|
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562
|
|
« ตอบ #1526 เมื่อ: 09 มีนาคม 2555, 12:49:00 » |
|
สวัสดีค่ะ น้องตี๋ คุยเรื่องต้นไม้นิดหนึง ตอนน้ำท่วม ต้นไม้ที่บ้านตายหมด แต่มีต้นโมกค่ะ อยุ่ ทั้งในกระถาง และลงดิน อึดมากแช่น้ำ อยู่ 2เดือน ไม่ตายสักต้น โมกทนน้ำท่วมได้จริง ค่ะ หากใครบ้านใกล้น้ำ โมกน่าสนใจนะคะ
|
|
|
|
ti2521
|
|
« ตอบ #1527 เมื่อ: 09 มีนาคม 2555, 14:23:27 » |
|
.....สวัสดีครับ น้องยา
ปลูกต้นไม้นี่เอาแบบเพลินๆทำให้ชีวิตเรามีความสุขชื่นใจพี่คิดว่ายังงั้นครับ
ยังไงก็เป็นความสุขที่ซึมซับได้โดยตรงครับถึงแม้อาจจะไม่รู้สายพันธ์ุที่มาต่างๆ
ส่วนพี่ก็รู้พื้นๆด้วยมีโอกาสใกล้ชิดในชีวิตประจำวันครับ(อยู่บ้านนอก๕๕๕)หลายๆชนิดยังไม่รู้จักชื่อเลยครับ๕๕๕
วันก่อนได้คุยกับพี่หมอเต่า(สามีพี่เล็กเภสัช๑๖)
ได้ข้อคิดส่วนตัวกับพี่เต่าว่า นอกจากมีไม้ดอกแล้ว ควรปลูกไม้(แด_)<<<อันนี้พี่เต่าพูดแบบฮามาก>>> ด้วยครับ๕๕๕
เช่นผักพื้นๆ อย่าง ถั่วฝักยาว พี่เต่าจะไม่ซื้อมารับประทานเลยกลัวพวกยาฆ่าแมลง เพิ่งทานจากแปลงบ้านพี่อ่ะครับ.....
|
เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ สำหรับผม อย่างไรก็ได้
|
|
|
ti2521
|
|
« ตอบ #1528 เมื่อ: 09 มีนาคม 2555, 14:24:44 » |
|
.....เฮียหนุน ฮาประจำ๕๕๕.....
|
เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ สำหรับผม อย่างไรก็ได้
|
|
|
ti2521
|
|
« ตอบ #1529 เมื่อ: 09 มีนาคม 2555, 14:36:00 » |
|
.....สวัสดีครับพี่อร วิกฤติเป็นโอกาสได้รู้ถึงความอึดของไม้มงคลอย่าง ต้นโมก ครับ..... ชื่อสามัญ Moke
ชื่อวิทยาศาสตร์ Wrightia religiosa.
