25 พฤศจิกายน 2567, 20:39:56
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 75 76 [77] 78 79 ... 131   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"  (อ่าน 799599 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 32 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1900 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2553, 11:16:34 »

อ่านสถานการณ์ หน้า 1 ของ ไทยโพสต์

ขู่แดงไม่รับ-ไม่ยุบ ‘มาร์ค’เดินสายแจงทุกสีพท.ปูดแกนนำถูกซื้อตัว
ข่าวหน้า 17 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     "อภิสิทธิ์" เดินสายแจงโรดแม็พ ยันไม่คิดนิรโทษกรรมความผิดอาญา-ก่อการร้าย ครวญโทร.บอกแฟนๆ "แม้ว" ล็อบบี้พรรคร่วมหวังเปลี่ยนขั้ว ขณะที่ประชาธิปัตย์คลอดมติหนุน 5 แนวทางปรองดองเต็มที่ เชิญทุกเสื้อหารือ แต่เสื้อแดงยังไม่ยอมนับสอง หลังพันธมิตรฯ เล่นแรงประณามรัฐบาลปรองดองกับขบวนการก่อการร้ายรัฐไทยใหม่ "มาร์ค" ขู่ถ้าแดงยังไม่รับเงื่อนไขจะเลิกข้อตกลงยุบสภา เพื่อไทยปล่อยข่าวแกนนำแดงถูกซื้อตัว เงินบริจาคไม่โปร่งใส บางคนกลายเป็นเสี่ยไปแล้ว

     เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาตลอดทั้งวันชี้แจงข้อเสนอโรดแม็พปรองดองกับฝ่ายต่างๆ และการประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พฤศจิกายนปีนี้ โดยเริ่มต้นจากการเข้าหารือกับนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา ก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่รัฐสภา ท่ามกลางกระแสข่าว ส.ส.ของพรรคไม่เห็นด้วยกับแผนโรดแม็พ

     ทั้งนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ออกมายืนยันว่า ไม่มีความขัดแย้งกับนายอภิสิทธิ์ตามที่เป็นข่าว

     ส่วนนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะทุกคนก็อยากให้บ้านเมืองเรียบร้อย และทุกคนก็มั่นใจในตัวนายกฯ บางทีนายกฯ อาจจะมีข้อมูลบางสิ่งบางอย่างที่พรรคไม่มีโอกาสได้รับรู้ เพราะที่ผ่านมาการตัดสินใจของนายกฯ จะอยู่บนพื้นฐานของความมีเหตุมีผลและรอบคอบเสมอ ดังนั้นอะไรที่เป็นประโยชน์กับพรรคและบ้านเมือง คิดว่าคงไม่น่าจะมีปัญหา เพราะทุกคนก็เชื่อมั่นนายกฯ แม้กระทั่งนายชวนเอง เพราะเท่าที่รู้นายชวนก็ไม่ได้ขัดแย้งกับนายกฯ อะไรมากมาย เพียงแต่เป็นห่วงเรื่องนิติรัฐที่เราจะต้องช่วยกันรักษาให้ได้

     ต่อมา นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรค แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมได้แสดงความเห็นอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับแผนโรดแม็พที่นายกฯ เสนอ โดยมีความเห็นว่าสนับสนุนแนวทางของนายกฯ  ในการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปการเมือง รักษาสถาบันสูงสุด ให้ความเป็นธรรมประชาชนและผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ความรุนแรง รวมถึงสะสางและสร้างความมั่นคงในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข   

     "พรรคสนับสนุนกรอบการกำหนดการเลือกตั้งอย่างเต็มที่  ซึ่งพรรคได้เชื่อมั่นในตัวนายกฯ ว่าเป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ได้เป็นนายกฯ เฉพาะคนที่เห็นด้วยกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยเสียสละในวาระของรัฐบาลเพื่อยุติความรุนแรงและการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น"

     นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า ขณะนี้จึงต้องรอคำตอบจากกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อที่จะคืนพื้นที่โดยเร็วที่สุด และหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เพราะหากมีการปิดถนนก็จะเป็นอุปสรรคไม่สามารถทำให้กระบวนการปรองดองเดินหน้าไปได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดเรื่องการยุบสภา

     โฆษก ปชป.บอกว่า ในที่ประชุมได้มีการเปิดให้สมาชิกแสดงความคิดเห็น โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าได้หารือกับนายอภิสิทธิ์มาโดยตลอด และบอกว่าที่ผ่านมาได้แสดงความเห็นชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการยุบสภาในกรอบ 9 เดือนที่เสนอในรอบแรก เพราะปัญหาวิกฤติทางการเมืองไม่ได้มาจากการทำงานของรัฐสภา แต่มาจากการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุม แต่ก็เห็นว่าการที่นายกฯ แสดงวุฒิภาวะในการหารือกับทุกฝ่าย หลีกเลี่ยงการสูญเสีย ยอมสละเวลาในการดำรงตำแหน่ง ก็ถือว่าเป็นการยอมสละในทางการเมือง เพื่อให้สังคมก้าวข้ามความขัดแย้ง โดยนายชวนได้ยืนยันการตัดสินใจและสนับสนุนแนวทางการสร้างกระบวนการสมานฉันท์ของนายกฯ โดยทางพรรคจะต้องมีหน้าที่ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ


เชิญหลากกลุ่มชี้แจง

     ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า นายกฯ ได้ประกาศชัดว่าโรดแม็พที่มีขึ้นจะมีการเชิญชวนทุกภาคส่วนมาร่วมหารือ เพราะโรดแม็พนี้ไม่ได้เป็นการต่อรองระหว่างรัฐบาลและแกนนำ นปช. อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมหารือ ดังนั้นถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่รับ นายกฯ ก็บอกว่าจะไม่เจรจาอีกต่อไป เพราะคำตอบเหล่านี้มีความชัดเจนอยู่ในตัว โดยใน 1-2 วันนี้ นายกฯ จะเชิญทุกภาคส่วนมาร่วมหารือ เช่น กลุ่มคนเสื้อหลากสี ภาคประชาชน เพื่อทำความเข้าใจกับข้อที่ไม่เข้าใจของประชาชน

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม นายอภิสิทธิ์ได้ชี้แจงถึงความจำเป็นที่ต้องประกาศโรดแม็พเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ต่างๆ เพราะทราบมาว่าในที่ชุมนุมมีกองกำลังผู้ติดอาวุธและว่าจ้างคนในชุมนุมบริเวณใกล้เคียง โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิงมานั่งโดยรอบที่ประชุม ซึ่งหากมีการสลายการชุมนุมและเกิดการสูญเสีย โดยเฉพาะกับเด็กและผู้หญิง เชื่อว่าสังคมคงจะยอมรับไม่ได้ แม้แต่ตนเองก็คงจะอยู่ในสังคมไม่ได้ ทางออกทั้ง 5 ข้อนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด และยืนยันว่าจะไม่มีการนิรโทษกรรม แม้แต่ในส่วนของกองทัพและรัฐบาลเอง เพราะมั่นใจว่ากองทัพซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายและมีหลักฐาน นับเป็นครั้งแรกที่มีการสลายการชุมนุมทางการเมืองที่มีผู้บาดเจ็บล้มตาย แต่ก็ไม่มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม

     "หากเสื้อแดงชุมนุมต่อโดยไม่รับข้อเสนอของผมผมก็ไม่สนใจ เมื่อได้ยื่นข้อเสนอไปแล้วและยืนยันที่จะบริหารประเทศต่อไป และปล่อยให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ขอยืนยันว่าจะไม่มีการยุบสภา" แหล่งข่าวอ้างคำพูดนายกฯ

     แหล่งข่าวยังอ้างคำพูดนายนายบัญญัติว่า ขอให้เป็นผลประโยชน์ของประชาชนและสังคมด้วย ไม่เช่นนั้นเผลอๆ รัฐบาลอาจจะอยู่ไม่ได้ ดีไม่ดีอาจอยู่ไม่ถึง 4 เดือนด้วยซ้ำ โดยเฉพาะกลุ่มที่สนับสนุนพรรคอย่างกลุ่มเสื้อหลากสีที่สนับสนุนพรรคออกมาร่วมปกป้อง ทุกวันนี้เรากลับไม่ดูแลอะไรเขาเลย

     เที่ยงวันเดียวกัน ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณากระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรีเรื่อง การแก้ไขวิกฤติการเมืองตามข้อเสนอ 5 ข้อ โดยนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเสนอโรดแม็พของนายกฯ 5 ข้อนั้นจะทำอย่างไรให้ชัดเจน

     ส.ส.ผู้นี้วิตกกังวลว่า จะมีโรดแม็พซ้อนโรดแม็พอีกฉบับของท่านที่มีการพูดว่า พล.อ. ป จะขึ้น ผบ.ทบ.คนใหม่ ก็เป็นเงื่อนปมอีกเรื่องหนึ่ง คนไม่เชื่อมั่นว่าคนที่ทำผิดจะไม่ถูกลงโทษ เพราะการจะปล่อยให้บุคคลต่างๆ ออกมาอย่างนี้ หากจะเคลียร์เรื่องแล้ว ขออย่าได้ตั้งบุคคลที่เกี่ยวกับการสังหารหมู่ประชาชนขึ้นเป็น ผบ.ทบ.

     จากนั้นนายอภิสิทธิ์ตอบกระทู้ว่า ภาพรวมแผนได้รับการตอบสนอง นปช.ก็ตอบรับ แต่ยังมีเงื่อนไขไม่ยุติการชุมนุม เรารอดูจะตอบรับหรือไม่ ส่วนเสื้อหลากสีก็ไม่ยอมรับแผน ตนก็จะเชิญตัวแทนเสื้อหลากสีมาพูดคุยในวันพรุ่งนี้ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็กำลังทำความเข้าใจว่าแผนนี้คืออะไร ไม่ใช่ปรองดองรัฐบาลกับคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด แต่เป็นความปรองดองของคนทั้งประเทศ

     นายกฯ ยังกล่าวว่า ในทางปฏิบัติการเลือกตั้งใหม่ที่ประกาศว่าจะเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ย.นั้น การจะเลือกตั้งได้ต้องทำหลังจากมีการยุบสภาไม่น้อยกว่า 45 วัน และไม่เกิน 60 วัน ซึ่งก็จะเกิดในครึ่งเดือนหลังเดือนกันยายน

     "5  เรื่องที่เสนอผมคิดว่าครอบคลุม ถ้ามันง่ายคงไม่สะสมมา 4-5 ปี ประเด็นที่ผมเสนอเป็นเรื่องที่ต้องเกิดความสงบทางการเมืองจริงๆ  เช่น ถ้าผมไปอีสานแล้วเกิดเหตุรุนแรงขึ้นจะมาบอกว่าไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย เป็นแดงเทียม มันไม่ได้ ถ้าต้องทำงานตามข้อเสนอของผมถือว่าเราทำงานร่วมกันแล้ว ถ้าเป็นไปตามนี้เป้าหมายก็คือเลือกตั้ง 14 พฤศจิกายน จะยุบเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยในช่วงเดือนกันยายนด้วย"

 
ทหารไม่คิดนิรโทษกรรมตัวเอง

     ส่วนเรื่อง ผบ.ทบ.นั้น นายอภิสิทธิ์ชี้แจงว่า สิ่งที่เราเคยเห็นในอดีตคือเมื่อเกิดเหตุการณ์สูตรสำเร็จคือการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง  รวมทั้งทุกเหตุการณ์ แต่วันนี้กองทัพมีจุดยืนที่ชัดเจน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ระบุว่ากองทัพมีเอกภาพและพูดชัดว่าจะปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และทุกคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย หลังวันที่ 10 เม.ย. พล.อ.อนุพงษ์พูดว่าไม่มีความจำเป็นต้องออกนิรโทษกรรม เพราะกองทัพมั่นใจว่าทำถูกกฎหมาย และไม่ต้องการนิรโทษกรรมผู้ก่อการร้ายทุกเหตุการณ์ ดังนั้นกระบวนการนี้ตนให้ความมั่นใจได้ถึงความเป็นธรรมที่จะเกิดขึ้น

     ต่อมา  15.00 น. นายอภิสิทธิ์ตอบข้อซักถามกับบรรดาอินเตอร์ชิพพรรคประชาธิปัตย์ รุ่นที่  8 ในโครงการให้ความรู้และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนทางการเมือง ที่รัฐสภา  มีคำถามเรื่องการยุบสภา ซึ่งนายอภิสิทธิ์ตอบว่า "อันนี้ทราบดี เพราะมีประสบการณ์ที่บ้านอยู่บ่อยๆ  แต่เราก็ต้องเดินหน้าทำความเข้าใจ หลายคนเมื่อทำความเข้าใจแล้วก็ดีขึ้น เรียนตรงๆ ว่าผมก็เจอเฉพาะ SMS อย่างเดียวก็แย่แล้ว เขาส่งมาว่า ไอ้เฮงซวย เคยสนับสนุนมึง ตรงนี้ผมได้โทร.กลับไปพูดด้วย  2-3 คำ ทุกอย่างก็ดีขึ้น ส่วนใหญ่มีโทร.กันมาเป็นร้อยคน เท่าที่ผ่านมาดูเหมือนจะมีคนเดียวที่ไม่พอใจ ที่เหลือเข้าใจมากขึ้น"

     นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวว่า ในแง่ของการรักษากฎหมายส่วนบางคนก็หงุดหงิดบอกว่าพวกก่อการร้าย คำถามก็คือว่าถ้าเรารักประชาธิปไตย เราบอกว่ารักษากฎหมาย เราเจอผู้ก่อการร้ายเราจะทำอะไร ผมยังไม่เห็นกฎหมายมาตราไหนอนุญาตให้ผมส่งคนเข้าไปยิงผู้ก่อการร้ายทิ้ง สุดท้ายก็ต้องจับกุมแล้วดำเนินคดีผ่านกระบวนการผ่านศาล ผมว่าข้อเสนอผมจะสามารถทำให้เราจับกุมหลายคนที่ก่อการร้ายได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องมีเด็กและผู้หญิงมาล้อมหลายคน

     ถามว่า เมื่อนายกฯ ตัดสินใจยุบสภาแล้วมีความมั่นใจแค่ไหนว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาเป็นรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องการจะให้ยืนยันนั้นตนตอบไม่ได้ เพราะการเลือกตั้งแต่ละครั้งไม่มีอะไรแน่นอน  รู้แต่ว่าตนไม่ได้ตั้งใจยุบสภาไปเป็นฝ่ายค้านแน่ ตรงนี้ก็ต้องสู้การเมืองในที่สุด แล้วก็ต้องไปสู้การที่เลือกตั้งไม่ปีนี้ก็ปีหน้า ดังนั้นพรรคก็จะเตรียมการให้ดีที่สุด ก็จะเป็นหน้าที่พรรคการเมืองต้องมีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง

     เมื่อถามว่า การหาเสียงครั้งหน้าจะมีความปลอดภัยในการหาเสียงหรือไม่ และคิดว่าวันนี้ประสบความสำเร็จหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สำหรับตนแล้วจะมีชีวิตยาวอีกสักระยะ และการที่ถามว่าประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วหรือยัง ตนคิดว่าต้องอยู่อีกสัก 20-30 ปีคงจะตอบได้ ตั้งใจว่าชีวิตคงไม่สิ้นสุดลงที่การเมือง ตอนนี้อายุ 46 ปี และเมื่ออายุ 50 ปีต้นๆ จะเริ่มคิดถึงอาชีพอื่นได้ ส่วนการหาเสียงจะปลอดภัยหรือไม่ คงไม่ต้องไปถึงหาเสียง ทุกวันนี้ก็มั่นใจอยู่แล้วว่าชีวิตไม่ปลอดภัย แต่จะทำอย่างไรได้ เมื่อมันเป็นแบบนี้เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด กลัวก็ไม่ได้ แต่ไม่ควรประมาท

     นายธนวัฒน์ วาหะรักษ์ อายุ 20 ปี นักศึกษาปี 2 คณะรัฐศาสตร์สาขาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เผยว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ได้ได้ส่งข้อความไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือของนายกรัฐมนตรีในเวลา 22.54 น. เนื่องจากผิดหวังในการแก้ปัญหาการชุมนุมของกลุ่ม นปช. โดยข้อความที่ส่งไประบุว่า "เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าทักษิณคือทรราชขายชาติ แต่พอเห็นท่านนายกฯ  ตัดสินใจแบบนี้หมดเลย ซึ่งความศรัทธา ระวังท่านจะกลายเป็นทรราชคนต่อไปทำไมไม่จัดการให้เด็ดขาด ช่วยตอบหน่อย"

 "มาร์ค"ครวญถูกบีบ

     เขาบอกว่า จากนั้นเวลา 23.08 น. ก็ได้รับโทรศัพท์จากนายกรัฐมนตรีซึ่งโทร.กลับมา ซึ่งยืนยันว่าเป็นเสียงของนายกรัฐมนตรีจริงๆ  "ท่านย้ำว่าขณะนี้ท่านถูกกดดันจากทุกฝ่ายอย่างหนัก  โดยเฉพาะจากอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ที่พยายามล็อบบี้ ส.ส.ในพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงขั้วรัฐบาล  ซึ่งท่านถูกบีบคั้นมาก ท่านจึงจำเป็นต้องตัดสินใจหาทางแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด และเพื่อที่จะให้มีโอกาสได้ตั้งหลักและหายใจได้บ้าง"

     สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นไปอย่างเงียบเหงาเนื่องจากมีฝกตกลงมา จึงทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องหลบอยู่ภายในเต็นท์และใต้มุมตึกอาคารห้างร้าน ขณะที่บนเวทีปราศรัยทางแกนำ นปช.ได้มีการสลับผลัดเปลี่ยนขึ้นบนเวทีเพื่อกล่าวโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศความชัดเจนในประกาศวันยุบสภา
     นายณัฐวุฒิ  ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. แถลงภายหลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติเห็นด้วยกับแนวทางปรองดองตามที่นายอภิสิทธิ์เสนอว่า  เมื่อท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ออกเป็นเช่นนี้ นปช.พร้อมที่จะเริ่มต้นนับสองในกระบวนการหาทางออกเพื่อความปรองดอง และคิดว่าวันนี้แกนนำ นปช.จะมีการหารือกันถึงแนวทางที่จะนำไปสู่บทสรุปในการคลี่คลายสถานการณ์ แต่อาจยังไม่ข้อสรุปเบ็ดเสร็จในวันนี้ เพราะต้องใช้เวลา เช่นเดียวกับรัฐบาลที่จะมีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 7 พ.ค.

     เลขาธิการ  นปช.กล่าวว่า เรื่องการกำหนดวันยุบสภา แกนนำ นปช.ต้องมีการหารือกันว่าเรื่องนี้จะมีความจำเป็นที่ต้องมีการกำหนดวันที่แน่นอนหรือไม่ ถ้ารัฐบาลมีเหตุผลและอธิบายเรื่องนี้อย่างไรก็ว่ามา ทางแกนนำ นปช.จะได้มีการนำไปหารือกัน

      ขณะที่  พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวิตผ่าน twitter ในชื่อ @thaksinlive เมื่อเวลา 15.25 น. ที่ผ่านมาว่า "มีประเด็นว่าการปรองดองทำไม่ได้ เพราะต้องมาถามผม ก็ขอพูดชัดๆ ว่าผมเรียกร้องให้เกิดความปรองดองมานานแล้วตั้งแต่มีการปฏิวัติใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง

     จนถึงปัจจุบันก็ยืนยันอยากให้เกิด  ยิ่งเรียกร้องผมก็ยิ่งถูกรังแกมาตลอด แต่ไม่เคยเปลี่ยนใจ  แต่จะปรองดองได้อย่างไรก็ต้องคุยกับแกนนำเสื้อแดงโดยตรง ผมมีเพียงแค่ให้คำปรึกษาที่จะให้เกิดความปรองดอง  ที่มีความตั้งใจจริงและจริงใจต่ออนาคตประเทศ ไม่ใช่คอยเอารัดเอาเปรียบกัน

     ส่วนความไม่ยุติธรรมที่ผมและพี่น้องที่ถูกฆ่าถูกทำร้าย ถ้าไม่สามารถแสวงหาความเป็นธรรมในประเทศได้ เราก็จะขอใช้เวทีโลกต่อสู้จนกว่าความเป็นธรรมจะเกิด ไม่มีคำว่ายอมแพ้ครับ"
     ที่บ้านพระอาทิตย์  แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) อาทิ พล.ต.จำลอง  ศรีเมือง, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายพิภพ ธงไชย, นายสำราญ รอดเพชร, นายศิริชัย ไม้งาม, นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง, นางมาลีรัตน์ แก้วก่า, นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงาน และนายปานเทพ พัวพงศ์พันธ์ โฆษกฯ ร่วมกันออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 9 ประณามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในการปรองดองกับขบวนการก่อการร้ายของรัฐไทยใหม่

     พล.ต.จำลองยืนยันว่า การออกมาของพันธมิตรฯ ไม่ได้ไล่นายอภิสิทธิ์ แต่เผื่อไว้ว่าถ้าไม่ฟังความเห็นกันก็ควรที่จะลาออกไป ซึ่งพันธมิตรฯ เองก็ยังไม่ได้คิดว่าจะเอาใครมาเป็นนายกฯ แทน แต่ตนเห็นว่าเมื่อดำรงตำแหน่งแล้วประเทศชาติล้มเหลวก็ต้องออกไป ยืนยันว่ารัฐจะต้องปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งต้องยอมรับว่าหลังจากที่นายกฯ ประกาศแผนดังกล่าว ทำให้ทหารหมดกำลังใจลงไปมาก และไม่พร้อมที่จะออกไปจัดการ เพราะนายกฯ ทำอะไรแบบกล้าๆ กลัวๆ

     ด้านนายสมศักดิ์กล่าวว่า รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่กลับปล่อยให้มีการละเมิดกฎหมายอย่างชัดเจน แล้วอยู่ๆ จะมาปรองดองเจรจาลับๆ ระหว่างตัวแทน พ.ต.ท.ทักษิณและตัวแทนของรัฐโดยจะมานิรโทษกรรมทางการเมือง เป็นการปล่อยปละละเลย จึงขอให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมาย


ปัดเอี่ยวการเมืองใหม่

     "ถ้านายกฯ  ยอมปรองดองกับขบวนการติดอาวุธ อีกหน่อยก็คงมีคนติดอาวุธมาชุมนุมเรียกร้องได้ทั้งนั้น  ซึ่งอะไรที่เป็นเรื่องผิดกฎหมายนี่ต้องจัดการ" นายสมศักดิ์กล่าว และว่า ข้อเสนอดังกล่าวนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งพรรคพร้อมที่จะลงเลือกตั้งเสมอ

     ส่วนนายพิภพกล่าวว่า ขณะนี้นายกฯ กำลังทิ้งประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาลมาตลอดเพื่อสู้กับระบอบทักษิณ อยู่ๆ นายกฯ กลับมาปรองดอง ซึ่งแผนปรองดองแห่งชาติในข้อ 1-4 นั้น เป็นสิ่งที่ควรทำมาตั้งแต่สมัยจัดตั้งรัฐบาลแล้วก็ไม่ทำ ตนเชื่อว่าตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 14 พ.ย. ก็จะไม่สามารถทำได้ เพราะปัญหาต้องแก้ไขระยะยาว 

     "นี่เป็นเพียงแค่คำประกาศที่สวยหรู ส่วนในข้อ 5 นั้น ดูเหมือนว่ามีการตกลงระหว่างรัฐบาลและพรรคพวกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นใจความทั้งหมดของข้อตกลงในการนิรโทษกรรม นายกฯ  จะต้องชี้แจงและอธิบายให้ชัดเจนว่า เป็นข้อตกลงในการเจรจาลับหรือไม่" แกนนำ พธม.ผู้นี้กล่าว

     นายสุริยะใสกล่าวว่า ขณะนี้พันธมิตรฯ ยังไม่กำหนดเวลาเพื่อรอคำตอบของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งการประณามนายกฯ ในครั้งนี้ก็ถือเป็นเรื่องรุนแรงที่สุดแล้วสำหรับรัฐบาลชุดนี้

     สำหรับแถลงการณ์  พธม.มีทั้งสิ้น 6 ข้อ มีสาระสำคัญว่า รัฐบาลจะต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ มิใช่ไปเจรจาปรองดองยอมจำนนกับขบวนการก่อการร้ายของรัฐไทยใหม่อยู่ในขณะนี้ การประกาศว่าจะให้ยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พ.ย.นั้น ถือเป็นการทำลายกระบวนการปฏิรูปประเทศและทำลายกระบวนการยุติธรรมหลักนิติรัฐอย่างย่อยยับ   

     ทำให้นักการเมืองจะสนใจแต่การแย่งชิงอำนาจในการเลือกตั้ง ทำให้ข้าราชการจะไม่ทำหน้าที่ในการเอาคนทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองมาลงโทษ ทั้งกลุ่มอันธพาลทางการเมืองที่ติดอาวุธ ขบวนการก่อการร้าย และขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ขบวนการสื่อการเมืองเพื่อโค่นล้มอำนาจฝ่ายตรงกันข้าม จะทำให้บรรยากาศนับตั้งแต่วันประกาศวันยุบสภา วันเลือกตั้ง และหลังการเลือกตั้ง จะกลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ไร้ขื่อแป

     หลังท่าทีของ พธม.ออกมาเช่นนี้ ทำให้คนเสื้อแดงต้องรอดูท่าทีนายกฯ อีกครั้ง โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.แถลงว่า แต่เดิมแกนนำ นปช.มีแผนที่ประชุมกันวันนี้ เพราะคิดว่ารัฐบาลจะนับหนึ่งเสร็จ แต่ทว่ามีการคัดค้านของกลุ่ม พธม. ถึงขั้นที่นายอภิสิทธิ์ต้องเชิญเข้าพบเช่นเดียวกับกลุ่มคนเสื้อหลากสีและพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้การประชุมของเราต้องขยับออกไปอีกอย่างน้อย  1 วัน เพราะนายกฯ ยังนับหนึ่งไม่เสร็จ เมื่อท่าทีของรัฐบาลยังไม่ชัดเจน สิ่งที่เราทำคือรอต่อไปเพื่อให้นายกฯ ไปทำความเข้าใจกับหลายฝ่ายในส่วนของรัฐบาลก่อนที่จะมาเริ่มต้นกระบวนการของเราต่อไป

     นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า หากต้องการให้ทุกอย่างยุติลงหลังกระบวนการของรัฐบาลกับคนเสื้อแดงเสร็จสิ้น  ก็ควรมีผู้ใหญ่สักคนเป็นคนกลาง แล้วให้พันธมิตรฯ นปช. พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และทุกพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงกองทัพ  จะต้องมาลงสัตยาบันร่วมกันว่าจะยอมรับผลการเลือกตั้งของประชาชน หากประชาชนเลือกพรรคการเมืองไหนก็ต้องให้สิทธิพรรคการเมืองนั้นบริหารประเทศ

     นายอริสมันต์  พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า หลังจากยุติการชุมนุม จะขอใช้ชีวิตส่วนตัวบ้าง โดยจะพาครอบครัวไปพักผ่อน พร้อมกับตั้งใจว่าขอลาอุปสมบทเป็นเวลา 19  วัน หลังจากไปบนไว้ที่วัดป่าเรไร จ.สุพรรณบุรี ไว้แล้วว่าหากการชุมนุมได้รับประชาธิปไตยจริงก็จะลาบวช และตนคาดว่าจะลงสมัคร ส.ส. แต่ขอเป็นระบบปาร์ตี้ลิสต์

ปูดแกนนำแดงถูกซื้อตัว

     การเปลี่ยนท่าทีมารับแผนปรองดองของคนเสื้อแดงนี้  แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยระบุว่า กระแสข่าวสะพัดว่าสามเกลอได้รับน้ำเลี้ยงจำนวนมากจากการชุมนุมในช่วง  2 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะยอดเงินบริจาคที่ไม่มีการแจ้งยอดหรือวัตถุประสงค์การใช้จ่าย จนสร้างความเคลือบแคลงใจให้กับแนวร่วมบางส่วน นอกจากหลายฝ่ายเห็นว่าช่วงหลังสามเกลอมีท่าทีเปลี่ยนไป แกนนำบางคนไม่มีอะไรมาก่อน แต่วันนี้เหมือนดินสู่ดาว

     และยังมีข่าวว่า ช่วงหลังมีแกนนำ นปช.บางรายถูกซื้อตัวจากฝ่ายรัฐบาล เพียงแต่รัฐบาลไม่ได้ซื้อโดยตรง อาจประสานผ่านทางพ่อค้านักธุรกิจ กลุ่มทุนขนาดใหญ่ เห็นได้จากก่อนการชุมนุมใหญ่แกนนำบางคนที่เคยเดินสายตรวจสอบการถือครองที่ดินขององคมนตรีและเครือข่ายอำมาตย์ รวมถึงกลุ่มทุน โดยพุ่งเป้าไปที่การรุกป่าใน จ.เลย ที่เกี่ยวพันกับบริษัทน้ำเมาชื่อดังและองคมนตรีบางคน แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป ไม่มีการตรวจสอบเหมือนกรณีการออกมาโจมตีกรณีการรุกที่เขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา และเขาสอยดาว จ.จันทบุรี

     นายสุรชัย  ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในคดียิงกลาโหมนั้นคุ้นหน้ากันมาก คนพวกนี้ได้เคยมาเสนอกับตนให้ใช้แนวการก่อวินาศกรรมหลังเวที ตนได้ตักเตือนไปว่ารับไม่ได้กับวิธีนี้  เมธีที่ถูกจับเขาก็ไม่ได้เข้าใจการต่อสู้ ทำไปโดยความรู้สึกของตัวเอง ได้มีการตักเตือนอยู่ตลอดเวลา ทำกันอย่างอิสระทั้งนั้น อย่างสุชาติ นาคบางไทร ที่โดนคดีหมิ่นตนยังเคยเตือน  ชูชีพ ตนยังเตือนแต่กลับถูกสวน มาเวลานี้อย่ามัวตั้งแง่ 3 เกลอแค่ต้องการอธิบายให้ประชาชนเพื่อหาทางลงให้ชัดๆ เท่านั้น หากยังเป็นเช่นนี้อยู่ต่อไป 3 เกลอจะนำพากันไปลงเหวเท่านั้นเอง

