23 พฤศจิกายน 2567, 20:59:50
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจของการแก้ปัญหา 3 จังวัดชายแดนใต้...แก้ได้ด้วยความรักและให้เกียรติย์  (อ่าน 13831 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2552, 12:06:37 »

ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้สะสมมายาวนาน
นาน..นาน...และนาน...

ผมได้สัมผัสความรู้สึกลึกๆของพี่น้องคนไทย ศาสนาอิสลาม 3 จังหวัดครั้งแรกในปี พ.ศ.2535
ปัญหาทางธุรกิจทำให้ผมได้ทางไปเกือบทุกอำเภอของประเทศไทย
ตอนนั้น การก่อการร้ายเริ่มสงบลง
ผมได้ไป อำเภอแว้ง อำเภอสุคิริน ประทับใจมาก

ความรู้สึกของผมในตอนนั้นก็คือ
พี่น้องคนไทยศาสนาอิสลาม ให้ความรักนับถือ คนไทยภาคกลางมาก
ในความรู้สึกของผมตอนนั้น(2535)  คนอิสานซึ่งนับว่ายากไร้ ยังไม่รู้สึกต่อคนภาคกลางเท่า
(ในอดีต...ต้องยอมรับความจริงว่าความรู้สึกต่อคนแต่ละภาค ที่มีต่อกันและกันมีอยู่จริง)

การที่มีความรู้สึกเช่นนั้น ย่อมมีเหตุ..ซึ่งผู้ปกครองในอดีตย่อมรับรู้อยู่

วันนี้..ไม่จำเป็นต้องรื้อฟื้นอดีต
หากจะแก้ปํญหา...
ผู้มีอำนาจ ต้องรู้สึกรักและให้เกียรติย์ต่อพี่น้องคนไทยใน 3 จังหวัดอย่างจริงใจ
รักแล้ว อะไรอะไรจะดีขึ้น
ปัญญาเกิด แก้ปัญหาได้

การเมืองนำการทหาร
หรือทหารนำการเมือง
หรือจะใช้อะไรนำก็แล้วแต่
หากผู้มีอำนาจทั้งผู้กำหนดนโยบายและผู้ดำเนินการตามนโยบาย
มีความรักอย่างจริงใจ การใ้ห้เกียรติย์ก็จะเกิด  ความยุติธรรมก็จะมี
ความรักมีอานุภาพยิ่งใหญ่...ปัญหาใดๆแก้ได้หากรักจริง

(มีข้อพึงระวังคือ ความรัก คือการให้ระหว่างคนที่ต้องรู้สึกว่ามีศักดิ์ศรี
หาใช่ความรู้สึกถึงการที่อีกฝ่ายอ่อนด้ิอย
หาใช่ความรู้สึกสงสาร)


      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #1 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2552, 13:15:05 »

        
         เห็นด้วยกับกระทู้  หัวใจของการแก้ปัญหา 3 จังวัดชายแดนใต้...

แก้ได้ด้วยความรักและให้เกียรติ ขอนำ forward mail ที่ได้รับมาสนับสนุน.เรื่อง

                 

                  ชัยชนะที่ยั่งยืน  

                win win win

                **************

         ในการอบรมคราวหนึ่ง วิทยากรได้ชูกำปั้นขึ้น และเชิญชวนให้ทุกคนในห้อง

หาทางทำให้เขาแบมือออกมา คนแล้วคนเล่าลุกขึ้นมางัดแงะกำปั้นของเขา พยายาม

ดึงนิ้วของเขาให้ถ่างออก หรือไม่ก็บีบข้อมือของเขา

          โดยหวังว่าความเจ็บปวดจะทำให้เขาคลายกำปั้น แต่ก็ไม่ได้ผล ถ้าเป็นคุณ

จะทำอย่างไร ?

         ชายผู้หนึ่งเดินตรงมาหาเขาด้วยหน้าตายิ้มแย้ม แล้วก็พนมมือไหว้ เขายกมือ

ไหว้ตอบทันที สักพักคนในห้องจึงสังเกตว่า กำปั้นของเขาได้คลายออกแล้วโดยไม่ได้

ใช้กำลังอย่างคนอื่นๆ เลย ชายผู้นี้สามารถทำให้วิทยากรคลายกำปั้นออกมาได้

เขาเพียงแต่แสดงไมตรี ด้วยการพนมมือไหว้เท่านั้น

         คุณเป็นคนหนึ่งหรือไม่ที่คิดอย่างชายผู้นี้ ถ้าใช่คุณเป็นคนส่วนน้อยมากๆ เพราะ

จากประสบการณ์ของวิทยากร คนส่วนใหญ่คิดแต่การเอาชนะเขาด้วยกำลัง ไม่ว่าหญิง

หรือ ชาย เด็ก หรือ ผู้ใหญ่ มีไม่กี่คนที่คิดจะชนะใจเขา

         ถ้าไม่ด้วยการไหว้ ก็ด้วยการยื่นดอกไม้หรือยื่นมือมาทักทายเขา กิจกรรมเล็กๆ

นี้บอกอะไรบ้างไหมเกี่ยวกับ วิธีคิดของผู้คนส่วนใหญ่ในเวลานี้ ใช่หรือไม่ว่า

         เราคิดถึงการใช้กำลังมากกว่าวิธีการที่สันติ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นกับใครก็ตาม

เราคิดแต่จะเอาชนะด้วยกำลังยิ่งกว่าการชนะใจ

         แต่กิจกรรมเดียวกันนี้เองก็บอกเราว่าวิธีการที่สันตินั้น สามารถแก้ปัญหาได้ดี

กว่าแม้ในกรณีที่ดูเหมือนว่า ต้องใช้กำลังเท่านั้นเป็นทางออก การใช้ไมตรีนั้นสามารถ

ทำให้อีกฝ่าย ยอมจำนน ' ได้ หรือพูดให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือ ' ชนะ ' ทั้งสองฝ่าย

         เพราะขณะที่วิทยากรได้มิตรภาพ อีกฝ่าย ก็สามารถคลายกำปั้นเจ้าปัญหา

ออกมาได้ จริงอยู่กิจกรรมนี้เป็นแค่เกม ในชีวิตจริงเราคงไม่คิดจะใช้กำลังแก้ปัญหา

         แต่ใช่หรือไม่ว่าเมื่อมีข้อขัดแย้งกับใคร คนส่วนใหญ่นิยมใช้วิธี

         ' แรงมาก็แรงไป '

         ถ้าเขาโกรธมา ก็โกรธไป ด่ามา ก็ด่าไป การใช้วิธีที่นุ่มนวลหรือใช้ความดีเข้า

เผชิญมักจะถูกมองข้ามไป หรือถูกบอกปัดไปเพราะเข้าใจว่าไม่ได้ผล

         แต่ในความเป็นจริงวิธีการดังกล่าวก็ได้ผลไม่น้อยไปกว่าในเกม

         ' คลายกำปั้น ' ข้างต้น

         น้ำใจไมตรีและความดีนั้นมีพลังที่สามารถเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี

และเปลี่ยนภัยคุกคามให้เป็นสะพานสานมิตรภาพได้

          ใช่หรือไม่ว่าการกำจัดศัตรูที่ดีที่สุดก็คือการเปลี่ยนเขามาเป็นมิตรนั่นเอง

นี้คือชัยชนะที่ให้ผลยั่งยืนกว่าชัยชนะด้วยกำลังที่เหนือกว่า

         นำมาจากเวบ "เสวนาประสาพุทธ"

http://www.budpage.com/forum/view.php?id=5042

         bye bye bye bye bye bye
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #2 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2552, 08:21:49 »




นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย



นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจาก ประเทศมาเลเซียว่า ทั้ง 2 นายกรัฐมนตรี มี

กำหนดเดินทางร่วมกันไปที่ จ.นราธิวาส ในวันพุธ ที่ 9 ธ.ค.นี้

โดยนายรูเบน หว่อง ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศสิงคโปร์ ตั้งข้อสังเกตว่า

การไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ภาคใต้ร่วมกันของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียและไทย

ถือเป็นการเยือนครั้งสำคัญ เพราะผู้นำทั้งสองชาติมีจุดยืนร่วมกันในอันที่จะใช้

การเจรจาเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ของไทย เพราะ

ท่าทีที่เป็นศัตรูของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยบางคนซึ่งกล่าวหามาเลเซียว่าสนับสนุน

กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ของไทย

ดังนั้นจึงถือว่าสำคัญมากสำหรับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่จะ

แสดงจุดยืนที่ชัดเจนเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรีของไทย เพื่อยืนยันว่า

มาเลเซียสนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี.


http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=8&contentID=36057

 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

นำข่่าวมาบอกพวกเราว่า การแก้ปัญหาชายแดนใต้ ใกล้สำเร็จแล้วถ้่้าคุยกันได้

 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า

      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
EdDy_Smart81
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 654

« ตอบ #3 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2552, 10:23:35 »

