26 พฤศจิกายน 2567, 18:51:01
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 69 70 [71] 72 73 ... 1883   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ◄◄◄ << เมียงู >>►►► .. Life is Beautiful ..  (อ่าน 7703939 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 12 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #1750 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 11:05:15 »

ดีมากเลยคัรบพี่พศินน์
ผมขอสนับสนุนอีกหนึ่งเสียงคับ
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #1751 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 11:08:30 »

คุณน้องพศินน์คะ ..
นั่นแหละคือสิ่งที่พี่ต้องการเลยล่ะ
แต่ลำพังพี่คนเดียว .. คงเก็บรายละเอียดเนื้อหามาเล่าได้ไม่ครบ

พี่ เพื่อน น้อง ทุกท่าน .. ต่างมีส่วนในการเติมต่อเพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหา
ช่วยกันคนละไม้ ละมือ
เราก็จะได้อาหารสมองที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น

ขอบคุณที่ติดตามและร่วมแจม ..

ออกุนเจริญจ้า .. ขอบคุณมากค่ะ .. ภาษาเขมร
   

หึหึ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #1752 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 11:37:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 11 พฤษภาคม 2552, 20:20:27
เคยถาม "ผู้รู้" ที่อยู่ในพนมเปญว่า ..
เขมรแดงจะรู้ได้อย่างไร  ว่าควรจะเอาใครมาเพื่อรีดหรือเค้นความลับ ..

เพราะบางทีอาจเป็นชาวบ้านธรรมดา  ที่ไม่เข้าข้างใครก็ได้
(เหมือนกลุ่มคนที่ไม่เหลือง ไม่แดง ในบ้านเราอ่ะค่ะ)

คำตอบที่ได้คือ .. เขาจะเลือกคนที่เรียนสูง  ทำงานดี
เป็นครู เป็นหมอ เป็นวิศวกร
เพราะพวกนี้  หากไม่ยอมร่วมเป็นพวกเขมรแดง
ก็ถือว่าเป็นศัตรูที่อันตรายมาก ..

"เนื่องจากมีความฉลาดและสติปัญญาเป็นอาวุธ"

ดังนั้น .. จึงขอเลือกเอาคนเรียนดี ทำงานดี หรือคนหน้าตาฉลาด ๆ มาก่อน
หากไม่ยอมเข้าเป็นพวก  ก็ฆ่าให้หมด
เหลือแต่กลุ่มที่ไม่ค่อยฉลาด คิดไม่เป็น ..
ซึ่งน่าจะจูงจมูก .. เอ๊ย .. ชักจูง ได้ง่ายกว่า !!

แหม .. อารมณ์ของการเมืองไทยมันโผล่มาแบบแว้บ ๆ อ่ะค่ะ .. ขอโต้ด
   เหนื่อย




ปิ๊งๆ   หยิบมาจาก วิกิพีเดีย .. ตามที่น้องพศินน์แนะนำ


"สิ่งแรกที่เขมรแดงกระทำหลังจากได้รับอำนาจ คือ
การกวาดต้อนประชาชนกัมพูชาทั้งหมดจากกรุงพนมเปญและเมืองสำคัญอื่น ๆ
มาบังคับให้ทำการเกษตรและใช้แรงงานร่วมกันในพื้นที่ชนบท

เพื่อจำแนกประชาชนที่ถือว่าเป็น "ศัตรูทางชนชั้น"
ไม่ว่าจะเป็น ทหาร ข้าราชการ เชื้อพระวงศ์ ผู้มีการศึกษา
หรือผู้มีวิชาชีพเฉพาะในด้านต่าง ๆ ออกมา เพื่อขจัดทิ้ง


การกระทำดังกล่าวนี้ ส่งผลให้ประชาชนชาวกัมพูชาต้องเสียชีวิตจากการถูกสังหาร
ถูกบังคับใช้แรงงาน และความอดอยาก
เป็นจำนวนประมาณ 850,000 ถึง 3 ล้านคน
ซึ่งเมื่อเทียบอัตราส่วนของประชาชนที่เสียชีวิตต่อจำนวนประชาชนกัมพูชาทั้งหมดในขณะนั้น
(ประมาณ 7.5 ล้านคน ในปี พ.ศ. 2518)

ถือได้ว่าระบอบการปกครองของเขมรแดง
เป็นหนึ่งในระบอบที่มีความรุนแรงที่สุดในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20"


      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1753 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 12:13:58 »

สวัสดีครับ คุณน้องหะยี
                ขอบคุณที่แนะนำให้มาที่นี่  พี่สิงหืเลยนั่งอ่าน ท้าวความตามที่เธอโพสต์เอาไว้ ขอเพิ่มเติม ตามโอกาสก็แล้วกันครับ
      บันทึกการเข้า
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1754 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 12:31:47 »

