◄◄◄ << เมียงู >>►►► .. Life is Beautiful ..

[swsm]

จ๊ะเอ๋กับรูปปั้นจำลอง (copy) ของหนุ่ม David .. แกยืนเปลือยกายล่อนจ้อนแบบไม่รู้สึกหนาวเลยค่ะ  พี่น้อง   

[swsm]

เขาบอกว่า .. เป็นชายหนุ่มที่รูปงามที่สุดในโลก .. (แต่หยีว่าน้อยกว่าพี่ปี๊ดนิดส์นึง) ..   




หนุ่มหล่อ VS สาวสวย ..

[swsm]

ของที่ระลึกสุดทะเล้น ..   






แม่ลูกคู่ทะเล้น ..   

[swsm]

นักแสดงเปิดหมวก .. อุ๊ย .. เปิดกล่องกีต้าร์ ร้องเพลงสากลให้นักท่องเที่ยวได้ฟังกัน

แต่ไม่เห็นมีใครเดินลงไปหยอดเหรียญเลย
เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่บนยอดเขา  ส่วนเธออยู่ต่ำลงไปไม่น้อย .. เราใช้กล้องซูมค่ะ

[swsm]

กับซุ้มขายของที่ระลึก .. ยืนถ่ายรูปเฉย ๆ ไม่ได้ซื้ออะไรค่ะ    

[swsm]

รูปนี้ลูกชายตั้งใจถ่ายให้เป็นขาวดำ .. ก็สวยดีนะคะ   

[swsm]

ใช้เวลาบนยอดเขาไม่นานค่ะ  .. ประมาณ 30-40 นาที

ต่อจากนั้น Mr.Noel พาเราลงไปในเมือง Florence ขับวนให้เราชมเมืองโดยรอบ พร้อมแนะนำว่าอะไรอยู่ที่ไหน
ก่อนจะส่งเราที่โรงแรม และเขาก็ตีรถกลับ Rome เลยในคืนนั้น
แยกย้ายจากเราประมาณหกโมงเย็น  กว่าจะกลับถึง Rome ก็คงดึกหน่อย
อาแปะทิปไป 100 ยูโร .. แกยิ้มออกนอกหน้าเลย

เราพักที่โรงแรม Ascot ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 150 เมตร
เดินถึงได้แบบสบาย ๆ
บ่ายวันพรุ่งนี้ เราจะขึ้นรถไฟต่อไปเมืองอื่นค่ะ

[swsm]

เพราะมีเวลาอยู่ที่เมือง Florence เพียงเย็นวันนั้นและเช้าวันรุ่งขึ้น
วางกระเป๋าในห้องพักเสร็จแล้ว  เราก็ตระเวนเมืองทันที

จุดแรกที่ไปคือ .. สะพานข้ามแม่น้ำ Arno ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของเมือง
เขาปิดสะพานแห่งหนึ่งให้เป็น walking street
มีร้านขายของมากมายให้เราตื่นตา ตื่นใจ ..

[swsm]

[swsm]

ผ่านร้านขายของกิน .. เดาสิคะว่า ใครเป็นคนชวนให้จอดแวะชิม ..   




ใช่แล้วค่ะ .. นังหนูจอย   

[swsm]

ส่วนร้านนี้ .. อาแปะชี้ชวน อยากทาน
อย่าเลยค่ะ มีแต่ของหวาน ๆ เดี๋ยวน้ำตาลกระฉูด

[swsm]

เดินมาเรื่อย ๆ ไม่มีเหนื่อยกันล่ะ  เพราะอากาศเย็น สบาย
พบเห็นศิลปินริมทางที่น่าสนใจมาก 2 คน

ศิลปินวาดภาพเหมือนด้วยช็อกสี (chalk) .. น่าทึ่งมาก 
เพราะสามารถวาดภาพสวยภายใต้แสงที่สลัวสุด ๆ
แสงที่ได้มาจากเสาไฟฟ้าบนทางเท้าเท่านั้นเอง

[swsm]

สาวญี่ปุ่นคนนี้ วาดภาพโมนาลิซาค่ะ ..

เราเข้าไปคุยด้วย  เธอเล่าว่าที่วาดไปเนี่ย  พรุ่งนี้เช้าภาพก็ลบหายไป
ไม่ว่าจะโดนฝน หรือโดนรถวิ่งทับ สีของช็อกก็เลือนหมด
วันต่อมา  ก็กลับมาวาดอีก .. เป็นความสุขที่ได้วาด

เราแอบมองเหรียญในกล่องที่นักท่องเที่ยวใส่ไว้ เพื่อแสดงความชื่นชมในฝีมือ .. อืมม์ .. ไม่น้อยเหมือนกัน

[swsm]

เดินเล่นกันพอเพลิน  แล้วชวนกันทานบะหมี่ร้อน ๆ ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นริมทางเดิน ซึ่งปรุงโดยคนจีน
รสชาติบอกไม่ถูกว่าเป็นอาหารญี่ปุ่นหรืออาหารจีน  
ลูกสาวบอกว่า บะหมี่สำเร็จรูปมาม่าอร่อยกว่า
แต่ที่ถูกใจคือ  น้ำซุปร้อนจัด ในยามอากาศหนาวเย็น .. อุ่นวาบทั้งกาย

คืนนั้น กลับเข้าที่พัก  นอนหลับสบายค่ะ    

[swsm]

Day 5 ..


วันรุ่งขึ้น .. หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว   เราก้าวเท้าออกจากโรงแรมในเวลาแปดโมงตรง
เดินมุ่งหน้าไปยัง Piazza del Duomo หรือจตุรัสหน้ามหาวิหาร
เพื่อเตรียมตัวเข้าชมมหาวิหารของเมือง Florence ที่มีชื่อว่า Florence Cathedral




ส่วนอาคารสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ สูง ๆ นั้นคือ หอนาฬิกา Giotto's bell tower  ค่ะ    

[swsm]

ข้าพเจ้ากับประตูมหาวิหาร   

[swsm]

[swsm]

ถัดจากมหาวิหารไปประมาณ 5 นาทีเดินด้วยเท้า ..
เราก็พบเห็นหนุ่มหล่อ David อีกครั้ง
รูปปั้นนี้  ยังคงเป็นรูปจำลอง  แต่ที่พิเศษหน่อยก็คือ รูปปั้นนี้วางในตำแหน่งเดิมที่ David ตัวจริงเคยอยู่

[swsm]

[swsm]

โถ .. พ่อเดวิดผู้น่าสงสาร   

[swsm]

บริเวณโดยรอบ David the Statue เราเห็นมี 'open air museum' อยู่ใกล้ ๆ
รูปปั้นที่อยู่ในนั้น  สวยทุกรูปค่ะ

ชอบมองในส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อค่ะ  เหมือนจริงมาก  

[swsm]

[swsm]

วิวของเมือง Florence ในยามเช้าที่ยังไม่มีผู้คนมากนัก
เด่นที่สุดในภาพคือสะพานและแม่น้ำ Arno อันเป็นแม่น้ำหลักของเมือง และของแคว้น Tuscany

[swsm]

กุญแจทองคล้องใจใน Florence   

[swsm]

More love locks ..