◄◄◄ << เมียงู >>►►► .. Life is Beautiful ..

[swsm]

file ภาพเราใหญ่มาก  upload ได้ทีละภาพ
เสียเวลาน่าดูเลย

 

[swsm]

เมื่อครองชุดคุยเตรียมรับปริญญา เอ๊ย เป็นนาคเต็มตัวแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น  เราก็ไปที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ อันเป็นสถานที่ตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า




ตั้งแถวยาวเลยค่ะ พี่น้อง
หากเขาอนุญาตให้นำเครื่องมโหฬีเข้าไปได้
เชื่อว่า จะต้องมีกลองยาวนำขบวนแน่นอน


ทัวร์นี้แกใจถึงจริง ๆ .. จัดไปให้เกินไว้ก่อน ตลอดการเดินทาง  

[swsm]

[swsm]

นำสวดรอบต้นพระศรีมหาโพธิ์ 3 รอบ  ก่อนประกอบพิธี   

[swsm]

และเนื่องจากเป็นการบวชเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สัญลักษณ์ของสถาบันหลักทั้ง 3 ของประเทศ จึงอยู่กันพร้อม ณ ที่นั้น






พระราชรัตนรังษี (วีรยุทธ วีรยุทโธ) หัวหน้าพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา
เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

[swsm]

ญาติโยมก็พร้อมค่ะ  




พิธีดำเนินต่อไป  .. จากนุ่งห่มขาว กลายเป็นห่มเหลือง
เป็นพระสงฆ์โดยสมบูรณ์ เป็นที่ปลาบปลื้มยิ่ง

พระบวชใหม่ทั้ง 9 เรียกว่า นวกโพธิ (นะ-วะ-กะ-โพ-ธิ) หมายถึง พระใหม่ ผู้บวชใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
แต่ละรูปได้สมญานามเป็นชื่อพระในภาษาบาลี ลงท้ายด้วย โพธิ ทุกคน
แหะ แหะ .. อิฉันจำไม่ได้เลยซ้ากคนค่ะ  ท่านผู้โชม!

[swsm]

บรรดาอุบาสก อุบาสิกา ต่างสมัครใจถือบวชเนกขัมมะ (รักษาศีลแปด) ด้วยอีกเกือบทั้งหมด
มีรักษาศีล 5 อยู่ประมาณ 7-8 คน


อิฉันอ่ะ  แจ้งทัวร์ไว้ล่วงหน้า
บอกว่า ในชีวิตไม่เอคยอดข้าวเย็น  หากว่าพี่ดำเนินชีวิตการอดข้าวเย็นไม่ตลอดรอดฝั่ง
จึงมีความเป็นไปได้ที่อาจจะลาสิขาก่อนกำหนด
ดังนั้น ขอให้เตรียมอาหารเย็นสำหรับสีกาใจไม่สู้คนนี้ด้วยเน้อ!


ทัวร์ฟังแล้วก็หัวเราะ  บอกว่า โอเคร!    

[swsm]

เสร็จพิธีอุปสมบท เรากลับมาที่วัดไทยพุทธคยา
ใส่บาตรพระใหม่
และเพลกันที่นั่น  ก่อนออกเดินทางไปเยือนสถานที่สำคัญตามกำหนดการต่อไป

[swsm]

ต้นพระศรีมหาโพธิ์ค่ะ    

[เหยง 16]

ข่าวว่า ปลัดสำนักนายกฯ ธงทอง จันทรางศุข (นิติ/รัฐ 2516) จะบวชที่อินเดียในวันพรุ่งนี้

[swsm]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 03 พฤศจิกายน 2556, 18:09:04
	ข่าวว่า ปลัดสำนักนายกฯ ธงทอง จันทรางศุข (นิติ/รัฐ 2516) จะบวชที่อินเดียในวันพรุ่งนี้

ใช่ค่ะ  พี่เหยง
เราทราบข่าวตั้งแต่ช่วงเตรียมตัวแล้ว
ตอนแรกนึกว่าจะเป็นทริปเดียวกันกับเราหรือเปล่า?
ปรากฏว่าไม่ใช่ค่ะ

