22 พฤศจิกายน 2567, 17:15:46
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 12  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ®®®® ประเพณีอีสานใต้ ไปกับบักสน ®®®®  (อ่าน 155255 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
dtoy
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,076

« ตอบ #125 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2552, 08:51:50 »

อ้างถึง
ข้อความของ manopkd เมื่อ 06 พฤษภาคม 2552, 21:32:30
สวัสดีครับ คุณน้องบักสนและน้องๆทุกท่าน
                พี่สิงห์นั่งอ่านจนจบพอดี  ต้องขอขอบคุณที่ช่วยกันนำเรื่องดีๆมานำเสนอ เสียดายพี่สิงห์พูดภาษาเขมรไม่เป็นครับ  สมัยที่ท่านนายกฮุนเซ็น เป็นนายกใหม่ สิบกว่าปีมาแล้ว พี่สิงห์มีโอกาสไปเขมร เพื่อไปหาลู่ทางทำธุรกิจ สมัยนั้นมีแต่คนไทยไปลงทุน พี่สิงห์ได้มีโอกาสเห็นสาวๆเขมรใส่กระตุดปลัดขลิกรอบเอว ซึ่งสาวๆเขมรต้องใส่ทุกคนถ้ายังไม่มีครอบครัว(แต่เวลาเขาจะนอนกับผู้ชายเขาจะถอดออก  เขาบอกว่าใส่ไว้เป็นเครื่องรางของขลังครับ)  ประชาชนเขมรยังยากจนมากเพราะสงครามเพิ่งเลิก ประชาชนปลูกบ้านเป็นกระตอบเล้กๆอยู่ตามถนน เป็นส่วนใหญ่  กระแสไฟฟ้าไม่มี  พี่สิห์ไปทั่วพนมเปญและบ้านนอกไปดูหลุมฝังศพที่โตนแสลง น่าสังเวชมาก
                 หลังจากนั้นอีกสิบปีพี่สิงห์ก็มีโอกาสไปบ่อย ไปช่วยสอนคนงานทำงาน แต่ให้คนไทยที่พูดเขมรได้เป็นล่ามและใช้ภาษาอังกฤษปนด้วย เสียดายที่รู้จักบักสนช้าไป เพราะอยากเรียนภาษาเขมรครับ จะได้สื่อสารกันรู้เรื่อง ตอนนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่ครับแต่ใช้ภาษาอังกฤษแทนเพราะพี่สิงห์พูดเขมรไม่ได้  พี่สิงห์เคยบอกเขาไว้ให้โฟร์แมนไปเรียนภาษาไทย แล้วพี่สิงห์จะสอนการทำงานให้ได้ลึกซึ้งครับ  ปีนี้คงมีโอกาสไปอีก ถ้าบักสนมีหนังสือ ช่วยสงเคราะหืด้วย พี่สิงห์จะได้ไปจีบสาวเขมรได้  ที่ผ่านมาใช้ภาษาใบ้  ปนภาษาอังกฤษ ครับ แต่ก็สื่อสารกันได้


สวัสดีค่ะ่พี่มานพ  ต๋อยก็เคยอยู่เขมรมาก่อนค่ะ  คงจะเป็นเวลาใกล้เคียงกัน  คศ ๑๙๙๖-๗  ตอนนั้นเขมรพึ่งจะเปิดประเทศได้ไม่นาน  มีองค์กรต่างประเทศให้เงินช่วยเหลือมากมาย  แม้การเมืองยังครุกรุ่นและเต็มไปด้วยปัญหาเก่าแก่เรื้อรัง ความยากจนแทรกทุกมุม  ความปลอดภัยหายาก  เราต้องอยู่กับความสี่ยงและระแวดระวังตัวตลอดเวลา  หลายครั้งที่เสียงระเบิดดังไม่ไกลจากบ้านต๋อยนัก  หรือคนใกล้เคียงรู้จักถูกปืนขู่เอารถไปดื้อๆ  หรือไปตลาดถูกลูกหลงกลับระเบิด ต๋อยถูกล้วงกระเป๋า และเจอตำรวจเอาปืนขู่จะเอาเงินค่าปรับฐานเลี้ยวผิดไป ๑ ซอย อะไรทำนองนั้น

ต๋อยต้องอยู่ในบ้านที่กำแพงสูง๓-๔เมตร  มียามรักษาการณ์ตลอด๒๔ ชม และไม่เคยไปไหนเวลากลางคืน ยกเว้นกับสามีซึ่งทำงานที่ต่างจังหวัดลุ่มน้ำโขง และจะกลับมาอยู่กับครอบครัววันสุดสัปดาห์  ต๋อยอยู่พนมเปญกับลูกสาวอายุ ๓ ขวบ  ไม่เคยทิ้งลูกไว้กับใครนอกจากครูที่โรงเรียนอนุบาลซึ่งเรียนครึ่งวัน  ไม่ไว้ใจใครเต็มร้อยแม้กระทั่งแม่บ้านและยามรักษาการณ์