วงศ์ APOCYNACEAE
ชื่ออื่น โมกหลวง
ลักษณะทั่วไป โมกเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง พบตามเรือกสวนไร่นาและตามป่าเบญจพรรณทั่วๆ ไป ลำต้นมีความสูงประมาณ 5–12 เมตร ผิวเปลือกมีสีน้ำตาลดำ ลำต้นกลมเรียบมีจุดเล็กๆ สีขาวประทั่วต้น แตกกิ่งก้านสาขารอบลำต้นไม่เป็นระเบียบ ใบเป็นใบเดียวออกเรียงกันเป็นคู่ตามก้านใบ มีขนาดเล็กรูปไข่ ปลายใบมนแหลม โคนใบแหลม คล้ายใบแก้ว เนื้อใบบางสีเขียว ออกดอกตามซอกใบเป็นช่อๆ ละ 3-5 ดอก โดยจะคว่ำหน้าลงสู่พื้นดิน มีทั้งดอกชั้นเดียว และดอกซ้อน ดอกสีขาว กลิ่นหอม ดอกบานเต็มที่มีขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร ออกดอกตลอดปี ฝักออกเป็นคู่มีขนาดเล็กยาวคล้ายฝักถั่วเขียวยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ลักษณะโค้งงอเข้าหากัน ภายในมีเมล็ดเรียงอยู่เป็นจำนวนมาก
การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด การตอน การปักชำ หรือจะขุดล้อมจากธรรมชาติมาปลูกเลี้ยงก็ได้ วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือการเพาะเมล็ด และการปักชำ
การปลูก
หากปลูกลงดิน ขนาดหลุมปลูก 30x30x30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก:ดินร่วน อัตรา 1:2 ผสมดินปลูก
หากปลูกในกระถาง ใช้กระถางทรงสูงขนาด 12–18 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก:ขุย มะพร้าว:ดินร่วน อัตรา 1:1:1 ผสมดินปลูก ควรเปลี่ยนกระถางบ้างแล้วแต่ขนาดของการเจริญเติบโต และเพื่อเปลี่ยนดินใหม่ทดแทนดินเดิม
การดูแลรักษา
แสง ต้องการแสงแดดปานกลาง จนถึงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
น้ำ ต้องการน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 5–7 วัน/ครั้ง
ดิน ดินร่วนซุย ความชื้นปานกลาง
ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1–2 กิโลกรัมต่อต้น ใส่ปีละ 4–6 ครั้ง
โมก เป็นพันธุ์ไม้อีกชนิดหนึ่งที่เหมาะสมสำหรับการทำไม้ดัด เนื่องจากมีทรงต้นที่สวยงาม และมีอายุยืนนาน ขอขอบคุณ http://school.obec.go.th/naphopittayakhom/web/linkthree/mok.htm
|
เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ สำหรับผม อย่างไรก็ได้
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1530 เมื่อ: 09 มีนาคม 2555, 16:26:43 » |
|
สวัสดียามเย็นครับ... พี่ตี๋..พี่อร..พี่ทราย..พี่หนุน..น้องยา และพี่น้องทุกท่าน
มารับความรู้เรื่องต้นโมกด้วยคน....
ขอบคุณครับ
|
|
|
|
ทราย 16
|
|
« ตอบ #1531 เมื่อ: 09 มีนาคม 2555, 19:32:14 » |
|
|
|
|
|
Pete15
|
|
« ตอบ #1532 เมื่อ: 09 มีนาคม 2555, 19:51:10 » |
|
ขอบคุณ ครับ น้องตี๋ ที่ ofice เช่ามี ครับ แต่ไม่ เคย ศึกษา ออกดอก ทั้งปี หอมเย็นเวลากลางคืน ใครอยู่ กทม.อยากได้บอก ชำง่าย ผลิตได้เรื่อยๆ บอก ครับ จะเตรียมไว้ให้ .....(ได้ความรู้จากน้องตี๋ )
|
|
|
|
ภาณุ ปาตานี
|
|
« ตอบ #1533 เมื่อ: 09 มีนาคม 2555, 21:32:08 » |
|
ผมให้น้ำวันละ 2 ครั้ง แบบชุ่มสุดๆ แต่มันก็โตเร็วมากเลยครับพี่ตี๋
|
|
|
|
ti2521
|
|
« ตอบ #1534 เมื่อ: 10 มีนาคม 2555, 00:09:08 » |
|
.....ใช่ครับน้องยาพี่ก็ให้สุดๆแบบชุ่มเลย แต่หลังจากอดให้เค้าแห้งทิ้งใบ แบบแตกใบใหม่แทงช่อดอกขาวตรึม ช่วงเย็นกลิ่นหอมนวลครับ.....
|
เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ สำหรับผม อย่างไรก็ได้
|
|
|
ti2521
|
|
« ตอบ #1535 เมื่อ: 10 มีนาคม 2555, 15:56:39 » |
|
.....บุนนาค..... ชื่อสมุนไพร บุนนาค ปัจจุบัน บุนนาคเป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดพิจิตร และมหาวิทยาลัยพายัพเชียงใหม่
ชื่ออื่นๆ สารภีดอย (เชียงใหม่) นากบุต (ใต้) ก๊าก่อ ก้ำก่อ (แม่ฮ่องสอน) ปะนาคอ (ปัตตานี)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Mesua ferrea Linn.
