22 พฤศจิกายน 2567, 10:00:26
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 50 51 [52] 53 54   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: = = = เวียตนาม เว้ ฮอยอัน ดานัง = = =  (อ่าน 350970 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1275 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 21:27:35 »

สวัสดีครับพีปรีชา

เห็นพี่เข้ามาห้องนี้ครับ
      บันทึกการเข้า
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #1276 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 23:26:36 »

                 

        สวัสดีครับเหยง


                              เมื่อสักครู่เปิดไปที่ห้องคุยกับมานพฯเห็นเหยงถามสิงห์เรื่องเงินที่ใช้ที่ปักกิ่ง  เท่าที่จำได้ร้านค้าของรัฐบาล

        ที่ขายยาจีน,ขายชา, ผ้าไหม หยก  ฯลฯ  จะรับเงินไทยด้วย(รับเฉพาะแบ๊งค์ใหญ่แต่ทอนให้เป็นหยวน)ส่วนร้านค้าภายนอกทั่ว

         ไปไม่รับเงินไทยรับแต่เงินหยวน   ที่เคยไปแลกเงินหลายแห่งพบว่าร้านแลกเงินชื่อ Super rich อัตราที่แลกค่อนข้างดี

          (ตํ่ากว่าธนาคารและร้านอื่น) ร้านนี้อยู่ในซอยฝั่งตรงข้าม ห้างสรรพสินค้า Central World ราชดําริห์  ก่อนซื้อลองโทรศัพย์เช็คราคา

         ( อัตราแลกเปลี่ยน)ที่ร้านนี้เปรียบเทียบกับที่อื่นดูก่อน  เบอร์โทรที่ร้านนี้  (02) 655-2488
      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #1277 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2552, 08:14:23 »

อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 15 สิงหาคม 2552, 07:48:06
ปะ..ปะ..ปล่าว  smoke  ไม่มีอะไรหรอกน้องโส...เท่านั้น   มันมัวตะงง งง งง  ว่า  ลืมเอาอะไรไปเที่ยวปักกิ่งด้วยหรือเป่าเท่านั้น  เช่น  เข็มทิศ...กย. (กันยุง)   มาม่า...ไฟฉาย...เชือก...ร่ม  และอะไรอีกน้า...อ้อ!! ฟ...ฟ..ฟันปลอม นั่นเอง..เฮ้อ.....  เหนื่อย

 emo7:(:สวนลูกจันทร์น่ะ....ไม่รู้  เจ้าที่เจ้าทางทัวร์เขาจะให้ไปหรือเปล่า sing

 : emo26:Dคิดถึงตะวัน ป่านนี้คงยิ้มร่าเริงอยู่แถวออสโล gek

พี่อ้อย  หวัดดี กลับมาแล้ว ไปดูรูปให้หายคิดถึงได้แล้ว แต่สงสัยว่า อ.แจ่ม จะไปเดินที่กำแพงเมืองจีนยังัย ชักเป็นห่วงจัง
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #1278 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2552, 08:20:58 »

หวัดดีครับ พีแก้ว คิดถึงมากเลยครับ
ไม่ได้เจอกันเลย เพราะผมไม่ได้ไปทัวร์ใหญ่ๆ เลย
เวลาไม่แมทช์กันซักที
ปีหน้าไปยุโรปกันมั้ยครับ จะได้อาศัย ประบการณพี่ที่ยุโรป ทำให้สนุกขึ้นครับ
ก็จะไปกับชาวหอนี่แหละ แต่เป็นกลุ่มเล็กๆ

งานคืนสู่เหย้า มาให้ได้นะพี่ รับรองว่า งานนี้ สนุกแน่ๆครับ
รุ่น 15 เป็นแม่งาน รับรอง ม่วนขนาด...ห้ามพลาด ด้วยประการทั้งปวง
เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1279 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2552, 10:25:21 »

สวัสดีครับ พี่ปรีชา และพี่ตะวัน

ไปงานหอจุฬาแน่นอนครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1280 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2552, 10:26:41 »

อ้างถึง
ข้อความของ Preecha2510 เมื่อ 19 สิงหาคม 2552, 23:26:36
                 

        สวัสดีครับเหยง


                        เมื่อสักครู่เปิดไปที่ห้องคุยกับมานพฯเห็นเหยงถามสิงห์เรื่องเงินที่ใช้ที่ปักกิ่ง  เท่าที่จำได้ร้านค้าของรัฐบาล

        ที่ขายยาจีน,ขายชา, ผ้าไหม หยก  ฯลฯ  จะรับเงินไทยด้วย(รับเฉพาะแบ๊งค์ใหญ่แต่ทอนให้เป็นหยวน)ส่วนร้านค้าภายนอก

        ทั่วไปไม่รับเงินไทยรับแต่เงินหยวน   ที่เคยไปแลกเงินหลายแห่งพบว่าร้านแลกเงินชื่อ Super rich อัตราที่แลกค่อนข้างดี

        (ตํ่ากว่าธนาคารและร้านอื่น) ร้านนี้อยู่ในซอยฝั่งตรงข้าม ห้างสรรพสินค้า Central World ราชดําริห์  ก่อนซื้อลอง

       โทรศัพพ์เช็คราคา( อัตราแลกเปลี่ยน)ที่ร้านนี้เปรียบเทียบกับที่อื่นดูก่อน  เบอร์โทรที่ร้านนี้  (02) 655-2488


ขอบคุณพี่ครับ สำหรับคำแนะนำด้านการแลกเงินไปใช้ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1281 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2552, 10:37:38 »

อ้างถึง
ข้อความของ manopkd เมื่อ 20 สิงหาคม 2552, 08:44:35
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 19 สิงหาคม 2552, 15:06:51
พี่สิงห์