แต่เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดี  ต๋อยไม่เคยรังเกียจพวกเขมรเลย  ประเทศและชีวิตเขาน่าเศร้าใจมาก (ยกเว้นคนใหญ่โตมีอำนาจ เพราะใช้อำนาจในทางที่ผิด)
      บันทึกการเข้า

Live Your Dream   
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #126 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2552, 09:31:25 »

อ้างถึง
ข้อความของ dtoy เมื่อ 09 พฤษภาคม 2552, 08:51:50
อ้างถึง
ข้อความของ manopkd เมื่อ 06 พฤษภาคม 2552, 21:32:30
สวัสดีครับ คุณน้องบักสนและน้องๆทุกท่าน
                พี่สิงห์นั่งอ่านจนจบพอดี  ต้องขอขอบคุณที่ช่วยกันนำเรื่องดีๆมานำเสนอ เสียดายพี่สิงห์พูดภาษาเขมรไม่เป็นครับ  สมัยที่ท่านนายกฮุนเซ็น เป็นนายกใหม่ สิบกว่าปีมาแล้ว พี่สิงห์มีโอกาสไปเขมร เพื่อไปหาลู่ทางทำธุรกิจ สมัยนั้นมีแต่คนไทยไปลงทุน พี่สิงห์ได้มีโอกาสเห็นสาวๆเขมรใส่กระตุดปลัดขลิกรอบเอว ซึ่งสาวๆเขมรต้องใส่ทุกคนถ้ายังไม่มีครอบครัว(แต่เวลาเขาจะนอนกับผู้ชายเขาจะถอดออก  เขาบอกว่าใส่ไว้เป็นเครื่องรางของขลังครับ)  ประชาชนเขมรยังยากจนมากเพราะสงครามเพิ่งเลิก ประชาชนปลูกบ้านเป็นกระตอบเล้กๆอยู่ตามถนน เป็นส่วนใหญ่  กระแสไฟฟ้าไม่มี  พี่สิห์ไปทั่วพนมเปญและบ้านนอกไปดูหลุมฝังศพที่โตนแสลง น่าสังเวชมาก
                 หลังจากนั้นอีกสิบปีพี่สิงห์ก็มีโอกาสไปบ่อย ไปช่วยสอนคนงานทำงาน แต่ให้คนไทยที่พูดเขมรได้เป็นล่ามและใช้ภาษาอังกฤษปนด้วย เสียดายที่รู้จักบักสนช้าไป เพราะอยากเรียนภาษาเขมรครับ จะได้สื่อสารกันรู้เรื่อง ตอนนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่ครับแต่ใช้ภาษาอังกฤษแทนเพราะพี่สิงห์พูดเขมรไม่ได้  พี่สิงห์เคยบอกเขาไว้ให้โฟร์แมนไปเรียนภาษาไทย แล้วพี่สิงห์จะสอนการทำงานให้ได้ลึกซึ้งครับ  ปีนี้คงมีโอกาสไปอีก ถ้าบักสนมีหนังสือ ช่วยสงเคราะหืด้วย พี่สิงห์จะได้ไปจีบสาวเขมรได้  ที่ผ่านมาใช้ภาษาใบ้  ปนภาษาอังกฤษ ครับ แต่ก็สื่อสารกันได้

สวัสดีค่ะพี่มานพ  ต๋อยก็เคยอยู่เขมรมาก่อนค่ะ  คงจะเป็นเวลาใกล้เคียงกัน  คศ ๑๙๙๖-๗  ตอนนั้นเขมรพึ่งจะเปิดประเทศได้ไม่นาน  มีองค์กรต่างประเทศให้เงินช่วยเหลือมากมาย  แม้การเมืองยังครุกรุ่นและเต็มไปด้วยปัญหาเก่าแก่เรื้อรัง ความยากจนแทรกทุกมุม  ความปลอดภัยหายาก  เราต้องอยู่กับความสี่ยงและระแวดระวังตัวตลอดเวลา  หลายครั้งที่เสียงระเบิดดังไม่ไกลจากบ้านต๋อยนัก  หรือคนใกล้เคียงรู้จักถูกปืนขู่เอารถไปดื้อๆ  หรือไปตลาดถูกลูกหลงกลับระเบิด ต๋อยถูกล้วงกระเป๋า และเจอตำรวจเอาปืนขู่จะเอาเงินค่าปรับฐานเลี้ยวผิดไป ๑ ซอย อะไรทำนองนั้น

ต๋อยต้องอยู่ในบ้านที่กำแพงสูง๓-๔เมตร  มียามรักษาการณ์ตลอด๒๔ ชม และไม่เคยไปไหนเวลากลางคืน ยกเว้นกับสามีซึ่งทำงานที่ต่างจังหวัดลุ่มน้ำโขง และจะกลับมาอยู่กับครอบครัววันสุดสัปดาห์  ต๋อยอยู่พนมเปญกับลูกสาวอายุ ๓ ขวบ  ไม่เคยทิ้งลูกไว้กับใครนอกจากครูที่โรงเรียนอนุบาลซึ่งเรียนครึ่งวัน  ไม่ไว้ใจใครเต็มร้อยแม้กระทั่งแม่บ้านและยามรักษาการณ์

