23 พฤศจิกายน 2567, 08:24:24
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 17  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ  (อ่าน 264693 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #50 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2552, 21:27:42 »

เล่าอีกสิก้านเรื่องของก้านแปลกดี
 บรึ๋ยยย
      บันทึกการเข้า
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #51 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2552, 19:15:31 »

 
อ้างถึง   

เหลือเชื่อ!
: เมษายน 2535 - พฤษภาคม 2536
 
หน้าที่ของเจ้าหน้าที่บริหารโครงการอาวุโส นอกจากงานในสำนักงานขายแล้ว หลัง 5 โมงเย็นก็ตรวจตราดูแลภายในหมู่บ้าน ทุกวันผมจะขี่มอเตอร์ไซค์ตรวจ วันเกิดเหตุนั้นผมก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามทางในหมู่บ้านตามปกติเกือบครบรอบแล้ว พอผ่านจุดที่มีหมาชุมกันอยู่ หมามันเห่า ผมก็เลยเอาเท้าแหย่มัน ประกฎว่ามันเอาจริงไล่งับเอา ผมก็เลยบิดมอเตอร์ไซค์หนีเต็มที่ พอตาเหลือบเห็นทางโค้ง ผมก็หักเลี้ยว แต่พอหันหน้าตรงๆเห็นเสาไฟฟ้าเต็มหน้า วินาทีนั้นผมปลงใจยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ผมหลับตาปล่อยมือจากแฮนด์ฯ...
 
ผมมารู้สึกตัวอีกทีก็รู้สึกว่าตัวเองนอนหลับตาอยู่ ผมไม่กล้าลืมตาในทันทีเพราะกลัวว่าจะเห็นกระดูกที่หักโผล่พ้นเนื้อออกมาอะไรทำนองนี้ ผมเลยค่อยๆลองขยับแขนขาดูก่อนเบาๆ พอไม่รู้สึกเจ็บก็เลยขยับเต็มที่รวมทั้งงอเข้าออกก็ไม่รู้สึกว่าเจ็บ ลองบิดตัวดูก็ไม่รู้สึกเจ็บ ผมเลยลืมตาดู ก็พบว่าตัวเองไม่เป็นอะไร เสื้อผ้าก็ไม่เปื้อนสีหญ้าแต่อย่างใด มองเห็นมอเตอร์ไซค์เกยเสาไม้ต้นหนึ่งพาดอยู่กับเสาไฟฟ้าอยู่ห่างออกไปข้างหน้าประมาณเกือบ 2 เมตร ผมเลยลุกขึ้นยืนก็ไม่รู้สึกว่าเคล็ดขัดยอกแต่ประการใด
 
ผมเลยเดินไปดูรถ เห็นรถเกยเสาไม้พาดอยู่กับเสาไฟฟ้าอยู่ ล้อหน้าเบี้ยว คาบูเรเตอร์แตก มีน้ำมันหยดติ๋งๆ เสาไม้ดังกล่าวขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้วครึ่งถึง 4 นิ้ว มีตะปู 5 นิ้วตอกอยู่หลายตัว และเห็นตอไม้อยู่ในแนวเดียวกันกับเสาไฟฟ้า รถมอร์เตอร์ไซค์คงจะชนเสาไม้จนหลุดจากตอ ผมเห็นดังนั้น ผมเลยเดินสำรวจรอบบริเวณนั้นซึ่งเดิมเป็นบ้านตัวอย่าง รอบนอกเป็นฟุตปาธข้างในเป็นสนามหญ้ารอบตัวบ้าน เสาไฟฟ้าอยู่ด้านใน บ้านตัวอย่างนี้จะทำการทุบเพื่อสร้างเป็นทาวน์เฮ้าส์ขาย จึงต้องทำการล้อมรั้วสังกะสีเพราะอยู่ในชุมชน และใกล้กับสโมสรของหมู่บ้าน ผมพบว่าเสาไม้ขนาดเดียวกันทุกต้นถูกกดตอกลงในดินหมด มีเพียงต้นนั้นต้นเดียวที่มันสั้น เลยใช้ตอตอกลงไปในดินแล้วตอกตะปู 5 นิ้วยึดไว้ และวางอยู่ในแนวตรงกับเสาไฟฟ้าพอดี เหมือนกับว่าได้จัดเตรียมไว้สำหรับรองรับมอเตอร์ไซค์ของผมโดยเฉพาะ
 
ผมก็เลยค่อยๆขี่มอเตอร์ไซค์อย่างทุลักทุเลมาไว้ที่จอดหลังสำนักงานขาย วันรุ่งขึ้นได้เล่าให้คนขับรถของโครงการฟัง เขาเห็นรถแล้วยังพูดกับผมเลยว่า " คุณ...ไม่เป็นอะไรเลย เป็นไปได้ไง รถเป็นขนาดนี้อย่างน้อยก็ต้องฟกช้ำดำเขียวหรือมีรอยห้อเลือดบ้าง " แล้วมอเตอร์ไซค์คันนั้นก็ถูกส่งไปซ่อมตามระเบียบ
 
ผมนะสงสัยมานานว่า ไฉนตัวผมจึงมานอนเยื้องไปทางข้างหลังรถ และไม่รู้สึกเจ็บตรงส่วนไหนเลย เหมือนกับถูกอุ้มมาวางยังไงยังงั้น มันขัดกับหลักฟิสิกส์ เมื่อตัวผมมีความเร็วเท่ากับรถ รถชนสิ่งกีดขวางหยุดกระทันหัน ตัวผมต้องเหินไปข้างหน้า ต่อให้ถือแฮนด์แน่นๆก็ไม่แน่ว่าจะเอาอยู่ นี่ผมยิ่งปล่อยมือด้วย ถ้าคิดว่าแรงสะเทินไปเนื่องจากชนเสาไม้แล้วตะปูหลุด ผมก็น่าจะตกลงข้างๆรถ ไม่น่าจะห่างได้ขนาดนี้ ถ้ากระเด็นตกลงมาก็น่าจะเคล็ดขัดยอกบ้าง อย่าว่าแต่ชนเลยขนาดนั่งบนเบาะรถจอดอยู่แล้วพลาดหงายหลังตกลงมายังรู้สึกเจ็บเลย