ชื่อวงศ์ Guttiferae ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้ยืนต้น ไม่ผลัดใบ ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นเปลา สูงได้ถึง 30 เมตร เรือนยอดทึบ และแคบ ทรงพุ่มใหญ่เป็นรูปเจดีย์ต่ำๆ มีพูพอนเล็กน้อยตามโคนต้น กิ่งก้านเรียวเล็กห้อยลง เปลือกต้นสีน้ำตาลเข้ม มีรอยแตกตื้นๆ หลุดร่วงง่าย เปลือกชั้นในมีน้ำยางสีเหลืองอ่อนเล็กน้อย เนื้อไม้สีแดงคล้ำ เป็นมันเลื่อม ใบอ่อนสีชมพูแดง ห้อยลงเป็นพู่ จะออกพร้อมกันทั้งต้นในช่วงไม่กี่วันในแต่ละปี ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้าม มีขนาดกว้าง 1.2-4 เซนติเมตร ยาว 5-13 เซนติเมตร รูปร่างมนรีแคบ หรือรูปหอกสอบเข้าหากันทั้ง 2 ด้าน ใบแก่ด้านบนเขียวเข้ม ด้านล่างมีนวลสีเทา เส้นใบข้างมีมากมาย แต่เห็นไม่ชัด ก้านใบยาว 0.8-1.2 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบ เนื้อใบหนา ขอบใบเรียบ ดอกเดี่ยว หรือเป็นคู่ที่ซอกใบ หรือปลายกิ่ง ดอกบานเต็มที่ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 5-10 เซนติเมตร กลีบดอกสีขาว มี 5 กลีบ ซ้อนกัน รูปไข่กลับกว้าง ปลายบานและเว้า โคนสอบ เมื่อบานเต็มที่กลีบจะแผ่กว้างออก มีกลิ่นหอมเย็น ส่งกลิ่นหอมไปได้ไกล ดอกสมบูรณ์เพศ ดอกห้อยลง ก้านดอกมีความยาวน้อยกว่า 1 เซนติเมตร เกสรตัวผู้มากกว่า 50 อัน สีเหลืองส้ม เป็นฝอย อับเรณูสีส้ม ก้านเกสรตัวเมียสีขาวยาว รังไข่มี 2 ช่อง กลีบเลี้ยง 4 กลีบ รูปช้อน งอเป็นกระพุ้ง แยกเป็น 2 วง ลักษณะกลม กลีบเลี้ยงแข็งและหนา และอยู่คงทนจนกระทั่งเป็นผลก็ยังคงติดอยู่ที่ผล ผลสด รูปไข่ แข็งมาก ปลายโค้งแหลม ปลายไม่แตก ที่ผิวผลมีรอยด่างสีน้ำตาล ผลรูปไข่ แข็ง มีขนาดกว้าง 2.5-3.5 เซนติเมตร ยาว 4 เซนติเมตร สีส้มแก่ หรือสีม่วงน้ำตาล มีเปลือกเป็นเส้นใยแข็งห้อหุ้ม และมีหยดของยางเหนียว ที่ฐานมีกลีบเลี้ยงหนารองรับ 4 กลีบ ติดอยู่ และขยายโตขึ้นเป็นกาบหุ้มผล เมล็ดแบน แข็งมี 1-4 เมล็ด สีน้ำตาลเข้ม พบตามป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ยอดอ่อนใช้เป็นผักจิ้มได้ มีรสเปรี้ยวอมฝาด สรรพคุณ ตำรายาไทย ใช้ ดอก มีกลิ่นหอมเย็น รสขมเล็กน้อย เป็นยาฝาดสมาน บำรุงธาตุ และขับลม แก้ลมกองละเอียด วิงเวียน หน้ามืดตาลาย ใจสั่น ชูกำลัง บำรุงโลหิต บำรุงหัวใจให้แช่มชื่น แก้ร้อนในกระสับกระส่าย รักษาอาการร้อนอ่อนเพลีย แก้กลิ่นสาบในร่างกาย นำเกสรมาเข้าเครื่องยาไทยในพิกัดเกสรทั้งห้า (ดอกมะลิ ดอกพิกุล ดอกบุนนาค ดอกสารภี และเกสรบัวหลวง) เกสรทั้งเจ็ด (มีดอกจำปาและดอกกระดังงาเพิ่มเข้ามา) และเกสรทั้งเก้า (มีดอกลำดวน และดอกลำเจียกเพิ่มเข้ามา) มีสรรพคุณ บำรุงหัวใจ บำรุงดวงจิตให้ชุ่มชื่น ทำให้ชื่นใจ แก้ลมกองละเอียด วิงเวียน หน้ามืด ตาลาย บำรุงครรภ์ แก้ร้อนในกระสับกระส่าย มีกลิ่นหอมใช้อบเครื่องหอม ใช้แต่งกลิ่น เข้าเครื่องยาเป็นยาฝาดสมาน บำรุงธาตุ แก้ไอ แก้ไข้ ขับเสมหะ แก้ร้อนใน ดับกระหาย บำรุงโลหิต หรือบดให้เป็นผงผสมกับเนยเหลว เป็นยาพอกแก้ริดสีดวงทวาร น้ำมันหอมระเหยจากดอก มีสาร mesuol และ mesuone มีฤทธิ์เหมือนยาปฏิชีวนะ คือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เกสร รสหอมเย็น เข้ายาหอม มีฤทธิ์ฝาดสมาน บำรุงธาตุ ขับลม บำรุงครรภรักษา ทำให้หัวใจชุ่มชื่น ชื่นใจ แก้ไข้ ผล ขับเหงื่อ ฝาดสมาน กินเป็นยากระตุ้นการทำงานของร่างกาย แก้น้ำเหลืองเสีย และแก้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ เมล็ด น้ำมันจากเมล็ดมีฤทธิ์ปฏิชีวนะคือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ใช้เมล็ดตำใส่บาดแผล น้ำมันจากเมล็ดรักษาโรคปวดตามข้อ และใช้ทารักษาโรคผิวหนัง ใบ รสฝาด รักษาบาดแผลสด พอกบาดแผลสด แก้พิษงู ตำเป็นยาพอกโดยรวมกับน้ำนมและน้ำมันมะพร้าวใช้สุมหัวแก้ไข้หวัดอย่างแรง รักษาเสมหะในคอ แก่น รสเฝื่อน แก้เลือดออกตามไรฟัน ราก รสเฝื่อน ขับลมในลำไส้ เปลือกต้น รสฝาดร้อนเล็กน้อย ฟอกน้ำเหลือง กระจายหนอง เปลือกให้ยางมาก เป็นยาฝาดสมาน มีกลิ่นหอมเล็กน้อย ต้มรวมกับขิงกินเป็นยาขับเหงื่อ กระพี้ รสเฝื่อนเล็กน้อย แก้เสมหะในคอ เนื้อไม้ แก้ลักปิดลักเปิด เมล็ด ให้น้ำมันเป็นยาทาถูนวดแก้ปวดข้อ ทาแก้บาดแผลเล็กๆน้อยๆแก้ผื่น คัน และแก้หิด กรดที่พบในน้ำมันมีพิษต่อหัวใจ ในประเทศอินเดียและพม่า ใช้ ใบ แก้พิษงู ในพระไตรปิฎก ฉบับธรรมทาน หัวข้อ ‘ปุนนาคปุปผิยเถราปทาน’ ได้กล่าวถึง ผลแห่งการถวาย ‘ดอกบุนนาค’ บูชาของพระปุนนาคปุปผิยเถระ ไว้ว่า
“เราเป็นพรานเข้าไป (หยั่งลง) ยังป่าใหญ่ เราได้พบต้นบุนนาคมีดอกบาน จึงระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ได้เลือกเก็บดอกบุนนาคนั้น เอาแต่ที่มีกลิ่นหอมสวยงาม แล้วก่อสถูปบนเนินทรายบูชาแด่พระพุทธเจ้าในกัลปที่ 92 แต่กัลปนี้ เราได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วยดอกไม้ใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา ในกัลปที่ 91 แต่กัลปนี้ ได้มีพระเจ้าจักรพรรดิพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า ตโมนุทะ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ มีพลมาก คุณวิเศษเหล่านี้ คือปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และอภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้”
