too_ploenpit
|
|
« ตอบ #1325 เมื่อ: 18 เมษายน 2554, 08:11:07 » |
|
...ขอบคุณค่ะ...น้องจุ๊ง...
...เคยได้ยินค่ะ...แต่นานม๊ากกกกก...เลยดูเป็นเพลงแปลกค่ะ...เพราะไม่ค่อยจะมีใครเอามาร้องค่ะ...
...ทำนองเพราะดีค่ะ...
|
i love pink, you are pink = i love you
|
|
|
ตั้ม วิดยา25
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
รุ่น: RCU2525
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 18
|
|
« ตอบ #1326 เมื่อ: 18 เมษายน 2554, 16:47:10 » |
|
ทุกวันนี้ตั้มก็อยู่กับคนที่มีผีเข้าสิง 4 ตัว ผลัดกันออกมาคุยด้วย สอนกันตั้งแต่ไม่รู้บาปบุญคุณโทษ จนทุกวันนี้ถือไตรสรณคมณ์ และรักษาศีล5ได้เคร่งครัด มีเรื่องเล่าเยอะ เรื่องภพภูมิและอดีตก่อนตาย รวมทั้งชีวิตหลังความตาย ก่อนจะมาอาศัยร่างคนเพื่อสร้างบุญ
|
คิดถึงเพื่อนๆพี่ๆ น้องๆซีมะโด่ง
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1327 เมื่อ: 18 เมษายน 2554, 18:39:16 » |
|
น่าสนใจใคร่รู้ ....... พอจะเล่าต่อได้ไหมครับ น้องตั้ม.
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1328 เมื่อ: 18 เมษายน 2554, 18:47:52 » |
|
เหมือนไม่ได้ตอบเลย อ่ะครับ... พี่ตู่ที่เคารพ
|
|
|
|
too_ploenpit
|
|
« ตอบ #1329 เมื่อ: 18 เมษายน 2554, 20:12:20 » |
|
...มีด้วยเหรอคะ...ใครอยากรู้ด้วยค่ะ...
...น้องตั้มมาเล่าด้วยนะคะ...
|
i love pink, you are pink = i love you
|
|
|
too_ploenpit
|
|
« ตอบ #1330 เมื่อ: 18 เมษายน 2554, 20:29:17 » |
|
...น้องแหลมคะ...พี่ตู่วิเคาะห์ดูแล้ว...ที่พี่ตู่กลัวผี...อาจจะเป็นเพราะว่าถูกแม่หลอกมาตั้งแต่เด็กๆค่ะ...
...เริ่มจาก...ขู่ว่าตุ๊กแกจะมากินตับ...เพื่อไม่ให้เราดื้อ...
...บางครั้งแม่เล่าเรื่องผีให้ฟัง...กระดานระเบียงบ้านสมัยก่อนจะมีร่องใช่มั้ยคะ...
...เค้าก็จะใช้ให้คนอื่นแกล้งแยงไม้ก้านมะยมขึ้นมา...เพื่อหลอกเราว่าผีแยงขึ้นมา...ทำให้เรากลัวค่ะ...
...หรือมีอยู่ครั้งนึงค่ะที่ต้องไปเป็นเพื่อนแม่ดูหนังผี...นางแมวผี...สมัยก่อนเข้าที่เฉลิมกรุง...
...แม่อุตส่าห์พาเรานั่งรถเมล์จากดอนเมือง...ต่อด้วยรถราง...เพื่อมาดูหนังผี...
...จำได้ว่าร้องไห้จะไม่ยอมดู...แต่ถูกบังคับ...จะไม่ดูก็ไม่ได้...จำได้ว่าปิดหน้าทั้งเรื่อง...ทรมานมาก...
...ครั้งนึงไปเผาศพยายที่บ้านนอก...ไม่ได้มีเมรุอย่างสมัยนี้...แต่เป็นเชิงตะกอน...
...ต้องหามศพเข้าไปในป่า...ได้เห็นพิธีอย่างละเอียดเกี่ยวกับศพโดยได้ยืนดูอย่างใกล้ๆ...เลยทำให้ภาพติดตา...
...เท่าที่นึกได้ค่ะ...
|
i love pink, you are pink = i love you
|
|
|
pusadee sitthiphong
|
|
« ตอบ #1331 เมื่อ: 18 เมษายน 2554, 21:05:45 » |
|
ไม่รู้เหมือนกันค่ะ คงเพราะไม่รู้นี่แหละ เลยจินตนาการไปใหญ่ ยิ่งมืดๆมองอะไรไม่เห็นอีก บรื๊อออออออออ
|
pom shi 2516
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1332 เมื่อ: 19 เมษายน 2554, 23:38:58 » |
|
สวัสดียามดึกครับ.......พี่ตู่..พี่ป้อม..พี่อ้อย..พี่หนุน..ท่านจุ๊ง..น้องตั้ม และพี่น้องทุกท่าน
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1333 เมื่อ: 20 เมษายน 2554, 00:24:49 » |
|
พี่ตู่ กลัวเพราะ ........ มีความหลังฝังใจ พี่ป้อม กลัวเพราะ .... ความไม่รู้, จินตนาการหลอกตน
ฟังพระพยอมมั่งดีกว่าครับ......
