเปล่า ขอภาวนาว่าอย่ามีใครเลือกมันมาอีกเลย ขี้เกียจดูหน้าตาหัวหูมันดูน่าทุเรศไปหมด
     แล้วนาง ส.ส.สาระชั่วนั่นอีกคนดูดัดจริตจัง ทำจีบปากจีบคอนึกว่าสวยตายแล้ว เด็กเมื่อวานซืนเอ๊ย! มีความคิดผิดแต่เด็กน่าเป็นห่วงประเทศชาติ ที่มีคนบ้าๆ มาเกิดน่าจะตายเสียไวๆ
     อยากทราบจังว่าไอ้นักโทษหนีคุก ผู้ก่อการร้ายจอมบงการคนนั้น มันเลี้ยงดูลูกพรรคชั่วๆ ของมันด้วยอะไรกันนะ มันถึงได้พากันกตัญญูรู้คุณยอมตายถวายหัว พลีชีพกันทั้งตระกูลเช่น ตระกูลไฟฉาย เป็นต้น
     ลูกพรรคทุกคนก็พร้อมออกมาเจี๊ยวจ๊าว หลับหูหลับตาพูดกันเป็นเสียงเดียวไม่รู้ดี รู้ชั่ว เข้าข้างพ่อมันอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่พยายามลืมหูลืมตารับรู้เรื่องการโกงชาติ และความผิดของพ่อมันแม้แต่น้อยนิด จนน่าประหลาดใจว่ามีสมองกันหรือไม่? 
     คุณสามวาว่าพ่อมันให้ไอ้พวกบ้านี้มันกินอะไรกันคะ จะได้ไปหามาให้ลูกน้องกินบ้าง จะได้เชื่อง เหมือนลูกพรรคของมัน แต่ถ้าบอกว่าให้กินเศษเงินที่ โกงชาติ ไป ดิฉันคงไม่สามารถทำได้ เพราะไม่เคยโกงใครแม้แต่ภาษีก็เสียเต็มที่ และที่น่าสะอิดสะเอียนไม่แพ้กัน คือตำรวจมะเขือเทศค่ะ คุณสามวาว่าไม่ต้องมี สตช.จะดีมั้ยคะ (จ้างยามหมู่บ้านยังมีผลงานกว่าเลยนะคะ)     
     ป.ล.พอดีที่บ้านมีกระสุน M.79 เหลืออยู่หนึ่งลูก ฝากคุณสามวาไปกรอกปาก "พี่เบ็ด" ให้หน่อยได้มั้ยคะ รำคาญเสียงเห่าหอนจังค่ะ
                                        จาก คนชื่อแดง(แต่อยากเปลี่ยนชื่อจัง)
ตอบ คุณแดง
     แค่ฟังการอภิปรายงบประมาณคุณก็ทนไม่ได้แล้ว จะทนฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่พรรค
ฝ่ายค้านจะมาฟอกถ่านให้เป็นสีขาวไหวหรือครับ กระสุนเอ็ม 79 ที่คุณครอบครองอยู่มีความผิดตามกฎหมายนะครับ ต้องรีบเอาไปส่งมอบให้ตำรวจ ส่วนชื่อแดงก็ดีอยู่แล้วอย่าไปเปลี่ยนเลยครับ   
 
                    เลือกนักมักได้แร่
เรียน คุณสามวา สองศอกที่เคารพ
     "เลือกนักมักได้แร่" ภาษิตโบราณกล่าวขานไว้เช่นนั้น โดยเฉพาะบุคลากรบนเวทีการเมือง ซึ่งเพียงแต่หาคนที่มี "จิตสาธารณะ" เอามาทำยายังยาก มีแต่ผีป่าซาตานละโมบโลภมาก โกหกพกลมตัวเป็นขน พูดขาวเป็นดำได้อย่างเป็นธรรมชาติ ปลิ้นปล้อน หลอกลวงประชาชนได้อย่างหน้าตาเฉยและอยู่เป็นนิจ ถึงจะมีสิทธิ์เจริญงอกงาม จัดตั้งบริษัทการเมืองเข้ามาประเทืองประเทศ แบ่งเขตแบ่งพรรคตักตวงผลประโยชน์กันอย่างหน้าไม่มียางอายกันทั้งนั้น
     ไอ้ที่มีจิตใจงามทำการเมืองประเทืองประเทศ กันด้วยหัวใจโปร่งใสนั่นน่ะนับรายได้ แต่ในนั้นแน่นอนย่อมมีนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยืนอยู่ด้วยอย่างแน่นอน
     อย่างนี้ท่านประธานองคมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีของเรา ถึงได้พูดอย่างเต็มปากว่า โชคดีที่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
     รองนึกย้อนถึงอดีตนายกฯ ที่ปกครองประเทศถัดย้อนไปเป็นรายตัว เห็นจะไม่ต้องเอ่ยนามกัน ความสง่างามมีกันได้สักกี่รายคน มีแต่ความเฟอะฟะ เปรอะเปื้อนกันแทบทั้งนั้น และบางท่านก็เป็นเพื่อเพียงเกียรติประวัติเสียของวงศ์ตระกูล
     ที่จะแลดูเป็นผู้เป็นตัวนับหัวได้ ทั้งๆ ที่มีกันผ่านมาได้ตั้งหลายสิบ ลองหยิบเอามาพิจารณาดู
กันแต่ละคนซิครับ ทั้งที่ล่วงลับและยังมีชีวิตได้ ตายก็ไม่ตายที่ยังดิ้นรนทุรนทุรายอยู่ก็ยังมีให้เห็น แล้วเป็นไงโดยเฉพาะรายที่บำเพ็ญตนเป็นนกขมิ้นเหลืองอ่อน ค่ำนี้จะนอนไหนเอย นั่นแหละตัวสำคัญนัก
     แล้ววิญญูชนคนไทยผู้ใฝ่ดีเขานึกกันยังไง มองคนที่เตรียมตัวเตรียมใจเข้ามาอาสาทำงานเพื่อประเทศชาติ โดยอุทิศตัวทั้งประโยชน์ส่วนตน ไม่ต้องขวนขวายแสวงหาอาชีพอื่นใดมาเบียดเบียนผลประโยชน์ของผู้คนร่วมสังคม เพราะฐานะเดิมนี่พ่อแม่สร้างเสริมไว้ดีพออยู่ได้แล้วว่าปลายแถว ละอ่อนไปไม่ใช่มือโปร อพิโธ่พิถัง กลายเป็นแนวร่วมมุมกลับของนักโปรปะกันดา ของพวกผีป่าซาตานที่เข้ามายื้อแย่งทำสัมปทานประเทศ หรือพวกบริษัทพรรคการเมืองกินรวบจำกัดไป
     เรียนได้จากไฮสกูลเกรดเอของโลก ETON ผ่านมหาวิทยาลัยหมายเลขหนึ่ง OXFORD ด้วยวุฒิมหาบัณฑิตปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง โดยเป็นศิษย์รุ่นพี่ของเดวิด คาเมรอน ทั้งไฮสกูลและออกซ์ฟอร์ดในคณะเดียวกัน แต่รายนั้นประเทศต้นแบบประชาธิปไตยอย่างอังกฤษ ประชาชนของเขากลับหยิบป้ายประทับตราให้เป็นผู้เหมาะสมที่จะนำพาประเทศของเขาไป ทั้งๆ ที่วัยเพิ่งย่าง 40 ต้นๆ ผิดกับคนของเรา 40 ปลายๆ ใครๆ มันยังตะแบงกันว่าเด็ก พิลึก!
     มีของดีอยู่แล้วไม่รู้จักดูแลรักษา ให้ผีป่าซาตานมาปั่นขวาปั่นซ้าย ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองกันเลยคนไทยเรา น่าสงสารจัง
                                                      ขอแสดงความคารวะ
                                                           บริสุทธิ์ จิณวุฒิ
ตอบ คุณบริสุทธิ์
     ผมดองจดหมายคุณนานพอสมควร เพราะอยากจะพิสูจน์ว่านายกฯ อภิสิทธิ์ของคุณจะดีแตกหรือไม่ ผ่านเหตุการณ์ 19 พฤษภาคม 53 ถือว่าคุณอภิสิทธิ์สอบผ่าน จึงลงจดหมายฉบับนี้เพื่อเป็นกำลังใจ