แรกๆก็คิดแบบที่คนอื่นพูด ถ้าหมา 50 กว่าตัวตายเพราะยาเบื่อ วันนั้นผมอาจจะไม่รอด แต่แค่ไม่ได้ฆ่าหมามันจะมีอานิสงฆ์มากขนาดนั้นเลยเหรอ เอาแค่กระเด็นตกลงมาเคล็ดขัดยอกโดยที่แขนขาไม่หักก็น่าจะพอสมเหตุสมผลแล้ว

 งง งง

 
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #52 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2552, 09:27:37 »

อาจเป็นได้นะคะ ก้าน
การคิดดี ทำดี  ก็ย่อมได้รับการตอบสนองด้วยดี

การที่อานิสงฆ์แรงขนาดนั้น  ก็เป็นไปได้อีกว่า
บรรดา "the dogs" ทั้งหลายเหล่านั้น เขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา


PS. เพียงแค่ "คิด" ดี   แม้จะยังไม่ได้ลงมือกระทำ ..
ใจเราก็สบายแล้ว .. จริงไหม ??
 


ปิ๊งๆ


      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #53 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2552, 13:30:14 »

อุ้ยพี่ก้าน...
น่ากลัวคะ..
อุบัติเหตุมักไม่คาดฝันเสมอ
ชีวิตพี่ทำไมถึงโลดโผนยังงี้


nn.24+3
      บันทึกการเข้า


SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #54 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2552, 18:47:31 »

 
อ้างถึง   

ให้ออกจากบ้าน
: กรกฎาคม - สิงหาคม 2551
 
ผมตัดสินใจกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดที่จังหวัดลำปางเพราะว่าแม่ท่านแก่มากแล้ว ตั้งแต่ 9 มีนาคม 2551 ด้วยหวังว่าจะไปทำอะไรเล็กๆน้อยๆที่ตนเองทำได้ กอปรกับเห็นว่าตัวเองก็อายุมากพอสมควร เรื่องเนื้อคู่ก็คิดว่าคงจะไม่มีแล้วเพราะดูดวงตนเองก็เห็นว่ามันผ่านพ้นไปแล้วและไม่ได้พบคนที่ตามหา และคิดว่าภาพที่จำได้นั้นคงจะเป็นเพราะตัวเองวิปลาศไปเอง รู้สึกเสียใจที่นำชีวิตไปผูกพันกับเรื่องภพชาติจนเป็นเหตุให้ชีวิตล้มลุกคลุกคลาน อายุสี่สิบห้าแล้วยังไม่เป็นโล้เป็นพาย
 
ระหว่างที่อยู่ที่บ้านที่ลำปาง เรื่องที่หวังว่าจะได้ก็ทำไม่ได้อีก เพราะติดขัดเรื่องการสื่อสารขอคู่สายโทรศัพท์แล้วไม่มีให้เพราะชุมสายเต็ม หางานทำก็ไม่ได้ สี่เดือนผ่านไป จึงโทรศัพท์หารุ่นน้องที่ทำงานกับนายจ้างเก่าที่เคยทำที่กรุงเทพฯและเป็นผู้จัดการฝ่ายเอ็ชอาร์ให้ช่วยหางานให้ และตั้งใจไว้ว่าจะไม่เข้ามาแบบเคว้งคว้างอีกได้งานแน่นอนค่อยกลับเข้ากรุงเทพฯใหม่
 
ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมคาบเกี่ยวกับต้นเดือนสิงหาคม อยู่ดีๆฝ่าเท้าก็เป็นแผลเหมือนโดนกรดกัด แต่ก็ไม่เคยเห็นนะว่าแผลที่โดนกรดกัดเป็นยังไง คิดเอาเอง เพราะหนังมันหลุดไปเห็นเนื้อแดงๆ เหยียบพื้นที่บ้านไม่ได้ เหยียบมากก็เป็นมากเหยียบน้อยก็เป็นน้อย อยู่บ้านต้องเอาถุงพลาสติกใส่ของหรือถุงก็อบแก็บสวมเท้าไว้ ต้องใช้วาสลินเจลโปะเพื่อกันเสียดสีที่เนื้อแดงๆเพราะมันเจ็บ เป็นอยู่นานเกือบ 3 สัปดาห์ แรกๆผมคิดว่าพื้นบ้านคงมีสภาพเป็นกรด แต่ก็มาคิดได้ว่าพ่อกับแม่ไม่เป็นไร และถ้าพื้นบ้านมีสภาพเป็นกรดจริง ตั้งแต่เดือนที่หนึ่งถึงเดือนที่สี่ผมไม่เป็น ทำไมต้องมารอจนถึงเดือนที่ห้าถึงเป็น ไม่น่าเป็นไปได้ที่ผิวหนังคนเราจะทนทานได้นานขนาดนั้น และทุกวันก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้ทำอะไรที่ผิดไปจากวันแรกที่กลับมาอยู่ แล้วผมก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า " หรือเบื้องบนท่านให้ออกจากบ้าน ไม่ให้อยู่ที่บ้านแล้ว "
 
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีสำนึกถึงเบื้องบน ผมเลยตัดสินใจออกจากบ้าน โดยมีเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบเดียวและกระเป๋าใส่เอกสารเท่านั้น ออกมาแบบผจญภัยกันเลย ผมนั่งรถมาลงที่กำแพงเพชรกะว่าจะหางานทำที่นั่น แต่พอลงแล้วดูเมืองเล็กๆคิดว่าไม่น่าจะหางานทำได้ จึงขึ้นรถเข้ากรุงเทพฯในคืนนั้นเอง...

มาถึงกรุงเทพฯ แล้วอีกวันหลังจากนั้นแผลที่ฝ่าเท้าก็หายสนิท


 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #55 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2552, 18:56:29 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 09:27:37
อาจเป็นได้นะคะ ก้าน
การคิดดี ทำดี  ก็ย่อมได้รับการตอบสนองด้วยดี

การที่อานิสงฆ์แรงขนาดนั้น  ก็เป็นไปได้อีกว่า
บรรดา "the dogs" ทั้งหลายเหล่านั้น เขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา


PS. เพียงแค่ "คิด" ดี   แม้จะยังไม่ได้ลงมือกระทำ ..
ใจเราก็สบายแล้ว .. จริงไหม ??
 


