25 พฤศจิกายน 2567, 19:48:35
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 79 80 [81] 82 83 ... 131   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"  (อ่าน 799104 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 25 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2000 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 10:38:22 »

คอลัมม์ "ท่านขุนน้อย" พูดเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจของกรีซ และผลกระทบกับประเทศไทย??!!

วิกฤติหนี้สาธารณะ
ท่านขุนน้อย 13 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      จากวิกฤตการณ์หนี้สินที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศกรีซอยู่ทุกวันนี้  ทำให้ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ ในบ้านเรา ผู้มักจะออกมาให้ความคิด ความเห็น วิพากษ์ วิจารณ์ สถานการณ์ความเป็นไปต่างๆ อย่างเป็นปกติ ได้นำเอาตัวเลขหนี้สาธารณะของประเทศต่างๆ ในยุโรป และอเมริกา มาเปิดเผยให้เห็นกันจะจะ ซึ่งก็พอสรุปได้ว่า...ต่างก็ล้วนแต่เป็นหนี้ เป็นสิน ชนิดอีนุงตุงนัง ไปด้วยกันทั้งนั้น...
            --------------------------------------------
     สำหรับประเทศกรีซที่กำลังแบกหนี้ จนข้อต่อกระดูกสันหลังตั้งแต่ส่วนที่เชื่อมต่อกับก้านสมอง ไปยันถึงส่วนที่เชื่อมต่อกับต่อมลูกหมาก ต่างก็ร้าวระบมไปด้วยกันทั้งสิ้น ว่ากันว่า...จำนวนหนี้สาธารณะของประเทศขณะนี้ มีปริมาณสูงยิ่งกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศตัวเอง หรือสูงกว่าจีดีพีประเทศตัวเองไปถึง 123.3 เปอร์เซ็นต์เอาเลยทีเดียว พูดง่ายๆ ก็คือ ไม่ว่าจะทำมาหารับประทานมาได้เท่าไหร่ ก็คงแทบไม่เหลืออะไร เอาไว้ให้รับประทานได้แบบเต็มปากเต็มคำ มีแต่จะต้องกินลม กินแล้ง หรือ กัดก้อนเกลือกินไปพร้อมๆ กับการชดใช้หนี้สิน จะอีกซักกี่ปีกี่ชาติก็ยังไม่รู้...
           ----------------------------------------------
     แต่ที่หนักไปกว่านั้นก็คือ ประเทศอิตาลี...แม้นว่าจะยังพอมีเครดิต มีสถานภาพทางเศรษฐกิจอันเป็นที่ยอมรับกว่าประเทศกรีซ แต่ถ้าดูจากจำนวนหนี้สาธารณะ ที่ท่วมจานมะกะโรนีอยู่ในขณะนี้ ว่ากันว่า...ปาเข้าไปถึง 127 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี เรียกว่า...ไม่ว่าจะทุ่มเทเรี่ยวแรง ขายน้ำมันมะกอก  ขายพิซซ่า ขายเสื้อผ้าแบรนด์เนม หรือ ขายสโมสรฟุตบอลกัลโชซีรีส์เอได้ทั้งลีก ฯลฯ แต่โอกาสที่จะล้างหนี้ ล้างสิน ได้แบบครบถ้วนสมบูรณ์นั้น...ยังไงๆ ก็คงยากซ์ซ์อยู่ดี มีแต่ต้องทำมาหารับประทานในแบบทำไป ใช้หนี้ไป จะอยู่ดีมีสุข มีเงินทอง เหลือกิน เหลือใช้ พอที่จะเอาไปใช้จ่ายแบบสุรุ่ยสุร่าย  ประเภทเอาไปดึงหน้า เอาไปเที่ยวโสเภณีแบบนาย แบร์ลุสโกนี นายกรัฐมนตรีของตัวเองนั้น...ย่อมเป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด!!!
          -------------------------------------------------
     แม้แต่ฝรั่งเศส และเยอรมนี อันถือเป็น เสาหลัก ของสหภาพยุโรปก็ว่าได้ ปริมาณหนี้สาธารณะของฝรั่งเศสนั้นอยู่ที่ 92.5 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ขณะที่เยอรมนีลดลงกว่ากันเล็กน้อย คืออยู่ที่ 82.0 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี แต่ก็ถือเป็นหนี้ระดับหัวโตอยู่พอประมาณ เพราะถ้าเป็นประเทศเล็กๆ อย่างไทยแลนด์ แดนสยาม ของเราแล้ว แค่ปริมาณหนี้สาธารณะพุ่งขึ้นไปถึง 40 กว่าๆ เกือบจะถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีเท่านั้น ใครต่อใครต่างออกมาโวยวาย ด่ารัฐบาล ด่าผู้ที่ไปสร้างหนี้ ชนิดแทบไม่เป็นอันกินอันนอน แม้นว่าลักษณะพื้นฐานของโครงสร้าง และศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างฝรั่งเศส หรือเยอรมนี จะแข็งแกร่งพอสำหรับการสร้างหนี้ หรือการแบกรับปริมาณหนี้ได้มากกว่าบ้านเราหลายต่อหลายเท่าก็ตาม...แต่ขึ้นชื่อว่า หนี้ แล้ว ย่อมไม่ได้เป็นอะไรที่น่าพิศมัย น่าเพลิดเพลินเจริญใจเอาเลยแม้แต่น้อย...
        -----------------------------------------------------
     ส่วนประเทศยุโรปที่ไม่ได้ร่วมอยู่ในสกุลเงินยูโร อย่างอังกฤษ...ช่วงปี พ.ศ.2551 ตัวเลขหนี้สาธารณะยังอยู่ในระดับพอ กล้อมๆ แกล้มๆ คืออยู่ที่ 47 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี แต่ในปีต่อมา...ตัวเลขหนี้มันดันพุ่งพรวดๆ พราดๆ ขึ้นไปถึง 94 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ไม่ต่างไปจากไอร์แลนด์ ที่ยกระดับหนี้จาก 28 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี กลายมาเป็น 93 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ภายในช่วงระยะเวลาปีเดียวเท่านั้น และแน่นอนว่า...สำหรับประเทศอภิมหาอำนาจ ผู้ได้ชื่อว่าขยันขันแข็งเอามากๆ ในการสร้างหนี้ อย่างสหรัฐอเมริกา จากตัวเลขหนี้สาธารณะระดับ 62 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี มาถึง ณ ขณะนี้...ก็ไปไกลถึง 100 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีเรียบโร้ยย์ย์แล้ว...
        -----------------------------------------------------
     พูดง่ายๆ ว่า ไม่ว่าประเทศไหนต่อประเทศไหน เอาไป-เอามา...ต่างก็เป็นหนี้หัวโตไปด้วยกันแทบทั้งโลกนั่นแหละ ความพยายามที่จะเข้าไปช่วยกอบกู้วิกฤตการณ์หนี้สินในประเทศหนึ่งประเทศใด อันที่จริง...ก็คงไม่ต่างไปจากการหาทางที่จะทำให้ประเทศนั้นๆ เกิดขีดความสามารถพอที่จะใช้หนี้ให้กับประเทศตัวเอง เพื่อที่ประเทศตัวเองจะได้มีเงินเอาไว้ใช้หนี้ต่อๆ กันไป ชนิดไล่เรียงกันเป็นลูกระนาดนั่นเอง วิกฤติหนี้สินในประเทศหนึ่งประเทศใด มันจึงไม่ได้เป็นวิกฤตการณ์แต่เพียงเฉพาะประเทศนั้นๆ เท่านั้น แต่เป็นวิกฤตที่เชื่อมโยง บูรณาการ ในระดับทั่วทั้งโลกอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้...
      ---------------------------------------------------------
     ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ อย่างท่านรองผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย คุณ เกริก วณิกกุล ท่านจะออกมาปลอบประโลมใครต่อใคร เอาไว้ทำนองว่า วิกฤติหนี้สินของประเทศกรีซ จะไม่ก่อให้เกิดความกระทบกระเทือนต่อเสถียรภาพสถาบันการเงินไทยเอาเลยแม้แต่นิด เนื่องจากระบบธนาคารพาณิชย์ไทย  มีเงินลงทุน เงินฝาก เงินให้สินเชื่อ ในต่างประเทศ เพียงแค่ 2.8 เปอร์เซ็นต์ของสินทรัพย์ในระบบสถาบันการเงินพาณิชย์ทั้งหมด...แต่ก็นั่นแหละ ขึ้นชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยซะอย่าง...คงต้องฟังหู-ไว้หู เพราะในช่วงที่ไปเจ๊งค่าเงินบาท ก็ออกมาในแนวเดียวกันนี้นี่แหละ หลังจากออกมาปลอบใครต่อใครได้ซักพัก ตัวเองก็เป็นอันหงายผลึ่ง...ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี ปล่อยให้ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ อย่างคุณ เริงชัย มะระกานนท์ กลายเป็นจำเลยรักไปตามลำพังคนเดียว...
     -----------------------------------------------------------
     การที่โลกทั้งโลก ต่างเต็มไปด้วยประเทศที่เป็นหนี้ เป็นสิน ระดับหนักๆ ด้วยกันทั้งนั้น...ว่าไปแล้วมันน่าจะเป็นตัวสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบาง ความไม่สมดุล และความวิปริต ผิดเพี้ยน หรือ ความไม่สมเหตุสมผล ของระบบเศรษฐกิจระดับโลกทั้งโลกอย่างเห็นได้ชัดเจน แม้นว่าโดยวิธีคิดตามหลักเศรษฐศาสตร์แบบทุนนิยม จะทำให้ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ ทางด้านเศรษฐกิจทั้งหลาย มักไม่ค่อยแยแส ยี่หระ กับการทวีจำนวนหนี้สิน หรือ หนี้สาธารณะ ในแต่ละประเทศกันซักเท่าไหร่นัก เพราะมัวแต่ไปทุ่มเทความสนใจให้กับการขยายตัวของจีดีพีกันเป็นหลัก การกู้หนี้ยืมสินเพื่อเอามาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจ หรือเอามาใช้ขับเคลื่อนการขยายตัวของตัวเลขจีดีพี จึงเป็นไปในแบบสุกรไม่กลัวน้ำร้อนด้วยกันทั้งสิ้น...จนท้ายที่สุด แต่ละประเทศก็เลยต้องกลายสภาพ เป็นหมูพะโล้ หรือ เกาเหลาหมูตุ๋น ให้กับ ทุนเสรี ที่ไหลมา-ไหลไป โดยปราศจากความเป็นชาติใดๆ รองรับเอาไว้เลยแม้แต่น้อย...
       -------------------------------------------------------
     อย่างไรก็ตาม...ไม่ว่าวิกฤติหนี้สินในประเทศกรีซ หรือประเทศอื่นๆ ในยุโรป จะมีผลกระทบต่อประเทศไทยหรือไม่? เพียงใด? ยังไงๆ...ก็คงเทียบไม่ได้กับผลกระทบอันเนื่องมาจากวิกฤติการเมืองภายในของเราเอง ที่จนบัดนี้ก็ยังคงเป็นไปในแบบมั่วๆ มึนซ์ซ์ๆ อยู่เช่นเดิม อีกทั้งไม่ว่าผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ รายใด สาขาใด ต่างก็ใบ้รับประทานไปด้วยกันทั้งสิ้น...ด้วยเหตุนี้ ระหว่างที่รอรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง  ท่านเพิ่งจะตื่นขึ้นมา คิดจะ ตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณโทรศัพท์ หลังจากปล่อยให้ม็อบป่วนบ้าน ป่วนเมือง มานานถึง 2 เดือนกว่าๆ ก็เลยหนีไม่พ้นที่จะต้องหันไปเอาเรื่องวิกฤติหนี้สินมาคั่นเวลาไว้พลางๆ....
     ----------------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก จอห์น สจ๊วต มิลล์ (อีกครั้ง) ....ข้าพเจ้าเรียนรู้ที่จะแสวงหาความสุขด้วยการจำกัดความอยากของข้าพเจ้า  แทนที่จะพยายามสนองตอบต่อความอยากนั้นๆ....
     -----------------------------------------------------------
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2001 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 10:47:13 »

คอลัมม์ "ถูกทุกข้อ" ของ สามวา สองศอก

สู้แล้วรวย
ถูกทุกข้อ 13 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     ณัฐวุฒิสุดสำราญอยู่บ้านใหญ่
     หมู่บ้านหรูอยู่ไม่ไกลเมืองนนท์นั่น
     ราคาแค่สิบกว่าล้านท่านแน่ครัน
     มาซื้อกันง่ายดายสบายดี
               บ้านหลังนี้ที่เจ้าของท่านครองอยู่
               เป็นบ้านหรูเพิ่งต่อเติมเสริมศักดิ์ศรี
               ได้เงินมาตั้งก้อนใหญ่เป็นไรมี
               ทำเต็มที่เสียโอ่อ่าน่าอยู่จัง
     มีชิงช้า สนามหญ้า ศาลาไม้
     ลูกจะได้รับลมเย็นวิ่งเล่นมั่ง
     ต้นไม้งามน้อยใหญ่ปลูกไว้บัง
     รั้วเป็นไม้ดูขรึมขลังอลังการ
               รถตู้มีสามสี่คันท่านขับเก่ง
               แต่ละคันล้วนเบ้งเบ้งหลายหลายล้าน
               ท่านก็แบ่งกันขับกับบริวาร
               จอดในบ้านและหน้าบ้านกันทั่วไป
     นี่เห็นถอยรถป้ายแดงออกแผลงฤทธิ์
     แต่ท่านจอดมิดชิดเก็บเอาไว้
     เป็น โฟล์คตู้ สวยแกร่งแพงเหลือใจ
     ท่านอยากได้เพราะมันดังดั่งคำลือ
               ทะเบียนรถของท่านนั้นเท่มาก
               ท่านคงอยากจำง่ายสบายบรื๋อ
               จึงล็อกเลขไว้ชุดหนึ่งซึ่งก็คือ
               เลขที่ถือเป็นทะเบียนทุกคันไป
     บ้านปักษ์ใต้ท่านอดทนปนลำบาก
     แต่ลูกชายสบายมากอยู่บ้านใหญ่
     เหตุที่เป็นเช่นนี้นี่อะไร
     ถ้าไม่ใช่ "สู้แล้วรวย" รวยจริงจริง
                                             คนเมืองนนท์