เป็นแนวคิดที่สร้างสรรค์มากครับ  พี่ยังชิน และพี่สำเริง  บ้านเมืองเรา  กำลังขาดความรักความเมตตาต่อกันอย่างรุนแรง  ต่างๆ  ฝ่ายต่างทำเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง  สร้างความแตกแยกใหคนในบ้านเมือง  เมื่อไหร่จะมีคนที่จริงใจ และตั้งใจจริงทำเพื่อประเทศชาติจำนวนมากๆๆๆๆ  บ้างนะ  ได้เฝ้ารอต่อไป  หวังว่าชั่วชีวิตคงได้เห็นพัฒนาการที่ดีของสังคมและการเมือง
      บันทึกการเข้า
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 01 มกราคม 2553, 07:22:59 »

สวัสดีปีใหม่ครับน้องเอ้ดดี้ พี่หมอสำเริง และพี่น้องซีมะโด่งทุกท่าน

เรามามอบความรักให้กันอย่างจริงใจ เป็นของขวัญปีใหม่กันนะครับ

ให้ความรัก เพื่อภาคใต้สงบสุข

เพื่อประเทศไทยสุขสงบ

เพื่อคนไทยวันนี้และวันหน้า
      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #5 เมื่อ: 18 มกราคม 2553, 17:22:07 »


                ม.21พรบ.มั่นคงความหวังดับไฟใต้
         บทบรรณาธิการ แนวหน้า วันจันทร์ที่ 18 ม.ค.53)


         นับเป็นนิมิตหมายที่ดีที่รัฐบาลมีแนวความคิดที่จะประกาศใช้มาตรา 21 ในพ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักรในจังหวัดชายแดนภาคใต้บางจังหวัดเพื่อเป็นโครงการนำร่อง

          ก่อนที่จะประกาศใช้ไปทั่วจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อดับไฟการก่อการร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยืดเยื้อมานานหลายปีเสียทีหลังจากที่ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องสังเวยชีวิตให้กับวิกฤติก่อการร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้วกว่า 5,000 คน ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา

                         

         สาระสำคัญของมาตรา 21 ของพ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักรก็เพื่อ เปิดโอกาสให้ผู้ที่กระทำผิดหรือผู้ที่ก่อเหตุร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้ามอบตัวต่อทางการแล้วเข้ารับการอบรมตามขั้นตอนโดยไม่ต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งถือเป็นนโยบายที่ใช้การเมืองนำการทหาร ที่เคยประสบผลสำเร็จมาแล้วในอดีตด้วยการใช้นโยบาย 66/2523 ที่เปิดโฮกาสให้ผู้หลงผิดที่เข้าร่วมการต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.)กลับมาร่วมพัฒนาชาติโดยไม่มีความผิด

         ทั้งนี้ เนื้อหาในมาตรา 21 ของพ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักรระบุว่า ภายในเขตพื้นที่ที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)ดำเนินการตามมาตรา 15

         หากปรากฏว่า ผู้ใดต้องหาว่าได้กระทำความผิดอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด แต่กลับใจเข้ามอบตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเป็นกรณีที่พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนแล้วปรากฏว่า ผู้นั้นได้กระทำไปเพราะหลงผิดหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และ

         การเปิดโอกาสให้ผู้นั้นกลับตัวจะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในการนี้ให้พนักงานสอบสวนส่งสำนวนการสอบสวนของผู้ต้องหานั้นพร้อมทั้งความเห็นของพนักงานสอบสวนไปให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในกรณีที่ผู้อำนวยการเห็นด้วยกับความเห็นของพนักงานสอบสวนให้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นของผู้อำนวยการให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องต่อศาล

         หากเห็นว่ามีความสมควร ศาลอาจสั่งให้ส่งผู้ต้องหานั้นให้ผู้อำนวยการเพื่อเข้ารับการอบรม ณ สถานที่กำหนดเป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน และปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่นที่ศาลกำหนดด้วยก็ได้ การดำเนินการตามวรรคสอง ให้ศาลสั่งได้ต่อเมื่อผู้ต้องหานั้นยินยอมเข้ารับการอบรมและปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว เมื่อผู้ต้องหาได้เข้ารับการอบรมและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดดังกล่าวแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องผู้ต้องหานั้นเป็นอันระงับไป

         ดังนั้นหลายฝ่ายเชื่อว่ามาตรา 21 ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักรน่าจะเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญที่จะเป็นความหวังในการดับไฟก่อการร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยืดเยื้อมานานหลายปีให้มอดและดับไปในที่สุดเสียที โดยอย่างน้อยก็เป็นการแยกปลาออกจากน้ำนั่นคือแยกผู้หลงผิดออกจากผู้ที่มีแนวคิดรุนแรงสุดขั้วที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติอย่างแท้จริง

         ขณะเดียวกันหัวใจสำคัญอันเป็นแนวทางดับไฟใต้อีกประการหนี่งก็คือ การสร้างความยุติธรรม ทั้งนี้รัฐจะต้องแสดงความจริงใจในการสร้างความเป็นธรรมแก่ชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะคดีสำคัญอย่างโศกนาฏกรรมที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส คดีกรือเซะ หรือคดีการอุ้มฆ่าทนายสมชาย นีละไพจิตร ซึ่งจากแนวทางทั้งหมดข้างต้นก็คือ ความหวังที่จะดับไฟก่อการร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ภายใต้นโยบายการเมืองนำการทหารได้อย่างแท้จริง

         น.ส.พ.แนวหน้า วันจันทร์ ที่ 18/1/2010

         http://www.naewna.com/news.asp?ID=195688

          ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

         พวกเราคงต้องรอดูว่า การนำร่อง ใช้ ม.21 ให้เกียรติ ให้กลับใจ มาพัฒนาชาติ แล้วไม่เอาผิด ใช้การเมืองนำการทหาร จะแก้ปัญหาได้หรือไม่ จากการนำร่อง จังหวัดชายแดนภาคใต้ บางจังหวัด ถ้าทำแล้วได้ผลจะได้ขยายไปให้ครอบคลุมทุกจังหวัดที่มีปัญหาต่อไป

          gek gek gek
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 27 มกราคม 2553, 12:38:55 »

ปัญหาชายแดนใต้ ป้ายังเชื่อว่ามาจาก การแยกกลุ่มเด็กนักเรียนออกจากกันเป็น โรงเรียนไทยมุสลิมกับโรงเรียนไทยไม่ใช่มุสลิม
แล้วโตขึ้นก็จะง่ายในการปลุกปั่นให้แตกแยก ด้วยวิธีการต่างๆ

ปัจจุบัน การแก้ก็ไม่มีความพอดีในการให้ความรัก กลายเป็นการโอ๋ และให้ความสำคัญจนเกินเหตุ
จนขาดความยุติธรรมและความถูกต้องของกฏหมายหรือกฏระเบียบแห่งการอยู่ร่วมกันของกลุ่มคนที่ต่างศาสนาและขนบประเพณีไปกัน.
.....ขอให้สังเกตุโครงการต่างๆสู่ใต้ซึ่งใช้งบประมาณอย่างมหาศาล รวมถึงอภิสิทธิ์ต่างๆ ที่คนที่ไม่ใช่มุสลิม 3 จังหวัดภาคใต้ ไม่มีโอกาสได้รับ

ด้วยการเอาอกเอาใจเกินเหตุเหล่านั้นหรือไม่ ที่ทำให้เพื่อนที่ไปดูงานท่องเที่ยวโฮมสเตย์ที่มาเลเซียได้รับการบอกเล่าจากคนมุสลิมมาเลเซียว่า...................

ในมาเลย์เขารู้สึกเป็นปกติชนเทียบเท่าทุกศาสนาในมาเลเซีย
แต่ถ้ามาไทยสมัยก่อนเขารู้สึกค่อนข้างเป็น Nobody เพราะไทยพุทธมีมาก สิ่งแวดล้อมก็เป็นสมัยใหม่มาก และผู้คนก็เฉยๆ
แต่ปัจจุบัน มาไทยเขารู้สึกว่าเป็น somebody เอามากๆ จากการที่ได้รับความพิเศษ เช่นเจ้าหน้าที่ไทยเอาใจ
และคนไทยพุทธยำเกรง  เกรงใจ


สิ่งนี้สะท้อนอะไร Huh?Huh?Huh?Huh?Huh??
การโอ๋ของรัฐบาลนั้นแก้ไขเยียวยาได้เพียงใด Huh?Huh?Huh?Huh?Huh?