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1334 เมื่อ: 20 เมษายน 2554, 00:26:46 » |
|
ทำไมคนถึงกลัวผี... โดย พระพยอม
อาตมามานั่งคิดว่า… เอ…ทำไมคนถึงกลัวผี…
ที่จริง…เราไม่ได้กลัวผี…แต่เรากลัวตาย… กลัวว่า…ถ้าเราเจอผี…ผีจะมาบีบคอเรา…ตาย…
ทำไมคนถึงกลัวตาย…?
เพราะกลัวว่า…ความสุขที่มี…จะหมดไป… ตอนนี้…เรากำลังมีความสุข…กำลังสนุก… ถ้าตาย…เราจะหมดความสุข…
สรุปแล้ว… จริง ๆ… เราไม่ได้กลัวผี…แต่เรากลัวตาย… จริง ๆ แล้ว…เราไม่ได้กลัวตาย… แต่เรากลัวความสุขจะหมดไป…เมื่อเราตาย…
แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่า… หลังจากตายแล้ว…เราจะมีชีวิตที่มีความสุขเพิ่มขึ้น… เราจะกลัวตายไหม…? ไม่กลัว…
ปัจจุบันนี้มีคนที่ไม่กลัวตายไหม….? มีเยอะ…
|
|
|
|
จุ๊ง2522
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 781
|
|
« ตอบ #1335 เมื่อ: 20 เมษายน 2554, 16:55:42 » |
|
หวัดดีครับทุกท่าน
พูดถึงว่าทำไมคนถึงกลัวผี ผมว่าเป็นสัญชาตญาณสากลของคนทั้งโลกนะครับ คนเรากลัวในสิ่งที่เราไม่รู้และลี้ลับ ในสิ่งที่เราไม่รู้จะไปต่อต้านกับมันได้ยังไง มีความรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยเลยกลัวไงล่ะครับ ลองมีตำราปราบผีได้แบบพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์มาซิครับ ผมจะรับอาสาปราบผีให้ดู
|
|
|
|
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์
รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842
|
|
« ตอบ #1336 เมื่อ: 20 เมษายน 2554, 17:07:18 » |
|
วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7447 ข่าวสดรายวัน
พบกันที่อ่างทอง
คอลัมน์ ขนหัวลุก ใบหนาด
"ปุยฝ้าย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากตลาดวิเศษชัยชาญ
บ้านเดิมดิฉันอยู่วิเศษชัยชาญ อ่างทอง แต่ พ่อแม่อพยพมาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ดิฉันยังเด็กมาก นานๆ ถึงจะกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดสักครั้ง เมื่อราว 5-6 ปีก่อนมีญาติผู้ใหญ่เสียชีวิตด้วยโรคชรา แม่ก็พาดิฉันไปงานศพ ต้องค้างก่อนวันเผา 1 คืน
และที่นั่นเอง ดิฉันได้ประสบกับเรื่องขนหัวลุกเข้าอย่างจังเลยค่ะ!
เราไปกันสองคนแม่ลูก คิดว่าจะอยู่จนเผาศพเสร็จ ก็ นั่งรถทัวร์กลับ ได้อาศัยพักกับบ้านป้าเฮียงในตลาด..ความจริงคือห้องแถวไม้เก่าๆ ทำการค้าขายกันทุกห้อง นานๆ ไปเห็นทีก็ทำให้ตื่นตาตื่นใจไม่น้อย
มีทั้งร้านขายทองฝีมือโบราณ นักท่องเที่ยวแวะชมกันหนาตา พอเดินเข้าไปหน่อยก็มีร้านขนมชื่อเสียงโด่งดังคือ "ขนมถังแตก" นอกนั้นก็มีอาหารสดอย่างปลาทู, ผักและผลไม้ รวมทั้งขนมต่างๆ ที่หากินยากในกรุงเทพฯ เช่น ขนมกล้วย, ขนมตาล เป็นต้น
ที่แผงตรงข้ามกับร้านค้าก็น่าสนใจมาก เขาขายถังไม้ลูกย่อมๆ คิดว่าคงใส่ข้าวสารได้ไม่เกิน 2 ลิตร ทำจากไม้สักที่ขัดไว้สวยงาม พวกสาวๆ ชาวกรุงมุงดูกันใหญ่
ปรากฏว่าไม่ใช่ถังใส่ข้าวสารจริงๆ ค่ะ แต่เป็นถังใส่เงิน! แม่ค้าว่าเอาถังสวยๆ ปิดฝานี้ไปให้พระเสกคาถาแล้วเอากลับบ้านไว้ใส่เงิน เชื่อกันว่านอกจากเงินทองจะไม่ขาดถังแล้ว เปิดดูทีไรจะเห็นเงินเพิ่มขึ้นทุกทีอีกต่างหาก
ใครมีถังวิเศษนี้ไม่ต้องกลัวจน!!
วันแรกเดินชมตลาดจนเหนื่อย ซื้อขนมมากิน 3-4 อย่าง ตกค่ำก็ไปงานสวดศพที่วัดหน้าตลาด ชาวบ้านมาฟังสวดกันเต็มศาลาน่าชื่นใจ คืนนั้นแวะกินเกี๊ยวน้ำที่ตลาดแล้วกลับไปนอนบ้านป้าเฮียง
ชั้นบนกั้นเป็นห้องนอนของป้ากับลุง มีลูกสาวสองคนนอนด้วย ส่วนเราแม่ลูกกางมุ้งนอนด้านนอกใกล้ๆ หัวบันได หน้าต่างเปิดทั้งหน้าและหลัง มีหลอดไฟฟ้าห้อยลงมาจากเพดาน ส่องแสงเหลืองๆ ดูเยือกเย็นพิกล
คืนนั้นเอง มีเสียงแปลกประหลาดจนดิฉันตื่นขึ้นมา.. บรรยากาศยามดึกค่อนข้างเงียบเชียบ ได้ยินเสียงคลื่นจากแม่น้ำน้อยซัดฝั่งเบาๆ คล้ายจะปลอบให้ผู้คนง่วงงุน บางทีก็ได้ยินเสียงรถดังมาจากหน้าตลาด..แต่อะไรนะที่ทำให้ดิฉันตื่นขึ้นมากลางดึกน่ะ?