                จดหมายก่อนตาย                                       
เรียน คุณสามวา สองศอก
     ผมเป็นอดีตทหารผ่านศึกเวียดนาม ปัจจุบันอายุ 60 กว่า ป่วยเป็นโรคหัวใจ ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน แต่ก่อนตายขอเขียน จ.ม.ถึงคุณสักครั้ง มิฉะนั้นตายนอนตาไม่หลับ
     ทำไมคนไทยจึงแตกแยกรุนแรง   ร้าวลึก   ต้องมาฆ่ากันเองอย่างนี้   เสียใจสำหรับการตายทั้ง 2 ฝ่าย ลูกคนจนทั้งนั้น
     คนไทยเครียดกันทั้งประเทศ ป่วยกันมากมาย ป่วยทางจิต ป่วยโดยไม่รู้ว่าตัวเองป่วย โดย
เฉพาะนักการเมือง เราปล่อยให้นักการเมืองที่หิวเงิน หิวอำนาจ มาปกครองพวกเรามานานเกิน
ไปแล้ว พวกเราคนไทยทั้งประเทศควรตั้งสติให้ดี แล้วร่วมกันปฏิรูปประเทศไทยครั้งใหญ่เสียที
     "ศีลธรรมไม่กลับมาโลกาจะวินาศ" คำพระท่านกล่าวไว้ สังคมไทยที่มีผู้นำหิวเงิน ก็พาให้คนไทยหิวเงินกันทั้งประเทศ หน้ามืดตามัวหาแต่เงินหาแต่อำนาจ ตั้งแต่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต.เรื่อยขึ้นมา ยิ่งถ้าให้เป็นกำนันได้ตลอดชีวิต ยิ่งจะงอกรากแผ่บารมีช่วย ส.ส.ชั่วๆ หาเสียงได้มากขึ้น ขอร้องเพื่อชาติไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเราชาวไทย หยุดเถิดเสื้อแดง หยุดเถิดทักษิณ หยุดเถิดผู้มีอำนาจใต้ดินทั้งหลาย ทหารไทยต้องมั่นคงเด็ดขาด ถ้าจะสู้เพื่อชาติต้องเด็ดขาดกว่านี้
     ตำรวจไทยต้องเรียกศักดิ์ศรีคืนมา ไปจับผู้ร้าย ไม่ใช่ไปให้ผู้ร้ายจับ ตำรวจชั่วๆ ต้องปราบให้หมด ตำรวจตั้งบ่อนเอง ตำรวจเดินตามเจ้าพ่อเจ้าแม่มีมากมาย ตำรวจเสื้อแดงที่ชอบไปเที่ยวปลุกระดมคนตามต่างจังหวัด พวกนี้ใส่ชุดดำโพกผ้าพันคอสีแดง พอเขาได้ทีตั้งวงไฮโลหลอกเงินคนข้างนอกอีก เมามากๆ เอาปืนกลยิงขึ้นฟ้าเห็นแล้วอนาจใจ ทหารไทยสู้ออกนำหน้าลูกน้อง อย่าอยู่ข้างหลังอย่างแกนนำเสื้อแดงสู้เพื่อชาติ อย่าอยู่ใต้อำนาจคนโกง
                                                          จ่าณรงค์ ชุ่มมณี
ตอบ จ่าณรงค์
     ได้เขียนจดหมายแล้วคงจะสบายใจขึ้นนะครับ อย่าไปเครียดนักเลยกับพวกเสื้อแดง แตงโม มะเขือเทศ
     
                ทุกข์ของนักเรียนชาย               
เรียน คุณสามวา สองศอก
     ผมมีข้อข้องใจทำไมนักเรียนชายตัดผมสั้นติดหนังหัว ไถจนสูงถึงกระหม่อม แต่นักเรียนหญิงถึงไว้ผมยาวได้ เพราะเหตุใดในเมื่อนักเรียนเหมือนกัน แต่ระเบียบถึงแตกต่างกันนักเรียนชายห้ามไว้ผม-นักเรีนนหญิงไว้ผมได้? หรือว่านักเรียนชายไม่ใช่คน ไม่มีความรู้สึก ไม่มีชีวิตจิตใจ ไม่รู้สึกอาย (หัว)
     ผมก็อยากรู้ รมต.ศธ.ในอดีตคนใดคิด คิดได้อย่างไร จนถึง รมต.ศธ.คนปัจจุบันไม่คิดแก้ไขบ้างหรือ ไปดูโรงเรียนในต่างประเทศด้วย นักเรียนชายของเขาตัดผมเหมือนเราหรือไม่ เช่น อังกฤษ อเมริกา สิงคโปร์ มาเลย์ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อีกหลายร้อยประเทศของเขา นักเรียนชายก็ยังไว้ผมได้ ผิดกับนักเรียนชายไทยตัดจนติดหนังหัวไถสูงกว่ากระหม่อม ดูแล้วมีแต่ความน่าเกลียดมากกว่า
     อยากให้คุณชินวรณ์ รมต.ศธ.มาตัดบ้างจะรู้สึกอย่างไร กฎก็ใช้มานานแล้วน่าจะปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมกับสภาพสังคมยุคปัจจุบัน ให้ตัดรองทรงได้ ช่างตัดผมรู้ กฎระเบียบก็ต้องเคารพในสิทธิเสรีภาพด้วย ไม่ใช่ละเมิดสิทธิเสรีภาพ ให้นักเรียนชายตัดผมสั้นจนติดหนังหัว แต่นักเรียนหญิงไว้ผม (ยาว) ได้
     กฎแบบนี้ก็มี อยากให้ความยุติธรรมกับนักเรียนชาย อย่า 2 มาตรฐาน นักเรียนหญิงไม่เห็นเรื่องมากเหมือนนักเรียนชายเลย ปฏิรูปความคิดซะใหม่ดูประเทศอื่นด้วย
                                                       ขอแสดงความนับถือ
                                                                 สุพจน์
ตอบ คุณสุพจน์
     ปัญหาของคุณเรื่องที่โรงเรียนห้ามไว้ผมยาว ผิดกับนักเรียนหญิงที่ไว้ผมยาวได้ เป็นปัญหาที่นักเรียนชายสมัยก่อนก็เคยน้อยใจมาก่อน เพราะเด็กนักเรียนชายที่เริ่มโตเป็นหนุ่ม ก็อยากจะหล่ออวดสาวๆ บ้าง แต่เมื่อถูกบังคับให้ตัดผมสั้นติดหนังหัว ก็เลยคิดว่าตัวเองไม่หล่อ หมดความมั่นใจในตัวเอง
     เพื่อนผมก็เคยมาขอคำปรึกษา และขอร้องให้ไปช่วยพูดกับครูที่โรงเรียนของลูกชาย เพราะว่าลูกชายไม่อยากไปเรียนหนังสือ เพราะถูกบังคับให้ตัดผมสั้น
     ตัวผมเองก็เคยฝ่าฝืนกฎของโรงเรียน คือปล่อยให้ผมยาว เพราะคิดว่าหน้าตาจะดีขึ้น ถูกอาจารย์ฝ่ายปกครองเอากรรไกรมาตัดผมเป็นขั้นบันได กลับบ้านก็ต้องไปให้ช่างตัดผมช่วยลบรอยขึ้นบันได แต่เด็กสมัยนี้กลับนิยมให้ช่างทำผมให้เป็นลวดลายต่างๆ โตขึ้นมาคุณก็อาจจะเปลี่ยนใจ กลับมาไว้ผมทรงสกินเฮดเหมือนผมก็ได้             
                           
                    โง่แล้วขยัน
เรียน คุณสามวา สองศอก
     ภาษิตเยอรมันที่ติดปากคนไทยมาตั้งแต่สมัยผมเป็นเด็กๆ ก็คือ "โง่แล้วขยันเยอรมันไม่เลี้ยง" นั่นก็เพราะคนโง่มักจะทำอะไรผิดพลาด ก่อให้เกิดความเสียหายและเสียการใหญ่ได้เสมอ คนเยอรมันจึงให้คนโง่อยู่เฉยๆ (รู้ว่าโง่แล้วอยู่เฉยๆ อย่าออกมาทำอะไรทั้งสิ้น แล้วเยอรมันจึงเลี้ยง)
     หากโง่แล้วดันเสือ(ก)ขยัน เยอรมันจะฆ่าทิ้งกำจัดทิ้งทันที!!?
     ภาษิตเยอรมันดังกล่าวนี้ดูเหมือนว่าจะมีมานานแล้ว อยู่คู่ประเทศเยอรมันก่อนเผด็จการฮิตเลอร์ครองอำนาจเสียอีก คนเยอรมันขยันทำงานมีความเคร่งครัด ตรงต่อเวลาในการทำงาน ประเทศเยอรมันจึงมีความเจริญพัฒนาก้าวหน้าได้รวดเร็ว
     แม้ว่าจะแพ้สงครามโลกถึง 2 ครั้ง 2 คราว และประเทศถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ตามที แต่ในที่สุดก็สามารถรวมกลับคืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างรวดเร็ว เพราะคนเยอรมันมีอุดมการณ์ และความรักชาติ ลัทธิชาตินิยมสูง
     ตรงกันข้ามกับประเทศไทยของเรา ลัทธิชาตินิยมต่ำ แต่ลัทธิกิเลสตัณหานิยมมีสูง ข้าราชการประเภทผลไม้เนื้อแดง กลไกของรัฐกลุ่มหนึ่งและคนไทยอีกพวกหนึ่งขายตัวขายชาติให้กับคนถ่อยสถุลสัญชาติมอนเตเนโกร ที่สมควรถูกจิ๋นซีฮ่องเต้สั่งให้ม้าแยกร่าง จึงจะสาสมกับอุบาทว์กรรมที่คนถ่อยผู้นั้นทำในเวลานี้!!?
     คนชั้นรากหญ้าของประเทศที่ฉลาดน้อย ถูกล่อหลอกด้วยคำพูด ล่อลวงด้วยเงินทอง อามิสสินจ้าง ให้คนฉลาดน้อยเหล่านี้มาชุมนุม เพื่อปลดเปลื้องความระยำตัณหาของนายใหญ่ มุ่งเอาชนะความยุติธรรมของประเทศทุกรูปแบบ คนไทยเหล่านี้ถึงวันนี้กำลังเป็น คนที่โง่แล้วขยัน (ชุมนุม)   คำถามจึงมีว่ารัฐบาลไทยควรเลี้ยงไว้ต่อไป แบบความคิดเดิมต้องค่อยๆ แยกปลาออกจากน้ำหรือไม่ ในส่วนตัวผมแล้วคิดได้เลยว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องใช้คำพูดที่ว่า โง่แล้วขยันรัฐบาลไทยต้องฟันไม่เลี้ยง!!?
                                                            เสธ.เหลือง
                                                    ผู้ทรงคุณธรรมกองทัพบก
ตอบ คุณเสธ.เหลือง
     ไม่มีใครยอมรับหรอกครับว่าตัวเองโง่ ส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองฉลาดทั้งนั้น เมื่อฉลาดแล้วก็ต้องขยันทำโน่นทำนี่จนบ้านเมืองวุ่นวายนี่แหละ ผมสมัครใจที่จะเป็นคนโง่แล้วขี้เกียจ เผื่อว่ารัฐบาล
เยอรมันจะเอาผมไปเลี้ยงบ้าง
                                                       สามวา สองศอก
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2002 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 10:59:41 »

อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 13 พฤษภาคม 2553, 10:34:08
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 12 พฤษภาคม 2553, 13:39:47
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 10:39:09
หนูอ้อย14 ถ้าอากาศไม่ร้อน  พรุ่งนี้พี่เข้ากรุงเทพ แล้วจะพาน้องติ๊บไปสมุยนะ

สน...มะ


เหยง คะ พี่แอ๊ะไม่ได้ไปสมุยแล้วล่ะเพราะ ลูกต้องรีบกลับมาช่วยพี่หาญตรวจคนไข้
พี่หาญจะเหงาๆ พอพี่แอ๊ะไม่อยู่เลยต้องรีบกลับ

แต่ต้องมาเข้าเวบ ทั้งๆที่ตาจะปิดอยู่แล้ว ง่วงนอนค่ะ ตื่นตี4 มาเครื่อง6โมง

ได้ไปชิดลมแล้ว เห็นเป็นป้อมปราการ ของไอ้แดงคนชั่ว ครองเมืองจริงๆ
ทำกันยังกะเมืองไทยเป็นของ พวกมันพวกเดียว ป่าเถื่อนที่สุดดดดดดดดด

รถติดวินาศสันตะโร






สวัสดีครับพี่แอีะ

กลับจากกรุงเทพแล้วหรือครับ


พูดถึง เซ็นทรัล ชิดลม ผมยังไม่ได้เอานาฬิกา Tag ไปให้เขาซ่อมสายให้เลยครับ รอให้มันเลิกชุมนุมจะไป shop ซะที
      บันทึกการเข้า
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2003 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 20:00:42 »

เสธแดง..ตายแล้ว

เวร กรรมเห็นทันตา 5555555555555
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2004 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 20:02:17 »

คิดว่า ประเทศคงจะสงบลงอย่างน้อย 80 %

ดีดีใจจังงงงงงงงงงง
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2005 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 20:06:30 »

ข่าวใหม่ว่ายังไม่ตายอีกแย้ววววววววววว

ทำงายยยยยยย ดีล่ะ
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
mek
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2540
คณะ: Vet 61
กระทู้: 627

« ตอบ #2006 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 20:14:45 »

ผมดีใจด้วยอีกคนครับพี่แอ๊ะ ถ้าเศษแดงตายแล้วจะอโหสิให้อีกที กลัวเป็นข่าวลวงจังครับถ้าไม่ตายก็อยากให้เดี้ยงไปซัก 1ปี จะได้สำนึกบ้าง
      บันทึกการเข้า

เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2007 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 20:18:41 »

ประมวลจากออนไลน์ ชุดแรกครับ

วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19:51:56 น.  มติชนออนไลน์

ด่วน!! "เสธ.แดง" ถูกยิงจากเหตุระเบิดที่ศาลาแดง ส่งรพ.หัวเฉียวแล้ว ยังไม่ทราบอาการ

เว็บไซต์ไทยรัฐรายงานว่า เมื่อเวลา 19.20 น. วันที่ 13 พ.ค. ในช่วงเวลาโกลาหลของเหตุวุ่นวายที่บริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีศาลาแดง โดยมีเสียงคล้ายระเบิดดังถึง 5 ลูก นอกจากนี้  มีข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หรือ เสธ.แดง ถูกยิงสาหัสจากเหตุระเบิดข้างต้น คาดกระสุนถูกที่บริเวณช่วงหน้าอก หรือกกหู เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลหัวเฉียวแล้ว

