25 พฤศจิกายน 2567, 20:41:47
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 13 14 [15] 16 17  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ  (อ่าน 265390 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Lamai
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,712

« ตอบ #350 เมื่อ: 21 เมษายน 2553, 21:02:40 »

เป๋นจะไดก้าน สงกรานต์ไปแอ่วไหนพ่อง? บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
หนุ่ม2524
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2524
กระทู้: 1,042

« ตอบ #351 เมื่อ: 22 เมษายน 2553, 17:13:56 »

สวัสดี ก้าน สบายดีบ่
      บันทึกการเข้า
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #352 เมื่อ: 22 เมษายน 2553, 21:49:38 »

ก้านเป็นไงบ้างคะ...หายดียังคะ
      บันทึกการเข้า
dtoy
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,076

« ตอบ #353 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2553, 13:17:11 »

ก้านเงียบหายไป  ทำอะไรอยู่หงะ  มาคุยกับเพื่อนๆหนอยเร็ว
      บันทึกการเข้า

Live Your Dream   
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #354 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 19:55:14 »

พี่ก้าน,
ขอพี่เข้มแข็งต่อสภาวะแห่งความสูญเสียนี้
เพิ่งทราบข่าวจากพี่ยังชินเมื่อครู่คะ
หนิงและพี่ๆน้องๆที่นี่ขออยู่เคียงข้างพี่นะคะ.


nn.24+3
      บันทึกการเข้า


SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #355 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2553, 18:58:44 »

อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 06 พฤษภาคม 2553, 19:55:14
พี่ก้าน,
ขอพี่เข้มแข็งต่อสภาวะแห่งความสูญเสียนี้
เพิ่งทราบข่าวจากพี่ยังชินเมื่อครู่คะ
หนิงและพี่ๆน้องๆที่นี่ขออยู่เคียงข้างพี่นะคะ.


nn.24+3

ขอบใจมากจ๊ะหนุงหนิง
ไม่มีอะไรหรอก
แม่ท่านหมดทุกข์หมดโศกแล้ว


 sorry

      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
Janchai
มือใหม่หัดเมาท์
*


It is lovely to be called "Mom".
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 242

« ตอบ #356 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2553, 21:50:57 »

อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 06 พฤษภาคม 2553, 19:55:14
พี่ก้าน,
ขอพี่เข้มแข็งต่อสภาวะแห่งความสูญเสียนี้
เพิ่งทราบข่าวจากพี่ยังชินเมื่อครู่คะ
หนิงและพี่ๆน้องๆที่นี่ขออยู่เคียงข้างพี่นะคะ.


nn.24+3

เพิ่งเข้ามาเห็นข่าว ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
ท่านไปสบายและเฝ้าดูน้องก้านทำความดีต่อไป
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #357 เมื่อ: 05 กันยายน 2553, 15:27:33 »

ไปจะกล่าวบทมา ข้าฯจะขอกล่าวเล่าเรื่อง
ดังนี้....


มีบ้านอยู่ 4 หลัง บ้านในที่นี้ไม่ใช่แค่บ้านที่เราอยู่อาศัยแต่เป็นบ้านที่มีกิจการอย่างเช่น บ้านมีดบิน (House of Flying Dragger) บ้านทั้ง 4 มีชื่อเรียกดังนี้ หลังที่ 1 ชื่อ "เรือนตนุ" หลังที่ 2 ชื่อ "เรือนกดุมพะ" หลังที่ 3 ชื่อ "เรือนกัมมะ" และหลังที่ 4 สุดท้ายชื่อ "เรือนลาภะ" และก็มีคน 4 คนชื่อ คุณอาทิตย์ คุณพุธ คุณศุกร์ และ จอมเกเรมฤตยู เข้ามาเกี่ยวข้องดังนี้

1. คุณอาทิตย์ ไม่อยู่ใน เรือนตนุ ที่เป็นบ้านของตน แต่ไปอาศัย เรือนกัมมะ ของคุณศุกร์อยู่
2. คุณศุกร์ ไม่อยู่ใน เรือนกัมมะ ของตน แต่ไปอาศัย เรือนลาภะ บ้านของคุณพุธอยู่โดยขอแลกเรือนกันอยู่
3. คุณพุธนั้นเป็นเจ้าของบ้าน เรือนกดุมพะ และ เรือนลาภะ การที่คุณพุธไปแลกเรือนอยู่กับคุณศุกร์ ก็เท่ากับคุณพุธทิ้ง เรือนกดุมพะ ของตนไปอาศัย เรือนกัมมะ ของคุณศุกร์อยู่
4. จอมเกรเมฤตยูพเนจรผ่านมาเห็น เรือนตนุ ว่างอยู่ไม่มีคนอยู่ จึงถือวิสาสะเข้าไปอยู่ซะเลย

โบราณว่าอยู่บ้านท่านอย่างนิ่งดูดาย... คุณอาทิตย์ก็เลยมีหน้าที่ต้องดูแลจัดการกิจการของเรือนกัมมะ แต่ถึงแม้ว่าคุณอาทิตย์จะมีความรู้ความสามารถยังไง คุณอาทิตย์ก็ไม่อาจจะตัดสินใจทำอะไรได้โดยลำพัง เพราะต้องฟังความเห็นและการสนับสนุนจากคุณพุธด้วย เพราะคุณอาทิตย์ไม่ได้อยู่เพียงคนเดียวลำพัง แต่อยู่ร่วมกับคุณพุธ ซึ่งคุณอาทิตย์ต้องฟัง เพราะคุณพุธอาศัยเรือนกัมมะอยู่ในฐานะแลกเรือนกับคุณศุกร์ แต่คุณอาทิตย์นั้นแค่มาอาศัยเท่านั้น กิจการของเรือนกัมมะก็ไม่มั่นคง เพราะคุณพุธแกก็สนับสนุนบ้าง อยู่เฉยๆบ้าง

ผลกระทบก็มาถึงเรือนตนุและเรือนกดุมพะ เรือนกดุมพะก็ว่างเปล่าไม่มีรายได้ หรือ ทรัพย์สินเข้าบ้าน เพราะเจ้าของบ้านไปอยู่เรือนอื่น และเรือนที่ไปอยุ่ก็ไม่มั่นคงรุ่งเรืองพอที่จะทำให้มีรายได้ ซื้อทรัพย์สินเข้าบ้าน ส่วนเรือนตนุ นั้นเล่า จอมเกเรมฤตยูมาอาศัยอยู่ มฤตยูไม่มีบ้านของตน พอมาอยู่เรือนคนอื่น ก็ดูแลไม่เป็น แถมวันดีคืนดีเกิดเพี้ยนขึ้นมาก็ทำลายกำแพงบ้านเสียนี่ เรือนตนุก็เสียหาย.....