ทันใดนั้น มันก็ดังขึ้นอีกครั้ง!
เสียงเหมือนมีใครกำลังเดินวนเวียนอยู่ในห้องชั้นล่าง ทั้งที่เราปิดหน้าถังและลั่นดาล แถมใส่กลอนเรียบร้อย ป้าเฮียงยืนยันว่าขโมยเข้าไม่ได้แน่ๆ ที่วิเศษชัยชาญไม่ค่อยมีขโมยขโจรชุกชุมเหมือนอ่างทองหรอก..เอ๊ะ! ยังไง?
อย่าสงสัยเลยค่ะ คนที่นี่เขาไม่เรียกตัวเมืองว่าจังหวัด แต่เรียก "อ่างทอง" ตรงๆ เช่น "จะไปอ่างทอง" หรือ "มาจากอ่างทอง" เป็นต้น
นอกจากเสียงเดินวนเวียนไปมาแล้ว ยังมีเสียงพูดคุยกันเบาๆ ดังขึ้นมาด้วย เป็นภาษาแปลกๆ ฟังไม่รู้เรื่องเลย..ครั้นแล้ว เสียงต่างๆ ก็เงียบหายไป
ขณะที่ดิฉันถอนใจยาวอย่างโล่งอก เสียงเขย่าขวัญที่พลันดังขึ้นมาอีกครั้ง!
คุณพระคุณเจ้าช่วยด้วย! คราวนี้เป็นเสียงบันไดลั่นเอี๊ยดๆ เหมือนใครกำลังก้าวขึ้นบันไดมาช้าๆ ได้ยินชัดเจนในความเงียบเชียบ..เงียบจนแทบได้ยินเสียงเต้นระทึกของหัวใจตัวเอง..สูงขึ้นมา..สูงขึ้นมาทุกที..
สุดจะทนนอนตัวแข็งเหงื่อแตกพลั่กๆ เต็มหน้า ผากได้อีกแล้ว ดิฉันเขย่าแขนแม่แรงๆ แต่แล้วก็เกือบสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงสั่นเครือดังอยู่ข้างหู..เงียบๆ แม่ได้ ยินแล้ว!
เสียงอุบาทว์กลางดึกดังขึ้นมาถึงหัวบันได ดิฉันอยากจะหลับตาปี๋ แต่กลับจ้องมองอย่างลืมตัว..ท่ามกลางความสลัวจากแสงไฟ ไม่มีอะไรเลยนอกจากความว่างเปล่า..
กำลังจะระบายลมหายใจยาวเหยียด ทั้งโล่งอกและผ่อนคลาย ก็ต้องชะงักกึก ตัวแข็งทื่อราวกับกลายเป็น รูปปั้น เมื่อได้ยินเสียงพูดคุยพึมพำมาจากมุมห้องด้าน ตรงข้าม
นรกเป็นพยาน! ภาพนั้นปรากฏเต็มม่านตาดิฉันจริงๆ ค่ะ
นั่นคือร่างของใครกลุ่มหนึ่งราว 4-5 คน กำลังนั่งยองๆ ล้อมวงกัน เห็นได้ชัดเจน แม้ว่าจะเป็นร่างที่ดูเลือนรางก็ตาม..คนจีนวัยชรากำลังคุยกันล้งเล้ง แล้วหันขวับมามองเรา..แหงนหน้าขึ้นหัวเราะครืน..
เสียงหวีดร้องของดิฉันดังแสบแก้วหู ลุกพรวดพราดขึ้นนั่งหอบฮั่กๆ ไม่รู้ตัว..ป้าเฮียงเปิดไฟผลักประตู ออกมา แม่พูดไม่ออกสักคำ หน้าตาขาวซีด ทำท่าว่าจะช็อกตายคาที่ เป็นอันว่าดิฉันไม่ได้ตาฝาดไปเองคนเดียวแน่นอน
ไม่ทราบว่าวิญญาณใครสิงสู่อยู่ที่นั่น แต่ที่แน่ๆ คือแม่กับดิฉันไม่ได้กลับไปวิเศษชัยชาญอีกเลยค่ะ ตั้งแต่คืนนั้นจนถึงทุกวันนี้!
หน้า 30
|
เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1337 เมื่อ: 20 เมษายน 2554, 23:23:18 » |
|
สวัสดียามดึกครับ.......พี่ตู่..พี่ป้อม..พี่อ้อย..พี่หนุน..ท่านจุ๊ง..น้องป๋าทู..น้องตั้ม และพี่น้องทุกท่าน
ท่านจุ๊ง....หายไปเป็นอาทิตย์ เข้ามาโพสท์แค่ reply เดียวเองเหรอ?