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1273755133&grpid=00&catid=

วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19:24:48 น.  มติชนออนไลน์

บึ้มสนั่น4ครั้ง เสียงปืนดังหลายนัด สี่แยกศาลาแดง เสื้อแดงถอยกรูดกลับที่ตั้ง ตร.ตรึงกำลังเข้ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.20 น. วันที่ 13 พ.ค. ที่บริเวณสี่แยกศาลาแดง เกิดเสียงดังคล้ายระเบิด 4 ครั้ง และเสียงปืนดังหลายนัด เกิดขึ้นทางฝั่งกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงใกล้ๆกับโรงพยาบาลจุฬาฯ  ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันอยู่ด้านหน้าถอยหลังกลับไปที่ตั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังอยู่รอบบริเวณพื้นชุมนุมห่างจากพื้นที่ชุมนุมประมาณ 100 เมตร

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1273753788&grpid=00&catid=no
 
สะพัด “เสธ.แดง” ถูกยิงหัว หามส่ง รพ.หัวเฉียว ด้าน “ลิ่วล้อ” โกลาหล เสียงปืน-ระเบิดดังระงม
13 พฤษภาคม 2553 19:32 น.
        สีลมป่วน เสียงระเบิดดัง 2 ครั้ง ทำผู้ชุมนุมโกลาหลวิ่งวุ่นเข้าหาเวทีราชประสงค์ ขณะที่ “เสธ.แดง” เจอดีถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เร่งหามส่ง รพ.หัวเฉียว ขณะที่เสียงปืนดังสนั่นพื้นที่ ขณะที่ผอ.ศูนย์เอราวัณ ยืนยัน "เสธ.แดง"โดนสอยจริง อยู่ระหว่างรักษาตัว ปัดยังไม่ตาย
      
       วันนี้(13 พ.ค.) ผุ้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณแยกสีลม มุ่งหน้าแยกราชประสงค์ หลังจากศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. มีมาตรการกดดันกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.หลังเวลา 18.00 น. ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 19.25 น.เกิดเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นต่อเนื่อง จำนวน 4 ลูก หลังจากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะบริเวณกลุ่มผู้ชุมนุมสี่แยกศาลาแดง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิตหรือไม่ ทั้งนี้ ก่อนหน้าเกิดเสียงดังคล้ายระเบิด 4 ครั้ง ได้มีการยิงพลุ ยิงตไลขึ้นไปบนท้องฟ้าของกลุ่ม นปช. เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.หลังจากนั้นเกิดเสียงดังคล้ายระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม 1 ลูก ต่อจากนั้นเกิดอีก 2 ลูก ล่าสุดอีก 1 ลูกเมื่อเวลาประมาณ 19.23 น. ทำให้บรรยากาศบริเวณแยกศาลาแดงเกิดความโกลาหลวุ่นวายเนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุม ตลอดจนประชาชนวิ่งหนีออกจากบริเวณดังกล่าวโดยมุ่งหน้าไปยังเวทีใหญ่บริเวณแยกราชประสงค์
      
       ทั้งนี้ ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานในพื้นที่การชุมนุมว่า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ได้ถูกยิงบริเวณศีรษะ ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวส่งที่โรงพยาบาลหัวเฉียวแล้ว นอกจากนี้ยังมีเสียงปืนดังระงมไปทั่วพื้นที่
      
       สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานจากโรงพยาบาลหัวเฉียว ว่า ได้รับการยืนยันจากลูกน้องของพล.ต.ขัตติยะ ว่าถูกยิงได้รับบาดเจ็บจริง แต่แค่เฉี่ยวบริเวณศรีษะ ซึ่งขณะนี้ได้นำตัวเข้าไปในห้องฉุกเฉินแล้ว
      
       ทั้งนี้ นพ. เพชรพงษ์ กิจจรกิจการ ผอ.ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กทม. ให้สัมภาษณ์ว่า ข้อมูลเบื้องต้นได้รับรายงานว่าเสธ.แดงถูกยิงได้รับบาดเจ็บ รักษาตัวอยู่ที่หัวเฉียวจริง ซึ่งอยู่ระหว่างการช่วยเหลืออาการอยู่ ทั้งนี้จากรายงานอาการเสธ.แดงถูกยิงที่บริเวณศรีษะ ขณะนี้ยังไม่รุ้สึกตัว โดยแพทย์พยาบาลอยู่ระหว่างให้การช่วยเหลืออยู่

 

จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000066184

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2008 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 21:02:32 »

ข่าวชุดที่ 2 ครับ

เสธ.แดง ถูกยิงที่ศรีษะ ด้วยอาวุธไรเฟิล
13 พค. 2553 19:55 น.

มีรายงานว่า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกถูกถูกยิงด้วยอาวุธปืนไรเฟิล จากผู้ยิงที่มีลักษณะเป็นหน่วยแม่นปืน โดยถูกยิงที่บริเวณแยกศาลาแดง เข้าที่บริเวณศรีษะ ขณะนี้อยู่โรงพยาบาลหัวเฉียว

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=447881


คนสนิท เผย”เสธ.แดง” ถูกยิ่งส่ง รพ.หัวเฉียว
13 พค. 2553 19:56 น.

คนใกล้ชิดเผย พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ "เสธ.แดง" ถูกยิงแถวสีลม หามส่งไอซียู รพ.หัวเฉียว

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=447882&lang=T&cat=


เสียงคล้ายปืน-ระเบิด ดังขึ้นต่อเนื่องแยกศาลาแดง
13 พค. 2553 19:57 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณสี่แยกศาลาแดงเมื่อเวลา 19.38 น. ว่ามีเสียงคล้ายระเบิด ปืน บั้งไฟ ประทัดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศทั่วไปเต็มไปด้วยความตึงเครียด และไฟฟ้าเริ่มดับลง ขณะที่ทหาร ตำรวจ อยู่ในสภาพเตรียมพร้อม และมีข่าวว่าเสธฯแดง ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬาฯ

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=447883&lang=T&cat=

"เสธ.แดง"ถูกยิงเข้าศีรษะอาการสาหัส

คมชัดลึก :เกิดเสียงคล้ายปืน-ประทัดแยกศาลาแดง แล้วมีรายงานเสธ.แดงถูกยิงหามส่งรพ.หัวเฉียวอาการสาหัส หลังจาก ศอฉ.สั่งปิดถนนรอบแยกราชประสงค์ 6 โมงเย็นวันนี้ "ไพศาล"เตือนรัฐอย่าส่งทหารไปตายซ้ำคืนนี้อาจถูกโจมตี

(13พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 19.00 น.ผู้ชุมนุมได้จุดปะทัดขว้างบนสะพานลอยศาลาแดง และ เกิดเสียงดังคล้ายปืน ประมาณ 10 ครั้ง  ล่าสุด 19.21 เกิดเสียงดังคล้ายปืนยิงรัวประมาณ 30 นัด โดยมีเฮลิคอปเตอร์ บินวนสำรวจบริเวณพื้นที่ดังกล่าว

ขณะเดียวกันมีรายงานว่าพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไรเฟิล ที่บริเวณแยกศาลาแดง กระสุนเข้าที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่ง รพ.หัวเฉียว อยู่ในห้องไอซี สันนิษฐานว่ผู้ยิงที่มีลักษณะเป็นหน่วยแม่นปืน ต่อมาทางแพทย์นำเสธ.แดงออกจากห้องไอซียูไปเข้าเครื่องสแกนสมอง

นพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผอ.ศูนย์เอรวัณ สำนักการแพทย์ กทม. ให้สัมภาษณ์เนชั่นทีวีว่า  พล.ต.ขัตติยะ ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ บริเวณแยกวังแดง ตอนนี้ยังยังไม่รู้สึกตัว ทางโรงพยาบาลหัวเฉียวให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่

แกนนำนปช.ตรึงเครียดหลัง เสธ.แดงถูกยิง

 ส่วนความเคลื่อนไหวของแกนนำนปช. ตรึงเครียดได้หารือกันอยู่หลังเวที หลังพล.ต.ขัตติยะถูกยิง  ล่าสุด 20.18 น. ยังไม่มีแกนนำคนไหนขึ้นเวที และไม่มีการประกาศว่า เสธ.แดงถูกยิงให้ผู้ชุมนุมทราบ แต่ผู้ชุมนุมบางส่วนทราบจากการบอกเล่า และค่อนข้างตกใจ แต่ก็สร้างมีการฮึกเหิมขึ้นให้กับผู้ชุมนุม
 
ศอฉ.สั่งปิดถนนรอบแยกราชประสงค์ 6 โมงเย็นวันนี้

ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงผลประชุมศอฉ.ช่วงเช้าที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ในฐานะผอ.ศอฉ.เป็นประธานในการประชุมว่า ในช่วง1 - 2 วันที่ผ่านมา ศอฉ.ตั้งด่านตรวจอาวุธควบคุมผ่านเข้าออกของบุคคลต้องสงสัย ขณะนี้มีแนวทางการปฏิบัติที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นการกำหนดมาตรการในการปิดล้อมสกัดกั้นพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันนี้ พื้นที่ที่มีผลกระทบทางด้านเหนือเริ่มตั้งแต่ แยกราชเทวี ไปตาม ถ.เพชรบุรี จนถึงแยกขึ้นทางด่วนเพชรบุรี ทางทิศใต้ ตั้งแต่แยกทางขึ้นด่วนเพชรบุรี ตามถนนวิทยุ จนกระทั่งสี่แยกถนนวิทยุ เรื่อยมาจนถึงถนนพระรามที่ 4 จนถึงแยกสามย่าน และขึ้นเหนือไปบรรจบจุดเริ่มต้นตามถนนพญาไท จนกระทั่งถึงแยกราชเทวี ซึ่งเป็นลักษณะกรอบสี่เหลี่ยม

 “ในกรอบสี่เหลี่ยมนี้ ถนนพญาไท เพชรบุรี และ วิทยุ จะมีการปิดการจราจร ส่วนถนนพระราม 4 จะไม่ปิดการจราจร ซึ่งพื้นที่ที่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมปิดจราจรทุกชนิดไม่ว่าเป็นรถโดยสาร รถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดิน ทางเรือ เป็นการปิดจราจรร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ประชาชนกลุ่มผู้ชุมนุมสามารถออกนอกพื้นที่ได้ แต่ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ ยกเว้นผู้อาศัย และผู้ที่มีสถานที่ทำงานในบริเวณนั้นจะได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าได้ แต่ต้องเตรียมเอกสารหลักฐานเพียงพอที่จะยืนยันได้ว่า อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรพนักงานที่แสดงว่า ท่านทำงานที่ไหน เพื่อนำไปแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ทหารประจำด่าน ซึ่งจะมีด่านอยู่ทุกเส้นทางในพื้นที่รกอบสี่เหลี่ยม โดยเจ้าหน้าที่ประจำด่านจะมีสติ๊กเกอร์มอบให้เพื่อเป็นบัตรแสดงตนในการผ่านเข้าออก”โฆษกศอฉ. กล่าว

 พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ในพื้นที่ที่มีการสกัดกั้นร้อยเปอร์เซ็นต์นั้น การบริการสาธารณทุกชนิดทั้ง ไฟฟ้า ประปา การจราจร รถประจำทาง เรือ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดินจะมีการระงับเริ่มตั้งแต่ 18.00 น.เป็นต้นไป ส่วนใดดำเนินการได้ จะเริ่มดำเนินการในเวลา 18.00 น. ส่วนใดยังไม่พร้อมต้องเตรียมการให้พร้อม และดำเนินการทันทีที่สามารถดำเนินการได้ เพื่อให้มาตรการสาธารณนะทุกชนิดส่งผลกระทบ และกดดันต่อผู้ชุมนุมให้ยุติการชุมนุม และออกจากพื้นที่โดยเร็ว ไม่ได้ต้องการให้กระทบต่อประชาชนที่อาศัยหรือทำงานในบริเวณแยกราชประสงค์ ในส่วนการตัดไฟฟ้า และประปานั้นยังไม่สามารถดำเนินการได้ในเวลา 18.00 น. แต่หากพร้อมเมื่อไรจะดำเนินการทันที นอกจากนี้ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ทางศอฉ.จะขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ห้างร้าน บริษัทเอกชนที่ประกอบการในพื้นที่ ขอให้ท่านหยุดดำเนินกิจการชั่วคราว และอนุญาตให้พนักงานหยุดตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ทั้งนี้จากการที่ศอฉ.ทำหนังสือร้องขอต่อศาลเพื่ออนุมัติให้ผู้ประกอบการธุรกิจโทรศัพท์มือถือตัดสัญญาณนั้น ทางศาลได้มีการอนุมัติโดยสามารถตัดสัญญาณโทรศัพท์ได้ครั้งละ 6 ชั่วโมงต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง ไม่จำกัดจำนวน ซึ่งจะมีการดำเนินการไปสักระยะหนึ่งจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

 “ ส่วนเรื่องการกระชับวงล้อมของเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจมีความจำเป็นต้องกระชับวงล้อมเข้ามา โดยอาศัยรถเกราะหรือรถสายพานลำเลียงพล ซึ่งเรามีความจำเป็นในการนำมาใช้งาน เราไมต้องการนำอาวุธร้ายแรงมาใช้ต่อประชาชน แต่รถเกราะเป็นเกราะป้องกันอันตรายจากอาวุธยิงต่างๆให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจที่ปฏิบัติภารกิจ และสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม เพราะเรามั่นใจว่า ในกลุ่มผู้ชุมนุมมีผู้ก่อการร้าย ซึ่งมีอาวุธสงครามอยู่ เมื่อตำรวจทหารใช้รถเกราะ หากมีการยิงอาวุธสงครามเข้ามา ทำให้เราไม่จำเป็นต้องตอบโต้ด้วยอาวุธกลับไปเกินความจำเป็น ” โฆษกศอฉ. กล่าว

 พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ส่วนการกระชับวงล้อมในวันนี้อาจเป็นไปได้ว่า กลุ่มก่อการร้ายในพื้นที่จะเคลื่อนที่เข้าปะทะเจ้าหน้าที่ ดังนั้นเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนหลักสากลจากเบาไปหาหนัก 7 ขั้นตอน และมีการใช้อาวุธกระสุนจริงด้วย เมื่อท่านพยายามเคลื่อนที่เข้ามา ขอให้หยุดแล้ว แต่ยังไม่หยุด ต้องมีความจำเป็นต้องใช้กระสุนยางที่ยิงจากปืนลูกซอง หากยังเข้ามาอีก เราไม่สามารถปล่อยให้เกิดเหตุการณ์อย่างที่ผ่านมาได้ คือ มีการบุกยึดอาวุธ รถยานพาหนะของเจ้าหน้าที่ และมีโอกาสนำไปก่อเหตุร้ายได้ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องใช้ปืนลูกซอง กระสุนจริงในการยิงสกัดไม่ให้ท่านเข้ามา แต่การยิงสามารถพิสูจน์ได้ว่า เราไม่ต้องการมุ่งทำร้ายเอาชีวิตประชาชน ท่าทางการยิง ตำบลกระสุน กรวยกระสุน จะแสดงออกชัดเจนว่า ไม่ต้องการทำร้ายถึงชีวิต แต่ต้องการหยุดยั้งการปฏิบัติที่ผิดกฎหมาย และการพยายามขึ้งตัวเจ้าหน้าที่

 “ ในส่วนปืนเล็กยาวที่มีอยู่ เช่น ปืนทราโว่ เอ็ม 16 จะใช้ใน 3 กรณี 1.การยิงข่มขวัญขึ้นฟ้า 2.ยิงเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายโดยหมายเอาชีวิต ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ 3. ยิงไปยังบุคคลที่มีอาวุธอยู่ในมือไม่ว่ายจะเป็นปืน ลูกระเบิด นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่ง คือ พลแม่นปืน ทำหน้าที่ในการระวังป้องกัน และใช้ยิงผู้ก่อการร้ายที่มีอาวุธ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จะไม่มีอาวุธหนักอื่นนอกจานี้  โดยจะไม่มีการใช้ลูกระเบิดขว้าง ระเบิดเอ็ม 79 หรือปืนที่นอกเหนือไปจากนี้ เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งการยิงของเจ้าหน้าที่เป็นการยิงทีละนัด ไม่ได้ยิงแบบอัตโนมัติ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการดำเนินการในกรณีที่เจ้าหน้าที่มีการกดดันพื้นที่ และผู้ชุมนุมพยายามเข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่ การดำเนินการนี้ไม่ได้หมายรวมถึงการขอพื้นที่คืนที่แยกราชประสงค์”พ.อ.สรรเสริญ กล่าว

สนง.รอบราชประสงค์ปิดให้พนักงานกลับบ้านแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 15.30 น.สำนักงานต่าง ๆ รอบราชประสงค์ปิดให้พนักงานกลับบ้านได้ อย่างเช่นพนักงานกว่า 3 พันคนที่ตึกจามจุรี พนักงานของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการออกอากาศ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลมและบริษัทแถวราชประสงค์ก็เริ่มปล่อยพนักงานกลับบ้านพร้อมประกาศปิดทำการในวันพรุ่งนี้

ขณะที่ทาง DTAC - AIS พร้อมตัดสัญญาณมือถือแยกราชประสงค์ทันที หากได้รับคำสั่งจากรัฐบาล ซึ่ง ศาลได้อนุญาตตามคำร้องของ ศอฉ.ขอตัดสัญญาณมือถือได้ครั้งละ 6 ชม.ต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 18.40น.นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.ได้ประกาศบนเวทีว่า ขณะนี้สัญญาณโทรศัพท์ได้ถูกตัดแล้ว

แบงก์-ห้างปิดหนีม็อบหวั่นรุนแรง

ธนาคารไทยพาณิชย์ เลื่อนเวลาปิดให้บริการ 4 สาขา วันนี้ ได้แก่ สาขาคาร์ฟูร์ พระราม 4, โลตัส พระราม 4, เซ็นทรัล พระราม 3, โลตัส พระราม 3 ปิดให้บริการ ในเวลา 16.00 น. ขณะที่ศูนย์การค้ามาบุญครองเซ็นเตอร์ แจ้งลูกค้าปิดให้บริการในเวลา 18.00 น. ส่วนในวันพรุ่งนี้เปิดบริการตามปกติ นอกจากนี้ศูนย์การค้าแพลตตินั่ม ประตูน้ำ ประกาศปิดให้บริการในเวลา 17.00 น.วันนี้ และต่อเนื่องไปจนถึงวันพรุ่งนี้

ไพศาลเตือนรัฐอย่าส่งทหารไปตายซ้ำคืนนี้อาจถูกโจมตี

นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้กล่าวกับสื่อมวลชนเตือนรัฐบาลและ ศอฉ. ในกรณีส่งกำลังรถทหารกดดันปิดล้อมการชุมนุมตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันนี้ ว่าอย่าประมาท และต้องระมัดระวังอย่าส่งทหารไปตายซ้ำอีก เพราะคืนนี้อาจถูกโจมตีก่อนและจะเสียขบวน
นายไพศาล กล่าวว่าจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 รัฐบาลและกองทัพ ตลอดจนประชาชนสูญเสียมาก เพราะประเมินต่ำไป การมาพูดทีหลังว่านึกไม่ถึงหรือคาดไม่ถึงไม่สามารถแก้ไขความเสียหายได้ คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน หากประมาทหรือคาดการณ์ไม่พอเพียง ก็อาจจะเสียหายซ้ำอีกครั้งหนึ่ง     

นายไพศาล กล่าวว่าจากการติดตามข่าวสารที่รายงานผ่านสื่อมวลชนในขณะนี้รัฐบาลได้ใช้กำลังทหารและเครื่องไม้เครื่องมือในลักษณะปิดล้อมกดดัน โดยยังไม่แน่ว่าจะมีการสลายหรือไม่ มีการขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่ปิดกิจการและหยุดงานตั้งแต่บ่ายวันนี้ถึงวันพรุ่งนี้ ปิดการจราจร และจะตัดน้ำ ตัดไฟ ปิดสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งคล้ายกับจะเป็นสงครามเต็มรูปแบบอยู่แล้ว ในขณะเดียวกัน อีกฝ่ายหนึ่งก็มีการระดมกำลังพลและเตรียมการด้านอาวุธยุทโธปกรณ์พร้อมตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และเมื่อ ศอฉ. ประกาศกดดันก็มีการประกาศระดมคนให้มาปิดล้อมตลบหลังทหาร คงมุ่งหมายจะยึดรถถัง จับทหาร และยึดอาวุธเหมือนเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถ้าเกิดเหตุซ้ำ รัฐบาลและประเทศไทยก็คงไปไม่รอดแน่นอนแล้ว ดังนั้นคราวนี้รัฐบาลและ ศอฉ. จะดูเบาหรือประมาทแก่การไม่ได้เป็นอันขาด

นายไพศาล กล่าวอีกว่าการปิดล้อมกดดันคงไม่ทำให้ยุติการชุมนุมได้ ดังนั้นกรณีน่าจะเป็นการเดินจังหวะก้าว 3 จังหวะ คือปิดล้อมกดดัน แยกน้ำ จับปลา และกวาดอวน ซึ่งถ้าดูลีลารัฐบาลก็อาจจะใช้เวลาตั้งแต่คืนวันนี้ไปตลอดเสาร์หรืออาทิตย์นี้

นายไพศาล  กล่าวอีกว่ารัฐบาลอาจทำงานลุล่วงถ้าหากสามารถสกัดการระดมคนเข้ามาปิดล้อมตลบหลังทหารที่ตั้งด่านปิดล้อมอยู่ และสามารถดูแลพื้นที่ด้านนอกที่อาจมีการก่อวินาศกรรมเพื่อดึงกำลังเจ้าหน้าที่ให้ออกไประงับเหตุ แต่ในขณะเดียวกันถ้าหากพิจารณาจากกระบวนท่าและเชิงยุทธ์ของอีกฝ่ายหนึ่งแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการเปิดฉากโจมตีเจ้าหน้าที่ของรัฐตั้งแต่คืนวันนี้ เพื่อทำให้เสียขบวน และถ้าหากประเมินจากข่าวที่ปรากฏตามสื่อมาโดยลำดับ ก็ต้องระมัดระวังอาวุธหนักไว้ด้วยว่าถ้าเกิดมีการใช้อาวุธหนักยิงเจ้าหน้าที่ จะรับมืออย่างไร จะรับหรือจะรุกอย่างไร เพราะที่ผ่านมานั้นก็ได้เห็นกระบวนท่ามาแล้ว ว่าอีกฝ่ายมีหน่วยปฏิบัติการทำลายศูนย์บัญชาการหรือเจ้าหน้าที่ระดับบัญชาการของรัฐบาล ประสานกับงานมวลชน และอาจมีการระดมมวลชนเข้ามา ซึ่งขณะนี้ก็ระดมกันอยู่ ดังนั้นถ้ามีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นจะระงับเหตุให้ทันท่วงทีไม่ให้ยื้อเยื้อบานปลายได้อย่างไร

นายไพศาล  กล่าวอีกว่าเมื่อบ่ายวันนี้แกนนำเสื้อแดงได้ประกาศแผนรับมือทุกด่าน วางจุดหนักทางด่านสวนลุม สีลม ในขณะที่ด่านอื่นๆ บอกว่าแค่ดูแลสถานการณ์ป้องกันมิให้มีการรุกเข้าไปสลายการชุมนุม ก็เพราะว่าด่านด้านถนนพระราม 4 ทั้งหมดเป็นเหมือนปากขวดของยุทธภูมิราชประสงค์ หากถูกปิดหรือถูกยึดก็เหมือนถูกปิดปากขวด และตรงจุดนี้น่าจะเป็นจุดแตกหัก

นายไพศาล กล่าวอีกว่าขณะนี้มีการเตรียมระดมกำลังคนจากฐานมวลชนรอบนอกกรุงเทพฯ 3 ฐาน คือจากปากน้ำ จากคลอง 4 ลำลูกกา ปทุมธานี และจากนนทบุรี-อยุธยา ซึ่งสามารถเคลื่อนตัวได้เร็วในระยะเวลาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ ศอฉ.คงจะมีแผนสกัดกั้นไว้แล้ว
นายไพศาล กล่าวอีกว่าสถานการณ์ตอนนี้แผนปรองดองคงเป็นโรดม้วยไปเรียบร้อยแล้ว สถานการณ์ตึงเครียดที่มีลักษณะการทหารนำของทั้งสองฝ่ายกำลังเข้ามาแทนที่ ซึ่งนับว่าเป็นเหตุการณ์น่าระทึกใจ

http://www.komchadluek.net/detail/20100513/58901/เสธ.แดงถูกยิงเข้าศีรษะอาการสาหัส.html

ผอ.ศูนย์เอราวัณ ยืนยัน “เสธ.แดง” ถูกยิงจริง กำลังกู้ชีพ
13 พค. 2553 20:07 น.

นพ.เพรชพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร เปิดเผยกับรายการเก็บตกจากเนชั่น ว่า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ถูกยิงที่ศีรษะจริง ขณะนี้กำลังช่วยชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลหัวเฉียว ขณะนี้ไม่รู้สึกตัว โดยผู้ที่อยู่ในบริเวณชุมนุมเป็นผู้นำมาส่งโรงพยาบาล

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=447884
   

      บันทึกการเข้า
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2009 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 21:16:13 »

เหยง ชิดลมปิดเมื่อวาน หลังจากทนทู่ซี้เปิด เพราะบังเกอร์ ไม่คร่อมชิดลมด้วย

แต่เขาบอกว่าเริ่มปิดเมื่อวานตอนสองทุ่ม และจะปิดจนกว่าสถานการณ์จะสงบ

 พี่แอ๊ะเลย อ๋อ... เเสดงว่าเมื่อคืนเขาเริ่มปราบเเน่นอน


เหยง พี่เเอ๊ะเสี่ยงตายไปซื้อของขวัญเป็น ที่นอน และผ้าปู ผ้าห่ม ชุดเครื่องนอน hall mark

ให้ พรเทพ

เขาขึ้นบ้านใหม่ พี่แอ๊ะอยากให้เขาใช้ ของไฮโซบ้าง เพราะเค้านอน พื้นธรรมดา ทั้งที่บ้านสวยมากกกกกกกก


โชคดี เขาลดราคาให้ช่วงนี้ 50 % ค่ะ
ไม่งั้นจะแพงมากกกกกกกก
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2010 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 21:28:50 »

พี่แอ๊ะครับ

ให้ท่านผู้พิพากษาอยู่อย่างสมถะและเรียบง่ายเถอะครับ เพื่อให้เป็นแบบอย่างกับรุ่นหลังๆ ที่พร้อมจะไปปฏิบัติหน้าที่

ในทุกๆพื้นที่ของประเทศไทยได้เสมอและตลอดเวลา บ้านพักของผู้พิพากษามีทั้งแบบอายุ 100 ปี ที่สร้างด้วยไม้

แบบเป็นบ้านตึก 2 ชั้น และปัจจุบันจะสร้างเป็นแบบอพาร์ตเม้นท์กันแล้ว สำหรับศาลอุทธรณ์ภาค ที่ตั้งใหม่


ท่านพรเทพ ยังต้องย้ายไปอีกหลายศาล-หลายจังหวัดครับ โดยเฉพาะการขึ้นเป็นหัวหน้าศาลฯ และต่อไปยังศาลอุทธรณ์


ในส่วนของการเตรียมพร้อมด้วยการนำรถหุ้มเกราะ เข้าคุมพื้นที่ คิดว่า ศอฉ จะเริ่มงานวันพรุ่งนี้ครับ

แต่เมื่อเกิดเรื่องกับ เสธ.แดง ขึ้นเมื่อค่ำที่ผ่านมานี้ อะไร..ก็คงจะง่ายขึ้น


แต่ก็ยังไม่แน่นอน..อย่าเพิ่งวางใจครับ!! ?? โดยเแพาะในคืนนี้
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #2011 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 21:53:11 »

แมวน้อยนักแม่นปืน .. Kitten Sniper       บ่ฮู้บ่หัน


      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2012 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 21:54:35 »

ข่าวชุดที่ 3 นาทีต่อนาที

หมอมาลินี เผย”เสธ.แดง” ถูกยิง 2 นัดที่หัว
13 พค. 2553 21:23 น.

พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ขณะนี้แพทย์จาก กทม.ได้ประสานไปยังแพทย์ ร.พ.หัวเฉียว ทราบว่า ขณะนี้แพทย์กำลังให้การรักษา พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก โดยนำเข้าผ่าตัดที่ห้องไอซียู ทราบว่าขณะนี้ได้มีการใส่ท่อหายใจและไม่รู้สึกตัว โดยหัวใจยังคงเต้นอยู่ แพทย์จึงยังไม่สามารถประกาศได้ว่า พล.ต.ขัตติยะ ได้เสียชีวิตแล้ว เพราะการจะประกาศเสียชีวิตได้คนไข้จะต้องหยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น และสมองหยุดทำงาน ทั้งนี้จากการติดตามทราบว่า พล.ต.ขัตติยะ ถูกยิงที่ศีรษะจำนวน 2 นัด โดย 1 นัดเข้าที่บริเวณท้ายทอย อีก 1 นัด ยังไม่ชัดเจนเบื้องต้นทราบว่าเกิดจากการถูกลอบยิง เพราะ กทม.ไม่ได้รักษากับมือ จะต้องรอ ร.พ.หัวเฉียว เป็นผู้ยืนยันข่าวที่ชัดเจนอีกครั้ง ขณะที่ ร.พ.ของ กทม. ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บเข้ารับการรักษาแต่อย่างใด

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า สำหรับ กทม.ได้เตรียมความพร้อมในการให้การรักษาผู้บาดเจ็บที่อาจจะเกิดจากเหตุการณ์ความไม่สงบ โดยมีการประสานระหว่าง ร.พ.ของ กทม.กับ ร.พ.ที่ตั้งอยู่บริเวณโดยรอบพื้นที่การชุมนุมทั้งหมด ซึ่งขณะนี้มีเตียงที่พร้อมรองรับผู้บาดเจ็บจำนวน 700 เตียง และห้องผ่าตัดอีกจำนวนมาก รวมทั้งมีรถพยาบาลอีก 70 คัน เตรียมพร้อมรับสถานการณ์
 
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=447887&lang=T&cat=


นปช. แจงรัฐบาล นปช. ยังต้องการปรองดอง
13 พค. 2553 21:27 น.

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. แถลงว่าคนเสื้อแดงยืนยันว่าจะปักหลักสู้อยู่ที่ราชประสงค์ด้วยสันติวิธีและพร้อมจะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่ารัฐบาลจะนำอาวุธหรือรถถังออกมา ซึ่ง เป็นเรื่องธรรมดาของการต่อสู้ แต่ นปช. ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้คนเสื้อแดงยังไม่ปฏิเสธมาตรการปรองดองแห่งชาติ ส่วนรัฐบาลจะแสดงท่าทีต่อมาตรการปรองดองอย่างไรนั้น ก็เป็นเรื่องของทางรัฐบาลที่จะทำ นอกจากคนเสื้อแดงจะปักหลักในที่ตั้งแล้วจะมีการประสานไปยังองค์กรคนเสื้อแดงทั่วประเทศ เพื่อกำหนดมาตรการที่เคลื่อนไหวตอบโต้ โดยสันติวิธีทันทีหากรัฐบาลใช้กำลังสลายการชุมนุมที่เวทีราชประสงค์

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมนายกฯ ตัดสินใจเลือกสงคราม แทนสันติภาพ ทั้งที่แนวทาง นปช. ยืนยันต้องการสร้างสันติภาพในประเทศไทย ดังนั้นหากนายกฯ ต้องการเพิ่มจำนวนศพประชาชน แทนระดับความสงบในบ้านเมือง เป็นเรื่องที่นายกฯ ต้องตัดสินใจ แต่คนเสื้อแดงจะไม่มีทางออกจากพื้นที่ราชประสงค์เพราะการกดดันของรัฐบาล และไม่ถอยหลังกับความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด การ์ดและประชาชนที่ร่วมชุมนุมทั่วประเทศพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพของคนเสื้อแดง ส่วนสื่อมวลชนในและต่างประเทศคนเสื้อแดงพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้ หากพบว่ามีการคุกคามข่มขู่จากคนเสื้อแดงขอให้แจ้งกับแกนนำเพื่อจัดการ

นอกจากนี้ เลขาธิการ นปช. กล่าวเรียกร้องด้วยว่าหากนายอภิสิทธิ์มีความจริงใจในการปรองดอง ขอให้ไปตบปากนายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรค ที่ระบุถึงอนาคตลูกของตนว่าจะหิ้วปิ่นโตไปเยี่ยมตนในคุก หรือไม่ก็จะกำพร้าพ่อไปตลอดชีวิตเพราะจุดจบของตนไม่ติดคุกก็ตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ชั่ว และเลวทรามมาก เพราะลูกของตนเป็นผู้บริสุทธิ์ อย่าพาดพิงถึง แต่จะว่าตนชั่วอย่างไรก็ได้ ทั้งนี้การต่อสู้ที่ผ่านมาตนไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับพ่อนายเทพไทเลย และหากนายเทพไทมีปัญหาจะเจอกับตนเมื่อไร ที่ไหนก็ได้
 
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=447888&lang=T&cat=

แกนนำ นปช.ตึงเครียดหลังข่าวเสธ.แดง ถูกยิง
13 พค. 2553 21:28 น.

แกนนำนปช. ตึงเครียดหารืออยู่หลังเวที หลังมีข่าว พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เสธ.แดง ถูกยิง ล่าสุด 20.18 น. ยังไม่มีแกนนำคนไหนขึ้นเวที และไม่มีการประกาศว่า เสธ.แดงถูกยิงให้ผู้ชุมนุมทราบ แต่ผู้ชุมนุมบางส่วนทราบจากการบอกเล่าและค่อนข้างตกใจ แต่ก็มีการสร้างความฮึกเหิมขึ้นให้กับผู้ชุมนุม
 
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=447889&lang=T&cat=
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #2013 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 21:57:31 »




fw เมล์ ..
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2014 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 22:09:11 »

ข่าวอีกแง่มุมหนึ่งของ ASTV-ผู้จัดการ ออนไลน์

เผย “เสธ.แดง” ถูกยิงข้างสวนลุมฯ แพทย์ยังยื้อชีวิต-เตรียมย้ายไป “ราชวิถี”
13 พฤษภาคม 2553 21:15 น.

                                        
 
       เผยจุด “เสธ.แดง” ถูกยิง ข้างสวนลุมฯ ด้าน รพ.จุฬาฯ ขณะให้สัมภาษณ์นักข่าวญี่ปุ่น คาดยิงมาจากสะพานลอย หรือตึกสูงบนถนนพระราม 4 เป้าหมายที่ เสธ.จอมซ่าคนเดียว ล่าสุดแพทย์ยังยื้อชีวิต เตรียมย้ายไป รพ.ราชวิถี
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 ใกล้แยกศาลาแดง ซึ่งทำให้ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกที่ถูกสั่งพักราชการ ได้รับบาดเจ็บสาหัสว่า เสธ.แดงถูกยิงขณะให้สัมภาษณ์นักข่าวญี่ปุ่นที่ข้างสวนลุมพินี ด้าน รพ.จุฬาฯ ใกล้แยกศาลาแดง โดยขณะนั้นมีระเบิดและเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด และมีผู้เห็น เสธ.แดงล้มลง มีเลือดไหลออกจากศีรษะ หลังจากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด
      
       ทั้งนี้ คาดว่ามือปืนน่าจะยิงออกมาจากสะพานลอย หรือตึกสูงริมถนนพระราม 4 โดยเป้าหมายน่าจะอยู่ที่ เสธ.แดงเพียงคนเดียว เพราะคนอื่นๆ ที่อยู่บริเวณนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง และเชื่อว่าจุดประสงค์ของการยิง เสธ.แดงน่าจะเพื่อเป็นการปลุกเร้าให้ผู้ชุมนุมเกิดความโกรธแค้นและมาร่วมชุมนุมกันมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาหากมีเหตุการณ์รุนแรงก็จะสามารถระดมคนเข้ามาร่วมได้เป็นจำนวนมาก
      
       สำหรับอาการล่าสุดของเสธ.แดง ที่ห้องไอซียูของ รพ.หัวเฉียว แพทย์ได้ช่วยปั๊มหัวใจของเสธ.แดงเพื่อยื้อชีวิต และอยู่ระหว่างรอดูการ และคาดว่าอาจมีการย้ายไปรักษาตัวที่ รพ.ราชวิถีที่มีความพร้อมของหมอและอุปกรณ์ทางการแพทย์มากกว่า
      
       นอกจากนี้ มีรายงานว่าคนเสื้อแดงประมาณ 200 คนได้เดินทางไปที่ รพ.หัวเฉียว โดยอ้างว่าเพื่อขอเข้าไปดูอาการของเสธ.แดง แต่เมื่อถูกกันให้อยู่ข้างนอก คนเสื้อแดงเหล่านี้ได้ด่าทอเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา

 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000066225
 
      บันทึกการเข้า
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2015 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2553, 07:14:55 »

ตอนนี้ไป อยู่ร.พ วชิระแล้วค่ะ

เข้าใจว่าผ่าตัดเอากระสุนออกแล้ว

ความดันยังไม่ขึ้นต้องใช้ยาช่วย

คงได้เป็น "นายพลนิทรา"
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
อ้อย 14
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,055

« ตอบ #2016 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2553, 07:19:15 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 13 พฤษภาคม 2553, 21:57:31



fw เมล์ ..

ชอบจริงๆน้องหะยี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2017 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2553, 11:38:02 »

ตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยให้ปชช.สะดวกในกระบวนการยุติธรรม
14 พฤษภาคม 2553 10:49 น.

                                 

       ในวันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม 2553 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ จะเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และเปิดอาคารที่ทำการศาลจังหวัดเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
       
       ศาลจังหวัดเกาะสมุย จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลจังหวัดที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. 2539 โดยอาคารที่ทำการศาลจังหวัดเกาะสมุยก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนเมษายน 2549 เป็นอาคารสูง 4 ชั้น มีห้องพิจารณาคดี 8 ห้อง และเปิดทำการให้บริการประชาชนตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2549 เป็นต้นมา
       
       ศาลจังหวัดเกาะสมุย มีเขตอำนาจในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีที่เกิดขึ้นในเขตท้องที่อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน ซึ่งแต่เดิมเป็นท้องที่ที่อยู่ในเขตอำนาจของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี นอกจากศาลจังหวัดเกาะสมุยจะมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งและคดีอาญาทั้งปวงแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้มีคดีเยาวชนและครอบครัว ประธานศาลฎีกาจึงได้มีคำสั่งให้ผู้พิพากษาในศาลจังหวัดเกาะสมุยช่วยทำงานในการพิจารณาพิพากษาคดีเยาวชนและครอบครัวที่เกิดขึ้นในท้องที่อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงันด้วย
       
       การจัดตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยนั้นมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในท้องที่ดังกล่าว ให้ได้รับความยุติธรรมจากศาลโดยทั่วถึงกัน เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ของอำเภอทั้งสองมีลักษณะเป็นเกาะที่ห่างไกลจากตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีค่อนข้างมาก โดยต้องอาศัยการเดินทางทางเรือเป็นหลัก และระยะทางจากท่าเรือมายังศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีก็เป็นระยะทางที่ค่อนข้างไกล หากเป็นช่วงเวลาที่ไม่สามารถเดินทางโดยทางเรือได้ย่อมก่อให้เกิดผลกระทบต่อคู่ความหลายประการ เช่น ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น อันมีผลกระทบต่อสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยง่าย สะดวก รวดเร็วและทั่วถึงของประชาชน ตามที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
       
       นอกจากการคำนึงถึงสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของประชาชนแล้ว ก็ต้องคำนึงถึงสิทธิของผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากการควบคุมตัวผู้ต้องหามาฝากขังต่อศาลที่ต้องอาศัยการเดินทางทางเรือเป็นหลัก และมีความจำเป็นต้องใส่กุญแจมือเพื่อป้องกันมิให้ผู้ต้องหาหลบหนี หากเกิดอุบัติเหตุทางเรืออาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ต้องหาเพราะไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ถ้าไม่ใส่กุญแจมือก็อาจเป็นช่องทางให้ผู้ต้องหาหลบหนี หรือเกิดกรณีแย่งชิงตัวผู้ต้องหาขึ้นได้ หรือหากมีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหามาฝากขังต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ ก็อาจมีผลให้เจ้าพนักงานควบคุมตัวผู้ต้องหาเกินอำนาจที่มีอยู่ การจัดตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยจึงเป็นช่องทางหนึ่งเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
       
       ทั้งนี้ เมื่อนำเอาข้อเท็จจริงจากสภาพความเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงันมาประกอบในการพิจารณาจัดตั้งศาลเกาะสมุย จะเห็นได้ว่าการที่มีปริมาณนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางเข้าไปในพื้นที่เพิ่มขึ้น ปัญหาความขัดแย้ง และปริมาณอาชญากรรมก็เพิ่มขึ้นด้วย ดังปรากฏจากสถิติคดีตั้งแต่มกราคม ถึง ธันวาคม พ.ศ. 2552 ที่มีการฟ้องคดีอาญา 1,631 คดี คดีแพ่ง 296 คดี และคดีผู้บริโภค 595 คดี รวมคดีที่ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดเกาะสมุยในปี พ.ศ. 2552 ทั้งสิ้น 2,522 คดี ทั้งที่อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน มีพื้นที่โดยประมาณเพียง 252 ตารางกิโลเมตร และ 193 ตารางกิโลเมตร ตามลำดับ
       
       จากการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ การจัดตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยขึ้น ยังมีประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาที่นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้รับความคุ้มครองในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ เพราะเหตุเรื่องการคมนาคมที่จะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปศาล หรือ กรณีที่ผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติและต้องเดินทางออกนอกประเทศ พนักงานอัยการต้องร้องขอต่อศาลให้มีการสืบพยานไว้ก่อนฟ้องคดี การเดินทางไปศาลในจังหวัดสุราษฎร์ธานี อาจเนิ่นช้าไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงที มีผลให้ผู้เสียหายไม่ได้รับความคุ้มครองตามกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมได้
       
       ดังนั้น ในการจัดตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยขึ้น จึงมีวัตถุประสงค์หลักเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลจาก พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ปริมาณคดี ระยะทางและความสะดวกเกี่ยวกับการเดินทางมาศาลของประชาชน ให้สมดังนโยบายของศาลยุติธรรมในการเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนและสังคมด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรมและทั่วถึง
       
       โดยนายสราวุธ เบญจกุล
       รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม
       

 
 
 
พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000066388
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2018 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2553, 11:45:31 »

