25 พฤศจิกายน 2567, 21:46:46
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: " ชัยชนะที่ยั่งยืน "  (อ่าน 3974 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 26 มิถุนายน 2552, 19:44:30 »




จาก forward mail ล่าสุด ...

ชัยชนะที่ยั่งยืน   win win win

**************

ในการอบรมคราวหนึ่ง วิทยากรได้ชูกำปั้นขึ้น และเชิญชวนให้ทุกคน

ในห้องหาทางทำให้เขาแบมือออกมา คนแล้วคนเล่าลุกขึ้นมางัดแงะกำปั้นของเขา

พยายามดึงนิ้วของเขาให้ถ่างออก หรือไม่ก็บีบข้อมือของเขา

โดยหวังว่าความเจ็บปวดจะทำให้เขาคลายกำปั้น แต่ก็ไม่ได้ผล

ถ้าเป็นคุณ จะทำอย่างไร ?

ชายผู้หนึ่งเดินตรงมาหาเขาด้วยหน้าตายิ้มแย้ม แล้วก็พนมมือไหว้

เขายกมือไหว้ตอบทันที สักพักคนในห้องจึงสังเกตว่า

กำปั้นของเขาได้คลายออกแล้ว

โดยไม่ได้ใช้กำลังอย่างคนอื่นๆ เลย ชายผู้นี้สามารถทำให้

วิทยากรคลายกำปั้นออกมาได้ เขาเพียงแต่แสดงไมตรี

ด้วยการพนมมือไหว้เท่านั้น

คุณเป็นคนหนึ่งหรือไม่ที่คิดอย่างชายผู้นี้

ถ้าใช่คุณเป็นคนส่วนน้อยมากๆ เพราะจากประสบการณ์ของวิทยากร

คนส่วนใหญ่คิดแต่การเอาชนะเขาด้วยกำลัง

ไม่ว่าหญิง หรือ ชาย เด็ก หรือ ผู้ใหญ่ มีไม่กี่คนที่คิดจะชนะใจเขา

ถ้าไม่ด้วยการไหว้ ก็ด้วยการยื่นดอกไม้หรือยื่นมือมาทักทายเขา

กิจกรรมเล็กๆ นี้บอกอะไรบ้างไหมเกี่ยวกับ

วิธีคิดของผู้คนส่วนใหญ่ในเวลานี้ ใช่หรือไม่ว่า

เราคิดถึงการใช้กำลังมากกว่าวิธีการที่สันติ

เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นกับใครก็ตาม

เราคิดแต่จะเอาชนะด้วยกำลังยิ่งกว่าการชนะใจ

แต่กิจกรรมเดียวกันนี้เองก็บอกเราว่าวิธีการที่สันตินั้น

สามารถแก้ปัญหาได้ดีกว่าแม้ในกรณีที่ดูเหมือนว่า

ต้องใช้กำลังเท่านั้นเป็นทางออก การใช้ไมตรีนั้นสามารถทำให้อีกฝ่าย

' ยอมจำนน ' ได้ หรือพูดให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือ ' ชนะ ' ทั้งสองฝ่าย

เพราะขณะที่วิทยากรได้มิตรภาพ อีกฝ่าย

ก็สามารถคลายกำปั้นเจ้าปัญหาออกมาได้

จริงอยู่กิจกรรมนี้เป็นแค่เกม ในชีวิตจริงเราคงไม่คิดจะใช้กำลัง

แก้ปัญหากับใคร แต่ใช่หรือไม่ว่าเมื่อมีข้อขัดแย้งกับใคร

คนส่วนใหญ่นิยมใช้วิธี ' แรงมาก็แรงไป '

ถ้าเขาโกรธมา ก็โกรธไป ด่ามา ก็ด่าไป

การใช้วิธีที่นุ่มนวลหรือใช้ความดีเข้าเผชิญมักจะถูกมองข้ามไป

หรือถูกบอกปัดไปเพราะเข้าใจว่าไม่ได้ผล

แต่ในความเป็นจริงวิธีการดังกล่าวก็ได้ผลไม่น้อยไปกว่าในเกม

' คลายกำปั้น ' ข้างต้น

น้ำใจไมตรีและความดีนั้นมีพลังที่สามารถเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี

และเปลี่ยนภัยคุกคามให้เป็นสะพานสานมิตรภาพได้

ใช่หรือไม่ว่าการกำจัดศัตรูที่ดีที่สุดก็คือการเปลี่ยนเขามาเป็นมิตรนั่นเอง

นี้คือชัยชนะที่ให้ผลยั่งยืนกว่าชัยชนะด้วยกำลังที่เหนือกว่า

นำมาจากเวบ "เสวนาประสาพุทธ"

http://www.budpage.com/forum/view.php?id=5042

 bye bye bye bye bye bye
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><