แล้วพวกผีอากงอาแปะเค้ามาเพื่ออะไรกัน อ่ะครับ.....น้องป๋าทู
|
|
|
|
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์
รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842
|
|
« ตอบ #1338 เมื่อ: 21 เมษายน 2554, 02:54:02 » |
|
พอดีฟังภาษาจีนไม่รู้เรื่อง
|
เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
|
|
|
อ้อย17
|
|
« ตอบ #1339 เมื่อ: 21 เมษายน 2554, 09:24:17 » |
|
ต้องให้จุ๊งแปลให้ฟัง...อิอิ
|
|
|
|
จุ๊ง2522
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 781
|
|
« ตอบ #1340 เมื่อ: 21 เมษายน 2554, 10:09:08 » |
|
สวัสดียามสายครับพ่อแม่พี่น้อง แหมท่านแหลมก้อ ผมติดภารกิจไปรบชายแดน หายไปหลายวัน กลับมาก็ต้องสะสางภารกิจทางนี้ซะก่อนก่อนจะแวะมาเสวนากันตามประสาคนปอดแหกนะซิทั่น ส่วนพวกผีอากงอาแปะเค้ามาเพื่ออะไรกัน ไม่ต้องฟังภาษาจีนเป็นก็ต้องรู้แล้วว่าเขาก็มาปฎิบัติภารกิจของผีที่ดีนะซิ หน้าที่พลเมืองดีผีก็คือหลอกไงล่ะทั่นเอ... แล้วจะกลัวกันเป็นมั้ยเนี่ย
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1341 เมื่อ: 21 เมษายน 2554, 11:50:36 » |
|
สวัสดียามสายใก้ลเที่ยงครับ.......พี่อ้อย..ท่านจุ๊ง..น้องป๋าทู และพี่น้องทุกท่าน
เห็นน้องป๋าทูมีเชื้อสายจีน..... นึกว่าจะพอฟังออก ...5...5...5
ท่านจุ๊ง...... อยากฟังเรื่อง จงขุย อ่ะครับ
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1342 เมื่อ: 21 เมษายน 2554, 11:53:05 » |
|
งั้นก็ต้องให้จุ๊งไปโดนผีอากงอาแปะหลอกก่อน........... ...5...5...5
|
|
|
|
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์
รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842
|
|
« ตอบ #1343 เมื่อ: 23 เมษายน 2554, 01:05:42 » |
|
วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7448 ข่าวสดรายวัน
วิญญาณเฮี้ยน
ขนหัวลุก ใบหนาด
" ไผ่" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อเห็นวิญญาณคุณยาย
เรื่องนี้เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวว่าผมชื่อต้อม เพิ่งเรียนจบ ม.1 กำลังจะขึ้นม.2 ผลการเรียนปานกลาง
ผมมีคุณยายกุน ที่เป็นน้องสาวคุณยายแท้ๆ ของผม ไม่ใช่ "กุนเชียง" นะครับ แต่เป็นชื่อไพเราะว่า "กอบกุล" ท่านใจดีแต่ขี้โรคชะมัด เป็นทั้งความดัน เบาหวานและโรคไต งอมพระรามเลยละ ช่วงหลังๆ นี่ผอมมากและไปไหนไม่ไหวแล้ว..
ในที่สุด ลูกๆ ต้องซื้อเตียงแบบโรงพยาบาลให้นอนที่ห้องรับแขก โดยมีคุณตาปรีชาสามีท่านนอนเฝ้า คอยดูแลตลอด
ลูกๆ ของคุณยายกุนมี 3 คน เป็นลูกชายทั้งหมด ชื่อน้าก้อง น้ากุ้งและน้ากั้ง ทุกคนแต่งงานแล้ว..ขอกระซิบว่าลูกสะใภ้น่ะสุดแสบทั้ง 3 คน!
แม่พาคุณยายกับผมไปเยี่ยมคุณยายกุนเกือบทุกสุดสัปดาห์ แม่ทำของอร่อยๆ ที่คุณยายกุนชอบไปกินกัน ฮาเฮ
เมื่อปลายมีนาคมที่ผ่านมานี้ คุณยายกุนมีท่าทางอ่อนเปลี้ย เหนื่อยง่าย ผอมดำจนตาลึกโหล กินไม่ค่อยได้.. และแล้วท่านก็จากพวกเราไปเงียบๆ บนเตียงพยาบาลที่ห้องรับแขกนั่นเอง!
แม้จะทำใจไว้แล้ว แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงจริงๆ พวกเราก็อดเสียน้ำตาไม่ได้ครับ
ผมเป็นคนไม่กลัวผี แม่พาไปนอนเป็นเพื่อนคุณตาปรีชาแต่วันแรกที่คุณยายกุนเสีย เรานอนกันที่ห้องรับแขกนั่นแหละ เพราะคุณตาก็สุขภาพไม่ค่อยดีในช่วงหลังๆ ขึ้นบันไดไม่ค่อยไหวเหมือนกัน ท่านเศร้ามากเชียวละตอนรดน้ำศพภรรยาน่ะ..เอาแต่ลูบหน้าลูบผม จับมือศพคุณยายอยู่นั่นแล้ว
คืนงานศพวันที่สอง เรื่องไม่สมควรเกิดก็เกิดขึ้นทันใด!
