22 พฤศจิกายน 2567, 09:50:32
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 88 89 [90] 91 92 ... 131   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"  (อ่าน 793579 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2225 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 22:39:12 »

น้องหะยี และน้องที่น่ารัก ทุกท่านคะ

ขอไปนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า ไปรับเสด็จ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์

ปีนี้ มีคนเเย่งกันเข้าเฝ้า ถวายเงินเข้ามูลนิธิ พอ.สว เกือบ200 คน เเน่ะ

เเละเจ้าอาวาสวัดหนึ่งก็ถวายเงิน ล้านกว่าบาท สมทบมูลนิธิ

แสดงว่า คนอิสาน ยังรักเทิดทูนสถาบันอยู่ไม่น้อย ปีนี้แย่งกันเข้าเฝ้าเลยค่ะ

เงินที่ถวายท่าน ท่านพระราชทานกลับมาให้มูลนิธิ พอ.สว.ของทุกจังหวัดนะคะ

เราจะเห็นว่า เวลา ประชาชน ถวายเงิน แท้จริงแล้ว ท่านรับไว้ แล้วประทานกลับมา

ทุกงานและทุกพระองค์ค่ะ


 อยากให้ทุกคนเข้าใจด้วยนะคะ ว่าทุกพระองค์ไม่ได้นำเงิน ไป นะคะ

 จะประทานกลับคืนมาทุกงานค่ะ

      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2226 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 08:58:03 »

 คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน ซึ่งเป็นที่ชื่อชมของชาวไทยในขณะนี้ ฟังข้อเสนอการย้ายเมืองหลวงครับ

"สู่ศตวรรษใหม่" เราจะไปทางไหนกันดี?
เปลว สีเงิน 26 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     วานซืน ผมตั้งหัวข้อ "หยั่งกระแส" ใน FB ว่า "เราย้ายเมืองหลวงไปสร้างกรุงเทพฯ แห่งที่  ๒ หรือ นิวบางกอกกันดีไหม? โดยเอาทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา และกระทรวง ย้ายไปอยู่ที่นิว บางกอกทั้งหมด ปล่อยให้ "กรุงเทพมหานคร" หรือโอลด์บางกอกนี้ ได้เป็น "เมืองฟ้าอมร" ตัดขาดความขัดแย้งเรื่องลัทธิ-ศาสนา-การเมือง และอำนาจเสียที ให้กรุงเทพฯ เป็น "สวรรค์บนดิน" ที่ทั้งชาวไทยและชาวโลกขอเป็น "ครั้งหนึ่งในชีวิต" ที่ได้มายลบางกอกอันนิรันดร์ด้วยสัญลักษณ์ศูนย์กลางแห่งศิลปะ-วัฒนธรรม และการศึกษา ศูนย์กลางแห่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ศูนย์กลางแห่งสถาบันพระพุทธศาสนา ศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวพักผ่อน มาช็อปปิ้ง มาประชุม มาตกลงธุรกิจการค้า และมาตื่นตา-ตื่นใจกับเทศกาล งานพระราชพิธีต่างๆ อันมี ณ ที่แห่งเดียวในโลกคือที่...กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร!

     ครับ...ปรากฏว่าได้รับความสนใจพอควร ยังไม่ถึงขนาดเว็บระเบิดหรอก เสียงส่วนใหญ่ก็ "เห็นด้วย" และผมอยากจะบอกว่า "ปัญหาคือปัญญา" จริงๆ เพียงแค่หยั่งท่าทีถามว่า "ควรสร้างกรุงเทพฯ แห่งใหม่ดีมั้ย" คำตอบที่น่าจะออกมาแค่ ดี หรือ ไม่ดี เห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย แต่ปรากฏว่า จากคำถาม จุดประเด็นความคิดชาว FB ให้แตกตัว เพราะนอกจากตอบเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยแล้ว แต่ละท่านยังแตกแขนงทางปัญญาแบบ "ผู้มีวิสัยทัศน์" มองยาว-มองไกลไปข้างหน้า  ไม่ใช่มีปัญญาแค่ "ถามคำ-ตอบคำ" หลายท่านตั้งคำถามไปข้างหน้าด้วยการย้อนถามถึง "ประเด็นใหญ่" กลับมาคือ "แล้วเราจะย้ายไปตั้งอยู่ที่ไหนดี?"

     ไม่เพียงเท่านั้น ยังอีกมากมายหลายความคิดเห็นที่เป็นการ "คิดสรรค์สร้าง" ทางใหม่-เมืองใหม่  มองไกลขนาดว่า ปฏิรูปคือพัฒนาเมืองไทยให้มี "กรุงเทพฯ" ทั้ง ๔ ภาคเลยดีไหม แทนที่จะให้ประเทศไทย "ทั้งประเทศ" กระจุกตัว-ผูกติดไว้กับความเป็น "กรุงเทพฯ" วันนี้ แห่งเดียว! เห็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเป็น "บ้านเมืองของเรา" จากหนุ่ม-สาวคนรุ่นใหม่ผ่าน FB แล้ว ผมก็แอบดีใจ อย่างนี้บ้านเมืองเราไปรอด และไปรุ่งแน่นอน เอาเป็นว่า ในขั้นตอนแรกนี้ เราหยั่งเสียงในหัวข้อใหญ่อย่างเดียวก่อนว่า "สร้างกรุงเทพฯ แห่งใหม่" พูดง่ายๆ คือ "ย้ายเมืองหลวง" ไปสร้างในที่แห่งใหม่ดีมั้ย? เท่านี้ก่อน

     ส่วนย้ายไปสร้างที่ไหน สร้างแล้วมันจะกินกันบรรลัย และควรเอาอะไร-ต่ออะไรไปไว้ที่เมืองใหม่นี้บ้าง นั่นเป็นรายละเอียดอีกยาวไกลครับ ต้องไปถึงจุดนั้นแน่ แต่ยังไม่ใช่ในขั้นตอนนี้ เฉพาะตอนนี้เอาแค่มติแรกก่อนว่า...ควรย้ายไปสร้างเมืองใหม่ หรือไม่ควร? หลายท่านเดาเจตนาผมว่า คงต้องการ "ย้ายเมืองหนีปัญหา" ม็อบการเมือง ความจริงไม่ใช่หรอกครับ ถ้าท่านพลิกๆ อ่านที่ผมเขียน-คุยมาตลอดจะพบว่า ผมเสนอ "สร้างเมืองใหม่" มาหลายครั้งแล้ว เจตนาก็คือ "ครอบครัวประเทศไทย" เติบโตด้วยสมาชิกกว่า ๖๐ ล้านคน และจะถึง ๑๐๐ ล้านคนในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า ยังไม่รวมพลเมืองแฝงจากชาติต่างๆ อีกหลายสิบล้านคน นั่นคือ.....กรุงเทพฯ เล็ก คับแคบ และแก่ชรากว่า ๒๒๘ ปีแล้ว ไม่สามารถให้คนทั้ง ๖๐ กว่าล้านคนนั้น เข้ามาอยู่ เข้ามาทำงาน เข้ามาเรียน เข้ามาตั้งถิ่นฐาน เข้ามาตั้งโรงงาน เข้ามาประกอบธุรกิจการค้า เข้ามาแสวงหาโอกาสที่ดีกว่าของชีวิตในรูปแบบต่างๆ ได้อีกแล้ว
     เหมือนคอนโดฯ ๓๐ ตารางเมตร เคยอยู่กัน ๒ คนผัว-เมียก็สบายดี มีลูก ๑ คนก็ยังพอไหว แต่มีลูก ๕ คน แถมลูกแต่งงาน และมีหลานออกมาอีกเป็นสิบๆ ๓๐ ตารางเมตร ไม่ใช่ "บ้านคือวิมานของเรา" อีกต่อไปแล้วครับ มันกลายเป็น "นรกลอยฟ้า" ดีๆ นี่เอง!

     การแยกศูนย์กลางบริหาร ศูนย์กลางราชการไปไว้ที่หนึ่ง และแยกศูนย์การค้า ธุรกิจ-ติดต่อ-ท่องเที่ยวไปไว้ที่หนึ่ง และศูนย์ธุรกิจอุตสาหกรรมอีกที่หนึ่ง ผมก็ว่าเมืองไทยเรา "โตแบบไม่มีพิมพ์เขียว" มานาน มันถึงเวลาที่ต้อง "จัดระเบียบ" ด้วยการขอคืนพื้นที่บ้าง กระชับพื้นที่บ้าง เปิดพื้นที่ใหม่บ้างโดยใช้ปัญหา-อุปสรรคจาก "โตไร้แบบแผน" นั้นเป็นตัวอย่างเพื่อการวางผัง-วางแบบเป็นพิมพ์เขียว "สร้างเมืองใหม่" โดยคำนึงถึงระบบโลจิสติกส์ และระบบคมนาคมเชื่อมต่อเมืองระหว่างเมืองถึงกัน ดีกว่าเห็นรถติดตรงไหนก็ "ขุดทำรถไฟใต้ดิน" วนอยู่แต่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จนแผ่นดินใต้กรุงเทพฯ พรุนไปหมดแล้ว!

     พูดกันถึงอนาคต ต่อไปนี้ ใครจะพูดแต่เฉพาะประเทศตัวเองประเทศเดียวไม่ได้แล้ว ต้องมองในความเป็นหนึ่งบนความคล้ายคลึงกันเพื่ออยู่ร่วมแบบ "แบ่งกันอยู่-ร่วมกันรวย" อย่างไทยเรา จะโด่เด่แค่ไทยไปไม่รอด จะมองรวมกลุ่มอาเซียนเป็นหนึ่ง นั่นก็ยาก เพราะในความเป็นอาเซียน ยังมีความแตกต่างทางลัทธิ-ศาสนา-ขนบธรรมเนียม-ประเพณี ที่ยากจะรวมกันได้จริงๆ

     แต่ถ้ามองดูใน "กลุ่มอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง" ๖ ประเทศ อันประกอบด้วย ไทย-ลาว-เขมร-ญวน-พม่า และจีนตอนใต้ คือแถวๆ ๑๒ ปันนา คุณหมิงนั่นแหละ เราจะเห็นชัดเลยว่า ทั้งการสืบสาย และทั้งศิลปะ-วัฒนธรรม-ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศาสนา กระทั่งภาษา และการกิน การอยู่ รวมถึงทัศนคติเหมือนกันหมด! ตรงนี้แหละคือจุด "ปฏิวัติประเทศไทย" สู่สังคมศตวรรษใหม่แท้จริง ๖ ประเทศจะต้องรวมกันเป็นหนึ่งในด้านเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว-การขนส่ง เพราะ ๖ ประเทศคุมประตูเชื่อมโลกอันเป็นยุทธศาสตร์ทางทะเลทั้งหมด ไม่ว่าอ่าวไทย อ่าวอันดามัน เชื่อมมหาสมุทรแปซิฟิกเข้ากับมหาสมุทรอินเดีย!!! ๖ ประเทศนี่แหละจะเป็น "จ้าวแห่งบูรพา" ตัวจริง เพราะนอกจากคุมยุทธศาสตร์ทางทะเลแล้ว  ภูมิศาสตร์พื้นที่แต่ละประเทศ ธรรมชาติยังกำหนดให้เป็น "พื้นที่อาหารแห่งโลก" และน่าอยู่อาศัย ด้วยร้อนพอดี-เย็นพอดี-น้ำพอดี-แสงอาทิตย์-แร่ธาตุ-พลังงานเหลือเฟือ ซึ่งทั้งหมดผสมลงตัวเป็น " ความสมดุล" อันหาที่ไหนในโลกไม่มีอีกแล้ว นอกจากที่นี่...ที่ ๖ ประเทศกลุ่มอนุภาคลุ่มน้ำโขงนี้เท่านั้น!