 เหนื่อย เหนื่อย เหนื่อย


      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2553, 13:41:12 »

 
อ้างถึง   
มีเรื่องการเมือง อยู๋ 3 เรื่อง ที่ป้าคิดไม่เหมือนใครในเวลานั้นๆที่ได้ยินข่าว
1. การที่รัฐมนตรีศึกษาฯ แก้ปัญหาการศึกษาที่ภาคใต้ ในช่วงประมาณปี 2527 มั้ง
-ปัญหาว่าเด็กมุสลิมไม่อยากเรียนในโรงเรียนของรัฐ เพราะ มีการสวดมนต์หน้าเสาธงและมีพระพุทธรูปในโรงเรียน
-เขาแก้ปัญหาโดยให้สร้างโรงเรียนปอเนาะแยกให้เด็กมุสลิมไปเรียนโดยรัฐจัดครู หรือให้เงินแก่โรงเรียนไปจ้างครูสอนวิชาสามัญเอง
ผลคืออย่างไรล่ะ วัยรุ่นและวัยฉกรรณ์ ปัจจุบันคือ ผลพวงของการแยกกลุ่มคนตอนนั้นอย่างหนึ่งหรือไม่
...คนเราถ้าเคยเป็นเพื่อนกัน เรียนด้วยกัน เล่นด้วยกัน กินข้าวร่วมกัน ถูกครูทำโทษด้วยกัน ทำอะไรขำๆ บ้าๆ ด้วยกัน
แม้ วันหนึ่งถึงจะหันปากกระบอกปืนมาจ่อกัน ก็คงต้องชงักบ้างล่ะ...และอีกอย่างก็มีข่าวไม่ใช่หรือว่านักเรียนและครูบาง คนของโรงเรียนปอเนาะบางโรงเรียนคือหัวโจกของผู้ก่อการร้าย บางแห่งเป็นสถานบ่มเพาะ อบรมการทำลายผู้คน..ซึ่งน่าเศร้า.

ที่ยกมาข้างต้นยกมาจาก ห้องสนทนาประสาพี่น้อง / Re: เปิดเสรีลงทุนด้านการเกษตร..พี่น้องคิดอย่างไร

เป็นข้อความที่อาจารย์พี่แจ่มโพสไว้ตั้งแต่ 28 กันยา 52

ยกมาเพื่อบอกว่าเห็นด้วยอย่างยิ่ง

และ สะท้อนถึงวิธีคิดในการแก้ปัญหา โดยเข้าถึงพื้นฐาน
ไม่ใช่คิดแก้แต่กระพี้ไปวันๆ

ขอบพระคุณมากครับ
      บันทึกการเข้า
opas
Hero Cmadong Member
***


โอภาส 3211 สิง1207 1212 2813
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2534
คณะ: Architecture
กระทู้: 1,754

« ตอบ #8 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2553, 14:46:36 »

ถ้าจะ แสดงให้ ทำให้มีความเท่าเทียมกันจริงๆนะครับ    ลองเลิกใช้คำว่า   ลง ไปดู   ลง ไปคุย  ลง ไปให้   ลง ไป..........ฯลฯ

( เลิกใช้  หมายถึง เลิกพูด  เลิกเขียน  เลิกคิด  และรวมถึงเลิกรู้สึก ด้วยครับ )


ปล    ลงในที่นี้  ไม่ได้หมายรวมถึงคำว่า  ลงใต้  นะครับ   และรวมถึงทั้งประเทศครับ


อิ  อิ  อิ   มุมมองเล็กๆ ครับ
      บันทึกการเข้า

ฉันคิดไปเป็นชาวเกาะ...มีชีวิตกลางแดดและคลื่นลม
จะจูบอำลาสังคม........แสงสีในเมืองนภา
เบื่อชีวิตในเมือ.ง........งึม งำ  งึม งำ........................
.........................ตามฉันมาเป็นชาวเกาะเอย ย  ย   ย
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2553, 14:26:47 »

ป้ารักแผ่นดินไทย รักคนไทยในฐานะเพื่อนมนุย์ที่มีคุณค่าเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะถือศาสนาใด
แต่จะแบ่งชนชั้นและให้คุณค่าไม่เท่าเทียมระหว่าง ดี - เลว  หรือ ถูกต้อง-ไม่ถูกต้อง ซะมากกว่า
รักและชื่นชมความงดงามของสภาพหลากหลายของวัฒนธรรมท้องถิ่นต่างๆ

ขอรำพึงรำพันแก้กลุ้มหน่อยละกัน....................

ป้ามีญาติ และเพื่อน ลงไปทำงานเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหา 3จังหวัดชายแดนใต้
เขาใช้หลักจิตวิทยาทำงานด้วยการเสี่ยงตายแสดงความจริงใจ นาน 2-3 ปี จึงเข้าถึงบางส่วนชุมชนได้
ชี้ให้เขาเห็นระบบระเบียบชาติ รวมถึงข้อปฏิบัติที่ ต้องทำไม่ว่าจะเป็นพุทธ หรือมุสลิม เพราะถือว่าเป็น
เพื่อนร่วมชาติที่ มีศักดิ์ศรีและจะต้องมีหน้าที่ต่อชาติเหมือนๆกัน

แล้ววันหนึ่ง นักการเมือง ฝ่ายรัฐบาล ก็ไม่ทราบว่ามีนโยบายอย่างไร แต่โผล่ไปภาคใต้ เรียกประชุมผู้นำแล้วทำตัว
เป็นซานตาครอส แจกเงินให้ครอบครัวละประมาณ 3-5 หมื่น ให้ปรับปรุง ห้องน้ำ เพื่อทำหมู่บ้านโฮมสเตย์
ทั้งๆที่ชาวบ้านก้ยังไม่ได้รู้เรื่องหรือตกลงใจจะทำโฮมสเตย์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเลย  แจกดะไม่มีเกณฑ์อะไร
ขอให้เสนอว่าจะปรับปรุงห้องน้ำก็ได้เงินแล้ว ดูเหมือนจะใช้งบประมาณเรื่องนี้เป็นพันล้านบาท
จำไม่ผิดน่าจะ 1600 ล้านมั้ง


ป้าทั้งเสียดายงบฯ ในฐานะผู้เสียภาษ๊อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย...(เป็นข้าราชการ มันหลบไม่ได้ ต่างหาก 5555)
และป้ารู้สึกว่ามันเป็นการโอ๋เกินเหตุ และไม่ให้เกียรติพลเมืองดี ก็ว่าได้ มองว่าเขาเป็นคนขี้ขอ และเห็นแก่ได้
เลยจะเอาใจ โดยการแจก แจก และแจก...
นี่ยิ่งแย่กว่าประชานิยมของคุณทักษิณเสียอีก

ญาติและเพื่อนของป้าทำงานมา 2-3 ปีเสี่ยงตายเต็มที่... สุดท้ายชุมชนก็เลือก
ที่จะใช้สถานการณ์ต่อรองกับรัฐ ดีกว่า ง่าย และสบายดี
เอวัง


ป้าก็เสียดายเวลา ความตั้งใจของผู้คนที่รักชาติ และโอกาสที่ผ่านมาจริงๆนะ
มองตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรเขาได้ จนระทดท้ออยู่นี่ไง

      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2553, 14:33:25 »


ป้ามีลูกศิษย์ที่เป็นมุสลิม 4-5 คนทำงานอยู่ทางใต้ ก็นึกเป็นห่วงเสมอๆ
ห่วงว่าเขาจะปลอดภัยใหม ห่วงว่าเขาจะเป็นภัยต่อแผ่นดินใหมไปด้วย

ขอให้ข้อมูลที่ป้าคิดว่าอาจเป็นประโยชน์ สำหรับใครที่จะช่วยแก้ปัญหาภาคใต้ไว้นะคะ

คุณโสภณเคยเอามาลงไว้นานแล้ว ก็อยากให้ลองพิจารณาอีกที

 คือจดหมายจากครูใต้ค่ะ
 sorry so sad sorry
      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2553, 14:35:42 »

>>จดหมายจากครูใต้ ตอบ คณะกรรมการสมานฉันท์
>>
>>เรื่อง ขอยืนยันทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดนี้ต่อไป
>>
>>ดิฉันเป็นคนไทยธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่เคยชื่นชมนับถือแนวความคิดของคุณและติดตามการทำงานของคุณมาช้านาน
ดิฉันเชื่อในความตั้งใจดีของคุณ นานมาแล้วที่ดิฉันบอกใครๆ ว่า
ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีสุด เหมาะสมที่สุด และยังคิดเช่นนั้นอยู่
>>
>>แต่วันนี้ดิฉันและคุณมีความเชื่อในสถานการณ์ภาคใต้ที่ต่างกัน ดิฉันไม่เคยมีอคติกับใครรวมทั้งคุณ
ดิฉันถือว่า เราต่างคนต่างมีความเชื่อ เลยขอเรียนว่า ทำไมถึงมีความเชื่อที่ต่างจากคุณ ที่เห็นว่า เรื่องที่เกิดขึ้น
เป็นความผิดความเลวของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ที่ไม่เข้าใจวัฒนธรรมของคนในพื้นที่
 (คงต้องรวมถึงดิฉันที่เป็นข้าราชการครูด้วย)

 เหนื่อย
      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2553, 14:39:15 »