แต่เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดี  ต๋อยไม่เคยรังเกียจพวกเขมรเลย  ประเทศและชีวิตเขาน่าเศร้าใจมาก (ยกเว้นคนใหญ่โตมีอำนาจ เพราะใช้อำนาจในทางที่ผิด)


พี่สิงห์และน้องต๋อย
หะยีขอมาร่วมวงเป็น "พลพรรค" เดียวกันได้ไหมคะ ??

เพราะเคยอยู่พนมเปญมาก่อนเช่นกัน
แต่คงอยู่ก่อนหน้าน้องต๋อยหน่อยนึง  คือระหว่างปี 1992-1994 ประมาณนี้
เป็นช่วงที่เขมรกำลังจะเปิดประเทศ 
และเริ่มจัดให้มีการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก ..

ช่วงนั้นมีองค์กรระหว่างประเทศหลายหน่วยเข้าไปช่วยฟื้นฟูประเทศ
รวมทั้งทหารช่างจากไทย  และที่ส่งมาจาก UN โดยตรงคือ UNTAC
เราอ่าน "อัน-แทค"  แต่คนกัมพูชาอ่าน "อุน-ถัก" (สำเนียงฝรั่งเศส)





พวกเราอยู่ด้วยความหวาดและสนุกสนาน ระคนกัน
จำได้ว่า .. อยู่ในสภาพที่ต้องพร้อมอพยพตลอดเวลา
กระเป๋าเดินทางพร้อมหิ้วออกนอกบ้าน .. สมบัติสะสมน้อยที่สุด

ในบ้านมีเฉพาะที่นอน TV วิทยุ อย่างละ 1 เครื่อง 
เครื่องครัวเล็กน้อย (ที่สามารถทิ้งได้ โดยไม่เป็นกังวล)

และที่สำคัญคือ .. Walky Talky หรือวิทยุสื่อสารที่ต้องเปิดทิ้งไว้ตลอดเวลา
(พี่ป๋องอาจจะร้อง "อ๋อ" เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้  ว่าทำไมหะยีจึงพอรู้เรื่อง code ของวิทยุสื่อสารบ้าง)

สมัยโน้นยังไม่มีโทรศัพท์
จะมีเฉพาะหน่วยงานราชการเท่านั้น  ยังไม่แพร่หลายมาถึงที่พักอาศัย
เราจึงมีเฉพาะวิทยุสื่อสารเอาไว้ติดต่อกันและกัน

สถานการณ์ครั้งหนึ่ง ทำให้เราต้องอพยพด้วยการขึ้น C130 ของทหาร อย่างเร่งด่วน
บินตรงจากพนมเปญมา บน.6 ดอนเมือง .. ตื่นเต้นดี

อยู่ได้ไม่กี่วัน .. สถานการณ์เริ่มเข้าที่ ..
ก็บินกลับไปเป็นชาวขะแมร์ .. อีกครั้ง

      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #127 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2552, 09:42:45 »

นั่นคือ .. เหตุการณ์ที่บอกว่าหวาดหวั่น
ส่วนเรื่องของความสนุกสนาน ก็มีมากไม่แพ้กัน

เรากลุ่มคนไทย .. จะอยู่ละแวกใกล้ ๆ กัน
และติดต่อกันทุกวัน วันละหลาย ๆ ครั้ง
มีการสังสรรค์ ทานข้าวเย็นรวมกันอยู่เสมอ

กิจวัตรยามเหตุการณ์ปกติ .. พอบรรดาสามีไปทำงาน
บรรดาแม่บ้านก็ออกสำรวจตลาด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "บะซาร์ ทะมัย" แปลว่า "ตลาดใหม่"
หรือที่รู้จักกันในนาม "ตลาดรัสเซีย"





พวกเรามีหน้าที่ (ย้ำว่า .. หน้าที่) ในการสำรวจราคา และ design ของก้อนหินสี ๆ
โดยเฉพาะสีน้ำเงิน ..ไพลิน .. ซึ่งถือว่าเป็นของดีจากกัมพูชา
ตามด้วย ผ้าไหมท้องถิ่น  ที่มีลายเฉพาะตัว ..
เพราะหลายคนชอบซื้อหาไปใช้ 
หะยีก็ชอบ .. แต่สีตกบรรลัยเลย..  สู้ของบ้านเราไม่ได้

นอกจากนั้น  ก็ต้องทำตัวเองให้มีความรู้เรื่องสถานที่สำคัญของพนมเปญ
ไม่ว่าจะเป็น โตวสแลง  ทุ่งสังหาร (Killing Field) หรืออื่น ๆ
เพราะพวกเราต้องทำหน้าที่พาแขกสำคัญจากเมืองไทย
เข้าเยี่ยมชมสถานที่เหล่านั้น .. อยู่เสมอ

ยิ่งเขียน  ความหลังยิ่งชัดขึ้น ..
เป็นประสบการณ์ที่ดีมากในช่วงหนึ่งของชีวิต ..
   