พวกเขาแย่งมรดกกันครับ ลูกชายแท้ๆ น่ะไม่เท่าไหร่ พวกสะใภ้นั่นน่ะซิ ที่เคยยิ้มแย้มแจ่มใสก็กระฟัดกระเฟียดใส่กัน..คนนั้นจะเอานั่น! คนนี้จะเอาโน่น! โถ..คุณยายกุนไม่มีสมบัติพัสถานเท่าไรหรอก มีที่ดินสองแห่งกับเงินไม่กี่ล้าน แต่เครื่องเพชรเครื่องทองท่านมีเยอะอยู่
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าน้าสะใภ้ทุกคนลงทุนมาค้างคืนที่บ้านคุณยายกุน นัยว่าต่างกลัวว่าอีกฝ่ายจะขึ้นไปค้นเอาเครื่องเพชรเครื่องทองที่ว่า ผมละเศร้าใจจริงๆ ครับ งานนี้
พวกเขาทะเลาะกันเพราะความโลภ หรืองกจนน่าเกลียด ทำเอาบรรยากาศที่เศร้าสร้อยยิ่งหดหู่เข้าไปใหญ่
ศพคุณยายยังนอนสงบอยู่ในโลงก็จริง แต่ผมว่าถ้ารู้เห็นเรื่องน่าอายแบบนี้วิญญาณท่านคงไม่สงบหรอกครับ
ตอนดึกผมนอนกับแม่โดยปูที่นอนบนพื้น คุณตานอนเตียงเล็ก ลูกสะใภ้สองคนนอนโซฟา อีกคนขึ้นไปอยู่กับสามีของเธอที่ชั้นบน
ผมนอนไม่หลับ ได้แต่มองไปที่เตียงพยาบาลอันว่างเปล่า มันดูน่ากลัวพิลึกในแสงสลัวๆ แบบนี้ ผ้าปูที่นอน หมอนและผ้าห่มดูขาวโพลน..คุณยายนอนตายบนเตียงนี้เมื่อสามวันก่อนนี่เอง..
ในที่สุดก็เคลิ้มไปได้หน่อย แล้วปรือตามองไปที่เตียงนั้น..
คุณพระช่วย! ผมเห็นคุณยายกุนครับ!!
คุณยายนอนหงาย มือพนมบนอก ลักษณะคล้ายนอนอยู่ในโลง และแล้วท่านก็กระดุกกระดิก ลุกขึ้นนั่งช้าๆ ท่านมองมาทางผมพร้อมกับยกนิ้วชี้ขึ้นปิดปาก คล้ายจะเป็นสัญญาณให้ผมเงียบๆ จากนั้นก็ปีนข้ามที่กั้นเตียงลงมายืนที่พื้น..ค่อยๆ ก้าวไปหาสะใภ้คนโตที่กำลังหลับสนิท
คุณผู้อ่านครับ ผมวูบ..หมดสติไปตอนนั้นเอง!
รู้สึกตัวตื่นอีกทีก็เช้าแล้ว น้าสะใภ้ร้องไห้อยู่กับแม่ผม บอกว่าคุณยายกุนมาชี้หน้า ทำท่าดุร้ายน่าสยองขวัญที่สุด
เรื่องของคุณยายกุนก็มีแค่นี้ละครับ
สรุปว่าพวกลูกสะใภ้ล้วนหน้าตาซีดเซียว เหลียวซ้ายแลขวา หายซ่าไปเยอะ และยอมให้คุณตาแบ่งสมบัติให้ลูกๆ ตามแต่จะเห็นสมควร
แหม..ถ้าเป็นอย่างนี้ มีบรรยากาศปรองดองซะแต่แรก ไม่แสดงความงกชนิดอยากได้ใคร่ดีจนเก็บอาการไม่อยู่ ก็คงไม่ต้องมารบกวนวิญญาณคุณยายกุนให้ต้องเดือดร้อน โผล่มาหลอกหลอนให้ขนหัวลุกไปตามๆ กันซินะ!
หน้า 30
|
เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
|
|
|
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์
รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842
|
|
« ตอบ #1344 เมื่อ: 23 เมษายน 2554, 01:07:36 » |
|
วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7417 ข่าวสดรายวัน
หมอผี
ขนหัวลุก ใบหนาด
"ธงชัย" เล่าเรื่องขนหัวลุกของหมอผีที่แพ้ภัยตัวเอง
ผมเป็นคนลำปางครับ เดิมเรียกกันเต็มยศว่า "เมืองนครลำปาง" บ้างเรียกชื่อสมัยโบร่ำโบราณว่า "เขลางค์นคร" แต่มาถึงยุคหลังๆ จังหวัดผมกลับได้ฉายาว่า "เมืองรถม้า" คงเพราะมีรถม้าโดยสารให้กับนักท่องเที่ยวนั่งชมเมืองเพียงแห่งเดียวในเมืองไทย ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันสนุกไป
วันนี้ผมมีเรื่องขนหัวลุกมาเล่าสู่กันฟังครับ
บ้านเมืองเก่าแก่เป็นพันปี ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าจะมีผู้คนล้มตายมากี่หมื่นกี่แสนรายแล้ว ตายซับตายซ้อน กันด้วยสาเหตุสารพัด ทั้งเจ็บไข้ได้ป่วยและทั้งศึกสงครามน้อยใหญ่อีกนับไม่ถ้วนหน
เมื่อมีคนตายก็ต้องมีภูตผีปีศาจสิงสู่ ไหนจะพวกผีปอบ ผีกระสือ ผีป่า ผีโป่ง และผีพรายที่คนมีวิชาเขาเลี้ยงไว้ใช้สอยในพิธีกรรมลี้ลับอีกล่ะ!
