สวัสดีครับ RCU ทุกท่าน ทุกรุ่น
มารายงานตัวแล้ว หลังจากไปร่วมงานรุ่นที่จังหวัดนครปฐมตั้งแต่วันที่ 1 เป็นต้นมา
หนทางสะดวก แต่เจอรถบรรทุกพ่วงบรรทุกชานอ้อย วิ่งคร่อมถนนกว่า 30 กม.
ทำรถติดยาวเหยียดตั้งแต่บางแม่หม้ายไปถึงตลาดร้อยปีตำบลบางหลวง เพราะไม่กล้าแซง
กว่าจะหลีกไปได้ก็เข้าสู่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐมเกือบๆเย็นของวันที่ 1 ที่ผ่านมา
เย็นนั้นเลยไปทานข้าวเย็นที่ร้านลุงโชยป่าลั่น(ไปกัน 6 คน) ตรงข้ามร้านกุ้งอบภูเขาไฟ ที่เคยไปทานกัน(อจ.ทราย จำได้มั้ย?)
ร้านลุงโชยมีกบทอดอร่อยมาก 2 ตัวทอดได้ 1 จานใหญ่ๆ เลยสั่ง 2 จาน รับทานแทนข้าวเสียเลย,
มี(ปลาดุกหรือ)ปลากดคังผัดฉ่า, ปลาช่อนทอดน้ำปลา, แกงส้มกุ้งใส่-ชะอมผัดไข่-ใส่หลดบัว,ทอดมัน,มะระแม้วผัดไข่
กินไปคิดถึงพวกเราไป...ลืม..ลืมถ่ายรูปให้ดูว่าน่ารับประทานมาก มาก ผ่านไปอย่าลืมแวะชิม..ทั้งหมดไม่ถึง 800 บาท
เช้า-โจ๊ก, กาแฟโบราณ, ปาท่องโก๋ สูตรลุงพงษ์ ซอย 7 หน้า รพ.ศูนย์นครปฐม ที่ออก ทีวี
พร้อมปีกไก่ทอด ของโอทอปอีก 6 ไม้....เสียดายเช่นกัน ลืมถ่ายรูปให้ชม
จากนั้นไปแวะเยี่ยมญาติตามบ้านต่างๆ แวะไป..ทานไป..จุก
เที่ยง-ข้าวหมูแดง นครปฐมมีร้านอร่อยคือ ร้านปฐมโภชนา อยู่ถนนหลังพระ-สนามจันทร์ มีอาหารอื่นประกอบมากมาย
และร้านตั้งฮะเส็ง ซอย 2 หลังเทศบาล ข้าวหมูแดงต้องราดน้ำส้มและใส่ซ๊อสเปรี้ยวทานกับต้นหอม มันจะกลบรสต้นหอม
ใส่น้ำปลา-พริก ถือว่าไม่ใช่คนนครปฐม ต่อด้วยข้าวหลาม 1 กระบอก
จากนั้นจึงเดินเข้าตลาดพระ-ร้านของเก่า-ร้านขายแสตมป์
โชคดีมากๆครับ ไม่นึกว่าจะได้พบ เกินความคาดหวังจริงๆ
พบของเก่า 2 ชิ้นด้วยความบังเอิญมากๆ หรือเป็นบุญวาสนาครับ
1.พบ
ตลับสีผึ้ง "
งานพระบรมศพ ร,ศ, ๑๒๙" ชนิดเหรียญเดี่ยว เป็นโลหะเงิน น้ำหนักประมาณ 4 บาทขนาดใหญ่กว่ากล่องไม้ขีด
ไม่มีเหรียญติดอยู่ สภาพดีเยี่ยม เป็นตลับสีผึ้งที่รัชกาลที่ 6 ท่านสั่งให้ทำขึ้นเพื่อพระราชทานแก่ผู้เข้าถวายพระเพลิงพระศพ ร.5
ซึ่งต้องมีฐานะเป็นภรรยาข้าราชการซึ่งได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าหรือ "คุณหญิง" "ท่านผู้หญิง" นั่นเอง ขึ้นไปถึงชั้น"เจ้าฟ้า"
จะได้ตลับแบบเหรียญเดียว และถ้าชั้นยศสูงกว่านี้จะได้ตลับแบบ 2 เหรียญ
ร,ศ, ๑๒๙ คือปี พ.ศ. 2453 ซึ่งเป็นปีที่พระราชทานเพลิงพระศพ
เทียบตลับสีผึ้งกับกลักไม้ขีดไฟครับ
เทียบกับภาพถ่ายที่สมบูรณ์จากในหนังสือครับ-เป็นภาพเอาด้านหัวออก ด้านก้อยอยู่ข้างใน
และ
2.ขณะที่กำลังตรวจสอบและต่อรองอยู่นั้น ได้พบกับ "
เข็มที่ระฤกในงานราชาภิเษก ร.ศ.๑๓๐"