      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
I-Love-CU
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705

« ตอบ #128 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2552, 09:49:52 »

มานั่งฟังเรื่องเขมรด้วยคน เห็นพี่ๆเคยไปอยู่เขมรนานๆ เก่งมากเลย

ผมแบกเป้ไปเขมร เมื่อประมาณ ๓ ปีที่แล้ว เข้าเขมรจากด่านเวียดนาม
ไปอยู่ที่พนมเปญและเสียมราฐหลายวัน

เขมรยังยากจนและในชนบทก็ยังลำบากมาก
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #129 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2552, 09:54:30 »

อ้างถึง
ข้อความของ manopkd เมื่อ 08 พฤษภาคม 2552, 13:24:19
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 07 พฤษภาคม 2552, 17:21:27
เหนื่อย

   น้องสนครับ สวยงาม ตามที่เห็น
ทั้งตื่นเต้น เส้นสาย ลายงามเหลือ
ศิลป์พื้นบ้าน งานทอ พอจุนเจือ
ดูไม่เบื่อ เชื่อพี่ ทำต่อไป

   อันสาเหตุ ดูไม่ได้ ใจสับสน
กลัวมีมนต์ ถูกบล็อค หรือไฉน
กลับมาบ้าน ลองเล่น ในทันใด
โฮ้ ไอ ไฟด์ ภาพงาม ตามคำคุย

   สีมันแสด สดใส ใส่คงสวย
คงเห็นด้วย ทุกคน ผ่านฉลุย
ตัวพี่สิงห์ ติดใจ อยากใส่ลุย
ห้ามหน้ามุ่ย ถ้ากลับบ้าน ไปเอามา

   พี่เขาชอบ งานศิลป์ สิ้นสงสัย
คงติดใจ ลายนี้ ดีหนักหนา
อย่าลืมนะ คิดเงินด้วย ตามราคา
พี่เชื่อว่า น่าจะดี มีรางวัล



เหอๆๆ บรึ๋ยยย เหอๆๆ


กร๊ากกก...ก  พี่หนุนมั่ว
ด้วยความดีใจ
ที่สามารถ เห็น
ภาพงานที่มีคุณค่า
แบบนี้  ขอบคุณ
ครับ น้อง
สน


เหอๆๆ


ทำไมมันแต่งกลอนพาผมเข้าไปได้ด้วย  เก่งเกินตัวครับ ขอคารวะ 
ว่าง ๆ ผมจะส่งไปประชันกับท่านพี่ พล.ต.ต.ศาสตราจารย์ดร.เกียรติพงศ์ มีเพียร  
อดีตประธานชมรมวรรณศิลป์ ครับ

งั้นหะยีจะขอกราบเรียนเชิญท่านอดุล จันทรศักดิ์  พี่อีกท่านที่เคารพรักมาาาาาาาก
มาร่วมวงดีไหมคะ ..
พี่ท่านเพิ่งได้รับเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ 2552
อดีตประธานชมรมวรรณศิลป์ จุฬา เช่นกัน
   

หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #130 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2552, 10:03:30 »

อ้างถึง
ข้อความของ I-Love-CU เมื่อ 09 พฤษภาคม 2552, 09:49:52
มานั่งฟังเรื่องเขมรด้วยคน เห็นพี่ๆเคยไปอยู่เขมรนานๆ เก่งมากเลย

ผมแบกเป้ไปเขมร เมื่อประมาณ ๓ ปีที่แล้ว เข้าเขมรจากด่านเวียดนาม
ไปอยู่ที่พนมเปญและเสียมราฐหลายวัน

เขมรยังยากจนและในชนบทก็ยังลำบากมาก

ไม่รู้ว่าน้องยุทธรู้สึกเหมือนพี่ไหม ..
พอเข้าไปอยู่ร่วมกับเขาจริง ๆ เราจะรู้ว่าเขาเป็นคนน่ารัก

เขาดูละครจากเมืองไทยทุกเรื่อง ที่ออกอากาศทุกช่อง
เขาฟังภาษาไทยเก่งมาก  พูดได้  สื่อสารได้ในระดับดีทีเดียว ..