ปิ๊งๆ




แต่พอหลังเหตุการณ์เมื่อปี 2551 แล้ว เมื่อนึกทบทวนดูตั้งแต่เหตุการณ์รถแก๊สระเบิด ผมคิดว่า เพราะ " เบื้องบน " ท่าน ก็สมเหตุสมผลทุกเหตุการณ์ที่เล่ามา ครับพี่

 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #56 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2552, 18:58:58 »

อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 13:30:14
อุ้ยพี่ก้าน...
น่ากลัวคะ..
อุบัติเหตุมักไม่คาดฝันเสมอ
ชีวิตพี่ทำไมถึงโลดโผนยังงี้


nn.24+3

ทั้งโลดโผน ทั้งล้มลุกคลุกคลาน และยังมีอีก...

 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #57 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2552, 21:06:59 »


      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #58 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2552, 21:31:35 »

อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 21:06:59

น่ารักจัง
      บันทึกการเข้า
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #59 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2552, 21:41:14 »

อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 18:47:31
 
อ้างถึง   

ให้ออกจากบ้าน
: กรกฎาคม - สิงหาคม 2551
 
ผมตัดสินใจกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดที่จังหวัดลำปางเพราะว่าแม่ท่านแก่มากแล้ว ตั้งแต่ 9 มีนาคม 2551 ด้วยหวังว่าจะไปทำอะไรเล็กๆน้อยๆที่ตนเองทำได้ กอปรกับเห็นว่าตัวเองก็อายุมากพอสมควร เรื่องเนื้อคู่ก็คิดว่าคงจะไม่มีแล้วเพราะดูดวงตนเองก็เห็นว่ามันผ่านพ้นไปแล้วและไม่ได้พบคนที่ตามหา และคิดว่าภาพที่จำได้นั้นคงจะเป็นเพราะตัวเองวิปลาศไปเอง รู้สึกเสียใจที่นำชีวิตไปผูกพันกับเรื่องภพชาติจนเป็นเหตุให้ชีวิตล้มลุกคลุกคลาน อายุสี่สิบห้าแล้วยังไม่เป็นโล้เป็นพาย
 
ระหว่างที่อยู่ที่บ้านที่ลำปาง เรื่องที่หวังว่าจะได้ก็ทำไม่ได้อีก เพราะติดขัดเรื่องการสื่อสารขอคู่สายโทรศัพท์แล้วไม่มีให้เพราะชุมสายเต็ม หางานทำก็ไม่ได้ สี่เดือนผ่านไป จึงโทรศัพท์หารุ่นน้องที่ทำงานกับนายจ้างเก่าที่เคยทำที่กรุงเทพฯและเป็นผู้จัดการฝ่ายเอ็ชอาร์ให้ช่วยหางานให้ และตั้งใจไว้ว่าจะไม่เข้ามาแบบเคว้งคว้างอีกได้งานแน่นอนค่อยกลับเข้ากรุงเทพฯใหม่
 
ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมคาบเกี่ยวกับต้นเดือนสิงหาคม อยู่ดีๆฝ่าเท้าก็เป็นแผลเหมือนโดนกรดกัด แต่ก็ไม่เคยเห็นนะว่าแผลที่โดนกรดกัดเป็นยังไง คิดเอาเอง เพราะหนังมันหลุดไปเห็นเนื้อแดงๆ เหยียบพื้นที่บ้านไม่ได้ เหยียบมากก็เป็นมากเหยียบน้อยก็เป็นน้อย อยู่บ้านต้องเอาถุงพลาสติกใส่ของหรือถุงก็อบแก็บสวมเท้าไว้ ต้องใช้วาสลินเจลโปะเพื่อกันเสียดสีที่เนื้อแดงๆเพราะมันเจ็บ เป็นอยู่นานเกือบ 3 สัปดาห์ แรกๆผมคิดว่าพื้นบ้านคงมีสภาพเป็นกรด แต่ก็มาคิดได้ว่าพ่อกับแม่ไม่เป็นไร และถ้าพื้นบ้านมีสภาพเป็นกรดจริง ตั้งแต่เดือนที่หนึ่งถึงเดือนที่สี่ผมไม่เป็น ทำไมต้องมารอจนถึงเดือนที่ห้าถึงเป็น ไม่น่าเป็นไปได้ที่ผิวหนังคนเราจะทนทานได้นานขนาดนั้น และทุกวันก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้ทำอะไรที่ผิดไปจากวันแรกที่กลับมาอยู่ แล้วผมก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า " หรือเบื้องบนท่านให้ออกจากบ้าน ไม่ให้อยู่ที่บ้านแล้ว "
 
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีสำนึกถึงเบื้องบน ผมเลยตัดสินใจออกจากบ้าน โดยมีเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบเดียวและกระเป๋าใส่เอกสารเท่านั้น ออกมาแบบผจญภัยกันเลย ผมนั่งรถมาลงที่กำแพงเพชรกะว่าจะหางานทำที่นั่น แต่พอลงแล้วดูเมืองเล็กๆคิดว่าไม่น่าจะหางานทำได้ จึงขึ้นรถเข้ากรุงเทพฯในคืนนั้นเอง...