                    เมนูอร่อยล้วนๆ
เรียน คุณสามวาที่เคารพ
     เมื่อวานพรรคพวกที่แม่กลอง ฝากปลาหมึกกับปลาทูสดๆ จากเรือมาให้ทางรถสิบล้อที่ไปลากเกลือแถวบ้านบ่อ จึงเอาปลาทูมาทำซาเตี๊ยะ ปลาหมึกผัดกะปิ กินจนจุกตกดึกเลยฝันดี เดี๋ยวค่อยเล่าให้อ่าน
     ปกติผมเลิกกินตามร้านอาหารมานาน เพราะแพงและเห็นว่าเรื่องความสะอาดเป็นรองผม
อยู่มาก ไพร่อย่างผมจึงเลียนแบบคุณชายถนัดศรี ทำกับข้าวไปจิบเบียร์ไปแบบใจเย็นๆ ครัวบ้านผมสร้างเอง จึงมีขนาดใหญ่มากคือ 4x16 เมตร เป็นสวรรค์ของผม
     A เริ่มจากเอาน้ำใส่กระทะตั้งไฟ ใส่เกลือทะเลกับน้ำตาลโตนด เคี่ยวจนเป็นยางมะตูมได้รสหวานเค็มแล้ว จึงเติมน้ำส้มสายชู ตำพริกขี้หนูกับกระเทียมอย่างละกำมือ ใส่โพ้ละลงไป ตามด้วยผักชีเยอะๆ
     B ต้มน้ำใส่เกลือให้เดือดจัด จึงหย่อนปลาทูตามสักสิบตัว กะว่าสุกพอดีๆ แล้วช้อนขึ้นมาเรียงในจาน ตักเครื่องปรุงในข้อ A ราดเยอะๆ
     คุณสามวานึกภาพซิว่าอร่อยไหม
     เสร็จอย่างแรกคือปลาทูซาเตี๊ยะ เอากระทะตั้งไฟใส่น้ำมันสักช้อนโต๊ะให้ร้อนจัด ควักกะปิราว 1 ช้อนชาขยำกับปลาหมึก แทรกน้ำตาลทรายนิดหน่อยเตรียมไว้ ปอกกระเทียมไทยครึ่งกำมือไม่ต้องบุบ ใส่กระทะทอดให้หอมฉุย เทปลาหมึกคลุกกะปิลงผัดเร็วๆ พอสุก (อย่าสุกมาก) เหยาะน้ำปลาน้ำตาลทรายอีกเล็กน้อย ตามด้วยใบโหระพาคลุกๆ แล้วตักขึ้น
     คุณสามวาคิดว่าน่าจะอร่อยไหม
     อร่อยคักๆ เลยครับ โดยมีเงื่อนไขว่าปลาทู ปลาหมึก ต้องสดจริงๆ โดยเฉพาะปลาหมึกอย่าเอาหมึกดำออกสีไม่ค่อยสวย กินแล้วปากดำแต่อร่อย กินแล้วฝันดี
     ทีนี้จะเล่าเรื่องความฝันดีของผมบ้าง คือฝันว่าคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เปลี่ยนใจรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่อีกครั้ง ลงรับสมัครเลือกตั้งภายหลังนายกฯ อภิสิทธิ์ยุบสภากะทันหัน พรรคประชาธิปัตย์ไม่ถูกยุบ ได้คะแนนล้นหลามจากคนกรุงเทพฯ และคนใต้รวม 167 ที่นั่ง
     ส่วนพรรคการเมืองใหม่ได้ ส.ส. 6 คน คือคุณสนธิ ลิ้มฯ คุณโสภณ องค์การ คุณชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย คุณอัญชะลี ไพรีรัก คุณสำราญ รอดเพชร และคุณประพันธ์ คูณมี ส่วนพี่ยะใสสอบตก
     พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. 249 คน แต่หาพวกตั้งรัฐบาลไม่ได้เลย จึงรวมหัวกันโหวตให้คุณสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นนายกรัฐมนตรีซะเลย สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้เมืองไทย
     คุณสนธิฯ ตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ จึงไปดึงนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้คุณประพันธ์ คูณมี เป็น รมว.ยุติธรรม คุณชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย คุมกลาโหม คุณโสภณ องค์การ คุม DSI คุณสำราญ รอดเพชร คุม กอ.รมน.
     ส่วนคุณอัญชะลีเป็น รมว.สำนักนายกฯ คุมสื่อโดยเฉพาะ
     รมว.การต่างประเทศไม่พ้นคนชื่อกษิต ภิรมย์
     ผมฝันได้แค่นี้ก็ตื่นเพราะปวดท้องหนักท้องเบา เดินงัวเงียไปเข้าห้องน้ำ กลับมานอนหลับยาวถึงเช้า
     แหม่!! เสียดายจังที่ไม่ได้ฝันต่อ ว่าเมืองไทยจะมีสภาพอย่างไร หากฝันผมเป็นจริงขึ้นมา
                                                     ด้วยความนับถืออย่างสูง
                                                       ศรีธัญญา ณ สวนปรุง
ตอบ คุณศรีธัญญา
     เมนูปลาทูซาเตี๊ยะและปลาหมึกผัดกะปิของคุณ ท่าทางจะอร่อยนะครับ เปิดร้านเมื่อไหร่ช่วยบอกด้วยจะไปอุดหนุน ส่วนความฝันของคุณนั้นต้องไปถามพวกสภาท่าพระอาทิตย์ที่เอเอสทีวี ว่าแบ่งกระทรวงให้อย่างนี้เห็นด้วยหรือเปล่า
                                                         สามวา สองศอก 

http://www.thaipost.net/news/010610/22840
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #2283 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2553, 15:23:43 »

