บทความ คุณเปลว สีเงิน
บนเส้นทาง "ที่ชอบๆ" ของพลเอกอนุพงษ์เปลว สีเงิน 24 เมษายน 2553 - 00:00 ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วนะครับว่า "กองทัพ" จะเอายังไงกับกบฏทักษิณ หลังประชุมระดับบิ๊กกองทัพบกเสร็จวานนี้ (๒๓ เม.ย.๕๓) ผลการประชุมก็ถูกแถลงออกมาว่า "พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา" มอบนโยบาย "แหย-แอ๊บแบ๊ว-แต๋วแตก" ให้หน่วยกำลังไปปฏิบัติ คือ "อย่าปฏิบัติด้วยการใช้กำลังสลายชุมนุม" ด้วยเหตุผลว่า "ทำอย่างนั้นปัญหาก็ไม่จบ" แนวทางที่จะทำให้ปัญหาจบของท่านก็คือการให้ไป "สร้างความเข้าใจ" กับคนเสื้อแดง
ซ้า.....ธุ ท่านมหา!
เดือนเมษานี้ไม่นับ ก็นับจากเดือนพฤษภาคมไปจนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ก็ตก ๕ เดือน ปัญหาจบแน่ และจบล้านเปอร์เซ็นต์ด้วย
แต่เป็นล้านของท่านพลเอกอนุพงษ์คนเดียวนะครับ เพราะถึง ๓๐ กันยา ท่านก็ครบวาระเกษียณ บ๊าย..บาย..ปู๊น..ปู๊น..ในส่วนของความเป็นบ้านเมือง คงเลี่ยนเตียนโล่ง (แทบ) ไม่มีอะไรเหลือให้ต้องสลายแล้ว!?
คิดแล้วน่าขำ หรือน่าสมเพชเวทนานายกฯ อภิสิทธิ์ก็ไม่รู้นะ หลัง ๑๐ เมษา นายกฯ "แบ่งอำนาจ" ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากรองฯ สุเทพมาครึ่งหนึ่งให้กับพลเอกอนุพงษ์ "มีอำนาจเต็ม" ในด้านปฏิบัติการสลายม็อบ เพราะเหตุการณ์ ๑๐ เมษา ถือว่ารองฯ สุเทพทั้งพลาด และทั้งบกพร่อง คงด้วยไม่ประสากับการทหาร
จากวันนั้น ก็ ๗-๘ วันมาแล้ว ที่พลเอกอนุพงษ์รับหน้าที่ปราบกบฏไปนอนก่ายหน้าผากคิดแผน ก็คงคิดแบบสุขุมคัมภีรภาพชนิดที่มนุษย์สามัญยากหยั่งถึง ชาวบ้านพอจะอุ่นอก-อุ่นใจว่า "เอาละวะตานี้ ลูกพี่ใหญ่สั่งลุยแน่ จะปล่อยให้กบฏก่อการร้ายยึดบ้านเมืองไว้อย่างนี้ได้อย่างไรกัน อีกทั้งลูกน้องของท่านทั้งนายทหารและชั้นประทวนก็ถูกฆ่า นอนก่ายทั้งในเตียงและในหลุมศพเกลื่อนคาตาไปหมด"
วันก็แล้ว..สองวันก็แล้ว..สามวันก็แล้ว..กบฏแดงขยายตัวยึดพื้นที่เพิ่ม เสริมกำลังสร้างป้อมคูประตูรบ แต่ฝ่ายกองทัพก็ยังคง "ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว" ไม่ปฏิบัติการอะไร นอกจากส่งลูกน้องแต่งชุดออกศึกไปอวดสาวตามถนน
จนเมื่อคืนวานซืน...!