สภาพอากาศของปักกิ่งต้นเดือนกันยายน เป็นอย่างไรครับ เข้าหน้าฝนแล้วหรือยัง เพราะที่ทราบมายังเป็นหน้าร้อนอยู่
ผมไม่ทราบว่า ที่ปักกิ่งยังใช้เงินบาทไทยได้หรือไม่ ? แต่ที่เซินเจิ้น หรือจูไห่ พอใช้เงินบาทไทยได้เป็นบางที่
เช่นตลาด แต่ตามห้างขนาดใหญ่นอกจากเงินหยวนแล้ว รับดอลล่าร์สหรัฐ

ตอบในห้องนี้แล้ว ช่วยไปตอบในห้อง เวียตนาม-เว้ ดานัง ฮอยอัน- ด้วยนะครับ ให้สมาชิกได้ทราบและเตรียมตัว

สวัสดีครับ คุณเหยง
                ให้แลกเป็นเงินหยวน หรือ ดอลล่าร์ ดีที่สุดครับ ร้านค้าทั่วไปเงินบาทใช้ไม่ได้ครับ
                อากาศกำลังสบาย  ไม่ต้องเตรียมเสื้อกันหนาว ใช้เสื้อผ้าแบบบ้านเราก็พอครับ
                ให้เตรียมยาดม น้ำและลูกกวาดไปด้วย  จะต้องใช้เวลาเดินขึ้นกำแพงเมืองจีน เพราะอากาศเบาบาง  เหนื่อย 
หายใจไม่ทัน ต้องใช้แน่ๆ อย่าอวดเก่ง ผมเคยประสพมาแล้ว ทั้งๆที่อมฮอลล์ มียาดม และน้ำ เป็นลมหน้ามืดเพราะหายใจ
ไม่ทันจริงๆ ต้องถอดเสื้อออก ทั้งๆที่หนาว และหยุดพักนั่งหายใจลึกๆ อยู่นาน ก่อนที่จะหมดสติ ครับ เพราะอวดเก่งนึกว่า
แข็งแรง เดินเร็วไปหน่อยและไม่หยุดพักผลคือ เกือบเอาชีวิตไปทิ้งครับ
                ตอนนี้แนะนำให้ออกกำลังกาย เดินวิ่งให้มากๆไว้ ร่างกายจะได้แข็งแรง และไม่เป็นหวัด 2009 ด้วย อ้ออย่า
ลืมนำหน้ากากติดตัวไปด้วย เพราะสถานที่เที่ยวมีแต่คนจำนวนเป็นแสนเป็นหมื่น ทุกที่ครับ ผมก็บอกให้คุณหลิวเตรียม
หน้ากาก และ jel ล้างมือไปด้วยครับ
               อย่าลืม จัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเล็กขึ้นเครื่องติดตัวไปด้วยสักหนึ่งชุด เอาไว้สำหรับ ล้างหน้า อาบน้ำ เปลี่ยน
เสื้อผ้า ที่สนามบินปักกิ่งครับ 
               และบนเครื่องบิน เป็นเวลาเลยเที่ยงคืนแล้ว ควรนอนให้หลับ อย่ามัวคุยกัน เพราะรุ่งขึ้นต้องไปเดินชม
พระราชวังกู้กง และจตุรัสเทียนอันเหมิน ต้องเดิน เพราะมิฉนั้น ท่านจะเดินหลับตา เหนื่อย เพลีย และหลับครับ
ขอเตือนด้วยความหวังดี


เรียนคณะซีมะโด่งทัวร์เมืองจีน-ปักกิ่ง ได้โปรดทราบด้วยครับ ทั้งเรื่องการแลกเงินและเตรียมความพร้อม รวมทั้งชุดไปเที่ยวครับ

เรื่องน้ำดื่ม คงเตรียมไปจากเมืองไทยไม่ได้ครับ ต้องห้ามนำขึ้นเครื่องบิน ต้องให้พี่หลิวประสานทัวร์จัดให้เมื่ออยู่ที่ปักกิ่งแล้ว
      บันทึกการเข้า
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #1282 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2552, 20:33:53 »


        สวัสดีครับตะวัน

                              ไม่ได้พบตะวันนานมากนับตั้งแต่ไปเที่ยวอีสานใต้เมื่อเดือน กรกฎาคมปีที่แล้ว  แต่ก็ติดตามอ่านข้อคิดเห็นและ

        และข้อเขียนของตะวันในกระทู้ต่างๆตลอดเวลาก็เลยรู้สึกเหมือนไม่ได้ห่างไกลกันเท่าใด  งานคืนสู่เหย้าชาวหอปีนี้ผมตั้งใจ

        จะไปแน่นอนและเราคงจะได้พบกัน,พูดคุยกันด้วยความสนุกสนานในหมู่พี่ๆน้องๆชาวหอฯเหมือนเช่นเคย   ขอขอบคุณตะวัน

         ที่ทักทายมาครับ




       

       


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1283 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2552, 21:05:03 »

สวัสดีครับพี่ปรีชา อีกครั้ง

ผมโพสต์ข้อความของพี่ในเรื่องการใช้เงิน คู่กับ การเตรียมฟิตร่างกายของพี่สิงห์ อยู่ข้างบนครับ
      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #1284 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2552, 09:30:39 »

ลองโทร.ไปเช็คอัตราแลกเปลี่ยนตามที่พี่ปรีชาให้มา Super Rich 02-655-2488
1 หยวน = 5.01 บาท
1 USD  = 34.01  "
เป็นร้านสีส้ม(แถวนั้นมีชื่อนี้ 2 ร้าน) เปิด จ.-เสาร์ 9.00-18.00น.
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1285 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2552, 12:49:44 »

ผมแลกมาแล้วเมื่อวานนี้ครับ

1 หยวน = 5.01 บาท ที่ Super Rich ในขณะที่ธนาคารคิด 1 หยวน = 5.35 บาท ครับ
      บันทึกการเข้า
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #1286 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2552, 17:22:56 »

 