ทราบว่าท่านจะบวช 15 วัน
และบวชใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
โดยพระราชรัตนรังษี เช่นเดียวกันค่ะ

[swsm]

ชื่อของต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษ
เทียบกับนามสกุลของอิฉัน ที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ เช่นกัน
ดังนี้


Mahabodhi vs Menabodhi



ใกล้เคียงกันมากค่ะ  ท่านผู้โชม    

[swsm]

ขอเล่าประวัติต้นโพธิ์ต้นนี้สักหน่อยนะคะ

ท่านพุทธเจ้าตรัสรู้บนแท่นวัชรอาสน์
ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ต้นนี้มิใช่ต้นดั้งเดิมหรือต้นเดียวกันกับที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้
แต่เป็นต้นที่ 4 แล้ว
พระอาจารย์ที่เป็นพระวิทยากร
ท่านเล่าให้ฟังดังนี้ค่ะ



ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่หนึ่ง

เป็นต้นที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้
พระองค์ได้รับการถวายหญ้ากุสะจำนวน 8 กำ จากโสตถิยะพราหมณ์เพื่อปูเป็นที่ประทับเมื่อใกล้รุ่งของวันเพ็ญ เดือน 6
จึงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

พระองค์ตรัสว่า ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นต้นไม้แทนพระพุทธองค์
หากใครได้ไหว้ได้สักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ก็เท่ากับว่าได้ไหว้สักการะพระพุทธองค์
และหลังจากที่พระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว มีผู้เลื่อมใสศรัทธามากราบไหว้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นจำนวนมาก


สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภ์
ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเป็นอันมากเช่นทรงสร้างพระเจดีย์ถวายเป็นพุทธบูชาจำนวนถึง 84,000 องค์
ซึ่งทำให้พระเจ้าอโศกมหาราชไม่สนพระทัยในความสุขส่วนพระองค์เหมือนเช่นเคย
ว่างเว้นจากราชกิจก็มาปฎิบัติธรรมใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ไม่กลับวังที่ประทับ

จึงเป็นเหตุให้เหล่านางสนมทั้งหลายต่างพากันโกรธแค้น อิจฉาต้นพระศรีมหาโพธิ์
พระมเหสีองค์ที่ 4 ของพระเจ้าอโศกมหาราชนามว่า มหิสุนทรี
ได้สั่งสาวใช้ให้นำยาพิษ และน้ำร้อนแอบไปรดที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์
จนทำให้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ตายไปในที่สุด

การตายของต้นพระศรีมหาโพธิ์ทำให้พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงเสียพระทัยมาก
ทรงรับสั่งให้ใช้น้ำนมโค 100 หม้อ ไปรดที่บริเวณรากของต้นโพธิ์
และทรงอฐิษฐานพร้อมกับการสักการะก้มกราบพระองค์ทรงมีพระราชปรารภว่า
หากแม้ว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์ไม่แตกหน่อ ขึ้นมาแล้วไซ้ร์จะไม่ยอมลุกขึ้นเป็นอันขาด
ด้วยพุทธานุภาพและพระราชศรัทธาอันแรงกล้าแห่งพระเจ้าอโศกมหาราช
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ก็แตกหน่อขึ้นมาใหม่
พระองค์ดีพระทัยเป็นอันมากจึงสั่งให้ก่อกำแพงล้อมรอบ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับต้นโพธิ์อีก

[swsm]

ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สอง

ถือเป็นต้นที่แตกหน่อมาจากต้นแรก
และการที่พระเจ้าอโศกได้เผยแผ่ พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก จึงมีการนำต้นโพธิ์ไปปลูกในประเทศต่าง ๆ
เช่น พระโสณะเถระและพระอุตตรเถระเดินทางมายังดินแดนสุวรรณภูมิ
และพระมหินทเถระ สังฆมิตราเถรีเดินทางไปยังศรีลังกา
โดยพระภิกษุเหล่านี้ได้นำต้นโพธิ์หรือกิ่งพระศรีมหาโพธิ์ไปด้วย

ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สองถูกทำลายอีกครั้ง ในสมัยพระเจ้าสาสังการ แห่งฮินดู ซึ่งครองเมืองเบงกอล
พระเจ้าสาสังการเกิดแข็งข้อต่อพระเจ้าปรณวรมา
จึงรับสั่งให้ตัดต้นและขุดรากต้นโพธิ์ใช้ฟางอ้อยสุม ใช้น้ำมันราด และเผาต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งมีอายุราว 871-891 ปี

เจ็ดวันหลังจากนั้น พระเจ้าสาสังการทรงอาเจียนเป็นพระโลหิต และสิ้นชีพตักษัยที่พุทธคยา
ซึ่งพระเจ้าปรณวรมาเสด็จมาพอดี จึงตีทัพของเบงกอลแตกพ่ายไป
และทรงให้ชาวบ้านรีดนมโค 1,000 ตัว เอาน้ำนมที่ได้เทราดบริเวณต้นโพธิ์ที่ถูกเผา
พระเจ้าปรณวรมา ทรงนอนคว่ำหน้าลงกับพื้นพร้อมอฐิษฐานตามแบบพระเจ้าอโศกมหาราช
ซึ่งต้นพระศรีมหาโพธิ์ก็แตกหน่อขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง

[swsm]

ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สาม

ในปี พ.ศ. ๒๔๑๘ ท่านเซอร์คันนิ่งแฮม หัวหน้าคณะสำรวจพุทธสถานในช่วงอังกฤษปกครองอินเดีย
ได้เดินทางไปที่พุทธคยาเป็นครั้งที่สอง
พบว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์ทรุดโทรมมาก
ประชาชนชาวฮินดูในบริเวณนั้นได้ตัดกิ่งก้านไปทำเชื้อเพลิง

และในปี พ.ศ. ๒๔๒๑ ต้นพระศรีมหาโพธิ์เบียดกับเจดีย์พุทธคยาได้ล้มลงไปทางทิศตะวันตกและตายไปเอง
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สามมีอายุประมาณ 1,258-1,278 ปี

[swsm]

ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สี่ (ต้นปัจจุบัน)

เป็นต้นที่ยังคงอยู่ที่พุทธคยาในปัจจุบัน
เป็นหนึ่งในสองหน่อที่แตกขึ้นมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สามที่ล้มตายไป
โดยท่านเซอร์คันนิ่งแฮมได้บำรุงดูแลหน่อที่เกิดมานั้นเมื่อปี พ.ศ.2423
และนำอีกหน่อหนึ่งไปปลูกไว้ด้านทิศเหนือของเจดีย์พุทธคยาห่างจากต้นเดิมประมาณห้าสิบเมตร

ปัจจุบันต้นพระศรีมหาโพธิ์ทั้งสองต้นยังคงอยู่มีอายุได้ถึงทุกวันนี้ อายุได้ 133 ปีเต็ม

[swsm]

เราได้เห็นหญ้ากุสะด้วยค่ะ  
หญ้านี้ขึ้นมากริมแม่น้ำเนรัญชรา
พระอาจารย์ชี้ให้ดู  บอกว่าหญ้านี้แหละที่ปูบนแท่นวัชรอาสน์ในวันที่พระองค์ตรัสรู้


ปัจจุบัน  ชาวอินเดียยังใช้ประโยชน์จากหญ้ากุสะอย่างเต็มที่เช่นในสมัยพุทธกาล    

[swsm]

และนี่ .. ภาพของข้าพเจ้าในชุดเนกขัมมะค่ะ
ไม่ค่อยชินภาพตัวเองเลย
หน้าตาโล่งเลี่ยน ไร้ make-up
มันดูจืด ๆ ยังไม่ก็ไม่รู้

[swsm]

[swsm]