บทบรรณาธิการ นสพ. แนวหน้า ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม 2553 ซึ่งน่าจะเขียนไว้ก่อนที่ เสธ.แดง ถูกยิง

บทบรรณาธิการ 
 
นปช. คือตะกวด แต่หลงคิดว่าตนคือสิงห์ (บทบรรณาธิการ) 
 
 
      เป็นเวลายาวนานกว่าสองเดือนแล้วที่กลุ่มแกนนำ นปช. หรือขบวนการนักพูดปดแห่งชาติ ผู้ซึ่งคลั่งไคล้ในระบอบทักษิณ ชินวัตร จงใจทำลายความสงบสุข ความน่าเชื่อถือ และเกียรติภูมิของประเทศไทยจนแหลกสลายไม่มีชิ้นดี

      เท่านั้นยังไม่พอ คนกลุ่มนี้ ยังจงใจทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศพังทลายอีกด้วย เพราะหลงเชื่อว่า การบุกยึดเขตเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ ณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ คือ กรรมวิธีหนึ่งที่จะทำให้วงจรเศรษฐกิจไทยหยุดชะงักและต้องเผชิญกับความหายนะในที่สุด

       แกนนำ นปช. ใช้กรรมวิธีที่ไร้อารยะและไร้ศีลธรรมทุกรูปแบบสร้างกระแสกดดันทางการเมือง เพราะต้องการโค้นล้มรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยไม่คิดคำนึงถึงผลกระทบอันเลวร้ายที่จะเกิดตามมากับประชาชนและประเทศชาติ

      แม้แกนนำกลุ่มผู้สนับสนุนระบอบทักษิณจะพูดปดตลอดเวลาว่า กลุ่มของตนยึดมั่นในหลักอหิงสา ประท้วงด้วยความสงบและสันติ แต่ความจริงที่ปรากฏก็คือ คนกลุ่มนี้ใช้ความรุนแรงสารพัดรูปแบบตลอดเวลา อาทิ ใช้วาจาที่รุนแรง และใช้การกระทำที่รุนแรง โดยมุ่งหวังให้บ้านเมืองเกิดเหตุมิคสัญญีกลียุคให้จงได้

      ธาตุแท้ส่วนลึกของแกนนำ นปช. คือ ความขี้ขลาด ความเห็นแก่ตัว และไม่เคยคิดคำนึงถึงผลประโยชน์แห่งชาติ และประชาชน และคงไม่ใช่เรื่องเกินเลยไป หากสังคมจะประณามว่า แกนนำ นปช. คือ ผู้ที่ก่อเหตุจลาจลป่วนบ้านป่วนเมืองเพื่อแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัว และคงจะเป็นความจริงที่ว่า ยิ่งแกนนำ นปช. ก่อเหตุจลาจล ก็ยิ่งร่ำรวยมั่งคั่งอย่างทันตาเห็น

      และแล้ววันนี้ สังคมโลกก็ตระหนักชัดแล้วว่า แกนนำ นปช. คือพวกขี้ขลาดตาขาว ไม่มีความกล้าหาญทางจริยธรรม ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เพราะแกนนำ นปช. อาศัยโล่มนุษย์ผู้บริสุทธิ์ เป็นเกราะกำบังให้ตนเองรอดพ้นจากภยันตรายทั้งปวง

      แกนนำ นปช. เสแสร้งโดยทำเป็นอ้างว่า ไม่ต้องการให้มีการนิรโทษกรรมให้กับพรรคพวกของตนแต่อย่างใด แถมยังยินดีจะไปต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาล

      แต่จนแล้วจนรอด ขบวนการนักพูดปด ผู้ปราศจากศีลธรรมและจรรยาบรรณกลุ่มนี้ ก็ยังคงไม่กล้าไปต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรม แถมยังทำอาการโยกโย้และสร้างข้อต่อรองรายวันอีกสารพัดแบบออกมาเป็นระยะ เพียงเพื่อใช้เป็นข้ออ้างให้ตนเองไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

      ถ้าหากแกนนำ นปช. ยังคงตระหนักว่า ตนเองยังมีความเป็นมนุษย์ผู้กล้าหาญหลงเหลืออยู่บ้าง ก็จะต้องกล้าเผชิญกับผลกรรมที่พวกตนจงใจก่อไว้ และจะต้องยุติการกระทำที่สุดแสนขี้ขลาดตาขาว ซึ่งก็คือ การยึดเอาเด็กน้อยและคนแก่ไว้เป็นโล่มนุษย์เพื่อป้องกันภัยให้ตนเอง

      ขอย้ำว่า นักรบที่แท้จริง ไม่มีนิสัยลอบกัด และที่สำคัญคือ จะไม่หลบอยู่ข้างหลังเด็กและคนแก่เป็นอันขาด และที่สำคัญคือ นักรบต้องมีหัวใจสิงห์ มิใช่มีนิสัยและหัวใจเหมือนตะกวด 
 
วันที่ 14/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=210983
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2019 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2553, 11:53:04 »

วันนี้ นสพ.ไทยโพสต์ ในตลาดนครสวรรค์ ขายหมดเกลี้ยงเลย ยังดีที่ร้านประจำเก็บไว้ให้เช่นเดิม

อ่านบทบรรณาธิการ นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์ ของวันนี้ ซึ่งยังไม่มีการพูดถึง เสธ.แดง ถูกยิงในช่วง 1 ทุ่มเศษของเมื่อคืนที่ผ่านมา

ขอให้ทุกอย่างยุติลงด้วยดี
บทบรรณาธิการ 14 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      ยากที่จะตอบได้ว่าสุดท้ายสถานการณ์การเมืองจากนี้จะเป็นอย่างไร  หลังจากมีท่าทีของฝ่ายศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ตลอดทั้งวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม 2553 ที่ประกาศว่าจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดจากเบาไปหาหนักในการขอคืนพื้นที่จากคนเสื้อแดงที่สี่แยกราชประสงค์ หรือที่เรียกกันเข้าใจง่ายๆ ว่า การสลายการชุมนุม

     เช่น การส่งรถหุ้มเกราะของทหารเข้าปิดล้อมพื้นที่เข้าออกบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ก็มีข่าวว่าเป็นรถสายพานลำเลียงพลรวมจำนวน 52 คัน แบ่งเป็นจากหน่วยกองพันทหารม้าที่ 1 (ม.พัน 1) จำนวน 20 คัน กองพันทหารม้าที่ 3 (ม.พัน 3) จำนวน 20 คัน และ กองร้อยปืน ค. กรมทหารพันทหารม้าที่ 1 อีก 12 คัน ซึ่งสาเหตุที่กองทัพใช้รถประเภทนี้ เพราะเห็นว่าสามารถป้องกันจรวดอาร์พีจี และเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ได้ หากว่ามีมือที่สามหรือถูกตอบโต้จากฝ่ายคนเสื้อแดง
 
     นอกจากนี้ ยังจะมีการใช้มาตรการจำกัดการเข้าออกบริเวณพื้นที่การชุมนุมโดยมีเป้าหมายคือ ต้องการไม่ให้มีคนเข้าร่วมชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ และพยายามให้คนออกจากพื้นที่การชุมนุมให้มากและเร็วที่สุด รวมถึงการประกาศว่าจะให้กองกำลังทหารสามารถใช้อาวุธจริงได้หากมีความจำเป็นเพื่อควบคุมสถานการณ์ ซึ่งหลังคำประกาศดังกล่าวของ ศอฉ. ได้ทำให้สถานการณ์การชุมนุมที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ตึงเครียดขึ้นอย่างมากจนเห็นได้ชัด

     อาทิ ท่าทีของแกนนำ นปช. ที่ขึ้นเวทีปราศัยปลุกเร้าและเชิญชวนให้ประชาชนคนเสื้อแดงจากทั่วประเทศรีบออกจากบ้านเพื่อมาร่วมชุมนุมกันที่สี่แยกราชประสงค์ให้เร็วที่สุด โดยมีการย้ำว่ารัฐบาลกำลังจะเข้าสลายการชุมนุมแล้ว จึงต้องการให้คนเสื้อแดงออกมารวมกันเพื่อป้องกันไม่ให้ทหารเข้าสลายการชุมนุม นอกจากนี้ บริษัทที่ทำการรถไฟลอยฟ้าก็ได้ประกาศจะไม่หยุดจอดในสี่สถานีบริเวณใกล้จุดชุมนุม เช่น สยาม ราชดำริ

     ขณะที่ฝ่ายประชาชนโดยเฉพาะที่ทำงานในบริเวณใกล้เคียงกับจุดชุมนุม เช่น ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร โรงแรม บริษัทห้างร้าน ได้พากันรีบปิดทำการเร็วกว่าปกติหลายชั่วโมง และมีการสั่งกำชับให้รีบเดินทางกลับบ้านโดยเร็วที่สุด เพราะเกรงจะได้รับผลกระทบในการดำเนินชีวิตโดยเฉพาะความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงทำให้สภาพการณ์การดำเนินชีวิตของคนกรุงเทพมหานคร ทั้งการคมนาคม การใช้ชีวิต มีความสับสนวุ่นวายไม่น้อย

     ด้านท่าทีฝ่ายต่างๆ ก็มีการเตรียมการกันหลายส่วน อาทิ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. ได้กำชับสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจค้น สกัดกั้นไม่ให้กลุ่มคนเข้ามาร่วมชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนสามารถติดอาวุธเพื่อป้องกันกลุ่มมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ พร้อมกันนี้ยังได้ระดมกำลังตำรวจในทุกพื้นที่ตั้งด่านตรวจค้นจับกุมอาวุธปืน อาวุธสงคราม และอุปกรณ์ไม้เหล็ก ของกลุ่มคนที่นำมาใช้ในการชุมนุมเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง 

     ทั้งหมดทำให้สถานการณ์การเมืองมาถึงจุดตึงเครียดทันที บนความหวั่นใจของประชาชนคนไทยทั่วประเทศว่าขอให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี อย่าได้ให้มีการสูญเสียใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายประชาชนคนเสื้อแดง ประชาชนธรรมดาที่ไม่ได้เคลื่อนไหวในนามคนเสื้อแดง รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งทหาร ตำรวจ และสื่อมวลชน ที่เข้าทำหน้าที่ของตนเองในบริเวณดังกล่าว

     เราจึงได้แต่หวังว่า ทุกอย่างจะดำเนินไปด้วยดี อย่าได้มีความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น อย่าได้มีความสูญเสียไม่ว่ากับฝ่ายไหนก็ตาม เพราะไม่ว่าอย่างไรทุกคนก็เป็นคนไทยด้วยกันเอง เพียงแต่มีความความคิดเห็นทางการเมืองที่ขัดแย้งกันไม่ตรงกันเท่านั้น แม้หลายคนจะบอกว่าสถานการณ์ตอนนี้ไปไกลเกินกว่าจะยุติลงได้ง่ายๆ แต่เราก็ได้แต่หวังว่า ทุกอย่างจะยุติได้โดยปราศจากความสูญเสียใดๆ เกิดขึ้น.


http://www.thaipost.net/news/140510/22185
      บันทึกการเข้า
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2020 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2553, 11:57:08 »

เหยง
 บ้านพักศาลที่สมุย สวยมาก มองเห็นวิวทะเล อย่างสวย

แต่พรเทพ ย้ายไปไม่ได้เพราะเกิดที่สมุย

เลยอยู่สุราษฎร์ค่ะ



อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 14 พฤษภาคม 2553, 11:38:02
ตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยให้ปชช.สะดวกในกระบวนการยุติธรรม
14 พฤษภาคม 2553 10:49 น.

                                 

       ในวันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม 2553 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ จะเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และเปิดอาคารที่ทำการศาลจังหวัดเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
       
       ศาลจังหวัดเกาะสมุย จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลจังหวัดที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. 2539 โดยอาคารที่ทำการศาลจังหวัดเกาะสมุยก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนเมษายน 2549 เป็นอาคารสูง 4 ชั้น มีห้องพิจารณาคดี 8 ห้อง และเปิดทำการให้บริการประชาชนตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2549 เป็นต้นมา
       
       ศาลจังหวัดเกาะสมุย มีเขตอำนาจในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีที่เกิดขึ้นในเขตท้องที่อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน ซึ่งแต่เดิมเป็นท้องที่ที่อยู่ในเขตอำนาจของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี นอกจากศาลจังหวัดเกาะสมุยจะมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งและคดีอาญาทั้งปวงแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้มีคดีเยาวชนและครอบครัว ประธานศาลฎีกาจึงได้มีคำสั่งให้ผู้พิพากษาในศาลจังหวัดเกาะสมุยช่วยทำงานในการพิจารณาพิพากษาคดีเยาวชนและครอบครัวที่เกิดขึ้นในท้องที่อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงันด้วย
       
       การจัดตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยนั้นมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในท้องที่ดังกล่าว ให้ได้รับความยุติธรรมจากศาลโดยทั่วถึงกัน เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ของอำเภอทั้งสองมีลักษณะเป็นเกาะที่ห่างไกลจากตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีค่อนข้างมาก โดยต้องอาศัยการเดินทางทางเรือเป็นหลัก และระยะทางจากท่าเรือมายังศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีก็เป็นระยะทางที่ค่อนข้างไกล หากเป็นช่วงเวลาที่ไม่สามารถเดินทางโดยทางเรือได้ย่อมก่อให้เกิดผลกระทบต่อคู่ความหลายประการ เช่น ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น อันมีผลกระทบต่อสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยง่าย สะดวก รวดเร็วและทั่วถึงของประชาชน ตามที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
       
       นอกจากการคำนึงถึงสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของประชาชนแล้ว ก็ต้องคำนึงถึงสิทธิของผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากการควบคุมตัวผู้ต้องหามาฝากขังต่อศาลที่ต้องอาศัยการเดินทางทางเรือเป็นหลัก และมีความจำเป็นต้องใส่กุญแจมือเพื่อป้องกันมิให้ผู้ต้องหาหลบหนี หากเกิดอุบัติเหตุทางเรืออาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ต้องหาเพราะไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ถ้าไม่ใส่กุญแจมือก็อาจเป็นช่องทางให้ผู้ต้องหาหลบหนี หรือเกิดกรณีแย่งชิงตัวผู้ต้องหาขึ้นได้ หรือหากมีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหามาฝากขังต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ ก็อาจมีผลให้เจ้าพนักงานควบคุมตัวผู้ต้องหาเกินอำนาจที่มีอยู่ การจัดตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยจึงเป็นช่องทางหนึ่งเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
       