                 เขมรสมัยที่พี่สิงหืไปครั้งแรก  ก่อนกลับคุณไพบูลย์  ผู้จัดการ SCT กัมพูชา พาไปไหว้พระที่วัดในตัวเมือง ตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆ หลวงพ่อวัดนี้ศักดิ์สิทธิ์ คุณไพบูลย์บอกว่า ถ้าใครมาไหว้หลวงพ่อ  จะต้องเดินทางกลับมาอีก  ก็เป็นดังว่า พี่สิงห์เดินทางไปกัมพูชา จนนับไม่ได้ว่าไปกี่ครั้ง ครับ คุณน้องหะยี  ช่วยบอกด้วยว่าชื่อวัดอะไรและมีรูปไหมครับ

                  อีกสิ่งหนึ่งที่พี่สิงห์พบเห็นคือ เนื่องจากประชาชนยากจน รัฐบาลก็ไม่มีสตางค์ ข้าราชการก็ไม่มีเงินเดือน ต้องหาเอาเอง ดังนั้นโจรจึงชุกชุมมาก เพราะไมมีจะกิน งานไม่มีทำ ประชาชนเขมรจะปลูกกระท่อมอยู่ตามริมถนน  ส่วนในแม่น้ำโขงนั้น อดีตทหารเวียตนามที่ไม่ยอมกลับประเทศ ก็ไปพาครอบครัวมายึดอาชีพประมงในแม่น้ำโขงซึ่งปลาชุกชุมมาก

                  สำหรับกลางคืน ตามไนท์คลับหรือดีสโกเทค และร้านอาหาร จะมีสาวเขมรและเวียตนามมาขายบริการจำนวนมากราคาประมาณ 20 ดอลล่า และตามซ่องมีชาวเวียตนามอายุ 15-18 ปี มาขายตัวจำนวนมาก แต่พี่สิงห์มิกล้าที่จะแตะต้องเพราะกลัวและเด็กเกินไป  ไปดูเพื่อการเรียนรู้เท่านั้น เพราะทุกคนไม่รู้จะทำอะไรกินกันยากจนมาก จนมาขายตัวซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายได้เงินเร็จ แต่ตกนรกทั้งเป็น และสภาพไม่น่าดู  ซึ่งปัจจุบัน อาชีพขายบริการในเขมรมีมาก มีทั้งสาวเขมร เวียตนามและจีน เต็มไปหมด มีเกือบทุกโรงแรม และบางครั้งก็อยู่ในรูปของหมอนวด

                  สมันนั้นชาวมาเลียเซียนิยมจะมาทางสายของเจ้ารณฤทธิ์  มาจอดเรือริมแม่น้ำโขงเปิดเป็นบ่อนกลางกรุงพนมเปญ  ปัจจุบันก็ยังอยู่และขึ้นบนบกด้วย  คุณ Nancy เคยถามผมว่า  ดูซิคุณมานพ   แปลกดีบ่อนกับรัฐสภาหลังใหม่ที่สง่างามอยู่ติดกันเลย สามารถเดินติดต่อกันได้ไม่อยาก แปลกพิลึก  สำหรับบ่อนพี่สิงห์เดินไปชมเฉยๆ ไม่เล่นการพนันเพราะมีแต่เสียจึงไม่ขอเล่น  โดยมีทหารถือปืนคุมอยู่

                    อาหารกลางวันที่โรงแรมโรแยลพนมเปฯก่อนถูกเผา อร่อยดี ครับ
      บันทึกการเข้า
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1755 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 12:47:24 »

  ครั้งที่สองที่พี่สิงห์ไปก็นามมาแล้ว  ที่ไปช่วย คุณ Kim ชาวเขมรที่เคยไปอยู่อเมริกาและกลับมาเขมรอีก คุณ Kim เป็นคนแก่(อายุมากกว่า 70 ปี)ที่น่านับถือ มีใจรักในการพัฒนาเขมร  สามารถเข้าออกในรับบาลได้  สามารถไปพบนายกฮุนเซนได้  แก่เคยบอกพี่สิงห์ว่า ถ้ามีความจริงใจกับเขมรไม่หาผลประโยชน์มากเกินไป แกพาไปพบนายกฮุนเซนได้  และนายกยินดีให้ความสะดวกทุกอย่าง  บังเอิญพี่สิงห์ไม่ใช่นักลงทุนเป็นแต่นักคิดนักทำและนักช่วยเหลือ เลยไม่ได้ลงทุนอะไร เพียงแค่ให้คำปรึกษากับ คุณ Kim และ คุณ Nancy ตามที่เขาต้องการเท่านั้น