     เราลองหลับตานึกดูซิ ซื้อตั๋วเครื่องบิน หรือรถไฟจากที่ไหนก็ได้ใน ๖ ประเทศ สามารถหิ้วกระเป๋าไปถึงกันได้หมดเหมือนจากจังหวัดหนึ่งไปอีกจังหวัดหนึ่ง แล้วกลุ่ม ๖ ประเทศนี้จะร่ำรวย สุข-สนุกสนาน  และคลาคล่ำไปด้วยผู้คนหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลกขนาดไหน!?
 ใครจะเป็นผู้นำที่เรียกว่า "ปฏิวัติสู่สังคมใหม่" ต้องไปถึงจุดนี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นยังไม่เรียกว่า "ผู้นำ" สู้ทักษิณไม่ได้ ตอนนี้ความระยำนำตัวเองไปถึงระดับ "ผู้ก่อการร้าย" ระดับโลกไปแล้ว!

     เมื่อวาน (๒๕ พ.ค.๕๓) ผมฟังข่าวแว่วๆ วุฒิสมาชิกสหรัฐลงมติเป็นเอกฉันท์ สนับสนุนแผนปรองดองของท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ พูดชัดๆ ก็คือ สหรัฐแสดงท่าทีสนับสนุนรัฐบาลอภิสิทธิ์ต่อไป พร้อมประณามการก่อการร้ายของพวกเสื้อแดง ผมยกมาพูดเพราะสะดุดใน "แผนปรองดอง" ที่สหรัฐสนับสนุนนั่นแหละ เจตนานายกฯ อภิสิทธิ์นั้นดีแน่ แต่ ๑ ในแผนปรองดองที่จะใช้นโยบาย "รัฐสวัสดิการ" นั้น ผมอยากให้ใคร่ครวญให้รอบคอบ การให้เด็กเรียนฟรีไม่เป็นปัญหา แต่ที่รัฐจะจ่ายเงินเลี้ยงดูคนแก่นั้น...มีปัญหาแน่

     ก่อนจะเกิดคำว่า "รัฐสวัสดิการ" ควรต้องดูระบบและฐาน "การจัดเก็บ-การเสียภาษี" ให้ดีก่อน อย่าไปคิดแค่ว่า...นี่คือการพลิกแพลงจาก "เงินแจก" สมัยทักษิณไปเป็นการแจกในรูป "สวัสดิการ" สมัยอภิสิทธิ์ และประเด็นใหญ่ที่มองข้าม ผมอยากถามว่า "ดูสำมะโนประชากรศาสตร์" แล้วหรือยัง ถ้าดู...จะเห็นชัดเจนว่า ถ้าไม่แก้ไข ประเทศไทยเราต้องถูก "แรงงานต่างชาติ" ยึดประเทศแน่นอน! เพราะอะไรน่ะหรือ....ก็เพราะอัตราส่วนระหว่าง คนเกิดอันเป็นวัยเด็ก กับคนเติบโตอันเป็นวัยทำงาน กับคนเกษียณจากการทำงานสู่วัยคนแก่ มันเกิดช่องว่างด้วยอัตราส่วนที่ห่างกันจนน่าใจหาย ทุกวันนี้เราเพาะทรัพยากรบุคคลให้เกิดน้อยมาก ที่ยังเก็บภาษีได้อยู่ เพราะวัยทำงานมีตัวเลขสูง

      แต่ในขณะที่วัยเด็กมีจำนวนน้อย ไปโตอยู่ในวัยทำงานมาก เมื่อเหลียวดูคนในวัยชรา เห็นแล้วน่าตกใจ คนวัยทำงานไหลไปเพิ่มอยู่ในจำนวน "คนวัยชรา" ชนิดโป่งพองทุกปี และอนาคต ๑๐-๒๐-๓๐ ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะเป็นประเทศ "หัวโต" แต่แขนขา และลำตัวลีบ! วันทำงานแทบไม่มี เกิดน้อยแล้ว ที่เกิดก็ขาดช่วง และโตไม่ทันรุ่นต่อรุ่น แถมส่วนใหญ่จะโตแบบ "ขาดคุณภาพ" มีภูมิภาคเดียวในโลกที่ "สมดุล" ระหว่างคน ๓ รุ่น คือ รุ่นเด็ก-รุ่นทำงาน-รุ่นชรา คือที่แอฟริกาใต้ อนาคตเขาจะแข็งแกร่งมาก

     คุณอภิสิทธิ์จะปรองดองก็ปรองดองไป แต่ในความเห็นผม "จุดแข็ง-จุดโต" ของประเทศไทยอยู่ที่ "เกษตร" และ "อุตสาหกรรมเกษตรสร้างมูลค่าเพิ่มจากการแปรรูป และการนำประเทศไปให้ถึงระบบเกษตร ต้องยึดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรือที่รู้จัก "ด้วยเข้าใจ" กันไปแล้วทั่วโลกในคำว่า Sufficiency Economy ของ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" เป็นกุญแจไข ไม่ใช่เพราะเป็นปรัชญาของ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" จึงดี จึงยกย่องกัน หากแต่นำไปใช้แล้ว ทดลองแล้ว ปฏิบัติตามแล้ว ปรากฏว่า "ได้ผล" พลิกจากอดอยาก มาเป็นมีกิน, พลิกจากมีกิน มาเป็นมีขาย-มีเก็บ, พลิกจากมีขาย-มีเก็บ มาเป็นมีร่ำ-มีรวย และมีแจกเพื่อนบ้าน เพราะจริงเป็นที่ประจักษ์แล้ว ทั่วโลกจึงยอมรับ ไม่ใช่ยอมรับเพราะเห็นเป็นของ "ในหลวง"!

     ดูหนังในจอโทรทัศน์เห็นแล้วใช่มั้ย คุณลุง มะกรูด มะนาว มะพร้าว ส้มโอ ปลูกเอง ทำเอง กินเอง  เป็นนายกฯ เองนั่นปะไร เพราะน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ ท่านจึงกลายเป็น "นายกฯ ตั้งเอง" ที่ยิ่งใหญ่ โดยที่ไม่มีใครไม่ซูฮก-ยกนิ้วให้ เอาละ...วันนี้ไม่จบหรอก แต่อยากจะบอกส่งท้าย ผมก็นิยมแดง แต่ไม่ใช่ "แดงเผาบ้าน-เผาเมือง" แนวทางคอมมิวนิสต์นั้น หลายอย่างดี-ควรนำมาปรับใช้ในการ "แก้ปัญหาความยากจน" อันมาจากฐานะ-โอกาสที่ไม่ทัดเทียมกันในสังคมเกษตร ทั่วโลกพิสูจน์แล้ว ความยากจนในสังคมเกษตร ใช้ระบบ "ทุนนิยม" แก้ไม่สำเร็จ ต้องใช้ระบบ "สังคมนิยม" สามัคคี-มีแบ่งปัน เท่านั้นจึงแก้ได้ ฉะนั้น ในเมื่อประเทศไทยเป็น "สังคมเกษตร"
     เราต้องออกแแบบ "สังคมธิปไตย" ใช้แทน ซึ่งพิสูจน์แล้ว ๗๘ ปี ไทยจมปลักอยู่แต่ใน "แอ่งตีน" ประชาธิปไตยฝรั่ง...ไปไม่ถึงฝั่งซักที!

http://www.thaipost.net/news/260510/22537
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #2227 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 09:14:17 »

พระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมใจคนไทยทั้งประเทศ




      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #2228 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 09:18:02 »

พสกนิกร เตรียมรับเสด็จ ด้วยความจงรักภักดี








      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #2229 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 09:48:35 »

      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #2230 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 09:56:08 »

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,4192.0.html



      บันทึกการเข้า
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #2231 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 10:54:10 »

เป็นอีเมล์จาก คนทำงานฝ่ายevent ของกลุ่ม Amarin printing
เลยอยากให้พวกเราได้ทราบ

น้องๆที่รัก 
          พี่พึ่งไปเยี่ยมทหารที่ รพ.พระมงกุฏฯ   มา   มีทหารที่ได้รับบาทเจ็บทั้งเบาและหนัก   อยากบอกว่าสงสารทหารมาก   
เขาเล่าให้ฟังว่า   ที่เราเห็นเหมือนขวดน้ำเปล่าที่เสื้อแดงปาใส่ทหาร   จริงๆแล้วเป็นน้ำส้มสายชูผสมพริกไทยบ้าง   
พริกบ้างทำให้เขาทั้งแสบทั้งคัน   เขาบอกว่าถ้าผมอยู่ชายแดนผมก็ยังรู้ว่าฝั่งตรงข้ามคือศัตรูทั้งการแต่งตัวและอาวุธ   
แต่ นี่ทุกคนแต่งตัวธรรมดาเหมือนพวกพี่ที่มาเยี่ยมผมอยู่รอบตัวผมไปหมด คนพวกนั้นบอกว่าผมไม่ใช่เสื้อแดง ผมมาดูเฉยๆ
พอผมหันหลังเขาซัดผมเลยเอาไม้ตีขาผมหักสองท่อน   ต้องผ่าตัดและหมอบอกว่าต้องกายภาพบำบัดอีก   
เขาเล่าอีกว่าผมมีปืนและลูกปืนยาง แต่สั่งห้ามยิงโดยเด็ดขาด   ตก เย็นต้องนำมาคืนให้ครบจำนวน ถ้าหายไปแม้เพียงลูกเดียว
จะถูกสอบสวนทันทีและอาจโดยจำคุกทหาร และหักบำเหน็ดบำนาน ข้อหาละเมิดคำสั่งที่ไม่ให้ยิง     ฟังแล้วเห็นใจทหารมากๆ   
หลายคนต้องรับการรักษาแบบบำบัดจิต   เพราะขวัญเสียและโดนแรงกดดัน   คือมีคนเข้ามารุมทำร้ายเขา แต่ด้วยคำสั่งทหาร
ห้ามทำร้ายประชาชนเขาจึงไม่อาจตอบโต้ได้   จึงได้แต่ป้องกันตัวเท่านั้น   หลายคนจึงเห็นภาพที่ตัวเองโดนทำร้ายไม่เลิกนอน
ผวาบ้างละเมอบ้าง   นี่คือทหารที่ปฏิบัติการที่สี่แยกคอกวัว 