มาถึงกรุงเทพฯ แล้วอีกวันหลังจากนั้นแผลที่ฝ่าเท้าก็หายสนิท


 บ่ฮู้บ่หัน

แปลกดีนะก้านเล่าอีกดิ  อย่าน้อยใจว่าชีวิตไม่เป็นโล๊เป็นพายยังมีอีกหลายชีวิตนะก้าน
ที่แย่กว่าที่ก้านเล่ามาอีกจ่ะ  อ้อยรู้จักชายคนหนึ่งหน้าที่การงานก็ดีรูปร่างหน้าตาก็ใช้ได้
ตอนนี้จะ50แล้วเขาก็ยังไม่มีคู่จ่ะบางทีการอยู่คนเดียวก็มีสุขอีกแบบนะก้าน
ไม่ต้องมีใครเป็นเจ้าชีวิตของเราหรือก้านไม่ชอบอย่างนี้แหละที่เขาเรียกคนในอยากออกคนนอกอยากเข้า
ก้านลองทำบุญด้วยข้าวต้มมัดซิ(ทำเป็นมัดๆเลยนะอย่าแกะไม้ที่พันออก)มีคนแนะนำอ้อยมาอีกที
      บันทึกการเข้า
Lamai
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,712

« ตอบ #60 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2552, 21:46:37 »

ชื่อกระทู้ดูยิ่งใหญ่อลังการจังเลยค่ะก้าน ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #61 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2552, 21:50:13 »

รอฟังต่อค่ะก้าน ..
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #62 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2552, 21:52:16 »

อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 21:41:14
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 18:47:31
 
อ้างถึง   

ให้ออกจากบ้าน
: กรกฎาคม - สิงหาคม 2551
 
ผมตัดสินใจกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดที่จังหวัดลำปางเพราะว่าแม่ท่านแก่มากแล้ว ตั้งแต่ 9 มีนาคม 2551 ด้วยหวังว่าจะไปทำอะไรเล็กๆน้อยๆที่ตนเองทำได้ กอปรกับเห็นว่าตัวเองก็อายุมากพอสมควร เรื่องเนื้อคู่ก็คิดว่าคงจะไม่มีแล้วเพราะดูดวงตนเองก็เห็นว่ามันผ่านพ้นไปแล้วและไม่ได้พบคนที่ตามหา และคิดว่าภาพที่จำได้นั้นคงจะเป็นเพราะตัวเองวิปลาศไปเอง รู้สึกเสียใจที่นำชีวิตไปผูกพันกับเรื่องภพชาติจนเป็นเหตุให้ชีวิตล้มลุกคลุกคลาน อายุสี่สิบห้าแล้วยังไม่เป็นโล้เป็นพาย
 
ระหว่างที่อยู่ที่บ้านที่ลำปาง เรื่องที่หวังว่าจะได้ก็ทำไม่ได้อีก เพราะติดขัดเรื่องการสื่อสารขอคู่สายโทรศัพท์แล้วไม่มีให้เพราะชุมสายเต็ม หางานทำก็ไม่ได้ สี่เดือนผ่านไป จึงโทรศัพท์หารุ่นน้องที่ทำงานกับนายจ้างเก่าที่เคยทำที่กรุงเทพฯและเป็นผู้จัดการฝ่ายเอ็ชอาร์ให้ช่วยหางานให้ และตั้งใจไว้ว่าจะไม่เข้ามาแบบเคว้งคว้างอีกได้งานแน่นอนค่อยกลับเข้ากรุงเทพฯใหม่
 
ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมคาบเกี่ยวกับต้นเดือนสิงหาคม อยู่ดีๆฝ่าเท้าก็เป็นแผลเหมือนโดนกรดกัด แต่ก็ไม่เคยเห็นนะว่าแผลที่โดนกรดกัดเป็นยังไง คิดเอาเอง เพราะหนังมันหลุดไปเห็นเนื้อแดงๆ เหยียบพื้นที่บ้านไม่ได้ เหยียบมากก็เป็นมากเหยียบน้อยก็เป็นน้อย อยู่บ้านต้องเอาถุงพลาสติกใส่ของหรือถุงก็อบแก็บสวมเท้าไว้ ต้องใช้วาสลินเจลโปะเพื่อกันเสียดสีที่เนื้อแดงๆเพราะมันเจ็บ เป็นอยู่นานเกือบ 3 สัปดาห์ แรกๆผมคิดว่าพื้นบ้านคงมีสภาพเป็นกรด แต่ก็มาคิดได้ว่าพ่อกับแม่ไม่เป็นไร และถ้าพื้นบ้านมีสภาพเป็นกรดจริง ตั้งแต่เดือนที่หนึ่งถึงเดือนที่สี่ผมไม่เป็น ทำไมต้องมารอจนถึงเดือนที่ห้าถึงเป็น ไม่น่าเป็นไปได้ที่ผิวหนังคนเราจะทนทานได้นานขนาดนั้น และทุกวันก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้ทำอะไรที่ผิดไปจากวันแรกที่กลับมาอยู่ แล้วผมก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า " หรือเบื้องบนท่านให้ออกจากบ้าน ไม่ให้อยู่ที่บ้านแล้ว "
 
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีสำนึกถึงเบื้องบน ผมเลยตัดสินใจออกจากบ้าน โดยมีเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบเดียวและกระเป๋าใส่เอกสารเท่านั้น ออกมาแบบผจญภัยกันเลย ผมนั่งรถมาลงที่กำแพงเพชรกะว่าจะหางานทำที่นั่น แต่พอลงแล้วดูเมืองเล็กๆคิดว่าไม่น่าจะหางานทำได้ จึงขึ้นรถเข้ากรุงเทพฯในคืนนั้นเอง...

มาถึงกรุงเทพฯ แล้วอีกวันหลังจากนั้นแผลที่ฝ่าเท้าก็หายสนิท


 บ่ฮู้บ่หัน

แปลกดีนะก้านเล่าอีกดิ  อย่าน้อยใจว่าชีวิตไม่เป็นโล๊เป็นพายยังมีอีกหลายชีวิตนะก้าน
ที่แย่กว่าที่ก้านเล่ามาอีกจ่ะ  อ้อยรู้จักชายคนหนึ่งหน้าที่การงานก็ดีรูปร่างหน้าตาก็ใช้ได้
ตอนนี้จะ50แล้วเขาก็ยังไม่มีคู่จ่ะบางทีการอยู่คนเดียวก็มีสุขอีกแบบนะก้าน
ไม่ต้องมีใครเป็นเจ้าชีวิตของเราหรือก้านไม่ชอบอย่างนี้แหละที่เขาเรียกคนในอยากออกคนนอกอยากเข้า
ก้านลองทำบุญด้วยข้าวต้มมัดซิ(ทำเป็นมัดๆเลยนะอย่าแกะไม้ที่พันออก)มีคนแนะนำอ้อยมาอีกที

เราก็รู้จัก หน้าตาดีแต่ไม่มีเมีย  รุ้สึกจะรุ่น 12-13นี่เเหละ

      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #63 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2552, 22:02:01 »