และในหัวข้อ ‘คิริปุนนาคิยเถราปทาน’ ได้กล่าวถึง ผลแห่งการถวาย ‘ดอกบุนนาค’ บูชาของพระคิริปุนนาคิยเถระ ไว้ว่า
“ครั้งนั้น พระสัมพุทธเจ้าพระนามว่าโสภิตะ ประทับอยู่ที่ภูเขาจิตตกูฏ เราได้ถือเอาดอกบุนนาคเข้ามาบูชาพระสยัมภูในกัลปที่ 94 แต่กัลปนี้เราได้บูชาพระสัมพุทธเจ้า ด้วยการบูชานั้นเราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้”
การเป็นมงคล คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นบุนนาคไว้ประจำบ้านจะทำให้เป็นผู้มีความประเสริฐและมีบุญ เพราะบุนนาคคือผู้มีบุญผู้ประเสริฐ และยังเชื่ออีกว่ายังสามารถป้องกันภัยอันตรายจากภายนอกได้อีกด้วย เพราะใบของบุนนาคสามารถรักษาพิษสัตว์ต่างๆ ได้ เช่น พิษงู นอกจากนี้แล้ว นาคยังหมายถึงพญานาค ซึ่งเป็นพญาสัตว์ชนิดหนึ่งในสมัยพุทธกาล ที่มีแสนยานุภาพในอันที่จะปกป้องและคุ้มครองพิษภัยได้ ทั่วโลกยกย่อง บุนนาคว่าเป็นต้นไม้ที่สวยงามทั้งรูปทรงมีดอกหอม ในประเทศลังกา หรือชะวา ใช้ต้นบุนนาคปลูกเป็นไม้ประดับตามถนนในเมือง และนิยมปลูกกันในบริเวณวัดใกล้โบสถ์ ในเมืองไทยเราปลูกกันตามบ้านสวน อินเดียถือว่าหนึ่งในศรกามเทพทำด้วยไม้ต้นบุนนาค ในการมงคลสมรสของชาวอินเดียนั้นก็ต้องมีดอกบุนนาครวมอยู่ด้วย โดยชาวอินเดียจะยัดดอกบุนนาคแห้งไว้ในหมอนวิวาห์ เพื่อเป็นมงคลและให้เกิดความรักสดชื่นแก่คู่สมรสนั้นสืบไป ตำแหน่งที่ปลูก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัยควรปลูกต้นบุนนาคไว้ทางทิศตะวันตก ผู้ปลูกควรปลูกในวันเสาร์เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาคุณทั่วไปให้ปลูกในวันเสาร์ขอขอบคุณ http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=67 http://one.krajibkhao.com/mypage-diary-each.php?id=3 http://www.maipradabonline.com/maimongkol/boonnak.htm http://www.travelthaimagazine.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=400677&Ntype=31
|
เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ สำหรับผม อย่างไรก็ได้
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1536 เมื่อ: 10 มีนาคม 2555, 18:32:30 » |
|
สวัสดียามเย็นครับ... พี่ตี๋..พี่อร..พี่ทราย..พี่หนุน..น้องยา และพี่น้องทุกท่าน
ขอบคุณครับ.. พี่ตี๋
บุนนาค ชื่อไทยๆแต่ไม่ค่อยคุ้นเลยครับ
อ่านจบแล้วกลับคิดถึงเพื่อนคนหนึ่ง... ผ่อง - พัชรพรรณ บุนนาค
|
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1538 เมื่อ: 10 มีนาคม 2555, 18:56:26 » |
|
|
|
|
|
ทราย 16
|
|
« ตอบ #1539 เมื่อ: 10 มีนาคม 2555, 20:47:15 » |
|
เคยดมกลิ่นดอกบุนนาค กลิ่นมันหอมหวานๆ เอ๊ะ! ทำไมลิ้นมันไปยุ่งกะงานของจมูกได้ไง?