ในชีวิตการทำงานของผมที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ผมไม่มีโอกาสที่จะได้ประสบความสำเร็จ เพราะผมมักจะต้องเลิกราลงกลางคัน เพราะขาดปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยหนึ่งนอกเหนือจากความรู้ความสามารถ นั่นคือเงิน เพราะงานบางงานก็ไม่ใช่งานง่ายต้องใช้เวลา ต้องอดทนทำอย่างรอคอย แต่ค่าใช้จ่ายมันไม่ได้รอด้วย...สุดท้ายก็นำมาสู่ชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดี ประหนึ่งคนที่ล้มเหลวในชีวิต ไม่แตกต่างจากเรื่องบ้านที่ผมเล่ามาตั้งแต่ต้นเลย

เพราะบ้านทั้ง 4 หลังนั้นก็คือเรือนในดวงชะตา ของผมนั่นเอง เรือนตนุก็หมายถึงตัวผม เรือนกดุมพะก็หมายถึงรายได้ เรือนกัมมะก็อาชีพการงาน และสุดท้ายเรือนลาภะก็คือ ผลประโยชน์ต่างๆ อาทิตย์ หมายถึง ตัวผม ความรู้ความสามารถของผม พุธ หมายถึง เงิน คนเราเมื่อไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมที่จะได้ผลตอบแทน ต้องเลิกราลงกลางคัน ก็ยากที่จะได้พบกับคำว่า ประสบความสำเร็จ

หนึ่งเดือนมานี้ได้กลับไปทบทวนวิชา Astrology แล้วนึกย้อนเหตุการณ์จริงในชิวิต ก็ไม่น่าเชื่อที่ เรื่องจริงนั้นอิงดวงดาว


 งง งง
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #358 เมื่อ: 18 กันยายน 2553, 14:41:01 »

Psycho-Cybernetics VS พันธะสัญญา อีกที


อ้างถึง
ข้อความของ SC (ก้าน 24) เมื่อ 26 กรกฎาคม 2552, 18:34:25
Psycho-Cybernetics VS พันธะสัญญา
 
ผมได้ซื้อหนังสือเกี่ยวกับการรักษาผมร่วงมาอ่านเมื่อหลายปีมาแล้ว ในหนังสือนั้นได้เกริ่นนำด้วยเรื่อง Psycho-Cybernetics ในหนังสือนั้นอธิบายว่า Cybernetics เป็นระบบล็อคเป้าหมายของขืปนาวุธนำวิถี เช่นเดียวกัน จิตคนเราก็สามารถล็อคเป้าหมายได้ด้วยเรียกว่า Psycho-Cybernetics บางครั้งจิตไร้สำนึกของคนเรามีการล็อคเป้าหมายโดยที่ตัวเราเองไม่รู้ตัว ผลลัพท์ก็คือ เราจะประสบความล้มเหลวในอาการเดิมซ้ำๆ
 
ผมมาคิดทบทวนดู ก็พบว่าใช่ ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นมักจะมีอาการแบบเดิมๆ ผมก็พยายามคิดว่าผมได้ตั้งเป้าหมายอะไรไว้ จนจิตไร้สำนึกของผมล็อคเป้าหมายนั้นไว้ แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก จนกระทั่งเมื่อผมเขียนเรื่อง 6 หญิงที่สุดแสนประทับใจเสร็จแล้ว ผมก็คิดว่า หรือ เป้าหมายในจิตไร้สำนึกของผมที่ล็อคไว้ คือ " เป็นนักรัก " แบบ ดอน ฮวน อะไรประมาณนั้น ผมยังเคยคุยกับน้องคนหนึ่งเลยว่า พี่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน แต่พี่ก็ประสบความสำเร็จในกลกามความรัก เพราะ พี่ได้ผ่านประสบการณ์ระดับเทพ ซึ่งน้อยคนนักที่จะบรรลุถึงขั้นนั้น...
 
แต่เมื่อมองจากปัจจุบัน ผมก็เข้าใจแล้วว่า จิตไร้สำนึกของผมได้ล็อคเป้าหมายไว้โดยที่ผมไม่รู้ตัว นั่นคือ " ตามหาคนๆหนึ่ง " เป็นเป้าหมายที่ถูกล็อคไว้ในจิตไร้สำนึก แต่ไม่ใช่เพราะว่าผมไปตั้งมันไว้โดยที่ผมไม่รู้ตัว แต่เป็นเพราะ พันธะสัญญา ตั้งแต่ชาติภพที่แล้ว!


  เหนื่อย


ในที่สุดผมก็ได้เจอคนที่ผมค้นหาจริงๆจนได้

เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับ จิตวิทยาแรงจูงใจ จำได้ว่า " ...การกระทำของคนเรานั้นหากมิใช่กิจวัตรประจำวัน หรือที่ทำเป็นนิจสิน หากเป็นการกระทำที่พิเศษ ล้วนมีแรงจูงใจให้กระทำ อาจเกิดแรงบันดาลใจ จากสิ่งที่ได้พบเห็น... "

แต่ผมเพิ่ม พันธะสัญญา ในจิตไร้สำนึกเข้าไป บางทีตัวเราเองก็ไม่อาจจะรู้ได้ ทำไมเราถึงเป็นแบบนั้น

ผมเคยปักใจในหญิงสาวที่ผมคิดว่านั่นใช่คนที่ผมตามหา (เนื้อคู่) คนแรกเธอเกิดปีมะโรง นับแต่นั้นผมก็คลั่งไคล้อยากได้หญิงสาวปีมะโรงมาเป็นคู่มาก...