พี่ก้าน,
ช่วงนั้นพี่มี contactกะเพื่อนๆหรือใครๆที่พี่สนิทมั้ยคะ?
การเป็นโสด ไม่ไช่สาเหตุของความเงียบเหงาเสมอไป
หากพี่มี social contactด้านอื่นๆมาเป็นสิ่งทดแทน.


nn.24+3
      บันทึกการเข้า


swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #64 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2552, 22:47:32 »

อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 21:52:16
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 21:41:14
แปลกดีนะก้านเล่าอีกดิ  อย่าน้อยใจว่าชีวิตไม่เป็นโล๊เป็นพายยังมีอีกหลายชีวิตนะก้าน
ที่แย่กว่าที่ก้านเล่ามาอีกจ่ะ  อ้อยรู้จักชายคนหนึ่งหน้าที่การงานก็ดีรูปร่างหน้าตาก็ใช้ได้
ตอนนี้จะ50แล้วเขาก็ยังไม่มีคู่จ่ะบางทีการอยู่คนเดียวก็มีสุขอีกแบบนะก้าน
ไม่ต้องมีใครเป็นเจ้าชีวิตของเราหรือก้านไม่ชอบอย่างนี้แหละที่เขาเรียกคนในอยากออกคนนอกอยากเข้า
ก้านลองทำบุญด้วยข้าวต้มมัดซิ (ทำเป็นมัด ๆ เลยนะอย่าแกะไม้ที่พันออก )มีคนแนะนำอ้อยมาอีกที

เราก็รู้จัก หน้าตาดีแต่ไม่มีเมีย  รุ้สึกจะรุ่น 12-13 นี่เเหละ


พี่ป๋องขรา .. เชิญแวะมาอ่านห้องนี้ด้วยค่ะ
เนื้อเรื่องน่าติดตามมากเลย ..

[บ่าง เริ่มทำหน้าที่ .. ทันที]
  เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #65 เมื่อ: 17 กรกฎาคม 2552, 17:38:48 »

อ้างถึง
ข้อความของ Lamai เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 21:46:37
ชื่อกระทู้ดูยิ่งใหญ่อลังการจังเลยค่ะก้าน ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

อืม ก็มันยาวนานมากนี่ไม ตั้ง 18 ปีกว่าที่เราจะรู้สำนึกเกี่ยวกับเบื้องบน ครั้งแรกที่เหยียบกรุงเทพฯก็ปี 2523 นี่ก็ 29 ปีผ่านแล้วนะ หุหุ...

 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #66 เมื่อ: 17 กรกฎาคม 2552, 17:41:31 »

อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 21:41:14
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 18:47:31
 
อ้างถึง   

ให้ออกจากบ้าน
: กรกฎาคม - สิงหาคม 2551
 
ผมตัดสินใจกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดที่จังหวัดลำปางเพราะว่าแม่ท่านแก่มากแล้ว ตั้งแต่ 9 มีนาคม 2551 ด้วยหวังว่าจะไปทำอะไรเล็กๆน้อยๆที่ตนเองทำได้ กอปรกับเห็นว่าตัวเองก็อายุมากพอสมควร เรื่องเนื้อคู่ก็คิดว่าคงจะไม่มีแล้วเพราะดูดวงตนเองก็เห็นว่ามันผ่านพ้นไปแล้วและไม่ได้พบคนที่ตามหา และคิดว่าภาพที่จำได้นั้นคงจะเป็นเพราะตัวเองวิปลาศไปเอง รู้สึกเสียใจที่นำชีวิตไปผูกพันกับเรื่องภพชาติจนเป็นเหตุให้ชีวิตล้มลุกคลุกคลาน อายุสี่สิบห้าแล้วยังไม่เป็นโล้เป็นพาย
 
ระหว่างที่อยู่ที่บ้านที่ลำปาง เรื่องที่หวังว่าจะได้ก็ทำไม่ได้อีก เพราะติดขัดเรื่องการสื่อสารขอคู่สายโทรศัพท์แล้วไม่มีให้เพราะชุมสายเต็ม หางานทำก็ไม่ได้ สี่เดือนผ่านไป จึงโทรศัพท์หารุ่นน้องที่ทำงานกับนายจ้างเก่าที่เคยทำที่กรุงเทพฯและเป็นผู้จัดการฝ่ายเอ็ชอาร์ให้ช่วยหางานให้ และตั้งใจไว้ว่าจะไม่เข้ามาแบบเคว้งคว้างอีกได้งานแน่นอนค่อยกลับเข้ากรุงเทพฯใหม่
 
ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมคาบเกี่ยวกับต้นเดือนสิงหาคม อยู่ดีๆฝ่าเท้าก็เป็นแผลเหมือนโดนกรดกัด แต่ก็ไม่เคยเห็นนะว่าแผลที่โดนกรดกัดเป็นยังไง คิดเอาเอง เพราะหนังมันหลุดไปเห็นเนื้อแดงๆ เหยียบพื้นที่บ้านไม่ได้ เหยียบมากก็เป็นมากเหยียบน้อยก็เป็นน้อย อยู่บ้านต้องเอาถุงพลาสติกใส่ของหรือถุงก็อบแก็บสวมเท้าไว้ ต้องใช้วาสลินเจลโปะเพื่อกันเสียดสีที่เนื้อแดงๆเพราะมันเจ็บ เป็นอยู่นานเกือบ 3 สัปดาห์ แรกๆผมคิดว่าพื้นบ้านคงมีสภาพเป็นกรด แต่ก็มาคิดได้ว่าพ่อกับแม่ไม่เป็นไร และถ้าพื้นบ้านมีสภาพเป็นกรดจริง ตั้งแต่เดือนที่หนึ่งถึงเดือนที่สี่ผมไม่เป็น ทำไมต้องมารอจนถึงเดือนที่ห้าถึงเป็น ไม่น่าเป็นไปได้ที่ผิวหนังคนเราจะทนทานได้นานขนาดนั้น และทุกวันก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้ทำอะไรที่ผิดไปจากวันแรกที่กลับมาอยู่ แล้วผมก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า " หรือเบื้องบนท่านให้ออกจากบ้าน ไม่ให้อยู่ที่บ้านแล้ว "
 
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีสำนึกถึงเบื้องบน ผมเลยตัดสินใจออกจากบ้าน โดยมีเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบเดียวและกระเป๋าใส่เอกสารเท่านั้น ออกมาแบบผจญภัยกันเลย ผมนั่งรถมาลงที่กำแพงเพชรกะว่าจะหางานทำที่นั่น แต่พอลงแล้วดูเมืองเล็กๆคิดว่าไม่น่าจะหางานทำได้ จึงขึ้นรถเข้ากรุงเทพฯในคืนนั้นเอง...

