◄◄◄ << เมียงู >>►►► .. Life is Beautiful ..

[swsm]

สภาพทรุดโทรมขนาดนี้ ยากที่จะเยียวยา  


ประเด็นสำคัญ .. หอชวนชม รับนิสิตได้เพียง 198 คน
เพราะโครงสร้างเป็นตึกเตี้ย และยาว ซึ่งถือเป็นการใช้พื้นที่ไม่คุ้มค่าในสมัยปัจจุบัน
จึงได้มีโครงการที่จะรื้อตึกนี้ลงและสร้างตึกสูงขึ้นมาแทนที่
หอหลังใหม่ จะรับนักเรียนได้ 1,200 คน
นับว่าเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องการหาที่พักของนิสิตจุฬาได้มากทีเดียว


อาคารหลังใหม่  นอกจากจะมีพื้นที่สำหรับห้องพักนิสิตแล้ว
ยังแบ่งส่วนหนึ่งเป็นห้องพัก สำหรับให้เช่ารายวัน
ในกรณีที่ผู้ปกครองเดินทางจาก ตจว.มาเยี่ยมนิสิต หรือพี่เก่าเดินทางมาทำธุระใน กทม.
ก็สามารถเช่าพักได้ รายวัน ไม่ต้องเดือดร้อนไปเช่าโรงแรมราคาแพงข้างนอก

และมีส่วนหนึ่งที่กันไว้เป็นห้องอเนกประสงค์ เป็นห้องออกกำลังกาย และเป็นห้องอาหารสำหรับนิสิตด้วย

[swsm]

ในแผ่นพับของโครงการฯ ได้เขียนถึงที่มาที่ไปของการรื้อถอนหอชวนชม
และสร้างอาคารหลังใหม่ขึ้นมาทดแทน .. ว่า


"หอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ..
ครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านหลังน้อยที่ให้ความอบอุ่นแก่เด็กนักเรียนจากทุกพื้นที่ของประเทศ
ให้ได้ใช้เป็นแหล่งพักพิงในช่วงเวลาที่ศึกษาอยู่ในรั้วจามจุรี  

ชายคาบ้านหลังนี้คุ้มแดด คุ้มฝน คุ้มภัย
และช่วยประคับประคองให้เด็กน้อยในวันวานเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็งในวันนี้

ชื่อหอพักที่เรียกขานจนติดปากว่า “ซีมะโด่ง”
สำหรับคนทั่วไปอาจเป็นเพียงชื่อแปลก ๆ ชื่อหนึ่งที่คนฟังมักจะย้อนถามถึงความหมาย
แต่สำหรับชาวหอ ชื่อ “ซีมะโด่ง” มีความหมายมากเกินที่จะอธิบายได้
เพราะเป็นชื่อที่สื่อถึงความรัก ความผูกพัน ความอบอุ่น ความปรารถนาดี
และเป็นที่ที่ให้โอกาสในการสร้างอนาคตสำหรับคนหลายรุ่น

อาคารหอพักนิสิต 5 หลังของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  
ได้ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งตลอดระยะเวลาอันยาวนานแตกต่างกัน
 
อาคาร “ชวนชม” ซึ่งมีอายุครบ 56 ปีในปีนี้ มีสภาพเสื่อมทรุดไปตามกาลเวลา
จากภารกิจการทำหน้าที่เป็นที่พักพิงสำหรับนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจากรุ่นถึงรุ่น โดยไม่มีการว่างเว้น"

[swsm]

"ถึงเวลาแล้วที่อาคาร “ชวนชม” จะได้รับการดูแลให้เป็นหอพักนิสิตหลังใหม่
จากอาคารโทรมทรุด 5 ชั้นที่รองรับนิสิตจำนวน 198 คน
จะถูกปรับให้เป็นอาคาร 17 ชั้น สามารถรองรับนิสิตได้มากถึง 1,200 คน

ภายในอาคารดังกล่าวจะประกอบด้วยห้องพักนิสิตจำนวน 589 ห้อง
มีอาคารอเนกประสงค์เพื่อใช้สำหรับเป็นที่รับประทานอาหาร
ห้องกิจกรรม/ชมรมของนิสิตหอพัก สนามกีฬาในร่ม และห้องประชุม

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จึงได้ร่วมกันดำเนินโครงการ “รินน้ำใจสู่จุฬาฯ เพื่อสร้างอาคารหอพักและอาคารอเนกประสงค์” ดังกล่าวขึ้น
เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ใช้เป็นที่พักพิงในช่วงเวลาที่ศึกษาในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้มากขึ้น"  

[swsm]

"จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ขอเชิญชวนนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และผู้มีจิตศรัทธา

ร่วมบริจาคเงินสมทบสร้างอาคารหอพักนิสิตหลังใหม่เพื่อให้เป็นที่พักอาศัยของนิสิตที่ประสบปัญหาเรื่องที่พัก
และเพื่อให้อาคารหลังใหม่นี้ได้ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งในการผลิตบุคลากรคุณภาพให้กับสังคม
เฉกเช่นหอ “ชวนชม” ได้ทำหน้าที่นั้นอย่างเข้มแข็งมาตลอดระยะเวลา 56 ปีที่ผ่านมา"

[swsm]

[swsm]

เมื่อเตรียมการได้ที่ ..
คณะกรรมการจึงได้นัดหมายให้มีการ Kick-off โครงการระดมทุนที่ว่า
ในวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2556 ที่เรือนจุฬานฤมิต
เวลา 10.00 น.


