◄◄◄ << เมียงู >>►►► .. Life is Beautiful ..

[Pete15]

  emo47เห็นแล้ว หอยเด็ก...........ขอหลับต่อดีกว่าเดี๋ยว ติดคุก  จะให้เราซื้อ หอยเด็ก........

[swsm]

มัสหมั่นเนื้อ .. เสร็จแล้วค่ะ

ตั้งไฟอ่อน ๆ เคี่ยวไปเกือบ 2 ชม.
เนื้อนุ่มอร่อย
น้ำแกงข้นคลั่ก
นึกถึงโรตีขึ้นมาทันที
แต่หาไม่ได้

นี่เลย .. ขนมปังปิ้ง  ทดแทนได้อย่างเหมาะเหม็ง     

[Pete15]

สวัสดี ครับ น้องหยี เช้าวัน จันทร์ที่20 Aug.
      หลับไปหนึ่งตื่น มัสมั่นเนื้อ เสร็จแล้ว น่า่กินจัง เห็นแล้วหิว .....LIKE

[หนุน'21]

		อ้างถึง			ข้อความของ swsm เมื่อ 20 สิงหาคม 2555, 01:19:16
	มัสหมั่นเนื้อ .. เสร็จแล้วค่ะ ตั้งไฟอ่อน ๆ เคี่ยวไปเกือบ 2 ชม. เนื้อนุ่มอร่อย น้ำแกงข้นคลั่ก นึกถึงโรตีขึ้นมาทันที แต่หาไม่ได้ นี่เลย .. ขนมปังปิ้ง  ทดแทนได้อย่างเหมาะเหม็ง

อยากกีนนนนน...
หน้าตาสวยมาก ดูมีสกุลรุนชาติ น้องหยี เหอ เหอ
รสชาติต้องไปด้วยดีกับ ขนมปังปิ้งแน่นอน กินเผื่อด้วยเน้อออ 

 

[swsm]

ทำเอาไว้ขนาดหม้อย่อม ๆ .. แต่กินคนเดียว คงอยู่ได้หลายมื้อแหละค่ะ   

[ทราย 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ swsm เมื่อ 20 สิงหาคม 2555, 01:19:16
	มัสหมั่นเนื้อ .. เสร็จแล้วค่ะ ตั้งไฟอ่อน ๆ เคี่ยวไปเกือบ 2 ชม. เนื้อนุ่มอร่อย น้ำแกงข้นคลั่ก นึกถึงโรตีขึ้นมาทันที แต่หาไม่ได้ นี่เลย .. ขนมปังปิ้ง  ทดแทนได้อย่างเหมาะเหม็ง

น้องหยีนี่ ... แม่เสือ ... เอ๊ย แม่ศรีเรือนจริงๆน่ะ
น่ากินจังค่ะ
 

[swsm]

เป็นทั้งแม่เสือ และ แม่ศรีเรือนได้นะคะ  พี่ทราย   

[Pete15]

ขึ้นต้นด้วยแม่  น่าจะเป็นได้หมด......

[swsm]

แม่เบี้ย .. คริคริ   

[Leam]

สวัสดียามดึกครับ... น้องหยี..พี่ปี๊ด..พี่ทราย..พี่หนุน และพี่น้องทุกท่าน

[Leam]

		อ้างถึง			ข้อความของ swsm เมื่อ 20 สิงหาคม 2555, 22:38:54
	แม่เบี้ย .. คริคริ

น่าผัดเผ็ดอ่ะ...

คงอร่อยไม่น้อยกว่ามัสหมั่น.

[หนุน'21]

		อ้างถึง			ข้อความของ Leam เมื่อ 20 สิงหาคม 2555, 22:44:46
	อ้างถึง ข้อความของ swsm เมื่อ 20 สิงหาคม 2555, 22:38:54 แม่เบี้ย .. คริคริ    น่าผัดเผ็ดอ่ะ... คงอร่อยไม่น้อยกว่ามัสหมั่น.

เดี๋ยวนี้...ร้านจ่าเริง...ยังมีมั๊ยอ่ะ
โบราณจังเลยเรา เหอ เหอ เหอ

[Leam]

สวัสดียามบ่ายครับ... น้องหยี..พี่ปี๊ด..พี่ทราย..พี่หนุน และพี่น้องทุกท่าน

แกงมัสหมั่นหมดรึยังครับ?