บ่ฮู้บ่หัน

แต่น่าเสียดาย  หรือเพราะความไม่ระวังต่อผลกระทบในภาพรวม
เวลาที่ตลกบ้านเราเล่นสนุก 
มักจะพูดว่า "ไอ้เขมร" หรือ "ไอ้ลาว" ไปในเชิง negative
โดยไม่ตระหนักว่า  เขาก็รู้สึกว่าถูกเราดูถูก เหยียดหยาม
และฝังความรู้สึกนั้นเอาไว้ในใจทีละนิด ๆ

เมื่อใดก็ตามที่เกิดระเบิดขึ้นมา  มันก็ยากที่จะแก้ไข
เช่นกรณี .. เผาสถานทูตไทยเมื่อหลายปีก่อน

เคยยกกรณีแบบนี้มาพูดในที่ประชุมด้านความมั่นคงมาแล้วหลายครั้ง
ไม่รู้ว่า  ความเห็นของเราอยู่แค่ในห้องประชุมหรือเปล่า
อยากให้ส่ง message นี้ไปยังกลุ่มนักแสดงทั้งหลายด้วย

บางทีเราเล่นเอาสนุก  เอาขำ  แต่ผลกระทบมันมีมหาศาลต่อประเทศชาติ .. เนอะ

พูดมากไปหน่อย .. คนแก่ขี้บ่น ก็หยั่งงี้แหละ !!!
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
dtoy
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,076

« ตอบ #131 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2552, 10:15:49 »

อู๊ย ตื่นเต้ล ดีใจจัง  หาพลพวกได้อีกหนึ่ง

ตอนพี่หยีไป  พวกเพื่อนที่ทำงานที่ยูเอ็นด้วยกันก็แห่กันไปเยอะค่ะพี่หยี  แต่ต๋อยยังไม่อยากตัดช่องน้อยแต่พอตัวหนีคนรักไปซึ่งๆหน้าเลยไม่เป็นไปตามกระแส

ไปด้วยกระเป๋าเิดินทางจริงๆค่ะ  ไปหาเอาดาบหน้า  โทรศัพท์มือถือของต๋อยเครื่องเท่าก้อนอิฐเลยค่ะ  แล้วเรามีแผนการหลบหนีด้วยนะคะถ้าเกิดภาวะฉุกเฉิน  เรามีเรือเร็วที่ซื้อไว้และขั้นตอนในการรวมพรรคพวก  โอ๊ย ตื่นเต้นค่ะ  แต่ก็ดีนะคะที่ไม่ต้ิองใช้

ช่วงหยุดสงกรานต์เป็นวันหยุดยาว  เราเดินทางไปพักผ่อนที่ฮ่องกง  วันกลับนั่งทานติ่มซำอาหารเช้า  อ่านเจอข่าวว่า the exiled Prince -- a brother of Prince Ronnarit จะเดินทางกลับพนมเปญวันเดียวกัน (เครื่องเดยวกันด้วย)  และฮุนเซ็นประกาศว่าจะยิงล้อเครื่องบินที่ให้โดยสารแก่ the Prince  เราเลยเื่เลื่อนวันเดินทาง  และเที่ยวบินไม่ได้มีทุกว้น และต้องหาโรงแรมใหม่เพราะห้องเต็มและติดแหงกอยู่เกาะฮ่องกงอีกหลายวัน

และต่อมาในปีเดียวกันเราเดินทางไปยุโรป  เกิดการปะทะระหว่าง ๒ ฝ่าย  ฮุนเซ็นและรณฤทธ์  เรากลับเข้าประเทศไม่ได้  ติดอยู่ที่อังกฤษและมารอที่เมืองไืทยจนกว่าทางอียูจะยอมอนุญาติให้เข้าได้  ต๋อยเลยกลับไปเก็บของกลับออสเตรเลียกับลูก  เหลือคุณสามีซึ่งต้องอยู่ให้ครบเทอม  ตอนนั้นต๋อยตั้งครรภ์ลูกสาวคนที่สองด้วยค่ะ

ขอโทษนะคะคุณหลาน  ประเพณีอิสานใต้ล้ำเข้าไปในแดนเขมรมากไปหน่อย  ไม่ว่ากันนะคะ
      บันทึกการเข้า

Live Your Dream   
dtoy
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,076

« ตอบ #132 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2552, 10:30:59 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 09 พฤษภาคม 2552, 10:03:30
อ้างถึง
ข้อความของ I-Love-CU เมื่อ 09 พฤษภาคม 2552, 09:49:52
มานั่งฟังเรื่องเขมรด้วยคน เห็นพี่ๆเคยไปอยู่เขมรนานๆ เก่งมากเลย

ผมแบกเป้ไปเขมร เมื่อประมาณ ๓ ปีที่แล้ว เข้าเขมรจากด่านเวียดนาม
ไปอยู่ที่พนมเปญและเสียมราฐหลายวัน

เขมรยังยากจนและในชนบทก็ยังลำบากมาก

ไม่รู้ว่าน้องยุทธรู้สึกเหมือนพี่ไหม ..
พอเข้าไปอยู่ร่วมกับเขาจริง ๆ เราจะรู้ว่าเขาเป็นคนน่ารัก

เขาดูละครจากเมืองไทยทุกเรื่อง ที่ออกอากาศทุกช่อง
เขาฟังภาษาไทยเก่งมาก  พูดได้  สื่อสารได้ในระดับดีทีเดียว ..