ต่อค่ะ....
>>ดิฉันขอเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองเห็นเมื่อเป็นครูภาคใต้มา 35 ปี
>>1. ชาวบ้านแท้ เป็นคนซื่อแต่เชื่อผู้นำอย่างหูหนวกตาบอด ผู้หญิงขยันและอดทนอย่างเหลือเชื่อ เคยถามคนที่ไม่เคย
คลุมหัวฮิญาบว่า ทำไมเดี๋ยวนี้ต้องคลุม เธอบอกว่า ผัวได้บุญในขณะที่ผู้ชาย...ขี้เกียจ อ้างศาสนา เพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์
(มีลูกกี่คนก็ได้ ยิ่งมากยิ่งดี เพราะถือว่าเป็นของขวัญจากพระเจ้า) เชื่อในชีวิตหน้า ชีวิตนี้จะลำบากแค่ไหนก็ได้
(ตายก็ได้ถ้าผู้นำชี้แนะ ขนาดที่มีลูกสาวสวย ผู้นำจะชี้เอาเป็นเมียก็ต้องให้)
>>
>>2. ผู้นำที่เลว ใช้ศาสนาทำให้ชาวบ้านอยู่ในระบบปิด ไม่พูดภาษาไทย ไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนไทย ไม่รับรู้โลกภายนอก
เพื่อให้ตัวเองเป็นคนสำคัญและมีอำนาจเหนือชาวบ้าน ผู้ปกครองนักเรียนแอบมาเล่าว่า อยากให้ลูกเรียนสูงๆ บ้าง ทีลูกผู้นำ
เขาส่งเรียนสูงๆ แต่ลูกเรา เขาบอกให้เรียนปอเนาะได้บุญ) เขาขอให้ครูช่วยหาทางให้ลูกเขาได้เรียนด้วย ครูก็ช่วย
แล้วมาน้ำตาตกทีหลัง เมื่อมาพบว่า เด็กมาเรียนจนจบปริญญาแล้ว เขาไม่รู้จักเรา
แถมบางคนทำท่าเหมือนเรามาอาศัยแผ่นดินเขาอยู่
)[/
b]

      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2553, 14:46:26 »

>>3. โดยนิสัยคนพื้นเมืองที่มีความรู้และได้เป็นใหญ่ จะเห็นแก่ตัว
ไม่ช่วยพัฒนาคนระดับล่างให้มีความรู้ ไม่รู้จักบุญคุณคน โดยเฉพาะคนนอกศาสนา
ถ้าใครให้เขาจะรับ แต่ไม่ให้ตอบ เพราะบาป นักการเมืองรุ่นเก่าจะเอื้อประโยชน์ให้ผู้นำศาสนา
และชาวบ้าน (เพื่อคะแนนเสียง) โดยยอมรับเรื่องที่ผู้นำปิดโลกของคนพื้นเมืองจากโลกภายนอก
ทำให้คนพื้นเมืองอยู่ไปวันๆ อย่างไม่มีอนาคตในโลกนี้ เพราะโลกหน้าต่างหากที่เป็นของจริง
เมื่อชีวิตความเป็นอยู่ของเขายากจนก็เป็นความผิดของรัฐบาลที่ไม่เข้าไปดูแล
เมื่อเขาพูดไทยไม่ได้และไม่รู้ว่าที่นี่คือประเทศไทย...เขาก็ต้องฟังผู้นำ
>>
>>ในอนาคตพวกเขาจะเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ในพื้นที่ เพราะมีลูกมากและคนไทยอพยพหนีตาย
จากนั้นก็เรียกร้องขอแผ่นดินที่มีแต่พวกเขา...เรื่องนี้เล่นไม่ยากในเวทีโลกไม่ใช่หรือ?
>>

>>4. ระยะหลัง เริ่มมีขบวนการแบ่งแยกเชื้อชาติและส่งเสริมให้ขับไล่ซือแย(ไทยพุทธ) ออกจากแผ่นดิน
รุนแรงขึ้น เนื่องจากได้เงินสนับสนุน (จากไหนบ้างคุณน่าจะรู้) ได้ความฮึกเหิมของชาวอิสลามที่ร่ำรวยขึ้น
และการปลูกฝังว่าอิสลามว่าเป็นพี่น้องกันทั้งโลก (แต่อยู่ร่วมกับใครไม่ได้)
เรื่องอย่างนี้ เหมือนน้ำท่วมปาก แต่ไม่มีใครกล้าพูดดังๆ ให้พวกคุณฟัง
เพราะเรากลัวตาย การฆ่ารายวันเกิดขึ้นได้ เพราะผู้ร้ายไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
>>

เรื่องที่พูดมานี้เพื่อจะบอกคุณว่า...
>>ในเมื่อคนพื้นเมืองถูกครอบงำให้คิดว่า พวกเขาไม่ใช่คนไทย   แผ่นดินนี้เป็นของเขา
ทุกสิ่งที่ เราให้ เขารับ แต่เขาขอบคุณพระเจ้าที่บันดาลให้ เราให้จึงไม่มีบุญคุณต่อคนนอกศาสนา


>>ดิฉันเจ็บใจเวลาที่เห็นพวกคุณแสดงความเห็นใจคนพวกนี้และว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของคนไทย
>>คุณรู้กันบ้างไหมว่า ทุกสิ่งที่เราทำ เราไม่เคยมีความคิดว่าเรื่องนี้ทำให้เฉพาะคนไทย เพราะเราทุกคนเป็นคนไทย

 เหนื่อย
      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2553, 15:06:58 »


>>ในจังหวัดที่ดิฉันเป็นครูมา 30 ปี ดิฉันไม่เคยเห็นส่วนข้าราชการไหนที่แบ่งเขาแบ่งเรา
มีแต่เขานั่นแหละ ที่ทำตัวผิดแปลกแตกแยกมากขึ้นทุกวัน

>>ถ้าคุณอยู่ที่นี่ ซึ่งเป็นแผ่นดินไทย...คุณจะรู้สึกอย่างไร เมื่อเขาเรียกร้องเอาโน่นเอานี่
มากขึ้นทุกวัน ฉันจะต้องแต่งตัวอย่างนี้ ฉันจะต้องหยุดวันนี้ ฉันจะไม่ไหว้ครูร่วมกันคนพุทธ
ฉันจะไม่เรียนวิชานี้ ฯลฯ ด้วยข้ออ้างว่า เพราะขัดกับหลักศาสนา แล้วเราก็ยอมเขาทุกเรื่อง
และให้เห็นความแตกแยกชัดเจนขึ้นทุกวัน


นักการเมืองที่เป็นพวกเขา ก็พูดเอาแต่ได้ และการเอาแต่ได้ของเขาโดยอ้างศาสนา
ก็กดคนของเขาให้หูหนวกตาบอด ให้ขี้เกียจ ให้ไม่มีความรู้ เพื่อเขาจะได้ใช้คนพวกนี้เป็นฐาน
โดยมีกลุ่มคนที่มองภาพรวมในเรื่องความไม่เท่าเทียม ที่คนในสังคมชนบทได้รับ
(อย่างพวกสิทธิมนุษยชน) เป็นเครื่องมือ
>>
>>ใจคอคุณจะให้ยอมจนกระทั่งคนไทยที่อยู่ใน 3 จังหวัดต้องพูดภาษาถิ่นที่โลกนี้เขาไม่พูดกัน
เพื่อเข้าใจเขา แต่เขาไม่ต้องหัดพูดภาษาไทย เพื่ออยู่ในโลกปัจจุบันได้กระนั้นหรือ?
>>(แต่ครั้นก็ยังช่วยอะไรไม่ได้หรอก เพราะเขาถูกสอนว่า เราเป็นคนนอกศาสนานอกเชื้อชาติเขา)


>>ทำไมคนไทยที่มีภาษาถิ่นในภาคอื่น เขาไม่ทำกันอย่างนี้บ้าง ทำไมเขาถึงยอมพูดภาษากลาง
ที่เป็นภาษาราชการ เพราะเขาคิดว่า เป็นคนไทย
>>
>>แต่คนพวกนั้นไม่เคยคิดใช่ไหม >>แล้วเราจะยอมให้เขาคิดต่อไป หรือให้เขาเลิกคิดกันเสียที
>>ให้เขาได้หลุดพ้นจากการครอบงำของคนที่หาประโยชน์จากความไม่รู้ของพวกเขาจะดีกว่าไหม
ถ้าหวังดีกับคนพื้นเมืองจริงๆ



      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2553, 15:13:47 »

>>ดิฉันแปลกใจที่คนในกลุ่ม คุณอานันต์ (ประธานกอส.) พร่ำพูดแต่เรื่องกรือเซะเรื่องตากใบ
ทำไมไม่เคยพูดถึงผลที่มาจากเหตุ คุณตัดตอนมาแต่ความผิดของเจ้าหน้าที่ได้อย่างไร
>>ทำไมคุณไม่พูดบ้างว่า คนที่พาคนพวกนี้มาตายมีความผิดไหม
บ้านเมืองมีกฏเกณฑ์กติกาในการอยู่ร่วมกันอย่างไร

