Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« เมื่อ: 30 มิถุนายน 2552, 18:47:06 » |
|
เพื่อน ๆ บอกผมว่า
ทำไมมึงดูหน้าตาไม่ค่อยฉลาด แต่เรียนเก่งจังวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้ขยันแล้วก็ตั้งใจเรียน
เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมพอมึงมีตังค์ มึงชอบเอาไปทำบุญ แจกเด็ก เลี้ยงพระวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้รู้จักแบ่งปันคนอื่น ถึงเราจะมีตังค์น้อย
แต่ก็มีคนอื่นที่เขาลำบากกว่าเรา
เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมมึงชอบเล่นกีฬา เล่นเป็นหลายอย่าง
แล้วไม่เคยเห็นมึงป่วยนอนโรงพยาบาลเลยวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้กูออกกำลังกาย จะได้แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วยง่าย ๆ
เพราะเรามีตังค์น้อย เจ็บป่วยจะลำบาก
เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมมึงอารมณ์ดี ไม่เครียด ไม่โกรธใครบ้างเลยหรือไงวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้เป็นคนอารมณ์ดี ทำให้คนที่อยู่ใกล้เรามีความสุข
แล้วจะสบายใจกันทุกคน
เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมมึงพูดกับคนอื่น ดูสุภาพ อ่อนน้อม ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นลุงแก่ ๆ
เป็นเด็กเสริฟอาหาร หรือแม้แต่ขอทานที่มึงให้เศษตังค์
แล้วเขาอวยพรให้มึง ทำไมมึงต้องขอบคุณขอทานวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้พูดดี ๆ กับทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร
เราพูดดี ๆ กับเขา เขาก็จะได้พูดดี ๆ กับเรา
เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมพี่ ๆ น้อง ๆ มึงตั้งหลายคน ทำไมรักใคร่กันดี
ไม่เคยทะเลาะกันเลยวะ
ผมบอกเพื่อนผมว่า
แม่กูสอน ให้พี่น้องรักกันทุกคน เพราะหมากับแมว
ที่อยู่บ้านเดียวกัน มันยังรักกันได้
ทำไมพี่น้องกัน จะรักกันไม่ได้
เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมมึงถึงรักชาติ รักแผ่นดิน รักในหลวง มากมายนักวะ
ผมบอกเพื่อนว่า
แม่กูสอน ให้กูสำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน
บุญคุณของพระมหากษัติรย์ ทุกพระองค์
แม่กูสอน ให้กูรู้จักคำว่า จงรักภักดี ตั้งแต่กูยังไม่รู้ความหมาย
จนทุกวันนี้ กูรู้แล้วว่า คำว่า จงรักภักดี นั้น ยิ่งใหญ่เพียงใด
เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
ทำไมแม่มึงถึงสอนอะไรมึงมากมายจังเลยวะ
ผมบอกเพื่อนว่า
ที่กูเป็นกูอยู่จนทุกวันนี้ ก็เพราะ ' แม่กูสอน '
แม่กูสอนอะไร กูทำตามแม่กูสอนทุกอย่าง
มีอย่างเดียวที่แม่กูไม่ได้สอน
แต่กูทำ แล้วกูทำมาตั้งแต่เด็กแล้ว
แม่กูไม่ได้สอนให้รักแม่
แต่......กูรักแม่ว่ะ ใครไม่รัก..................กูรัก
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
yenjai
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 14
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2552, 13:38:23 » |
|
ดีจังเลย พี่เรา
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 12 สิงหาคม 2552, 07:29:07 » |
|
เนื่องในโอกาศวันแม่ 12 สิงหาคม ศกนี้
ขอนำเรื่อง แม่กูสอน ที่เคยโพสท์ไว้
ขึ้นมาให้พวกเราระลึกถึงพระคุณของท่าน
ที่เราได้เป็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะ เรามีท่าน
เรารักแม่
http://www.youtube.com/watch?v=PunHmc6b56Y
อิ่มอุ่น - ศุ บุญเลี้ยง
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=anotherside&month=01-2009&date=08&group=8&gblog=43