          อีกส่วนนึกที่พี่ไปเยี่ยมเป็นอีกตึกคือ   ทหารสามจังหวัดภาคใต้   น่าส่งสารหนักเข้าไปอีก   คือไม่มีใครไปเยี่ยมเขาเลย   
คงเป็นเพราะไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่นี่เพราะไม่ได้ประชาสัมพันธ์   เลยไปเยี่ยมพวกที่ปฎิบัติการที่คอกวัวเท่านั้น   
ทหารหลายคนเป็นทหารเกณฑ์ยังเด็กอยู่มาก   มีคนหนึ่งร่างกายครบแต่หัวยุบไปซีกหนึ่งเลย   บางคนขาด้วนเพราะโดนระเบิด 
 พึ่งเข้าประจำการได้ห้าเดือนเอง   มีอีกคนหายไปเลยครึ่งตัวยังเด็กอยู่มากๆนอน รพ. มา ปีกว่าแล้วเพราะต้องผ่าตัดเป็นระยะๆ   
 พี่ข้ามไปอีกตึกเป็นตึกเกี่ยวกับระบบเส้นประสาท   พวกนี่อาการหนักมาก คือขยับไม่ได้เลยจากคอลงไป   
เขาหายใจทีหนึ่งยังลำบากเลย   เป็นอัมภาพกันส่วนใหญ่และไม่มีคนมาเยี่ยม


            พี่คิดว่า ทหารเขาเสียสละมากจริงๆ   เราอยู่สบายได้ก็เพราะเขาลำบากเพื่อเรา   พิการแล้วก็ต้องเป็นภาระครอบครัว
เขาอีก   อยากให้พวกเราแสดงความขอบคุณโดยไปเยี่ยมเขาแค่ไปบอกเขาว่าเราขอบคุณ   พี่ ได้มีโอกาสพูดกับเขาขอบคุณ
ในความเสียสละ ขอบคุณที่ช่วยรักษาชาติบ้านเมืองและปกป้องในหลวงฯ พวกเราคนไทยระลึกในความดีของพวกเขาและ
เห็นว่าเขาเป็นวีรบุรุษของชาติ   รู้ไหมว่าพี่เห็นน้ำตาเขาครอเลยที่เดียว   เขาตอบกลับว่า ครับขอบคุณ   ก็จะปกป้องไป
จนตายครับ   ออกจาก รพ.แล้วก็จะกลับไปประจำการ ไปลาดตระเวรอีกครับเพื่อในหลวงฯ 


        ที่เล่ามายืดยาวก็เพื่อจะขอว่า   ถ้าใครว่างก็สละเวลาไปเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจเขา   อยากเอาขนมไปเลี้ยงเขาหรือ
เอาเงินให้ขาก็ได้   บางคนก็เอาดอกไม้ไปให้   แต่ถ้าไปเยี่ยมเฉยๆพวกเขาก็ Happy แล้วว่าเราไม่ลืมเขา ที่เฮติเรายังร่วมกัน
ส่งเงินไปช่วยเขาในฐานะเพื่อนมนุษย์   แต่นี่คนไทยด้วยกันเป็นทหารที่เสียสละเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ   เราจึงมีแผ่นดิน
ไทยให้อาศัยอยู่ 
        ช่วยๆกันนะจ๊ะคนไทยเราไม่แล้งน้ำใจอยู่แล้ว   พี่ตั้งใจจะไปเยี่ยมเขาอีกแน่ๆวันอาทิตย์   ถ้าไปอาจได้เจอกันนะ   
รักชาติรักในหลวงฯก็ไปให้กำลังใจทหารกันเยอะๆนะจ๊ะ
 ปิ๊งๆ อายจัง

จะดีใหม ถ้าชาวซ๊มะโด่งจะรวมใจ เป็นกลุ่มไปเยี่ยมทหารและผู้บาดเจ็บ กันสักครั้งแทนการมาแสดงความเห็นใจแต่ในเวปเท่านั้น
 ปิ๊งๆ อายจัง ปิ๊งๆ
      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #2232 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 11:01:51 »

มีคน ส่งอีแมวมาให้ดูผลงาน ใน face book ของเด็กนักเรียนมัธยมที่ชื่อ
Natthakan Sakundarachat

เธอหมิ่นสถาบันสูงได้ถนัดชัดเจนมาก เสียดสี จนป้าสะอึก
อยากรู้จังว่าลูกเต้าเหล่าใคร โรงเรียนใหนสอน

เจ็บปวดหัวใจจัง
ลองเข้าไปดูนะคะ อยากเอามาให้ดูก็กลัวจะเป็นโรคสนธิ ลิ้ม

      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2233 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 11:18:51 »

น.ส. ณัฐกานต์ สกุลดาราชาติ
ม. ศิลปากร ปฏิเสธกับรับตรงเข้าคณะอักษรศาตร์ไปแล้วครับ โดยอ้างว่าเธอไม่สามารถเข้ากับสังคมแวดล้อมได้
เหลืออีกที่หนึ่งคือ คณะวิศวะฯ เกษตรศาสตร์ครับ ที่ยังไม่แจ้งผลการเอ็นฯ ซึ่งเธอไปรายงานตัวเมื่อวานนี้
                      คณะสังคมศาสตร์ เอกรัฐศาสตร์ (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
      บันทึกการเข้า
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #2234 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 11:19:33 »

ดร. มนตรี

โรงเรียนจุฬาภรณ์ที่มุกดาหาร ก็ให้โอกาสดีๆ กับเด็กแถวๆนั้น มากมาย
แต่ใน 1 ปี ของการลงพื้นที่ของโรงเรียน การเมือง นปช การจัดสัมมนาและการหว่านเงิน ของเขา
ปรากฏว่า ในช่วงสงครามพระเจ้ามูลเมืองเผาบ้านเผาเมืองที่ผ่านมานี้ รถประจำโรงเรียนติดธงแดง แ
ละ รูปลอก(สติ้กเกอร์) นปช.  ยุบสภา ขอประชาธิปไตยคืน แดงทั่วแผ่นดิน  เป็นต้น

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ได้รับประโยชน์จากโครงการของสถาบันสูง โตรงการในพระราชดำริต่างๆ
หน้าฉากก็ทำท่าทีสำนึกรู้ในบุญคุณ
แต่ในใจก็ฝักใฝ่คุณทักษิณ หรือชอบผลประโยชน์จากคุณทักษิณ

ตอนนี้เราจะทำอย่างไรกันดีกับคนพวกนี้ พี่คิดว่าจะสนับสนุนให้จงรักภักดี เขาก็จะต่อต้าน
พี่อยากให้เขารู้ผิดชอบชั่วดี และให้เห็นความชั่วของคุณทักษิณและ ระบอบทักษิณให้มากๆ
น่าได้ผลยั่งยืนกว่า เพียงแต่ชนชั้นครีมของประเทศอย่างพวกเราจะทำอะไรดี เราจะกล้าหาญพอหรือยัง
ช่วยคิดกันหน่อยเถิด

      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #2235 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 11:23:50 »

คุณเหยงคะ
ถ้าหนู นัฐกานต์ มาอยู่คณะอักษร จุฬาฯ คงเป็นคอหอยลูกกะเดือกกับ ดร.สุธาชัย และ อ.สุดา

แต่ก็เถอะ เขาคงโคจร มาพบกันสักวัน
เพราะจิตวิญญานที่คล้ายกัน มักจะดึงดูด กันและกัน


      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2236 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 11:28:14 »

เธอได้ อักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร และ วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ เอกรัฐศาสตร์ (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

แต่ ม.ศิลปากร ปฏิเสธการรับเธอไปแล้วครับ คงเหลือ ม.เกษตรฯ จะเอายังไง ??

สุธาชัย กับ ดร.สุดา ล่อนจ้อนขนาดนี้ จะมีใครคบหาอีกครับ..เว้นแต่ไปหาสมัครพรรคพวกนอกรั้วจุฬาฯ ก็พวกเสื้อแดงนั่นเอง

ตัดหางปล่อยวัดสำหรับ 2 คนนี้เถอะ

ทราบมาว่า สุธาชัย อัพเซ็ทตอน 6 ตุลา เนื่องจากเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ในขณะนั้นครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2237 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 11:32:20 »

รัฐ ตลอดจนหน่วยงานของรัฐ ไม่ตระหนักถึงการรุกของเสื้อแดง นปช. ว่าจะมีผลร้ายได้ถึงขนาดนั้น

แต่ผมโทษพรรคประชาธิปัตย์ครับ องค์กรที่มีแต่พวกทนายเป็นสมาชิก หาความจริงจังและจริงใจในการแก้ปัญหาไม่

วันๆดีแต่เห่า แต่หอน เรื่องไม่เข้าเรื่อง ใช้เป็นแต่ปากครับ-ไม่เหนื่อยและไม่เสียเงิน, ตามงานไม่เป็น-ต้องใช้เงินและเวลา

นี่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีวันตายของเขาล่ะ
      บันทึกการเข้า
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #2238 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 11:35:25 »

มาช่วยกันที่นี่เถอะค่ะ ถ้ารักในหลวงจริง

 สื่อออสซี่จันไร เขียนการ์ตูนจาบจ้วงในหลวง พวกเราต้องช่วยกันอัดมัน
>
> เมื่อสองสามวันก่อนผมได้อ่านหนังสือพิมพ์ Sydney Morning Herald
> ฉบับวันที่ 18 พฤษภา มันพิมพ์รูปการ์ตูนล้อเลียนในหลวงครับ
> แถมยังเขียนบทความจาบจ้วงในหลวงอีกด้วย
>
> รูปการ์ตูนที่มันเอามาลงดูแล้วทุเรศมาก
> มันกล้าดียังไงเอาในหลวงที่รักและเคารพของคนไทยมาวาดเป็นการ์ตูนแบบนี้
> ท่านทรงงานเพื่อคนไทยมาตลอดพระชนม์ชีพ
> แต่สุดท้ายต้องมาโดนไอ้ฝรั่งจันไรมาทำระยำตำบอนแบบนี้
> เห็นแบบนี้แล้วมันทิ่งแทงใจคนไทยนะครับ
>
> บทความที่ว่านี้เขียนโดยไอ้ Peter Hartcher
> มันจาบจ้วงในหลวงว่าเป็นคนทำให้เกิดวิกฤตการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
> หาว่าท่านอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ และกล่าวหาท่านอีกหลายเรื่อง
> ถ้าจะเอามาเขียนหมดก็เป็นเสนียดคีย์บอร์ดของผมเปล่าๆ
> ใครมีเวลาลองอ่านดูนะครับ ผม attach
> ทั้งรูปการ์ตูนและบทความของมันมาให้แล้ว