บ่ฮู้บ่หัน

แต่น่าเสียดาย  หรือเพราะความไม่ระวังต่อผลกระทบในภาพรวม
เวลาที่ตลกบ้านเราเล่นสนุก 
มักจะพูดว่า "ไอ้เขมร" หรือ "ไอ้ลาว" ไปในเชิง negative
โดยไม่ตระหนักว่า  เขาก็รู้สึกว่าถูกเราดูถูก เหยียดหยาม
และฝังความรู้สึกนั้นเอาไว้ในใจทีละนิด ๆ

เมื่อใดก็ตามที่เกิดระเบิดขึ้นมา  มันก็ยากที่จะแก้ไข
เช่นกรณี .. เผาสถานทูตไทยเมื่อหลายปีก่อน

เคยยกกรณีแบบนี้มาพูดในที่ประชุมด้านความมั่นคงมาแล้วหลายครั้ง
ไม่รู้ว่า  ความเห็นของเราอยู่แค่ในห้องประชุมหรือเปล่า
อยากให้ส่ง message นี้ไปยังกลุ่มนักแสดงทั้งหลายด้วย

บางทีเราเล่นเอาสนุก  เอาขำ  แต่ผลกระทบมันมีมหาศาลต่อประเทศชาติ .. เนอะ

พูดมากไปหน่อย .. คนแก่ขี้บ่น ก็หยั่งงี้แหละ !!!


จริงค่ะพี่หยี  คนไทยส่วนใหญ่ยังมองประเทศเพื่อนบ้านว่าต่ำต้อยกว่าตนเองนิดนึง  เพราะเราหยิ่งและภูมิใจที่ไม่เคยก้มหัวเป็นเมืองขึ้นใคร  และสภาวะการเมืองและเศรษฐกิจก็กำลังรุ่งโรจน์ในขณะนั้น(อย่าถามในขณะนี้) อันนี้จริงเพราะต๋อยทำงานร่วมกับชาวเขมร  ชาวลาวและชาวเวียดนามมาก่อน  เรารู้ cross culture ได้ลึกซึ้งดี  ทำให้เรารู้ดวยว่าเขามองเราว่าเราไม่จริงใจและเหยียดหยามเขาตลอดเวลาโดยเฉพาะคนลาวเป็นมากกว่าชาติอื่น 
      บันทึกการเข้า

Live Your Dream   
I-Love-CU
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705

« ตอบ #133 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2552, 10:42:09 »

ดีครับพี่ต๋อย พี่หะยี

เห็นด้วยครับ คนไทยชอบพูดจาพาดพิงถึงเพื่อนบ้านอย่างลาว เขมร ดูแล้วไม่ค่อยน่ารัก อาจโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม

ที่จริงผมว่าเรามีการกระทบระทั่งกันในด้านการเมืองบ่อยครั้ง แต่ในระดับชาวบ้านด้วยกัน เราก็ยังคบหากันได้อยู่

ผมรู้จักเพื่อนชาวลาว ในต่างประเทศหลายคนที่เคยเรียนจบจากไทย อยากให้เพื่อนบ้านไทย ลาว เขมร มีความเป็นมิตรกันมากกว่า ความแบ่งแยก

สงสัยต้อง lecture วิชา Cross-Cultural Understanding  เหอๆๆ





      บันทึกการเข้า
I-Love-CU
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705

« ตอบ #134 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2552, 10:52:24 »

ผมว่าลาวก็เป็นพี่น้องร่วมบรรพบุรุษเผ่าไทเหมือนกัน และมีความใกล้เคียงกันของภาษามากที่สุด แต่ทว่าลาวกลับสนิทสนมและไว้เนื้อเชื่อใจ เวียดนามมากกว่าไทย  งง งง
      บันทึกการเข้า
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #135 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2552, 12:24:59 »