     เวลา  16.30 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำ พธม. พร้อมด้วยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ ได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ที่รัฐสภา โดยมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา คนสนิทนายกฯ และรัฐมนตรีคนอื่นเข้าร่วมหารือด้วย โดยใช้เวลาหารือกว่า 2 ชั่วโมง

     จากนั้น นายปานเทพกล่าวว่า ได้หารือถึงภาพรวมเพื่อชี้แจงในจุดยืนของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา โดยเฉพาะที่จะนำไปผูกกับการปฏิรูปประเทศ ซึ่งนายกฯ ได้ยืนยันแล้วว่าจะยึดถือคำพูดเดิมว่าจะไม่มีการนิรโทษกรรม หรือการจับมือเพื่อตั้งพรรคร่วมรัฐบาล จะยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก

     อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่าการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไปนั้นคงต้องขอมติภายในกลุ่มพันธมิตรฯ อีกครั้ง เรายังคงยืนยันขอให้นายกฯ ทบทวนกรอบเวลาและกระบวนการที่จะไปเจรจากับกลุ่มที่มีปัญหา รวมถึงเรื่องการเจรจาในผลประโยชน์ของนักการเมืองกันเอง ซึ่งนายกฯ ได้ยืนยันว่าจะไม่แก้รัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดให้ฝ่ายใดทั้งสิ้น

     ด้านนายพิภพกล่าวว่า  ที่มาวันนี้ไม่ใช่มาเจรจา แต่มาเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นทั้งสองฝ่าย เคารพความเห็นซึ่งกันและกัน นายกฯ ไม่ได้ก้าวก่ายความเห็นของพันธมิตรฯ เพียงแต่เรามาขยายความถึงความกังวลใจ

     ด้านนายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า  ส่วนที่มีการแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมเพราะหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯ ออกแถลงการณ์ในวันนี้นั้น ตนคิดว่าบางครั้งมันอยู่บนข้อมูลที่คลาดเคลื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าแผนปรองดองเขียนไว้ว่าอย่างไร และสำคัญกว่านั้นคือ ตนมีเจตนาอะไรในการเสนอแผนนี้ จึงมีการแลกเปลี่ยนกัน และคิดว่ากลุ่มพันธมิตรฯ คงเข้าใจมากขึ้น

     "ในส่วนของผู้ชุมนุมนั้น  ผมคิดว่าไม่มีประเด็นใดๆ เพิ่มเติมแล้ว เพราะผมสร้างความชัดเจนไปแล้ว และวันนี้ผมตอบกระทู้ของพรรคฝ่ายค้านที่ตอบชัดเจนแล้ว  และหวังว่าหากเข้าสู่กระบวนการปรองดองจริงต้องยุติการชุมนุมโดยเร็ว"

     เมื่อถามว่า ตอนนี้สถานการณ์ชุมนุมอาจยืดเยื้อแล้วและใกล้ถึงวันที่ 15 พ.ค.ตามที่แกนนำ นปช.ประกาศมอบตัวนั้น รัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายก่อนหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า วันที่ 15 พ.ค.มันนานไปแล้ว เมื่อใดที่ชัดเจนว่าไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกระบวนการนั้น ตนจะถือว่าการที่ตนเสนอเรื่องยุบสภานั้นเป็นอันยกเลิกไป และตนก็ทำในส่วนอื่นๆ ของโรดแม็พ 5 ข้อ และการบังคับใช้กฎหมายก็เดินต่อไป

     ถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าที่เสื้อแดงประวิงเวลาในขณะนี้ เพราะต้องการขนอาวุธสงครามออกจากพื้นที่ชุมนุม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจอยู่ ฉะนั้นเรื่องอาวุธอย่างไรก็ต้องถูกตรวจ

     นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี กล่าวว่า การยุบสภาในเวลาอันรวดเร็วภายใต้แรงกดดันของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง สิ่งที่คณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เสนอมาทั้ง 6 ข้อนั้นล้วนแต่เป็นประโยชน์ของนักการเมืองทั้งสิ้น ส่วนคนเสื้อแดงขาดความชอบธรรมที่จะมากำหนดอะไร   เพราะคนที่ทำผิดกฎหมาย การเสนอยุบสภาเพียงต้องการได้อำนาจคืนมา เพื่อถ่ายโทษให้ทักษิณเท่านั้น ไม่อยากให้นายกฯ ทำตามความต้องการของคนที่ทำผิดกฎหมาย และไม่ทราบว่าที่นายกฯ ประกาศยุบสภาในเวลาอันรวดเร็วเป็นการฮั้วกับกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่

     ที่เวทีราชประสงค์ ช่วงค่ำมีการขึ้นเวทีปราศรัยของแกนนำ นปช.ที่น่าสนใจคือนายนิสิต สินธุไพร ประธานโรงเรียน นปช. กล่าวว่า นับจากนี้เสื้อแดงได้ทำโครงการ 1 ตำบล 1 รถปิกอัพ ขึ้นเพื่อให้คนเสื้อแดงจากแต่ละหมู่บ้านตำบลมาร่วมชุมนุมที่ราชประสงค์อย่างต่อเนื่องไม่เลิกจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องวันยุบสภา พร้อมกับให้ทุกหมู่บ้านคนเสื้อแดงทำผ้าป่าระดมทุนคนเสื้อแดง โดยในวันศุกร์ที่ 7 พ.ค.นี้จะเริ่มจากขอนแก่นที่จะมีรถปิกอัพ 500 คันแล่นเข้าราชประสงค์ในเวลา 11.00 น.เป็นแห่งแรก เรียกว่า "ขอนแก่นโมเดล" จากนั้นจะตามด้วยจังหวัดต่างๆ เช่น อุดรธานี ร้อยเอ็ด

     มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้การเจรจาระหว่างแกนนำเสื้อแดงกับฝ่ายรัฐบาลมีความพยายามประสานงานกันมาตลอดหลังจากการเปิดโต๊ะเจรจารอบสองล้มไป โดยก่อนหน้าที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะแถลงโรดแม็พเมื่อกลางดึกวันที่ 3 พ.ค.53  ฝ่ายเสื้อแดงมอบหมายการเจรจาให้กับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รวมถึงทีมงานการเมืองของ พล.อ.ชวลิต ที่ทำการเจรจากับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ อย่างต่อเนื่องถึงกรอบข้อตกลงต่างๆ  โดย พล.อ.ชวลิตและ พ.อ.อภิวันท์จะแจ้งความคืบหน้าให้กับนายวีระ มุสิกพงศ์ เป็นหลัก แต่ช่วงหลังการเจรจาสะดุดลงชั่วคราวหลัง ศอฉ.มีการทำเอกสารแผนผังเครือข่ายล้มเจ้าที่มี พล.อ.ชวลิตรวมอยู่ด้วย ทำให้ พล.อ.ชวลิตและแกนนำเสื้อแดงไม่พอใจมาก และการเจรจาสะดุดลงไปช่วงหนึ่ง จนกระทั่งสุดท้ายนายอภิสิทธิ์ได้ออกโรดแม็พดังกล่าวออกมา

     ทั้งนี้ มีรายงานว่าในช่วงเย็นวันที่ 6 พ.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับแกนนำ นปช.บางคนเพื่อสอบถามท่าทีของแกนนำว่าจะเอาอย่างไร หากสลายการชุมนุมแล้วมวลชนคนเสื้อแดงจะเอาด้วยหรือไม่ โดย พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า ทุกอย่างให้แกนนำตัดสินใจได้เลย ขอเพียงการเจรจาทุกอย่างต้องชัดและเคลียร์ อย่าให้คลุมเคลือในข้อกฎหมายและเงื่อนเวลา เช่น ช่วงเวลาการยุบสภากับคดียุบพรรค และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมกับสอบถามเรื่องจำนวนผู้ชุมนุมว่ามีมากน้อยแค่ไหนในแต่ละวัน จนทำให้ในช่วงค่ำมีการผุดโครงการ 1 ตำบล 1 รถปิกอัพ.

http://www.thaipost.net/node/21876
      บันทึกการเข้า
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1901 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2553, 13:41:08 »

ด่วน !!! นายกตอบจดหมาย panwat แล้วครับ
จดหมายจากนายกรัฐมนตรี

หลังจากที่ผมได้เขียนจดหมายถึงนายยกไป 2 ฉบับ เหตุการณ์ต่างๆในแนวที่ทำให้บ้านเมืองมีปัญหา ก็ยังเกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่เวลานี้ล้วนหันมาให้ความรักและสงสารท่านนายกกันทั้งนั้นแล้ว โดยมี”กลุ่มเสื้อหลากสี”เป็นตัวอย่าง ที่แสดงตนอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนการบริหารประเทศของนายกอยู่ นอกจากนั้นแล้วยังหมี ”พรรคการเมืองใหม่” ก็สนับสนุนนายก ถึงแม้ว่าจะมีการตำหนิวิธีการบริหารงานของนายกอยู่บ้างแต่ก็ ” เป็นการติเพื่อก่อ” เพราะมีคำแนะนำไว้ด้วยเสมอ เรียกว่า “ติอย่างมีเหตุผล” ครับแต่ท่านก็ยังเงียบๆอยู่ดูเหมือนว่าท่านจะไม่มีที่ปรึกษาเอาเลยทั้งๆที่พรรคประชาธิปัตย์ก็มีขุนพลฝีมือทุกๆด้าน ล้วน”หัวหมอ” ทั้งนั้นในเวลาที่ท่านเป็นฝ่ายค้าน ฤว่า....ลูกพรรคของท่านไม่อยาก ”เอามือมาซุกหีบ” ? ในขณะที่ผมกำลังท้อ เกือบหมดแรงจะเชียร์ นายกก็ตอบจดหมายผมมาแล้วครับ ท่านนายกว่าอย่างนี้ครับ
 

กรมทหารราบ 11 รักษาพระองค์
28 เมษายน 2553
เรียน คุณพันวัตต์ ที่นับถือ

ก่อนอื่นผมและคณะรัฐบาลรวมทั้งทีมงาน ศอฉ.ทุกท่าน ขอขอบพระคุณที่ให้กำลังใจ และให้ความเชื่อมั่นต่อวิธีการแก้ปัญหาของผม ผมอยากเรียนว่า ในระหว่างเวลาที่ผมหายเงียบไปก็เพื่อ ทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้น ว่ามันเกิดขึ้นด้วยเหตุใด อีกทั้งเพื่อทบทวนบทบาทของผมเองว่า ผมบริหารผิดพลาดที่ตรงไหน ในที่สุดผมก็ได้รู้ถึงรากของปัญหาเหล่านั้นครับ ซึ่งตรงกับบางประการที่คุณพันวัตต์พูดไว้ในจดหมายฉบับที่ 1 และที่ 2 ผมจะสรุปเป็นข้อๆนะครับ
1.ในประเด็นเรื่องการใช้เครื่องมือ ผมทราบดีครับว่าเครื่องมือหลายชนิดมัน...................ทำงานไม่ได้ผล ...................................................... ผมจึงยอมทุกข์อยู่คนเดียว ที่ผมกล่าวว่าผมทุกข์ไม่น้อยกว่าท่าน “ท่าน”ก็คือ ”พี่น้องประชาชน” นะครับ ..................................................................................
2.ถ้าผมจะยุบสภาไปตอนนี้ก็ได้ครับเพราะการยุบสภาเป็นอำนาจของผม อีกอย่าง“ผมไม่เคยวางผลประโยชน์ตนเองเหนือกว่าผลประโยชน์ของประเทศ” แต่การยุบสภาต้องตอบคำถามให้ได้เสียก่อนว่า “สภาบกพร่องอะไรตรงไหน” ในขณะที่บางกลุ่มบอกให้ยุบสภาเพราะหลงรักคนๆเดียว กับกลุ่มที่บอกว่า “ไม่ยุบสภา” หรือ “จะยุบสภาไม่ถามกูก่อนหรือ” ขออภัยที่ใช้ “กู” เพราะเขาแสดงออกอย่างนั้นจริงๆ กลุ่มหลังนี้มีเหตุผล เป็นการสนับสนุนให้ผมอยู่ต่อไปเพื่อแก้ปัญหาส่วนรวม และเพื่อสถาบันสูงสุดที่คนไทยเคารพบูชาครับ “คุณพันวัตต์” เห็นด้วยกับกลุ่มไหนครับ
 

 

3.ผมเป็นสุภาพบุรุษพอครับ ที่จะไม่ฉวยโอกาส หรือใช้โอกาสทำร้ายประชาชนที่ไม้รู้อิโหน่อิเหน่ เพื่อกรุยทางเดินไปสู่ความชอบธรรม ซึ่งผมอยากจะเรียนคุณพันวัตต์ตามตรงเลยว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 ถ้านายกรัฐมนตรีไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ คนไทยที่มาร่วมกันชุมนุมจะบาดเจ็บล้มตายกันมากกว่านั้น เพราะมันมีบุคคลที่สาม (อาจจะสองครึ่งก็ได้) ผมไม่อยากจะฟันธงหรอกครับว่าเป็นกลุ่มเสื้อแดงเพราะคิดว่าพวกเขาอาจยังมีคุณธรรมปนอยู่บ้าง เป็นกลุ่มไหนนั้นผมก็ได้แถลงข่าวไปแล้วนะครับ “ผู้ก่อการร้าย” ผมจึงอยากให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ออกมาจากคนกลุ่มนั้นซะนะครับเพราะ “ ปัญหาของประเทศไม่ไช่เรื่องการเมืองล้วนๆ เสียทีเดียว แต่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและสิ่งที่เขาเรียกว่าปัญหาด้าน “ก่อการร้าย” ประเทศไทยต้องการมากกว่าการแก้ปัญหาในระยะสั้น เราจำเป็นต้องจัดการแก้ปัญหาทั้งหมดในเวลาเดียวกัน เมื่อพูดถึงเสถียรภาพที่ทุกคนอยากให้เกิดขึ้นมันจะต้องไม่ใช่ในระยะสั้น เพื่อรอคอยการเกิดปัญหาใหม่ ขึ้นมาแทนที่ปัญหาเดิมแบบซ้ำแล้วซ้ำอีก” และอีกเรื่องที่อยากจะเรียนให้เข้าใจคือ เรื่องการประกาศกฎอัยการศึกครับ เวลานี้ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอกครับ อีกอย่าง “กฎอัยการศึกจะต้องประกาศใช้โดยกองทัพ ไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของผม และตอนนี้กองทัพก็ยังไม่มีความประสงค์ที่จะประกาศใช้ จากที่ผมได้หารือกับกลุ่มบุคคล ที่มีหน้าที่รับผิดชอบและคนที่มีอำนาจในการสั่งการบริหาร “ไม่มีใครมีความประสงค์ที่จะประกาศใช้กฎอัยการศึกในเวลานี้”
 

สุดท้ายนี้ ผมอยากให้คุณพันวัตต์กับเพื่อนพ้องอดใจรอนะครับ ผมแก้ปัญหานี้ได้แน่นอนครับ และขอขอบคุณที่เชื่อมั่นในตัวผม และหวังว่าคุณจะสนับสนุนและไม่ทิ้งผมนะครับ

ด้วยความรักคุณและประชาชนชาวไทยทุกคน
อภิสิทธิ์
28 เมย.2553

****ปล.วันนี้ทหารเสียชีวิต 1 นาย ผมเสียใจมากครับ

 
 

      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #1902 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2553, 15:03:29 »

อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 พฤษภาคม 2553, 10:37:39
อ้างถึง
ข้อความของ weerapong_rx เมื่อ 05 พฤษภาคม 2553, 03:57:52
ติดตามอ่านอยู่นะครับ มาคอยดูซ้อมรำวงเพื่อเตรียมโชว์แขกบ้านแขกเมืองในงานบุญบั้งไฟเมืองยศ  หลั่นล้า
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 05 พฤษภาคม 2553, 07:33:30
Good morning ค่ะพี่แอ๊ะ...ตามอ่าน ตามชมค่ะพี่แอ๊ะ...ชอบพี่แอ๊ะใส่ชุดพอสว.จังค่ะ


น้องไข่มุกคะ

จัดรูปใส่เสื้อพอสว. ให้ค่ะ คือพี่แอ๊ะก่อนออกจากบ้าน

ถ้าใส่ฟอร์มแปลกๆ พี่หาญ แก มักจะจับ พี่แอ๊ะ ถ่ายรูปก่อนค่ะ

พี่ แกไม่เคยเห็นตุ๊กกตา 55555555555

ข่าวดี คือวันที่ 27พ.ค นี้ พี่แอ๊ะจะเข้าเฝ้า เจ้าฟ้าจุฬาภรณื เพื่อถวายเงิน สนับสนุนโครงการพอสว.