       ทั้งนี้ เมื่อนำเอาข้อเท็จจริงจากสภาพความเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงันมาประกอบในการพิจารณาจัดตั้งศาลเกาะสมุย จะเห็นได้ว่าการที่มีปริมาณนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางเข้าไปในพื้นที่เพิ่มขึ้น ปัญหาความขัดแย้ง และปริมาณอาชญากรรมก็เพิ่มขึ้นด้วย ดังปรากฏจากสถิติคดีตั้งแต่มกราคม ถึง ธันวาคม พ.ศ. 2552 ที่มีการฟ้องคดีอาญา 1,631 คดี คดีแพ่ง 296 คดี และคดีผู้บริโภค 595 คดี รวมคดีที่ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดเกาะสมุยในปี พ.ศ. 2552 ทั้งสิ้น 2,522 คดี ทั้งที่อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน มีพื้นที่โดยประมาณเพียง 252 ตารางกิโลเมตร และ 193 ตารางกิโลเมตร ตามลำดับ
       
       จากการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ การจัดตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยขึ้น ยังมีประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาที่นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้รับความคุ้มครองในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ เพราะเหตุเรื่องการคมนาคมที่จะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปศาล หรือ กรณีที่ผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติและต้องเดินทางออกนอกประเทศ พนักงานอัยการต้องร้องขอต่อศาลให้มีการสืบพยานไว้ก่อนฟ้องคดี การเดินทางไปศาลในจังหวัดสุราษฎร์ธานี อาจเนิ่นช้าไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงที มีผลให้ผู้เสียหายไม่ได้รับความคุ้มครองตามกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมได้
       
       ดังนั้น ในการจัดตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยขึ้น จึงมีวัตถุประสงค์หลักเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลจาก พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ปริมาณคดี ระยะทางและความสะดวกเกี่ยวกับการเดินทางมาศาลของประชาชน ให้สมดังนโยบายของศาลยุติธรรมในการเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนและสังคมด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรมและทั่วถึง
       
       โดยนายสราวุธ เบญจกุล
       รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม
       

 
 
 
พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000066388
 

      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2021 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2553, 11:57:51 »

เหยง

เฉ red ตายยังงงง อยากรู้จังงงงงงง
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2022 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2553, 12:15:13 »

อ่านคอลัมม์"คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน ที่บอกว่า "สีแดง ไม่ต้องโฉลก" เสียแล้ว

บนทางที่เลือกของ "เสธ.แดง"
เปลว สีเงิน 14 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     ขอส่งใจช่วย "เสธ.แดง" และคิดว่า "แดงมหิงสา" บรรดาฮาร์ดคอร์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น จตุพร-ณัฐวุฒิ-อริสมันต์- เมื่อทราบข่าวเสธ.แดงมีอันเป็นไปเช่นนี้ คงเกิดอาการ "ปากกล้า-ขาสั่น-กระบาลเสียว" ไปตามๆ กัน ก็อยากให้ตั้งสติ แล้วเข้าตู้คอนเทนเนอร์ปรึกษากันเถอะ "วันนี้-๑๔ พฤษภา วันอมาวสี "จันทร์ดับ" ตอนเที่ยง จนถึงบ่าย ๓  ช่วงนี้เท่านั้นที่เป็น "นาทีทอง" ในการเจรจา จะเอายังไงรีบไปตกลงกับ ศอฉ.เขาเสีย ถ้าพ้นจากเวลานี้ไป ก็เกรงว่า...กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย แล้วจะเสียใจกันไปเปล่าๆ!

      จาก "สนธิ ลิ้มทองกุล" แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ "สีเหลือง" ถูกประกบยิงหัวด้วยอาวุธสงครามสาหัส  ที่หน้าวัดเอี่ยมวรนุช บางขุนพรหม เมื่อ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๒ มาเมื่อหัวค่ำวานนี้ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๓ "พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล" หรือเสธ.แดง แกนนำฮาร์ดคอร์กลุ่มกบฏทักษิณ "สีแดง" ก็ถูกกระสุนลึกลับเจาะหัวที่ย่านศาลาแดง ถนนพระราม ๔ ดังที่ท่านทราบจากข่าวกันแล้ว เพราะเหตุเกิดตั้งแต่ตอนใกล้ๆ ๑ ทุ่มเมื่อคืน

      ก็ขอให้คุณงามความดี กรรมดีต่อชาติบ้านเมือง และสังคมชาติที่เสธ.แดงกระทำมาทั้งหมด จงเป็นปัจจัยบารมี คุ้มครองรักษาเสธ.แดงให้มีชีวิตรอดปลอดภัย และเกิด "สัมมาสติ" ในเส้นทางชีวิตที่เหลือต่อไปด้วยเถิด ครับ...ดาวศุกร์เคลื่อนจาก "เรือนเกษตร" ตัวเองตั้งแต่วันเสาร์ที่จะถึงนี้ เห็นที "สีแดง" ยากจะเจิดจ้าเสียแล้ว อะไรที่แดงๆ ดูจะไม่ถูกโฉลกกับพวกกบฏทักษิณ ก็ดูซี...
 - เสื้อแดง
 - ศาลาแดง
 - เสธ.แดง
      ก็จบลงที่ "เลือดสาดแดง" ไปทั้งตัว เห็นมั้ย...เป็นความลงตัวของ "แดง" ที่ไม่เป็นมงคลเลย ซึ่งก็ไม่ทราบว่ากระสุนนั้นมาจากไหน พวกไหน พวกแดงเทียม หรือพวกก่อการร้ายที่แฝงตัวเป็นมือที่สามเป็นคนยิงกันแน่ เพราะที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่กลุ่มกบฏแดงยึดครองอยู่ โดยนักรบของเสธ.คุ้มกันแน่นหนา แล้วใครล่ะ...จะแปลกปลอมเข้าถึงตัวเสธ.แดง อันเป็น "ไข่แดง" ที่ล้อมรอบอยู่ด้วยไข่ขาวคือการ์ดของเขาขนาดนั้น?


      ฉะนั้น ใครก็อย่าเพิ่งคาดเดากันไปเปะปะเลยครับ รอการตรวจสถานที่เกิดเหตุ และการสืบสวน-สอบสวนของเจ้าหน้าที่ก่อน คิดว่าไม่น่ายาก เพราะเป็นช่วงหัวค่ำ มีคนเห็นเหตุการณ์เยอะแยะ ต้องมีซักคนหรอกน่า ที่พอจะให้เค้าเงื่อนเกี่ยวกับ "มือสังหาร" คนนั้นได้!

      เหตุเกิดทุ่มกว่า แต่จน ๓ ทุ่ม ได้ข่าวว่าบรรดาแกนนำฮาร์ดคอร์ทั้งหลายไม่มีใครขึ้นเวที หลบไปจับกลุ่มปราศรัยกันเองอยู่หลังเวทีคร่ำเครียดจนเกือบ ๔ ทุ่มถึง "แต่งหน้าข่าว" เรื่องเสธ.แดงถูกยิงไปบอกผู้ชุมนุม "กลับใจคือฝากฝั่ง" ยังทันนะ...มิตรทั้งหลาย-สหายทั้งหลาย ตั้งสติให้ดี อย่าให้ ความโกรธ-ความกลัว-ความอาฆาต และมิจฉาทิฐิ เป็นตัวนำสติเลย มนุษย์ทุกคนหลงผิด-คิดพลาดกันได้ ไม่แปลก แต่การกลับใจ-ได้สติ อย่างนี้สิประเสริฐ ถ้าเช้าวันนี้ยังอยู่-ยังยึดเวทีราชประสงค์เป็นคอกคูประตูค่ายอยู่ ด้วยความปรารถนาดีจากผม ถ้ารักพี่น้องชาวบ้านที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่ตรงหน้าเวทีมากกว่า "รักตัวเอง" จริง ก็บอกเขาว่า "สลายการชุมนุม" แยกย้ายกลับบ้านกันไปเถอะ!

      ส่วนพวกท่าน บรรดาแกนนำทั้งหลาย ถ้ากองทัพเขาเอาจริงอย่างนี้ อย่าไปสู้เลยครับ ยังมีเวลาตามที่ผมบอก รีบไปเจรจาตกลงกับ ศอฉ.เขาเสีย พวกท่านต้องเสียสละให้บรรดาชาวบ้านที่เขาเสียสละเพื่อพวกท่านมา ๒ เดือนเต็มได้เห็นบ้าง

      คนทั่วไป รวมทั้งผู้ชุมนุมที่เป็นไข่ขาวให้พวกท่าน ส่วนใหญ่ก็เข้าใจกันง่ายๆ ว่า ถ้าตำรวจ-ทหารใช้กำลังสลายม็อบ ก็จะมีชาวบ้านบาดเจ็บล้มตาย ดังนั้น ศอฉ.ต้องไม่กล้าบุก ไม่กล้ารุนแรงแน่นอน  เพราะขืนทำ จะถูกสังคมทั้งในและนอกประเทศประณาม นั่นคือความเข้าใจตามจินตนาการระดับชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่อง "ยุทธศาสตร์-ยุทธวิธี" ตามการทัพ ซึ่งทหารและตำรวจเขามีหลักสูตรศึกษา-ฝึกฝนด้านการสลายม็อบโดยเฉพาะอยู่แล้ว

      พูดง่ายๆ คือ ทหาร-ตำรวจ โดย ศอฉ.เขามีกลยุทธ์-กลวิธีสสลายม็อบ โดยไม่ต้องย่ำไปบนหัวผู้ร่วมชุมนุมให้บุบสลาย ขออย่างเดียว ถ้าตำรวจ-ทหารเอาจริง พวกเรา-ชาวบ้าน ทีทหารไม่ลุย ก็ด่าเขา  พอเขาจะลุย...ก็ด่าเขาอีกนั้น ตั้งสติกันเสียบ้างเถอะ ให้มั่นใจด้วยเข้าใจว่า ถ้าตำรวจ-ทหารเขาจะลุยจริงๆ นั้น เขามีวิธี "ถึงเป้าหมาย" โดยไม่ระคายเคืองชาวบ้านอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง!

       ตอนนี้รัฐบาลและ ศอฉ.ควรรีบประกาศให้ชาวบ้านที่มาชุมนุมได้ทราบว่าอะไร-เป็นอะไร มีโจรก่อการร้าย มีมือที่สาม เข้ามาแทรกแซงการชุมนุมด้วยบริสุทธิ์ใจของชาวบ้านแล้ว ดักยิงเสธ.แดง หวังปลุกปั่นให้เข้าใจว่า "ตำรวจ-ทหาร" ทำ ฉะนั้น ชาวบ้านอย่าหลงเป็นเครื่องมือให้ "ผู้ประสงค์ร้าย" อยู่เลย ใครจะกลับบ้าน-ก็กลับ มีรถรับส่งบริการพร้อม!

       ผมจะบอกให้ท่านสังเกต คราวนี้ทหารเอาจริง ดูจากประกาศ ศอฉ.ตอนใกล้ ๓ ทุ่มเมื่อคืน จะเห็นว่า "เป็นครั้งแรก" นับแต่มีประกาศจาก ศอฉ.ออกมา คนลงชื่อท้ายประกาศนั้นชื่อ..... "พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา" ผบ.ทบ.!

      เอาล่ะ...มีอีเมล์ถึงผมฉบับ ผมคิดว่าน่าสนใจ จะเป็นเรื่องอะไรนั้นอยากให้อ่าน โดยเฉพาะท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ควรต้องอ่าน เพราะเขาสื่อความถึงท่านโดยตรง ดังนี้

เรียน คุณเปลว สีเงิน ที่เคารพ
      ขออนุญาตส่งบทความความเห็นทางวิชาการของจิตแพทย์ท่านหนึ่ง ซึ่งอยากจะมีส่วนช่วยให้ข้อคิดกับรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลได้ทำการศึกษาจิตวิทยาม็อบให้มากกว่านี้ แต่ไม่อาจจะออกนามได้ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีความปลอดภัยต่อบุคลากรของโรงพยาบาล

      หากคุณเปลวเห็นว่าเป็นประโยชน์ และอยากจะพูดคุยกับจิตแพทย์ท่านนี้เพิ่มเติม ดิฉันยินดีประสานงานให้ค่ะ เพราะจิตแพทย์เล่าว่าปกติแล้วในต่างประเทศ การตัดสินใจเรื่องยากๆ เหล่านี้ นักจิตวิทยาจะเข้าไปเกี่ยวข้องเสมอ แต่ประเทศไทยเรายังไม่เห็นประโยชน์ตรงนี้
      ขอแสดงความนับถือ
      พ.ศ.[/color]

      รัฐบาลหลงทางไม่เข้าใจจิตวิทยาม็อบ จิตแพทย์ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ให้ความเห็นเชิงวิชาการว่า รัฐบาลจะต้องทำความเข้าใจเรื่องจิตวิทยาม็อบมากกว่านี้ เห็นชัดแล้วว่าม็อบเป็นสิ่งที่ปรองดองไม่ได้ รัฐบาลไม่ควรยอมทำตามข้อเรียกร้องของม็อบ เพราะม็อบคือกลุ่มคนที่ไม่ยอมรับกติกาสังคม หรือกฎหมาย ใช้การรังแกข่มเหง และความรุนแรงกดดันเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ของผู้ที่อยู่เบื้องหลังม็อบ ยิ่งผู้อยู่เบื้องหลังมีอำนาจหรือเงินทองเท่าไร ม็อบก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นตามกัน

      การพยายามแยกคนบริสุทธิ์ออกจากม็อบของรัฐบาลนั้น เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ เพราะตามจิตวิทยาม็อบแล้ว คนที่อยู่กับม็อบนั้นไม่มีความบริสุทธิ์เหลือแล้ว เพราะได้ละทิ้ง ยอมสละตัวตน มโนธรรม คุณธรรมทั้งหมด แล้วรับจิตวิญญาณของม็อบหรือฝูงชนแทนตัวเอง ตนเองพร้อมที่จะกระทำการใดๆ ก็ได้ตามคำสั่งจ่าฝูง จะมองตัวเองว่ามีอำนาจทำอะไรก็ได้ และรู้สึกว่าตัวเองนิรนาม ไม่รู้ใครเป็นใคร ไม่ต้องรับผิดชอบ จนเกิดอาการบ้าอำนาจ