จาก ๑๐ เมษา ห่างมาอีก ๑๒ วัน ถึง ๒๒ เมษา กองกำลังกบฏทักษิณก็แสดงแสนยานุภาพยิงเอ็ม ๗๙ คราวเดียว ๔-๕ ลูก ไปตก ๓-๔ จุด ย่านสีลม ประชาชนทั้งไทย-ทั้งเทศเจ็บ-ตายได้รับทุกขเวทนากันถ้วนหน้าเป็นร้อย ท่ามกลางการยืนดูและตบมือ โห่ร้อง เกรียวกราวด้วยความชอบใจของกองกำลังฝ่ายกบฏทักษิณ
ก็เป็นที่น่าสังเกต นับตั้งแต่กบฏบ้าน-กบฏเมืองมาเป็นเดือน ชาวบ้าน-ทหารตายไปเป็นสิบ แต่ปรากฏว่า ลูกระเบิด หรือเอ็ม ๗๙ หรือแม้แต่ประทัดซักนัด ไม่เคยตกลงไปในวงชุมชุมกบฏทักษิณเลย!?
"หนุ่ม-สาวชาวเว็บไซต์" ทั้งหลาย เห็นทีภาระพิทักษ์ชาติครั้งนี้จะไม่พ้นบ่าพวกเราแล้ว มีความเห็นในประเด็นเช่นนี้อย่างไร ช่วยวิจัย-วิจารณ์ประกอบข้อมูลหน่อยก็ดี!
๒๒ เมษา เป็นคืนวันพฤหัสฯ เหมือนกับเย้ยคำนัดหมายพลเอกอนุพงษ์ที่นัดประชุมนายทหารหน่วยขึ้นตรงทั้งหมดที่กองทัพบกในวันรุ่งขึ้นคือวันศุกร์ที่ ๒๓ เมษา ผมก็คงเหมือนชาวบ้านทั้งหลาย นอนปวดแปลบแสบใจ และแอบหวังในใจว่า "ความชั่วช้า" ที่มันทำกับชาติ กับ
พี่น้องคนไทยร่วมชาติด้วยกันซ้ำๆ ซ้อนๆ อย่างนี้
เห็นทีในการประชุมครั้งนี้ พลเอกอนุพงษ์จะต้องมีแผน "ชัด-ปฏิบัติ-จบ" ออกมาเช็กบิลแน่นอน!
แล้วผลการประชุมที่ออกมา ก็...แน่นอนจริงๆ คือแน่นอนว่า "แหย-แอ๊บแบ๊ว-แต๋วแตก"
และ...ตายเปล่า!?
ให้ไปสร้างความเข้าใจ "สร้างกะใคร-เอาอะไรไปสร้าง?" พวกกบฏคาเมืองอยู่ตอนนี้มันโง่ไม่เข้าใจอะไร รอให้คนฉลาดอย่างพลเอกอนุพงษ์ "ศิษย์เอกสุนทรภู่" รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี ไปชี้แนะทางสว่างแห่งชีวิตให้พวกเขาอย่างนั้นหรือ?
การสร้างความเข้าใจน่ะ...ใช่ ไม่มีใครเถียง แต่นั่นมันนามธรรมทางจิตสำนึก ทางจิตวิญญาณ ต่อให้ถึงยุค "พระศรีอริยเมตตรัย" มาโปรด ก็ไม่มีทางทำให้ "บัวใต้น้ำ"ชูก้าน-บานดอกได้
แต่กับปัญหาเฉพาะหน้า ขณะนี้-เดี๋ยวนี้ อันเหมือนไฟกำลังไหม้บ้าน ที่พวกเสื้อแดงทักษิณอันมีตำรวจ-ทหาร-สมาชิกรัฐสภา-พ่อค้า-นายทุน บางคน-บางกลุ่ม ร่วมกระทำการกบฏอยู่
ท่าน ผบ.ทบ.เห็นว่า ควรสอนจริยธรรมและกฎหมายให้มือเพลิงเข้าใจ แล้วไฟที่กำลังไหม้บ้านมันจะดับไปเองงั้นหรือ ผมว่ามันไม่น่าใช่นะครับ เหมือนกับที่ท่านใช้วิธีให้กำลังพลแต่ละคนในกองทัพไปเคาะประตูบ้านทำความเข้าใจกับชาวบ้านเสื้อแดงนั่นแหละ?