ท่านจะเสด็จมายโสธร อำนาจเจริญ และอุบล

จะให้ลูกสะใภ้เข้าเฝ้าด้วย แล้วจะส่งรูปมาให้ดูนะคะ


ดูรูปตุ๊กตาแก่อนนะจ๊ะ


สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ พี่หาญ พี่เหยง พี่หนุน พี่ป๋อง....
 ตุ๊กตาของพี่หมอหาญน่่ารักมากๆเลยค่ะ...รอชมภาพ27นี้ค่ะ...
ขอบคุณพี่เหยงค่ะรายงานข่าวเยี่ยมมากค่ะ...
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1903 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2553, 11:50:57 »

คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน ในวัน(นี้)เสาร์ที่ 8 พฤษภาคม 2553

"เส้นทางไทย" ที่ต้องมองไกลกว่าเรื่อง "สีเสื้อ"
เปลว สีเงิน 8 พฤษภาคม 2553 - 00:00

                  อืมมมม....ผมนึกว่ามีแต่ "หนุ่ม-สาวชาว FB" เท่านั้นที่ "ขัดใจ" กับการที่นายกฯ ไม่ใช้วิธี...ส่งทหารลุย แล้ว...ฆ่ามัน ในการสลายม็อบกบฏทักษิณ แต่ที่ไหนได้ คนเฒ่าชะแร-แก่ชรา อย่างพลตรีจำลอง ศรีเมือง และอีกหลายท่านในพันธมิตรฯ ก็จัดอยู่ในประเภท "วัยรุ่นเลือดร้อน" เหมือนกัน เลิกถือศีลหันมาถือสากแทนกันเป็นแถวๆ จึงเห็นการยุติปัญหาโดยไม่ต้องฆ่ากันของ "คนรุ่นใหม่" อย่างท่านนายกฯ กลายเป็นเรื่องของคน "ขลาดกลัว-อ่อนแอ" ไปโน่น!

                ผมเข้าใจละว่า "แกนนำกบฏ" สมควรตาย แต่เมื่อมันมีอะไรเป็นทางออกโดยไม่ตาย-ไม่ฆ่ากันย่อมดีกว่ามิใช่หรือ และการที่ไม่ฆ่า ไม่ลุยจับ แต่สามารถทะลวง "ท่อระบาย" ของบ้านเมืองให้น้ำไหลได้ตามปกติ แล้วมันไม่ดีตรงไหน?

            เรื่องใช้ความรุนแรง ต้องลุย ต้องจับ ต้องตายกันไปข้างนั้น ตอนพันธมิตรฯ ชุมนุม พวกเสื้อแดงก็ยุให้ตำรวจ-ทหารทำอย่างนี้ พวกท่านก็โกรธ ไม่ชอบ

            แล้วทำไมตอนนี้จึงเอาสิ่งที่ท่านไม่ชอบไปยุยง-ส่งเสริมให้นายกฯ อภิสิทธิ์-ให้ทหารไปทำอย่างนั้นกับพวกกบฏแดงเขาล่ะ ในเมื่อวิธีการก่อนถึง "มาตรการสุดท้าย" ยังมีให้เลือกใช้อยู่?

            ฆ่ามัน..ฆ่ามัน..แต่ถึงตอนเรา อย่าฆ่าเรา...อย่าฆ่าเรา!

            ขอเสียทีเถอะครับ เรารักวัดพระแก้ว รักในหลวง และสวดมนต์ก่อนนอน แล้ว "ใจพระ" ไม่พยาบาทปองร้ายเขา หายไปทางไหน การที่เราไม่ผูกเวรเขา ใช่ว่าเขาจะหลุดกรรมจากริยำที่เขาก่อ ใครทำกรรมใดไว้ ย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้น ฉะนั้น เราไม่ต้องแส่ไปทำหน้าที่ "แทนกรรม" หรอก

            เพราะกรรมนั้นจะสนองเขาเองตามต้นทุนบุญ-บาปที่เขามีมา เราอย่าเอาตัวเรา "คือใจ" ไปผูกเวรมาใส่กับตัวเราไว้เป็น "มรดกบาป" เลย การทำอย่างนั้นแหละที่เรียกว่า "เนื้อไม่ได้กิน หนังก็ไม่ได้รองนั่ง  แต่เอากระดูกมาแขวนคอ"

            เชื่อผมเถอะ ที่ผมพูดนี่มันไม่สะใจโก๋ ผมรู้..แต่ว่าถ้าเข้าใจ เราจะเหมือนกระจกใสรับแสง เจิดแจรง สุขทั้งกาย-สุขทั้งใจ ใครหนาว เราอุ่น ใครร้อน เราผ่อนคลาย ใครขุ่น เราใส ไม่ใช่ชั่วคราวนะ จะตลอดไปด้วย!

            เราอยู่กับปัจจุบันด้วยสติ เพื่ออนาคตที่ดีกว่ามิใช่หรือ?

            ถ้าใช่...ปล่อยให้กฎหมาย และการกระทำของเขาเป็นตัว "กำหนดชะตาชีวิต" พวกเขาเองเถิด การทำความเข้าใจกับพวกกบฏแดงในแนวทางนี้ อย่างนี้แหละที่เรียกว่า "ใจอุเบกขา" อันถูกต้อง

            คิดพูดแล้ว บอกแล้ว เขาไม่เชื่อ บอกว่านั่น...ทางนั้นมันทางนรก แต่เขาก็ดังทุรังจะไป ก็ต้องปล่อยให้เขาลงนรก-ตกเหวไปตามเวร-ตามกรรม "ตามทาง" ของเขาเอง!

            ผมดูราศี ดูโหงวเฮ้งแต่ละคนแล้ว "ไม่ตายดี" หรอก และท่านเชื่อผมอย่าง ม็อบจะสลายเพราะแผนปรองดองของนายกฯ อภิสิทธิ์ก็ดี หรือให้ทหารลุยจับ-แกนนำใช้อาวุธต่อสู้ ถูกยิงตาย สามารถสลายม็อบได้ด้วยวิธีนี้ก็ดี

            ทั้ง ๒ วิธีนี้ "เชื้อชั่วก็ไม่หมดไป" หมดจากเจ้ามูลแม้ว เดี๋ยวมันก็มีเจ้ามูลม้ง เจ้ามูลสุนัข หมุนเวียนเปลี่ยนกันมาอีก ทุกอย่างมันเกื้อซึ่งกันและกัน เพราะมีโจรหรอกจึงมีมะเขือเทศ ฉะนั้น มะเขือเทศควรจะกราบตีนคุณโจรเขาที่ให้อาชีพ เพราะมีพวกกบฏชิงบ้าน-ชิงเมืองหรอก จึงต้องมีแตงโม ฉะนั้น แตงโมก็ควรต้องกราบตีนพวกกบฏแดงเขา-ที่ให้งาน

            ดังว่านี้ แผนปรองดองก็แค่เพื่อใช้สลายม็อบให้บ้านเมืองเดินไปได้ อย่าไปหวัง-ไปคาดคั้นเอาสันติสุขนิรันดรจากท่านนายกฯ ขนาดนั้นเลย เห็นใจท่านเถอะ นึกกันหรือว่ามีอำนาจแล้วจะสั่งอะไรได้ทุกอย่าง นั่งหัวโต๊ะ ศอฉ.บางที ขี้มูกตัวอย่างยังสั่งไม่ออกเลย นี่ถ้าเป็นคนอื่นอ้วกแตกไปนานแล้ว ไม่อึด-ไม่ทนอย่างนายกฯ คนนี้หรอก

            นี่เพราะ "อีตัน" เขาหล่อดอกมาดีน่ะ!
            ศาลท่านสั่งแล้ว ให้ทำตามความจำเป็น เมื่อจะทำต้องทำตามหลักสากล จากหนักไปหาเบา แผนปรองดองของนายกฯ ก็เป็นอีกมาตรการหนึ่งที่เรียกได้ว่า "เบาไปหาหนัก" เมื่อถึงเวลาสมควรแล้วฝ่ายกบฏยังดื้อแพ่ง ตานี้ละ...มันเป็นความชอบธรรมอันประจักษ์ชัดที่ฝ่ายรัฐบาล และฝ่าย ศอฉ.

            จะ "หนัก" โดยไม่ต้อง "เบา" ได้ทันที!

            และต้องเข้าใจกันให้ชัดทั้งหัวหงอก หัวดำ และหัวเกรียน สมมุติว่า "กบฏแดง" หายไปจากท้องถนน ไม่ว่าจะในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด อันเป็นผลมาจากแผนปรองดองนี้ นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า "ความผิดทั้งมวล" อันเกิดขึ้นแล้วจะเจ๊ากันไป บรรดาหัวโจกทั้งหลายจะลากหางแดงขึ้นเครื่องบินไป "ดูใจ" แดงใหญ่ที่อยู่ได้ไม่เกินกรกฏานี้ โดยไม่มีคดีใดๆ ติดตัว

             เหมือนพวกท่านบรรดาแกนๆ พันธมิตรฯ ที่ไปยึดทำเนียบรัฐบาล-ยึดสนามบินนั่นแหละ ใช่ว่าเลิกชุมนุม เลิกอารยะขัดขืนอะไรแล้วคดีความจะเลิกไปด้วย แต่ละคนยังมีคดีสุมหัว-ติดตัวในวีรกรรมกู้ชาติกันอยู่มิใช่หรือ...พี่น้อง?

            ต่างกรรม-ต่างวาระ-ต่างเจตนา-ต่างพฤติกรรม นั่นก็ปล่อยให้ "กระบวนการกฎหมาย"  และ "กระบวนการยุติธรรม" ท่านวินิจฉัยกันไปตามครรลองการบริหาร-การปกครองบ้านเมืองอันมีอยู่เพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป ให้ใจร้อนกับเขา-แต่ใจเย็นกับเรา ไม่ดีหรอก...น่าเกลียด

            บ้านเมืองยุค "ทาสวัตถุ" ทุกวันนี้ คนเราเอาแต่ใจ เอาแต่อารมณ์ ไม่เอาสติ ไม่เอาเหตุ มุ่งแต่ผล และไม่เอาเขา จะเอาแต่เรากันตะพึดตะพือ อย่าว่าแต่ประเภทคนกินผักเลย ขนาดคนห่มเหลืองวันนี้ ยังถือสาก-สาดเลือด แทนศีล แถมซ้อนมอเตอร์ไซค์ชูธงแดงอีกตะหาก ใครอยู่ใกล้ๆ ช่วยถีบให้เป็นบุญตีนซักพลั่ก

            ผมนี้จะปิดทอง (ส้น) ตีนให้เลย!

            เห็นมั้ย...อย่าว่าแต่ระดับพวกเราชาวบ้านเลย ทุกวันนี้มันเลวกระทั่งซ่อนคราบในผ้าเหลืองขับเน้น "ภิกษุสันดานกา" อย่างที่เขาว่าให้เป็นประจักษ์ ดังนั้น ถ้าเอะอะ..ใครเลวต่อบ้านเมืองต้องฆ่าให้หมด ผมอยากจะถามว่า เราจะไม่ต้องฆ่ากันยิ่งกว่า "ทุ่งสังหาร" นับล้านศพที่เขมรหรือ?

            และ...แน่ใจนะว่า เราสามารถฆ่าคนเลวให้หมดทั้งประเทศได้ และที่เหลือจะไม่ใช่..ไม่เป็น..ไม่มีคนเลวหลงเป็นเชื้ออยู่เลย!?

            ผมกลัวอย่างเดียว ถ้ายึดแนว "คนเลวต้องฆ่าให้หมด" เผลอๆ เรามิต้อง......

            "ฆ่าตัวเอง" ด้วยหรือ?!

            ครับ..ช่วงนี้เป็นช่วง "หัวเลี้ยว-หัวต่อ" สังคมชาติ ผมบอกแล้วว่าประเทศไทยเราเข้าสู่กระบวนการ "ลอกคราบ" บนเส้นทางสายเปลี่ยนชนิด "พลิกหน้ามือ-เป็นหลังมือ" ในช่วง ๑๖-๑๘ ปีครึ่งนับต่อจากนี้แล้ว

            ฉะนั้น การณ์ทุกอย่าง อย่าเอามัน อย่าเอาสะใจ อย่าใช้  ราคะ-โทสะ-โมหะ พยาบาท-ปองร้าย นำหน้าสติชี้ขาดปัญหาในแต่ละขั้นตอน เมืองไทยขายอะไรกับต่างชาติเพื่อการท่องเที่ยว?

            ขายวัดพระแก้ว ขายศิลปวัฒนธรรม และที่โดดเด่น ขายความเป็นคนไทยใจดีมีศีล มีธรรม มีความเมตตาโอบอ้อมอารี ต่างรักสามัคคีเป็นพี่-เป็นน้องกัน

            แล้วนี่...อะไรกัน ขณะที่คนทั้งโลก ๖,๐๐๐ ล้านคน ๑๒,๐๐๐ ล้านลูกตาจ้องดูว่าคนไทยจะ "บริหารความขัดแย้ง" กันเองให้ลงตัวด้วยวิถีแห่งพุทธะให้สมกับเมืองพุทธแบบไหน อย่างไร?

            "อายุนายกฯ" ถือว่าเด็ก แต่ความรับผิดชอบท่าน "เป็นผู้ใหญ่" ไม่ฆ่ากัน แต่บ้านเมืองสงบได้ ทั่วโลกทึ่งและพอใจ หนอย..พวกโก๋แก่-โก๋หนุ่ม กลับบอกไม่สะใจ ที่ไม่เห็นตะกวดตะกายตึกลงมาดิ้นพราดๆ หางสั่นกระตุกๆ ก่อนตาย แปลกดีนิ!