ขออนุญาตต่อแถว พี่น้อง

HBD พี่เหยงด้วยคนครับ  ...
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2284 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2553, 17:57:36 »

ขอบใจ ดร.มนตรี ครับ

ขอให้บรรดาพรทั้งหลาย บันดาลให้น้องและครอบครัวมีความสุขตลอดไปเช่นกัน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2285 เมื่อ: 01 มิถุนายน 2553, 18:21:45 »

เห็นหน้า-เห็นตา กลุ่มคนผู้ถืออาวุธของเสื้อแดงซะที ทั้งปืนลูกซองสั้น ปืน M-16 และอื่นๆ


นักข่าว CNN ลงรูปชุดดำแก้ตัวตีข่าวไทย

คมชัดลึก :แดน ริเวอร์ส นักข่าวสำนักข่าว CNN ประจำประเทศไทยลงภาพชายชุดดำ แก้ตัวการรายงานข่าวสถานการณ์ความรุนแรงในกรุงเทพฯ 

สำนักข่าว CNN บรรยายว่า ในสัปดาห์นี้ ฉากแห่งความรุนแรงในกรุงเทพฯ ได้รับความสนใจอีกครั้ง เมื่อพรรคการเมืองในทั้งสองฝ่ายของปัญหาได้มาถกกันเรื่องที่ว่าเกิดอะไรขึ้น

ในความรุนแรงเมื่อไม่นานมานี้ ข้อมูลของทางการบอกว่า มีผู้เสียชีวิต 88 ราย ส่วนมากเป็นผู้ประท้วง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารรวมอยู่ด้วย 11 ราย บางคนเป็นอาสาสมัครการแพทย์ ราว 1 พัน 500 คนบาดเจ็บ ซึ่งก็มีทั้งผู้ประท้วง อาสาสมัคร และผู้สื่อข่าว รวมทั้งทหาร รัฐบาลกล่าวหากลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงในหมู่ผู้ประท้วงเสื้อแดงที่ทางการเรียกว่าผู้ก่อการร้ายว่าเป็นคนเปิดฉากยิงก่อน

ปัจจุบันนายกรัฐมนตรีกำลังถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่ในรัฐสภา โดยพรรคฝ่ายค้านอ้างว่าฝ่ายทหารใช้กำลังรุนแรง ฝ่ายค้านใช้วีดีโอคลิปในการพิสูจน์ข้อกล่าวหา ที่บอกว่าทหารยิงปืนใส่ผู้ประท้วงที่กำลังวิ่งหนี ฝ่ายรัฐบาลยืนยันว่าในกลุ่มคนเหล่านี้มีกลุ่มติดอาวุธแฝงอยู่ และยืนยันว่าทหารเล็งเป้าไปยังเฉพาะผู้ที่มีอาวุธเท่านั้น พร้อมกันนั้นก็ยังให้มีการสอบสวนการเสียชีวิตของผู้ประท้วงที่ไม่มีอาวุธด้วย

วีดีโอที่ทาง CNN ได้มาชุดนี้ จนถึงปัจจุบันเป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดเกี่ยวกับกลุ่มติดอาวุธที่เป็นปริศนา ที่ถูกรัฐบาลกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุการปะทะ มีการบอกให้ผู้ชมสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ถึงปืนเอ็ม 16 ที่เอวของผู้ชายในภาพ และก็เป็นครั้งแรกที่สามารถมองเห็นใบหน้าของชายคนนี้อย่างชัดเจน โดยคนหนึ่งใส่ชุดพรางแบบทหาร ส่วนอีกคนใส่ชุดดำ

ผู้ชายคนนี้ยืนยันให้ช่างภาพถอยออกไป โดยไม่รู้ว่าพวกเขาถูกบันทึกภาพวีดีโอเอาไว้แล้ว ใบหน้าของชายคนนี้อาจจะเป็นหลักฐานสำคัญว่าจริงๆแล้วใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความรุนแรง

นายกรัฐมนตรีบอกว่า พวกอันธพาลเหล่านี้ไม่ใช่ส่วนปกติของขบวนการเสื้อแดง " ผมเชื่อมั่นหนักแน่นว่า คนที่ต้องการเข้ามายุ่งเกี่ยวกับความรุนแรง เป็นเพียงส่วนเล็กๆของขบวนการ ผมไม่เชื่อว่าคนที่มาร่วมกับขบวนการเสื้อแดง ต้องการสนับสนุนขบวนการที่ต้องการความรุนแรง"

แต่การที่เขายอมรับว่าส่วนมากของขบวนการเป็นไปอย่างสันติ ก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวัด ที่ผู้ประท้วงหลายร้อยเข้าไปหลบภัย ตอนที่ทหารรุกเข้ามา พวกเสื้อแดงบอกว่าพวกเขาถูกยิงมาจากเส้นทางรถไฟฟ้าที่อยู่ข้างบน ภาพที่ถูกตีพิมพ์ในเว็บไซต์แห่งหนึ่งเผยให้เห็นทหารอยู่บนทางรถไฟที่อยู่ใกล้ๆ กัน แต่รัฐบาลบอกว่าทหารไม่ได้อยู่ที่นี่ในวันที่เกิดการยิงกัน  และตอนนี้เว็บไซต์ดังกล่าวก็ถูกบล็อกไปแล้วในประเทศไทย

มีผู้เสียชีวิต 6 รายในวัด ซึ่งก็รวมถึงผู้หญิงคนนี้ ที่มาช่วยดูแลบผู้บาดเจ็บ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือแอนดรู บันคอมพ์ นักข่าวอังกฤษ " มีคนบาดเจ็บหนักกว่าผมอีก ผมถูกยิงบริเวณประมาณ 20 หลาจากหน้าวัด" คนที่รัฐบาลกล่าวว่าสำหรับเรื่องเหล่านี้ทั้งหมดก็คือ อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร  ปัจจุบันเขาอยู่ระหว่างการลี้ภัย และปฏิเสธข้อกล่าวหา รวมทั้งมีสัญญาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่รัฐบาลอื่นๆจะส่งตัวเขากลับมายังประเทศไทย รัฐบาลไทยกล่าวหาว่าทักษิณจ่ายเงินให้กับกลุ่มคนติดอาวุธอย่างชายคนนี้ เพื่อให้ก่อสงครามกลางเมือง ปัจจุบันชายคนนี้ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ขณะที่ความรุนแรง ก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในประเทศไทย
ชมคลิ๊ป คลิกที่นี่

http://edition.cnn.com/video/#/video/world/2010/06/01/rivers.thai.crisis.cnn

http://www.komchadluek.net/detail/20100601/61356/นักข่าวCNNลงรูปชุดดำแก้ตัวตีข่าวไทย.html
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2286 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2553, 13:05:14 »

โหวตซักฟอก “มาร์ค” ฉลุย “โสภณ” กระอัก “ปู่จิ้น” รองบ๊วย
2 มิถุนายน 2553 12:43 น.