ท่านลาพักร้อน "ก่อนเกษียณ" ไปดูใจเพื่อนรัก ที่พะงาบๆ อยู่ที่ดูไบดีกว่ามั้ย?
ได้ข่าวว่าอาการโคม่าหนัก ดาวคุณธรรม "เจ้าบ้าน" จะมาเข้าบ้านเขาที่ราศีมีนอยู่ในวันจันทร์ที่ ๒๖ นี้แล้ว และราหูเจ้าตัวในดวงเดิมก็ดันมาอยู่ในบ้านของดาวคุณธรรมล้ำเลิศเขาซะด้วย เหมือนโจรป่วยนอนรอพระสวด แถมเสาร์เล็ง และมีมฤตยูเสริม
ผมไม่อยากจะพูดอะไร บอกไว้นานแล้ว เสาร์รอบ ๓๐ ปีนี้ เป็นเสาร์ "รอบเช็กบิล" ใครทำดี มีพระช่วย ใครทำซวย ถึงขั้นม้วยมรณา!?
แต่อย่างที่บอก กบฏเสื้อแดงตอนนี้เขามองข้าม "ศพทักษิณ" ไปนานแล้ว อย่านึกว่าถ้าทักษิณสูญแล้ว ขบวนการกบฏจะเสื่อมสลาย ขบวนการของเขารุกคืบหน้าไปมากแล้วชนิด "ฟ้าก็ห้ามบ่ได้" ยิ่งทักษิณตายพวกเขายิ่งชอบ ไม่เชื่อลองไปถามคนชื่อจิ๋ว..จิ๋ว..ดูก็ได้ และตอนนี้ดาวกบฏของเขาก็เข้าเขตมีฤทธิ์เสียด้วย
ช่วงนี้-อภิสิทธิ์ไม่แพ้ ประเทศชาติไม่พัง แต่อีก ๒-๓ เดือนข้างหน้า บ้านเมืองต้องฝากไว้กับคุณธรรมประจำตัว-ประจำใจแต่ละคน ก็หมั่นสงบจิตสวดมนต์ภาวนา แผ่เมตตาบารมีกันให้มากเข้าไว้ สิ่งนี้ก็จะช่วยบ้านเมืองได้ ผมจะบอกให้สบายใจอย่างหนึ่ง ประเทศไทยนั้นจะยิ่งใหญ่ไพศาล มีแต่คนไม่ว่าชาติไหน-ภาษาไหนจะแย่งกันมาอยู่ มาเที่ยว มาลงทุน เรียกว่ารวยกันจนหัวหมุน แต่มีเงื่อนไขเดียวคือ
คนดี-มีศีลธรรมเท่านั้นจะคงอยู่ ส่วนพวกมารร้าย ลบหลู่สถาบัน โค่นบ้าน-ล้มเมือง จะต้องกลับไปอยู่ ณ ที่ซึ่งพวกเขาต้องไปอยู่ นั่นคือที่ "นรกขุมที่ ๘" อันเป็นขุมที่ลึกและร้ายแรงที่สุดอย่างที่เราเรียกกันว่า "อเวจีนรก" นั่นแหละ!
พลเอกอนุพงษ์ท่าน "ตัดช่องน้อยแต่พอตัว" ของท่านอย่างนั้น ถ้าผมเป็นนายกฯ อภิสิทธิ์ ก็จะช่วยส่งเสริมท่าน คืออนุญาตให้ท่านได้ลาพักร้อน "ก่อนเกษียณ" แล้วให้นายทหารที่เหมาะสม และเขาพร้อมที่จะบัญชาการดับไฟที่กำลังไหม้บ้านอยู่ตอนนี้เข้ามาทำหน้าที่แทน
คนเรามันก็พิสูจน์กันตอนเป็น-ตอนตายนี่แหละ แตะมือแล้วบ๊าย..บาย..ไปได้เลย เรื่องอย่างนี้ไม่ว่ากัน!
ความจริงคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่ศาลแพ่งท่านสั่งมาวานซืนนี้ เราสรุปกันว่า "ศาลท่านห้ามสลายผู้ชุมนุม" แต่ถ้าไปอ่านแล้วตีความให้แตก จะเห็นทันทีว่า ศาลท่านไม่ได้ห้ามสลายการชุมนุม แต่ให้ทำตามขั้นตอนตามหลักสากล คือจากขั้นเบาไปหาหนัก
ก็ทำซี เบาเป็นยังไง จากขั้น deter จนถึงขั้น killer ทำไล่เป็นลูกระนาดขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ใช่โมเมตีขลุมเอาสบายรวบรัดอ้างว่า "ศาลห้ามใช้กำลังสลายการชุมนุม" แล้วกูไม่ทำอะไรเลย!
ปล่อยให้มันระเบิดบ้าน-ระเบิดเมือง ฆ่าประชาชนเล่นสนุกมือทุกวันๆ อยู่อย่างนี้ จนถึงวันที่กูเกษียณ!?
พูดกันตรงๆ ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มีนา เรื่อยมาจนถึงวันนี้เดือนกว่าแล้ว ใครเคยเห็นพลเอกอนุพงษ์ออกจากห้องแอร์มาตรวจเยี่ยมลูกน้อง ที่ตรากตรำกรำแดดจนขี้กรากขึ้นง่ามขาเพราะอยู่ในชุดเต็มอัตราศึกตามท้องถนนบ้างมั้ย ไม่ต้องพูดถึงระดับราษฎรเต็มขั้นอย่างพวกเราหรอก
ไม่มีวาสนาได้กราบใกล้ๆ หว่างขาท่านอยู่แล้ว!
มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ท่านเมตตาโทร.มาบอกผมว่า วันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๓ นี้ ตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐-๐๙.๐๐ น. จะมีพระอริยสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ที่ "วัดพระศรีรัตนศาสดาราม" หรือวัดพระแก้ว ในพระบรมมหาราชวังนั่นแหละ เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมในพิธีด้วย
ท่านใดจะไปก็เตรียมธูป ๙ ดอก เทียนขาว ๑ คู่ ไปด้วย และที่สำคัญแต่งกายให้สุภาพ ในพระบรมมหาราชวังท่านก็คงทราบ สุภาพสตรีห้ามนุ่งกางเกง หรือกระโปรงสั้น พูดง่ายๆ คือ ห้ามแต่งตัวโป๊ไปวัด ควรสวมกระโปรงยาว หรือผ้าถุง เสื้อผ้ามิดชิด ผู้ชายก็ควรสวมเสื้อขาว ไม่ควรใส่รองเท้าแตะไป
ก็มีหลายท่านฟอร์เวิร์ดมาบอก ผมก็นำมาบอกต่อ เพื่อมงคลแก่ตัวเอง และแก่ประเทศชาติบ้านเมือง ตื่นกันแต่เช้า แล้วไปที่วัดพระแก้วนะครับ อย่าลืม พรุ่งนี้-วันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษา เป็นประเพณีดีงามสืบต่อกันมาแต่โบราณกาล
และวันที่ ๒๕ เมษายน ตรงกับวันสำคัญอะไรอีกอย่างท่านทราบไหมครับ ก็คือเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า" พระมหากษัตริย์องค์ที่ ๑๘ แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อ ๔๐๕ ปีล่วงมาแล้ว และทุกครั้งที่ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า" ทรงออกทำศึก พระองค์จะสวดมนต์บท "พาหุง-มหากา" อย่างที่จะสวดกัน ณ วัดพระแก้วพรุ่งนี้แหละ.
http://www.thaipost.net/news/240410/21233