พอได้เจอคนนี้ สิ่งที่ได้รับรู้ มันก็กระจ่างว่า ทำไมถึงเป็นแบบนั้น เทียบกับคนก่อนหน้านี้ที่เป็นต้นเหตุให้เขียนกระทู้นี้ขึ้นแล้ว คนก่อหน้านี้เทียบไม่ติดเลย แต่แปลกมากที่เธอทั้งคู่เกิดปีมะโรงที่เป็นปีเดียวกัน และมีชื่อเล่นเป็นอักษรตัว น เหมือนกัน

อ้อ เพิ่งนึกได้เมื่อวานนี้เองว่า ผมก็มีอักษรชื่อเล่นเป็นตัว น เหมือนกัน แม่เคยเล่าให้ฟังว่า ตอนที่แม่ท้อง แม่คิดชื่อไว้ตั้งให้หลายชื่อ แต่คนที่คลอดลูกก่อนก็เอาไปตั้งชื่อลูกกันหมด ชื่อผมที่แม่ตั้งให้จริงๆนะ ชื่อ " น้อย " แต่ตอนเกิด นักร้องลูกทุ่ง " ก้าน แก้วสุพรรณ " กำลังดัง ญาติๆเลยเรียก " ก้าน " รวมทั้งคนในหมู่บ้านด้วย แต่แม่ผมเรียก " น้อย " ตลอดตั้งแต่เล็กจนโต จนกระทั่งเมื่อช่วงประมาณ 10 ปีมานี้เองที่หันมาเรียก " ก้าน "

การได้เจอสาวคนนี้มันทำให้ผมเข้าใจในหัวเรื่องที่เล่านี้ดีขึ้น เพราะสิ่งที่ผมต้องการ อยากได้มากๆ ล้วนมีอยู่ในตัวเธอ นี่ไม่นับเรื่องรูปร่างหน้าตานะ เพราะผมไม่เคยล็อคสเป็กเรื่องพวกนี้ แต่ผมหมายถึงคุณสมบัติความพิเศษ(ในความคิดของผม)ต่างหาก

การได้พบเธอ มันทำให้ผมมีความสุขมาก เพราะมันพิสูจน์ว่า ความคิดและการรับรู้ของผมนะถูกต้อง (หัวเรื่องนี้ไง) ผมไม่ได้วิปลาสไปเอง มีอะไรอีกมากในตัวเธอที่ทำให้ผมตอบว่า สมควรแล้วที่มันทำให้ผมเป็นแบบนี้ตลอดช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา

และ เธอเป็นคนแรกและคนเดียวในเวลานี้ที่เห็นรูปลูกศรที่อยู่กลางอกจากรูปที่ผมให้ดู ที่ผ่านมาคนอื่นๆทั้งหญิงชายไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์กับผมอย่างไร ถ้าไม่บอกไม่เน้นจริงๆ ไม่มีใครเห็นจากการมองเพียงครั้งเดียว

และกาลต่อไป ไม่ว่าผมจะได้ครองคู่กับเธอหรือไม่ ผมก็ไม่เสียใจ เพราะผมบรรลุภาระกิจของผม


* THE END *


 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #359 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2553, 11:10:08 »

 หวัดดีจ่ะก้าน ดีใจด้วยจ่ะที่ก้านบรรลุภาระกิจของก้านแล้ว อย่าลืมเล่าใหเเพื่อนๆอีกนะคะรออ่านค่ะ...โชคดีนะคะเพื่อน...
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #360 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2553, 21:44:40 »

พี่ก้าน,
นานนานเห็นพี่..
หนิงดีใจ...




เมื่อไหร่พี่จะอ้วนซะที?
      บันทึกการเข้า


SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #361 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2553, 18:16:42 »

บทส่งท้าย

 
อ้างถึง   
เทพเจ้าดาวเหนือ


เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมกับนักธุรกิจชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่ ผมเลยถือโอกาสถาม (ผ่านล่าม) ว่า “ ในประเทศจีนมีเทพเจ้าดาวเหนือหรือไม่?

ก็ได้รับคำตอบว่า “ มันมีในนิทาน นิยายปรัมปรา

คำตอบที่ได้รับเหมือนอย่างที่ผมคิดไว้ไม่ผิด ตั้งแต่เมื่อผมได้รับรู้เรื่องนี้ใหม่ๆ

ชนชาติในภูมิภาคหนึ่งจะมีความเชื่อเรื่องเทพตามการรับรู้ของตนเอง ต่อมาอาจจะถูกต่างชาติรุกรานเข้ายึดครอง ชนชาติที่เข้ามาปกครองก็จะนำเอาเทพตามความเชื่อของตนเข้ามาเผยแพร่ด้วย ทำให้เทพตามความเชื่อดั้งเดิมถูกลบเลือนไป

หรืออีกอย่างชนชาติในภูมิภาคนั้นอาจจะไม่ถูกรุกรานยึดครอง แต่อาจมีลัทธิใหม่เกิดขึ้น หรือ ศาสนาจากภูมิภาคอื่นแผ่อิทธิพลเข้ามา

ซึ่งทั้งสองกรณีทำให้เทพตามความเชื่อดั้งเดิมดูเหมือนถูกลบเลือนไป แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ยังมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งซึ่งยังยึดถือในความเชื่อของตนอย่างแนบแน่น โดยเฉพาะ ผู้ที่ใกล้ชิดและเกี่ยวพันกับเทพองค์นั้น ทำให้ในการรับรู้ของชนส่วนใหญ่กลายเป็นนิทาน หรือ นิยายปรัมปราไป
 
เทพเจ้าดาวเหนือจึงเป็นเทพที่มีมาก่อนที่ลัทธิเต๋าจะเฟื่องฟู และพุทธศาสนาฝ่ายมหายานจากอินเดียจะแผ่อิทธิพลมาถึง




 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #362 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2553, 17:17:28 »

แล้วพี่กะเธอคนนั้น
ตกลงได้ปลงใจกันมั้ยคะ?
บุปค่ะบุป...
คือบุปเพสันนิวาต
(เขียนยากจริงๆพับผ่า)
ต้องตาง่ายนิดเดียวพี่..แต่งปรุงให้สวยได้
แต่ต้องใจใช้เวลานานกว่า..เผลอๆนานๆไป
ต้องตาก็ไม่สำคัญเหมือนตอนแรกพบ.
      บันทึกการเข้า


SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #363 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2553, 20:31:02 »

อย่าได้ริสาบานเป็นอันขาด!