 
       โหวตซักฟอก “มาร์ค” ได้เสียงสนับสนุนให้ทำหน้าที่นายกฯ ต่อไปโดยได้มากสุด 246 เสียง ขณะที่ “สุเทพ” ได้ 245 “กรณ์” 244 ตามด้วย “กษิต” 239 ขณะที่ “โสภณ” คะแนนต่ำสุด 234 ส่วน “ชวรัตน์” รองบ๊วย 236
     
       การลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังจากพรรคร่วมฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.ถึง วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดประชุมสภาฯ เพื่อลงมติในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในเวลา 10.00 น.วันนี้ (2 มิ.ย.) ซึ่งรัฐมนตรีจะต้องได้รับเสียงในการลงมติไม่น้อยกว่า 238 เสียง จากจำนวน ส.ส.475 เสียง โดยมี ส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาล 275 เสียง ประกอบด้วย 6 พรรคการเมือง ได้แก่ ประชาธิปัตย์ 172 เสียง ภูมิใจไทย 32 เสียง เพื่อแผ่นดิน 32 เสียง ชาติไทยพัฒนา 25 เสียง รวมชาติพัฒนา 9 เสียง กิจสังคม 5 เสียง ขณะที่ฝ่ายค้านมี 200 เสียงประกอบด้วย 3 พรรคการเมืองได้แก่ พรรคเพื่อไทย 189 เสียง ประชาราช 8 เสียง และมาตุภูมิ 3 เสียง
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเปิดประชุมสภา นายชัย ชิดชอบ ได้ขอนับองค์ประชุม ปรากฎว่ามีส.ส.เข้าร่วมประชุม 456 คน ครบองค์ประชุม จากนั้นจึงมีการลงมติผลการลงมติ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้รับความไว้วางใจ 246 ไม่ไว้วางใจ 186 งดออกเสียง 11 ไม่ลงคะแนน 21 นายสุเทพ เทือกสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้รับความไว้วางใจ 245 ไม่ไว้วางใจ..187 ลดออกเสียง11 ไม่ลงคะแนน 21
       
       นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้รับความไว้วางใจ 244 ไม่ได้รับความไว้วางใจ 187 งดอกเสียง 12 ไม่ลงคะแนน 22 นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้รับความไว้วางใจ 239 ไม่ได้รับความไว้วางใจ 190 งดออกเสียง 15 ไม่ลงคะแนน 21
       
       นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ได้รับความไว้วางใจ 236 ไม่ได้รับความไว้วางใจ 194 งดออกเสียง 14 ไม่ลงคะแนน 22 นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ได้รับความไว้วางใจ 234 ไม่ได้รับความไว้วางใจ 196 งดออกเสียง 13 ไม่ลงคะแนน 22
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในจำนวนรัฐมนตรีที่ได้รับความไว้วางใจ ปรากฏว่ารัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย 2 คนที่ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อแผ่นดินมีท่าทีไม่สนับสนุน ได้รับเสียงความไว้วางใจน้อยกว่ารัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย โดยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ได้เสียงไว้วางใจเพียง 236 เสียง ขณะที่นายโสภณได้รับเสียงสนับสนุนน้อยสุด 234 เสียง สร้างความฮือฮาอย่างมากในห้องประชุมหลังประธานสภาฯ ขานมติ
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจแลัว นายพิฑูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อ่านพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญทันที จากนั้นประธานสภาจึงสั่งปิดประชุม

 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000075770
 
      บันทึกการเข้า
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #2287 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2553, 21:46:50 »



สตรีนางหนึ่ง แต่งงานมีลูกแล้ว และเธอก็มีชู้ด้วย 1 คน
ทุกวันพุธเธอจะพาชู้มาที่บ้าน เพื่อทำการ(จึ๊กก ระดึ๋ย)
และระหว่างนั้นเธอก็จะให้ลูกชายอายุ 8 ขวบไปอยู่ในตู้เสื้อผ้า

พุธหนึ่งสามีเธอเกิดเลิกงานเร็ว ผิดปกติและกลับบ้านก่อนเวลา
เธอตกใจมากจึงรีบพาชายชู้มาหลบในตู้เดียวกะ ที่ลูกชายเธออยู่
พอตู้เสื้อผ้าปิดลงเด็กน้อยก็พูดขึ้นว่า

"ใน นี้มืดจังเลยนะครับ"
"อื้อ นั่นน่ะสินะ" ชายชู้ตอบ
"ผมมีลูกเบสบอลลูก นึง ขายให้คุณ 50 ดอลล่า เอามั้ยครับ?"
เด็กน้อยเสนอ
ชายชู้รีบตอบ ปฏิเสธทันที
"ไม่เอาเว้ย ขายขูดรีดกันนี่หว่า"
"งั้นผมไปบอกพ่อดีกว่า ว่าคุณอยู่ในนี้
"เออ เอามาก็ได้วะ" ชายชู้จำยอม

พุธต่อมาก็เกิด เหตุการแบบเดียวกันขึ้น อีก
ชายชู้จึงถูกพาไปหลบในตู้เสื้อผ้าเดิม
"ใน นี้มืดจังนะครับ" เด็กชายพูดขึ้น
"เออ นั่นสินะ" ชายชู้กัดฟันพูด
"ผม มีไม้เบสบอลจะขายคุณ 50ดอลล่าเอามั้ยครับ?"
"เอามาเล้ย"

ครั้นพุธ ต่อมาผู้เป็นสามีลาพักร้อน
เขาชวนลูก ชาย
"นี่ลูก พ่อว่าเราไปเล่นเบสบอลกันดีมั้ย?"
เด็กชายตอบว่า
"ไม่ได้หรอกพ่อ ผมขายไม้กะลูกบอลไปแล้วในราคา100ดอลล่า

ผู้เป็นพ่อโกรธมาก
" แกนี่ทำแบบนี้ได้ยังไง แกไปหลอกขายใครเข้ามันเป็นบาปรู้มั้ย
และพระผู้ เป็นเจ้าจะไม่ยอมรับลูก ขึ้นสวรรค์ มานี่พ่อจะพาไปโบสถ์"