      คนธรรมดาที่อยู่ในฝูงม็อบนั้น เมื่อไรถ้าได้สติจะตกใจในสิ่งที่ตนเองได้กระทำไป เช่น การไปปิดโรงพยาบาลที่เป็นที่พึ่งของคนเจ็บป่วย ความจริงแล้วกลุ่มม็อบกำลังเริ่มได้สติ เริ่มสำนึกผิดบ้าง ก็เกือบจะสลายตัวแล้วหลังเรื่องโรงพยาบาลจุฬาฯ และต้องเผชิญหน้ากับพลังความดีของชาวจุฬาฯ

       แต่การที่รัฐบาลกลับไปอ่อนข้อยอมปรองดองกับม็อบ เป็นการแสดงความอ่อนแอ ยิ่งไปเพิ่มพลังให้กลุ่มม็อบให้กลับฮึกเหิม กลับไปหลงตนเองอีก โดยหลอกตนเองว่าดีและถูกต้อง รัฐบาลเองยังต้องยอมรับ ม็อบจึงกลับเรียกร้องมากขึ้น เรื่องการปรองดองใดๆ จะสำเร็จก็ต่อเมื่อกลุ่มม็อบพอใจผลประโยชน์ที่ได้เท่านั้น เห็นได้ว่า เมื่อรัฐบาลยอมอ่อนข้อ ยอมปรองดอง ม็อบก็มีข้ออ้างต่างๆ นานา ว่าบรรยากาศไม่ดี ไม่เจรจาแล้ว เป็นต้น การตัดสินใจของรัฐบาลที่เกิดขึ้นนี้กลับเป็นเชื้อเพลิงเติมให้ม็อบยิ่งแข็งกร้าวขึ้นอีก เพราะฉะนั้น รัฐบาลควรศึกษาเรื่องจิตวิทยาม็อบมากกว่านี้ ก่อนที่จะพาประเทศไทยเสียหายมากกว่านี้

      ครับ...ช่วงนี้คงไม่มีอะไรจะคุยมากนัก นอกจากขอพรพระให้อภิบาล "เสธ.แดง" รอดปลอดภัย ขอพรให้บรรดาแกนนำ "กลับใจ-ได้สติ" และอยากบอกกับท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ว่า งานปรองดองก็ดี งานแก้ปัญหา "ม็อบคาเมือง" ก็ดี ท่านพยายามถึงที่สุดแล้ว ผมให้กำลังใจ อย่าวอกแวก อย่าไขว้เขว "ผู้ตาม" ทั้งโลกมีกว่า ๖,๐๐๐ ล้านคน แต่คนก้าวสู่ระดับ "ผู้นำชาติ" ได้นั้น  มีแค่พัน-แค่หมื่นเท่านั้นเอง

      คน..มันอยู่ที่ใจ.....แต่คนที่ "ใจถึง" เท่านั้นจึงจะเป็น "นายคน"!

http://www.thaipost.net/news/140510/22188
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2023 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2553, 12:36:44 »

น่าจะเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ ของการ์ดเสื้อแดง คือ

1.ตั้งแต่เริ่มต้น เราไม่เคยเห็นหน่วยพยาบาลของเสื้อแดงปรากฎโฉมให้เห็นเลย มีแต่แพทย์ พยาบาลอาสา ที่ตั้งกลุ่มอยู่นอกที่ชุมนุม ดังเห็นได้จาก กลุ่มนี้เข้าช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกยิงถล่มด้วย M-79 ในคืนวันที่ 22 เมษายน 53 และไม่วายถูกพวกเสื้อแดงทำร้ายขณะลำเลียงคนป่วยออกจากที่เกตุเหตุ จากที วี ที่ถ่ายทอดให้ชม โดยพวกเข้าอาจสำคัญว่า มีโรงพยาบาลอยู่ในบริเวณที่ชุมนุม อาทิ รพ.จุฬาฯ, รพ.ตำรวจ, รพ.เซนต์หลุยส์, รพ.บำรุงราษฎร์ฯ และ ฯลฯ

2.การนำร่าง เสธ.แดง จากจุดเกิดเหตุซึ่งใกล้กับ รพ.จุฬาฯ ไปส่ง รพ.หัวเฉียว ซึ่งน่าจะใช้เวลาเดินทางถึงครึ่งชั่วโมงขึ้นไปนั้น เป็นอันตรายต่อชีวิตของเสธ.แดง เป็นอย่างยิ่ง หรือเพราะการ์ดคิดว่า..ทำไว้กับ รพ.จุฬาฯ ไว้เยอะ เลยพาไปแอดมิดส์ที่ รพ.อื่น ดีกว่า...ซึ่งเป็นความคิดที่เลวร้ายมากๆ ครับ เลือดที่ไหลออกจากแผลที่หัวทุกหยดมีค่า เวลายิ่งเนินนานมีผลต่อการรักษาชีวิตของ เสธ.แดง เป็นอย่างยิ่ง....เหมือนเป็นกรรมสนองจริงๆ
 

                                           

           ดูภาพแสดงจุดเกิดเหตุ เทียบกับระยะทางไปโรงพยาบาลต่างๆ เอาก็แล้วกัน ?? รพ.จุฬาฯ น่าจะห่างไม่เกิน 500 เมตร, รพ.ตำรวจ น่าจะห่างไม่เกิน 1 ก.ม., ในขณะที่ รพ.หัวเฉียว น่าจะอยู่ในระยะกว่า 5 ก.ม. และต้องใช้ถนนมากกว่า 3 สายในการเดินทาง

 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2024 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2553, 12:41:43 »

คอลัมม์ "ท่านขุนน้อย" เขียนขึ้นก่อนช่วง เสธ.แดง ถูกยิง

อะไรจะเกิด...ก็ต้องเกิด!!!
ท่านขุนน้อย 14 พฤษภาคม 2553 - 00:00

         ขณะที่กำลังเขียนต้นฉบับชิ้นนี้...ก็ยังไม่รู้ว่าเหตุการณ์มันจะเป็นยังไงกันต่อไป  หลังจากที่ศูนย์อำนวยการอยู่เฉยๆ ท่านได้ออกมาประกาศว่า นับตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 13 พ.ค.เป็นต้นไป ท่านจะเริ่ม ขยับแข้ง ขยับขา ขึ้นมาบ้างแล้ว การปิดล้อม กดดัน ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ตลอดไปจนการอธิบายแผนยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ในการจัดการกับม็อบเอาไว้ซะละเอียดยิบ ท้ายที่สุด...มันจะนำความสงบเรียบร้อยมาสู่บ้านเมืองได้จริงๆ หรือไม่? หรือจะบานปลายกลายเป็นสงครามกลางเมือง อย่างที่ใครต่อใคร เคยวิตกกันมาก่อนหน้านี้...
                ------------------------------------
     แต่ก็นั่นแหละ...เมื่อมาถึงจุดนี้ มันคงหลีกเลี่ยงลำบาก เพราะอะไรต่อมิอะไร มันเลยขีดจำกัดกันมานานแล้ว ถ้าหากศูนย์อำนวยการอยู่เฉยๆ ท่านยังพยายามเฉยๆ ต่อไป กองกำลังติดอาวุธของกลุ่มคนที่ไม่คิดจะ มีฝัก มีฝ่าย ก็อาจจะผุดขึ้นมาจัดการกำลังกองกำลังไม่ทราบฝ่าย จนต้องกลายเป็นสงครามกลางเมืองแท้ๆ  ไปจนได้ ด้วยเหตุนี้...การสร้างแรงกดดันเพื่อขอพื้นที่คืน การสลายฝูงชน หรือ จะใช้คำเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่ มันจึงกลายเป็นสิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยงต่อไปได้ แม้นว่าจะมีความพยายามหลีกเลี่ยงกันในชนิด เอวบิด เอวคด เอวงอ ไปตามๆ กัน...
              ----------------------------------------
     อย่างไรก็ตาม...การจัดการกับม็อบที่ออกจะประหลาด พิกล กว่าม็อบโดยทั่วไปเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์การเมืองไทยคราวนี้ คงต้องอาศัยความประณีต ละเอียดอ่อน เอาจริงๆ เพราะเป็นที่รับทราบกันมาโดยตลอดว่า สิ่งที่ผู้อยู่เบื้องหลังม็อบต้องการจะให้เป็นไป ก็คือสถานการณ์อย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น ในอีกไม่นานนับจากนี้ พูดง่ายๆ ก็คือ...ม็อบคราวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เกิดการปะทะขั้นแตกหัก กับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองโดยเฉพาะ การเคลื่อนไหวตาม ยุทธศาสตร์ยวนส้นตีน จึงได้รับการดำเนินอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เข้าทาง เข้าแผนยุทธศาสตร์ ดังกล่าวด้วยวิธีใดๆ ก็แล้วแต่ แต่สุดท้าย...ก็คงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ต่อไปอีกแล้ว...
             ------------------------------------------
     ด้วยเหตุนี้...การปฏิบัติการด้วยกำลังใดๆ คงต้องวาดฉากสถานการณ์ในแต่ละขั้นเอาไว้ให้ละเอียดยิบ เพียงแต่สิ่งที่วาดๆ เอาไว้ อย่ามัวแต่เอามาแถลงซะจนฝ่ายตรงข้าม รู้ใส้ รู้พุง ว่ามีอยู่กี่ขด ต่อกี่ขด จนสามารถท่องจำคำพูด ว่าด้วยขั้นตอนปฏิบัติการ หรือแผนการปฏิบัติของโฆษก ศอฉ. ได้แทบทุกวรรค ทุกประโยค นอกจากนั้น คงต้องพึงระลึกเอาไว้ด้วยว่า...ถ้าหากถึงขั้นที่จะต้อง ปะทะ แตกหัก ขึ้นมาเมื่อไหร่ โอกาสที่มันจะกลายเป็นการรบระหว่าง จปร. กับ จปร. ไม่ใช่การเผชิญหน้ากับฝูงชน หรือ การจัดการกับมวลชนธรรมดาๆ ย่อมมีโอกาสเป็นไปได้สูงเอามากๆ...
           ----------------------------------------------
     ยิ่งไปกว่านั้น...ไม่ว่าแผนปฏิบัติการต่างๆ จะละเอียด รอบคอบ มากน้อยขนาดไหน หัวใจสำคัญที่สุดในการลดความสูญเสีย การเผชิญหน้า และการนำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมาสู่บ้านเมืองได้จริงๆ ยังต้องขึ้นอยู่กับขีดความสามารถ ในการใช้กลไกปฏิบัติการในแต่ละกลไก ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากภายใต้สภาพความเป็นจริงเท่าที่ผ่านมา คงปฏิเสธไม่ได้ว่า...กลไกการปฏิบัติการแต่ละชนิด มันได้ถูกแปรสภาพให้กลายเป็นแตงโม และมะเขือเทศ จนทุกสิ่งทุกอย่างเละเทะกลายเป็นจานผลไม้รวม หรือไม่ได้เป็นไปตามเป้า ตามจุดมุ่งหมายที่เคยได้วางเอาไว้คราวแล้ว คราวเล่า...
            --------------------------------------------
    สรุปง่ายๆ ก็คือ...เมื่อมาถึง ณ ขณะนี้ การแก้การเมืองด้วยการเมือง ได้มาถึงจุดสิ้นสุด ที่ไม่อาจไปต่อได้อีกแล้ว มีแต่จะต้องใช้กำลัง หรือ ใช้การทหารเข้าไปสร้างข้อยุติ ไม่เช่นนั้น...อะไรต่อมิอะไร มันจะเลยจุด ลุกลาม บานปลายไปสู่เสถียรภาพ ความมั่นคงของชาติบ้านเมือง ในชนิดไม่อาจกู้กลับคืนมาได้ง่ายๆ แม้ว่าฝ่ายการเมือง หรือ รัฐบาล พยายามที่จะหลีกเลี่ยงการเดินมาถึง ณ จุดๆ นี้ จนถูก รุมเหยียบ รุมกระทืบ รุมทึ้ง ระดับไม่ว่าชีวิตทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี ตลอดไปจนชีวิตทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ แทบจะไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มีไปตลอดชีวิต แต่สุดท้าย...สถานการณ์มันก็ยังไหลเข้ามาสู่จุดๆ นี้จนได้...
             -------------------------------------------
     การดำเนินการใดๆ ก็แล้วแต่...นับจากนี้เป็นต้นไป จึงต้องอาศัยสติ สมาธิ ความละเอียด รอบคอบ อย่างสูงสุด รวมไปถึงความร่วมแรง ร่วมใจ และความมีประสิทธิภาพ ของกองกำลังแต่ละชนิด ในอันที่จะยุติสถานการณ์ความปั่นป่วน วุ่นวาย ที่ยืดเยื้อ คาราคาซัง มาจนประเทศทั้งประเทศตกอยู่ในความพังพินาศ ฉิบหาย และกำลังกลายเป็นผู้พ่ายแพ้รายแรก จนแม้กระทั่งรายสุดท้าย ตราบใดที่ยังไม่มีการเร่งกู้กลับคืนมาซะแต่เนิ่นๆ...
           ----------------------------------------------
     สำหรับบรรดาประชาชนทั้งหลาย...ที่จะมีส่วนในการให้ความร่วมมือ เพื่อให้สถานการณ์ต่างๆ กลับคืนมาสู่ความสงบได้อย่างถาวร ยั่งยืน อันดับแรก...คงหนีไม่พ้นที่จะต้องเลิกทำตัวเป็น นางสนม ยุคกรุงแตก ที่ดันกลับชาติมาเกิดในยุคนี้ อย่างน้อยก็ควร ทำใจ และ ทำความเข้าใจ เอาไว้ให้ชัดเจนว่า...เอาเข้าจริงๆ แล้ว เราไม่ได้กำลังเผชิญหน้ากับมวลชน หรือ ประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างเป็นปกติ แต่เรากำลังเผชิญหน้ากับการก่อการร้าย หรือ ขบวนการก่อการร้าย  ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงประเทศไม่ให้เป็นไปเช่นเดิม...อันเป็นสิ่งที่ คนไทยแท้ๆ มิอาจยอมรับได้โดยเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นมาก็ตาม มันล้วนแล้วแต่เป็นไปตามเหตุปัจจัย หรือเป็นเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป...นั่นเอง...

         ---------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก เพลโต นักปราชญ์ชาวกรีก...คนตายเท่านั้น...ที่ได้เห็นอวสานแห่งสงคราม                                                          ---------------------------------------------------

http://www.thaipost.net/news/140510/22186
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 79 80 [81] 82 83 ... 131   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><