เมื่อครั้งที่ผมทำงานกับบริษัทในเครือวังทองกรุ๊ป (พฤษภาคม 2535 - พฤษภาคม 2536) บริษัทฯได้จัดนำเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อคณะมาถึงโบราณสถานปราสาทเมืองสิงห์ ผมเกิดนึกอยากถ่ายรูป ตั้งใจจะนั่งท่าเลียนแบบเทพ (คือนั่งพับขาข้างหนึ่งสอดฝ่าเท้าใต้ขาอีกข้างที่ห้อยลงมา) เพราะมันเข้ากับสถานที่ดี ผมเลยใช้มือดันตรงระดับที่จะขึ้นไปนั่ง แล้วสปริงตัวขึ้นไป ก็ปรากฎว่ามือผมลื่นไถลลงมา ทำให้แขนข้างหนึ่งครูดกับหิน เป็นแผลถลอกยาวตั้งแต่ช่วงเลยข้อศอกลงมาถึงเกือบครึ่งแขน เลือดไหลย้อย สาวๆเห็นถึงกับทำหน้าเบ้ ทีมพยาบาลที่ไปด้วยก็ช่วยล้างแผลทายาให้ผม...

ผ่านไปหลายปีดีดัก จนวันหนึ่งในปี 2542 ผมได้ไปที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ที่ศาลาพระเกี้ยว ไม่รู้มีอะไรดลใจให้ผมเดินไปมุมๆหนึ่ง ก็ไปเจอหนังสือชื่อ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทย ผมจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู ก็เห็นมีปราสาทเมืองสิงห์ด้วย หลังจากอ่านดูแล้วผมถึงบางอ้อ

แล้วผมก็ดูหน้าต่อๆไป พอเปิดไปเจอ วัดพระธาตุช่อแฮ เท่านั้นแหล่ะ ความทรงจำระลึกขึ้นโดยฉับพลัน " ตายห่า! กูเคยไปสาบานไว้นี่หว่า "

สมัยที่ผมสอบเอ็นทรานซ์ครั้งแรกไม่ติด ผมจึงได้ไปสอบเข้าเรียนที่วิทยาลัยครูลำปางในสมัยนั้น เรียนเผื่อไว้ ขณะเดียวกันก็เตรียมตัวสอบเอ็นฯใหม่ ที่นั่นเองที่ผมมีคนรักที่คบหากันจริงๆเป็นครั้งแรก และเหมือนชีวิตถูกลิขิตไว้ล่วงหน้า ปรากฎว่าพี่สาวลูกของลุงพี่ชายคนโตของแม่ได้ไปแต่งงานกับคนบ้านเดียวกันกับสาวเจ้าพอดี พี่สาวจึงไปอยู่ที่นั่นกว่าสิบปีได้ หลังจากสอบเอ็นทรานซ์เสร็จผมก็ไปอยู่บ้านพี่สาว เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดคนรัก กลางวันผมก็ช่วยพี่สาวทำงาน กลางคืนผมก็ไปบ้านสาว ตามประเพณี "แอ่วสาว" ทางเหนือ พอหยุดทำงานก็ไปเที่ยวกัน สาวเจ้าก็เอามอร์เตอร์ไซต์มารับ ก็เที่ยวชมไปเรื่อย จนมาถึงวัดพระธาตุช่อแฮ ก็ได้เข้าไปไหว้พระกัน ช่วงนั้นไม่รู้ว่าผมคิดยังไง จึงพนมมือหลับตาสาบานเอาไว้ " ข้าขอสาบานจะรัก...หากผิดคำสาบานขอให้ข้ามีอันเป็นไป... " ทั้งๆที่สาวเจ้าก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร และผมก็ไม่ได้กล่าวออกมาดังๆให้เธอได้ยินด้วย แล้วผมก็ลืมมันไปเลย...

ผมสอบเอ็นทรานซ์ติดจุฬาฯ ก็เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ ในปีแรกช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ผมก็ได้กลับไปที่ลำปางไปหาเธอ แล้ว เราก็ได้เสียกัน...

กลับมากรุงเทพฯผมปวดหัวตึ๊บ เพราะเงินที่แม่ส่งมาให้เป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนระหว่างการศึกษาเล่าเรียนถูกใช้ไปจนหมด (ผมมันเลวจริงๆ) แล้วผมก็รู้สึกผิดที่ใช้เงินผิดประสงค์ของแม่ ผมเลยเกิดความคิดว่า มีแฟนที่เรียนอยู่ด้วยกันน่าจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องทำผิดต่อแม่ ผมเลยบอกเลิกกับเธอแบบทำร้ายจิตใจกันสุดๆ

แต่ผมก็ไม่มีแฟนอีกเลยจนกระทั่งผมเรียนจบ!

หลังจากจำได้ผมก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนที่ดีที่สุดฟัง เพื่อนก็ให้เงินผมหนึ่งพัน เพราะตอนนั้นชีวิตผมก็ไม่มีงานประจำทำเป็นหลักแหล่ง ก่อนไปขณะเดินผ่านแผงขายสลากกินแบ่งฯ เพื่อนก็บอกให้ซื้อคู่หนึ่ง แล้วฉีกแบ่งกันคนละครึ่ง

พอถึงจังหวัดแพร่ ผมก็เดินทางไปวัดพระธาตุช่อแฮเลยทันที ถึงพระธาตุก็จุดธูปเทียนพนมมือหลับตาอธิษฐานขอขมาลาโทษ ก็รู้สึกว่ามีแสงสว่างวาบขึ้นไม่รู้ว่าเกิดจากเปลวเทียนหรือแสงแดด เย็นวันนั้นก็ได้ข่าวดีก่อนเดินทางกลับ ผมถูกสลากกินแบ่งรางวัลเลขท้ายสองตัว ก็คิดว่าการอธิษฐานขอขมาลาโทษของผมนั้นได้สัมฤทธิ์ผลแล้ว

กลับมาถึงกรุงเทพฯแล้ว วันหนึ่งผมได้โทรศัพท์ไปหาผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่ผมเรียกท่านว่า " อาจารย์ " ผมก็เล่าให้ท่านฟัง อาจารย์ถึงกับอุทานออกมา ท่านก็เคยไปสาบานไว้ที่นั่นเหมือนกัน ในที่สุดอาจารย์ก็เดินทางไปจังหวัดแพร่เพื่อไปขอขมาเช่นเดียวกันกับผม โดยอาจารย์ได้ไปขอโทษคนรักเก่าของท่านต่อหน้าด้วย ส่วนผมไม่ได้ไป เพระก่อนนั้นผมทราบจากแม่ผมแล้วว่า เธอได้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว มีลูก 2 คน การไปพบเธอจะเป็นการไปสร้างแรงกระเพื่อมให้กับครอบครัวเธอมากกว่า

ผมกับอาจารย์มีเรื่องราวความรักที่เหมือนกัน มีคนรักอยู่จังหวัดเดียวกัน และ ก็ไปสาบานไว้ที่เดียวกัน แล้วก็ต้องเดินทางไปขอขมาแบบเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก...