ที่ โบสถ์......
ผู้เป็นพ่อพาเด็กชายมาที่ห้อง สารภาพบาปซึ่งเป็นห้องที่เล็กๆและค่อนข้างมืด
"เอ้า เข้าไป แล้วบอกหลวงพ่อไปซะว่าแกทำบาปอะไรมา"
เด็กน้อยเข้าไปในห้องนั้นและประตู ก็ปิดลงทิ้งให้เด็กชายอยู่ในความมืด
เด็กน้อยรู้สึกกลัวจึงรำพึงออกมา
"ใน นี้มืดจึงเลย..."
ทันใดนั้นบาทหลวงก็ตอบกลับมาว่า

"จะเอาอะไรมา ขายอีก"

 

 

ที่มา teenee.com
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2288 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2553, 09:49:16 »

แฮ๊ปปี้ เบ-เดิร์ท เบิร์ทเดย์ เหยงด้วยคนนะคะ

ขอให้สุขภาพเเข็ง เเรง และมีจิตใจสาธารณะ ที่เห็น ว่าอะไรคือความถูกต้อง

ของสังคมไทย อย่างนี้ไปตลอดนะคะ

คือรู้จักว่าอะไรถูกอะไรผิด  เหมือนที่เหยงเป็นอยู่น่ะค่ะ

อุดมการณ์ที่ดีอย่าได้เเปรเปลียน ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็ตาม
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
ภาณุ ปาตานี
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,254

« ตอบ #2289 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2553, 11:45:24 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 01 มิถุนายน 2553, 10:16:02
ผมนึกว่ามีผมคนเดียว ที่ไม่สามารถทนฟังการอภิปรายในสภาเมื่อวานนี้ได้
ผมคงถูกคุณเปลว สีเงิน ล้างสมองเสียแล้วเป็นแน่แท้



คนทั้งบางครับพี่ป๋อง ที่ฟังไม่ได้

เปลวไฟที่เผาครับที่ล้างสมอง

ส่วนคุณเปลว สีเงิน คงไม่เกี่ยวเท่าไหร่ มั้งครับ (ให้เกี่ยวสักหน่อยก็ได้ครับ..ให้เครดิตกับวิธีการคิดครับ)

 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2290 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2553, 11:56:43 »

อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 04 มิถุนายน 2553, 09:49:16
แฮ๊ปปี้ เบ-เดิร์ท เบิร์ทเดย์ เหยงด้วยคนนะคะ

ขอให้สุขภาพเเข็ง เเรง และมีจิตใจสาธารณะ ที่เห็น ว่าอะไรคือความถูกต้อง

ของสังคมไทย อย่างนี้ไปตลอดนะคะ

คือรู้จักว่าอะไรถูกอะไรผิด  เหมือนที่เหยงเป็นอยู่น่ะค่ะ
[size]
อุดมการณ์ที่ดีอย่าได้เเปรเปลียน ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็ตาม

ขอบคุณครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2291 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2553, 12:12:37 »

คอลัมม์ "คนปลายซอย" วันนี้ (4 มิถุนายน 2553) ท่ามกลางวิกฤติพรรคร่วมรัฐบาลโหวตส่วนไม่ไว้วางใจ รมต. พร้อมระบุว่า นอกจากการปเลี่ยนตัว ครม.แล้ว ดวงดาวก็เปลี่ยนตำแหน่งไปด้วย เชิญอ่านครับ