[Leam]

		อ้างถึง			ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 21 สิงหาคม 2555, 07:58:39
	อ้างถึง ข้อความของ Leam เมื่อ 20 สิงหาคม 2555, 22:44:46 อ้างถึง ข้อความของ swsm เมื่อ 20 สิงหาคม 2555, 22:38:54 แม่เบี้ย .. คริคริ    น่าผัดเผ็ดอ่ะ... คงอร่อยไม่น้อยกว่ามัสหมั่น. เดี๋ยวนี้...ร้านจ่าเริง...ยังมีมั๊ยอ่ะ โบราณจังเลยเรา เหอ เหอ เหอ

น่าจะเลิกกิจการไปแล้วนะครับพี่...

ที่ดินแถวนั้นตอนนี้แพงมาก...

[swsm]

เช้านี้ .. กาแฟและกล้วยหอม
กลางวัน .. ไข่ดาวและไส้กรอก

เย็น .. ยังไม่รู้ค่ะ   

[ทราย 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ swsm เมื่อ 21 สิงหาคม 2555, 19:07:02
	เช้านี้ .. กาแฟและกล้วยหอม กลางวัน .. ไข่ดาวและไส้กรอก เย็น .. ยังไม่รู้ค่ะ

เย็น ... เสนอกล้วยหอมและไข่ดาวค่ะ

[swsm]

		อ้างถึง			ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 21 สิงหาคม 2555, 19:52:50
	อ้างถึง ข้อความของ swsm เมื่อ 21 สิงหาคม 2555, 19:07:02 เช้านี้ .. กาแฟและกล้วยหอม กลางวัน .. ไข่ดาวและไส้กรอก เย็น .. ยังไม่รู้ค่ะ    เย็น ... เสนอกล้วยหอมและไข่ดาวค่ะ

     ขอบคุณค่ะ พี่ทราย

[ประทาน14]

หายไปหลายวัน กลับมาแล้วครับ มัสหมั่นเนื้ออร่อยมากครับ

[ประทาน14]

		อ้างถึง			ข้อความของ Leam เมื่อ 20 สิงหาคม 2555, 22:44:46
	อ้างถึง ข้อความของ swsm เมื่อ 20 สิงหาคม 2555, 22:38:54 แม่เบี้ย .. คริคริ    น่าผัดเผ็ดอ่ะ... คงอร่อยไม่น้อยกว่ามัสหมั่น.

น้องแหลมพอจะมีฝีมือผัดเผ็ดมั้ยครับ อยากกินผัดเผ็ดงูจงอาง อ่ะครับ

[swsm]

สวัสดีค่ะ พี่ประทาน

ผัดเผ็ดงูจงอางจะหาทานได้ที่มะละกาหรือเปล่า?
ลองถามพี่เน็ก ผู้ทำหน้าที่เป็นไกด์กิตติมศักดิ์
เคยติดตามสารคดีของมาเลเซีย
ได้ยินว่า เขาก็นิยมของป่า ของแปลกประเภทนี้เหมือนกัน

ปล. จะออกเดินทางกันเมื่อไรคะเนี่ย?

[swsm]

เที่ยวมะละกาต่อค่ะ ..

พี่หนุนแกพาออกจากพิพิธภัณฑ์ เข้าโบสถ์ และออกจากโบสถ์ไปแล้ว
อิฉันยังมะงุมมะงาหลากับแกงมัสหมั่น ไข่ดาว ไส้กรอกอยู่เลย

เล่าเรื่องมะละกาเที่ยวนี้ ต้องเดินตามพี่หนุนค่ะ
เพราะต้องอาศัยรูปของแก
เนื่องจากอิฉันไม่ได้หยิบ external harddisk ที่บรรจุภาพการท่องเที่ยวครั้งนี้มาลิสบอนด้วย
พยายามทำกระเป๋าให้เบาที่สุด 
เพราะขากลับ กทม.ครั้งต่อไป นังหนูลูกสาวฝากให้แม่ขนสมบัติ เสื้อผ้า ตุ๊กตา ของแกมาให้หมด
บอกว่า เสียดาย  ไม่สามารถทิ้งได้เลย สักชิ้นเดียว


เง้อ!!!   

[swsm]

เนื้อความครั้งที่ผ่านมา  ..
อิฉันจบที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ หรือ Malay Annals หรือ Sejarah Melayu
และจบที่ชุมชนชาวโปรตุเกสในเมืองมะละกา

จุดหมายต่อไป  จากบริเวณโบสถ์แดงหรือจากพิพิธภัณฑ์ เราเดินขึ้นเขาไปอีกเล็กน้อย
ปลายทางอยู่ที่ St. Paul Church หรือ โบสถ์เซ็นต์ปอล

[swsm]

จำภาพโบสถ์สีแดง ที่เราถ่ายรูปและนั่งสามล้อกันได้ไหมคะ
บริเวณนั้น เรียกชื่อว่า จตุรัสดัชท์ หรือ Dutch Square
เป็นผลงานการก่อสร้างของชาวฮอลันดา หรือ ดัทช์

ส่วนโบสถ์ St. Paul Church หรือ โบสถ์เซ็นต์ปอล หลังนี้ สร้างขึ้นโดยคณะบาทหลวงจากโปรตุเกส

....  