            สวัสดีครับเหยง
           

                                  ทัวร์ไปปักกิ่งทุกคณะก่อนกลับเมืองไทยตามโปรแกรมไกด์จะพาไปซื้อของที่ตลาดรัสเซีย    เพื่อให้พวกเรา

          ใช้เงินหยวนให้หมดกระเป๋าก่อนกลับบ้าน   ที่ตลาดนี้มีของก๊อปปี้สินค้าแบรนด์เนมเกือบทุกชนิดรวมทั้งงานฝีมือประเภทผ้าของ

           จีน,ของที่ระลึก,รองเท้า,เครื่องหนัง,ฯลฯ  เป็นตลาดติดแอร์คล้ายๆที่มาบุญครองบ้านเรา   ของทุกชนิดในตลาดนี้ราคาขาย

          จะบอกผ่านสูงมาก  ราคาที่ควรจะซื้อได้ควรจะต่อรองเหลืออยู่ที่ประมาณ  10 - 30 % ของราคาที่บอกขาย(ของบางอย่างต่อ

          เก่งๆอาจซื้อได้ในราคาเพียง 10 %)  ของสินค้าถ้าไม่ตั้งใจซื้อก็อย่าไปต่อราคาส่งเดช  เพราะถ้าคนขายมันยอมตกลงแล้ว

          เราไม่ซื้อก็จะเป็นเรื่องต้องถกเถียงกัน(คนละภาษา)กับคนขายที่บางร้านมารยาทหยาบคายเสียความรู้สึกกันเปล่าๆ   ของที่เรา

          ซื้อที่นี่เมื่อซื้อมาแล้วเวลาขนกลับขึ้นมาบนรถให้เราทำใจและภูมิใจว่าเราซื้อของมาได้ถูกที่สุด,ดีที่สุดแล้ว  ไม่ควรเอาไปเปรียบกับเพื่อน

          (เพราะอาจทำให้เราหรือเพื่อนเราไม่สบายใจได้)

                                 ไปปักกิ่งเมื่อหน้าหนาวปีก่อนเคยถามไกด์ว่าทำไมไม่พากรุ๊ฟทัวร์มาซื้อของใช้กันหนาวที่จำเป็นที่ตลาดรัสเซีย  เช่น

          หมวก,ผ้าพันคอ ,ถุงมือ,เสื้อหนาว ฯลฯ เมื่อมาถึงปักกิ่งในวันแรกๆ    ไกด์หัวเราะแหะๆและตอบกระซิบเบาๆว่าขืนพามาซื้อที่นี่

          ก่อนลูกทัวร์ผมก็คงจะจ่ายเพลินเหลือเงินน้อย   ร้านขายของรัฐบาล(ยาจีน,ชา,หยก ฯลฯ)ก็ขายของได้น้อยค่า com ของพวก

          ผมก็ได้น้อยซิครับ

         

           


                               





      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1287 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2552, 20:16:43 »

สวัสดีครับ พี่แก้ว (เรียกตามนี้นะครับ)

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ถ่ายทอดให้ทุกๆ คนได้ทราบ และคงต้องขอให้พี่เข้ามาแนะนำเรื่องของเมืองจีนอีก
จนกว่าจะใกล้ๆ วันเดินทางนะครับ (ออกเดินทางคืนวันที่ 2 กันยายนครับ)

                           

                              

คุณภรรยาของผม เธอบอกว่า เศรษฐกิจแบบนี้ ไม่ต้องไปอุดหนุนสินค้าเมืองจีนมากนัก โดยเฉพาะยาจีน ไข่มุกน้ำจืด
และสารพัดสินค้า เธอจึงบอกว่า ให้ลูกไปแลกเงินให้เพียง 100 หยวนและยังมีทั้งเศษแบงค์และเหรียญเหลือไว้ทิปไกด์

           

ส่วนเงินดอลล่าร์แลกให้ 100 US Dollar บอกพอใช้แล้ว แถมบอกว่าเวลาปีนขึ้นกำแพงเมืองจีน ก็ซื้อน้ำเอาไว้จิบไปเรื่อยๆ
และซื้อเผื่อพี่สิงห์เขาด้วย ส่วน"ฮอลล์" เดี่ยวจะซื้อฝากไป

               

               

ส่วนเงินบาทไทย ติดตัวไปพอเป็นค่าแท๊กซี่ทั้งขาไปและกลับสนามบิน กับค่าข้าวค่าน้ำก่อนขึ้นเครื่องก็พอ...เปลือง

เอาละซี..ยังไม่ทันบินเลย สนุกเสียแล้วครับ



 
      บันทึกการเข้า
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1288 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2552, 12:00:36 »

ใครอยากแลกเงินหยวน ในอัตราที่ต่ำกว่า Bank ผมจะแลกให้ครับ เพราะที่หลังการบินไทยมีร้านแลกเงิน ที่ใครๆเขาก็ต้องมาแลกกันที่นี่ ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1289 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2552, 18:51:42 »

มาเล่ากันต่อเรื่องการซื้อของเมืองจีนครับ ติดเงินไปน้อยๆ ทำเป็นซำเหมาทัวร์ไปแล้ว

ปี 2550 ผมและครอบครัวไปเที่ยวเมืองจีนมาครั้งหนึ่ง ซึ่งไปก่อนจีนจัดโอลิมปิด วันที่ 08-8-2008 หลายเดือน
ซึ่งไกด์จะพาไปร้านที่เป็นของรัฐบาล เหมือน OTOP ของเรา เขาขายหลากหลาย อาทิ

หยก- สอบถามจากร้านค้าของส่วนราชการ เจ้าหน้าที่บอกว่า หยกมาจาก "เมี่ยนเตี้ยน" หรือ "ประเทศพม่า"ครับ
         ซึ่งพวกเราสามารถซื้อหยกได้เองอยู่แล้ว อย่างเช่น ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก, หรือที่ อำเภอแม่สาย
         จังหวัดเชียงราย และร้านค้าอัญมณีทั่วไป ที่เราเป็นลูกค้าประจำ จะได้สินค้ามีคุณภาพและมั่นใจ
ปี่เซี๊ยะ- เครื่องรางของจีนที่ทำด้วยหยกและมีราคาแพงพอสมควร ด้วยราคาหลายร้อยถึงหลายพันบาททีเดียว
         และมีหลายๆขนาด ด้วยราคาที่แตกต่างกันมากๆด้วย
มุกน้ำจืด- มุกน้ำจืดจีนแพงกว่าของเวียตนาม ซึ่งซีมะโด่งทัวร์เวียตนามได้ไปมาแล้ว เมื่อเดือนกรกฎาคม 52 ที่
         ผ่านมา และภรรยาของผมก็ไปเวียตนามมา เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 ซื้อ 3 เส้น 500 บาท ไปกว่า 20
         เส้น แถมขายได้ในราคาเส้นละ 2,000 บาท และราคาถูกกว่านั้นอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งสร้อยข้อมือไข่มุก
         อีกหลายเส้นอยู่ เธอจึงบอกว่า...อย่าซื้อ ด้วยการไม่ต้องเข้าไปดูเลยก็ได้
เหล้าเหมาไถ- มีหลายๆ ราคาเช่นกัน ประมาณ 800 บาทขึ้นไป ถ้าซื้อเยอะจะได้ส่วนลด แต่เพราะเป็นร้านของ
         รัฐบาล ส่วนลดไม่มากนัก ที่สำคัญ รสชาติผมรับไม่ได้ เปรี้ยวฉุนมากเพราะหมักจากข้าวฟ่าง และดีกรีสูง
         มาก รสร้อน ต้องกินน้ำชากลบรส
ใบชา-แพงมากๆเช่นกัน ยิ่งไปชิมเหล้าเหมาไถแล้ว ต้องกลบรสด้วยน้ำชา ชาอู่หลง,...สารพัด ซื้อในเมืองไทย
         ไม่ได้แพงอย่างที่คิด อีกประการหนึ่ง คนไทยไม่ชอบทานน้ำชาจีน (ไทยเป็นประเทศร้อน ชอบชาลิปตัน
         ชงแค่อุ่นออกร้อนนิดๆ  ไม่เหมือนเมืองหนาว ซดชาจีนแก้หนาวกัน) ซื้อมาโยนทิ้งเปล่าๆ แพคเป็นพันบาท
ครีมไข่มุก- ซึ่งโฆษณาสรรพคุณรักษาโรคผิวหนังชะงัก โดยเฉพาะถูฏของร้อน พร้อมบอกว่า จีนส่งครีมชนิดนี้
         มาช่วยคนไทย กรณีอุบัติเหตุรถแก๊ซระเบิดเมื่อหลายปีที่ผ่านมา เราซื้อมากระปุกละ 1,200 บาท จนกระทั่ง
         ถึงบัดนี้ ยังไม่มีการเปิดใช้แต่อย่างไร
ยาเม็ดเคลือบด้วยขี้ผิ้ง(เรียกชื่อไม่ถูกแล้ว...อี้)- กล่องละ 800 บาท จนถึงเดี่ยวนี้ ไปเก็บไว้ที่ไหนแล้วก็ไม่ทราบ ไม่
         เคยได้ใช้ หรือคิดจะใช้เลยครับ
นาฬิกาโรเล็กซ์- มีหลายราคา ที่ซื้อมานั้น เรือนละ 600 บาทและ 2,400 บาท ใช้เรือนละ 600 บาทไปไม่ถึง 4 เดือน
         ขี้เกลือขึ้นจนหมดสภาพ ต้องทิ้งไปครับ ส่วนเรือนละ 2,400 บาท ให้เขาไปและไม่ทราบข่าวคราวอีกเลย
ของชำร่วยที่ระลึกกีฬาโอลิมปิค 2008- อาทิเช่น นาฬิกาข้อมือ นาฬิกาแขวน พวงกุญแจ ปากกาสลัก ฯลฯ ซื้อมา
         จนกีฬาเลิกไป 1 ปีแล้ว นาฬิกาไม่เดินแล้วเพราะแบตตารี่หมดไฟ ส่วนของอื่นๆ ยังหาไม่เจอเลยครับ

ไกด์ชาวจีนเป็นนักศึกษาวิชาภาษาไทย ชั้นปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัย พูดจาภาษาไทยชัดเจนมาก แต่ไม่ลึกซึ้ง และ
เป็นเด็กสาวรุ่นทั้งคู่ เก่งขายของ ในโปรแกรมไม่มีไปศูนย์แสดงสินค้าของเมือง แต่รถทัวร์ต้องไปจอดถึง 2 ชั่วโมง
ทำให้คณะต้องเร่งกำหนดการเที่ยวชมอื่นๆให้เร็วขึ้น และที่พูดถึงการใช้ภาษาไทย มีคนไทยไปเที่ยวเมืองจีนมาก
และหลายๆคน ก็วางยาเอาไว้ ไกด์สาวรุ่นจีนพูดคำไทยบางคำไป ไม่เหมาะสมกับตัวเองก็มี ต้องช่วยแก้ไขกัน อีก
ประการหนึ่ง ปัจจุบันไกด์พยายามขายของเพราะได้ทั้งส่วนต่างและคอมมิชชั่น เนื่องจากเงินทิปจากทัวร์ไม่แน่นอน
และทัวร์คนไทยไม่ค่อยทิปให้เสียด้วย..จริงๆ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร

มีอีกอย่างหนึ่งคือ คนจีนชอบทานน้ำชา ซึ่งปกติเป็นชาร้อน แม้ในเวลาทานข้าวทั้ง 3 มื้อ แต่คนไทยชอบทาน
น้ำแข็งใส่น้ำเย็น แม้ในเวลาทานของร้อนๆ ซึ่งภัตตาคารหลายแห่งมีปัญหา ไม่มีน้ำแข็ง เสิรฟ์น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเวลา
ทานข้าว ซึ่งตรงกันข้ามกับคนไทย อีกทั้งรสชาติอาหารออกเค็มไม่มีรสเผ็ด พริกหาไม่ได้บนโต๊ะอาหาร ส่งผลให้
ทัวร์ชุดที่ผมไปต้องเตรียมพริกขี้หนู น้ำพริกนรก ไปเสริมทุกมื้อ

เอาไว้คิดออก จำได้ จะเข้ามาแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป และคงต้องขอให้ "พี่แก้ว(ปรีชา)" ช่วยเล่าต่อครับ
      บันทึกการเข้า
wannee
Global Moderator
Cmadong พันธุ์แท้
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: จุฬาฯรุ่นประวัติศาสตร์ 2516
คณะ: ทันตแพทยศาสตร์
กระทู้: 4,806

« ตอบ #1290 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2552, 21:15:21 »


มาตามอ่านค่ะ เหยง  ปิ๊งๆ
      บันทึกการเข้า

"เสียด" ภาษาจีนฮากกา แปลว่า หิมะ
อ้อย17
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,908

« ตอบ #1291 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2552, 03:52:39 »

  พี่เหยง...
     เคยไปแล้วยังอยากไปอีกรอบหรือคะ..
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1292 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2552, 12:07:33 »

อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย17 เมื่อ 23 สิงหาคม 2552, 03:52:39
  พี่เหยง...
     เคยไปแล้วยังอยากไปอีกรอบหรือคะ..

พี่เคยไปแต่เขตเศรษฐกิจครับ ปักกิ่งยังไม่เคยไป เมืองจีนยังมีที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย
ไปอีก 10 ครั้งก็ยังเที่ยวไม่ทั่วครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1293 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2552, 12:36:06 »

กำแพงเมืองจีน กับการไปศูนย์วิจัยการแพทย์แผนโบราณ และการนวดฝ่าเท้าเพื่อลดความเมื่อยล้า

มีอีกหนึ่งเรื่องตลกที่ได้รับฟังมาในวันนี้เอง เนื่องจากไปตรวจสุขภาพประจำเดือนที่โรงพยาบาลศรีสวรรค์
คุณหมอซึ่งเป็นรุ่นน้องจุฬา ได้เล่าให้ฟังว่า ได้ไปทัวร์ปักกิ่งค้าง 3 คืน 5 วันแบบนี้เลย เมื่อสองปีที่ผ่านมา
ในราคาประมาณ 22,000 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับซีมะโด่งทัวร์เที่ยวนี้เลย คุณหมอบอกราคานี้ถูกมากๆ
และเล่าให้ฟังต่อไปว่า เขาให้เดินท่องเที่ยวทุกที่แล้ว ทั้งวังโบราณต่างๆ ที่มีห้องของสนมหรือชายานับพันห้อง
และโดยเฉพาะไปปีนกำแพงเมืองจีนมีแล้ว จึงพาไปศูนย์วิจัยการแพทย์ฯและนวดฝ่าเท้า

ซึ่งคณะทัวร์เมื่อยล้าเต็มที่ ถูกแมะชีพจรและนวดฝ่าเท้า พร้อมวินิจฉัยว่า เป็นโรคตั้งหลายโรค ซึ่งคุณหมอก็ปฏิเสธ
ไม่ยอมซื้อยาจีน (ก็ตัวเองเป็นหมออ่ะ) แต่ก็มีหลายๆคนในคณะ เชื่อว่าเป็นไปตามนั้น เพราะปวด เมื่อยล้าสุด สุด
และคุณหมอบอกต่อไปว่า ถ้าเป็นโรคตามที่มันบอกจริงๆ....ป่านนี้ตายไปแล้วครับ ? Huh? ? เพราะเป็นทุกโรคเลย
(นึกถึงเรื่องที่พี่ตู่เล่ามาก่อนหน้านี้เลย) แถมบอกว่า แน่จริงพาไปศูนย์วิจัยการแพทย์ฯ ในวันแรกที่ไปถึงสิ ไม่มีใครยอม
รับคำวินิจฉัยแน่นอน เพราะยังฟิตอยู่ทุกคนนั่นเอง

ซึ่งไปตรงกับที่ พี่แก้ว(ปรีชา) เล่าให้ฟังเลยว่า รัฐบาลเขาจะขายของ ดังนั้นเงินบาทก็เอา ไม่จำเป็นต้องเงินหยวนหรือดอล์

หากมีเรื่องอื่นๆ จะมาเล่าให้ฟังอีกครับ ฝากพี่แก้ว(ปรีชา) พี่ตู่ เข้ามาเล่าต่อครับ
      บันทึกการเข้า
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #1294 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2552, 19:07:59 »



              ก่อนเดินทางอย่าลืมเช็คสภาพอากาศที่  www.timeanddate.com/weather/china/beijing  ด้วยครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1295 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2552, 10:06:33 »

ขอบคุณครับพี่แก้ว

ผมเข้าไปเช็คสภาพอากาศล่วงหน้ามาแล้ว ซึ่งมีพยากรณ์อากาศล่วงหน้า 14 วันดังนี้ครับ

วันนี้อุณหภูมิ 25 องคาเซลเซียส ค่อนข้างเย็นสบาย แต่ลมค่อนข้างแรง

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1296 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2552, 10:10:27 »

วันจันทร์ที่ 24, อังคารที่ 25 และพุธที่ 26 สิงหาคม 52 เมฆมากและอาจมีฝนประปรายเล็กน้อย


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1297 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2552, 10:16:35 »

วันพฤหัสบดีที่ 27 ฟ้าเปิด, วันศุกร์ที่ 28, เสาร์ที่ 29 และวันอาทิตย์ที่ 30 มีเมฆ โอกาสฝนตกประมาณ 30%
ส่วนวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม เมฆมากและโอกาสฝนตกถึง 42%