อีก 10 ปีให้หลัง ผมก็ได้รับรู้ว่า ผมมีเบื้องบน มีพันธะสัญญาจากชาติที่แล้ว เมื่อนึกย้อนไปในอดีตนับตั้งแต่ปี 2552 ผมเป็น " บุรุษผู้รักษาอะไรไว้ไม่ได้ " และที่ผมรักษาอะไรไว้ไม่ได้ ก็เพราะว่า

ผมต้องรักษาพันธะสัญญาจากอดีตชาติ ชาตินี้ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะสัญญากับใคร สัญญาว่าจะรักษาอะไรกับใครได้



เหมือนการจดทะเบียนสมรสซ้อน การจดทะเบียนครั้งหลังตกเป็นโมฆะ



 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
เก๊า(24)
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,069

« ตอบ #364 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2553, 20:20:13 »

หวัดดี ก้าน โหราศาสตร์ไปถึงไหนแล้วครับ
      บันทึกการเข้า
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #365 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2553, 22:52:33 »

อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 15 ตุลาคม 2553, 20:20:13
หวัดดี ก้าน โหราศาสตร์ไปถึงไหนแล้วครับ

หวัดดีเก๊า
ก็ชำนาญมากขึ้นนะ แต่ดูๆไปแล้ว ตัวเราไม่ใช่หมอดูอาชีพอ่ะ คงเป็นแค่ Accessories เท่านั้นเอง
ที่ยังไปไม่ถึงดวงดาว ก็เพราะเกณฑ์ชะตามันยังไม่ถึงนะ ชั่งดวงจีน ก็บอกว่า ต้นร้ายปลายดี

ปริศนารูปศร นั้นมันเป็นความจริงอ่ะ บางอย่างมันเป็น เคล็ดลับของโลก อย่างเช่น มัดตราสัง ทำไมมันกักวิญญาณได้



 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #366 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2553, 22:33:33 »

เลข 7 ตัวเลขแห่งเทพ

เลข 7 นั้น ซีกโลกตะวันตกให้ความสำคัญกับเลขนี้มาก เลข 7 ถือว่าเป็นเลขแห่งเทพ

ในโลกเรานี้มี 7 ทวีป 7 มหาสมุทร 7 สิ่งมหัศจรรย์ และที่น่าพิศวงมากๆก็คือ เรามี 7 วันในหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งมันไม่สอดคล้องกับจำนวนวันในเดือนเลย เราลองมาดูความมหัศจรรย์เรื่องวันทั้งเจ็ดกัน

ในวันทั้งเจ็ดนั้นก็มีดาวประจำวันตามชื่อวัน และมีเลขประจำดาว ตามคัมภีร์ฮิบรูดังนี้

วันอาทิตย์    ดาวประจำวันคือ อาทิตย์  เลขพลังดาวคือ 1
วันจันทร์      ดาวประจำวันคือ จันทร์   เลขพลังดาวคือ 2
วันอังคาร     ดาวประจำวันคือ อังคาร  เลขพลังดาวคือ 9
วันพุธ         ดาวประจำวันคือ พุธ      เลขพลังดาวคือ 5
วันพฤหัสบดี  ดาวประจำวันคือ พฤหัสฯ  เลขพลังดาวคือ 3
วันศุกร์        ดาวประจำวันคือ ศุกร์     เลขพลังดาวคือ 6
วันเสาร์       ดาวประจำวันคือ เสาร์     เลขพลังดาวคือ 8

นำเลขพลังดาวทั้งหมดมารวมกัน เอา 1+2+9+5+3+6+8 = 34 แล้ว เอา 3+4 = 7

เห็นไหมละครับ ได้เลข 7 เท่าจำนวนวันพอดี

ทีนี้มาดูทางโหราศาสตร์ไทยกันบ้าง ไทยเราใช้เลขแทนดาวดังนี้

วันอาทิตย์    ดาวประจำวันคือ อาทิตย์  เลขแทนดาวคือ 1
วันจันทร์      ดาวประจำวันคือ จันทร์    เลขแทนดาวคือ 2
วันอังคาร     ดาวประจำวันคือ อังคาร   เลขแทนดาวคือ 3
วันพุธ         ดาวประจำวันคือ พุธ       เลขแทนดาวคือ 4
วันพฤหัสบดี  ดาวประจำวันคือ พฤหัสฯ   เลขแทนดาวคือ 5
วันศุกร์        ดาวประจำวันคือ ศุกร์      เลขแทนดาวคือ 6
วันเสาร์       ดาวประจำวันคือ เสาร์      เลขแทนดาวคือ 7

นำเลขแทนดาวทั้งหมดมารวมกัน เอา 1+2+3+4+5+6+7 = 28 แล้ว เอา 2+8 = 10 เอา 1+0 = 1

เห็นความแตกต่างกันไหมครับ

ดังนั้นหากจะใช้เลขศาสตร์พลังดาว ก็อย่านำมาปนกันกับโหราศาสตร์ไทย


 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #367 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2553, 23:12:34 »

อ้างถึง
ข้อความของ SC (ก้าน 24) เมื่อ 10 ตุลาคม 2553, 20:31:02
อย่าได้ริสาบานเป็นอันขาด!