มาถึงกรุงเทพฯ แล้วอีกวันหลังจากนั้นแผลที่ฝ่าเท้าก็หายสนิท


 บ่ฮู้บ่หัน

แปลกดีนะก้านเล่าอีกดิ  อย่าน้อยใจว่าชีวิตไม่เป็นโล๊เป็นพายยังมีอีกหลายชีวิตนะก้าน
ที่แย่กว่าที่ก้านเล่ามาอีกจ่ะ  อ้อยรู้จักชายคนหนึ่งหน้าที่การงานก็ดีรูปร่างหน้าตาก็ใช้ได้
ตอนนี้จะ50แล้วเขาก็ยังไม่มีคู่จ่ะบางทีการอยู่คนเดียวก็มีสุขอีกแบบนะก้าน
ไม่ต้องมีใครเป็นเจ้าชีวิตของเราหรือก้านไม่ชอบอย่างนี้แหละที่เขาเรียกคนในอยากออกคนนอกอยากเข้า
ก้านลองทำบุญด้วยข้าวต้มมัดซิ(ทำเป็นมัดๆเลยนะอย่าแกะไม้ที่พันออก)มีคนแนะนำอ้อยมาอีกที


ขอบใจมากจ๊ะอ้อย แต่มีคนบอกว่าเวลาทานข้าว ช้อมกับส้อมต้องถูกคู่กัน จะได้ไม่ร้างคู่

 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #67 เมื่อ: 17 กรกฎาคม 2552, 17:44:38 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 21:50:13
รอฟังต่อค่ะก้าน ..

ครับพี่ อีกตอนก็จะจบเกี่ยวกับเบื้องบนแล้ว ที่จริงมีอีก 2 ตอนแต่อีกตอนไม่กล้าเล่าอาย

 อายจัง
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #68 เมื่อ: 17 กรกฎาคม 2552, 17:52:00 »

 
อ้างถึง   

ให้ตามที่พ้อ
: 1-2 พฤศจิกายน 2548
 
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 วันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล วันนั้นผมไม่ได้ลุ้นเพราะไม่มีเงินจะซื้อ ขณะที่เดินทางกลับที่พักผมลงรถเมล์ที่ป้ายหน้าตลาดสี่มุมเมืองเวลาประมาณเที่ยงคืน พอลงรถเสร็จก็เดินย้อนไปขึ้นสะพานลอยคนข้าม เห็นสลากกินแบ่งตกอยู่พับไว้ไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ แต่สะอาดมากไม่มีรอยถูกเหยียบย่ำเลย เดินเลยไปประมาณ 3 - 4 ก้าว ไม่รู้นึกยังไงเลยย้อนไปเก็บขึ้นมาดู พอคลี่ดูเห็นมีอยู่ 2 คู่แต่เป็นงวดวันที่ 16 กันยายน 2548 ผมจะขยำทิ้งถังขยะแล้ว แต่ก็มาคิดตามประสาคนที่ศึกษาเพื่อเป็นนักลงทุนแต่โอกาสไม่อำนวย เพราะคนที่รู้จักผมดีที่สุดและเป็นผู้สนับสนุนผมได้เสียชีวิตลงขณะที่กำลังจะได้สัญญาบริหารเงิน (อยู่ระหว่างร่างสัญญา) ผมคิดว่าไหนๆก็เสียเวลาเดินย้อนกลับไปตั้ง 3 - 4 ก้าว เสียเวลาก้มลงเก็บ เอาไปตรวจดูคงไม่ลำบากมากนัก
 
วันรุ่งขึ้นผมก็เอาไปตรวจทางอินเตอร์เน็ท ก็พบว่าถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว 124 ก็เป็นเงินแปดพันบาท ผมก็ลงจากสำนักงานเอามาขึ้นเงิน พอรับเงินเสร็จหลังจากนั้นความทรงจำของเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นก็ผุดขึ้นมา จำได้ว่า
 
ก่อนหน้านั้นนานเท่าไหร่ไม่รู้ วันหนึ่งขณะที่ผมเดินทางเข้าซอยบ้านพี่ชายที่คบหากัน ซึ่งผมอาศัยบ้านเขานอนอยู่ วันนั้นฝนตกแต่ขณะที่ผมกลับฝนหยุดแล้วทางยังเปียกๆอยู่เวลาก็ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ใกล้ถึงบ้านก็เห็นธนบัตรใบละยี่สิบบาทพับตกอยู่ ผมเก็บขึ้นมาคลี่ดูพบว่ามีอยู่ 4 ใบเป็นเงิน แปดสิบบาท ผมนึกในใจแบบไม่รู้ทำใมถึงได้พ้อว่า " น่าจะให้ซักแปดพัน "
 
แล้วผมก็ได้ แปดพันจริงๆ


ผมคิดมาตลอดนะว่านี่ไม่ใช่เหตุบังเอิญเพราะมันมีเหตุการณ์นำหน้ามาก่อนที่จะเก็บสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลได้ และเหตุการณ์นำแบบนี้ผมมักจะจำมันไม่ได้จนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่อง ผมถึงจะจำมันได้ และจะจำมันได้แบบไม่ลืมอีกเลย

 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #69 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2552, 17:05:45 »

อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 17 กรกฎาคม 2552, 17:52:00
 
อ้างถึง   

ให้ตามที่พ้อ
: 1-2 พฤศจิกายน 2548
 
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 วันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล วันนั้นผมไม่ได้ลุ้นเพราะไม่มีเงินจะซื้อ ขณะที่เดินทางกลับที่พักผมลงรถเมล์ที่ป้ายหน้าตลาดสี่มุมเมืองเวลาประมาณเที่ยงคืน พอลงรถเสร็จก็เดินย้อนไปขึ้นสะพานลอยคนข้าม เห็นสลากกินแบ่งตกอยู่พับไว้ไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ แต่สะอาดมากไม่มีรอยถูกเหยียบย่ำเลย เดินเลยไปประมาณ 3 - 4 ก้าว ไม่รู้นึกยังไงเลยย้อนไปเก็บขึ้นมาดู พอคลี่ดูเห็นมีอยู่ 2 คู่แต่เป็นงวดวันที่ 16 กันยายน 2548 ผมจะขยำทิ้งถังขยะแล้ว แต่ก็มาคิดตามประสาคนที่ศึกษาเพื่อเป็นนักลงทุนแต่โอกาสไม่อำนวย เพราะคนที่รู้จักผมดีที่สุดและเป็นผู้สนับสนุนผมได้เสียชีวิตลงขณะที่กำลังจะได้สัญญาบริหารเงิน (อยู่ระหว่างร่างสัญญา) ผมคิดว่าไหนๆก็เสียเวลาเดินย้อนกลับไปตั้ง 3 - 4 ก้าว เสียเวลาก้มลงเก็บ เอาไปตรวจดูคงไม่ลำบากมากนัก
 
วันรุ่งขึ้นผมก็เอาไปตรวจทางอินเตอร์เน็ท ก็พบว่าถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว 124 ก็เป็นเงินแปดพันบาท ผมก็ลงจากสำนักงานเอามาขึ้นเงิน พอรับเงินเสร็จหลังจากนั้นความทรงจำของเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นก็ผุดขึ้นมา จำได้ว่า
 
ก่อนหน้านั้นนานเท่าไหร่ไม่รู้ วันหนึ่งขณะที่ผมเดินทางเข้าซอยบ้านพี่ชายที่คบหากัน ซึ่งผมอาศัยบ้านเขานอนอยู่ วันนั้นฝนตกแต่ขณะที่ผมกลับฝนหยุดแล้วทางยังเปียกๆอยู่เวลาก็ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ใกล้ถึงบ้านก็เห็นธนบัตรใบละยี่สิบบาทพับตกอยู่ ผมเก็บขึ้นมาคลี่ดูพบว่ามีอยู่ 4 ใบเป็นเงิน แปดสิบบาท ผมนึกในใจแบบไม่รู้ทำใมถึงได้พ้อว่า " น่าจะให้ซักแปดพัน "
 
แล้วผมก็ได้ แปดพันจริงๆ


ผมคิดมาตลอดนะว่านี่ไม่ใช่เหตุบังเอิญเพราะมันมีเหตุการณ์นำหน้ามาก่อนที่จะเก็บสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลได้ และเหตุการณ์นำแบบนี้ผมมักจะจำมันไม่ได้จนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่อง ผมถึงจะจำมันได้ และจะจำมันได้แบบไม่ลืมอีกเลย

 บ่ฮู้บ่หัน
ก้านทำไมไม่นึกล่ะว่าน่าจะสัก2ล้าน(แหะๆๆก็เรามันงกนี่)
      บันทึกการเข้า
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #70 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2552, 20:58:24 »

อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 19 กรกฎาคม 2552, 17:05:45
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 17 กรกฎาคม 2552, 17:52:00
 
อ้างถึง   

ให้ตามที่พ้อ
: 1-2 พฤศจิกายน 2548
 
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 วันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล วันนั้นผมไม่ได้ลุ้นเพราะไม่มีเงินจะซื้อ ขณะที่เดินทางกลับที่พักผมลงรถเมล์ที่ป้ายหน้าตลาดสี่มุมเมืองเวลาประมาณเที่ยงคืน พอลงรถเสร็จก็เดินย้อนไปขึ้นสะพานลอยคนข้าม เห็นสลากกินแบ่งตกอยู่พับไว้ไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ แต่สะอาดมากไม่มีรอยถูกเหยียบย่ำเลย เดินเลยไปประมาณ 3 - 4 ก้าว ไม่รู้นึกยังไงเลยย้อนไปเก็บขึ้นมาดู พอคลี่ดูเห็นมีอยู่ 2 คู่แต่เป็นงวดวันที่ 16 กันยายน 2548 ผมจะขยำทิ้งถังขยะแล้ว แต่ก็มาคิดตามประสาคนที่ศึกษาเพื่อเป็นนักลงทุนแต่โอกาสไม่อำนวย เพราะคนที่รู้จักผมดีที่สุดและเป็นผู้สนับสนุนผมได้เสียชีวิตลงขณะที่กำลังจะได้สัญญาบริหารเงิน (อยู่ระหว่างร่างสัญญา) ผมคิดว่าไหนๆก็เสียเวลาเดินย้อนกลับไปตั้ง 3 - 4 ก้าว เสียเวลาก้มลงเก็บ เอาไปตรวจดูคงไม่ลำบากมากนัก
 
วันรุ่งขึ้นผมก็เอาไปตรวจทางอินเตอร์เน็ท ก็พบว่าถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว 124 ก็เป็นเงินแปดพันบาท ผมก็ลงจากสำนักงานเอามาขึ้นเงิน พอรับเงินเสร็จหลังจากนั้นความทรงจำของเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นก็ผุดขึ้นมา จำได้ว่า
 
ก่อนหน้านั้นนานเท่าไหร่ไม่รู้ วันหนึ่งขณะที่ผมเดินทางเข้าซอยบ้านพี่ชายที่คบหากัน ซึ่งผมอาศัยบ้านเขานอนอยู่ วันนั้นฝนตกแต่ขณะที่ผมกลับฝนหยุดแล้วทางยังเปียกๆอยู่เวลาก็ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ใกล้ถึงบ้านก็เห็นธนบัตรใบละยี่สิบบาทพับตกอยู่ ผมเก็บขึ้นมาคลี่ดูพบว่ามีอยู่ 4 ใบเป็นเงิน แปดสิบบาท ผมนึกในใจแบบไม่รู้ทำใมถึงได้พ้อว่า " น่าจะให้ซักแปดพัน "
 