เป็นเข็มทำด้วยโลหะเงิน น้ำหนักประมาณสลึงเฟื้อง รูปช้างสามเศียร มีพระมหาวชิราวุธประดับบนหัวช้างและงูที่งวงซ้ายและขวา
ซึ่งงูคือปีพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว มีโบว์ทอดจากงวงด้านขวาไปซ้าย
โบว์มีคำว่า ที่ระฤกในงานราชาภิเษก ร.ศ. ๑๓๐ และที่ขาของช้างมีคำว่า ร.ศ. ๑๓๐
ซึ่งเข็มนี้จะสอดคล้องกับตลับคือ ต้องมีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพก่อน จึงจะจัดงานบรมราชาภืเษก
ขอโทษด้วยครับ ที่ภาพอาจไม่ชัดเจนนัก(เพราะคนบ้านนอก ก็เป็นอย่างนี้ละครับ จะเก่งสู้คนกรุงเขาได้อย่างไร)
กว่าจะต่อรองเสร็จพร้อมจ่ายสตางค์ก็หมดเวลาไป 3 ชั่วโมง แต่ปลื้มสุดๆ
เพราะนี่ก็เป็นของที่ระฤกที่เกี่ยวข้องกับ ร.5 และ ร.6 ผู้พระราชทานกำเนิด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เย็นๆ จึงไปงานสังสรรค์ที่ศูนย์ฝึกตำรวจภูธร ภาค 7 จังหวัดนครปฐม อยู่ติดกับพระราชวังสนามจันทร์ครับ
เริ่มงาน 18.00 น. ครับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รร.พระปฐมวิทยาลัย ในปี 2513 มีนักเรียน 217 คนครับ
ปีที่แล้วมาร่วมงาน 93 คน ปีนี้ 67 คนครับ สมาชิกไม่มีเพิ่ม มีแต่ร่วง และโรยไปทุกๆปี
ผมไปเป็นคนที่ 6 เมื่อเวลา 18.10 น. และอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา สมควร ศิริจิตรจินดา ก็เข้ามาในงาน
รุ่นนี้พอมีคนที่เป็นที่รู้จักของสาธารณชนบ้าง
เช่น อดีต สส.นครปฐม สมพัฒน์ แก้วพิจิตร พรรคชาติไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พลตำรวจโทวรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และระดับ 10 อีก 2 คน, ระดับ 9 อีก 2 คน
แต่ส่วนใหญ่รุ่นนี้เป็นผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการโรงเรียนดังๆในเขตปริมณฑลของ กทม.มากโรงทีเดียว
งานมีไปจนถึงเวลาประมาณ 23.30 น. จึงยุติ
แต๋ง-วัฒนา โอภานนท์อมตะ, หมู-ยงยศ ศรีศุภรัตน์ [/size] ลูกศิษย์หลวงพ่อหายจ้อย
ก็ยังไม่ไปปรากฏตัวในงาน ท่ามกลางการรอ..รอ..และรอของเพื่อนๆ หวังว่าปีหน้าคงไม่ทำให้เพื่อนต้องรอ..จำไว้
วันที่ 3 พฤษภาคม 52 (ไม่อยากเล่าเลยว่าทาน ก๋วยจับ ซอย 6-เก่า เล่ายี่ห้อจริงๆ ขอบอก) แล้วขับรถกลับนครสวรรค์
แต่ไปแวะหน้า สภ.สามชุก ตรงนั้นมีร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดอร่อย เสร็จแล้วใครจะแวะ
ตลาดร้อยปีสามชุก หรือ
บึงฉวาก ไม่ว่ากัน
กลับถึงนครสวรรค์ บ่ายสองโมงเศษ จึงเริ่มรายงานให้ท่านทราบนี่แหละครับ
อนึ่ง ถ้ามีโอกาส(แม้น้อยนิด) เที่ยวไปชิมไป จะบอกให้ทราบ (เสียดายถ่ายรูปไม่ค่อยจะเป็นจริงๆ)
จบรายงานครับ