เมื่อครั้งที่ผมทำงานกับบริษัทในเครือวังทองกรุ๊ป (พฤษภาคม 2535 - พฤษภาคม 2536) บริษัทฯได้จัดนำเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อคณะมาถึงโบราณสถานปราสาทเมืองสิงห์ ผมเกิดนึกอยากถ่ายรูป ตั้งใจจะนั่งท่าเลียนแบบเทพ (คือนั่งพับขาข้างหนึ่งสอดฝ่าเท้าใต้ขาอีกข้างที่ห้อยลงมา) เพราะมันเข้ากับสถานที่ดี ผมเลยใช้มือดันตรงระดับที่จะขึ้นไปนั่ง แล้วสปริงตัวขึ้นไป ก็ปรากฎว่ามือผมลื่นไถลลงมา ทำให้แขนข้างหนึ่งครูดกับหิน เป็นแผลถลอกยาวตั้งแต่ช่วงเลยข้อศอกลงมาถึงเกือบครึ่งแขน เลือดไหลย้อย สาวๆเห็นถึงกับทำหน้าเบ้ ทีมพยาบาลที่ไปด้วยก็ช่วยล้างแผลทายาให้ผม...

ผ่านไปหลายปีดีดัก จนวันหนึ่งในปี 2542 ผมได้ไปที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ที่ศาลาพระเกี้ยว ไม่รู้มีอะไรดลใจให้ผมเดินไปมุมๆหนึ่ง ก็ไปเจอหนังสือชื่อ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทย ผมจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู ก็เห็นมีปราสาทเมืองสิงห์ด้วย หลังจากอ่านดูแล้วผมถึงบางอ้อ

แล้วผมก็ดูหน้าต่อๆไป พอเปิดไปเจอ วัดพระธาตุช่อแฮ เท่านั้นแหล่ะ ความทรงจำระลึกขึ้นโดยฉับพลัน " ตายห่า! กูเคยไปสาบานไว้นี่หว่า "

สมัยที่ผมสอบเอ็นทรานซ์ครั้งแรกไม่ติด ผมจึงได้ไปสอบเข้าเรียนที่วิทยาลัยครูลำปางในสมัยนั้น เรียนเผื่อไว้ ขณะเดียวกันก็เตรียมตัวสอบเอ็นฯใหม่ ที่นั่นเองที่ผมมีคนรักที่คบหากันจริงๆเป็นครั้งแรก และเหมือนชีวิตถูกลิขิตไว้ล่วงหน้า ปรากฎว่าพี่สาวลูกของลุงพี่ชายคนโตของแม่ได้ไปแต่งงานกับคนบ้านเดียวกันกับสาวเจ้าพอดี พี่สาวจึงไปอยู่ที่นั่นกว่าสิบปีได้ หลังจากสอบเอ็นทรานซ์เสร็จผมก็ไปอยู่บ้านพี่สาว เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดคนรัก กลางวันผมก็ช่วยพี่สาวทำงาน กลางคืนผมก็ไปบ้านสาว ตามประเพณี "แอ่วสาว" ทางเหนือ พอหยุดทำงานก็ไปเที่ยวกัน สาวเจ้าก็เอามอร์เตอร์ไซต์มารับ ก็เที่ยวชมไปเรื่อย จนมาถึงวัดพระธาตุช่อแฮ ก็ได้เข้าไปไหว้พระกัน ช่วงนั้นไม่รู้ว่าผมคิดยังไง จึงพนมมือหลับตาสาบานเอาไว้ " ข้าขอสาบานจะรัก...หากผิดคำสาบานขอให้ข้ามีอันเป็นไป... " ทั้งๆที่สาวเจ้าก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร และผมก็ไม่ได้กล่าวออกมาดังๆให้เธอได้ยินด้วย แล้วผมก็ลืมมันไปเลย...

ผมสอบเอ็นทรานซ์ติดจุฬาฯ ก็เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ ในปีแรกช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ผมก็ได้กลับไปที่ลำปางไปหาเธอ แล้ว เราก็ได้เสียกัน...

กลับมากรุงเทพฯผมปวดหัวตึ๊บ เพราะเงินที่แม่ส่งมาให้เป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนระหว่างการศึกษาเล่าเรียนถูกใช้ไปจนหมด (ผมมันเลวจริงๆ) แล้วผมก็รู้สึกผิดที่ใช้เงินผิดประสงค์ของแม่ ผมเลยเกิดความคิดว่า มีแฟนที่เรียนอยู่ด้วยกันน่าจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องทำผิดต่อแม่ ผมเลยบอกเลิกกับเธอแบบทำร้ายจิตใจกันสุดๆ

แต่ผมก็ไม่มีแฟนอีกเลยจนกระทั่งผมเรียนจบ!

หลังจากจำได้ผมก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนที่ดีที่สุดฟัง เพื่อนก็ให้เงินผมหนึ่งพัน เพราะตอนนั้นชีวิตผมก็ไม่มีงานประจำทำเป็นหลักแหล่ง ก่อนไปขณะเดินผ่านแผงขายสลากกินแบ่งฯ เพื่อนก็บอกให้ซื้อคู่หนึ่ง แล้วฉีกแบ่งกันคนละครึ่ง

พอถึงจังหวัดแพร่ ผมก็เดินทางไปวัดพระธาตุช่อแฮเลยทันที ถึงพระธาตุก็จุดธูปเทียนพนมมือหลับตาอธิษฐานขอขมาลาโทษ ก็รู้สึกว่ามีแสงสว่างวาบขึ้นไม่รู้ว่าเกิดจากเปลวเทียนหรือแสงแดด เย็นวันนั้นก็ได้ข่าวดีก่อนเดินทางกลับ ผมถูกสลากกินแบ่งรางวัลเลขท้ายสองตัว ก็คิดว่าการอธิษฐานขอขมาลาโทษของผมนั้นได้สัมฤทธิ์ผลแล้ว

กลับมาถึงกรุงเทพฯแล้ว วันหนึ่งผมได้โทรศัพท์ไปหาผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่ผมเรียกท่านว่า " อาจารย์ " ผมก็เล่าให้ท่านฟัง อาจารย์ถึงกับอุทานออกมา ท่านก็เคยไปสาบานไว้ที่นั่นเหมือนกัน ในที่สุดอาจารย์ก็เดินทางไปจังหวัดแพร่เพื่อไปขอขมาเช่นเดียวกันกับผม โดยอาจารย์ได้ไปขอโทษคนรักเก่าของท่านต่อหน้าด้วย ส่วนผมไม่ได้ไป เพระก่อนนั้นผมทราบจากแม่ผมแล้วว่า เธอได้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว มีลูก 2 คน การไปพบเธอจะเป็นการไปสร้างแรงกระเพื่อมให้กับครอบครัวเธอมากกว่า

ผมกับอาจารย์มีเรื่องราวความรักที่เหมือนกัน มีคนรักอยู่จังหวัดเดียวกัน และ ก็ไปสาบานไว้ที่เดียวกัน แล้วก็ต้องเดินทางไปขอขมาแบบเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก...