                   เมื่อสองปีที่แล้ว คุณ Kim ต้องการทำไม้หมอนคอนกรีตอัดแรงสำหรับรถไฟเขมร  ไม่ได้บอกพี่สิงห์ล่วงหน้าเลย อยู่ คุณ Kim ก็พาพี่สิงห์ไปพบรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องการวางรางรถไฟเขมร เป็นคนหนุ่ม จบ ดร.จากผรั่งเศษ อัฒยาศัยดีมาก  พี่สิงห์ตกใจเพราะไปกันสองคน เมื่อไปถึงรุฐมนตรียังไม่กลับ คุรแม่ของรัฐมนตรีมาต้อนรับ และพาไปนั่งห้องรับแขก ผมจึงรู้เลยว่า คนเขมรเขามีประเพณีการต้อนรับแขกที่ดีกว่าคนไทยอีก มานั่งสนทนาด้วยอย่างดีด้วยไมตรีจริงๆ พอท่านรัฐมนตรีมาถึงเราก็คุยกันเรื่องไม่หมอนรถไฟที่ คุณ Kim อยากทำมาก ผมภาษาอังกฤษก็ไม่เก่ง ไหนๆก็ไหน ก็คุญไปเขาก็ฟังรู้เรื่อง  ผมก็อธิบายถึงการทำอย่าเอาประเทศไทยเป็นต้นแบบ เพราะรถไฟไทยไม่เจริญเพราะ เราไม่สามารถวางรางรถไฟได้เร็วเพราะ ของไทยไปวางสเปคกันเลอเลิศ  จนใครลงทุนไม่ได้  ต้องเจ้าเดียวเท่านั้น แลราคาแพงมากๆ เกินจริงเพราะวางสเปคให้ทำได้คนเดียว ผลรถไฟไทยไม่มีสตางค์จะซื้อขยายไม่ได้ แม้แต่รุ่นพี่หอ ผมยังไม่กล้าคุยเรื่องนี้เลยเพราะเงินมันปิดทางไว้  ผมบอกให้เขาอย่าทำอย่างไทย เขาก็รับฟังเราแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องไม้หมอนรถไฟกันอยู่นานสองชั่วโมง  ผมมานึกดูเวลาขับขันเราก็เอาตัวรอดได้แฮะไอ้ภาษาอังกฤษที่เคยได้ F สมัยปีหนึ่ง  แต่บัดนี้เขมรก็ยังไม่มีไม้หมอนรถไฟครับ เพราะไม่มีเงินแบมือขอฟรีอย่างเดียวครับ  แต่ คุณ Kim แกก็ยังตามโครงการนี้อยู่ ครับ
      บันทึกการเข้า
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1756 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 12:57:57 »

ตอนที่ผมไปเขมรใหม่ๆ คุณ Kim และคุณ Nancy  จะพาผมไปรับประทานอาหารตามร้าน เช่น อาหารทะเล  อาหารจีน และอาหารยุโรป อาหารยุโรปจะอยู่ถนนสายที่ผ่านพระราชวัง ริมแม่น้ำโขงเป็นแดนนักท่องเที่ยวเลย อาหารฝรั่งเศษดีๆทั้งนั้นและแพง  ตอนหลังผมเลยบอกว่าขอกินข้าวบ้านดีกว่า เพราะแม่ครัวที่บ้านคุณ Kim ทำอาหารเขมรอร่อยมากและส่วนใหญ่เป็นปลาเพราะเขารู้ว่าพี่สิงห์ชอบปลา เขาก็ทำเอาใจพี่สิงห์  พี่สิงห์ต้องสอนให้คุณ Nancy และ คุณ Kim สามารถออกแบบ ส่วนผสมคอนกรีต  ออกแบบเสาเข็ม ออกแบบเสาไฟฟ้า และออกแบบแผ่นพื้นสำเร็จได้  โดยพี่สิงห์ทำโปรแกรมไว้ให้  ดังนั้นพี่สิงห์  ไม่ใช้คุย  เสาไฟฟ้าในเขมรนั้นพี่สิงห์เป็นคนออกแบบเองแหละ เพราะโรงงานคอนกรีตอักแรงที่ใหญ่ทำเสาไฟฟ้า มีแห่งเดียวครับ คือ ของคุณ Kim ยี่ห้อ KC ครับ  ดังนั้นใครจะซื้อเสาเข็ม แผ่นพื้น  เสาไฟฟ้าในเขมร  พี่สิงห์แนะนำให้ได้ครับ
              แม้แต่เสาไฟฟ้า 22.00 m. ที่เชื่อมจากปอยเปตไปเสียมเรียบ พี่สิงห์ก็เป็นคนออกแบบ ครับ แต่ซื้อจากเมืองไทย ครับ
      บันทึกการเข้า
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1757 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 13:13:17 »