คนระดับคุณไม่เข้าใจพวกบ้าคลั่งลัทธิเชียวหรือ ทำไมต้องดูแลเอาใจคนพวกนี้
ให้ฮึกเหิมว่ามีคนดีๆ ในสังคม อย่างพวกคุณคอยหนุนหลังอยู่ เขาใช้ประโยชน์จากพวกคุณ
(ที่พวกดิฉันแอบเรียกว่าพวกซื่อบริสุทธิ์) เพื่อสร้างภาพว่า เขาเป็นฝ่ายถูก ทั้งที่เขาก่อเหตุร้ายขึ้นในแผ่นดิน
>>
>>ถ้าคุณเป็นครูมานาน เท่าดิฉันที่เป็นคนภาคกลาง แต่ไปอยู่ที่นั่น
คุณจะรู้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวขนาดไหน
>>
>>ดิฉันเคยไปไหนมาไหนในจังหวัดอย่างคนที่เป็นครู เจอลูกศิษย์ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
เจอผู้คนที่มีอัธยาศัย แม่ค้าในตลาดพูดกันรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้บ้างแต่ต่างฝ่ายต่างพยายามสื่อสารกัน
จนดิฉันเชื่อว่าจะใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ที่นี่ได้
>>
>>แต่สิบปีที่ผ่านมานี้ สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลงจากการเรียกร้องของผู้ที่อ้างศาสนาทุกวันนี้
>>เราต้องอยู่ท่ามกลางการไม่ไว้ใจกัน ทุกอย่างเห็นชัดว่า เลวร้ายมากขึ้น จากการแยกตัวของ
พวกเขาที่เข้มงวดเรื่องการแต่งกาย เรื่องภาษา เรื่องศาสนา และจากเด็กที่เกิดเป็นจำนวนมากจนน่าตกใจ
เขาเชื่อว่า ลูกคือของขวัญจากพระเจ้า ยิ่งมีมากยิ่งดี แต่ไม่สนใจว่าจะเลี้ยงให้มีคุณภาพได้อย่างไร...
.(รัฐบาลดูแลแก้ไขไปซิ)


>>สังคมของเขาปัจจุบันนี้ ผู้ชายก็ยังแสดงโวหารตามร้านน้ำชา ทำงานอืดๆ เอื่อยๆ
นึกจะพักก็พัก นึกจะเลิกก็เลิก...(อันนี้ผู้พิมพ์เห็นด้วยกับครูผู้เขียน) เพราะเพื่อนไปทำถนนที่ปัตตานี
ต้องเอาคนงานอีสานไป เพราะคนที่โน่นไม่อดทนทำงาน
(ดีแต่เรียกร้อง) ไม่มีเงินก็ตั้งวงด่าว่าสังคมไม่เป็นธรรม

>>ใครจะทำธุรกิจก็มีใบปลิวมาขอค่าคุ้มครอง แล้วใครจะอยากมาลงทุน

>>เขาพร่ำสอนกันว่า พวกคนเจ๊ก คนไทย เอาเปรียบเขา ทั้งที่มาอาศัยแผ่นดินเขาอยู่

>>คนที่เคยเป็นมิตรกัน ก็มองกันอย่างไม่ไว้ใจ ไม่ทักทายปราศรัยกันเหมือนเดิม


>>ครูอิสลามบางคน ที่ไม่ใช่คนที่นี่บอกว่า คงอยู่ไม่ได้ เพราะเขาไม่คลุมหัวก็โดนมองแปลกๆ
จากพวกศาสนาเดียวกันแต่พวกที่ไม่ใช่อิสลามก็มองเขาอย่างไม่ไว้วางใจ
>>
      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2553, 15:17:52 »

ต่อค่ะ..........

>>ดิฉันเชื่อว่า ในคณะกรรมการสมานฉันท์ที่เป็นฝ่ายอิสลาม จะต้องแสดงความคับแค้น
นานับประการที่ได้รับจากบ้านเมือง...ช่วยถามเขาด้วยนะคะ ว่าทุกวันนี้ เขาโดนกดขี่จากใคร
เขาทำตัวกดขี่คนระดับล่างของเขาเองหรือใครทำ?

>>มีเรื่องอะไรบ้างที่ภาครัฐปิดโอกาสเขา ไม่ให้ได้รับ แล้วให้แต่ซือแย (ไทยพุทธ)จากอดีตจนถึงปัจจุบัน>>

>>เคยบ้างไหมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าจะทรงคิดว่า
เขาเป็นคนอื่น ท่านทรงมีเมตตากับทุกคน ทุกหมู่เหล่า อย่างไม่เคยเลือกที่รักมักที่ชัง
อย่างนี้แล้วข้าราชการของท่านจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร
>>
>>แผ่นดินนี้ ประเทศนี้ ให้ชีวิตกับเขา ได้เจริญก้าวหน้ากว่าคนศาสนาเดียวกัน
เขาควรสำนึกในบุญคุณ ของแผ่นดินและช่วยพัฒนาคนของเขา แต่เขากลับเลือกใช้ความกลัว
ความไม่รู้ของชนชาติเดียวกับเขา เป็นฐานให้เขาได้เป็นใหญ่ต่อไป เขาทำลายผู้อื่น
เพื่อให้ได้สิ่งที่เขาต้องการเขาคิดว่าทำถูกต้องแล้วหรือ


>>แล้วพวกคุณก็พลอยเห็นดีเห็นงาม สนับสนุนเขาไปด้วย ทั้งที่คุณรู้เห็นอยู่เต็มตาว่า
ประเทศที่ผู้นำแตกแยกเป็นก๊ก เป็นเหล่า ประชาชนได้รับความเดือดร้อนแค่ไหน
>>
>>ดิฉันขอประณามและสาปแช่งผู้อยู่เบื้องหลังความไม่สงบ
จงประสบแต่ความวิบัติในชีวิต และขอให้บาปทั้งมวลสืบต่อไปถึงลูกหลาน
ให้เป็นผู้ที่ไม่มีแผ่นดินอยู่อาศัย สมกับที่บรรพบุรุษได้เนรคุณต่อแผ่นดินเกิด
ขออย่าให้ได้รู้จักกับความสุขสงบเมื่อมีชีวิตอยู่ในโลกนี้
และเมื่อล่วงลับไปสู่โลกหน้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนสรวงสวรรค์ย่อมรับรู้ในบาปชั่ว
ไม่รับวิญญาณขึ้นไปอยู่กับพระองค์ ต้องตกนรกหมกไหม้จนชั่วนิรันดร์
เพื่อชดใช้ความผิดอันเลวร้ายที่ทำต่อมนุษย์ผู้บริสุทธิ์และแผ่นดินที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน

>>
>>หนึ่งในครูภาคใต้
      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2553, 15:43:19 »


ข้าราชการที่ทำงานภาคใต้มานานเกิน 10 ปี มีสิทธิขอย้ายไปภาคอื่นๆโดยให้อภิสิทธิ์เป็นคิวแรกๆ

มีคนหนึ่ง ย้ายมาอยู่ในหน่วยงานของ จ.น่าน เล่าความเห็นให้ป้าฟังว่า...

 ปัญหาที่ไม่จบสิ้นนี้ คือโอกาสทองของผู้นำศาสนาอิสลาม  ข้าราชการ ทหารตัวใหญ่ๆ และนักการเมือง
ฝ่ายรัฐบาล ที่จะกอบโกย เงิน ตำแหน่ง โอกาส และอำนาจ ให้ได้ยิ่งๆ ขึ้นไป จากเงินแผ่นดินไทย
(งบประมาณ)และเงินช่วยเหลือจากนอกประเทศ ของอิสลามโลกสายเหยี่ยว  มากบ้าง น้อยบ้าง ต่างๆนาๆ
โดยมีประชาชนอิสลามชั้นล่างที่ไม่ใช่เครือญาติผู้นำ ชาวไทยที่มิใช่อิสลาม ข้าราชการทหาร ตำรวจ
ครู ชั้นผู้น้อย ตัวเล็กๆ เป็นผู้รับเคราะห์ มีแผ่นดินไทยเป็นเดิมพัน


ฟังแล้ว ถ้าเชื่อหรือคล้อยตามก็ น่าเศร้า..สำหรับอนาคตของชาติไทย
ถ้าไม่เชื่อ ก็ยังมีควาสุขต่อไป จนกว่าเหตุการณ์อย่างที่ครูใต้พรรณามาในจดหมาย
จะเกิดที่ประตูหน้าบ้านท่าน ..ค่อยว่ากันใหม่ เนาะ.........

สังเกตุใหมว่าในจังหวัดชายแดนทางภาคอิสานใน2-3ปีที่ผ่านมาจะเห็นคนมุสลิมชาย มีเมียลาว(อิสาน)
มาปรากฏให้เห็น มากขึ้น มีการหอบเงินมาซื้อที่ปลูกยางพารา มีคนใส่เสื้อผ้าแบบมุสลิม คลุมผม ห่มหน้า
มาตั้งรกรากอยู่ มาค้าขาย เพิ่มขึ้นๆ บางคนก็ดูน่ารักนิสัยดี แต่ส่วนมากจะไม่มาสุงสิงกับคนอิสานทั่วไป


ป้าวิตกจริตไปหรือเปล่า ............
คงไม่นานเกินชั่วหลานกระมัง

 เหนื่อย งง งง เหนื่อย งง งง
      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
opas
Hero Cmadong Member
***


โอภาส 3211 สิง1207 1212 2813
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2534
คณะ: Architecture
กระทู้: 1,754

« ตอบ #18 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2553, 18:12:09 »

เเล้วทำไงดี......   sorry sorry sorry
      บันทึกการเข้า

ฉันคิดไปเป็นชาวเกาะ...มีชีวิตกลางแดดและคลื่นลม
จะจูบอำลาสังคม........แสงสีในเมืองนภา
เบื่อชีวิตในเมือ.ง........งึม งำ  งึม งำ........................
.........................ตามฉันมาเป็นชาวเกาะเอย ย  ย   ย
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2553, 19:02:57 »

อ้างถึง
ข้อความของ jamsai เมื่อ 03 กุมภาพันธ์ 2553, 15:43:19

ข้าราชการที่ทำงานภาคใต้มานานเกิน 10 ปี มีสิทธิขอย้ายไปภาคอื่นๆโดยให้อภิสิทธิ์เป็นคิวแรกๆ

มีคนหนึ่ง ย้ายมาอยู่ในหน่วยงานของ จ.น่าน เล่าความเห็นให้ป้าฟังว่า...