อีก 10 ปีให้หลัง ผมก็ได้รับรู้ว่า ผมมีเบื้องบน มีพันธะสัญญาจากชาติที่แล้ว เมื่อนึกย้อนไปในอดีตนับตั้งแต่ปี 2552 ผมเป็น " บุรุษผู้รักษาอะไรไว้ไม่ได้ " และที่ผมรักษาอะไรไว้ไม่ได้ ก็เพราะว่า

ผมต้องรักษาพันธะสัญญาจากอดีตชาติ ชาตินี้ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะสัญญากับใคร สัญญาว่าจะรักษาอะไรกับใครได้



เหมือนการจดทะเบียนสมรสซ้อน การจดทะเบียนครั้งหลังตกเป็นโมฆะ



 บ่ฮู้บ่หัน
น้ำอ้อยเคยไปเสี่ยงเซียมซีที่วัดพระธาตุช่อแฮจ่ะใบที่ได้รับทายทักว่า ที่อยู่ในท้องน่ะลูกผู้ชาย
ไม่อยากเชื่อเลยกลับมาน้ำอ้อยท้องน้องอั้มจริงๆด้วย...
      บันทึกการเข้า
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #368 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2553, 23:20:31 »

อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 20 ตุลาคม 2553, 23:12:34
อ้างถึง
ข้อความของ SC (ก้าน 24) เมื่อ 10 ตุลาคม 2553, 20:31:02
อย่าได้ริสาบานเป็นอันขาด!

เมื่อครั้งที่ผมทำงานกับบริษัทในเครือวังทองกรุ๊ป (พฤษภาคม 2535 - พฤษภาคม 2536) บริษัทฯได้จัดนำเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อคณะมาถึงโบราณสถานปราสาทเมืองสิงห์ ผมเกิดนึกอยากถ่ายรูป ตั้งใจจะนั่งท่าเลียนแบบเทพ (คือนั่งพับขาข้างหนึ่งสอดฝ่าเท้าใต้ขาอีกข้างที่ห้อยลงมา) เพราะมันเข้ากับสถานที่ดี ผมเลยใช้มือดันตรงระดับที่จะขึ้นไปนั่ง แล้วสปริงตัวขึ้นไป ก็ปรากฎว่ามือผมลื่นไถลลงมา ทำให้แขนข้างหนึ่งครูดกับหิน เป็นแผลถลอกยาวตั้งแต่ช่วงเลยข้อศอกลงมาถึงเกือบครึ่งแขน เลือดไหลย้อย สาวๆเห็นถึงกับทำหน้าเบ้ ทีมพยาบาลที่ไปด้วยก็ช่วยล้างแผลทายาให้ผม...

ผ่านไปหลายปีดีดัก จนวันหนึ่งในปี 2542 ผมได้ไปที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ที่ศาลาพระเกี้ยว ไม่รู้มีอะไรดลใจให้ผมเดินไปมุมๆหนึ่ง ก็ไปเจอหนังสือชื่อ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทย ผมจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู ก็เห็นมีปราสาทเมืองสิงห์ด้วย หลังจากอ่านดูแล้วผมถึงบางอ้อ

แล้วผมก็ดูหน้าต่อๆไป พอเปิดไปเจอ วัดพระธาตุช่อแฮ เท่านั้นแหล่ะ ความทรงจำระลึกขึ้นโดยฉับพลัน " ตายห่า! กูเคยไปสาบานไว้นี่หว่า "

สมัยที่ผมสอบเอ็นทรานซ์ครั้งแรกไม่ติด ผมจึงได้ไปสอบเข้าเรียนที่วิทยาลัยครูลำปางในสมัยนั้น เรียนเผื่อไว้ ขณะเดียวกันก็เตรียมตัวสอบเอ็นฯใหม่ ที่นั่นเองที่ผมมีคนรักที่คบหากันจริงๆเป็นครั้งแรก และเหมือนชีวิตถูกลิขิตไว้ล่วงหน้า ปรากฎว่าพี่สาวลูกของลุงพี่ชายคนโตของแม่ได้ไปแต่งงานกับคนบ้านเดียวกันกับสาวเจ้าพอดี พี่สาวจึงไปอยู่ที่นั่นกว่าสิบปีได้ หลังจากสอบเอ็นทรานซ์เสร็จผมก็ไปอยู่บ้านพี่สาว เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดคนรัก กลางวันผมก็ช่วยพี่สาวทำงาน กลางคืนผมก็ไปบ้านสาว ตามประเพณี "แอ่วสาว" ทางเหนือ พอหยุดทำงานก็ไปเที่ยวกัน สาวเจ้าก็เอามอร์เตอร์ไซต์มารับ ก็เที่ยวชมไปเรื่อย จนมาถึงวัดพระธาตุช่อแฮ ก็ได้เข้าไปไหว้พระกัน ช่วงนั้นไม่รู้ว่าผมคิดยังไง จึงพนมมือหลับตาสาบานเอาไว้ " ข้าขอสาบานจะรัก...หากผิดคำสาบานขอให้ข้ามีอันเป็นไป... " ทั้งๆที่สาวเจ้าก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร และผมก็ไม่ได้กล่าวออกมาดังๆให้เธอได้ยินด้วย แล้วผมก็ลืมมันไปเลย...

ผมสอบเอ็นทรานซ์ติดจุฬาฯ ก็เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ ในปีแรกช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ผมก็ได้กลับไปที่ลำปางไปหาเธอ แล้ว เราก็ได้เสียกัน...

กลับมากรุงเทพฯผมปวดหัวตึ๊บ เพราะเงินที่แม่ส่งมาให้เป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนระหว่างการศึกษาเล่าเรียนถูกใช้ไปจนหมด (ผมมันเลวจริงๆ) แล้วผมก็รู้สึกผิดที่ใช้เงินผิดประสงค์ของแม่ ผมเลยเกิดความคิดว่า มีแฟนที่เรียนอยู่ด้วยกันน่าจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องทำผิดต่อแม่ ผมเลยบอกเลิกกับเธอแบบทำร้ายจิตใจกันสุดๆ

แต่ผมก็ไม่มีแฟนอีกเลยจนกระทั่งผมเรียนจบ!