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1298 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2552, 10:27:40 »

วันอังคารที่ 1, พุธที่ 2 มีเมฆเล็กน้อย โอกาสฝนตก 30-35%, ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 3 แจ่มใส,
วันศุกร์ที่ 4 มีเมฆเล็กน้อย แต่วันเสาร์ที่ 5, อาทิตย์ที่ 6 มีโอกาสฝนตก 30%

หมายเหตุ: วันเสาร์ที่ 5 กันยายน เป็นวันเดินขึ้น "กำแพงเมืองจีน" ไป "ศูนย์การแพทย์แผนโบราณ"
ส่วนวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน หอฟ้าเทียนถาน โรงงานผ้าไหม ไปชอปปิ้งและเดินทางกลับ ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1299 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2552, 12:54:07 »

กลับมาที่ เวียตนาม สักนิด เนื่องจากเพิ่งมีข่าวการสารภาพผิดของทหารสหรัฐออกมาในช่วงเวลานี้ หลังเกิดเหตุมากว่า 41 ปี
อ่านที่นี่ โดยไม่ต้องคลิกไปอ่านที่เว็ปของ ผู้จัดการออนไลน์ และขอบคุณผู้จัดการออนไลน์

40 ปีผ่านไปฆาตกรโหดสังหารหมู่ “หมีลาย” สำนึก
23 สิงหาคม 2552 01:06 น.


ภาพนี้ได้ช่วยเร่งวันเร่งคืนให้สหรัฐฯ ต้องถอนทหารออกจากเวียดนามเร็วยิ่งขึ้น และทำให้สงครามสิ้นสุดลงก่อนเวลา นำมาซึ่งชัยชนะ
ของฝ่ายคอมมิวนิสต์ และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี ภาพนี้ก็ยังหลอกหลอนจิตสำนึกของผู้คนนับล้านทั่วโลก


       เอเอฟพี/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ -- หลังจากเวลาผ่านพ้นไปกว่า 40 ปี นายทหารแห่งกองทัพสหรัฐฯ ที่ถูกตัดสิน
จำคุกกรณีสังหารชาวเวียดนามที่หมู่บ้านหมีลาย (My Lai) (หรือ มายลาย ตามคำเรียกของคนไทยในขณะนั้น) ได้กล่าว
ขอโทษอย่างเป็นทางการต่อสาธารณะ
       
       กว่าสี่ทศวรรษที่ผ่านมา นายทหารผู้นี้ปฏิเสธที่จะพูดถึงเหตุการณ์เศร้าสะเทือนใจคนทั้งโลกนี้มาตลอด
       
       “ไม่มีวันใดสักวันที่ผ่านไปโดยที่ผมไม่ได้รู้สึกเศร้าสลดใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นที่หมีลายในวันนั้น” อดีต ร้อยโทวิลเลียม
แคลลีย์ (William Calley) กล่าวระหว่างปราศรัยที่สโมสรคิวานิส (Kiwanis Club) แห่งเกรตเทอร์โคลัมบัส (Greater
Columbus) มลรัฐจอร์เจีย (Georgia)
       
       “ผมรู้สลดใจต่อชาวเวียดนามที่ถูกสังหาร ต่อครอบครัวของพวกเขา ต่อทหารอเมริกันที่เกี่ยวข้องและครอบครัวของ
พวกเขา ผมเสียใจเป็นอย่างมาก” ร.ท.แคลลีย์กล่าวเมื่อวันพุธ (19 ส.ค.) แต่เนื่องจากความเข้มงวดเกี่ยวกับผู้ฟังทำให้คำ
ปราศรัยของเขาถูกเก็บเอาไว้ไม่เป็นที่รูจัก จนกระทั่งวันเสาร์
       
       เท่าที่มีการบันทึกนั้น กว่า 40 ปี ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ถึงวันที่ถูกสั่งฟ้อง วันที่ถูกศาลทหารสั่งจำคุก ในระหว่างถูกจำคุก
และหลังได้รับการปล่อยตัว หมวดแคลลีย์ยังไม่เคยปริปากให้สัมภาษณ์ใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
       
       กรณีสังหารหมู่หมีลายเกิดขึ้นวันที่ 16 มี.ค.2511 ในเขตหมู่บ้านชื่อเดียวกันของเวียดนามใต้ในอดีต ซึ่งได้สร้างความ
แค้นเคืองให้กับผู้คนทั้งโลก และยังส่งผลทำให้สงครามเวียดนามสิ้นสุดเร็วยิ่งขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้การทำสงครามใน
เวียดนามได้รับการสนับสนุนน้อยลง
       
       เรื่องราวโดยสังเขป ก็คือ ในวันเกิดเหตุ กองร้อยลาดตระเวน “ชาร์ลี” (Charlie) ที่นำโดย ร.ท.แคลลี ได้ฝ่าดงกับระเบิด
ของกองโจรคอมมิวนิสต์เวียดกงเข้าไปถึงหมู่บ้านหมีลาย ในปฏิบัติการ “ค้นหาและทำลาย” (Search and Destroy Operation)
       
       ตามบันทึกของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หมวดแคลลีย์ ได้สั่งให้ทหารเข้าไปในหมู่บ้านและยิงทุกคนที่เห็น แม้จะ
ไม่มีรายงานการยิงโต้ตอบก็ตาม



หมวดแคลลีย์ระหว่างถูกนำตัวไปขึ้นศาลทหารที่ฟอร์ตเบ็นนิงปี 2512 ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่ให้กักบริเวณในบ้านเพียง
ไม่กี่ปีก็ถูกปล่อยตัว วันพุธสัปดาห์นี้เขาได้พูดถึงเรื่องราวสังหารหมู่เป็นครั้งแรก ด้วยการแสดงความเสียใจ หลังจากเวลาผ่านไปนานกว่า 40 ปี