 ปัญหาที่ไม่จบสิ้นนี้ คือโอกาสทองของผู้นำศาสนาอิสลาม  ข้าราชการ ทหารตัวใหญ่ๆ และนักการเมือง
ฝ่ายรัฐบาล ที่จะกอบโกย เงิน ตำแหน่ง โอกาส และอำนาจ ให้ได้ยิ่งๆ ขึ้นไป จากเงินแผ่นดินไทย
(งบประมาณ)และเงินช่วยเหลือจากนอกประเทศ ของอิสลามโลกสายเหยี่ยว  มากบ้าง น้อยบ้าง ต่างๆนาๆ
โดยมีประชาชนอิสลามชั้นล่างที่ไม่ใช่เครือญาติผู้นำ ชาวไทยที่มิใช่อิสลาม ข้าราชการทหาร ตำรวจ
ครู ชั้นผู้น้อย ตัวเล็กๆ เป็นผู้รับเคราะห์ มีแผ่นดินไทยเป็นเดิมพัน


ฟังแล้ว ถ้าเชื่อหรือคล้อยตามก็ น่าเศร้า..สำหรับอนาคตของชาติไทย
ถ้าไม่เชื่อ ก็ยังมีควาสุขต่อไป จนกว่าเหตุการณ์อย่างที่ครูใต้พรรณามาในจดหมาย
จะเกิดที่ประตูหน้าบ้านท่าน ..ค่อยว่ากันใหม่ เนาะ.........

สังเกตุใหมว่าในจังหวัดชายแดนทางภาคอิสานใน2-3ปีที่ผ่านมาจะเห็นคนมุสลิมชาย มีเมียลาว(อิสาน)
มาปรากฏให้เห็น มากขึ้น มีการหอบเงินมาซื้อที่ปลูกยางพารา มีคนใส่เสื้อผ้าแบบมุสลิม คลุมผม ห่มหน้า
มาตั้งรกรากอยู่ มาค้าขาย เพิ่มขึ้นๆ บางคนก็ดูน่ารักนิสัยดี แต่ส่วนมากจะไม่มาสุงสิงกับคนอิสานทั่วไป


ป้าวิตกจริตไปหรือเปล่า ............
คงไม่นานเกินชั่วหลานกระมัง

 เหนื่อย งง งง เหนื่อย งง งง

อันนี้เห็นด้วยกับอาจารย์พี่แจ่มครับ

.................................

แต่อ่านข้อเขียนของผู้ใช้นามว่า "หนึ่งในครูภาคใต้" แล้ว ผมรู้สึกไม่ค่อยราบรื่นนัก


 
อ้างถึง   
เขาขอให้ครูช่วยหาทางให้ลูกเขาได้เรียนด้วย ครูก็ช่วย
แล้วมาน้ำตาตกทีหลัง เมื่อมาพบว่า เด็กมาเรียนจนจบปริญญาแล้ว เขาไม่รู้จักเรา
แถมบางคนทำท่าเหมือนเรามาอาศัยแผ่นดินเขาอยู่)

หัวใจครู หากมีความปรารถนาดีแล้ว ไม่น่าจะรู้สึกอะไรขนาดนี้ โดยเฉพาะในสถานการณ์เช่นนี้ ที่อำนาจรัฐถูกท้าทาย
และเนื่อหาในข้อเขียนนี้ ยังบอกว่า คนระดับล่างถูกหลอก ถูกเอาเปรียบ
น่าจะเข้าใจเด็กนั้น  และรู้สึกยินดีที่เขาเรียนจบ

...............................

เนื้อหาทั้งสิ้น บอกว่า ฝ่ายนำในสังคมใต้พยายามบิดเบือน และกดขี่คนระดับล่าง เพื่อฉกฉวยผลประโยชน์
แต่เวลาวิจารณ์ หรือเสนอแนะ กลับใช้ "พวกเขา"  อยู่บ่อยครั้ง

...............................

ผมเชื่อว่า ในสังคมมีทั้งคนดีและไม่ดี  คนไม่ดีที่เป็นผู้นำเพื่อการด้อยพัฒนาคงมีอยู่บ้าง
แต่สังคมพี่น้องชาวมุสลิม ผมว่าส่วนใหญ่มากๆ เป็นคนดี และน่าคบ
ผู้นำที่ดี เพื่อการพัฒนา น่าจะมีมากกว่าผู้นำชั่วๆ

หาทางลดบทบาทผู้นำชั่วๆกันนะครับ

อ่านแล้วเลยไม่แน่ใจว่า เป็นครูใต้จริงไหม และรู้สึกดีกับพี่น้องชาวมุสลิมด้วยใจไหม

พี่แจ่ม รู้จักเป็นส่วนตัวกับครูผู้นี้ไหมครับ

...............................
      บันทึกการเข้า
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2553, 18:09:17 »

น้อง YC
พี่ไม่รู้จักหรอกค่ะ เคยได้รับทางเวป ในช่วงปลายๆรัฐบาลคุณทักษิณ หรือต้นๆ คมช.
ที่มีการแต่งตั้ง คุณอานันท์เป็นประธาน คณะกรรมการ สมานฉันท์ หรือแก้ปัญหา
3 จังหวัดภาคใต้ ...ก็ไม่แน่ใจนัก่ ก็เข้าใจว่า เขาคงไม่กล้าเปิดเผยตัวในสถานการณ์แบบนั้นกระมัง

แล้วที่เห็นอีกทีก็ตอนที่คุณโสภณเอามาโพสต์ เมื่อ 2-3 เดือนก่อน

พี่ก็เห็นด้วย ที่น้องว่า
.........ผมเชื่อว่า ในสังคมมีทั้งคนดีและไม่ดี  คนไม่ดีที่เป็นผู้นำเพื่อการด้อยพัฒนาคงมีอยู่บ้าง
แต่สังคมพี่น้องชาวมุสลิม ผมว่าส่วนใหญ่มากๆ เป็นคนดี และน่าคบ
ผู้นำที่ดี เพื่อการพัฒนา น่าจะมีมากกว่าผู้นำชั่วๆ.........................


เพื่อนพี่ที่ทำงานทางใต้ ก็บอกเช่นกัน ว่า มีผู้นำมุสลิมดีๆอยู่ ไม่น้อย
แต่ในสถานการณ์แบบนี้เขาช่วยอะไรซือแยไม่ได้.....ถึงจะให้รู้ว่าซือแยที่เขารู้จักจะถูกทำร้าย
ก็จำเป็นต้องอยู่เฉยๆ หรือแอบร้องไห้ ... หรือทำใจไม่รับรู้

พี่คิดว่าก็คงจะคล้ายกับเพื่อนมุสลิมของครูใต้คนหนึ่งที่เขียนจดหมาย กล่าวถึง..ว่า

>>ครูอิสลามบางคน ที่ไม่ใช่คนที่นี่บอกว่า คงอยู่ไม่ได้ เพราะเขาไม่คลุมหัวก็โดนมองแปลกๆ
จากพวกศาสนาเดียวกันแต่พวกที่ไม่ใช่อิสลามก็มองเขาอย่างไม่ไว้วางใจ


และเหตุการณ์หนึ่งที่น่ากลัว คือความสัมพันธ์กับคนต่างศาสนา คุณความดีที่ทำต่อกันไม่ช่วยที่จะ ทำให้เขาให้ความยุติธรรมกับเรา
มองจากประเด็น ที่เขียนในจดหมาย ที่ว่า ...

ทุกสิ่งที่ เราให้ เขารับ แต่เขาขอบคุณพระเจ้าที่บันดาลให้ เราให้จึงไม่มีบุญคุณต่อคนนอกศาสนา

...และเป็นประเด็น กรณี ครูจูหลิง หรือ คนไทยอดีตนาวิกโยธินที่อยู่ในหมู่บ้าน ทำมาหากินขับรถรับ ส่ง นักเรียน
วันหนึ่งถูกชาวบ้าน(บางคน)ร่วมกับหัวโจกผู้ร้ายมุสลิม จับมัด ตีจนตาย
และมีมุสลิมบางคนร้องไห้เสียใจให้กับเขา เสียใจให้กับครูจูหลิง

และพี่เองก็ได้รับคำบอกเล่าจากทหารบางคนทีถูกเกณฑ์ไปทำงานใต้ บอกว่า คนมุสลิม
บอกว่าการช่วยเหลือ การดูแลเอาใจของภาครัฐ ก็เกิดเพราะการประทานของพระเจ้า ต่างหาก ถ้าคนนอกศาสนา
บริจาค้อะไรรับได้หมด แต่การบริจาค หรือช่วยคนนอกศาสนา อาจเป็นบาปได้..........