เมื่อมีภูตผีรังควาน ก็ต้องมีหมอผีไว้ปราบผี ไม่งั้นมีหวังโดนผีครองเมืองแน่ๆ
บ้านผมเรียกหมอผีว่า "หมอไล่ผี"
ลุงบุญยืนเป็นหมอไล่ผีชื่อดังอยู่ใกล้บ้านผม ใครๆ ก็นับถือยำเกรงแกทั้งนั้น เชื่อว่าแกเลี้ยงผีไว้ใช้งาน และคอยบอกข่าวร้ายต่างๆ ให้ระวังตัว สาเหตุสำคัญคือแกมีเมียสาวคราวลูกชื่อคำแก้ว หลังจากป้าบัวเมียแกเป็นไข้ทับระดูตายไปเมื่อปีก่อน
พวกหนุ่มๆ ไม่กล้าเข้าบ้านลุงบุญยืน เพราะรู้ดีว่าแกขี้หึงตามธรรมดาของคนแก่มีเมียสาว ยกเว้นแต่ผมที่ตอนนั้นอายุราวสิบขวบที่ชอบเข้าไปคุยกับแกตั้งแต่ยังเป็นละอ่อนแน่ะ
พูดถึงวิชาไสยศาสตร์ต้องยอมรับว่าแกเก่งกาจเอาการ ลือกันว่าเคยมีคนจ้างแก "ปล่อยของ" ไปเอาชีวิตศัตรูมา 2-3 รายแล้ว!
เคยมีปอบอาละวาดจนคนเจ็บคนตาย จับมือใครดมไม่ได้ ลุงบุญยืนก็เด็ดใบพลูอ่อนๆ ยอดบนสุดมาเสกแล้วส่องหา จนกระทั่งจับได้ว่าเป็นพี่เอื้อย-แม่ค้าผลไม้ในหมู่บ้านนั่นเอง แต่พี่เอื้อยรู้ตัวว่าความลับแตกเลยรีบหนีไปเสียก่อน สาบสูญมาจนทุกวันนี้
บ้านใครผีเข้าต้องมาตามลุงบุญยืนไปปราบผี พวกผมก็มักยกโขยงตามไปดูด้วย
ลุงบุญยืนแต่งตัวชุดขาว สวมเสื้อยันต์แดงดูเท่มากเลย พอไปถึงก็ล้วงย่ามควักอุปกรณ์ปราบผีขึ้นมา มีทั้งมีดหมอ หวายลงอาคมกับเขี้ยวหมูตันอันใหญ่เลี่ยมเงิน ใช้ใบหนาดจุ่มน้ำมนต์ไล่ผีจนร้องโอดโอยน่ากลัว
ต่อมาผมเห็นในกรุงเทพฯ กับจังหวัดในภาคกลางใช้ใบมะยมจุ่มน้ำมนต์ไล่ผี คงเชื่อว่าผีกลัวเหมือนใบหนาดที่ลำปาง ส่วนจังหวัดอื่นๆ ในภาคเหนือไม่ทราบ ไม่เคยเห็นครับ
วันหนึ่งผมไปเล่นที่บ้านลุงบุญยืน ถามแกว่าทำไมเขี้ยวหมูตันถึงศักดิ์สิทธิ์นัก? แกตอบว่าเขี้ยวหมูทั่วไปจะกลวง มีแต่หัวหน้าฝูงหรือ "พญาหมู" ถึงจะเขี้ยวตัน จึงมีฤทธิ์เดช หรืออาถรรพณ์เหนือภูตผีปีศาจทั้งหลาย
ยิ่งกว่านั้นคือ "อยู่ปืน" ยิงไม่ออก - ฟันไม่เข้าอีกด้วย!
ลุงบุญยืนเล่าว่า เขี้ยวหมูตันกับเขี้ยวเสือกลวงเป็นของหายาก เกจิอาจารย์จะนำมาแกะเป็นรูปหัวเสือที่โคนเขี้ยว มีอิทธิฤทธิ์ป้องกันอาวุธและเขี้ยวงาต่างๆ ได้ฉมังนัก
หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย จังหวัดสมุทรปราการ ก็เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาว่านำเขี้ยวหมูตันมาแกะเป็นรูปเสือ ลงเลขยันต์และคาถาอาคมต่างๆ ปลุกเสกสำเร็จแล้วก็แจกลูกศิษย์ ก่อนแจกก็นำเขี้ยวที่แกะรูปเสือใส่ลงในบาตรน้ำมนต์ ปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง
เวทมนตร์เข้มขลังก็จะทำให้เขี้ยวรูปเสือแกะลอยขึ้นมา วิ่งวนจนกระทบบาตรน่าขนหัวลุก ก่อนจะโดดแผล็วตกลงตรงหน้าลูกศิษย์ที่ไปขอเขี้ยวเสือจากหลวงพ่อพอดี!