            ผมอยากจะบอกอย่างที่ผมมองเห็น แต่อย่าดีกว่า เล่นไพ่แล้วดันจั่วมาหงายดูก่อนทุกใบ แล้วมันจะไปสนุกตรงไหน เผลอๆ จะถูก "ส้นที่มองไม่เห็น" หงายท้องไปก่อนซะด้วยซ้ำ
            มีนัย "จากข่าว" เมื่อวาน (๗ พ.ค.๕๓) อยู่ชิ้น ผมอยากจะลอกมาให้อ่าน ข่าวสั้นๆ ลองอ่านกันดูนะครับ.....

            พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.รับมอบเงินบริจาคช่วยเหลือทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจาก พล.ท.วิทยา ช่อวิเชียร เจ้ากรมแพทย์ทหาร  รวมเป็นเงิน ๑๖,๕๑๔,๐๐๑.๗๖ บาท โดยจะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปแจกจ่ายให้กับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และครอบครัวทหารที่เสียชีวิต ตามวัตถุประสงค์ผู้บริจาคต่อไป

                ทั้งนี้ เงินดังกล่าวเป็นเงินที่ประชาชนร่วมบริจาคให้กับ "สำนักงานมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ" รวมทั้งสิ้น ๘,๑๗๑ คน โดยบริจาคตั้งแต่วันที่ ๑๑ เมษายน-๒ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา

                ส่วนยอดเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น ๕๔๖ นาย กลับบ้านแล้ว ๒๒๕ นาย และเสียชีวิต ๖  นาย นอกจากนี้ยังมีประชาชนร่วมบริจาคอาหาร ดอกไม้ และเครื่องอุปโภค-บริโภคให้กับทหารด้วย

                ครับ..นี่คือมิติหนึ่ง พลิกหน้ามือ-เป็นหลังมือจากมิติ ๑๔ ตุลา มิติ ๖ ตุลา และมิติพฤษภาทมิฬ ที่ทหารต้อง "ถอดเครื่องแบบ" ก่อนออกจากกรม-กอง ทำไม "มหาประชาสังคม" จึงเต็มใจควักเงินสดๆ คนละบาท-สองบาท รวมแล้วกว่า ๑๖ ล้านบาท ไปมอบให้ "ทหาร" โดยไม่คิดอื่นใด ทั้งที่ "ภาพใหญ่" ของสถาบันทหารขณะนี้ช่วยให้บ้านเมืองสงบอย่างที่เขาหวังไม่ได้ (มากนัก)

                 แน่นะ โดยตรงคือ ซึ้งการทำหน้าที่ "ทหารเกณฑ์" ไอ้เณร "กู้ชาติ" แต่ภาพสะท้อนในมุมกลับที่ "ระบบรัฐ" รัฐบาล-ข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจ ต้องตระหนัก ชาวบ้านเริ่มหมดศรัทธา และเลิกฝากความหวังกับพวกท่านแล้ว และความ "รักบ้าน-รักเมือง" เป็นพลังขับเคลื่อนพวกเขาให้ออกมารวมกันเป็น "มหาประชาสังคม" แล้ว

                คนดี-แต่ไม่ทำอะไร นั่นก็ไม่มีความหมาย แต่ใคร...ทำ "เพื่อชาติ" ได้ วันนี้...มีความหมายที่ "มหาประชาสังคม" จะไม่ปล่อยให้ "วีรบุรุษไร้เหรียญ" ต้องตายอย่าง "จ่าเพียร" อีกแล้ว.    
 

http://www.thaipost.net/news/080510/21916
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1904 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2553, 11:57:58 »

บทบรรณาธิการ นสพ แนวหน้า ออนไลน์ วันนี้ (8 พ.ค. 53)

บทบรรณาธิการ
 
แผนการปฏิรูปประเทศไทย (บทบรรณาธิการ) 
 
 
 
 ปัญหาความแตกแยกทางการเมืองในประเทศไทยกำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายฝ่ายกำลังวิตกว่าน่าจะนำไปสู่กระบวนการที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นจนอาจจะนำไปสู่สงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบระหว่างประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว

 ฝ่ายหนึ่งก็คือกลุ่มประชาชนที่ต่อต้านระบอบทักษิณที่เกิดขึ้นมาโดยการกระทำของนายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีผู้หนีคดีอาญาและสมัครพรรคพวกที่เป็นนักการเมือง อีกฝ่ายก็คือกลุ่มประชาชนที่เป็นพวกของนายทักษิณซึ่งมีศูนย์รวมอำนาจอยู่ในพรรคการเมืองและกลุ่มคนเสื้อแดงหรือ นปช.

 ขณะนี้รัฐบาลใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้เสนอแผนโรดแม็ป5 ประการขึ้นมาให้สังคมทั้งหมดที่ประกอบด้วยประชาชนจากทุกฝ่ายทุกสาขาอาชีพได้ร่วมกันพิจารณาและเสนอความเห็นเพื่อนำไปสู่การจัดทำแผนการปฎิรูปประเทศไทยกันอย่างขนานใหญ่

 ถึงแม้ประเทศไทยจะมีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยมาแล้วเป็นระยะเวลาถึง 78 ปีแต่พัฒนาการทางด้านการเมืองของประเทศไทยกลับไม่ก้าวหน้ามากนักเพราะพฤติกรรมของนักการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติมีการทุจริตฉ้อราษฏร์โดยมุ่งถึงผลประโยชน์ของตนเองและพรรคพวกมากกว่าผลประโยชน์ของชาติ

 ด้วยเหตุผลดังกล่าวสังคมจึงได้มีการเสนอแผนการปฎิรูปประเทศไทยกันแบบยกเครื่องใหม่กันทั้งหมดโดยไม่นำเอาเฉพาะข้อเสนอเรื่องการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียวมาพิจารณาว่าใครผิดใครถูกแบบที่คนเสื้อแดงและนายทักษิณ ชินวัตรต้องการเพราะเป้าหมายของคนกลุ่มนี้และนายทักษิณนั้นต้องการอำนาจรัฐเท่านั้น

 ดังนั้นการเลือกตั้งใหม่จึงไม่ใช่ทางออกของประเทศไทยในวันนี้แต่ทางออกของประเทศที่ถูกต้องก็คือสังคมจะต้องยกเครื่องประเทศด้วยการปฎิรูปประเทศไทยใหม่ในทุกๆด้านทั้งด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจและด้านการเมือง

 หลักในการปฎิรูปประเทศไทยที่สำคัญน่าจะประกอบด้วยการพัฒนาประเทศอย่างบูรณาการไปด้วยกันทั้งสังคม เศรษฐกิจและการเมืองโดยให้คนในสังคมมีจิตสำนึกใหม่ไม่ยอมรับนักการเมืองขี้ฉ้อที่กอบโกยโกงกินงอีกต่อไป

 โดยนักการเมือง ข้าราชการประจำและประชาชนจะต้องมีธรรมาภิบาลในการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะในทุกภาคส่วน ซึ่งจะนำประเทศก้าวพ้นจากวงจรอุบาทว์ที่เกิดขึ้นจากนักการเมืองได้อย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างแท้จริง 
 
วันที่ 8/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=210264
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1905 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2553, 12:12:41 »

คอลัมม์ "ถูกทุกข้อ" ของ สามวา สองศอก

ผิดสองข้อ
ถูกทุกข้อ 8 พฤษภาคม 2553 - 00:00

 เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
     ในฐานะสมาชิกไทยโพสต์ได้อ่านและตรวจพบว่า หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ปีที่ 14 ฉบับที่ 4929 วันที่ 30 เมษายน 2553 มีข้อความในบทความซึ่งอาจจะบกพร่อง อาจทำให้ผู้อ่านเกิดความคลาดเคลื่อนและเข้าใจผิด จำนวน 2 บทความ
     1.บทความ หน้า 2 คอลัมน์ท่านขุนน้อย ลีลาแห่งหุบผากระบี่ ในวรรคแรกซึ่งเขียนไว้ว่า "กรุงศรีอยุธยาปี 2112" ความจริงควรจะแก้ไขเป็น "กรุงศรีอยุธยา 2310" ด้วยเหตุผลเมื่ออ่านรวมในวรรคที่ 1 ทั้งวรรคแล้ว กรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 ในปี 2310 (แตกครั้งแรกในปี 2112) เมื่ออ่านถึงความชัดเจนในวรรคถัดไป ถึงเนื้อความยืนยันสนับสนุนชี้ได้เลยว่า ต้องเป็นกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 ในปี 2310
     2.บทความ หน้า 4 คอลัมน์บทความพิเศษของ อ.เกษม จันทร์น้อย คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย วรรคที่ 5 "ตะวันตกมีประวัติการต่อสู้การปกครอง ที่ทำให้เกิดสหรัฐอเมริกาแผ่นดินใหม่...รบกันจนฝ่ายใต้ชนะ..."
     ในเรื่องความเป็นจริงในประวัติศาสตร์แล้ว ในสงครามกลางเมือง ฝ่ายเหนือรบชนะฝ่ายใต้ หรือฝ่ายใต้เป็นฝ่ายแพ้สงครามต่อฝ่ายเหนือ ข้อความต้องแก้เป็น รบกันจนฝ่ายใต้แพ้ หรือ รบกันจนฝ่ายเหนือชนะ
     นายพลแกรนท์ เป็นผู้นำกองทัพฝ่ายเหนือ ในขณะที่ นายพลลี เป็นผู้นำกองทัพฝ่ายใต้ ฝ่ายใต้นั้นยังมีสภาพ "สังคมเกษตรกรรม" อยู่ จึงอยากให้มีแรงงานทาสผิวดำทำงานไร่เกษตรกรรมต่อไป ส่วนฝ่ายเหนือนั้นมีสภาพที่พัฒนาไปเป็น "สังคมอุตสาหกรรม" ได้เร็วกว่า จึงไม่มีความจำเป็นและความต้องการกับการใช้แรงงานทาสอีกต่อไป สงครามกลางเมืองสหรัฐจึงเกิดขึ้นในสมัยของอับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา
     ถ้ายังไงท่านบรรณาธิการก็ช่วยพิจารณาด้วยถึงเรื่องความถูกต้อง ความเข้าใจดังกล่าว เพื่อให้สมาชิกไทยโพสต์ และคุณค่าของไทยโพสต์ดำรงอยู่ในสโลแกน อิสรภาพทางความคิด         

                                              ขอแสดงความนับถือ
                                                   พลโทณัฐพิพัฒน์ พิทักษ์ชาติ
                                  ผอ.สำนักงานตรวจกิจการส่งกำลังบำรุงทหารบก     
ตอบ พลโทณัฐพิพัฒน์
     หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ฉบับที่คุณอ้างถึงนั้น เป็นไทยโพสต์ปีที่ 14 ไม่ใช่ปีที่ 4 นะครับ เพราะเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2539
     หนังสือพิมพ์รายวันกับความผิดพลาดเป็นของคู่กัน จนคุณซูมแห่งไทยรัฐบอกว่าคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์รายวัน เป็นวรรณกรรมรีบเร่งที่ต้องแข่งกับเวลา ที่สำคัญคือบางครั้งต้องเขียนในขณะที่ในสมองว่างเปล่า

                ถ้าไร้แผ่นดินไม่สุข
เรียน คุณสามวา สองศอก
     อ่านข่าวพาดหัวใหญ่ในไทยโพสต์ ฉบับที่ 24 เมษายน 2553 "ถ้าไร้แผ่นดินไม่สุข" ฟ้าหญิงเตือนสติประชาชน เผยในหลวงทรงรู้ทุกเรื่อง แล้วได้แรงบันดาลใจเขียนบทความเรื่อง "เพราะสำนึกรักบ้านเกิด" รายละเอียดแนบมาพร้อมนี้

                     เพราะสำนึกรักบ้านเกิด
     แผ่นดินเกิดในห้วงนึกของผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนตามปกติ กับแผ่นดินแม่ในห้วงนึกของผู้ที่อยู่ต่างแดน อาจไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เพราะธรรมชาติของผู้อยู่ต่างแดนมีแนวโน้มที่จะย้อนกลับไปมองมาตุภูมิ มากกว่าบางคนที่รู้สึกจำเจในบ้านเมืองของตน
     แง่ต่างนี้ดูจะเป็นธรรมชาติของคนที่เห็นค่าของสิ่งที่ห่างหาย ได้มากกว่าความดีงามที่สัมผัสได้ตลอดเวลา แต่แล้งร้อนปีนี้ 10 เมษายน ภัยก่อการร้ายที่มีกองกำลังติดอาวุธลอบสังหารทหารประชาชน บนถนนราชดำเนิน ชวนให้รู้สึกสลดหดหู่ต่อผู้ที่มีเจตนาทำลายบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อหวังประโยชน์เฉพาะตน
     และหลังจากนั้น 22 เมษายน กองกำลังฝ่ายเสื้อแดงได้ยิงระเบิดสังหารประชาชนบนถนนสีลม เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นปฏิบัติการจองเวรต่อมาตุภูมิ กรรมนี้ย่อมเป็นตราบาปของผู้กระทำที่ตราตรึงคนไทยตลอดไป
     ระหว่างที่ฝ่ายรัฐดำเนินการต่อต้านขบวนการก่อการร้าย/กบฏของแผ่นดิน อยากให้ผู้ที่มีใจเป็นธรรมได้มองแง่งามของบ้านเกิดเมืองนอน ผ่านบทเพลงที่มีสำนึกทางประวัติศาสตร์ส่งผลปลุกสำนึกรักชาติ นั่นคือเพลงพระราชนิพนธ์แผ่นดินของเรา
          ถึงอยู่แคว้นใดไม่สุขสำราญ
     เหมือนอยู่บ้านเราชื่นฉ่ำค่ำเช้าสุขทวี
     ทรัพย์จากผืนดินสินจากนที
     มีสิทธิ์เสรีสันติครองเมือง
          เรามีป่าไม้อยู่สมบูรณ์       
     ไร่นาสดใสใต้ฟ้าเรือง
     โบราณสถานส่งนามประเทือง   
     เกียรติเมืองไทยขจรไปทั่วแดนไกล
          รักชาติของเราไว้เถิดผองไทย
     ผืนแผ่นแหลมทองรวมพี่รวมน้องด้วยกัน
     รักเกียรติรักวงศ์เสริมส่งสัมพันธ์
     ทูนเทิดเมืองไทยนั้นให้ยืนนาน
     ผู้ที่มีใจเป็นไทยได้สัมผัสเพลงพระราชนิพนธ์นี้แล้ว อาจนึกถึงความบางตอนจากเพลงบ้านเรา "...คำว่าไทยซึ้งใจเพราะใช่ทาสเขา ด้วยพระบารมีล้นเกล้าคุ้มเราร่มเย็นสุขสันต์..." (บ้านเราของชาลี อินทรวิจิตร และประสิทธิ์ พยอมยงศ์)
     ด้วยสำนึกรักไทยไม่ว่าจะอยู่แห่งหนตำบลใด ก็ยังระลึกถึงบ้านที่ร่มเย็น     
          "วิปโยคโศกใจเหมือนเมื่อไกลบ้าน
     ไกลสถานพักพิงยิ่งใจเหงา
     ห่างไกลหัวใจจำเศร้า
     เจ้าอยู่ดีเป็นไฉน
     พลัดที่พึ่งที่พิงทิ้งที่พำนัก
     ไกลที่รักพักพาจะอาศัย..."
               (ไกลบ้านของชาลี อินทรวิจิตร สมาน กาญจนะผลิน)
     ระหว่างที่แผ่นดินไทยเดือดด้วยไฟกบฏ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้ตรัสกับคนไทยในประเทศเยอรมนี (23 เม.ย.53) ความตอนหนึ่งว่า การปลูกฝังของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงสอนตลอดว่า
     "ถ้าไม่มีประชาชนก็ไม่มีพวกเรา เราเกิดมาเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน คนเขาเคารพกราบไหว้ ก็ควรทำประโยชน์ ทำตัวให้เหมาะสมกับที่เขาเคารพนับถือ ท่านสอนอย่างนี้เสมอ ข้าพเจ้าก็ทุ่มสุดตัวที่จะทำสำหรับประเทศไทย อะไรที่ดีกับไทยก็ทำ อยากให้ทุกท่านคิดเหมือนกันว่า อะไรที่ดีที่สุดสำหรับแผ่นดินแม่เราก็ควรทำ ถ้าไม่มีแผ่นดินไทย ไทยล่มสลายจะไม่มีใครมีความสุขได้เลย" (ไทยโพสต์ 24 เม.ย.53)
     "บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ
     ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า
     เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา
     หน้าที่เรารักษาสืบไป
          ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า
          จะได้มีพสุธาอาศัย
          อนาคตจะต้องมีประเทศไทย
          มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย...."
                     (เพลงพระราชนิพนธ์เราสู้)
     เพราะสำนึกรักบ้านเกิดจึงอดสูต่อคนไทยผลาญชาติ ที่แฝงตัวมาในรูปแบบต่างๆ โดยมีเจตนาที่แท้จริงคือทำลายประเทศไทยซึ่งมีรากที่มั่นคง แล้วสถาปนารัฐไทยใหม่ เพื่อหวังครองอำนาจต่อไปตามแนวทางของฝ่ายแดง โดยไม่ไยดีต่อความรู้สึกของมวลชน ซึ่งต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของประเทศชาติ ตามหลักการประชาธิปไตยแบบมาตรฐานสากล
     คนไทยที่รักสงบต้องร่วมกันต้านกบฏแดง เพื่อรักษาชาติที่ต้นตระกูลไทยใจท่านเหี้ยมหาญ รักษาดินแดนไทยไว้ให้ลูกหลาน
                                                       ขอแสดงความนับถือ
                                                      พ.อ.วัชระ วีระวงศ์
ตอบ พ.อ.วัชระ
     ขอชมว่าคุณมีความรู้ในเรื่องของเพลงพระราชนิพนธ์ และเข้าใจนำมาประยุกต์กับเหตุการณ์บ้านเมือง เพื่อให้กำลังใจคนไทยอีกหลายๆ คนที่กำลังรู้สึกท้อแท้ จดหมายฉบับต่อไปถ้าเขียนมาขอให้มีความยาวประมาณฉบับนี้ เพราะถ้ายาวเกินไปจะได้ลงเฉพาะบางส่วนเท่านั้น
                                                         สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/080510/21908
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1906 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2553, 19:20:39 »