คุณน้องหะยี
                 ครั้งแรกที่พี่สิงห์เข้าไปในเขมรนั้น  พี่สิงห์ไปดูสถานที่ ที่จะวางเสาไฟฟ้าแรงสูงจากโรงไฟฟ้าที่จะก่อสร้างใหม่ ซึ่งตอนนั้นไม่มี สถานที่อยู่ไม่ไกลจาก Killing Field เลย พี่สิงห์เลยถือโอกาสไปที่ Killing Field ไปถึงมีชาวเขมรที่เคยอยู่ในเหตุการณ์เป็นมุคคุเทศน์พาชมสถานที่และพิพิธภัณณ์กะโหลกมนุษย์  พี่สิงห์เห็นแล้วรู้สึกสลดใจ   สังเวช และห่อเหี่ยวมาก  เป็นสิ่งที่ไม่ควรจดจำเลย หรือมนุษย์ที่เป็นชาวพุทธ  ไม่ควรทำเลย จริงๆ และไม่เคยไปอีกเลย

                 ปัจจุบันใครว่าเขมรจนผมไม่เชื่อ เพราะท่านลองไปพนมเปญใหม่ซิครับ จะเห็หมู่บ้านจัดสรรค์ราคาไม่ต่ำกว่าสิบล้านบ้าน ขึ้นเป็นจำนวนมาก  ต้องเป็นคนมีสตางค์ครับ  ประเทสไทยขายวัสดุก่อสร้างไปเขมรมากทุกปีครับ  ตัวเมืองขยายมาก  มีชาวเกาหลีมาลงทุนทำเมืองใหม่ จนปัจจุบันโรงงานคุณ Kim ที่อยู่ริมแม่น้ำโขงต้องปิดเพราะขายที่แพงกว่า สามารถมีเงินไปสร้างใหม่ได้ เลยย้ายโรงงานไปตั้งใหม่ใหญ่กว่าเก่า ส่วนที่เดินพัฒนาไปทำอย่างอื่นดีกว่าเพราะที่ดินบริดวณนั้นดีมากๆๆ ครับ ผมเองยังชอบเลยเพราะไม่ไกลจากตัวเมือง อยู่ริมแม่น้ำโขง

                  เมื่อก่อน คุณ Kim เคยถามผมเลยว่า มาอยู่เขมรไหม  ผมบอกว่าได้แต่ต้องหาสาวมาคอยหุงข้าวให้ผมกินด้วยถึงจะอยู่ได้ เพราะไม่สามารถไปหาข้าวกินได้ ครับ และผมพูดเขมรไม่เป็น  คนเขมรเป็นคนที่นิสัยดี  เป็นกันเอง และใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใสครับ หรืออาจจะเป็นเพราะผมให้ความรู้ต่อเขา เขาจึงดีกับผมทั้งคนงานและโฟร์แมนในโรงงาน ครับ วันนี้ขอจบแค่นี้ไว้จะมาเขียนใหม่ ครับ ขอบคุณที่ติดตาม
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #1758 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 13:43:23 »

ขอบคุณครับ......พี่สิงห์

จะติดตาม...รอ...ตอนต่อไปครับ
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #1759 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 14:53:39 »

ขอบคุณเช่นกันค่ะ .. พี่สิงห์

โอกาสหน้าหากคุณ Kim โทรมาชวนพี่ไปกัมพูชาอีก .. พี่ก็ชวนหะยีต่อด้วยสิคะ ..
อยากกลับไปเยี่ยมบ้านเมืองเขาเหมือนกัน
 

รักนะ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #1760 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 15:35:55 »

ยอมไม่ได้จริงๆ...กระทู้ Killing Field จะมาฮิตกว่ากระทู้ Anfield ได้ไง
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #1761 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 16:32:52 »


มารู้จักเขาสักหน่อยดีไหม?

เขาชื่อ......พอล พต
      บันทึกการเข้า
พศินน์
Full Member
**

ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2535
คณะ: วิศวฯ
กระทู้: 511

« ตอบ #1762 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 16:34:12 »

อ้างถึง
ข้อความของ manopkd เมื่อ 12 พฤษภาคม 2552, 13:13:17
คุณน้องหะยี
                 ครั้งแรกที่พี่สิงห์เข้าไปในเขมรนั้น  พี่สิงห์ไปดูสถานที่ ที่จะวางเสาไฟฟ้าแรงสูงจากโรงไฟฟ้าที่จะก่อสร้างใหม่ ซึ่งตอนนั้นไม่มี สถานที่อยู่ไม่ไกลจาก Killing Field เลย พี่สิงห์เลยถือโอกาสไปที่ Killing Field ไปถึงมีชาวเขมรที่เคยอยู่ในเหตุการณ์เป็นมุคคุเทศน์พาชมสถานที่และพิพิธภัณณ์กะโหลกมนุษย์  พี่สิงห์เห็นแล้วรู้สึกสลดใจ   สังเวช และห่อเหี่ยวมาก  เป็นสิ่งที่ไม่ควรจดจำเลย หรือมนุษย์ที่เป็นชาวพุทธ  ไม่ควรทำเลย จริงๆ และไม่เคยไปอีกเลย