หลังจากจำได้ผมก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนที่ดีที่สุดฟัง เพื่อนก็ให้เงินผมหนึ่งพัน เพราะตอนนั้นชีวิตผมก็ไม่มีงานประจำทำเป็นหลักแหล่ง ก่อนไปขณะเดินผ่านแผงขายสลากกินแบ่งฯ เพื่อนก็บอกให้ซื้อคู่หนึ่ง แล้วฉีกแบ่งกันคนละครึ่ง

พอถึงจังหวัดแพร่ ผมก็เดินทางไปวัดพระธาตุช่อแฮเลยทันที ถึงพระธาตุก็จุดธูปเทียนพนมมือหลับตาอธิษฐานขอขมาลาโทษ ก็รู้สึกว่ามีแสงสว่างวาบขึ้นไม่รู้ว่าเกิดจากเปลวเทียนหรือแสงแดด เย็นวันนั้นก็ได้ข่าวดีก่อนเดินทางกลับ ผมถูกสลากกินแบ่งรางวัลเลขท้ายสองตัว ก็คิดว่าการอธิษฐานขอขมาลาโทษของผมนั้นได้สัมฤทธิ์ผลแล้ว

กลับมาถึงกรุงเทพฯแล้ว วันหนึ่งผมได้โทรศัพท์ไปหาผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่ผมเรียกท่านว่า " อาจารย์ " ผมก็เล่าให้ท่านฟัง อาจารย์ถึงกับอุทานออกมา ท่านก็เคยไปสาบานไว้ที่นั่นเหมือนกัน ในที่สุดอาจารย์ก็เดินทางไปจังหวัดแพร่เพื่อไปขอขมาเช่นเดียวกันกับผม โดยอาจารย์ได้ไปขอโทษคนรักเก่าของท่านต่อหน้าด้วย ส่วนผมไม่ได้ไป เพระก่อนนั้นผมทราบจากแม่ผมแล้วว่า เธอได้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว มีลูก 2 คน การไปพบเธอจะเป็นการไปสร้างแรงกระเพื่อมให้กับครอบครัวเธอมากกว่า

ผมกับอาจารย์มีเรื่องราวความรักที่เหมือนกัน มีคนรักอยู่จังหวัดเดียวกัน และ ก็ไปสาบานไว้ที่เดียวกัน แล้วก็ต้องเดินทางไปขอขมาแบบเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก...

อีก 10 ปีให้หลัง ผมก็ได้รับรู้ว่า ผมมีเบื้องบน มีพันธะสัญญาจากชาติที่แล้ว เมื่อนึกย้อนไปในอดีตนับตั้งแต่ปี 2552 ผมเป็น " บุรุษผู้รักษาอะไรไว้ไม่ได้ " และที่ผมรักษาอะไรไว้ไม่ได้ ก็เพราะว่า

ผมต้องรักษาพันธะสัญญาจากอดีตชาติ ชาตินี้ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะสัญญากับใคร สัญญาว่าจะรักษาอะไรกับใครได้



เหมือนการจดทะเบียนสมรสซ้อน การจดทะเบียนครั้งหลังตกเป็นโมฆะ



 บ่ฮู้บ่หัน
น้ำอ้อยเคยไปเสี่ยงเซียมซีที่วัดพระธาตุช่อแฮจ่ะใบที่ได้รับทายทักว่า ที่อยู่ในท้องน่ะลูกผู้ชาย
ไม่อยากเชื่อเลยกลับมาน้ำอ้อยท้องน้องอั้มจริงๆด้วย...


ก็ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นชื่อนี่นา ถึงได้กล่าวขานกันไง

 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
jum2524
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,077

« ตอบ #369 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 04:33:29 »

หวัดดีจ้ะก้าน..สบายดีนะ

เอ่อ..เห็นรูปก้าน(ไม่แน่ใจว่าที่บ้านใคร)แล้วต๊กกะใจเพราะภาพมันใหญ่จริงๆ  แล้วยิ่งเข้าเวปดึกๆอย่างนี้ซะด้วย..
      บันทึกการเข้า
dtoy
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,076

« ตอบ #370 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 05:16:05 »

ก้านสบายดีนะ ไม่ค่อยเจอเลย
      บันทึกการเข้า

Live Your Dream   
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #371 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 20:57:40 »

อ้างถึง
ข้อความของ jum2524 เมื่อ 25 ตุลาคม 2553, 04:33:29
หวัดดีจ้ะก้าน..สบายดีนะ

เอ่อ..เห็นรูปก้าน(ไม่แน่ใจว่าที่บ้านใคร)แล้วต๊กกะใจเพราะภาพมันใหญ่จริงๆ  แล้วยิ่งเข้าเวปดึกๆอย่างนี้ซะด้วย..


หวัดดีจ๊ะ จุ๋ม

ที่บ้านอ้อยนะ
ภาพนี้ใช่ป่าวววววววววววววววววววววววววววววว




 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
Patrick
มือใหม่หัดเมาท์
*

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74

« ตอบ #372 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2553, 10:37:35 »



สวัสดีเพื่อนก้าน
เป็นไงบ้างสบายดีเปล่า
ได้ข่าวว่าเด๋วนี้เป็นเด็กเทพแล้ว....ใช่ม่ะ..ใช่ม่ะ...

แฮปปี่วันรัฐธรรมนูญน่ะเพื่อน

      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #373 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2553, 11:23:26 »

ถึงแล้วเหรอพี่แพตทริก??
โอ,ปิด 9-10-11-12ก็ดีดิ
ตกลงปีนี้ทำงานครึ่งเนิง ปิดครึ่งเนิงนะพี่?
alles klar.


พี่ก้านผอมจัง!
      บันทึกการเข้า


Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #374 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2553, 22:32:32 »

 หวัดดีจ่ะนายก้าน(ยาวๆ)....หายไปไหนนานนนนนนนนจังค่ะ สวัสดีปีใหม่นะคะ ขอให้มีความสุขมากๆ คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนาค่ะ....
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 13 14 [15] 16 17  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><