"หม่ำ จ๊กมก"ร่วมเปิดบุญบั้งไฟโก้ยโสธร ไทยเทศแห่เที่ยวแน่น

8 พค. 2553 18:22 น.




นายพงษ์ศักดิ์ นาคประดา ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดงานบูชาพญาแถน แห่แหนบั้งไฟโบราณสืบสานประเพณีชมของดีเมืองยโสธร ประจำปี 2553 บริเวณถนนแจ้งสนิท หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองยโสธร โดยมีนายสฤษดิ์ ประดับศรี นายก อบจ.ยโสธร และนายเกรียงไกร พันธ์สายเชื้อ นายกเทศบาลเมืองยโสธรพร้อมหัวหน้าส่วนราชการ และชาวยโสธรร่วมงานกันเป็นจำนวนมากและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่มาร่วมชมงานอย่างคับคั่ง โดยจัดงานมาตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม เป็นต้นมา แต่ละวันมีการจัดมหกรรมอาหาร การแสดงของสถานศึกษาต่างๆ การประกวดกาพย์เซิ้งบั้งไฟ,การประกวดธิดาบั้งไฟโก้,การประกวดบั้งไฟสวยงามและการประกวดวงดนตรีสากล

การจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟปี 2553 ได้รับความสนใจจากประเทศเพื่อนบ้านที่ได้มาร่วมงานประเพณีบุญบั้งไฟด้วย เช่น สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และชาวเมืองชิชิบุ จังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ที่ลงนามเป็นเมืองคู่แฝดประเพณีบุญบั้งไฟกับจังหวัดยโสธรตั้งแต่ปี 2540 ได้นำคณะมาร่วมงานพร้อมทั้งนำช่างทำบั้งไฟญี่ปุ่นหรือบั้งไฟริวเซ มาสาธิตการทำให้ชาวยโสธรและนักท่องเที่ยวได้ชม และในงานยังได้รับความร่วมมือจากศิลปินตลกชื่อดัง หม่ำ จ๊กมก มาร่วมงานและสร้างสีสันความสนุกสนานให้กับผู้ร่วมชมงานอีกด้วย

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=447003
      บันทึกการเข้า
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #1907 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2553, 23:30:12 »

 
THANK
ขอบคุณฟ้า    ซึ่งโปรยมา  เป็นสายฝน
ขอบคุณคน    ซึ่งเห็นคน   เป็นคนเหมือน
ขอบคุณท่าน  ซึ่งเห็นใจ    ผู้มาเยือน
ขอบคุณเพื่อน เลิกตั้งหน้า เข็นฆ่ากัน
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1908 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553, 12:37:47 »

หม่ำเป็นศินปินคนหนึ่ง ทีไม่ลืม บ้านเกิดตัวเอง

 เเละสามารถนำความขี้เหร่ ของตัวเองไปสร้างฐานะได้



มีคนบอกว่าหมอต้น หล่อ แต่รูปนี้ หม่ำหลอ่ว่าตั้งเยอะ 55555555
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1909 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553, 12:39:37 »



งานกลางคืนค่ะพี่แอ๊ะ แต่งตัวเว่อมากเพราะต้องไปรำวง บนเวที อ่า

ในรูปมีพี่หาญ นายกอบจ  โยธาธิการจังหวัด (เป็นผู้หญิง)

และประธานสภา

และนักการเมืองท้องถิ่น
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1910 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553, 12:43:23 »

จะส่งรูปงานบั้งไฟ มาให้ดูตั้งแต่พีธีตอนเช้า

งานกลางคืนพี่แอ๊ะเป็นแม่งานจัดงานให้ชาวยโสธร

ชาวญี่ปุ่น ชาวสปป.ลาว ชาวเวียตนาม และนักท่องเที่ยวทั้งหลายค่ะ
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1911 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553, 12:44:34 »

ทีนี้ทำไงดี ห้องนี้เป้นห้องการเมืองซะแหล่วววววววว

ถ้าส่งรูปบั้งไฟกลัวเสียบรรยากาศ

อาจจะไปตั้งหัวข้อใหม่นะคะ

หรือเอายังไงกันคะ น้องพี่
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1912 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553, 12:49:28 »

หม่ำ จ๊กม๊ก ที่บ้านมีอาชีพ ขายไก่ในตลาดสด



ด้วยความยากจน หม่ำเข้ามากรุงเทพเป้นลูกจ้างในกองถ่ายหนัง

มีอยู่วันหนึ่งดาราตลกคนหนึ่งไม่มาในงานถ่ายหนัง

หม่ำเลยถูกให้เข้าไปเป็นตัวประกอบเเทน

ชีวิตหม่ำเลยได้เกิดใหม่ ณ บัดนั้น
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1913 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553, 12:58:34 »



พิธีเปิดโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นปรธาน ปีนี้ไม่ได้เชิญรัฐมนตรีมาเพราะกลัวเสิ้แดง ปาอึ ค่ะ

      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1914 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553, 13:04:29 »

รูปงานเปิดตอนเช้าค่ะ


      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #1915 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553, 17:41:34 »

มาติดตามชม ครับ ...


น้องหมอต้น สมาร์ท ครับพี่แอ๊ะ ...
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1916 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553, 20:05:34 »

อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 09 พฤษภาคม 2553, 12:44:34
ทีนี้ทำไงดี ห้องนี้เป้นห้องการเมืองซะแหล่วววววววว

ถ้าส่งรูปบั้งไฟกลัวเสียบรรยากาศ

อาจจะไปตั้งหัวข้อใหม่นะคะ

หรือเอายังไงกันคะ น้องพี่


พี่แอีะครับ

พักรบกับเสื้อแดงก็ได้ครับ ด้วยการนำความบันเทิงเข้ามากล่อมบ้าง

เดี๋ยวค่อยออกไปรบต่อ...ยังทัน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1917 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553, 20:07:12 »

อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 09 พฤษภาคม 2553, 12:43:23
จะส่งรูปงานบั้งไฟ มาให้ดูตั้งแต่พีธีตอนเช้า

งานกลางคืนพี่แอ๊ะเป็นแม่งานจัดงานให้ชาวยโสธร

ชาวญี่ปุ่น ชาวสปป.ลาว ชาวเวียตนาม และนักท่องเที่ยวทั้งหลายค่ะ


นายกฯ และเสื้อแดง ยังมีเวลาอีก 2 วันในการตัดสินใจ

พี่โพสต์ภาพงานบุญบั้งไฟได้ตามสะบาย ทุกคนรอชมครับ
      บันทึกการเข้า
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #1918 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553, 21:59:40 »



สวัสดีครับพี่แอ๊ะ พี่เหยง และพี่น้องทุกท่าน
เข้ามาตามข่าวครับ
ช่วงนี้ พักรบ อย่างท่ี่พี่เหยงว่าจริงๆ
แต่เมื่อวันศุกร์ ผมขึ้นไปโคราช มีรถเสื้แดงสวนมาเป็นพันคันเลยครับ
ต้องมีคนไม่อยากให้เรื่องจบดีๆแน่

พักฟังเรื่องบันเทิงจากพี่แอ๊ะบ้างก็ดี
เมืองยโสฯ มีของดีเยอะครับ


      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1919 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 08:41:42 »

บทบรรณาธิการ นสพ แนวหน้า ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม 2553

บทบรรณาธิการ 
 
รัฐต้องรีบจัดการกลุ่มก่อการร้าย (บทบรรณาธิการ)
 


     เหตุการณ์ขบวนการก่อการร้ายไม่ทราบฝ่ายใช้ปืนเอ็ม 16 กราดยิงใส่ผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อหลากสีและเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารซึ่งดูแลความสงบบริเวณย่ายสีลมเมื่อค่ำวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมาและในเวลาไล่เลี่ยกันก็ลอบยิงกระสุนระเบิดแบบเอ็ม 79 เข้าใส่ด่านตรวจของทหารและตำรวจบริเวณสวนลุมพินีซึ่งทั้งสองเหตุการทำให้มีตำรวจเสียชีวิต 2 นายและประชาชนตลอดจนเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจได้รับบาดเจ็บนับสิบคนถือเป็นเหตุการณ์ที่อุกอาจท้าทายอำนาจรัฐทั้งๆที่อยู่ในภาวะการประกาศพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

     ข้อน่าสังเกตก็คือ คนร้ายกล้าก่อเหตุอย่างอุกอาจทั้งๆที่มีด่านตรวจค้นของทหารและตำรวจอย่างเข้มงวดถึง 6 จุดรอบพื้นที่การชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงที่ย่านราชประสงคษ์สะท้อนให้เห็นข้อบกพร่องของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)ในการวางมาตรการตรวจตราอาวุธเพื่อป้องกันการก่อวินาศกรรมโดยกลุ่มก่อการร้าย

    นับตั้งแต่มีการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมาได้เกิดเหตุลอบก่อวินาศกรรมด้วยการยิงกระสุนระเบิดเอ็ม 79 การวางระเบิดแสวงเครื่องที่มีอานุภาพร้ายแรง เช่น ซีโฟร์ และการใช้อาวุธสงครามนานาชนิดจนเป็นเหตุให้มีประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิตไปแล้วเกือบ 30 รายบาดเจ็บอีกเกือบ 1,000 ราย

     ขณะที่เป้าหมายการก่อวินาศกรรมก่อนหน้านี้ล้วนเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ อาทิ เหตุการณ์ลอบวางระเบิดซีโฟร์เสาไฟฟ้าแรงสูง 4 เสาที่อำเภอบางประอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจนเกือบทำให้กระแสไฟฟ้าดับในหลายจังหวัดภาคกลาง การลอบยิงกระสุนระเบิดเอ็ม 79 ใส่คลังน้ำมันขนาดใหญ่ที่จังหวัดปทุมธานีจนหวิดเกิดโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงในประวัติศาสตร์ หรือการ ยิงกระสุนระเบิดเอ็ม 79 ยิงใส่รวมทั้งพยายามใช้ยางรถยนต์จำนวนมากขวางทางวิ่งของรถไฟฟ้าที่ย่านสีลม

    มีข้อน่าสังเกตว่าอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุร้ายของกลุ่มก่อการร้ายล้วนเป็นอาวุธประเภทเดียวกันที่ใช้ก่อเหตุมาแล้วหลายต่อหลายครั้งโดยเฉพาะกระสุนระเบิดเอ็ม 79 ทำให้น่าเชื่อว่ากลุ่มก่อการร้ายน่าจะเป็นขบวนการเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ไม่ว่ากลุ่มก่อการร้ายจะเป็นใครก็ตามถือเป็นแผนการอันชั่วร้ายที่พยายามทำทุกวิถีทางบ่อนทำลายประเทศชาติและขัดขวางแผนการสร้างความปรองดองเพียงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง

 ดังนั้นภาระหน้าที่เฉพาะหน้าที่สำคัญที่สุดขณะนี้ก็คือรัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องติดตามจับกุมขบวนการก่อการร้ายที่ก่อเหตุครั้งล่าสุด ให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อขยายผลไปสู่การขุดรากถอนโคนขบวนการก่อการร้ายทั้งระบบขั้นเด็ดขาด

    ขณะเดียวกันกลุ่มคนเสื้อแดงจะต้องแสดงความจริงใจในการสร้างบรรยากาศเพื่อนำไปสู่ความปรองดองด้วยการสลายการชุมนุมทันทีเพราะไม่อาจปฏิเสธได้ว่าในที่ชุมนุมม็อบคนเสื้อแดงมีการซุกซ่อนอาวุธร้ายแรงและมีกลุ่มก่อการร้ายอำพรางแฝงตัวอยู่ 
 
วันที่ 10/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=210469
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1920 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 08:43:50 »

บทบรรณาธิการของ นสพ ไทยโพสต์ออนไลน์

เรียนรู้เท่าทันความขัดแย้ง ปรองดองบนความเป็นจริง
บทบรรณาธิการ 10 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      มีทั้งเสียงสนับสนุนและคัดค้านแนวทางการคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองภายใต้กระบวนการปรองดองแห่งชาติ 5 หัวข้อของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความแตกต่างทางความคิดในกรณีดังกล่าว เชื่อได้ว่า ไม่มีใคร ไม่ว่าฝ่ายไหน ใส่เสื้อสีใดก็ตาม ปรารถนาอยากเห็นภาพความรุนแรง การเสียเลือดเสียเนื้อของคนไทยอีกต่อไป