ปรับ ครม.ไม่เท่าดวงดาวจะปรับแทน
เปลว สีเงิน 4 มิถุนายน 2553 - 00:00

     เอ้า...จะปรับพรรค-ปรับ ครม.ก็รีบปรับๆ เข้า เดี๋ยวอีกไม่กี่วันสื่อและชาวบ้านเขาก็จะไม่แลรัฐบาลแล้วละ เพราะจะไปแลการถ่ายทอดสด "ฟุตบอลโลก" กันหมด แต่ผมอยากบอกว่า ถึงแม้เพื่อแผ่นดิน หรือภูมิใจไทยน้ำลายหกออกไปจากการร่วมรัฐบาล ก็ไม่ต้องกลัวรัฐบาลจะล่ม  เพราะไปแต่โครงคือพรรค ส่วนไส้ในคือ ส.ส.ในพรรคส่วนใหญ่ไม่ไปด้วย แถมยังมีพรรคและแก๊งอะไหล่รอเสียบอยู่อีก ประเด็นสำคัญอยู่ที่การ "ปรับ ครม." มากกว่า คนอยากให้ปรับเข้าน่ะเยอะ  แต่คนไม่อยากให้ปรับออกเยอะกว่า...ตรงนี้แหละปัญหาปวดใจ-ปวดกะโหลก!
     ถามว่า ปรับคนโน้น-ปรับคนนี้ แล้วกล้าปรับตำแหน่งที่ควรปรับอย่าง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม และนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์มั้ย?
     นายกฯ ก็ร้อง ไอ๊หยา..เค้าเป๋ ไปเท่านั้นเอง!
     ที่ผมพูดถึง ๓ ตำแหน่ง ๓ คนนี้ ไม่ใช่เพราะเขาไม่ดี ไม่เก่ง แต่เพราะว่า "วางตัวคนไม่เหมาะกับตำแหน่งงาน" นั่นแหละเป็นหลักใหญ่ อย่างกระทรวงมหาดไทยอันเกิดขึ้นมาพร้อมกับประเทศไทยในความหมายเป็น "แกนระบบบริหารประเทศ" เป็นทั้งแขน ทั้งขา ทั้งหู ทั้งตา กระจายอยู่ทั่วขอบเขตขัณฑสีมา ที่เรียกว่าทำงาน "ต่างพระเนตร-พระกรรณ" ของระบบราชการ ปรัชญาอันเป็นที่มา ก็น่าจะมาจากตรงนี้แหละ ตรงงานมหาดไทยนี่!
     แล้วลองหลับตานึกงานกระทรวงมหาดไทยที่โบราณเรียกว่า "กระทรวงเจ้าขุนมูลนาย" เทียบกับบุคลิกภาพ และพื้นฐานความเป็นมาของนายชวรัตน์ดูซิ พ่อค้า-อาแป๊ะมาเป็นผู้บังคับบัญชา "เจ้าเมือง" ตลอดถึงนายอำเภอ และหน่วยงานในความเป็น "ฝ่ายปกครอง" ทั้งหมด เหมือนสวมชุดไทย ใช้ชฎา แล้วไปเล่นงิ้ว!
     มาถึงนายโสภณ ซารัมย์ บ้าง เขาเก่ง มีความสามารถ ไม่งั้นนายเนวินไม่ให้ขับรถประจำตัวให้นั่งหรอก แต่กับงานคมนาคมในยุคสมัยที่เขามองไปถึงขั้นเส้นทางเชื่อมดาวเคราะห์กันแล้ว เรียกว่าไปไกลกว่าวิสัยทัศน์ถนนปลอดฝุ่น หรือแค่ตัดต้นไม้บนเขาใหญ่อันเป็นทั้งอุทยานแห่งชาติและมรดกโลกด้วยความคิดแค่ "ขยายถนน" ในพื้นที่ที่มนุษย์ต้องการต้นไม้มากกว่าต้องการถนนให้คนไปซิ่ง หลับตานึกถึงภาพนายโสภณ แล้วเอาวิสัยทัศน์งานคมนาคมที่ควรเป็นในอีก ๑๐-๒๐ ปีข้างหน้ามาเทียบ เห็นความลงตัวระหว่างคนกับงานตรงไหน นอกจาก "นายเนวิน" ต้องการ!?
     นางพรทิวา นาคาศัย ก็เหมือนกัน ในฐานะรัฐมนตรีพาณิชย์ ชอบไปเมืองนอกบ่อยๆ น่าจะเปลี่ยนชื่อเสียก่อนนะ เพราะเวลาไปแนะนำตัวกับฝรั่งว่า "พรทิวา" เขาจะอมยิ้มเอา หรือบางคนอาจเข้าใจไขว้เขวว่าพาณิชย์มาขายอะไร ความจริงเธอเป็นคนเก่ง สามารถบริหารสถานบริการอาบอบนวดของตระกูลพบความสำเร็จโด่งดังเช่นโพไซดอน ที่นักข่าวและนักการเมืองรู้จักดี แต่นั่นจะใช้เป็นเครื่องการันตีว่าเธอคลุกคลีอยู่กับการค้า จึงคู่ควรกับตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์หาได้ไม่!
     พูดกันตรงๆ ประเทศไทยทั้งอดีตและปัจจุบัน ที่ว่า GDP โตได้เท่านั้น-เท่านี้ กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่เป็นผลงานอย่างเดียวคือ หน้าที่เก็บตัวเลขมา "เอาหน้า-เอางบ" ในแต่ละไตรมาส บรรดาพ่อค้า นักธุรกิจ นักลงทุน อันเป็นภาคเอกชนเขาทำของเขาเอง ช่วยตัวของเขาเอง เกือบทั้งนั้น โดยเฉพาะในภาคส่งออก ถ้าภาครัฐไม่อ้างสิทธิตามอำนาจรัฐเข้าไปเป็นแมงดาเกาะหลัง ไม่ใช้อำนาจเป็นลูกตุ้มถ่วงเขามากนัก รับประทานแต่พอคำ เพียงคอยอำนวยความสะดวก และใช้ฐานะประเทศคอยปกป้อง-ดูแลเขาในฐานะพี่เลี้ยงที่ดีแค่นั้น ป่านนี้การค้าภาคเอกชนจะทำให้ประเทศไทยรวยไม่รู้เรื่อง!
 เป็นความตกต่ำ และโชคร้ายสุดๆ ของไทย ในขณะที่เรามีอุตสาหกรรมการส่งออกและศักยภาพพ่อค้าไทยเป็นจุดแข็งเหนือกว่าหลายๆ ประเทศ แต่กลับมีจุดอ่อนมาละลายจุดแข็งจนทำให้ด้อยกว่าเกือบทุกประเทศ เพราะได้คนที่มีคุณสมบัติแค่แจ๋วเดินตามเมียหัวหน้า "ก๊วนผสมพรรค" มาเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์!
     นี่ผมยกตัวอย่างให้ดูถึง "ความยาก" ในการปรับ ครม.ให้ถูกคน ถูกงาน และถูกใจประชาชนเท่านั้น  เพราะด้วยการเมือง เรื่องถูกใจประชาชนมาทีหลัง การ "ถูกใจ" พรรคและก๊วนต้องมาก่อนอยู่แล้ว ในเมื่ออยากให้รัฐบาลอยู่ นายกฯ อภิสิทธิ์อยู่ บรรดาแฟนคลับอภิสิทธิ์ทั้งหลายก็ต้องพร้อม "ทำใจ" ประกาศโฉมหน้า ครม.มาร์ค ๒ เมื่อไหร่ ยี้...ค่อยๆ อยู่ในใจแล้วกัน!