|
|
|
|
ภาณุ ปาตานี
|
|
« ตอบ #1540 เมื่อ: 10 มีนาคม 2555, 20:56:56 » |
|
ขอบคุณครับพี่ตี๋สำหรับข้อมูล
|
|
|
|
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์
รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842
|
|
« ตอบ #1541 เมื่อ: 10 มีนาคม 2555, 23:00:34 » |
|
|
เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
|
|
|
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #1542 เมื่อ: 10 มีนาคม 2555, 23:32:03 » |
|
ไปอีกแล้วเหรอ .. ข้าวซอยและหมูสะเต๊ะร้านนี้อร่อยมาก
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
Pete15
|
|
« ตอบ #1543 เมื่อ: 11 มีนาคม 2555, 01:26:39 » |
|
มันเป็นสัญญาเก่า....ระลึกได้ หมายรู้ ครับ น้องทราย
|
|
|
|
ทราย 16
|
|
« ตอบ #1544 เมื่อ: 11 มีนาคม 2555, 08:49:46 » |
|
โห ... พี่ปี๊ดนี่ ทะลุ ... เอ๊ยย บรรลุธรรมแล้ว ...
|
|
|
|
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์
คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927
|
|
« ตอบ #1545 เมื่อ: 11 มีนาคม 2555, 09:57:09 » |
|
|
“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้ อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
|
|
|
too_ploenpit
|
|
« ตอบ #1546 เมื่อ: 11 มีนาคม 2555, 11:27:18 » |
|
...ขอบคุณน้องตี๋เรื่องต้นโมกค่ะ...
...ดอกมันหอมดีค่ะ...เคยปลูกแล้วและตายไปแล้ว...
...มันตายเพราะไม่ค่อยได้รดน้ำมันค่ะ...
|
i love pink, you are pink = i love you
|
|
|
ti2521
|
|
« ตอบ #1547 เมื่อ: 11 มีนาคม 2555, 11:37:38 » |
|
.....สวัสดีครับ พี่ตู่ หากไม่ค่อยมีเวลา พี่ตู่ลองติดสริงเกอร์+ไทม์เมอร์ ต้นไม้จะได้น้ำตามเวลาที่กำหนด ไม่เหนื่อยหรือกังวลเรื่องมันจะตายเพราะไม่ได้รดน้ำครับ.....
|
เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ สำหรับผม อย่างไรก็ได้
|
|
|
ti2521
|
|
« ตอบ #1548 เมื่อ: 11 มีนาคม 2555, 11:48:27 » |
|
.....ได้ครับเฮียหนุน ร้านนี้ชื่อ แม่คำแสน เคยไปกินตอน ซีมะโด่งสัญจรลำปาง แพร่ น่าน น่าจะปี ๔๙ ครับ.....
|
เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ สำหรับผม อย่างไรก็ได้
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1549 เมื่อ: 11 มีนาคม 2555, 12:02:20 » |
|
สวัสดียามเที่ยงครับ... พี่ตี๋..พี่ตู่..พี่ปี๊ด..พี่อร..พี่ทราย..พี่หนุน..น้องหยี..น้องป๋าทู..น้องยา และพี่น้องทุกท่าน
|
|
|
|
|