     ภาระหนักจึงตกอยู่กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผู้นำเสนอแนวทางการปรองดองแห่งชาติในครั้งนี้อย่างหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้ โดยเฉพาะในประเด็นข้อระแวงสงสัยจากทุกฝ่ายว่า นี่เป็นหนทางการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หลอกให้ม็อบเสื้อแดงกลับบ้าน จากนั้นเมื่อสถานการณ์ปกติก็จะซื้อเวลา ปล่อยให้แถลงการณ์หรือประกาศสัญญิงสัญญาทั้งหลายมลายหายไปในรูปแบบที่มักเชื่อและกล่าวกันว่า "ไม่เป็นไร คนไทยลืมง่าย"

     แผนการสร้างความปรองดอง 5 ข้อ อันได้แก่ 1.เทิดทูนสถาบันกษัตริย์ ไม่ดึงมาเป็นเครื่องมือความขัดแย้งทางการเมือง 2.การปฏิรูปประเทศ เพื่อแก้ไขความขัดแย้งและสร้างความเป็นธรรม 3.สร้างสื่ออิสระ ไม่ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง 4.ต้องมีคณะกรรมการอิสระเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ และให้เกิดความเป็นจริงต่อสังคม และ 5.แก้ไขรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในทางปฏิบัตินั้น หากรัฐบาลมั่นใจว่าจะช่วยชาติได้ ก็สมควรต้องทำแผนให้เป็นรูปธรรมในการลงมือทำงาน มิเช่นนั้น ก็จะถูกตั้งข้อระแวงสงสัยตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหู รวมทั้งประเด็นข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลยอมให้เสื้อแดงขี่

      ทั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย  ทั้งกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ หรือ นปช. รวมทั้งกลุ่มคนเสื้อหลากสีที่มองต่างมุมจากรัฐบาลในประเด็นการปรองดอง มีข้อเสนอแนะต่างๆ มากมาย ซึ่งนับเป็นหน้าที่ของรัฐบาลจะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า แผนการปรองดองแห่งชาติไม่ใช่แค่ทางออกแก้ผ้าเอาหน้ารอด แต่เป็นความปรารถนาอยากเห็นประเทศไทยสมานฉันท์มีสุขภาวะที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง เพราะวันนี้มันนานเกินไปแล้วที่จะมาโทษกันและกันว่า ใครโหดเหี้ยม ใครไร้มนุษยธรรม ใครขี้ขลาด ใครเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว

     ถึงแม้โดยข้อเท็จจริง สังคมไทยไม่ควรยินยอมกับเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายนที่สะพานผ่านฟ้าฯ กรณีความรุนแรงที่ศาลาแดง จนถึงการล้มตายเมื่อคืนวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพราะฟ้องบอกถึงขบวนการละเมิดกฎหมาย ท้าทายความถูกต้องแห่งนิติรัฐ จนถึงกับมีการกล่าวว่าเป็นผู้ก่อการร้าย กบฏผู้ต้องการสร้างรัฐไทยใหม่ แต่ถ้าคนไทยยังคงหวาดระแวง มีอารมณ์แค้น และรู้สึกเพียงความเกลียดชัง ก็อาจทำให้พลาดพลั้งในการตัดสินใจที่เป็นอิสระและเป็นกลาง จนมองข้ามความเสียสละ ซึ่งน่าจะเป็นรากฐานสำคัญของความปรองดองสมานฉันท์ที่เราทุกคนปรารถนาอย่างยิ่งยวด

     วันนี้...แทนที่จะมัวตั้งคำถามด้วยความไม่ไว้วางใจว่า...แล้วเราจะปล่อยให้คนชั่วลอยนวลอย่างนั้นหรือ?!?...ทำไมถึงไปเจรจากับนักโทษ?!? เหตุใดทอดสะพานให้ลงแล้วยังปฏิเสธ??? ทำไมทุกฝ่ายไม่ลองแปลงความขัดแย้งทางความคิดนี้เป็นโอกาส โดยเฉพาะรัฐบาลรวมทั้งผู้มีหน้าที่ทุกฝ่าย  ต้องฉวยจังหวะความเหนื่อยหน่ายของสังคม เร่งรัดการสร้างความรู้ความเข้าใจและแก้ไขปัญหาวิกฤติบ้านเมือง ลงมือทำงานตามครรลองที่ควรจะเป็น เพราะมองข้ามความจริงไม่ได้เลยว่า ชุมชนเสื้อแดงบนถนนราชประสงค์สามารถมีอิทธิพล อำนาจ อยู่เหนือกฎหมายบ้านเมืองเป็นระยะเวลานาน 2 เดือนนั้น เป็นเพราะความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่มากไม่น้อยไปกว่าความรู้สึกถึงความไม่เท่าเทียมระหว่างชนท้องถิ่นและคนเมืองหลวง

     ถึงแม้อาจจะมีความเห็นที่คัดค้านว่า รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้เวลามากว่า 1 ปีแล้วในการบริหารประเทศหลังระบอบทักษิณถูกโค่นล้ม แต่ใยปัญหายังไม่หมดสิ้น ประเด็นปัญหาดังกล่าวก็ไม่ใช่เงื่อนไขที่รัฐบาลจะปัดความรับผิดชอบ หรือโยนไปเป็นบาปของกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพราะหากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์มีดีจะอวดจริง และไม่มีช่องโหว่ให้ใครเข้ามาโจมตีได้ คนเรือนหมื่น เรือนแสน กลางถนนราชดำเนินจนถึงถนนราชประสงค์คงไม่เกิดขึ้น ขวางหูขวางตา เป็นหนามบ่งชี้ความไม่เอาไหนของนิติรัฐอย่างแน่นอน

     ระหว่างการขอความเข้าใจ เรียกร้องความเห็นใจ ตลอดจนขู่ทั้งทางตรงและทางอ้อมว่า หากไม่ใช้วิธีการปรองดองเช่นนี้ บ้านเมืองก็คงไปไม่รอดนั้น รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็ต้องไม่ลืมเดินหน้าเร่งเครื่องกระทำการปรองดองให้ปรากฏออกมาจากแผ่นกระดาษเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ การเริ่มจากจัดการกับกลุ่มผู้เข่นฆ่าชีวิตประชาชน ด้วยการจับมาลงโทษตามกฎหมายนั้น น่าจะเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นได้ชัดเจนที่สุด เพราะคนไทยทนไม่ได้แล้วกับการตายรายวัน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุยว่ารู้ตัวผู้บงการและลงมือแล้ว แต่ไม่เคยจับมือใครดมได้สักคนเดียว.

http://www.thaipost.net/news/100510/21966
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1921 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 08:48:03 »

ใจเย็ลล์ล์ๆ...หายใจยาวว์ว์ๆ
ท่านขุนน้อย 10 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     จะเอาไงอีกล่ะทีนี้...ขนาดอุตส่าห์ไปตามหาเรือโนอาห์ ไปไล่ล่าผีเวียดนาม แถมยังเตลิดเปิดเปิง เลี้ยวไปดูจลาจลประเทศกรีซมาเป็นสัปดาห์ๆ แต่สุดท้าย...ไปๆ-มาๆ สถานการณ์ในบ้านเราก็ยังคงมั่วๆ มึนซ์ซ์ๆ อยู่อีกเช่นเดิม ไม่รู้ว่าโรดแม็พ เรดแม็พ หรือโรดมาร์ค ของท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเกิดประสิทธิผล ประสิทธิภาพ มากน้อยขนาดไหน หรือจะต้องอยู่ๆ กันไปแบบมั่วๆ มึนซ์ซ์ๆ โดยตลอด...Huh?

            --------------------------------------------

     เอาเป็นว่า...เมื่อมาถึงขั้นนี้ คงเลี่ยงไปทางอื่นไม่ได้อีกแล้ว เห็นทีจะต้องขออนุญาตแสดงความคิด ความเห็น ต่อความพยายามหาทางปรองดอง ของรัฐบาลกันไปตามสภาพ ซึ่งอาจพอสรุปได้ว่า...ไม่ว่าท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ ท่านจะมีเหตุผลกลใดก็ตาม ในการนำเสนอแผนโรดแม็พเอาไว้ ณ ช่วงนี้ แต่เหตุผลของท่านน่าจะมี น้ำหนัก อยู่พอประมาณ ไม่เช่นนั้น...มันคงไม่อาจทำให้ผู้คนในพรรคเดียวกันเอง อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยออกอาการหงุดหงิด เปรี้ยวเนื้อ เปรี้ยวตัว กันไปไม่น้อย เกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ หันมายอมรับต่อการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ในช่วงเวลาแค่ข้ามคืนเท่านั้นเอง...
            ---------------------------------------------

     โดยเฉพาะสมาชิกประเภทที่เป็นผู้หลัก-ผู้ใหญ่ในพรรค  อย่างเช่น ท่านอดีตนายกฯ พี่ชวน หลีกภัย ของเราก็ตาม ซึ่งย่อมเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า โอกาสจะไปเปลี่ยนความคิด ความอ่าน ของท่านนั้น...มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ!!! เพราะเป็นที่ทราบๆ กันมานานแล้วว่า โดย หลักการ ของ พี่ชวน นั้น ต้องเรียกว่า...ทั้งใหญ่ ทั้งยาว เอามากๆ ยิ่งกว่าข้าวหลามหนองมนไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า แถมยังแข็งโป๊กซะอีกต่างหาก ถ้าหากไม่เจอกับคำอธิบายที่ มีเหตุ มีผล มีน้ำหนักจริงๆ แล้วล่ะก็ รับรองว่าท่านคงไม่คิดจะหันรี หันขวาง หรือคิดจะกลับลำเอาง่ายๆ ไม่ต่างไปจากท่านอดีตหัวหน้าพรรค บัญญัติ บรรทัดฐาน หรือมวลสมาชิกกว่าครึ่งพรรค ที่สุดท้าย...ต่างหันมายอมรับต่อการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นเอกภาพ...

         ---------------------------------------------------

     แต่เหตุผลที่ว่านั้นจะเป็นอะไรกันแน่???...ในฐานะที่เราเองก็ไม่ใช่เป็นคนภายในพรรคประชาธิปัตย์ และก็ไม่ได้มีโอกาส ติดสอย ห้อยตามท่านนายกรัฐมนตรี แบบบรรดาพวกวอลเปเปอร์ทั้งหลาย โอกาสจะรับทราบความตื้นลึก หนาบาง ของรายละเอียด และความลึกซึ้งต่างๆ มันคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแน่ๆ ด้วยเหตุนี้ เราคงจะไปใช้แต่เฉพาะอารมณ์ ความรู้สึกล้วนๆ ในการกล่าวหา ด่าประณาม การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีในคราวนี้ มันน่าจะไม่ถึงกับถูกเรื่องกันซักเท่าไหร่นัก สู้อดทน รอคอย วันเวลา เก็บอาการหงุดหงิด อาการเปรี้ยวเท้า เอาไว้ซักพัก น่าจะเหมาะกว่าเป็นไหนๆ...

          -------------------------------------------------

     อย่างน้อยก็อุตส่าห์รอกันมาแล้วประมาณ 2 เดือนกว่าๆ...แล้วจะรอไปอีกซักอาทิตย์ สองอาทิตย์ มันคงไม่ถึงกับ หนักหนา สาหัส มากมายซักเท่าไหร่ เพราะโดยความเป็นไปของสถานการณ์ในแต่ละช่วง แต่ละระยะนั่นเอง ที่มันจะเป็นตัวแยกแยะ ความถูก ความผิด ในการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีได้ด้วยตัวของมันเอง ถึงจังหวะนั้น ถ้าหากมันถูกพิสูจน์ ยืนยัน ออกมาแล้วโดยชัดเจนว่า เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เป็นการยอมศิโรราบให้กับผู้ก่อการร้าย หรือ เป็นการขายผ้าเอาหน้ารอด ตัดช่องน้อยแต่พอตัวตามลำพัง ฯลฯ ก็ค่อยด่า ค่อยประณาม รุมเหยียบ รุมกระทืบกันอีกที ก็ไม่น่าจะถึงกับสายเกินไป...

         --------------------------------------------------

     เพราะยังไงๆ...ทั้งท่านนายกรัฐมนตรี ตลอดไปจนถึงทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ย่อมต้องรอให้เราได้เหยียบ ได้กระทืบ ได้รุมทึ้ง ในช่วงที่มีการเลือกตั้งอยู่แล้วแหงๆ ผิดท่า ผิดทาง ขึ้นมาเมื่อไหร่ หรือ ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ได้เป็นไปตามแนวคิดของนายกรัฐมนตรี ก็เอากันให้ถึงขั้นจมธรณี ชนิดแม่พระธรณีบีบมวยผมยังตามไปช่วยบิดไม่ได้ แต่ถ้าหากแต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง มันพอช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายลงไปได้บ้าง ช่วยลดความโหดเหี้ยม อำมหิต ความสยดสยอง พองขน หรือ แม้แต่ช่วยลดจำนวนผู้สูญเสียลงไปซักแค่ไม่กี่ชีวิต...ก็อาจถือเป็นบุญ เป็นกุศล คงพอได้
         ---------------------------------------------------

     อย่างไรก็ตาม...ภายใต้แผนโรดแม็พ ที่มีการกล่าวบรรยายถึง การปฏิรูป เอาไว้นานาชนิด ไม่ว่าการปฏิรูปความเหลื่อมล้ำทางสังคม ปฏิรูปสื่อ ปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ตลอดไปจนถึงกลไกทางการเมืองในแต่ละระดับ ฯลฯ แต่ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ได้ถูกพูดถึง หรือ ไม่ได้มีการนำเสนอเอาไว้ชัดๆ ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งที่น่าจะต้องถูกปฏิรูปเอามากๆ หรือกระทั่งปฏิวัติกันไปเลยก็ได้ นั่นก็คือ...การปฏิรูปกลไกของรัฐ หรือ การปฏิรูประบบราชการทั้งระบบ อันถือได้ว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่สุด ที่ทำให้กระบวนการบังคับใช้กฎหมาย...แทบเป็นไปไม่ได้ รวมถึง การปฏิรูปศีลธรรม ในหมู่ประชาชน ที่เป็นสาเหตุทำให้ไม่ว่าจะเป็นคนจน คนรวย คนในเมือง คนในชนบท...ล้วนแล้วแต่ เห็นแก่ตัว ไปด้วยกันทั้งสิ้น...
          ------------------------------------------------

     สรุปแล้วเอาเป็นว่า...ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ก็อย่าถึงกับไปสิ้นหวัง หมดหวัง ชนิดต้องตัดรอนน้ำใจ กับผู้ซึ่งยังคงพยายามแสดงออกถึงเจตนา ความมุ่งมั่น ในการแก้ปัญหาบ้านเมืองกันง่ายๆ โดยเฉพาะประเภทที่รักมาก-เกลียดมาก ว่าไปแล้ว...คงไม่น่าจะถูกเรื่องกันซักเท่าไหร่นัก เพราะไม่ถือเป็นการพิจารณาสิ่งต่างๆ อย่างมีสติ แต่เป็นการพิจารณาไปตามอารมณ์ซะมากกว่า โดยบุคลิกที่ออกไปทางเอวบาง ร่างน้อย พูดจาฉอเลาะ ระดับจับไม่ได้ไล่ไม่ติด อย่างท่านนายกรัฐมนตรีนั้น...อาจจะต้องหันมารักน้อยๆ แต่ขอให้รักนานๆ แบบเดียวกับคุณพี่ สายัณห์ สัญญา อะไรประมาณนั้น....ขอขอบคุณ คุณป้าจันทร์ ที่ได้ส่งเสื่อจันทบูรมาให้เป็นของขวัญ...สายัณห์ลองรับประทานแล้ว...หวานน์น์ม้ากก์ก์ก์...นี่...ต้องออกลูกนี้ถึงจะพออยู่ๆ กันได้...
          -------------------------------------------------