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
pusadee sitthiphong
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2552, 20:59:08 » |
|
พี่เพิ่งอ่านเจอกระทู้นี้ ดีจังเลย ขอบคุณค่า
|
pom shi 2516
|
|
|
|
yc
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2553, 21:47:31 » |
|
ผมประทับใจ "แม่กูสอน" ของพี่หมอสำเริงมากครับ จะต้องหาโอกาสอ่านอีกหลายๆครั้ง (ครั้งนี้ น่าจะเป็นครั้งที่2) ...ตบท้าย ด้วย "สิ่งที่แม่ไม่ได้สอน" สวยงาม กินใจมาก..เป็น บทสรุปของตรรกะที่เป็นจริง ส่วนภาพล่าง แม้จะดูดี แต่ผมรู้สึกเหมือน "แม่จ๋าอย่ารังแกฉัน" ยังไงไม่รู้
|
|
|
|
|
|
pusadee sitthiphong
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2553, 13:31:13 » |
|
กลับมาอ่านอีกรอบ ก็ยังประทับใจเหมือนเดิม ดีใจที่ยังมีแม่อยู่ รักแม่เสมอ
|
pom shi 2516
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 16 กันยายน 2553, 07:14:25 » |
|
ขอขอบคุณเวบสนุกดอทคอม วันพุธ 15 ก.ย. 53 ที่สนับสนุนเนื้อหา http://news.sanook.com/966578-%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%94-%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%94-%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%81-%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88.html
แม่ใจเด็ด โยนลูกเข้ากอหญ้า ก่อนโดนกระบะชนดับ
จ.พิษณุโลก (15 ก.ย) เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจย่อยม.นเรศวร รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์ที่ถ.สายพิษณุโลก-นครสวรรค์ จุดเกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ เมื่อไปถึงยังสถานที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยาม่าฮ่า รุ่นเมท สีน้ำเงิน อยู่ในสภาพพังยับเยิน ใกล้กันพบผู้ศพผู้ชีวิตกระเด็นตกไปร่องน้ำข้างทาง ทราบชื่อต่อมาคือ นายปรีดา เพ็งนุ่ม อายุ 25 ปี อีกรายเป็นหญิงไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 25 ปี
ด้านรถยนต์คู่กรณีจอดห่างไปประมาณ 100 เมตร เป็นรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทตัน สีบรอนเงิน สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน คนขับคือ จ.ส.อ.สุรชัย แสงเลิศ อายุ 49 ปี ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดแหตุ
ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบพื้นที่อยู่ได้ยินเสียงเด็กทารกร้องไห้มาจากโพรงหญ้า จึงได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยไปค้นหาจนพบร่างของเด็กทารกดังกล่าว
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประมวลเหตุการณ์ว่าเด็กทารกเป็นบุตรของผู้เสียชีวิตทั้งสองราย ชื่อ ด.ช.ธันวา เพ็งนุ่ม อายุ 8 เดือน ก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะโดนรถพุ่งชน
สันนิษฐานว่าอาจจะโยนลูกน้อยเข้าไปในกอหญ้าเพื่อลูกจะได้ปลอดภัย ซึ่งสภาพของเด็กทารกมีบาดแผลฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง และได้นำส่งโรงพยาบาลเพื่อเหลือแล้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายปรีดา ได้ขับรถจักรยานยนต์พาภรรยาและด.ช.ธันวา ไปกินข้าวที่ร้านอาหารใบตอง ขณะขี่รถกลับบ้านได้ถูกรถยนต์ของ จ.ส.อ.สุรชัย ที่ขับมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์อย่างจัง เป็นจังหวะเดียวกับที่แม่ของ ด.ช.ธันวา เห็นว่ามีรถยนต์กำลังจะพุ่งชน จึงได้ตัดสินใจโยนลูกทิ้งทันที เพื่อให้ลูกรอดชีวิต
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|