 
     เอาละ..มีอะไรมาให้ท่านศึกษาต่อท้าย ท่านอาจารย์ "กรหริศ บัวสรวง" คงเห็นผมนั่งทางในคุยเปะปะในเชิงคาดการณ์บ้านเมืองล่วงหน้า ท่านเลยคำนวณเส้นทางโคจรของดวงดาวที่เป็นจริงบนท้องฟ้าขณะนี้มาให้อ่านกัน รู้-ดีกว่าไม่รู้ ฉะนั้น อ่านเพื่อศึกษาตามศาสตร์สถิติแห่งดวงดาวกันได้เลยนะครับ
       จับตาดาวเคราะห์ 3 ดวง
            กรหริศ บัวสรวง
     ...มีประเด็นที่ผมต้องขออนุญาตใช้พื้นที่ของคุณเปลว สีเงิน อีกครั้งเพื่อนำเสนอเรื่องของดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ ในเดือนมิถุนายน ที่มีข่าวลือหนาหูว่าจะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหวรุนแรง เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์จากข้อมูลของสมาคมดาราศาสตร์ไทยระบุว่า ดาวเคราะห์ 3 ดวง คือ ดาวศุกร์ ดาวอังคารและดาวเสาร์ กำลังโคจรเข้าใกล้มากขึ้นและจะใกล้กันมากที่สุดในเดือนสิงหาคม ขณะนี้ดาวศุกร์อยู่ในกลุ่มดาวปู (ราศีกรกฎ) ดาวอังคารอยู่ในกลุ่มดาวสิงโต (ราศีสิงห์) และจะมีความสว่างมากขึ้น ดาวเสาร์อยู่ในกลุ่มดาวหญิงสาว (ราศีกันย์) ซึ่งเป็นข้อมูลที่ตรงกับการคำนวณของคัมภีร์สุริยาตร์ของไทยอย่างไม่ผิดเพี้ยน แสดงให้เห็นว่าส่วนหนึ่งของวิชาโหราศาสตร์นั้นก็คือวิชาดาราศาสตร์ที่เป็นวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่ง สำหรับวิธีการพยากรณ์เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่มาจากสถิติและประสบการณ์ของนักโหราศาสตร์ เราได้ผ่านเดือน “พฤษภากาลี” ไปแล้ว แต่ก็ยังมีการบิดเบือนความจริงในสภาผู้แทนราษฎรตามมาหลอกหลอนผู้คนให้เกิดความสับสนเข้าใจผิด และเป็นการสร้างความแตกแยกโดยเจตนา ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นสิ่งที่น่ากลัวไม่ต่างไปจากการก่อการร้ายที่เผาบ้านเผาเมือง แต่ความกาลีเลวร้ายที่เกิดขึ้นจากคนนั้นป้องกันและกำจัดได้ด้วยกฎหมาย ส่วนเรื่องของธรรมชาติสามารถรู้ล่วงหน้าได้จากดาวเคราะห์ที่กล่าวถึงทั้ง 3 ดวง เริ่มจากดาวศุกร์ ธาตุน้ำโคจรเข้าสู่ราศีกรกฎธาตุน้ำเช่นเดียวกัน ราศีนี้มีดาวจันทร์ครองราศีอยู่ ดาวจันทร์ก็เป็นดาวกึ่งธาตุน้ำและธาตุดินคือดินเหลว ดาวศุกร์ในภพที่ 4 ของดวงเมืองหมายถึงที่อยู่อาศัย ที่ดิน ดินฟ้าอากาศ เกษตรกรรม และในทางการเมืองหมายถึงพรรคฝ่ายค้าน ดาวอังคารธาตุลมโคจรในราศีธาตุไฟภพที่ 5 ของดวงเมืองที่มีดาวอาทิตย์ครองราศี ส่วนดาวเสาร์ธาตุไฟอยู่ในราศีธาตุดินภพอริที่มีดาวพุธครองราศี
     จะเห็นได้ชัดเจนว่าทั้งน้ำ ทั้งลม ทั้งไฟ ทั้งดิน รวมกันอยู่ในดาวที่โคจรในแต่ละราศี ดังนั้นภัยพิบัติย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นได้จากอิทธิพลของธรรมชาติและฤทธิ์เดชของผู้สูญเสียอำนาจ จึงขอเตือนว่าอย่าได้วางใจเป็นอันขาด ตั้งแต่บัดนี้ถึงเดือนสิงหาคม ดินฟ้าอากาศจะวิปริต สังคมเกิดอาเพศขัดแย้งกันรุนแรงอีกรอบหนึ่ง ในขณะเดียวกันดาวพฤหัสบดีอยู่ในบริเวณกลุ่มดาวปลา (ราศีมีน) ค่อนไปทางกลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ (ราศีกุมภ์) เดือนนี้ดาวพฤหัสบดีจะโคจรเข้าใกล้ดาวยูเรนัส (ดาวมฤตยู) มากที่สุดในช่วงเช้าของวันที่ 8 มิถุนายน นับเป็นครั้งแรกในจำนวน 3 ครั้งที่เกิดขึ้นในปีนี้ถึงต้นปี 2554 เมื่อเอ่ยถึงดาวมฤตยู นักโหราศาสตร์จะนึกเรื่องของการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงเป็นอันดับแรก แต่ดาวนี้อยู่ในภพที่ 12 (ภพวินาศ) ของดวงเมือง ที่หมายถึงอาชญากรรม คุกตะราง ใครคิดก่อกบฏทรยศชาติมีสิทธิ์รับชะตากรรมต้องโทษทัณฑ์ตามกฎหมายด้วยผลของดาวพฤหัสบดีที่ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม เมื่อดาวศุกร์จรอยู่ในภพที่ 4 ซึ่งหมายถึงพรรคฝ่ายค้าน มาจากภพวินาศ จะส่งผลให้บางคนต้องย้ายที่อยู่จากบ้านไปสู่คุกตะรางหรือหลบหนีคดีไปต่างแดน
     รัฐบาลจะต้องเร่งปฏิรูปประเทศและระบบต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อความมั่นคงอย่างรวดเร็ว เพราะดาวกำลังเอื้ออำนวยความโชคดีอย่างไม่คาดฝัน แต่จะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีว่าจะสามารถรวมร้อยใจคนไทยให้เกิดความเชื่อมั่นได้อย่างไร ก็จบเท่านี้ ต่อจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของเราทั้งหลายคอย "ตรวจหวย" แต่ผมขอแทรกเป็นยาดำไว้นิดว่า ไม่ต้องเสียเวลาไปพึ่ง "อินเตอร์โพล" ให้ล่าตัวใครกลับมาเข้าคุกไทยหรอก ใครหนีไปอยู่ที่ไหน ก็ให้เขาอยู่ "ในที่ชอบๆ" ไปเถอะ ผมเคยบอกว่า "อีก ๕ เดือน" นี่ก็จะครบ ๕ เดือนในเดือนหน้า-เดือนโน้นแล้ว
     คุกจัดสรร ไม่สู้กรรมจัดสรรหรอก...คุณเอ๊ย!


http://www.thaipost.net/news/040610/23042
      บันทึกการเข้า
yyswim
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2511
คณะ: "นิเทศศาสตร์"
กระทู้: 9,245

เว็บไซต์
« ตอบ #2292 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2553, 21:53:27 »

เหยง...  

พี่ไม่รู้เลยว่าวันเกิดเหยง พอดีว่าเพิ่งจะเข้ามา

บังเอิญว่า พี่หลบกระทู้การเมือง
เห็นป๋องบอกว่า ได้ช่วยแยกกระทู้ของน้องแอ๊ะ ออกเป็นสองกระทู้
กระทู้การเมือง กับกระทู้ ซำบายดีพี่แอ๊ะ

แต่เข้ามากระทู้นี้แล้ว เจอแต่การเมือง พี่ก็จะรีบออก

กระทู้ของน้องแอ๊ะ พี่จึงไม่ค่อยได้เข้ามา

หากสามารถ แยกกันได้ชัดเจน ก็คงจะดี จะได้เข้ามาบ่อยๆ


วันนี้ จังหวะฟลุ๊คครับ พี่เข้ามาแบบคลิกเล่นๆ


ขอสุขสันติ์วันเกิดครับเหยง





ขอให้บุญรักษาเหยง ให้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เมื่อย ไม่เคล็ด ไม่ปวด ไม่อ้วน
ขอให้ร่ำรวย แต่ตอนนี้ก็คงจะสบายตัวแล้ว
ขอให้เหยง มีความสุข ไม่เครียด มีอายุยืนนาน นะครับ

ขอชมเชยว่าเหยง เป็นคนเก่งหลายอย่าง มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีมากด้วย



      บันทึกการเข้า

จาก สิน
http://yyswim.bloggang.com
yyswim
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2511
คณะ: "นิเทศศาสตร์"
กระทู้: 9,245

เว็บไซต์
« ตอบ #2293 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2553, 21:58:29 »

น้องแอ๊ะ...