สวัสดีคุณ Dtoy และ คุณน้องหะยี
               พี่สิงห์เข้าไปเขมรครั้งแรกนั้น กระแสไฟฟ้าในพนมเปญยังไม่มี  ทุกคนต้องปั่นไฟใฃ้เอง  อาคารสถานที่เป็นของรัฐบาลทั้งสิ้น เอกชนยังไมการลงทุน ต้องเช่าจากรัฐบาล  ถนนมีแต่ฝุ่น  พี่สิงห์ไปพบกับรุ่นน้องชาวหอที่เป็นผู้จัดการบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย เขมร ชื่อ จำไม่ได้ตอนนี้ เพื่อจะไปจัดตั้งบริษัท ผลิตเสาไฟฟ้าขายให้เขมร เพราะจำเป็นมาก เขาพาพี่สิงห์ไปทุกที่รอบๆพนมเปญ เพื่อดูว่าชาวบ้านอยู่กันอย่างไร และพี่สิงห์ก็ชอบอยุ่แล้ว  แต่บังเอิญเสาไฟฟ้าล๊อตนั้นเกาหลีประมูลได้ และพี่สิงห์ก็โดนเพื่อนฝูงในเมืองไทยร่วมกับผู้ใหญ่ในปูนซิเมนต์ไทย  ชิงตัดหน้าร่วมจัดตั้งบริษัมร่วมทุนขึ้นมาตัดหน้าพี่สิงห์กับบริษัทปูนซิเมนต์ไทยเขมร จนในท้ายสุดน้องหอที่เป็นผู้จัดการต้องถูกย้ายกลับ  ฐานทำอะไรไม่ปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน  แต่บทสรุป บริษัทที่ตั้งกันท่าพี่สิงห์ก็ล้ม เพราะทำไม่เป็นเหมือนกัน เพราะข้อมูลที่ได้ก็ไปจากพี่สิงห์ทั้งนั้น และสุดท้ายพี่สิงห์ก็ไปเล่าความจริงให้ผู้ใหญ่ปูนซิเมนต์ฟังทั้งหมด จนเต้องดองเรื่องและยกเลิกบริษัทดังกล่าวด้วย

               ปัจจุบันพี่สิงห์มีเพื่อนต่างวัยย์ทำโรงงานผลิตเสาเข็ม-เสาไฟฟ้าที่พนมเปญ  ที่พี่สิงห์ไปออกแบบไว้ให้  ไปสอนวิธีทำไว้ให้  เขามีอะไรก็จะ  mail มาหาพี่สิงห์โดยตรง เขาอยากได้ความรู้จากพี่สิงห์  พี่สิงห์ก็บอกว่า พูดอังกฤษไม่ดี แต่เขาฟังรู้เรื่อง และสามารถสื่อสารกันได้ ปกติพี่สิงห์เมื่อก่อนจะไปพนมเปญทุกปีเป็นอย่างน้อย มากว่าสิบปีแล้วเพื่อไปเยี่ยมและช่วยเหลือ  อาคารรัฐสภาหลังใหม่ของเขมรพี่สิงห์เป็นคนออกแบบเสาเข็มให้เขาเองครับ  เขาจะมองพี่สิงห์เป็นผู้มีรพระคุณที่ไม่เคยหรอกลวงเขา ไม่เคยคิดค่านายหน้า  ไม่เคยเรียกร้องเรื่องเงินต่อเขา และทำให้เขาทุกเรื่องที่ร้องขอ จนเขาเกรงใจ  พี่สิงหืก็ทำด้วยความรักงานที่ทำครับ ปัจจุบันเขาขยายงานมีสองโรงงาน และทำศูนย์การค้าที่เสียมเรียบ เมื่อคราวที่แล้วเขาให้พี่สิงห์ไปตีกอล์ฟและไปเที่ยวที่อังกอร์วัด ครับ และเขาอยากจะให้พี่สิงห์ไปเป็นแขกในการเปิดศูนย์การค้า และตีกอล์ฟที่สนามนครวัดคันทรีคลับ แต่บังเอิญเศรษฐกิจไม่ดีเลยเลื่อนไปก่อนครับ  ขอบคุณที่ติดตาม แล้วจะเล่าให้ฟังอีก
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #136 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2552, 19:39:58 »

น้องหะยีเปิดกระทู้ เขมรหน่อยเล่าได้ดีจัง
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #137 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2552, 19:48:28 »

ไดอ่านแล้วดีมากๆครับ
ผมเห้นด้วยที่ละครไทยบางเรื่อง พูดในทำนอง negative
เห้ออ
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #138 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2552, 21:11:50 »

ตาหลกอ่ะตัวดี ชอบดูถูกทางเชื้อชาติ
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #139 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2552, 23:59:36 »

อ้างถึง
ข้อความของ I-Love-CU เมื่อ 09 พฤษภาคม 2552, 10:42:09
ดีครับพี่ต๋อย พี่หะยี

เห็นด้วยครับ คนไทยชอบพูดจาพาดพิงถึงเพื่อนบ้านอย่างลาว เขมร ดูแล้วไม่ค่อยน่ารัก อาจโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม

ที่จริงผมว่าเรามีการกระทบระทั่งกันในด้านการเมืองบ่อยครั้ง แต่ในระดับชาวบ้านด้วยกัน เราก็ยังคบหากันได้อยู่

ผมรู้จักเพื่อนชาวลาว ในต่างประเทศหลายคนที่เคยเรียนจบจากไทย อยากให้เพื่อนบ้านไทย ลาว เขมร มีความเป็นมิตรกันมากกว่า ความแบ่งแยก

สงสัยต้อง lecture วิชา Cross-Cultural Understanding  เหอๆๆ


สอนให้ใครล่ะคะ น้องยุทธ
สอนให้บรรดานักแสดงตลกเหรอ .. วังเวงอ่ะ
   

smoke
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
โจ้2543
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 159