>
> ผมคิดอยู่หลายวันว่าจะเล่นงานไอ้สถุน hartcher คนนี้ยังไงดีจึงจะหายแค้น
> แต่ในที่สุดก็นึกแผนสนุกๆ ขึ้นมาได้
>
> เอ้อ แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้น อยากจะเล่าให้ฟังว่าเมื่อวานนี้ผมได้รับ
> forward mail มาจากเพื่อนคนหนึ่ง
> ส่งจดหมายฑูตไทยที่แคนเบอร์ราที่ส่งถึงหนังสือพิมพ์ฉบับนี้มาให้อ่าน
> เป็นหนังสือตอบโต้บทความของไอ้ hartcher
> อ่านแล้วมันส์และสะใจได้ใจคนไทยเหมือนกัน เรียนว่าเขียนซะไอ้สถุน
> hartcher มันเสียหมาไปเลย
> อย่างน้อยก็ดีใจที่ทางการไทยได้จัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว
>
> ที่นี้มาถึงพวกเราบ้าง จะทำอะไรแก้เผ็ดไอ้สถุนนี่ได้บ้าง
>
> ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ จ๊าากกก
      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #2239 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 11:39:24 »

ต่อนะคะ

ผมมีแผนมาขอความร่วมมือพวกเราชาวไทย ดังนี้
>
> 1. ยุทธการ comment อันนี้สำหรับท่านที่เขียนภาษาอังกฤษได้คล่องๆ
> ช่วยกันเขียน comment เข้าไปที่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้มากๆ
> ด่ามันเข้าไปเยอะๆ หรือจะเขียนแบบชี้แจงดีๆ ก็ได้
> ยิ่งเยอะก็จะยิ่งแสดงให้เห็นว่าบทความของไอ้ hartcher มันเฮงซวย
> ส่งอีเมล์ไปที่
      letters@smh.com.au
>
> 2. ยุทธการ บอยคอต อันนี้สำหรับพี่ๆ
> ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารไทยในซิดนีย์นะครับ ผม attach รูปถ่ายไอ้
> hartcher มาด้วย ดูมันให้ชัดๆ แล้วแปะรูปมันไว้หน้าร้าน
> ถ้ามันจะเข้ามากินอาหารในร้าน ไล่มันออกไป
> อย่าให้มันได้กินอาหารในร้านของท่าน
> คนระยำอย่างนี้เข้ามากินในร้านก็เป็นเสนียดจันไรเปล่าๆ
> นึกถึงสิ่งที่มันได้ทำกับในหลวง เราต้องช่วยกันทำให้มันอับอาย
> รักในหลวงจริง อย่าดีแต่ปาก ขอให้ช่วย "ทำ" ด้วย
>

> 3. ยุทธการ ถล่มอีเมล์ อันนี้สำหรับทุกท่านทั่วโลก หลายท่านคงเคยเจอแบบผม
> บางทีไม่ได้เช็คอีเมล์มาแค่ไม่กี่วัน เปิดมาเจอ forward mail
> กองอยู่หลายสิบอัน กว่าจะลบไปหมดก็เสียเวลานิดหน่อยเหมือนกัน
> ลองนึกภาพไอ้ hartcher ตื่นเช้ามาแล้วเจออีเมล์เข้ามาพร้อมๆ กันเป็นพันๆ
> อัน มันจะทำยังไง...
> มันจะต้องใช้เวลาแค่ไหนถึงจะลบไปหมด..มันจะมีเวลาได้ทำงานไหม..
> เริ่มสนุกแล้วใช่ไหมครับ เอาอย่างนี้นะครับ อีเมล์ของมันคือ
>
>phartcher@smh.com.au
>
> ผมขอนัดแนะแบบนี้นะครับ เราจะช่วยกันส่งอีเมล์เข้าไปหามันพร้อมๆ
> กันในช่วงเวลาตั้งแต่ 10.00-11.00 น. ของวันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคมนี้
> (เวลาซิดนีย์) ขอให้ช่วยกันส่งเข้าไปคนละหลายๆ ครั้ง จะพิมพ์ข้อความด่า
> ทักทาย หรือจะส่งอีเมล์เปล่าๆ ไม่มีข้อความก็ได้ครับ ลองจินตนาการดู
> ถ้าคนไทย 1 พันคน ช่วยกันส่งเข้าไปคนละ 5 ครั้ง ไอ้ hartcher
> มันจะได้รับอีเมล์ 5 พันอัน มันคงหน้ามืดแน่นอน
> สำหรับคนที่เมืองไทยที่อยากร่วมสนุกด้วย เวลาในประเทศไทยคือ 7.00-8.00
> น.นะครับ เชิญได้ตามสบาย ยิ่งมาก ยิ่งมันส์...
>
> อันนี้แค่เริ่มต้น ขอให้ช่วยๆกันนะครับ ใครได้อีเมล์นี้ ขอให้ forward
> ต่อไปด้วย จะได้ช่วยกัน โดยเฉพาะยุทธการถล่มอีเมล์
> เราต้องการสมาชิกร่วมสนุกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งได้เป็นหมื่นๆ
> อีเมล์ยิ่งดี

[/b]
 จ๊าากกก จ๊าากกก จ๊าากกก
      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #2240 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 11:46:52 »

อีกที
เห็นการโต้ตอบ ของนายใจ (รัญ) อึ๊งภากรณ์ กับฝรั่ง
เพื่อนส่งมาให้ แต่ในเวปเราก็มีนะ

เพื่อนป้าบอกว่า
............วิวาทะโต้ตอบกัน ของคน(คล้าย)คนไทย นาย ไจล์ อึ้งภากรณ์ กับ ฝรั่ง นายฟิลลิป คันนิ่งแฮม ในรายการทีวี Democracy Now ที่อังกฤษ ดูจบแล้วช่วยบอกผมทีว่าใครมันเป็นคนไทยกันแน่ ผมละเป็นงง?Huh?

ไปดูสดก็ได้นะที่

ที่มา : http://www.youtube.com/watch?v=a-PPpGScujQyl
      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2241 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 12:06:20 »

ตามไม่ทัน อ่านจากนี่ประกอบก็ได้

ต้องอ่านเอาเองครับ ระหว่าง "ใจล์ อึ้งภากรณ์" กับ "ฟิลิป คันนิ่งแฮม" กรณีการชุมนุมของเสื้อแดงและการสลายการชุมนุม

วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 18:26:06 น.  มติชนออนไลน์
วิวาทะ "ไจล์ อึ้งภากรณ์" กับ "คันนิ่งแฮม" เสื้อแดงต่อสู้เพื่อรากหญ้าหรือทักษิณ กันแน่?

ประเทศไทยก็ถูกจับตามองจากนานาชาติว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเหมือนหรือต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นที่จตุรัสเทียนอันเหมิน ตอนที่มีการปฏิบัติการกับนักศึกษาที่ออกมาประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยจากรัฐบาลจีนหรือไม่ ?


     เมื่อไม่นานมานี้ รายการทีวี   Democracy Now  ได้เชิญ คนไทย และฝรั่ง ที่ติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดมาพูดคุยในรายการ  ในหัวข้อ “การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเรื่องความยากแค้นของคนรากหญ้าอย่างแท้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงฉากหน้าสำหรับอดีตนายกรัฐมนตรี มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลที่โดนขับไล่


    ผู้ร่วมรายการคนแรกคือ   "ไจล์   อึ้งภากรณ์ "    ซึ่งขณะนี้อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ เขาเคยเป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ  ก่อนที่จะหลบหนีหลังจากเขียนหนังสือวิพากษ์วิจารณ์การทำรัฐประหารโดยทหารในปี 2006 เขาเป็นผู้ที่สนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดง


   อีกคนคือ "ฟิลิป คันนิ่งแฮม" นักเขียนอิสระ ที่มีงานเขียนครอบคลุมพื้นที่เอเชียมากว่า 20 ปี เขาสอนที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัย Doshisha ในประเทศไทย งานเขียนของเขาปรากฏอยู่ในหนังสือพิมพ์ Bangkok Post 


   โดยมี  เอมี่ กู๊ดแมน เป็นผู้ดำเนินรายการ
 
  นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  สิ่งที่กลุ่มคนเสื้อแดงต้องการคือ ประชาธิปไตย เพราะว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาผ่านทางทหาร และที่จริงรัฐบาลนี้เป็นผลพวงมาจากการเกิดรัฐประหารในปี 2006 และคดีที่เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหาร ดังนั้นคนเสื้อแดงจึงเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ เรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งที่ถูกต้องตามกฎหมาย และแม้ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะเข้ามาอยู่ที่ใจกลางของกรุงเทพมหานครถึง 2 เดือนแล้ว แต่พื้นที่ส่วนนั้นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของศูนย์การค้าและโรงแรมหรูหรา แม้กระนั้นรัฐบาลก็ยังเคลื่อนกำลังพลแม่นปืนและหน่วยพิฆาตเข้ามา ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมารัฐบาลฆ่าคนไปแล้ว 67 คน และมีคนเจ็บนับพัน อันที่จริงตอนนี้มันถึงเวลาที่รัฐบาลต้องสั่งให้หยุดยิงทันที และเข้ามาเจรจากับกลุ่มคนเสื้อแดง
 