แล้วผมก็ได้ แปดพันจริงๆ


ผมคิดมาตลอดนะว่านี่ไม่ใช่เหตุบังเอิญเพราะมันมีเหตุการณ์นำหน้ามาก่อนที่จะเก็บสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลได้ และเหตุการณ์นำแบบนี้ผมมักจะจำมันไม่ได้จนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่อง ผมถึงจะจำมันได้ และจะจำมันได้แบบไม่ลืมอีกเลย

 บ่ฮู้บ่หัน
ก้านทำไมไม่นึกล่ะว่าน่าจะสัก2ล้าน(แหะๆๆก็เรามันงกนี่)


คงจะได้หรอกนะ 2 ล้าน ที่ท่านให้นะเพราะมันไม่ทำให้รวยจนพ้นไปจากวิถีทางที่ต้องเป็น ท่านไม่ให้เราตาย แต่ท่านก็ไม่ให้เรารวย เพราะเราต้องได้พบกับคนๆหนึ่งที่เราหา เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง เพราะมีหลายครั้งที่เราต้องล้มเหลวอย่างเหลือเชื่อ

 ฮือๆ
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #71 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2552, 21:06:14 »

 
อ้างถึง   

7 ดาวเหนือ
: พฤษภาคม - 19 สิงหาคม 2551
 
ผมเข้ามาอยู่กรุงเทพฯตั้งแต่ 20 สิงหาคม 2551 จนกระทั่งวันหนึ่งในช่วงหลังสงกรานต์ถึงวันที่ 26 พฤษภาคม 2552 คืนวันนั้นเมื่อผมนึกถึง 6 หญิงที่สุดแสนประทับใจในชีวิต ผมก็จำได้ถึงเหตุการณ์ย้อนหลังไปเมื่อปี 2551 ขณะที่ผมอยู่ที่บ้านแม่ที่ลำปาง
 
วันนั้นหลังจากอาบน้ำเสร็จประมาณ 5 ทุ่ม ผมเข้าห้องนอนปิดไฟมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นเป็นคืนเดือนมืดท้องฟ้าโปร่ง ผมนึกอยากจะมองดูดาว เพราะอยู่กรุงเทพฯไม่เคยได้ดู ผมเลยมุดหัวออกนอกหน้าต่างแหงนมองดูท้องฟ้า แล้วผมก็ต้องประหลาดใจมากที่ผมเห็นดาวเหนือเจ็ดดวง และมันลอยต่ำกว่าดวงดาวทั้งหมด ผมถึงกับพูดในใจ " เฮ้ย ทำไมดาวเหนือมันอยู่ต่ำขนาดนี้วะ " ผมมองอยู่นานด้วยความฉงน มันก็ยังอยู่ที่เดิม จนผมเมื่อยคอเลยมุดหัวกลับเข้ามา ล้มตัวลงนอนแล้วผมก็ลืมมันไป
 
ตอนที่ผมนึกถึง 6 หญิงที่สุดแสนประทับใจ ผมก็จำได้ว่า ตอนที่ผมเห็นดาวเหนือผมกำลังเขียนถึงเรื่องราวของพวกเธอทั้งหกทำเว็บไซต์บนโปรแกรม ช่วงที่นึกได้นั้น ผมคิดว่า ดาวเหนือมีทั้งหมด 6 ดวง หรือว่าผมจะมีหญิงที่สุดแสนประทับใจคนที่ 7 ผมเลยเรียก 6 หญิงที่สุดแสนประทับใจเสียใหม่ว่า หกยอดหญิงดาวเหนือ
 


อย่างไรก็ตามผมก็อยากรู้ว่าดาวเหนือจริงนะมันเป็นยังไงก็เลยได้สืบค้นดู ก็เลยได้ความว่า ดาวเหนือ (Polaris) ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาวหมีเล็ก (Ursa Minor) ซึ่งคือตำแหน่งหาง แต่การจะดูมันก็ต้องรู้องศา ไม่ใช่มุดหัวออกนอกหน้าต่างแล้วเห็นเลย แถมแต่ละดวงยังดูใหญ่กว่าดาวทุกดวง นั่นแสดงว่าดาวเหนือที่ผมเห็นไม่ใช่ดาวเหนือจริงๆ แต่เป็นนิมิต
 
แต่ถ้าเป็นนิมิต มันก็ไม่สมเหตุผลถ้านิมิตนั้นแสดงเพื่อบ่งบอกแค่ กาม (ในความหมายดังเดิม) มันน่าจะบ่งบอกอะไรมากกว่านั้น เคยพูดเล่นๆกับน้องคนหนึ่งว่า " พี่รู้แล้วว่าเบื้องบนพี่ท่านคือใคร " น้องคนนั้นก็รู้ทันมุกตอบกลับทันทีว่า " เทพเจ้าดาวเหนือหรือพี่  พีคงจะอ่านการ์ตูน ฤทธิ์หมัดเทพเจ้าดาวเหนือมากไป " นั่นนะสิ ไม่เคยได้ยินว่ามีเทพเจ้าดาวเหนือนี้มาก่อนเลยจริงๆ
 
นี่จึงยังเป็นปริศนาที่หาคำตอบไม่ได้ และผมก็ไม่รู้เลยว่าเบื้องบนท่านคือเทพเจ้าองค์ใด
 

พึงสังเกตว่า เรื่องที่ผมเล่าไม่สามารถอ้างอิงวันเดือนปีที่แน่นอนได้เลย เพราะผมไม่เคยคิดว่ามันจะสำคัญในอนาคต หรือมีเหตุการณ์ต่อเนื่องติดตามมา

 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #72 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2552, 22:21:05 »

น่าติดตามจริงๆค่ะก้าน
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #73 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2552, 23:30:23 »

ต่อค่ะ ก้าน .. สนุกดี
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #74 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2552, 19:08:12 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 19 กรกฎาคม 2552, 23:30:23
ต่อค่ะ ก้าน .. สนุกดี

ครับผู้อ่านสนุก แต่เรื่องราวทั้งหมดมันรันทดครับพี่ 22 ปีที่ผ่านมาชีวิตของผมเป็นเหมือนดังคำทำนายไพ่ทาโรต์ใบที่ XII - The Hangman



 ฮือๆ

      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
  หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 17  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><