ต่อมาเขี้ยวเสือกลวงหายากขึ้น หลวงพ่อปานจึงนำเขี้ยวเสือตันบ้าง งาช้างบ้าง มาแกะรูปเสือแจกลูกศิษย์แทน ปรากฏว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้กัน
คืนหนึ่ง ชาวบ้านได้ยินเสียงหวีดร้องโหยหวนมาจากบ้านลุงบุญยืน พากันจุดไต้จุดไฟไปดูกันนับสิบ ปรากฏว่าพี่คำแก้ว-เมียสาวของแกนุ่งผ้าซิ่นกระโจมอกตัวเดียว กำลังปิดหน้าร้องไห้เหมือนคนเสียสติ เพื่อนบ้านก็ชวนกันเข้าไปดูในห้องนอน
ลุงบุญยืนนอนหงายอยู่บนฟูก นัยน์ตาเหลือกลานเบิ่งค้าง แสดงความเจ็บปวดแสนสาหัส...มีรอยเขี้ยวสัตว์กระชากทั้งใบหน้าและทรวงอกเป็นรอยลึก เลือดแดงฉานส่งกลิ่นคาวคละคลุ้ง
ชาวบ้านซุบซิบกันว่ามีศัตรูเก่าๆ ที่เป็นญาติของเหยื่อลุงบุญยืน ผูกอาฆาตจนถึงกับจ้างหมอผีเรืองวิทยาคม "ปล่อยของ" มาแก้แค้นจนสำเร็จ
หลังจากทำศพลุงบุญยืนเสร็จสิ้นแล้ว พี่คำแก้วก็อพยพไปอยู่ที่อื่น ไม่มีใครได้ข่าวคราวอีกเลยจนทุกวันนี้...เหนือฟ้ายังมีฟ้านะครับ!
หน้า 30
|
เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
|
|
|
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์
รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842
|
|
« ตอบ #1345 เมื่อ: 23 เมษายน 2554, 01:15:52 » |
|
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7389 ข่าวสดรายวัน
ตู้ผีสิง
ขนหัวลุก ใบหนาด
"กระแต" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากตู้อาถรรพณ์ดิฉันไม่เคยเชื่อเรื่องผีมาก่อน คิดว่าเป็นเพียงนิยายหลอกเด็ก กับอ่านหนังสือหรือดูหนังสนุกๆ ที่เขย่าขวัญพอใช้ แต่เมื่อจบแล้วก็แล้วกัน ไม่คิดจะจดจำใส่ใจอีกต่อไป
อาจจะเป็นเพราะการศึกษาที่ทำให้คนเรารู้จักคิดและหาเหตุผลในแง่วิทยาศาสตร์ก็เป็นได้ ตัวเองก็กำลังจะจบการศึกษาปีนี้แล้ว พร้อมๆ กับเฟย์-เพื่อนร่วมห้องเช่าที่อยู่แถวหัวหมากด้วยกัน
ส่วนมากจะมีแต่นักศึกษาที่อยู่กันสองคนเพื่อแชร์ค่าห้อง พวกที่อยู่กับแฟนหรือมีกิ๊กมาหาก็มี ทางผู้ให้เช่าเขาไม่ค่อยเข้มงวดหรอกค่ะ ขอให้จ่ายเงินค่าเช่าตรงเวลาเป็นใช้ได้
ห้องติดกับเราคือหวานกับแป้งที่เรียนอยู่คนละคณะจึงไม่ค่อยสนิทกันเท่าไรนัก
คู่นี้มีคนแอบเม้าธ์ว่าเป็นทอมกับดี้ แต่ความจริงไม่ใช่หรอกค่ะ หวานเป็นผู้หญิงเข้มแข็ง หรือ "หญิงแกร่ง" ตรงข้ามกับชื่อลิบลับ เคยท้าชกผู้ชายที่หน้าหอมาแล้ว บางทีก็มีเรื่องกับคนขี่แมงกะไซค์ ท่าทางไม่กลัวคนจนใครๆ คิดว่าเป็นทอม
ส่วนแป้งหุ่นบอบบาง หน้าตาแอ๊บแบ๊ว มีหนุ่มแปลกหน้ามาส่งบ่อยๆ บางทีก็เห็นเธอเจ๊าะแจ๊ะกับเพื่อนนักศึกษาด้วยกัน แต่หวานไม่สนใจ...ดูเหมือนจะมีหนุ่มมาชอบเธอ 2-3 คน หวานหมกมุ่นกับตำรับตำราจนไม่ค่อยได้ไปไหน ตรงข้ามกับแป้งที่ไปเที่ยวบ่อยๆ
คืนหนึ่งราวสองทุ่มเศษ เราได้ยินเสียงคล้ายใครด่าทอกันดังแว่วมาจากห้องข้างๆ อารามเป็นห่วงทำให้เฟย์กับดิฉันเดินไปเคาะประตูเรียก ครู่หนึ่งหวานก็เปิดประตูรับ หน้าตายังบึ้งตึงก่อนจะฝืนยิ้ม...เฟย์ถามว่ามีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า? เป็นห่วง
หวานขอบอกขอบใจ ชวนให้เราเข้าไปในห้อง...ปรากฏ ว่าเธออยู่คนเดียวค่ะ!
"กำลังทำรายงานอยู่ดีๆ ดันมาร้องห่มร้องไห้อยู่ได้ เตือนก็แล้ว ห้ามก็แล้วไม่รู้จักฟัง เลยต้องด่ามันดังไปหน่อย ขอโทษด้วยนะ"
ขณะที่เรางุนงง หวานที่นุ่งกางขาสั้นสวมเสื้อยืดก็ชี้ไปที่ตู้เสื้อผ้าข้างฝา ใกล้กับประตู พูดหน้าตาเฉยว่า...ในตู้นั่นแหละที่มีเสียงร้องไห้คร่ำครวญดังออกมากวนประสาท แต่เมื่อเปิดออกดูก็ไม่เห็นอะไร
"หน็อย! พอเรามานั่งปุ๊บมันก็สะอื้นกระซิกๆ ขึ้นมาอีกแล้ว จะไม่ได้ด่าได้ไง?"