เอมี่ กู๊ดแมน : ไจล์  ก่อนหน้านี้ คนเสื้อแดงเสนอการเจรจาแล้วรัฐบาลปฏิเสธ
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :   พวกกลุ่มคนเสื้อแดงเสนอที่จะเจรจากับรัฐบาลอีกครั้ง ฝ่ายรัฐบาลต้องการจะเอาชนะและรักษาอำนาจโดยการใช้กำลัง   คุณต้องตระหนักว่ารัฐบาลชุดนี้สั่งให้มีการเซ็นเซอร์ทีแย่ที่สุดที่เคยมีมาในประเทศไทย มีการเซ็นเซอร์ทางอินเตอร์เน็ต สื่อต่างๆในทุกรูปแบบ รัฐบาลแทรกแซงแม้แต่ทางเฟซบุ๊ค และทางด้านอื่นๆอีก  คุณจะเห็นว่าสิ่งที่ทำให้รัฐบาลยังคงมีอำนาจอยู่ก็มี 2 อย่าง คือการสั่งเซ็นเซอร์และกองกำลังที่โหดเหี้ยม พวกเขาไม่พร้อมที่จะให้โอกาสประชาชนตัดสินใจว่าต้องการจะให้ใครเข้ามาบริหารประเทศ โดยวิธีการอย่างไร
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  ฟิลิป คันนิ่งแฮม คุณเคยอยู่ในญี่ปุ่น ตอนนี้อยู่ที่ เมืองอิตาคา นิวยอร์ก  จากที่คุณเฝ้าดูสถานการณ์ คุณคิดว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นที่ประเทศไทย
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน :   ผมขออ้างบทกวีที่มีชื่อเสียงของ Gil Scott-Heron ที่ว่า “หากมีการปฏิวัติก็จะไม่มีการออกอากาศทางโทรทัศน์”  นี่มีการออกโทรทัศน์ ซึ่งมันก็ไม่ใช่การปฏิวัติ สิ่งที่ทุกคนเห็นเกิดขึ้นที่เมืองไทยเป็นการปฏิวัติปลอมๆ ที่ถูกกวนให้คุกรุ่นขึ้นมาโดยมหาเศรษฐีนักธุรกิจที่ร่ำรวยและมากอิทธิพลที่ต้องระเห็ดออกไปนอกประเทศที่คุณกำลังพูดถึง มันมีความคับข้องใจอยู่จริง มีคนยากจนอยู่จริงๆ มีข้อผิดพลาด และความอ่อนไหวแฝงอยู่ที่ง่ายมากที่จะยั่วยุ มันคงจะเหมือนกับมหาเศรษฐีในตระกูลร๊อกกี้เฟลเลอร์เข้าไปสนับสนุนทางการเงินให้เกิดความวุ่นวายในสลัม หากพวกเขาถูกจับและถูกเนรเทศ หรืออะไรทำนองนี้แหละครับ ผมหมายความว่า มันเป็นสถานการณ์ที่แปลกมาก และเป็นสถานการณ์ที่น่าเศร้ามากๆก็ตาม ผู้คนกำลังจะตาย พวกเขาตายเพื่อมหาเศรษฐีที่เปี่ยมอิทธิพล ฟังดูไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย


ถ้าหากว่าประเทศไทยต้องการประชาธิปไตยหรือระบอบสังคมนิยม ซึ่งคุณไจล์ ต่อสู้มาเป็นเวลานาน ผมก็พอจะรับได้ว่ามันมีเหตุผลพอ แต่นั่นต้องเป็นการต่อสู้แบบสันติ แต่นี่กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ใช่กลุ่มคนที่สันติ
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  เชิญคุณไจล์ค่ะ
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  มันเหลวไหลที่พูดว่าคนเสื้อแดงไม่ใช่เป็นคนที่รักสันติ อันที่จริงพวกเขาเป็นคนที่มีวินัยมากๆ และพยายามที่จะรักษาให้เป็นการชุมนุมประท้วงที่สันติ ต่อหน้าของรัฐบาล และรัฐบาลต่างหากที่นำทหารติดอาวุธและรถถังออกมาบนถนน รัฐบาลไหนๆก็ตามที่พยายามที่จะสลายการชุมนุมที่สันตินี้โดยการใช้อาวุธ รถถังและปืน แล้วก็ฆ่าคนไป 65 คน นี่ต้องประณามว่ามันผิด
 

ผมคิดว่าฟิลิปได้รับข้อมูลที่ผิดๆเกี่ยวกับคนเสื้อแดง ผมหมายความว่า .. คุณทักษิณ ชินวัตร คนที่ผมไม่ได้สนับสนุนและไม่เคยลงคะแนนให้ รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดว่าเขาละเมิดสิทธิมนุษยชน … คุณทักษิณมาจัดตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้หรอกครับ กลุ่มคนเสื้อแดงจัดตั้งโดยอดีตพรรคการเมือง คือพรรคไทยรักไทย จนวิวัฒนาการมาเป็นกลุ่มการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนรากหญ้า พวกเขาเก็บเงินกันเอง พวกเขาจัดตั้งสถานีวิทยุชุมชน พวกเขาประกอบด้วยหลายๆกลุ่มจากที่ต่างๆ หากคุณไปในบริเวณการชุมนุมของคนเสื้อแดง คุณจะเห็นป้ายของกลุ่มต่างๆชูอยู่สลอนเต็มไปหมด คุณจะได้ยินการขอเรี่ยไรเงินบนเวทีชุมนุมตามกำลังศรัทธา พวกเขาไม่ได้มาตายเพื่อคุณทักษิณ ชินวัตร พวกเขาไม่ชาวไร่ชาวนาที่โง่เง่า ไม่รู้เรื่องรู้ราว หรือไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่ความจริงพวกเขาเป็นชาวไร่ชาวนาและคนงานจากชานเมืองที่มีข้อมูลพร้อม พวกเขาโกรธที่สิทธิของเขาตามระบอบประชาธิปไตยถูกปล้น และนั่นมันทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในกระจายความมั่งคั่งในประเทศไทย
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ผมขอพูดอะไรหน่อยได้ไม๊ ผมคิดว่าสิ่งที่คุณไจล์กับผมเห็นพ้องต้องกันก็คือ มันไม่ถูกต้องที่จะใช้กองทหารมาหยุดยั้งประชาชน มันไม่เข้าท่าที่จะใช้กองทหารเป็นเครื่องมือ มันบ้า มันรุนแรงและไม่ถูกต้อง ผมเห็นด้วยกับคุณไจล์ว่าทหารไม่ควรที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
 

ผมกับคุณไจล์เคยอาศัยอยู่บนถนนเดียวกันในกรุงเทพ เราสอนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่เรามีความคิดเห็นแตกต่างกันในเรื่องของคนเสื้อแดง ผมเชื่อว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นประกอบด้วยคนหัวรุนแรง ผมเชื่อว่าความยากจนนั้นมีอยู่จริง ความต้องการที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงในหลายระบบในเมืองไทยนั้นมีอยู่ สามารถสัมผัสได้ในอณูของบรรยากาศรอบๆตัว แต่มันไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดง


   .. ผมนั่งฟังพวกเขาทุกวัน ดูการออกอากาศทางโทรทัศน์ของพวกเขาอย่างใกล้ชิดในช่วงที่ผมศึกษาเรื่องนี้ พวกเขาดูถูกคนต่างชาติ เขาดูถูกเกย์ พวกเขาเกี่ยวข้องกับการโฆษณาที่น่าขัน เช่น hominem attack    เขาเล่นกับฝูงชน มันเหมือนกับประสานกับคุณทักษิณ เหมือนๆกับมุสโสลินีหรืออะไรทำนองนั้น บางคนเปรียบเทียบคุณทักษิณกับ Berloscerni แต่ผมว่าเหมือนมุสโสลินีมากกว่า พวกเขาร้องเพลงสรรเสริญคุณทักษิณ มันเหมือนระบอบฟาสซิสต์ที่น่าละอาย   เพราะคนเหล่านี้ไฮแจ๊ค เหล่าคนยากคนจนให้มาร่วมสังฆกรรม ไฮแจ๊คความคับข้องใจของคนจนมารับใช้มหาเศรษฐีพลัดถิ่น เพียงเพื่อเศรษฐีคนนั้นจะได้กลับมาประเทศไทย และรับเงินของเขาคืน
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  เชิญคุณไจล์ ค่ะ
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ผมคิดว่า คุณฟิลิป คันนิ่งแฮมไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ระบอบฟาสซิสต์ดีพอ มันง่ายมากที่จะเฉไฉออกนอกทาง ฟาสซิสต์ไม่เรียกร้องประชาธิปไตย และไม่มีความเห็นที่แตกต่าง อาจจะใช่ที่คนเสื้อแดงบางคนอาจจะหยาบกระด้างอยู่บ้างขวางโลก บางคนอาจจะต่อต้านเกย์ และหลายคนอาจจะพูดในทำนองต่อต้านคนต่างชาติ แต่คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ไม่ทำอย่างนั้น คนเสื้อแดงส่วนใหญ่พยายามที่จะให้ความเห็นที่แตกต่าง พวกเขาไม่ใช่กลุ่มที่ติดอาวุธ พวกฟาสซิสเป็นพวกชนชั้นกลางที่ไม่เป็นประชาธิปไตย หรือกลุ่มคนเสื้อเหลืองต่างหาก ที่ไม่ต้องการให้เกิดสิทธิของคนยากจนตามวิถีทางของประชาธิปไตย และอื่นๆ ผมคิดว่านี่มันเป็นการให้ร้ายสำหรับคนเสื้อแดงที่เกินเลยไปแล้ว
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ไจล์ ทำไมคุณจึงซื่ออย่างนี้ ผมไม่อยากจะเชื่อเลย
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นคะ
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ผมคิดว่าคุณไจล์รู้ดีอยู่แล้ว หากคุณไจล์ฟังคำปราศรัยอย่างที่ผมฟัง มันไร้สาระจริงๆ ผมรู้ว่ามีคนเสื้อแดงที่พูดโน้มน้าวจิตใจคนได้เก่งๆ มีคนที่จัดฉากเก่ง แต่มันมีเงินจากสถานีโทรทัศน์จากคนของทักษิณ พวกเขาจัดฉาก พวกเขาจัดให้มีเหตุการณ์ประท้วงปลอมๆ การปฏิวัติปลอม มันไม่ใช่ของจริง .. ผมอยู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 1989 ผมรู้ว่าของจริงน่ะมันเป็นยังไง ผมรู้ว่าการลุกขึ้นต่อสู้จริงๆมันมีลักษณะอย่างไร แต่นี่มันไม่ใช่


สิ่งที่เกิดขึ้น .. และผมยอมรับว่ามันใช่ -- ผมรู้ว่ามันเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ให้รู้ว่ามีการลุกฮือขึ้นต่อสู้แล้ว และประเทศไทยจะอยู่ในสภาวะที่เปราะบาง สถานการณ์มันอ่อนไหว มันเหมือนทุกอย่างจะล่มสลาย อะไรก็เกิดขึ้นได้ และนี่อันตรายมาก ผมไม่อยากจะเห็นว่าประเทศไทยล่มลายกลายเป็นแบบฟาสซิสต์ …
 