« ตอบ #140 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2552, 17:58:09 »

แอบอ่านมาตั้งนาน

แวะมา Comment ว่าชอบที่น้องสนเขียนมากครับ
      บันทึกการเข้า

ยามศึกข้ารบ จบศึกข้ารัก
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #141 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 20:47:31 »

ตอนนี้เรื่องเขมรกำลังสนุกที่  กระทู้เมียงู
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
พศินน์
Full Member
**

ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2535
คณะ: วิศวฯ
กระทู้: 511

« ตอบ #142 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 12:39:13 »

บักสน อยู่ไหน กลับมาขายผ้าไหม ต่อ........
      บันทึกการเข้า

sound mind in sound body
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #143 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 13:05:58 »

อ้างถึง
ข้อความของ พศินน์ เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552, 12:39:13
บักสน อยู่ไหน กลับมาขายผ้าไหม ต่อ........

คุณพี่ที่รักขอรับ
บักสนไม่ได้มาขายผ้าไหม อ้ากกกก
มาเล่าเรื่องอีสานใต้ต่างหากค้าบบ

ปล. เด่วมาอัพเพิ่มคับผม
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #144 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 16:12:08 »

เงียบหายไปหลายนาน.......ว่าจะทักท้วงทวงถามอยู่เหมือนกัน.

เอ้า.....เล่าเรื่องอีสานใต้ต่อเร็วๆ.......จะรอฟัง
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #145 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 16:42:30 »

ช่วงนี้งานรมเร้าครับ
เป็นพี่สตาฟห้องเชียร์ มีประชุมแปลกๆ
นัดประชุมปัจจุบันทันด่วนก็มี
เลยหาเนื้อหามาไม่ทันคับ
      บันทึกการเข้า
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #146 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 23:24:14 »

อ้างถึง
ข้อความของ phraisohn เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552, 16:42:30
ช่วงนี้งานรมเร้าครับ
เป็นพี่สตาฟห้องเชียร์ มีประชุมแปลกๆ
นัดประชุมปัจจุบันทันด่วนก็มี
เลยหาเนื้อหามาไม่ทันคับ



เหอๆๆ

"งานรมเร้า"

ขนาดนี้เลยหรือครับ  น้องบักสน
เร้าโลมงานให้เสร็จ
แล้วหาเวลามาต่อ
พี่ ๆ อยากอ่านแล้วครับ

ศุกร์นี้
อย่าลืมไปตามนัดด้วยล่ะ


 งง งง
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #147 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 23:41:55 »

อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552, 23:24:14
อ้างถึง
ข้อความของ phraisohn เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552, 16:42:30
ช่วงนี้งานรมเร้าครับ
เป็นพี่สตาฟห้องเชียร์ มีประชุมแปลกๆ
นัดประชุมปัจจุบันทันด่วนก็มี
เลยหาเนื้อหามาไม่ทันคับ



เหอๆๆ

"งานรมเร้า"

ขนาดนี้เลยหรือครับ  น้องบักสน
เร้าโลมงานให้เสร็จ
แล้วหาเวลามาต่อ
พี่ ๆ อยากอ่านแล้วครับ

ศุกร์นี้
อย่าลืมไปตามนัดด้วยล่ะ


 งง งง

ค้าบผม :)
รุมเร้าจริงๆครับ หาเวลาไป เล้าโลมไม่มีเลย
เห้ออ เอิ้กๆๆๆ
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #148 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2552, 20:21:18 »

งานโลมเร้านี่ไม่ให้พี่หนุนทำ  พี่หนุนถนัดนะ
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #149 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2552, 14:11:34 »

ต้นตาล 9 ยอด กับเมืองขุขันธ์ ศรีสะเกษ

ปกติพืชตระกูลปาล์ม เช่น มะพร้าว ตาล ก็จะมีเพียงยอดเดียว แต่ก็เคยเห็นมะพร้าว 2 ยอด ก็อะเมซซิ่งมากพออยู่แล้ว

แต่ที่ขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ กลับเคยมีต้นตาลที่มียอดถึง 9 ยอด และมีอายุอยู่คู่กับเจ้าเมืองถึง 9 คน


“ต้นตาล ๙ ยอด ๙ พระยาแห่งเมืองขุขันธ์”



ต้นตาล ๙ ยอด เป็นต้นตาลที่มีความแปลกเพราะลำต้นเดียว แต่แตกแขนงลำต้นออกเป็น ๙ แขนง ๙ ยอด เคยมีชีวิตและตั้งต้นตระหง่านมาตั้งแต่กำเนิดเมืองขุขันธ์ ณ หมู่บ้านตาดม หมู่ที่ ๘ ตำบลห้วยใต้
อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษได้ล้มตายลงเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๙ ปัจจุบันยังคงเหลือแต่เพียงร่องรอยภาพถ่ายแห่งอดีตมาถึงปัจจุบัน
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 12  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><