ที่เกาะ เราเจอกันแป๊บๆ นะ
ก็อยากจะหาจังหวะ ถ่ายรูปน้องแอ๊ะ แบบเยอะๆ 

แม้ว่า พี่นภจะยังถ่ายรูปไม่ค่อยเก่ง



      บันทึกการเข้า

จาก สิน
http://yyswim.bloggang.com
yyswim
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2511
คณะ: "นิเทศศาสตร์"
กระทู้: 9,245

เว็บไซต์
« ตอบ #2294 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2553, 22:01:06 »

พี่นภ นอนที่ราชภัฏสุราษฎร์ ตรงลิปะใหญ่
ห้องพักดีครับ นอนคนเดียว

รุ่งเช้า มีอาหารเช้าให้รับประทานด้วย ราคาฟรีครับ

ดร.ณรงค์ ศิษย์เก่ารุ่น 13 อธิการบดีราชภัฏสุราษฎร์ ให้เกียรติแก่รุ่น 13
น้องเอื้อมพร เกาะสมุยรุ่น13 เธอเป็นคนประสานงานให้

ที่นั่นจะมีแต่ ศิษย์เก่ารุ่น13 เข้าพัก ทั้งสี่ชั้น
น้องเบญ เธอรุ่น13 พี่นภก็เลยพลอยตามน้องสาว เข้ามาพักกับรุ่น13

แต่บังเอิญ ห้องว่างหนึ่งห้อง เพราะคู่ที่จองไว้ ไม่มา

น้องเบญจึงแยกไปนอนเป็นเพื่อน น้องพรรณ ลูกสาวน้าขนบ
ปล่อยให้พี่นภนอนคนเดียว









      บันทึกการเข้า

จาก สิน
http://yyswim.bloggang.com
yyswim
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2511
คณะ: "นิเทศศาสตร์"
กระทู้: 9,245

เว็บไซต์
« ตอบ #2295 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2553, 22:04:18 »

อู้ด พรเทพ   ชักชวนพี่นภแล้ว ให้ไปที่บ้านน้องแอ๊ะ
ก็อยากไปนะ แต่พี่นภไม่มีรถไป

อยากไป ก็เพื่อจะไปถ่ายรูปมาลงในกระทู้นี้

พี่รอจังหวะตอน อู้ด พรเทพ กลับบ้าน
ก็ไม่รู้ว่า อู้ด กลับตอนไหน
อด เลย เรา






ครูสามารถ นอนที่ราชภัฏ ลิปะใหญ่ครับ
นอนห้อง ดร.ณรงค์เลย เป็นห้อง VIP
แต่ตอนเช้าไม่เห็น ดร.ณรงค์ ทราบว่าไปนอนที่ เฉวง

สงสัยจะเกรงใจครูสามารถ เลยปล่อยให้ครูสามารถ ครองห้องคนเดียว




      บันทึกการเข้า

จาก สิน
http://yyswim.bloggang.com
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2296 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2553, 22:04:38 »

อ้างถึง
ข้อความของ yyswim เมื่อ 04 มิถุนายน 2553, 21:53:27
เหยง...  

พี่ไม่รู้เลยว่าวันเกิดเหยง พอดีว่าเพิ่งจะเข้ามา

บังเอิญว่า พี่หลบกระทู้การเมือง
เห็นป๋องบอกว่า ได้ช่วยแยกกระทู้ของน้องแอ๊ะ ออกเป็นสองกระทู้
กระทู้การเมือง กับกระทู้ ซำบายดีพี่แอ๊ะ

แต่เข้ามากระทู้นี้แล้ว เจอแต่การเมือง พี่ก็จะรีบออก

กระทู้ของน้องแอ๊ะ พี่จึงไม่ค่อยได้เข้ามา

หากสามารถ แยกกันได้ชัดเจน ก็คงจะดี จะได้เข้ามาบ่อยๆ


วันนี้ จังหวะฟลุ๊คครับ พี่เข้ามาแบบคลิกเล่นๆ


ขอสุขสันติ์วันเกิดครับเหยง





ขอให้บุญรักษาเหยง ให้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เมื่อย ไม่เคล็ด ไม่ปวด ไม่อ้วน
ขอให้ร่ำรวย แต่ตอนนี้ก็คงจะสบายตัวแล้ว
ขอให้เหยง มีความสุข ไม่เครียด มีอายุยืนนาน นะครับ

ขอชมเชยว่าเหยง เป็นคนเก่งหลายอย่าง มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีมากด้วย





ขอบพระคุณพี่นพ' ครับ
      บันทึกการเข้า
yyswim
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2511
คณะ: "นิเทศศาสตร์"
กระทู้: 9,245

เว็บไซต์
« ตอบ #2297 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2553, 22:07:17 »

วันรุ่งขึ้น หลังจากวันงาน
พี่นภ ไปเที่ยวกับรุ่น 13 ไปกับครูสามารถด้วย  

ไปเที่ยวที่เกาะแตน ไปดำดูปลา
มีปลาตัวขนาดปลาทู คล้ายๆปลาทู แต่เป็นอีกพันธ์ ว่ายวนเวียนรอบๆตัว อยู่เยอะ

ไปเกาะแตน ไปรู้จักบ้านของคุณตาคุณยายของน้องพรรณ ลูกสาวน้าขนบ

และพบว่าทุกวันนี้ เกาะแตน ก็ยังเป็นเกาะที่สุนัขยังขึ้นเกาะไม่ได้!!!
หากนำสุนัขขึ้นเกาะ  สุนัขจะดิ้น จะว่ายน้ำออกไปเองจากเกาะ
และสุนัขจะจมน้ำตายในทะเล

จึงนับเป็นเรื่องแปลก เป็นเกาะอันซีน ของเกาะสมุยทีเดียว

ถ้ามีจังหวะจะนำรูปเกาะแตนมาฝาก  เผื่อว่าจะมีใครอยากดู



      บันทึกการเข้า

จาก สิน
http://yyswim.bloggang.com
yyswim
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2511
คณะ: "นิเทศศาสตร์"
กระทู้: 9,245

เว็บไซต์
« ตอบ #2298 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2553, 22:13:20 »




น้องอารี รูปข้างบน กลับพร้อมกับพี่นภครับน้องแอ๊ะ
เป็นเที่ยวดึก วันที่ 30 ถึงกรุงเทพราว 5 ทุ่มกว่าๆ
      บันทึกการเข้า

จาก สิน
http://yyswim.bloggang.com
อ้อย 14
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,055

« ตอบ #2299 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2553, 07:39:12 »

 emo20:)):)ทำไมพี่แอ๊ะ  ไม่ใส่เสื้อทีม ลายฟ้าขาว กะเขาบ้างละคะ  น่ารักดี...
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 90 91 [92] 93 94 ... 131   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><