อันว่าเจดีย์พุทธคยาที่ยืนยงคู่กับต้นพระศรีมหาโพธิ์นี้ (ดูภาพข้างบน เป็นเจดีย์ที่อยู่ข้างหลังข้าพเจ้า)
เป็นองค์เจดีย์ที่มีความสูง 170 ฟุต วัดรอบฐานได้ 85 เมตรเศษ
มีเจดีย์บริวารรอบทั้ง 4 ด้าน

ชั้นบน ประดิษฐานพระปางประทานพร
ชั้นล่าง ประดิษฐานพระปางวิมารชัย เป็นพระปฏิมากร  สร้างด้วยหินแกรนิตสีดำ
ศิลปะสมัยปาละ มีอายุกว่า 1,400 ปี ทาด้วยสีทอง
คนไทยเรียกว่า "พระพุทธเมตตา"


เขาไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพพระพุทธเมตตาองค์จริงค่ะ
เลยขอค้นหาจากอากู๋มาให้ชมกัน

[swsm]

ได้เวลาพอสมควร  ออกเดินทางต่อไปยังบ้านของนางสุชาดา

นางสุชาดาเป็นใคร?

นางสุชาดาคือผู้ถวายข้าวมธุปายาสแด่พระพุทธเจ้า เพื่อแก้บน
และเป็นอาหารมื้อสุดท้ายก่อนที่พระพุทธองค์จะตรัสรู้
เมื่อวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 6 ก่อนพุทธศักราช 45 ปี

[swsm]

[swsm]

ทริปนี้เราได้ความรู้มากมาย
จากพระมหาน้อย หรือ พระครูนิโครธบุญญากร
ท่านอยู่ประเทศอินเดียมาแล้ว 20 ปี เข้าใจวิถีชีวิตของชาวอินเดียอย่างถึงแก่น

ท่านเตือนเราว่า  ประเทศนี้ผู้คนประกอบอาชีพขอทานอยู่ไม่น้อย
ทุกที่ที่เราไป  เราจะต้องเจอกับหมู่ขอทานน้อยใหญ่ (ซึ่งก็จริง)
จงรักษาใจตัวเอง  อย่ารำคาญ อย่ารังเกียจ และอย่าโกรธที่เขามาป้วนเปี้ยนขอทานจากเรา
แต่ให้ระวังตัวเอง สำรวมตัวเอง และรู้จักวางเฉย


ให้นึกว่า  การที่เขาเกิดมาเป็นแบบนี้  เป็นกรรมของเขาเองส่วนหนึ่ง
เราไม่มีส่วนในการทำให้เขาเป็นแบบนี้
ดังนั้น  อย่าเอาใจเข้าไปผูก

การให้ทาน  ก็ต้องรู้จักวิธีการให้ ซึ่งไม่เป็นอันตรายกับตัวเอง
ต้องแอบ ๆ ให้
เพราะหากขอทานเห็นว่าเราให้  เขาจะมารุมเราจนเดินไปไหนไม่ได้
เมื่อขึ้นรถแล้ว  ก็ให้แล้วกัน
อย่าเก็บอะไรมานึกมาคิดเป็นอันขาด

สวดยวดเลยค่ะ   

[swsm]

ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา .. เป็นที่ต่อไปที่เราไปเยี่ยมชม หลังจากออกมาจากบ้านนางสุชาดา    

พระวิทยากรเล่าให้ฟังถึงการแก้บนของนางสุชาดา
และการลอยถาดในแม่น้ำเนรัญชรา เพื่ออธิษฐานจิตขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า

[swsm]

คณะของเรายังถูกกลุ่มขอทานตามตื้ออย่างไม่ลดความพยายาม
บางราย  ตามมาจากบ้านนางสุชาดาเลยค่ะ

บางราย  เห็นแล้วสังเวชใจ
แต่คำของพระอาจารย์ยังก้องอยู่
เป็นกรรมของเขาเอง ที่ต้องเป็นแบบนี้

ดังนั้น .. มนุษย์เราควรสะสมบุญไว้เป็นทุน ในวันที่ยังทำได้
เกิดภพใหม่ จะได้เกิดในสภาพที่ดี ครอบครัวที่ดี