มีการพิสูจน์ออกมาแล้วว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเป็นกลุ่มที่ติดอาวุธ พวกเขายิงเข้าใส่ทหารด้วยอาวุธต่างๆ ตั้งแต่หนังสติ๊กกับลูกแก้ว ระเบิดขวด ระเบิดเพลิง คนเสื้อแดงมีปืน ปืนสั้น นี่มันไม่ใช่การเคลื่อนไหวอย่างสันติอหิงสา เด็กนักศึกษาที่จตุรัสเทียนอันเหมินไม่เคยทำเช่นนั้น มันไม่มีความรุนแรง มันเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย .. การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงได้รับการหนุนหลังจากมหาเศรษฐีที่มีอิทธิพล ผมยอมรับไม่ได้ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณไจล์จึงสนับสนุนการเคลื่อนไหวครั้งนี้
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  คุณไม่เข้าใจ ผมรู้ เพราะว่าคุณไม่ได้เตรียมตัวที่จะมายอมรับในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น คุณเพียงแต่ติดตามข่าวจากอินเตอร์เน็ตและดูทีวีอยู่ที่นั่น ผมอยู่ร่วมในการเคลื่อนไหวประท้วงที่กรุงเทพ ผมมีเพื่อนๆที่ร่วมเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง และจากการวิเคราะห์ของคุณคันนิ่งแฮมที่ว่าคนยากจนถูกไฮแจ๊คมาเพื่อคุณทักษิณนั้น มันเป็นการดูถูกคนเสื้อแดงแท้ๆนับล้านๆคน นี่มันเป็นเรื่องเก่าๆแบบเดียวกับที่พวกนักวิชาการเชื่อว่าคนไทยธรรมดาๆคิดด้วยตัวเองไม่เป็น จัดตั้งสิ่งต่างๆด้วยตัวเองไม่เป็น …
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน :  ไจล์   ผมรับไม่ได้นะ มันเป็นการหลอกลวงที่ไม่ยุติธรรมเลย
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  มันใช่ ..
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : หากใครบางคนไม่เห็นด้วยกับคุณ มันไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น .
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ให้ผมพูดให้จบก่อนได้ไม๊ ฟิลิป? ให้ผมพูดให้จบก่อนได้ไม๊?
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : เชิญ
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  นี่มันเป็นแนวความคิดเดียวกับคนชั้นกลางในเมืองไทยที่มีต่อคนเสื้อแดง และด้วยการแก้ตัวแบบนี้ทำให้พวกเขาไม่เชื่อในระบอบประชาธิปไตย และเป็นเหตุผลที่เขาสนับสนุนเรื่องการรัฐประหาร เพราะเขาพูดว่าคนเสื้อแดงทุกคนถูกคุณทักษิณซื้อ และถูกปั่นหัวโดยทักษิณให้ลงคะแนนให้ ..
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : คุณจะยอมรับไม๊ล่ะว่า คนเสื้อแดงบางคนถูกซื้อ และบางคนไม่ แต่ยอมรับไม๊ว่าบางคนถูกซื้อจริงๆ


นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ให้ผมพูดให้จบก่อนได้ไม๊ ฟิลิป   ให้ผมพูดให้จบก่อนได้ไม๊ 


เอมี่ กู๊ดแมน :  ไจล์ คำถามนั้น มีบางคนถูกซื้อหรือไม่
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  คนเสื้อแดงไม่ได้ถูกซื้อแน่นอน คุณทักษิณไม่ต้องซื้อใคร เพราะแม้ว่ารัฐบาลของคุณทักษิณได้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่น่ากลัว แต่คุณทักษิณก็เป็นคนที่นำระบบสุขภาพถ้วนหน้ามาใช้ ซึ่งเป็นระบบที่ดีกว่าที่อมริกาเสียอีก ในแง่ของการดูแลสุขภาพและการรักษาที่คนยากจนได้รับ รัฐบาลคุณทักษิณสร้างงานให้คนยากคนจน โดยไม่จำเป็นที่จะต้องหยิบยื่นเงินทองมาให้ หากสิ่งที่รัฐบาลสัญญาแล้วสามารถทำให้มันเกิดขึ้นจริงๆ ผู้คนลงคะแนนให้กับสิ่งที่เขาต้องการ และมันเป็นการดูถูกอย่างยิ่งที่คนไทยถูกตราหน้าว่าได้รับการพิสูจน์ว่าถูกตบตาและซื้อโดยคุณทักษิณ
ประเด็นก็คือ ทำไมมหาเศรษฐีที่ทรงอิทธิพลอย่างคุณทักษิณจึงชนะใจของคนยากจนอย่างท่วมท้น คำตอบอยู่ที่สุญญากาศของการไม่มีพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายในประเทศไทย คุณรู้ไม๊นับตั้งแต่พรรคคอมมูนิสต์พังทลาย และคุณทักษิณสามารถที่จะ
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ไจล์ นี่เป็นจุดอ่อนของการวิเคราะห์ของคุณ ผมรู้ว่าคุณเอียงซ้ายมานาน เราเคยไปที่ …
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  เสียใจ หากคุณไม่สามารถให้ผมพูดให้จบเสียก่อน
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : คุณรู้ไม๊ อนุสาวรีย์ของคนเดือนตุลา …
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  ขอให้คุณ ฟิลิป คันนิ่งแฮม พูดให้จบก่อนค่ะ เชิญค่ะ คุณ ฟิลิป คันนิ่งแฮม

 
ฟิลิป คันนิ่งแฮน : คุณรู้มี ไอเดียที่ว่า .. ผมรู้สึกว่าคุณกระเหี้ยนกระหือรือที่จะให้พวกเอียงซ้ายทำอะไรบางอย่างที่คุณมองว่าเป็นเป็นการเริ่มต้นที่ผิด .. และคุณผิดพลาดที่คิดว่ามันเป็นเรื่องจริง นี่เป็นการเริ่มต้นที่ผิด มันไม่ใช่ของจริง


นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ขอโทษ คุณไม่ได้ฟัง คุณพูดแซงขึ้นมาและไม่ได้ฟังผมพูด คุณมีภาพฝันในหัวของคุณว่าผมเชื่อในเรื่องอะไรบางอย่าง และคุณก็เริ่มต้นที่จะเถียงกับคนไร้ค่า ผมพูดว่าคุณทักษิณสามารถแบ่งแยกสังคมไทย ระหว่างคนรวยกับคนจน เพราะว่าไม่มีพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมหาเศรษฐีที่ทรง
อิทธิพลอย่างคุณทักษิณสามารถกุมหัวใจของคนยากคนจนได้
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : นั่นเป็นเรื่องที่น่าเศร้า ใช่ไม๊?

 
   ในที่สุดทั้ง 2 คนสรุปว่า
นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ผมคิดว่าวิธีที่จะหยุดวิกฤติการณ์ก็คือ รัฐบาลควรจะสั่งให้หยุดยิงทันที และจัดให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมตามวิถีทางของประชาธิปไตย


ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ผมคิดว่าทหารควรจะถอนตัวออกไป ผมคิดว่ามันน่ากลัวมากในสิ่งที่ทหารกำลังทำอยู่ ผมต่อต้านสิ่งนี้เต็มที่ แต่ผมไม่สามารถจะบอกว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเป็นประชาธิปไตยหรือพวกหัวเอียงขวา    พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาเช่นกัน และผมคิดว่าเป็นเรื่องของตำรวจที่จะต้องจับกุมและดำเนินการ

 

(ต้นฉบับภาษาอังกฤษ)


 Debating the crisis in Thailand on Democracy now:Is Red Shirt Movement a Genuine Grassroots Struggle, or Front for Ousted Ex-PM, Billionaire Tycoon?
Guests;


Giles Ji Ungpakorn, Thai dissident living in exile in Britain. He was a university lecturer in Thailand before having to flee after writing a book criticizing the 2006 military coup. He is a Red Shirt supporter.
 

Philip Cunningham, freelance journalist who has covered Asia for over twenty years. He has taught at Chulalongkorn University and Doshisha University in Thailand. His writings frequently appear in the Bangkok Post.
 

GILES JI UNGPAKORN: what the Red Shirts want is democracy, because the present government was installed by the military, and it’s actually the fruit of a military coup in 2006 and various judicial coups. So, demanding fresh elections, demanding proper democratic elections is perfectly legitimate. And even though they have been occupying the center of Bangkok for two months, it’s only a shopping center and a site for luxury hotels, yet the government has deployed snipers and assassination squads. And since the beginning of April, they’ve actually been responsible for sixty-seven deaths and thousands of injuries. And really, the time has come for the government to order an immediate ceasefire and for them to enter into genuine talks with the Red Shirts.
 

AMY GOODMAN: And what about the latest developments, Ji, the offer of the Red Shirts to participate and the government saying no?
 

GILES JI UNGPAKORN: Well, the Red Shirts have made repeated offers to negotiate with the government, and the government really wants to shoot its way to a victory and to stay in power through the use of force.


You also have to realize that this government has brought about the worst censorship ever in Thailand. It censors all the internet, the media, in all shape and form. They even attack Facebook and everything else.


So the two things that they’re using to stay in power are censorship and brutal force. And they’re not prepared to actually offer the chance of the people to actually make a decision about who should run the country and in what way.


AMY GOODMAN: Philip Cunningham, I had said you’re in Japan; you’re now in Ithaca, New York. But can you give your observations on what’s happening in Thailand right now?
 

PHILIP CUNNINGHAM: Yes. You know, as a poet Gil Scott-Heron said, he famously said that "the revolution will not be televised." And it’s being televised, but it’s not a revolution. What we see in Thailand, I think, is a sham revolution, and I think it’s something stirred up primarily by the billionaire tycoon in exile, who you mentioned. There are real grievances. There are real poor people. There are fault lines, and in sensitive areas in Thailand, which are very easy to provoke. It would sort of be like Rockefeller funding riots in the ghettos, if he had somehow been arrested and sent into exile or something like that. I mean, it’s a really strange situation. It’s a hugely tragic situation. The people are dying. They’re dying for a billionaire tycoon in exile. It doesn’t make sense.

Does Thailand need democracy, the kind of socialism that Ji has been working for? Yes, I think that would be fine. But it has to be peaceful, and the Red Shirts are not peaceful.
 

GILES JI UNGPAKORN: Well, it’s nonsense to say that the Red Shirts aren’t peaceful. They’ve actually been very, very disciplined and try to maintain a peaceful demonstration in the face of the government, which actually brings armed soldiers and tanks onto the streets. Any government that tries to disperse a peaceful demonstration using armed tanks, guns, and so on, and kills sixty-five people, I think needs to be condemned.

But I’m afraid Philip is misinformed about the Red Shirts. I mean, Thaksin Shinawatra—and I’m no supporter of him; I never voted for him and have always criticized his abuse of human rights—Thaksin Shinawatra was incapable of organizing the Red Shirts. The Red Shirts were organized by former leaders of Thai Rak Thai, and they developed into a grassroots movement. They collect money in their own communities. They run community radio stations. They have different groups. If you go to any Red Shirt protest, you can see the signs up of the different groups, and you can hear people making donations on the stage and so on. And they’re not dying for Thaksin Shinawatra. They’re not stupid peasants, ignorant peasants who don’t know what they’re doing. They’re actually very well-informed small farmers and urban workers who are incensed by the fact that their democratic rights have been robbed and that this is part of the system that allows such inequality of wealth in Thailand.
 

PHILIP CUNNINGHAM: I think one thing Ji and I absolutely agree on is that it’s never right to use an army to suppress the people. I think it’s an extremely blunt instrument. It’s crazy. It’s bloody. It’s violent. And that’s wrong. And I completely agree with Ji that the army should not be involved in this.
 