เพื่อไม่ให้งง  
เราต้องทำความเข้าใจประวัติศาสตร์ความป็นมาของเมืองนี้สักเล็กน้อย พองาม
ไล่เรียงลำดับการถูกต่างชาติเข้าครอบครองของเมืองมะละกาในสมัยล่าอาณานิคม .. ได้ความว่า

โปรตุเกส เป็นชาติแรกที่เข้ามามาแสวงหาอาณานิคมในภูมิภาคเอเชีย
เพื่อแสวงหาผลประโยชน์และทำการค้า
มะละกากลายเป็นเป้าหมายที่สำคัญ

ตอนแรกนั้น โปรตุเกสขอเจรจาเพื่อตั้งสถานีการค้า แต่มะละกาไม่ยอมรับข้อเสนอ
ในที่สุด ถึงกับลงไม้ลงมือ
รบกันอยู่เกือบเดือน .. สุดท้ายมะละกาขอยอมแพ้
โปรตุเกสจึงได้มะละกามาครองสมใจอยาก

โปรตุเกสสร้างเมืองใหม่ สร้างโบสถ์เซ็นต์ปอล สถานที่ราชการ
ขึ้นมาแทนที่พระราชวังของสุลต่านมะละกาที่เผาทำลายไป
รวมทั้งสร้างป้อมปราการ A’ Famosa (The Famous) เพื่อป้องกันการรุกรานจากชาติอื่นด้วย

โปรตุเกสครอบครองมะละกาอยู่ 130 ปี

[swsm]

ชาติต่อมาคือ ฮอลันดา (ปัจจุบันคือประเทศฮอลแลนด์)

ชาวดัทช์สนใจมะละกา ก็เพราะความที่เป็นเมืองค้าขาย
ทำเลที่ตั้งสะดวกสำหรับการคมนาคมทางน้ำ  

สมัยโน้น .. อยากได้อะไรก็ต้องว่ากันด้วยกำลัง
จึงเกิดสงครามอีกครั้งบนแผ่นดินมะละกา ระหว่างโปรตุเกสและดัทช์
สุดท้าย ฮอลันดาชนะ .. ได้มะละกาไปครอง

ฮอลันดาได้สร้างสถานที่สำคัญไว้ในมะละกา คือ โบสถ์สีแดง (Christ church) ที่ Dutch square
ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมะละกาไปแล้ว

.....

ชาติสุดท้ายที่ได้เข้ามาครอบครองมะละกาคือ อังกฤษ
เนื่องจากฮอลันดาแพ้สงครามต่อฝรั่งเศส ฮอลันดาจึงรีบยกมะละกาให้กับอังกฤษ
เพื่อกันไม่ให้ฝรั่งเศสมามาครอบครองมะละกา

[swsm]

ทีนี้ มาว่าด้วยเรื่อง St. Paul Church หรือ โบสถ์เซ็นต์ปอล กัน

โบสถ์หลังนี้ถูกสร้างด้วยชาวโปรตุเกส
แต่เดิมเป็นเพียงโบสถ์เล็ก ๆ

ต่อมาเมื่อดัทช์เข้าครอบครอง .. ก็ได้บูรณะขึ้นใหม่
ทำให้กว้างขวางขึ้น และใช้งานเป็นเวลาถึง 112 ปี
จนกระทั่งโบสถ์สีแดง สร้างเสร็จ
จึงได้ย้ายการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาไปยังโบสถ์แดง ด้านล่าง
กอปรกับที่ทำการ สำนักงานต่าง ๆ อยู่ในบริเวณเดียวกัน

St. Paul Church หรือ โบสถ์เซ็นต์ปอล ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อีก

เสื่อมทรุดไปตามกาลเวลา
หลังคา หน้าต่าง สูญสลายไปตามวาระ
เหลือแต่โครงสร้างที่เป็นหินก้อนใหญ่ ๆ เท่านั้น .. ในวันนี้

ในภาพ .. นายดุ๊กพยายามแกะอักษรโปรตุเกสโบราณ บนแผ่นหิน
ยืนอยู่สักพักใหญ่ ส่ายหัวกลับมา บอกว่า .. อ่านไม่ออกครับ ..