     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก สุภาษิตนิรนาม...จงอย่าโหมไฟให้ร้อนเพื่อเผาผลาญศัตรู...เพราะมันจะกลับมาไหม้ตัวท่านเอง...
          -------------------------------------------------

http://www.thaipost.net/news/100510/21978
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1922 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 08:58:19 »

บทเรียนราคาแพง
ถูกทุกข้อ 10 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     กลุ่มการเมืองทักษิณ...โกงกินชาติ
     กษัตริย์,ศาสน์ มันหวัง ล้างให้สิ้น
     เลือด,น้ำตาประชาราษฎร์ สาดแผ่นดิน
     กลุ่มทักษิณ เลือกตั้งใหม่ อย่าไปเลือก                   
          เจ็บนี้ ปวดนัก นะพี่น้อง
          ประเทศต้อง ยากแค้น ทั้งแก่นเปลือก
          ภาพพวกมัน ฆ่าเข่น คนเป็นเทือก
          ส.ใส่เกือก เลือกพลาด...ชาติจึงพัง
     เจ็บนี้ ปวดนัก นะพี่น้อง
     ไทยผุดผ่อง..หมองศรี ที่เลือกตั้ง
     พวกเอาเงิน เป็นเหยื่อ..อย่าเชื่อฟัง
     ไทยโด่งดัง เพราะไทยไร้สินบน.
                                 คนเมืองทอง 53

               ฝนตกคางคกร่าเริง                            
เรียน คุณสามวา สองศอก
     ฝนฟ้าก็เริ่มลงเม็ดแล้ว ช่วยบอกบรรดาเสื้อแดงให้รีบกลับไปบ้านเสียเถอะ ได้เวลาที่จะต้องไปทำนาแล้ว อย่ามามัวให้เขาหลอกอยู่ในเมืองกรุงเลย เดี๋ยวจะลงกล้าไม่ทัน เดี๋ยวจะไถกลบดินไม่ทันฝน แล้วก็จะกลับไปไม่ทันหน้านานะ รีบๆ กลับไปกันเถอะ ถ้าควายไม่มีก็ลองชวนเสื้อแดงข้างๆ นั่นแหละ ให้กลับไปด้วยกันสะดวกดีออก เพราะจะได้ไม่ต้องมามัวเสียเวลาเจาะจมูกให้ เพราะโดนสนตะพายมาเรียบร้อยแล้วไง
     เห็นคางคกแต่งตัวเต็มยศแล้วอยากทำความเคารพ โธ่..ดูท่านมีสง่าออก สมกับคนเคยเป็น ผบ.ทบ. สมกับที่ท่านเคยเป็น ผบ.สส. สมกับที่ท่านเคยเป็น ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยมาแล้ว สมกับที่ท่านเคยเป็นรองนายกฯ มาแล้ว สมกับท่านเคยเป็นหัวหน้าพรรคความหวังหมดมาแล้ว สมกับที่ท่านเคยเป็นรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย สมกับที่ท่านยอมเป็นประธานพรรคเพื่อไทย ยอมเป็นตัวชักศึกเข้าบ้าน เป็นตัวนำร่องให้กัมพูเจีย..
     ผมว่าคราวหน้าท่านคงเป็น อบจ.แล้วก็เป็น อบต.ที่สุดคงเป็นได้เพียงแค่ ผู้ใหญ่จิ๋ว ที่ห่าจิก เอาความจำไปจนหมดสิ้นกระมัง..

     โถจะแปดสิบอยู่แล้ว ยังมาทำเลื่อนเปื้อนอยู่ได้นะผู้ใหญ่ห่าจิก..
                                                            อำมาตย์กรุง
ตอบ คุณอำมาตย์กรุง
     ฝนตกขี้หมูไหล ช่วยกลับไปบ้านใครบ้านมันเถอะ

               อวสานประชาธิปัตย์  
เรียน คุณสามวา สองศอก
     รัฐบาลอภิสิทธิ์ในที่สุดก็แสดงถึงความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารประเทศชาติบ้านเมือง สร้างความผิดหวังแก่ประชาชนเป็นอันมาก เพราะไม่สามารถจัดการกับบรรดาลิ่วล้อเสื้อแดง บริวารของคนชั่วทักษิณ ชินวัตร ทั้งๆ ที่บรรดากบฏเสื้อแดงทำร้ายประเทศชาติประชาชน รัฐบาลอภิสิทธิ์ยังเฉยเมยไม่ทำอะไร

     เห็นข่าวโจรค้ายาบ้าที่ฆ่าตำรวจ 2 ศพ ตำรวจยังประกาศจับตาย แต่ลิ่วล้อเสื้อแดงฆ่าคนทั้งทหารและประชาชนไม่รู้กี่ศพ รัฐบาลก็ไม่กล้าทำอะไร สมควรแล้วที่คนทั้งประเทศก่นด่า แต่รัฐบาลก็ทำเป็นไม่ได้ยิน จะจัดให้เลือกตั้ง 14 พ.ย.53 ถ้าเลือกตั้งจริงรัฐบาลคงไม่ได้กลับมา และพวกที่จะได้กลับมาเป็นใหญ่ ก็คือบรรดาสมุนลิ่วล้อของคนชั่วทักษิณ ที่จะใช้เงินซื้อเสียงกลับเข้ามา พรรคประชาธิปัตย์คงจบอนาคตทางการเมือง ต่อจากนี้ไปคงไม่ได้เกิดอีก

     พวกทางภาคใต้ก็คงไม่เลือกต่อไป เพราะรัฐบาลไม่สามารถจัดการกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายเพียงเล็กน้อยในประเทศ ได้เหมือนกับเล่นเกมอะไรกันสักอย่าง โดยไม่แคร์ความรู้สึกประชาชน
     รัฐบาลนี้อ่อนแอคล้ายกับรัฐบาลสุรยุทธ์ ที่บันทึกไว้ว่าไม่ได้ทำอะไรเหมือนกัน เมื่ออยู่ในตำแหน่งอยู่ไปวันๆ จนเลือกตั้งแล้วพวกเลวร้ายก็กลับเข้ามาครองเมืองเหมือนเดิม 

     ความจริงเมื่อรัฐบาลอ่อนแอ คนชั่วทักษิณก็สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้อย่างง่ายดาย เพราะจะไม่มีใครทำอะไรได้ เพราะกฎหมายอ่อนแอกว่ากฎหมู่ ความจริงกฎหมายก็ไม่ได้อ่อนแอ อยู่ที่ตัวบุคคลผู้ใช้มากกว่า เลยทำให้ประเทศเป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

     รัฐบาลชุดนี้เก่งอย่าง คือการใช้งบประมาณกันอย่างมากมาย ทำเหมือนประเทศไทยผลิตน้ำมันได้เองร่ำรวยเหลือเกิน แต่น่าเศร้าใจสำหรับประชาชนคนไทย ไปลงนรกกันให้หมดคนเลวทั้ง
หลาย เอวัง
                                                       หัสสนัย สิงหวิริยะ
ตอบ คุณหัสสนัย
     อนาคตทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้อยู่ที่การเลือกตั้งวันที่ 14 พฤศจิกายน (ถ้ามีการเลือกตั้ง) แต่อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งยุบพรรค เว้นวรรคกรรมการบริหารพรรคหรือเปล่า

                         ผิดทุกข้อ
เรียน คุณสามวา สองศอก
     เกรงใจว่าคุณสามวา สองศอก จะต้องเปลี่ยนชื่อคอลัมน์ ที่กำลังได้รับความนิยมให้เป็นอย่างอื่น ก็เลยตกลงใจตั้งหัวข้อเรื่องมาว่า "ผิดทุกข้อ" เสียเอง คุณสามวา สองศอก จะได้ไม่ต้องหนักใจนะครับ

     ในยามที่บ้านเมืองนี้ตกอยู่ในสภาพไร้การควบคุมใดๆ อีกแล้ว เพราะแค่เพียงกลุ่มคนจำนวนสิบจำนวนร้อย ยังกล้ายืนขวางทางรถไฟที่บรรทุกรถถังของทหารมาตั้งหนึ่งกองพัน ที่สถานีรถไฟจังหวัดขอนแก่น เอาไว้ได้ถึงสองวันสองคืน แล้วต่อมาอีกกลุ่มหนึ่งก็ไปปิดประตูกองพัน ของตำรวจตระเวนชายแดนที่จังหวัดพิษณุโลก ไม่ให้เคลื่อนกำลังพลออกมาสมทบในกรุงเทพมหานคร ตรึงกำลัง มองหน้ากันอยู่ตั้งครึ่งค่อนวัน
     แล้วอาวุธสงครามระดับ M 79 ที่แม้แต่กองทัพไทยซึ่งเป็นคนสั่งมาไว้ใช้ในกองทัพเองแท้ๆ ยังไม่เคยจะได้ยกไปยิงไปสู้กับศัตรูของประเทศที่ไหนเลย แต่กลับมีใครก็ไม่รู้เอามายิงคนเล่นทั่วกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นที่คลังน้ำมัน ถนนราชดำเนิน ตลิ่งชัน และถนนสีลม
     โดยเฉพาะที่ถนนสีลม โดนเข้าไปวันเดียวแบบบึ้มๆ ถึงห้าครั้ง จนป่านนี้ไม่ทราบว่าฝ่ายพิสูจน์หลักฐานจะสเกตช์ภาพคนร้ายเสร็จหรือยัง และที่สนุกยิ่งกว่านั้นก็คือ แค่ระดับหัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์เท่านั้นยังสามารถสั่งตรวจค้นรถของชาวบ้าน และรถเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้แล้ว
     ไม่น่าเชื่อเลยว่านี่แหละประเทศไทยของเราวันนี้ ไม่ว่าใครอยากพูดอะไรอยากทำอะไรก็ทำได้ "ถูกทุกข้อ ถูกทุกคน"

     แต่ในบ้านนี้เมืองนี้ก็ยังมีสุภาพบุรุษที่น่าเห็นอกเห็นใจอยู่อีกสองท่าน ที่ต้องตกอยู่ในสถานะตรงกันข้ามกับคนอื่นๆ เขา คือไม่ว่าทั้งสองท่านนี้จะพูดอะไรหรือทำอะไร ก็ดูเหมือนว่าใครต่อใครก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ผิดทุกข้อ ผิดทุกเรื่อง"

     ท่านแรกก็คือท่านผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งพอท่านเห็นเหตุการณ์ยิงกันเมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา ท่านก็บอกว่าไม่เอาแล้ว ท่านจะไม่ให้ทหารของท่านออกมาตายอีกแล้ว "การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง"

     ท่านเผลอไปได้อย่างไรว่าเสียงปืนที่ยิงกันหูดับตับไหม้อยู่นั้นมันเป็นเรื่องการเมือง คงเป็นเพราะท่านเป็นทหารอยู่ในยุคธุรกิจการเมืองเฟื่องฟูมาโดยตลอด ว่างเว้นการศึกสงครามมานาน  ท่านจึงมองไม่ออกว่านี่มันสงครามชัดๆ ปืนก็ปืนจริง ระเบิดก็ระเบิดจริงนะครับ
     ส.ส.วันนี้ไม่มีใครเขาอยากเข้าสภาแล้วละครับท่าน เพราะเขาติดภารกิจกันทุกคน ต้องพาคนไปปิดถนนมิตรภาพบ้าง ปิดถนนวิภาวดีบ้าง บ้างก็ต้องไปเป็นแกนนำอยู่บนเวทีใหญ่ที่ราชประสงค์ บ้างก็ต้องพาคนไปล้อมศาลากลางจังหวัดของตัวเอง

     การเมืองที่ต้องแก้ด้วยการเมืองของท่านนั้น มันเลยมาไกลถึงไหนๆ แล้ว นี่มันก็คือการศึกสงครามแล้วครับท่าน ขณะนี้สิ่งที่ท่านต้องทำก็คือ ถ้าไม่คิดจะปฏิวัติรัฐประหาร ก็ต้องประกาศกฎอัยการศึกได้แล้ว และสุภาพบุรุษที่น่าเห็นใจอีกท่านหนึ่ง ก็คือท่านนายกรัฐมนตรีรูปหล่อของเรานั่นเอง "เราต้องทำกฎหมายให้เป็นกฎหมายให้ได้"

     นี่คือวาทะกลางกลิ่นดินปืนและควันระเบิดของท่าน ในวันที่ผู้รักษากฎหมายเขาไม่ได้รักษากฎหมายนานแล้ว

     คุณสามวา สองศอก และเพื่อนพี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่านครับ ยามสงบรัฐบาลท่านก็พยายามที่จะเก็บภาษีเราให้ได้เต็มที่เต็มอัตราเท่าที่จะเก็บได้ ครั้นพอถึงยามวิกฤติเภทภัยมีสงครามกลางบ้านกลางเมืองเกิดขึ้น ครั้นเราจะไปหวังพึ่งรัฐบาลท่านบ้าง ก็น่าเห็นใจยิ่งนัก เพราะรัฐบาลเองท่านก็แทบจะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว

     เราก็ต้องรู้หน้าที่ของเราในฐานะประชาชนที่ดี ก็ต้องยืนเคียงข้างท่าน คอยเป็นกำลังใจให้ท่าน เพื่อให้ท่านมีกำลังใจเป็นรัฐบาลให้เราต่อไป ไม่เช่นนั้นเราก็เลยจะพาลกลายเป็นพลเมืองของประเทศที่ไม่มีรัฐบาลไป ตัวเราก็ต้องดูแลปกป้องตัวเองและครอบครัวกันเอาเองนะครับ แล้วก็ต้องไม่ลืมออกมาร่วมกันปกป้องประเทศชาติของเราเอาไว้ด้วย

                                                          เล็ก เมืองเก่า
ตอบ คุณเล็ก เมืองเก่า
   

   จะถูกทุกข้อหรือผิดทุกข้อ พวกเราคนไทยก็ต้องช่วยกันประคับประคองให้บ้านเมืองอยู่รอดตลอดไป
                                                         สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/100510/21969
      บันทึกการเข้า
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1923 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 09:14:38 »

น้องหนุน21 คะ

สมัยก่อนยโสไม่มีอะไรเลย

มีคนอยากมาเที่ยวยโส เขาบอกว่าพาไปเที่ยวไหนได้บ้าง

พี่แอ๊ะบอกว่า พามาได้แห่งเดียว

คือมาดูหมอหาญค่ะ5555555555555
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1924 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 10:04:12 »

ซ้อมก่อนออกงานค่ะ



เนื้อเพลงรำวงมาตรฐานเพราะและมีความหมายถึงการเเสดงความรักชาติค่ะ

ท่านี้

ขวัญใจดอกไม้ของชาติ งามพิลาศนวยนาดรื่นเริง
.............

ชี้ชาติไทยเนาถิ่น เจริญวัฒนธรรม.....
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
  หน้า: 1 ... 75 76 [77] 78 79 ... 131   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><