 

อิฉันไปถึงที่นัดหมายในเวลาประมาณ 9.15 น.
เลยมีเวลาเก็บรูปบริเวณโดยรอบที่ร่มรืนของอาคารจุฬานฤมิต มาฝากกัน

จอดรถตามหลังพี่ปี๊ดไม่ถึง 10 นาที
เลยได้ยืนชื่นชมต้นไม้ พันธุ์ไม้กับพี่ปี๊ดอยู่นานมาก
ร่มรื่น อบอุ่น และสบายอย่างบอกไม่ถูกค่ะ

ส่วนพี่ป๋อง  เดินนำหน้าเข้าไปในอาคารด้วยท่าทางแสนเพลียตามที่ ดร.มนตรี เขียนเล่าไว้ข้างต้น   

[swsm]

ร่มรื่น สงบ และงดงาม    

[swsm]

[swsm]

[swsm]

ชื่นชมกับโครงสร้างต้นจามจุรี .. พี่ปี๊ดถึงกับเอ่ยปากว่า 'อยากปีน'   

[swsm]

บรรยากาศภายในเรือนจุฬานฤมิตค่ะ ..
บุคคลผู้มีบทบาทสำคัญต่างทยอยกันเดินทางมางาน

[swsm]

กล้องของหยีมีภาพเท่านี้ค่ะ .. เพราะหลังจากนั้น ต้องทำงาน   

[swsm]

ต่อจากนี้ไป  เป็นภาพจากกล้องพี่เล็ก อดิศร นะคะ .. ขอบคุณค่ะ  


น้องหมอตุ่นและน้องใหม่ 25 ตั้งโต๊ะหน้าประตู .. เชิญแขกเข้าที่นั่ง พร้อมขอลายเซ็น  






ทยอยกันมา เมื่อได้เวลานัดหมาย  

[swsm]

จากซ้ายไปขวา .. พี่เมา พี่มิ๊ง น้องหมอเล็ก .. น่าจะเป็นช่วงก่อนเริ่มงาน     




ดร.มนตรี และน้องเค้ง สองแรงหลักของรุ่น 29   




กำลังสำคัญของรุ่น 20 .. รุ่นนี้แน่นปึ่กค่ะ บ่องตง!   

[swsm]

ทักทาย   




คุยอะไรคะ  พี่บวรจึงออกท่าทางได้ใจขนาดนั้น   

[swsm]

รุ่น 14 เข้มแข็งค่ะ  เข้มแข็ง   




รองอธิการบดี สนทนากับพี่ตัน พี่อาวุโสสูงสุดในงาน   




อ.เผ่า  พี่ตัน (รุ่น 2498) และพี่ชูชาติ (รุ่น 2499)    

[swsm]

พี่ป๋องกับเจ้าหน้าที่เทคโนของจุฬา  กำลังหาทางเปิดเพลงชาวหอ เพื่อคลอบรรยากาศก่อนเริ่มงาน   




รองอธิการบดีกับพี่ตัน (อีกครั้งหนึ่ง)   




พี่บวรและพี่ปี๊ด .. มองกันไปคนละทิศเลยนะคะ   

[swsm]

น้องใหม่ 25 จับกลุ่มน้องรุ่น 40 ลงไปแน่น รุ่นนี้คือกำลังที่แข็งแรง และมีชีวิตชีวาของสมาคมค่ะ   




ช่วงนี้  น่าจะเริ่มงานแล้วนะคะ  .. จุดสนใจของทุกคนพุ่งมาที่หน้าเวที   

[swsm]

อ.เผ่าเริ่มด้วยการเล่าที่มาที่ไปของการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ 
โดยย้ำว่า .. เจตนารมณ์ในการก่อสร้าง เริ่มมาจากท่านอธิการบดีนั่นเอง

อ.เล่าว่า หอพักให้อะไรเรามาตั้งมากมาย ทั้งในระหว่างเรียนและหลังจากเรียนจบไปแล้ว
บัดนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ทดแทนคุณ
ด้วยการระดมสรรพกำลัง ความสามารถในการทำงาน กำลังทรัพย์ตามที่มี
เพื่อช่วยให้การก่อสร้างหอหลังนี้ บรรลุไปตามเป้าหมาย

[swsm]

อ.เผ่า พูดดีมากค่ะ  ทำให้คนทำงานมีกำลังฮึกเหิมที่จะลุกขึ้นมาทำงานนี้อย่างเต็มกำลัง   






ฟังด้วย จดด้วยค่ะ  พี่น้อง   

[swsm]

ท่านอธิการบดีเล่าเรื่องราวของจุฬา 
พร้อมตอบคำถามว่า "จุฬารวยแล้ว จะต้องระดมทุนกันอีกหรือ?"