 
       ตามรายงานของผู้เห็นเหตุการณ์ มีชายชราหลายคนถูกแทงจนเสียชีวิตด้วยมีดปลายปืน เด็กๆ และผู้หญิงที่นั่งคุกเข่า
อ้อนวอนขอชีวิตถูกยิงเข้าที่ด้านหลังศีรษะ และ มีเด็กหญิงถูกข่มขืนอย่างน้อย 1 คน ก่อนจะถูกสังหาร
       
       ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวอีกว่า ร.ท.แคลลี ได้ไล่ให้ชาวบ้านจำนวน 170 คน ลงไปรวมกันในคูน้ำแห่งหนึ่ง ก่อนจะรัวกระ
สุนปืนกลปลิดชีวิตทุกคน
       
       จนถึงปัจจุบันก็ยังมีการถกเถียงกันเกี่ยวกับจำนวนผู้ที่ถูกสังหารในเหตุการณ์ แต่ฝ่ายสหรัฐฯ ประมาณว่าจะอยู่ระหว่าง
374-504 คน
       
       เรื่องราวอันน้าเศร้าสลดใจนี้ยังไปไม่ถึงชาวอเมริกันในสหรัฐฯ จนกระทั่งเดือน พ.ย.2512 หรือเกือบ 2 ปีต่อมา เมื่อนัก
ข่าวชื่อ ซีมัวร์ เฮิร์ช (Semour Hersh) เขียนรายงานเหตุการณ์จากการบอกเล่าของ รอน ไรเดนอาวร์ (Ron Ridenhour)
ทหารผ่านศึกเวียดนาม ที่ได้รับฟังเรื่องราวต่างๆ ที่หมู่บ้านหมีลายจากทหารหน่วยชาร์ลีอีกคนหนึ่ง
       
       และก่อนที่ ไรเดนอาวร์ จะเปิดเผยเรื่องนี้กับเฮิรช เขาได้เรียกร้องให้รัฐสภาสหรัฐฯ ทำเนียบขาวและกระทรวงกลาโหม
สอบสวนเรื่องนี้ 2 เดือนก่อนจะมีการตีพิมพ์รายงานของนักข่าวสาว
       
       เพนตากอนได้สั่งสอบสวนกรณีสังหารหมู่ที่บ้านหมีลาย และ ในที่สุดก็ได้ส่งฟ้องหมวดแคลลี่ในเดือน ก.ย.2532 ข้อหา
ฆาตกรรม
       
       ภาพที่ชาวบ้านนอนล้มตายมากมายก่ายกอง เป็นหนึ่งในบรรดาภาพอันโหดร้ายรุนแรงที่ช็อกคนทั้งโลก ไม่ต่างจากภาพ
“นาทีชีวิต” ที่นายตำรวจกรุงไซ่ง่อนคนหนึ่งใช้ปืนพกยิงเข้าที่ศีรษะของผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นพวกเวียดกงตรงริมถนน ท่ามกลาง
สายตาของผู้คนนับร้อย หรือ ภาพ “หนูน้อยนาปาล์ม” กับเด็กๆ ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งวิ่งหนีการทิ้งระเบิดเพลิงด้วยสีหน้าที่หวาด
กลัวสุดขีด


คำสั่งถึงกองร้อยชาร์ลี: ฆ่าให้หมด แล้วกลับมาคนเดียว!"


แต่เหยื่อสังหารหมู่เกือบทั้งหมดเป็นหญิงสูงอายุกับเด็กๆ เหตุเกิดขณะที่คนหนุ่มสาว
กำลังทำงานในนาข้าว เพราะเป็นช่วงเก็บเกี่ยวข้าวฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูหนาว


       เมื่อกรณีสังหารหมู่หมีลายเผยแพร่ออกไป ก็ได้ทำให้ขบวนการต่อต้านสงครามเวียดนามในสหรัฐฯ ที่กำลังคุกรุ่นอยู่แล้ว
ขยายตัวออกไปอย่างกว้างขวาง นักเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพจากทั่วโลกได้ตื่นตัวขึ้นเป็นพลังหนุนเนื่อง
       
       การสังหารหมู่ที่บ้านหมีลายยังได้ทำให้เกิด “วีรบุรุษสงคราม” ขึ้นมา 3 คน คือ ร.ท.ฮิวจ์ ทอมป์สัน (Hugh Thompson)
นักบินเฮลิคอปเตอร์ กับลูกเรืออีก 2 คน ที่ผ่านไปเห็นเหตุการณ์ทหารกองร้อยชาร์ลีกำลังสาดกระสุนเข้าใส่ชาวบ้าน
       
       นายทหารนักบินกองทัพบกผู้นี้ตัดสินใจนำ ฮ.ร่อนลงขวางทางปืนเอาไว้ เพื่อให้ทหารราบที่กำลังบ้าคลั่งยุติการเข่นฆ่า
จากนั้นผู้หมวดทอมป์สันได้นำชาวบ้านที่ยังรอดชีวิตอยู่หยิบมือหนึ่งออกจากที่เกิดเหตุ และรายงานเหตุการณ์สังหารหมู่ถึงผู้
บังคับบัญชา และต่อมาก็ได้เป็นประจักษ์พยานในการสอบสวนหาผู้กระทำผิด
       
       แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น หมวดทอมป์สันกับทีม ถูกกล่าวประณามจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จำนวนหนึ่ง ได้รับ
จดหมายข่มขู่เอาชีวิต กระทั่งมีผู้นำซากสัตว์ที่ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณไปวางเอาไว้ถึงประตูบ้าน เป็นการข่มขู่และแสดง
ความอาฆาตมาดร้าย
       
       30 ปีต่อมา “วีรกรรม” ของหมวดทอมป์สันกับทหารชั้นประทวนอีก 2 นาย จึงได้รับการสดุดีจากชาวอเมริกัน
       
       ผลการสอบสวนของฝ่ายทหารได้ข้อสรุปว่า ร.ท.แคลลีย์ได้กระทำความผิด และ ในเดือน ก.ย.2512 (หรือ 2 เดือน
ก่อนจะมีการตีพิมพ์บทเขียนของเฮิร์ช) ศาลก็ได้ตัดสินลงโทษนายทหารผู้นี้ในข้อหาฆาตกรรม



หมวดแคลลีย์บนปกนิตยสารไทมส์ (รวมทั้งนิวส์วีค) ในเดือน เม.ย.2514 เหตุการณ์นี้มีจำเลยเพียงคนเดียว
จึงมีการตั้งคำถามโตๆ ขึ้นมาว่า "ใครบ้างที่จะต้องแบ่งปันความรับผิดชอบ?"