                 ปัจจุบันใครว่าเขมรจนผมไม่เชื่อ เพราะท่านลองไปพนมเปญใหม่ซิครับ จะเห็หมู่บ้านจัดสรรค์ราคาไม่ต่ำกว่าสิบล้านบ้าน ขึ้นเป็นจำนวนมาก  ต้องเป็นคนมีสตางค์ครับ  ประเทสไทยขายวัสดุก่อสร้างไปเขมรมากทุกปีครับ  ตัวเมืองขยายมาก  มีชาวเกาหลีมาลงทุนทำเมืองใหม่ จนปัจจุบันโรงงานคุณ Kim ที่อยู่ริมแม่น้ำโขงต้องปิดเพราะขายที่แพงกว่า สามารถมีเงินไปสร้างใหม่ได้ เลยย้ายโรงงานไปตั้งใหม่ใหญ่กว่าเก่า ส่วนที่เดินพัฒนาไปทำอย่างอื่นดีกว่าเพราะที่ดินบริดวณนั้นดีมากๆๆ ครับ ผมเองยังชอบเลยเพราะไม่ไกลจากตัวเมือง อยู่ริมแม่น้ำโขง

                  เมื่อก่อน คุณ Kim เคยถามผมเลยว่า มาอยู่เขมรไหม  ผมบอกว่าได้แต่ต้องหาสาวมาคอยหุงข้าวให้ผมกินด้วยถึงจะอยู่ได้ เพราะไม่สามารถไปหาข้าวกินได้ ครับ และผมพูดเขมรไม่เป็น  คนเขมรเป็นคนที่นิสัยดี  เป็นกันเอง และใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใสครับ หรืออาจจะเป็นเพราะผมให้ความรู้ต่อเขา เขาจึงดีกับผมทั้งคนงานและโฟร์แมนในโรงงาน ครับ วันนี้ขอจบแค่นี้ไว้จะมาเขียนใหม่ ครับ ขอบคุณที่ติดตาม


                ผมขออนุญาต ท่านพี่สิงห์เสริม ผมเข้าใจว่า ส่วนหนึ่งชาว เรือ (สมัยสงคราม) เดี๋ยวนี้ กลายเป็นเศรษรฐี ที่มาจาก อเมริกา หรือยุโรบ กลับมาลงทุน หรือ ดึงเอานักลงทุน กลับมาประเทศ ตัวเอง.. เพราะเข้าใจว่ารัฐบาล ของกัมพูชา หรือแม้แต่เวียดนามเอง ก็คลายความกังวล ด้านการเมือง พอสมควร กรณีเวียดนาม จะมี เวียตเกียว (oversea vietnamease) ส่งเงินกลับมาให้ ญาติๆๆ หรือกลับมาซื้อบ้านซื้อที่ดิน หรือกลับมาลงทุนเป็น อันมาก ประเทศเหล่านี้ไม่ได้ยากจน เพียงแต่ที่ผ่านมาเขา ประสปปัญหาเรื่องการเมือง และต้องทรมาน กับสงคราม ที่ฆ่าคน ชาติเดียวกันมาตลอด ผืนดินที่อุดมสใบูรณ์ ทรัพยากรที่มีมากมายมหาศาล เตรียมพร้อมสำหรับ การพัฒนามาก ประเทศไทยเสียโอกาส หลายอย่าง เพราะว่า นักลงทุนไทย ไม่ได้จริงใจ กับพวกเขาทั้งที่ควร ไปเอาเปรียบ หรือ เอากำไรระยะสั้น  หรือแม้แต่คนไทยด้วยกันเอง ก็จะโดน คนไปก่อน เอาเปรียบกัน
      บันทึกการเข้า

sound mind in sound body
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #1763 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 16:35:58 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 12 พฤษภาคม 2552, 15:35:55
ยอมไม่ได้จริงๆ...กระทู้ Killing Field จะมาฮิตกว่ากระทู้ Anfield ได้ไง

ยังไม่ถึง Killing Field สักหน่อย ..
เพียงแค่ Toul Sleng ในกรุงพนมเปญนะคะ

ส่วน Killing Field น่ะ .. จะนับให้เป็นอีกหนึ่งตอนค่า

อาราย .. เริ่มโวยวายแล้วเหรอคะ พี่ป๋อง
ผลัดกันฮิตติด chart ก็แล้วกันนะคะ ..
เหมือนสมบัติผลัดกันชม .. คริคริ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #1764 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 16:36:38 »

ประวัติ ของ พอล พต (Pol Pot)