เฟย์อ้าปากค้าง หลุดอุทานออกมาว่า...ผีเหรอ?!
"จะมีอะไรซะอีกล่ะ?" หวานแค่นหัวเราะ "แต่เราไม่กลัวหรอก ผีมันจะมาเก่งกว่าคนได้ไง จริงมั้ย? เลยต้องด่าอีกชุดใหญ่ พวกตัวก็มาเคาะประตูพอดี"
ดิฉันกลืนน้ำลาย เฟย์ทำหน้าเหยเก แต่สาวแกร่งเจ้าของห้องยักไหล่
"เราไม่กลัวหรอก คนแท้ๆ ยังไม่กลัวแล้วจะกลัวผีให้โง่ทำไม ขอบใจที่ห่วง...เดี๋ยวมันสะอื้นอีกจะเปิดประตูตู้ให้มันออกมาเจอกันเลย"
เฟย์มองหน้าดิฉันแล้วหันไปฝืนยิ้ม พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจก่อนจะขอตัวกลับ...สวนทางกับแป้งที่เดินเซนิดๆ กลับจากเที่ยวมาพอดี เราทักทายกันสองสามคำแล้วรีบวิ่งเข้าห้อง
ตั้งแต่นั้นก็ไม่มีเสียงเอะอะ เสียงทะเลาะกับผีน่าสยองดังมาจากห้องนั้นอีกเลย จนเราคิดว่าผีคงจะกลัวหวานจนไม่กล้าแสดงอิทธิฤทธิ์อีกแล้ว
เวลาผ่านไปราวสองอาทิตย์ก็เกิดเรื่องขนหัวลุกขึ้นมาจนได้!
คืนนั้นเราไปงานวันเกิดเพื่อนที่ผับใกล้ๆ ราวสามทุ่มก็ขอตัวกลับก่อนเพราะมีงานที่ต้องทำส่งอาจารย์พรุ่งนี้คั่งค้างอยู่ เรามุ่งมั่นตรงกันที่จะเรียนจบในปีนี้ให้ได้ค่ะ...
เพียงแต่ก้าวเข้าไปเกือบถึงห้องพักอยู่แล้ว เสียงแผดร้องกรี๊ดๆ ก็ดังออกมาจากห้องของหวานกับแป้ง...ขนาดปิดประตูยังดังชัดเจน เล่นเอาเราถลาเข้าไปทุบประตูหนักๆ ใจเต้นระทึกด้วยแรงสังหรณ์ว่าคงจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นแน่ๆ แต่ไม่มีใครเปิดประตูรับเลย!
หรือหวานกับแป้งจะทะเลาะกันเป็นครั้งแรก?
คุณพระช่วย! เสียงวิ่งมาจากข้างหลัง หันขวับไปดูก็ยิ่งใจหายวาบเมื่อเห็นแป้งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา เราเล่าเรื่องเร็วปรื๋อ แป้งทุบประตูตะโกนเรียกแต่ไร้ผล ในที่สุดก็ต้องเปิดกระเป๋าหากุญแจห้องมือไม้สั่น
แสงไฟสว่างโพลงเมื่อเราสามคนถลาเข้าไปในห้อง
เฟย์หวีดร้องเมื่อเห็นหวานนอนคว่ำแน่นิ่งอยู่หน้าประตูตู้ที่ปิดสนิท ช่วยกันพลิกร่างอ่อนปวกเปียกนั้นขึ้นมา ทั้งเขย่าตัวและเรียกชื่อพักใหญ่หวานจึงฟื้นขึ้นมาเล่าเรื่องสยองขวัญ
ขณะที่เดินมาหน้าตู้เพื่อจะหยิบเสื้อผ้าไปเปลี่ยนหลังจากอาบน้ำ จู่ๆ ก็มีแขนข้างหนึ่งโผล่พรวดออกมากระชากร่างเธอเข้าไปในตู้ หวานกรีดร้องสุดเสียง ดิ้นรนจนหลุดออกมาล้มฟาดแล้วหมดสติไป
รุ่งขึ้นคนไม่กลัวผีก็ต้องย้ายจากห้องนั้นไปหาที่อยู่ใหม่ค่ะ! บรื๋อออ...
หน้า 30
|
เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1346 เมื่อ: 23 เมษายน 2554, 01:21:42 » |
|
น้องป๋าทู.....
มาก็ดึก แถมยังปล่อยผีไว้อีกตั้ง 3 เรื่อง.......คงเป็นที่ถูกใจพี่ป้อมแน่ๆเลยครับ
|
|
|
|
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์
รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842
|
|
« ตอบ #1347 เมื่อ: 23 เมษายน 2554, 01:30:39 » |
|
วันนีเฝ้าเวรดึกกับแม่ครับ
|
เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1348 เมื่อ: 23 เมษายน 2554, 01:35:47 » |
|
นับถือ....นับถือ.....
|
|
|
|
pusadee sitthiphong
|
|
« ตอบ #1349 เมื่อ: 23 เมษายน 2554, 16:22:41 » |
|
เข้ามาเจอพาดพิงพอดี ถูกใจอยู่แล้วค่ะ ขอบคุณน้องทูมากๆนะคะ น้องทูดูแลคุณแม่น่ารักจริงๆ
|
pom shi 2516
|
|
|
|