However, Ji and I used to live on the same street in Bangkok. We taught at the same university. But we really disagree on our analysis of the Red Shirts. I believe the Red Shirts are a fascist movement. I believe the poverty is real. The need, the hunger, for a systemic change, a kind of change in Thailand, is there. It’s in the air. But there is nothing about the Red Shirts—I listen to them every day. I monitor their broadcasts. I’m doing a media study of that. And they insult foreigners. They insult gays. They engage in ridiculous ad hominem attacks. They are playing to the crowd. It’s kind of like a cross between—with Thaksin. And they sing songs in dedication to Thaksin. I mean, it’s sort of like, you know, Mussolini or something like that. Some people compare Thaksin to Berlusconi. I think it’s a little more like Mussolini. They sing for Thaksin. It is fascism, and it is a shame, because these people are hijacking the poor people, hijacking the genuine grievances of the poor, to serve a billionaire in exile so he can get back to Thailand and get his money back.
 

GILES JI UNGPAKORN: Well, I don’t think that Philip Cunningham really understands the definition of "fascism." It’s easy to bandy it about. Fascists don’t demand democracy. Fascists don’t have differences of opinion. Yes, there are elements of the Red Shirts who are rough and ready, and some of them are anti-gay, and some of them talk in terms of being anti-foreign, but the majority don’t do that. The majority actually try to give differences of opinion. And this is not an armed group. The fascists are the middle-class peoples who aren’t for democracy, the Yellow Shirts. They are the people who want an end to democratic rights for the poor and so on. And I think that’s just a really outrageous slander on the Red Shirts.
 

PHILIP CUNNINGHAM: Well, Ji, you’re so naive. I just can’t believe it.

 
AMY GOODMAN: Why are you saying that?


PHILIP CUNNINGHAM: Well, I think Ji knows very well that the—you know, if he listens to the speeches—I mean, Ji could listen to the speeches as well as I do. It’s nonsense. There is good rhetoric. There’s good drama. This is money from a TV station from Thaksin’s media people. They’ve put together a media show. They’ve put together a sham

demonstration, a sham revolution. It’s not the real thing. I was in a Tiananmen in ′89. I know what these things look like. I know what a spontaneous uprising looks like. This is not a spontaneous uprising.
 

What has happened—and I will acknowledge this—is that you′ve kind of had a chain reaction. You have some real spontaneous uprising now. Thailand is in a very brittle state. It’s very delicate. It’s at the kind of end of an era. And anything could happen, and this could be extremely dangerous. I just don’t want to see Thailand go down a fascist road.

And the Red Shirts have proven to be armed. They’re shooting at soldiers with slingshots, Molotov cocktails. There are people with guns, pistols. It is not a peaceful movement. The students in Tiananmen Square never did that. There was no violence. There’s no comparison to this. This is a bankrupt tycoon-backed Red Shirt movement. I just can’t accept—I just can’t understand why Ji supports it.
 

GILES JI UNGPAKORN: Well, you can’t understand, I know, because you’re not prepared to accept what’s going on. I follow the reports on the internet. I’m watching the TV there. I’ve been on Red Shirt demonstrations in Bangkok. I have friends who are in the Red Shirt movement. And the fact is that Philip’s analysis, you know, that it’s all being run by Thaksin and the movement is being hijacked, is an insult to the millions of Thais who are genuine Red Shirts. It’s the same old story from the academics, who believe that ordinary Thai people can’t think for themselves, can’t organize themselves—

PHILIP CUNNINGHAM: Ji, that’s just—that’s—I cannot accept that. That is a very unfair sleight.
 

GILES JI UNGPAKORN: It’s just that—
 

PHILIP CUNNINGHAM: Just because someone disagrees with you doesn’t mean they don’t understand [inaudible]—


GILES JI UNGPAKORN: How about letting me finish, Philip? How about letting me finish?
 

PHILIP CUNNINGHAM: Go ahead.
 

GILES JI UNGPAKORN: It’s the same kind of attitude that the middle class in Thailand have towards the Red Shirts, and it’s their justification for why they don’t believe in democracy and why they supported a coup d’?tat, because they said, you know, the Red Shirts have all been bought by Thaksin and they’re being manipulated by him into voting for him—
 

PHILIP CUNNINGHAM: Would you acknowledge that some of them have been bought, and a lot of them are not, but would you acknowledge that some of them have been bought?
 

GILES JI UNGPAKORN: How about letting me finish, Philip? How about letting me finish?


AMY GOODMAN: That question, Ji—that question, Ji, of whether some of them have been bought, bought off?
 

GILES JI UNGPAKORN: No, they haven’t, actually. You don’t need to buy people off, because the government, Thaksin’s government, horrendous though it was in terms of human rights abuses, actually brought in a universal healthcare system. It’s actually better than the healthcare system in the United States, in terms of what the poor get. They had pro-poor policies to create jobs. They don’t need to hand people money if the government actually offers and then delivers on that. People actually vote for what they want. And it’s actually very, very insulting to the Thai population to claim that they’ve been hoodwinked and bought by Thaksin.

Now, the issue is, really, is how come a tycoon like Thaksin can win the hearts and minds of the poor? And the answer is that this shows that there was a vacuum on the left in Thailand, you know, ever since the Communist Party collapsed, and Thaksin was able to work—
 

PHILIP CUNNINGHAM: Ji, this is the weakness of your analysis. I know you’ve been on the left for a long time. We went to the—
 

GILES JI UNGPAKORN: Sorry, if you could just let me finish—
 

PHILIP CUNNINGHAM: —you know, the stonecutter that was making the monument for October—
 

AMY GOODMAN: Let Philip Cunningham make a statement. Go ahead, Philip Cunningham.


PHILIP CUNNINGHAM: And, you know, this idea that—I just feel like you’re so hungry for the left to do something that you’re seeing a false dawn, and you’re mistaking it for the real thing. This is a false dawn; this is not the real thing.
 

GILES JI UNGPAKORN: Sorry, but you’re not listening. You’re speaking over me. You’re not listening to what I say. You’ve got some dream in your head about what I believe in, and you’re starting to argue with a straw man. I’m saying that Thaksin can—was able to exploit the divisions within Thai society between the rich and the poor because the left didn’t exist. And that’s how come a tycoon like Thaksin can win the hearts and minds of the poor. 


PHILIP CUNNINGHAM: That’s a sad statement, isn’t it?

 

Both end up with:
GILES JI UNGPAKORN: Well, I think the way to end the present crisis is that the government should order an immediate ceasefire and that there should be proper, genuine democratic elections.


PHILIP CUNNINGHAM: OK, I think the army should leave also. I think it’s absolutely horrendous what the army is doing. I’m totally against that. But I cannot say that the Red Shirts are democratic or in the right. They are also a problem. And I think it’s a police problem. They have to be arrested and taken care of.

 


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274700394&grpid=01&catid=00
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #2242 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 12:12:37 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 26 พฤษภาคม 2553, 11:28:14
เธอได้ อักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร และ วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ เอกรัฐศาสตร์ (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ทราบมาว่า สุธาชัย อัพเซ็ทตอน 6 ตุลา เนื่องจากเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ในขณะนั้นครับ

อักษร กับ วิศวะ  นี่มันคนละสายกันนะครับ (สายศิลป์ และสายวิทย์ ตามลำดับ)  ข้อมูลน่าจะคลาดเคลื่อนครับพี่เหยง
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2243 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 12:13:15 »

ข่าวล่าของ น.ส.ณัฐกานต์ สกุลดาราชาติ ครับว่า เธอไม่ไปสอบสัมภาษณ์ที่ ม.เกษตรฯแล้วครับ เพราะได้ทุนไปเรียนนอกแล้ว

“ก้านธูป” เมิน ม.เกษตรฯ ลือหึ่งได้ทุนโกอินเตอร์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 พฤษภาคม 2553 10:07 น.

        สวัสดี “รอบรั้วการศึกษาฯ” ประจำวันที่ 26 พ.ค.จ้องกันตาไม่กะพริบทีเดียว สำหรับกรณีสอบสัมภาษณ์เข้าศึกษาต่อคณะสังคมศาสตร์ เอกรัฐศาสตร์ (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ของ “น.ส.ณัฐกานต์ สกุลดาราชาติ” หรือ “น้องก้านธูปเยาวชนผู้หลงผิดโพสต์ข้อความหมิ่้นสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ในเฟซบุ๊กของตัวเอง และในเว็บไซต์ใต้ดินที่ถูกตั้งขึ้น เพื่อโจมตีสถาบัน จนถูกกระแสสังคมกดดันอย่างหนักหน่วง ปรากฏว่า ล่าสุด น.ส.ณัฐกานต์ ไม่ได้เดินทางมาสอบสัมภาษณ์ เท่ากับว่า “สละสิทธิ์” โอกาสที่จะเป็นนิสิตร่มนนทรี
       
       เห็นแล้วก็อดรู้สึกเป็นห่วงเยาวชนของชาติ สาวน้อยผู้สร้าง “วีรกรรมทำเพื่อแดง” รายนี้ไม่ได้ ว่า หนทางด้านการศึกษาของเธอจะเป็นอย่างไร
       
       สายสืบกระจิบข่าวตัวจ้อยไม่รอช้า ส่งข่าวร้อนว่า เขาลือกันให้แซดว่า “น้องก้านธูป” ขวัญใจแดงไซเบอร์ ได้รับทุนการศึกษาให้ไปเล่าเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนจะเป็นทุนจากกระเป๋าใคร...งานนี้เดากันเอาเองนะจ๊ะ

                                         
ฯลฯ

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000072203


 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2244 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 12:18:26 »

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 26 พฤษภาคม 2553, 12:12:37
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 26 พฤษภาคม 2553, 11:28:14
เธอได้ อักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร และ วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ เอกรัฐศาสตร์ (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ทราบมาว่า สุธาชัย อัพเซ็ทตอน 6 ตุลา เนื่องจากเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ในขณะนั้นครับ

อักษร กับ วิศวะ  นี่มันคนละสายกันนะครับ (สายศิลป์ และสายวิทย์ ตามลำดับ)  ข้อมูลน่าจะคลาดเคลื่อนครับพี่เหยง

ขอบใจ ดร.มนตรี ที่ติง

และพี่ได้แก้ให้ตรงกับความเป็นจริงแล้วคือ คณะสังคมศาสตร์ ม.เกษตรฯ

อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ไปสัมภาษณ์เมื่อวานนี้ ตามข่าวบอกว่า ได้รับทุนไปเรียนต่อต่างประเทศแล้ว ไม่ทราบประเทศ, ม.ด้วย

ซึ่งพี่ก็ดีใจด้วยว่า เธอจะไม่ได้รับแรงกดดันจากรอบๆตัว หากเรียนที่ ม.เกษตรฯ ในขณะที่เรียน 4 ปีต่อไปนี้

อย่างไรก็ตาม อนาคตของเธอ สำหรับการใช้ชีวิตต่อไปหลังจบการศึกษา เป็นเรื่องที่เธอต้องตัดสินใจแล้ว ??
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #2245 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 12:21:04 »