วันที่ 19  เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2468 หรือ เมื่อ 84 ปีก่อน
ด.ช. ซาโล้ธ ซาร์ (Saloth Sar)
ได้ลืมตาขึ้นมาดูโลก.......ณ. เมืองกำปงธม, กัมพูชา
ขณะนั้น....ไม่มีผู้ใดรู้จักและสนใจ
กระทั่งอีก 50 ปีต่อมา...........
เขากลายเป็นฆาตรกรโหด....ชื่อ พอล พต (Pol Pot)
ผู้นำของฝ่ายเขมรแดง
ที่ใช้อำนาจเผด็จการปกครองกัมพูชา ระหว่างต้นปี พ.ศ. 2518 ถึงต้นปี พ.ศ. 2522
เขาเป็นต้นเหตุ และ ตัวการ ที่ทำให้คนเขมรเสียชีวิตอย่างน้อย 2ล้านคน ในช่วงเวลา 4-5 ปี ที่เขมรแดง เรืองอำนาจ
พอล พต เสียชีวิต เมื่อ วันที่ 15 เดือน เมษายน พ.ศ. 2541  อายุรวม 73 ปี
        
      ทุกวันนี้...ผู้ที่ยังจงรักภักดีต่ออดีตผู้นำก็จะไปจุดธูปเทียน ทำบุญกรวดน้ำ
และ บางคนก็ไปขอหวย ณ.ศาลเพียงตา มุงหลังคาสังกะสี ที่ทำขึ้นครอบหลุมฝังศพของเขา      
      หลุมฝังศพนั้นอยู่ในเขต อ.อันลองแวง (Anlong Veng) จ. อุดรมีชัย (Oddor Meanchey)
อยู่ห่างจากชายแดนไทยด้านช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ไปอีกเพียงประมาณ 2 กิโลเมตร
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #1765 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 16:36:58 »

บทสุดท้าย......ของผู้เคยมีอำนาจล้นฟ้า



ตาย














เผา






หลุมศพ







      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #1766 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 16:41:46 »

เรื่องฐานะทางเศรษฐกิจของชาวกัมพูชา
หะยีว่า .. ค่อนข้างเหมือนเมืองไทยนะคะ
คือ gap ระหว่างคนรวยมาก กับ คนจนมาก .. ค่อนข้างกว้าง

คนระดับกลางก็พอมีเป็นกลุ่มเล็ก ๆ  ที่สามารถประคับประคองชีวิตไปได้

คนรวยมักจะเป็นผู้ที่มีโอกาสเข้าถึงนักการเมือง เพื่อหาลู่ทางทำธุรกิจ
หรือรับสัมปาทานจากรัฐบาลมาดำเนินการ
อย่างเช่น เพื่อนพี่สิงห์ (Mr. Kim) ที่เข้าหารัฐมนตรีนั่นล่ะค่ะ
   

หึหึ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #1767 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 16:49:41 »

ในระยะแรก .. นักธุรกิจที่เข้าไปลงทุนมีเพียงไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์

นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จที่สุดของไทย  คงจะหนีไม่พ้น
เจ้าของยาแก้ปวด ลดไข้ ทิฟฟี่ ..  ซึ่งเป็นคนหนุ่ม น่ารัก และขยันมาก
อายุมากกว่าหะยีไม่น่าจะเกิน 3 ปี (รุ่น ๆ พี่หนุนนี่ล่ะ)

นอกจากนั้น ยังเป็นเจ้าของโรงแรม Royal  Phnom Penh ที่พี่สิงห์กล่าวถึงด้วย

โรงแรมนี้  นอกจากจะอาหารไทยอร่อยมากอย่างที่พี่สิงห์บอกแล้ว
คนโสดที่มาทำงานในพนมเปญ หลายคนไม่ไปเช่าบ้านอยู่ข้างนอก
แต่เลือกการเช่าโรงแรมนี้อยู่ระยะยาว

และเคยมีโอกาสได้ใช้เป็นที่หลบภัยร่วมกันด้วยค่ะ ..
   

รักนะ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #1768 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 17:02:51 »

วกกลับเข้าเรื่องเศรษฐกิจต่อ ..

อย่างเช่นที่น้องพศินน์เล่าน่ะค่ะ  นักธุรกิจกัมพูชาก็เหมือนนักธุรกิจทั่วไป
จังหวะที่ไม่ควรลงทุน  ก็หลบ
จังหวะที่สดใสน่าลงทุน  ก็มา

ในปี 1992 -1993 (หรือ 15-16 ปีที่ผ่านมา)
หะยีเช่าบ้านอยู่ 1 หลัง
เป็นบ้านคอนกรีต 2 ชั้น ..เนื้อที่ประมาณ 80 ตรว.
ไม่มีตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ใด ๆ ทั้งสิ้น .. เช่าบ้านเปล่า

ราคาเดือนละ 4,000 USD
ขณะนั้น  1 USD มีค่า 25 บาทพอดี ..
เท่ากับว่าหะยีเช่าบ้านเดือนละ 100,000 บาท (อ่านว่าหนึ่งแสนบาท)

เป็นบ้านปูนที่ไม่เก่า ไม่ใหม่ ไม่ทาสี ..
ลองนึกภาพอาคาร Toul Sleng แบบย่อส่วนน่ะค่ะ
หน้าตาคล้าย ๆ กัน