ท่านเล่าว่า  จุฬามีพื้นที่มากก็จริง (1,153 ไร่) แต่ถูกแบ่งออกไปใช้ประโยชน์เป็นสามส่วนหลัก
ประมาณร้อยละ 50 เป็นพื้นที่ทางการศึกษาของจุฬาเอง
ประมาณร้อยละ 30 เป็นพื้นที่ให้เช่าหรือให้ยืม สำหรับหน่วยงานราชการโดยรอบ (ซึ่งค่าเช่ามีราคาต่ำมากจนแทบหาประโยชน์อะไรไม่ได้)
ประมาณร้อยละ 20 เป็นพื้นที่ให้เช่าเชิงพาณิชย์

พื้นที่ให้เช่าเชิงพาณิชย์แม้จะมีเพียงร้อยละ 20 แต่บังเอิญมีตำแหน่งที่ตั้ง "ตำตา" ผู้คน
จึงดูเหมือนเป็นพื้นที่มหาศาล
ผู้คนจึงคาดเดาว่า  จุฬาน่าจะมีรายได้จากการให้เช่าที่มากมายมหาศาลเช่นกัน




จุฬามีรายจ่ายมากมาย โดยเฉพาะด้านการพัฒนาการศึกษา
เป็นสถาบันการศึกษาที่ให้ทุนนิสิตและอาจารย์มากที่สุดในประเทศไทย
คือปีละกว่า 12,000 ล้านบาท
โดยเดินตามพระราชปณิธานของล้นเกล้า ร.5 และ ร.6 ที่จะเป็นสถาบันการศึกษาหลักของประเทศ

จุฬาไม่ได้รับการสนับสนุนจากงบประมาณของแผ่นดินที่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย
ทุกตารางนิ้ว คือสิ่งที่ต้องจ่ายไปเพื่อแลกกับการบำรุง รักษาให้คงเดิม หรือพัฒนาให้ดีขึ้น
ท่านอธิการบดียกตัวอย่างให้ฟังว่า .. สนามหญ้ารอบบริเวณเรือนจุฬานฤมิตที่สวยงาม เขียวสด ได้อย่างนี้
ก็ต้องแลกด้วยค่าใช้จ่าย เช่นกัน




มาถึงประเด็นเรื่องหอพักกันบ้าง
ท่านอธิการบดีเล่าว่า  ในสายตาของสาธารณชน  เขามองกันว่า "จุฬารวยแล้ว เด็กที่มาเรียนจุฬาก็มีแต่คนรวย"
ซึ่งมีผลทำให้การได้รับเงินสนับสนุนลดน้อยถอยลงไป
โดยเฉพาะเรื่องการขอเงินสร้างหอพักนั้น "ลืมไปได้เลย"
เพราะไม่มีใครเชื่อว่า  เด็กจุฬาจะมีความจำเป็นต้องใช้บริการหอพักของมหาวิทยาลัย

จากผลการสำรวจที่พบ ..
ท่านเล่าว่า กว่าร้อยละ 60 ของนิสิตจุฬาเป็นเด็ก ตจว. ซึ่งต้องการที่พักในขณะเรียนหนังสือ
และมีจำนวนไม่น้อยที่รายได้ครัวเรือนอยู่ในระดับต่ำมาก จนแทบไม่น่าเชื่อ
ดังนั้น การที่มีหอพักในมหาวิทยาลัย  จึงเป็นการแก้ปัญหาให้นิสิตเรื่องการหาที่อยู่อาศัยได้

ท่านอธิการขอบคุณที่พวกเราลุกขึ้นมาช่วยกันทำงานในครั้งนี้
และขอให้การสนับสนุนในการทำงานของเราอย่างเต็มที่ต่อไป

[swsm]

ตั้งใจฟังอย่างเต็มที่ค่ะ  พี่ราเมศร์จดบันทึกตลอด เหมือนกำลังเรียนหนังสือเลยค่ะ   

[swsm]

[swsm]

พี่ราเมศร์ นายกสมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาฯ คนแรกของโลก
ประเดิมบริจาคส่วนตัวในโครงการรินน้ำใจ ทันที .. 1 ล้านบาท!

นอนอุ่น ๆ ในกระเป๋าแล้วครับ พี่น้องครับ!   






พี่บวร บริจาคสมทบในนามส่วนตัวอีก 1 แสนบาท .. ขอบคุณค่ะ   

[swsm]

1 แสนบาทจากพี่บวรค่ะ  พี่น้องคะ .. เอ๊ะ มี 3 ภาพเนี่ย คิดเป็นเงิน 3 แสนใช่ไหมคะ?