อ้างถึง
ข้อความของ jamsai เมื่อ 26 พฤษภาคม 2553, 11:19:33
ดร. มนตรี

โรงเรียนจุฬาภรณ์ที่มุกดาหาร ก็ให้โอกาสดีๆ กับเด็กแถวๆนั้น มากมาย
...
ตอนนี้เราจะทำอย่างไรกันดีกับคนพวกนี้ ... เพียงแต่ชนชั้นครีมของประเทศอย่างพวกเราจะทำอะไรดี เราจะกล้าหาญพอหรือยัง
ช่วยคิดกันหน่อยเถิด



เราทำหน้าที่ของเราต่อไปครับพี่ ...  ส่วนตัวแล้วผมไม่คาดหวังอะไร 100 เปอร์เซนต์ครับ

ตัวผมเองยังเป็นคนดี 100 เปอร์เซนต์ ไม่ได้เลย ^__^
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #2246 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 12:23:05 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 26 พฤษภาคม 2553, 12:18:26
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 26 พฤษภาคม 2553, 12:12:37
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 26 พฤษภาคม 2553, 11:28:14
เธอได้ อักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร และ วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ เอกรัฐศาสตร์ (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ทราบมาว่า สุธาชัย อัพเซ็ทตอน 6 ตุลา เนื่องจากเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ในขณะนั้นครับ

อักษร กับ วิศวะ  นี่มันคนละสายกันนะครับ (สายศิลป์ และสายวิทย์ ตามลำดับ)  ข้อมูลน่าจะคลาดเคลื่อนครับพี่เหยง

ขอบใจ ดร.มนตรี ที่ติง

และพี่ได้แก้ให้ตรงกับความเป็นจริงแล้วคือ คณะสังคมศาสตร์ ม.เกษตรฯ

อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ไปสัมภาษณ์เมื่อวานนี้ ตามข่าวบอกว่า ได้รับทุนไปเรียนต่อต่างประเทศแล้ว ไม่ทราบประเทศ, ม.ด้วย

ซึ่งพี่ก็ดีใจด้วยว่า เธอจะไม่ได้รับแรงกดดันจากรอบๆตัว หากเรียนที่ ม.เกษตรฯ ในขณะที่เรียน 4 ปีต่อไปนี้

อย่างไรก็ตาม อนาคตของเธอ สำหรับการใช้ชีวิตต่อไปหลังจบการศึกษา เป็นเรื่องที่เธอต้องตัดสินใจแล้ว ??

ครับพี่ เห็นพี่แก้ข้อมูลแล้ว และผมกำลังจะลบ ของผมทิ้งพอดี เห็นโพสนี้ของพี่เสียก่อน ถือโอกาสสวัสดีพี่ตรงนี้เลยครับ

ขออนุญาตไปทานข้าว ก่อนนะครับ ^__^
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2247 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 12:29:45 »

สวัสดีเช่นกันครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2248 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 13:34:14 »

ดูคลิป แดน ริเวอร์ส(ตัวปลอม) นักข่าวจาก CNN ครับ

ชมคลิป ฝรั่งล้อ CNN รับไม่ได้รายงานข่าวไทยบิดเบือน-ขาดความเป็นมืออาชีพ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 พฤษภาคม 2553 13:11 น.

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=38quBV7EKdY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=38quBV7EKdY</a>

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000072544
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2249 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2553, 22:11:39 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 พฤษภาคม 2553, 19:09:32
ดูหน้าชัดๆ คนเขียงใหม่ดึง"ธงในหลวง"โยนทิ้งน้ำ.......


ชมคลิป แดงเชียงใหม่ห้าว! แค้นสลายชุมนุม พาลถอน “ธงในหลวง” โยนทิ้งน้ำ
25 พฤษภาคม 2553 15:02 น.

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=tyV2ZT0hxTY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=tyV2ZT0hxTY</a>

       ASTVผู้จัดการ – แดงเชียงใหม่แค้นแกนนำประกาศสลายการชุมนุม 19 พ.ค.ก่อจลาจลหน้าจวนผู้ว่าฯ พาลโยนธงสีเหลืองอักษรพระปรมาภิไธย ภปร ที่ปักเคียงกับธงชาติไทยบนสะพานนวรัฐ ทิ้งแม่น้ำปิงเกลี้ยง
      
    
     
      
       จากกรณีเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ คนเสื้อแดงประกาศสลายการชุมนุม ณ แยกราชประสงค์ หลังเจ้าหน้าที่ของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เข้ากดดัน จนก่อให้เกิดการวินาศกรรม และจลาจลขึ้นทั่วกรุงเทพฯ และลุกลามไปทั่วประเทศ ล่าสุด วานนี้ (24 พ.ค.) ได้มีประชาชนโพสต์คลิปวิดีโอลงในเว็บไซต์ยูทูป เป็นภาพการก่อการจลาจลที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 19 พ.ค.
      
       เหตุการณ์การจลาจลที่จังหวัดเชียงใหม่ เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเที่ยงวัน บริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เชิงสะพานนวรัฐ อ.เมืองเชียงใหม่ โดย นปช.จังหวัดเชียงใหม่ จำนวนประมาณ 50 คน ได้นำยางรถยนต์มากองที่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าฯ ก่อนราดน้ำมันจุดไฟเผา จนเกิดกลุ่มควันจำนวนมาก นอกจากนี้ กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวยังขว้างปาขวดน้ำและสิ่งของเข้าไปในจวนผู้ว่าฯ ใช้หนังสติ๊กยิงประทัดยักษ์เข้าไปในจวนผู้ว่าฯ เป็นระยะ จนเจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรบริเวณสะพานนวรัฐข้ามแม่น้ำปิงเป็นการชั่วคราว
      
       สำหรับภาพคลิปวิดีโอดังกล่าว ตอนหนึ่งปรากฏภาพชายสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว ได้เดินไปตามทางเท้าบนสะพานนวรัฐ และได้พยายามถอนธงสีเหลืองอักษรพระปรมาภิไธย ภปร ซึ่งปักอยู่เคียงกับธงชาติไทยบนสะพาน โยงทิ้งลงสู่แม่น้ำปิง ด้วยท่าทางโกรธแค้น ก่อนที่ นปช.อีกคนหนึ่งที่ใส่เสื้อแจ๊กเก็ตแขนยาวสีเขียวขี้ม้าจะกระทำถอนธงสีเหลือง ตามชายคนดังกล่าวบ้าง จากนั้นคนกลุ่มดังกล่าวจึงเดินไปรวมตัวกัน
      
       พฤติกรรมการจาบจ้วง หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และบ่อนทำลายสถาบันหลักของประเทศไทยนั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อย่างเช่น กรณีเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2551 หลังพิธีพระราชทานเพลิงศพ “น้องโบว์” น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ เพียงวันเดียว กลุ่มคนรักเชียงใหม่ ได้เปิดเวทีปราศรัยสนับสนุนรัฐบาลต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งจัดบริเวณหน้าโรงแรมแกรนด์วโรรส โดยวันดังกล่าวแกนนำผู้ปราศรัยแสดงอาการโกรธแค้นต่อเหตุการณ์พิธีพระราชทานเพลิงศพอย่างชัดเจน โดย นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 ปราศรัยถึงการเดินทางไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.ที่สนามหลวง และมีตอนหนึ่งที่กระทบกระเทียบกับสถาบันสูงสุดอย่างหมิ่นเหม่ โดยได้พูดว่า คนเชียงใหม่นับถือแค่กษัตริย์ 3 องค์เท่านั้น ก็คือ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ซึ่งประดิษฐานอยู่หน้าศาลากลางหลังเก่า (พญาเม็งราย พญางำเมือง และ พ่อขุนรามคำแหง) ไปกรุงเทพฯ ก็ไปสักการะเฉพาะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเท่านั้น (อ่านข่าว : นปก.เชียงใหม่เหิม บอกคนเชียงใหม่นับถือแค่อนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ (16 ต.ค. 51))
      

 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000072066
 


ตามเจอแล้วครับ คนโยน"ธงในหลวง"ทิ้งแม่น้ำปิง ที่เชียงใหม่

พบแล้ว! มือปลดธง “ภปร” ทิ้งน้ำปิง-เป็นพ่อค้าขายกับข้าวในตลาดรวมโชค ชม.
26 พฤษภาคม 2553 16:37 น.

         

 
       ASTVผู้จัดการ – พบแล้วมือขว้าง “ธงในหลวง” ลงน้ำปิง เผยเป็นพ่อค้าขายกับข้าวในตลาดรวมโชค ล่าสุด หลังปรากฏภาพบนยูทูป กลับหายหน้าไปจากแผง 3 วันติด ปล่อยเมีย-ลูกน้องขายแทน
      
       รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากปรากฏภาพชายสวมเสื้อขาว ปลดธงตราสัญลักษณ์ “ภปร” ที่ติดไว้คู่กับธงชาติไทย บริเวณสะพานนวรัฐ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ติดกับจวนผู้ว่าฯ แล้วโยนทิ้งลงแม่น้ำปิง ระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมประท้วง และก่อเหตุเผายางรถยนต์ ขว้างระเบิดเพลิงใส่บ้านพักปลัดจังหวัดฯ และเผารถดับเพลิงของเทศบาลนครเชียงใหม่ 2 คัน (ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ขับมาเพียงคันละ 1 คน โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำรถแม้แต่คนเดียว) เมื่อ 19 พ.ค.53 นั้น
      
       ปรากฏว่า ชายคนดังกล่าวมีใบหน้าคล้ายกับ นายกฤษฎา (ไม่ทราบนามสกุล) พ่อค้าขายกับข้าวในตลาดรวมโชค ติดกับถนนวงแหวนรอบกลาง อ.เมืองเชียงใหม่ ที่เปิดแผงขายอาหารใกล้กับร้านลาบเมืองแพร่-ร้านขายอาหารปักษ์ใต้มานาน และเป็นเครือข่ายของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มักไปร่วมการชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่แทบทุกครั้ง
      
       แต่ในระยะ 3 วันที่ผ่านมา นายกฤษฎา ได้หายหน้าไปจากแผงขายกับข้าวในตลาดดังกล่าว ปล่อยให้ลูกน้อง-ภรรยา มาขายแทนเท่านั้น
      
       ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กองกำลังจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำสั่งให้ติดตามหาตัวผู้ที่ปลดธงตราสัญลักษณ์ “ภปร” ทิ้งแม่น้ำปิงแล้ว ซึ่งล่าสุดเริ่มมีชาวบ้านแจ้งยืนยันถึงตัวตนนายกฤษฎา ว่า ตรงกับบุคคลที่ปรากฏในภาพแล้วหลายราย
      
 
 
พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000072698
 
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 88 89 [90] 91 92 ... 131   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><