บ้านนี้ .. เจ้าของบ้านยอมออกไปสร้างเพิงอยู่ริมน้ำ (ลุกล้ำที่สาธารณะ)
เพราะเงินค่าเช่าที่เราจ่ายให้
หากเขาต้องแลกกับการทำงาน .. ก็ไม่รู้ว่าจะได้เห็นเงินจำนวนนี้ในอีกกี่ปี

ตอนนั้นทุกอย่างใช้จ่ายด้วยเงิน USD ทั้งสิ้น
ค่าอาหารตามโรงแรม ..
ค่าน้ำ (ที่สีแดงแจ๋ และไม่ค่อยไหล) ..
รวมทั้งค่าไฟ (สว่าง 1 วัน ดับ 5 วัน) ..

ก็ต้องจ่ายเป็น USD ทั้งหมด
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #1769 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 17:07:57 »

อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 12 พฤษภาคม 2552, 16:36:58
บทสุดท้าย......ของผู้เคยมีอำนาจล้นฟ้า

ตาย

เผา

หลุมศพ


พี่แหลม .. พอลพตตายสบายจังเลยเนอะ ว่ามะ

อยู่ ๆ ก็นอนตายไปซะเฉย ๆ ..
ไม่ได้เจ็บปวด ทุกข์ ทรมานเหมือนที่เขาทำกับเหยื่อเลยอ่ะ
   

เค้าไม่ยอม

      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #1770 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 17:10:51 »

      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #1771 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 18:15:29 »

น้าตาแทบไหล หลังจากดูหนังเรื่องคิวลิ่งฟิว จบ
เพิ่งดูจบตะกี้ โอววว  ..มนุษยชาติ
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #1772 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 20:08:09 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 11 พฤษภาคม 2552, 22:02:15
เขียนเรื่อง โตว สเลง เพียงไม่กี่ reply
แต่ทำเอาแฟนเมียงูหายโหมดดดด   รับกันไม่ได้เลยรึไงจ๊ะ ..

อิอิอิอิ
   เหอๆๆ
ใครบอกน้องหะยีว่าหายหมด  อ่านแล้วน่าติดตามจัง
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
เจตน์
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ใครๆเรียกผมว่า "กุ๊ปปิ๊"
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2534
คณะ: ครุฯ พลศึกษา
กระทู้: 6,520

« ตอบ #1773 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 20:17:04 »

อย่างพี่ตุ๋ยว่ามาแหละครับ ไม่หายไปไหน ยังติดตามอ่านตลอด เพียงแต่ไม่มีข้อมูลจะแชร์แค่นั้นเองครับ ปิ๊งๆ
      บันทึกการเข้า

ชีวิตผมเป็นดั่งวงกลม จึงได้แต่ดอมดมความสุขจากคนอื่นๆ
dtoy
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,076

« ตอบ #1774 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2552, 20:17:31 »

ขอบคุณค่ะพี่หยีที่กระซิบบอกต๋อยให้เข้ามาเยือน

ขอบคุณนะคะ  พี่ๆ และน้องๆ  ที่นำเสนอข้อมูลประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจยิ่ง

Toul Sleng ต๋อยเคยไป ๒ ครั้งเอง  ครั้งแรกทัวร์พนมเปญตอนไปอยู่ใหม่ๆ  และครั้งที่สองพาเพื่อนไป
มันสลดใจมากเลยไม่ถ่ายรูปอะไรไว้เป็นที่ระลึก

ขณะนั้นค่าครองชีพที่กัมพูชาสูงมาก  เพราะเงินเฟ้อ  ดอลล่าร์สหรัฐคือสิ่งที่ใครๆต้องการ  (นี่เป็นสิ่งหดหู่ใจอย่างหนึ่งของต๋อยในฐานะเพื่อนบ้านใกล้เคียง  ไทยเรามีความผูกพันกับกัมพูชาระดับหนึ่งในอดีต  ไม่ว่าด้านศาสนาฮินดู วัฒนธรรม สิ่งก่อสร้างที่หลงเหลือประปรายอยู่ตามที่ราบสูงของไทยเรา)

ค่าเช่าบ้านแพงมาก บ้านที่ต๋อยเช่าราคา ๒,๐๐๐ เหรียญสหรัฐ พร้อมจ่ายล่วงหน้าอีกหลายเดือน
จำได้ว่าเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง คล้ายบ้านในชนบทไทย  ทาสีแดง ตัดด้วยระเบียงสีฟ้าสด
๒ ห้องนอนเล็กๆ ห้องน้ำใหญ่กว่าสามีต๋อยนิดเดียว ห้องครัวอยู่ทำอาหารได้เพียงคนเดียว
สามีต๋อยเกิดแฟนซีบ้านแบบนั้น คงคิดว่าจะโรแมนติค  เพราะดูเป็นของพื้นเมืองจริงๆ
เลยขอเช่าเพื่อจะเซอร์ไพร์ซครอบครัว  เพราะต๋อยและลูกยังอยู่ที่เพิร์ธขณะนั้น  
  