หมวดทอมป์สัน "วีรบุรุษสงคราม" ที่มีอยู่จริง แต่เวลาล่วงเลยมาอีก 30 ปี เสียงสดุดีจึ่งดังขึ้น
ก่อนหน้านั้นเขาถูกขู่ฆ่า โดนดูถูกเหยียดหยาม กระทั่งถูกประณามเป็นคนไม่รักชาติ เป็นผู้ทรยศต่อชาติ


 
       เรื่องราวไม่จบลงแค่นั้น การสังหารหมู่ที่หมีลายเป็นกรณีที่สะเทือนจิตวิญญาณและความรู้สึกของวิญญูชนในสหรัฐฯ
นอกจากนั้นยังทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างหนักระหว่าง “พวกใช้สมอง” กับ “พวกใช้กำลัง” ในกองทัพ เกิดการดูถูกดูแคลน
ระหว่างทหารที่จบจากโรงเรียนนายร้อย กับพวก “ฮาร์วาร์ด” หรือ นายทหารสัญญาบัตร “ปัญญาชน” ที่เรียนสำเร็จจาก
สถาบันอุดมศึกษาทั่วไป
       
       หลายฝ่ายกล่าวว่า ถ้าหากให้ “พวกฮาร์วาร์ด” บัญชาการที่หมีลาย ก็อาจจะไม่เกิดการสังหารหมู่สะเทือนขวัญขึ้นมา
       
       สำหรับหมวดแคลลีย์นั้นความจริงก็เคยเป็น “พวกฮาร์วาร์ด” แต่ได้พักการเรียนจากวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เข้าเรียนโรงเรียน
นายร้อยในช่วงสงคราม จนสำเร็จการศึกษาจากฟอร์ตเบ็นนิง (Fort Benning) รัฐจอร์เจียเมื่อปี 2510 และ เดินทางไปศึก
ในเวียดนามเกือบจะทันที
       
       เขาให้การว่า ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาซึ่งเป็นนายทหารยศร้อยเอกให้สังหารทุกคนที่พบในหมู่บ้านหมีลาย
       
       อย่างไรก็ตาม ศาลทหาร กล่าวว่า มีหลักฐานภาพถ่ายและประจักษ์พยานอย่างเพียงพอที่จะเอาผิดกับ ร.ท.แคลลีย์
เพียงผู้เดียว



ปัจจุบันที่หมู่บ้านเซินหมี (Son My) ใน จ.กว๋างหงาย (Quang Nghai) มีพิพิธภัณฑ์เล็ก เอาไว้กระตุ้นจิตสำนึกของผู้คน


 
และมีอนุสรณ์สถานซึ่งหลายปีมานี้บรรดานักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่ไปเยี่ยมชม
ยังรวมทั้งสมาชิกครอบทหารอเมริกันที่มีส่วนร่วมในการสังหารหมู่ด้วย

 
       ฆาตกรมือเปื้อนเลือดจากบ้านหมีลายถูกศาลทหารตัดสินจำคุกตลอดชีวิตปี 2512 โดยให้กักบริเวณในบ้านพัก
แต่ในปี 2517 ก็ได้รับการอภัยโทษ หลังจากได้ยื่นอุทธรณ์หลายต่อหลายครั้ง
       
       ผู้กระทำผิดเพียงคนเดียวในคดีนี้ได้รับการปล่อยตัวในเดือน พ.ย.2518 หลังสงครามเวียดนามยุติลง
       
       ในเวียดนาม กรณีสังหารหมู่หมีลายมักจะได้ยินในอีกชื่อหนึ่ง คือ "เหตุการณ์สังหารหมู่ที่เซินหมี" (Son My) อันหมาย
ถึงหมู่บ้านที่อยู่ติดกับหมีลาย ที่มีคนถูกยิงตายมากที่สุด
       
       แต่สำหรับกองทัพสหรัฐฯ เรียกที่นั่นว่า พิงค์วิลล์ (Pinkville) หรือ “หมู่บ้านสีชมพู” ซึ่งหมายถึงหมู่บ้านในเขตที่มีการ
แทรกซึมของกองโจรเวียดกงนั่นเอง
       
       หลังเกิดเหตุการณ์รัฐบาลเวียดนามใต้ได้ทำลายหลักฐานสำคัญไปหลายอย่าง ในความพยายามปิดบังอำพราง
เหตุการณ์ หวังจะไม่ให้แพร่งพรายออกไปสู่โลกภายนอก
       
       ปัจจุบันหมู่บ้านหมีลายกับเซินหมี อยู่ในท้องที่ จ.กว๋างหงาย (Quang Nghai) ในภาคกลางของเวียดนาม หลังคราม
สงบลงมีการสร้างอนุสรณ์สถานการสังหารหมู่ขึ้นที่นั่น และหลายปีมานี้มีชาวอเมริกันจำนวนไม่น้อยเดินทางไปรำลึกอดีต
       
       ในนั้นรวมทั้งสมาชิกครอบครัวของเหล่าทหารที่อยู่ในเหตุการณ์สังหารหมู่ด้วย
       
 
จาก  http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9520000095777
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 50 51 [52] 53 54   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><