พี่คิดว่าเรื่องนี้ น่าจะเป็นอุปสรรคกับการแก้ปัญหาภาคใต้ที่สำคัญ  ทีทำให้เห็นว่า การที่รัฐใช้วิธีการแจกๆๆ นั้น
เป็นการสูญเปล่า และผิดทาง

พี่เคยถามคนมุสลิมที่รู้จักกัน เขาก็ปฏิเสธนะ เขาบอกว่า ถูกต้องที่ทุกคนมีชีวิตภายใต้การบัญชา และ
การดูแลของพระเจ้า แต่พระองค์ ก็สั่งสอนว่า มุสลิมที่ดีต้องให้การช่วยเหลือเผื่อแผ่ผู้อื่น ....

คงมีมุสลิมบางคนทางใต้ที่คิดและทำอย่างที่ผู้นำเลวๆบอก แต่ก็เชื่อว่ามีไม่น้อยที่ไม่เชื่อและไม่ทำตาม

พีเคยอ่านหนังสือพระอาจารย์ ฝรั่ง ท่านหนึ่ง ศิษย์หลวงปู่ชา ว่า สมัยก่อนที่ยังไม่รู้จักพุทธศาสนา
เคยใช้ชีวิตเป็นฮิปปี้ เร่ร่อน ถึงอิหร่าน หิวและเสื้อผ้าสกปรก กำลังมองหาที่พัก
มีผู้หญิงมุสลิมวัยกลางคนค่อนไปสูงอายุ กวักมือเรียกเข้าไปในบ้าน ใชภาษาใบ้ ให้นั่งลง กินข้าว
ให้อาบน้ำ แล้วไปเอาเสื้อผ้าของผู้ชายขนาดพอดีกับท่านมาให้ใส่ และ  บุ้ยใบ้บอกให้เข้าใจว่า
เป็นของลูกชายเธอ  แล้วให้พักผ่อนพอสมควรแล้วก็ไล่ให้ออกจากบ้านไป โดยไม่เอาอะไรตอบแทนเลย

นี่ก็เป็นความงดงามอันหนึ่งที่อยากให้เกิดให้มีในสังคมมุสลิมไทย
แทนการสั่งสอนปลุกระดมของผู้ก่อการร้ายในภาคใต้ของเรา


ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดีล่ะ




      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2553, 18:44:41 »

ที่น้องYC เขียนว่า

แต่อ่านข้อเขียนของผู้ใช้นามว่า "หนึ่งในครูภาคใต้" แล้ว ผมรู้สึกไม่ค่อยราบรื่นนัก
 
      อ้างถึง                     
   
เขาขอให้ครูช่วยหาทางให้ลูกเขาได้เรียนด้วย ครูก็ช่วย
แล้วมาน้ำตาตกทีหลัง เมื่อมาพบว่า เด็กมาเรียนจนจบปริญญาแล้ว เขาไม่รู้จักเรา
แถมบางคนทำท่าเหมือนเรามาอาศัยแผ่นดินเขาอยู่)   
[/i]
      

หัวใจครู หากมีความปรารถนาดีแล้ว ไม่น่าจะรู้สึกอะไรขนาดนี้ โดยเฉพาะในสถานการณ์เช่นนี้ ที่อำนาจรัฐถูกท้าทาย
และเนื่อหาในข้อเขียนนี้ ยังบอกว่า คนระดับล่างถูกหลอก ถูกเอาเปรียบ
น่าจะเข้าใจเด็กนั้น  และรู้สึกยินดีที่เขาเรียนจบ



พี่เข้าใจว่าเขาก็คงเป็นครูธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งเหมือนๆกับครูไทยอีก 95 เปอร์เซ็นต์ ในประเทศนี้
และหลายๆครั้ง ของหัวใจครู ของพีเอง ก็ตกอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
นัั่นคือความคาดหวังในคนที่เราเคยให้ ไม่ว่าให้อะไรก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เราให้ด้วยรัก
และหวังดีในขณะที่ให้

จะคล้ายคลึงไปในความรัก ความหวังของพ่อแม่(ส่วนใหญ่)ทีมีต่อลูกนั่นแหละ

สำหรับประเด็นจิตใจความเป็นครู ของครูใต้คนนี้ ที่กำลังผิดหวังที่จะปักหลักฐานอยู่ภาคใต้ตลอดไป
กลับทำท่าจะอยู่ไม่ได้เสียแล้วนี้
ก็ไม่แปลกหรอกที่เธอจะคิดเช่นนี้  ที่ได้ส่งเสริมนักเรียนแล้วคาดหวังความขอบคุณ ความกตัญญู รู้คุณ
หรือความระลึก ตรึกจำจากลูกศิษย์
มันเป็นจิตใจธรรมดาของคนที่ยังไม่เข้าสู่กระแสนิพพานทุกคน เพียงแต่มากบ้างน้อยบ้าง
บางเวลา หรือตลอดเวลา พี่เชื่อว่า เธอคงจะรู้สึกยินดีที่เขาเรียนจบ อยู่แล้วแน่ๆ


เพียงแต่ว่าเธอจะเข้าใจลูกศิษย์ของเธอแค่ใหนเ่ท่านั้นเอง
มีคนมุสลิมหลายคนที่เรียนสูงๆ มีตำแหน่งการงานสำคัญ เมื่อกลับท้องถิ่นจะไม่แสดงตัวว่าเรียนจบสูงๆ
เพราะไม่ต้องการให้ชาวบ้านทั่วไป ที่ไม่มีโอกาสเรียนเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ ที่่ได้เรียนเพียงแค่จบโรงเรียนปอเนาะ

หรือถึงแม้ลูกศิษย์ของเธอจะลืมบุญคุณเธอจริง ถ้าพี่ได้เจอเธอ ก็จะบอกว่า อย่าเสียใจเลย
มาดูอาจารย์มหาวิทยาลัยที่สอนพรีคลินิคสิ เมื่อลูกศิษย์ขึ้นชั้นไปเป็นคุณหมอ แล้วนั้น หลายๆ คน
ก็ถูกคุณหมออดีตลูกศิษย์เดินชน โดยไม่ทักทาย ไม่รู้จัก อยู่บ่อยๆ แล้วพวกเราก็ช้ำใจเล็กๆ

อ้าวเล่าเพลิน
จดหมายนี้ พี่สนใจประเด็นเรื่องราวต่างๆนั่นต่างหาก ที่เราควรนำมาคิด สืบทาน หาข้อมูลว่าจริงเพียงไร
เพราะมันจะเป็นหนทางในการนำไปสู่การแก้ปัญหา ทั้งเชิงรับและเชิงรุกทั้งสิ้น

ช่วยกันคิด ช่วยกันหาข้อมูลสิคะ ช่วยบ้านเมืองด้วยเถิด ปัญญาชน
 เหนื่อย เหนื่อย
 

      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #22 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2553, 17:21:59 »


ขอขอบคุณคอลัมภ์ แม่ลูกจันทร์ เวบไทยรัฐวันเสาร์ 7 สิงหาคม 2553 ที่เอื้อเฟื้้อข่าว
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/101636

จุดเปลี่ยนที่น่าลอง



วิกฤตไฟใต้ลากยาวมากว่า 5ปี เปลี่ยนผ่านไปแล้ว 5'รัฐบาล เปลี่ยนกลยุทธศาตร์
ไปแล้วหลายตำรา เปลี่ยนผู้รับผิดชอบไปแล้วหลายทีม


สูญเสียงบประมาณไปแล้วหลายแสนล้านบาท สูญเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปแล้ว
หลายพันคน แต่สถานการณ์ 3 จังหวัดภาคใต้ก็ยังไม่คลี่คลาย

รัฐบาลอภิสิทธิ์ ตอนที่เข้ามาใหม่ๆประกาศอย่างมั่นใจว่าจะ
แก้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ให้ดีขึ้นภายในครึ่งปี

บัดนี้ผ่านไปแล้วปีครึ่ง ก็ยังคลำเป้าไม่เจอ

แสดงว่านโยบายแก้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ของรัฐบาลยังแก้ไม่ถูกจุด เกาไม่ถูกที่คัน

แม้จะมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้อำนาจพิเศษ ก็ยังไม่พอ

รัฐบาลอ้างว่ายังขาดเครื่องมือ คือ

 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

"พ.ร.บ.บริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้" ซึ่งยังไม่ผ่านสภาฯ

เพราะกฎหมายฉบับนี้จะเป็นเครื่องมือ ดับไฟอย่างแท้จริง

ล่าสุด ร่าง พ.ร.บ.บริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร
รอผ่านไฟเขียวจากวุฒิสภาอีกด่านเดียว รัฐบาลก็จะได้เครื่องมือแก้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ครบวงจร

ถ้า ก.ม.ฉบับนี้ทำให้ชายแดนใต้กลับคืนสู่ความสงบได้จริง ต้องถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของรัฐบาล

แต่ถ้าไม่สำเร็จอย่างที่คุยก็จะเป็นความล้มเหลวที่รัฐบาลต้องรับไปเต็มๆ โดยไม่มีข้อแก้ตัว

ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีดีอย่างไร "แม่ลูกจันทร์" จะฉายหนังตัวอย่างให้ดู

หัวใจของ ก.ม.ฉบับนี้คือ การจัดตั้งศูนย์อำนวยการบริหารชายแดนภาคใต้ "ศอ.บต."
เป็นหน่วยงานพิเศษ รับผิดชอบดูแลปัญหาชายแดนใต้โดยตรง

มีนายกรัฐมนตรีเป็น ผอ.ศอ.บต. กำกับดูแลนโยบาย

มีเลขาธิการ ศอ.บต.เป็นข้าราชการพลเรือนเทียบเท่าปลัดกระทรวง

ศอ.บต.มีอำนาจบังคับบัญชาข้า-ราชการที่ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดภาคใต้ (เฉพาะข้าราชการพลเรือน)

เลขาธิการ ศอ.บต.เป็นผู้วางแผนปฏิบัติการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาภาคใต้ ตามนโยบายรัฐบาล


ดูแลตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ให้สร้างปัญหาเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน

คุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน ให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับความไม่เป็นธรรม

   win win win

โดยจะมีสภาที่ปรึกษา ศอ.บต.ประกอบด้วย

ผู้แทนองค์กรปกครองท้องถิ่น ผู้แทนกำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้แทน กก.อิสลามประจำจังหวัด
อิหม่ามประจำมัสยิด เจ้าอาวาสวัดไทย ผู้แทนกลุ่มสตรี ผู้แทนครู ผู้แทนครูปอเนาะ
ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมท้องถิ่น ผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน ฯลฯ

รวมกันทั้งสิ้นไม่เกิน 41 คน


เป้าหมายเพื่อให้สภาที่ปรึกษา ศอ. บต.
มีส่วนร่วมแก้ปัญหาความไม่สงบชายแดนใต้ร่วมกับฝ่ายราชการ

"แม่ลูกจันทร์" เห็นด้วยกับ ก.ม. จัดตั้ง ศอ.บต. เพราะเป็นการ
แก้ปัญหาแนวปรองดอง สมานฉันท์ สันติวิธี


เปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ร่วมแก้ปัญหากับรัฐบาล
เพราะใครจะรู้ต้นเหตุของปัญหาได้ดีเท่ากับคนในพื้นที่เอง

ใครจะรู้วิธีแก้ปัญหาได้ดีเท่ากับคนที่อยู่กับปัญหาโดยตรง
นี่อาจเป็นยาขนานใหม่ที่รักษาถูกโรคมากกว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ใช้
กำลังทหารหลายหมื่นคนลงไปไล่ล่าโจรแบ่งแยกดินแดน

ความจริงจะโทษทหารก็ไม่ได้ เพราะรัฐบาลเองที่โยนภาระไปให้ทหารมากเกินควร

หนึ่งปีครึ่งที่ผ่านไป...การแก้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้อยู่ในมือทหารเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์

วันนี้มาถึงจุดเปลี่ยน...ที่ต้องลดบทบาททหารให้น้อยลง
เพิ่มบทบาทให้ประชาชนในพื้นที่แก้ปัญหาของตัวเอง
เอ้า...ลองดูซักตั้งว่าจะดีหรือไม่ดี.


แม่ลูกจันทร์
 
   win win win

      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
chaojom
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 104

« ตอบ #23 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2553, 13:24:30 »

สวัสดีครับพี่หมอสำเริง ขอบคุณครับที่นำบทความมาให้อ่าน

อ่านแล้วก็งงๆ แต่ก่อนก็มี ศอ.บต. ยังไม่เห็นมีพรบ.อย่างว่า

ผู้นำบ้านเมืองเรานี่แปลกนะครับ  ทำอะไรไม่สำเร็จก็มักโยนไปที่ตัวหนังสือ
แล้วก็เอาตัวหนังสือ มากำหนดชีวิตของคน
กำหนดไปกำหนดมา
ไม่รู้ว่า ช่วยให้ชีวิตสบายขึ้นหรือยุ่งยากมากขึ้น

แต่ที่แน่ๆ งบประมาณแผ่นดินเพิ่มขึ้นแน่นอน

ขอให้ฝันสำเร็จเถอะครับ ผมจะได้เดินทางไปภาคใต้อย่่างสบายใจ

 
      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #24 เมื่อ: 06 กันยายน 2553, 12:47:25 »


         ขอขอบคุณเวบคมชัดลึก วันจันทร์ที่ 6 กันยายน 2553         http://www.komchadluek.net/detail/20100906/72218/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2.html

                     เติมทัศนคติบวกเพื่อสันติสุขแผ่นดินไทย

                            

        สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จับมือศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาฯ และสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ รับหน้าเสื่อจัดกิจกรรมสานรักในเชิงสัมมนาวิชาการ "มุสลิมในแผ่นดินไทย : บทบาทชาวไทยมุสลิมในการสร้างสรรค์สังคมไทย"

         แถลงข่าวไปแล้ว เมื่อเร็วๆ นี้ บริเวณโถงเอนทรานซ์ ฮอลล์ จามจุรีสแควร์ จุฬาฯ โดยมี รศ.ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ ผอ.สถาบันเอเชียศึกษา เล่าความเป็นมาของกิจกรรมสร้างสรรค์ว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบรายวันที่เกิดขึ้น มุสลิมถูกมองในแง่ลบเรื่อยมา จึงปรารถนาให้สังคมได้ทราบและตระหนักว่าพี่น้องมุสลิมคือคนไทยส่วนหนึ่งและหล่อหลอมเป็นเนื้อหนึ่งอันเดียวกันในสังคมไทยมาช้านาน มีบูรณาการร่วมกันจนกล่าวได้ว่าความเป็นไทยในปัจจุบันไม่สามารถที่จะแยกความเป็นมุสลิมออกไปได้ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่อาจหลงลืมไป

         "แทนที่จะวิ่งตามแก้ เราหันมาดักรอแล้วสร้างการป้องปราม ให้ได้มีการเตรียมพร้อม ซึ่งงานสัมมนาวิชาการครั้งนี้มีกิจกรรมหลากหลาย มีการปาฐกถาพิเศษ อาทิ ฯพณฯ พลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เรื่อง "พระราชกรณียกิจกับมุสลิมในแผ่นดินไทย" นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เรื่อง "Thailand and Muslim World : A Strategic Partnership" เป็นต้น ตลอดจนพูดคุยเรื่องประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์เกี่ยวกับชาวมุสลิมในประเทศไทย ความสัมพันธ์ในแง่ของเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน การเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม ศาสนา ความเชื่อ และอาหาร รวมกว่า 20 หัวข้อ บรรยายทั้งภาษาไทยและอังกฤษ" ผอ.สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ แจงรายละเอียด

         การเรียนรู้ความแตกต่างคือหัวใจของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ศุกรีย์ สะเร็ม ผู้จัดนิทรรศการประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ กล่าวถึงแง่มุมที่จะนำเสนอในนิทรรศการว่า จะมีการสืบค้นความเป็นประเทศไทยในฐานะที่เป็นเบ้าหลอมของคนหลากหลายเชื้อชาติศาสนา นำมาซึ่งคำตอบและหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญ ว่าแท้จริงแล้วมุสลิมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างบ้านแปงเมือง ซึ่งกลุ่มมุสลิมหลากชาติพันธุ์บนแผ่นดินไทยนั้น อาทิ แขกจาม แขกมลายู แขกปาทาน เป็นต้น

         ด้าน ทอจันทร์ นเรศจักรพันธ์ แม่งานด้านการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรม กล่าวว่า ได้รวบวัฒนธรรมความเป็นอยู่ต่างๆ มาไว้ในงาน เริ่มจากด้านอาหารที่จะมีการแสดงอาหารฮาลาล พร้อมสอดแทรกความรู้ มีซุ้มผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีการสาธิต "รู้จัก รู้ปรุง รู้รส รู้คุณค่าอาหารมลายู-ไทยที่ใกล้สาบสูญ" โดยกุ๊กระดับรางวัลจากจังหวัดชายแดนใต้ เป็นต้น ส่วนการแสดงบนเวทีนำเสนอศิลปวัฒนธรรมของชาวไทยมุสลิมที่กลมกลืนอยู่ในวัฒนธรรมไทย อาทิ ลำตัดหวังเตะ ดิเกฮูลู การขับร้องลำนำนาซีด ปัญจสีลัต รำกริช อูเละนบี ฯลฯ

         เปิดให้ร่วมงานฟรี ระหว่าง 29 กันยายน-2 ตุลาคมนี้ ที่หอประชุมจุฬาฯ โดยในส่วนของการสัมมนาสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 17 กันยายน พร้อมรับเอกสารและบัตรชมการแสดง ทั้งนี้ในวันพุธที่ 29 กันยายน เวลา 09.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดการสัมมนาด้วย

                 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><