อย่างพี่หยีว่า  ค่าน้ำ  ค่าไฟแพงพอๆกับทอง(เปรียบเปรยแบบฝรั่ง)  ค่าแม่บ้าน-ยาม ค่าเก็บขยะและอื่นๆ
ล้วนต้องจ่ายเป็นยูเอสในอัตราคนต่างชาติ
ชาวต่างชาติจึงเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจ  เพราะนั่นคือเงิน
การฉ้อโกงมีให้เห็นอย่างหน้าด้านๆ  ไม่รู้จักคำว่ายางอาย เพราะไม่มีใครสอน  รู้อย่างเดียวคือความอยู่รอด
ทั้งแม่บ้านและยามต่างจ้องจะหาโอกาสทุกเมื่อเพื่อตักตวง  ทั้งลักขโมย  ขี้ปลด ไม่มีคุณธรรมหลงเหลืออยู่
ตู้เย็นที่ส่งมาขายที่นี่ล้วนแต่มีกุญแจสำหรับล็อคกันขโมย
แต่เราไม่เคยใช้กุญแจ

คนกัมพูชารู้จักเมืองไทยดีกว่าคนไทยรู้จักประเทศเขา
ในแง่การเรียนรู้รอบตัวทั่วไป  ไม่ใช่จากตำราในห้องเรียน
เพราะเขาเฝ้าดู ติดตามจากสื่อทีวี  รู้ เข้าใจภาษาไทย
เขามีแรงขับที่สูงมาก  เพราะบาดแผลของสงครามนั่นเอง
เขาอยากเป็นเหมือนเมืองไทย  อยากเลียนแบบ
ข้าวของที่ส่งไปขายจากเมืองไืทย  จะดูมีราคากว่าที่อื่น
จามชาม Royal Porcelain ของไืทย ราคาแพงกว่า porcelain ของแท้จากฝรั่งเศส  คิดดู !!
 
จริงๆแล้วพื้นแท้ของคนกัมพูชามีจิตใจดี
หากแต่ชะตากรรมของประเทศผลักดันให้เป็นคนหยาบกร้าน  กร้าวร้าว  และเห็นแก่ตัวเพื่อการอยู่รอดดิ้นรน
ถ้่ามองสบตา  ทุกคนจะมีดวงตาที่เศร้าหมอง สะท้อนถึงสิ่งทึ่อยู่ภายใน
หากไต่ถามถึงพ่อแม่ญาติพี่น้อง  จะได้คำตอบเดียวกันคือ
หายสาบสูญบ้าง  ถูกจับไปฆ่าบ้าง อดอาหารตายบ้างหรืออื่นๆ  ไม่มีใครมีครอบครัวที่อบอุ่นอยู่พรั่งพร้อมหน้าตา

ต๋อยไม่ค่อยได้ออกสำรวจเมืองพนมเปญเท่าไหร่  เป็นเพราะเราต้องอยู่กับลูกตลอดเลา  มีเวลาให้ตัวเองวันละ ๓ ชั่วโมงตอนลูกไปโรงเรียน  ไปไหนก็กระเตงลูกไปด้วยน่าสงสารมาก  และลูกสาวก็มีผิวสีชมพู  แก้มแดงตลอดเพราะอากาศร้อน  สาวเขมรเห็นเข้าจะมาจับแก้ม(บิด)ทันทีแล้วร้องว่า   สะอ๊าด  แปลว่าน่ารัก  ลูกสาวตกใจมากและหลายต่อหลายครั้งจนเกิดความกลัวจับใจ  วันหนึ่งต๋อยไปตลาดขายผ้ากับลูก  เจอคนเร่เข้ามาจับแก้มทันที  ลูกสาวร้องไห้  ยัยแม่เลยสวมบทบู้ตรงเข้าหยิกแล้วบิดด้วยอารมณ์แล้วบอกว่า  ทำอย่างนี้กับเธอบ้างเจ็บไหม?  แม่สาวคนนั้นหน้าม้านไปเลย  ทำไปแล้วก็รู้สึกผิด  อดสงสารเขาไม่ได้  เขาแค่ชื่นชมลูกเรา  แม้วิธีการอาจจะไม่ถูกต้องตามหลักมารยาทสากลนัก  แต่ได้สร้างสิ่งหวาดกลัวฝังใจให้กับเด็ก

เบื่อหรือยังคะ?

ขอโฆษณาขั้นรายการด้วยค้าา พี่ตุ๋ย  น้องชัยหลอ  น้องเจตน์ อยู่หนาย?  
      บันทึกการเข้า

Live Your Dream   
  หน้า: 1 ... 69 70 [71] 72 73 ... 1883   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><