หอเจ้าจอม
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 28
|
|
« เมื่อ: 14 มกราคม 2552, 14:47:25 » |
|
ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน ( American English ) กับ ภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ ( British English ) ท่านจะเลือกเรียนแบบไหน ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 14 มกราคม 2552, 16:35:52 » |
|
น้องช่วยให้ คำจำกัดความก่อนว่าแตกต่างกัน ประการใดบ้าง จะได้ตัดสินใจเถิก
ครือ ว่า เรียนมาน้อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 14 มกราคม 2552, 16:59:44 » |
|
เลือกได้เหรอคะ? ในเมื่อภาษามันเป็นญาติกัน! หยิบยืมกันใช้อุตลุตแม้ในชีวิตประจำวัน! อยู่หรือใช้ชีวิตเขต ย่านไหน ที่นั่นก็ย่อม ต้องได้รับอิทธิพลมากกว่าเป็นธรรมดาว่า มีคำ ประโยคที่เราไม่เคยรู้จัก(เพราะดันไปหยิบ ของภาษาอื่นมาใช้!)จำเพาะของย่านนั้น... แม้อังกฤษแบบอังกฤษ แต่ไปฟัง ไปพูด ไปใช้ ในสก็อตแลนด์ เวลล์ ไอร์แลนด์ ไอส์แลนด์ เหมือนกันแน่เหรอ?นั่นสิ....
nn.(ลูกครึ่งgerman-english)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
CHOOM~POOH
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 307
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 14 มกราคม 2552, 23:01:16 » |
|
ผมขอเลือกอังกฤษแบบอังกฤษนะครับ เพราะมันชัดถ้อยชัดคำดีครับ แต่ต้องเป็นอังกฤษทางตอนใต้นะครับพี่หนิง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 14 มกราคม 2552, 23:02:50 » |
|
ผมขอเลือกแบบเมกันนะครับ เพราะตอนเรียนสมัย มอหก อาศัยมีเพื่อนเมกาเยอะ และรู้สึกว่าแบบเมกา มันง่ายดีครับ สั้นๆ เลซี่ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 15 มกราคม 2552, 23:35:30 » |
|
พี่ว่า british-englishออกจะสบายหูกว่า
p.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aoobennett
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 192
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 16 มกราคม 2552, 03:10:22 » |
|
เห็นด้วยกับน้องสนค่ะว่า อังกฤษสไตล์อเมริกัน เป็นอะไรที่แบบ easy & lazy มากๆค่ะ คำไหนที่มีหลายๆ พยางค์ยาวๆ ก็รวบให้มันสั้นกระทัดรัดซะงั้น แต่ British-English นี่สำเนียงฟังแล้วเสนาะหูมากเลยค่ะ ฟังดูเป็นผู้ดี๊ ผู้ดี จริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 16 มกราคม 2552, 17:38:23 » |
|
ไหนคะน้องอุ๊ เล่าให้ฟังเรื่อง dialectหน่อย พี่ทราบมาว่า แต่ละย่านก็มี"ลิ้น"ของตัวเอง เป็นเอกลักษณ์ยิ่งนัก...ไม่ง่ายที่จะเข้าใจ
p.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ตุ๋ย 22
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 03 เมษายน 2552, 19:45:19 » |
|
แบบอังกฤษ หรือแบบอเมริกันก็ไม่กระดิกหูเหมือนกันครับผม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
|
|
|
weerapong_rx
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2552, 20:54:15 » |
|
ขอร่วมวงสนทนาด้วยคนครับ ผมอยู่ลอนดอนแต่ชอบพูดแบบอเมริกัน รู้สึกว่าเวลาพูดเหมือนร้องเพลง ชัพเจน ฟังง่าย เพราะเสียงเน้นคำขึ้นลงเป็นจังหวะดีนัก ส่วนคนอังกฤษนั้นพูดในลำคอ พูดเร็ว โดยเฉพาะวัยรุ่นนี่ฟังแทบจะไม่รู้เรื่อง แต่เรื่องการเขียนนั้นผมว่าเขียนแบบอังกฤษดูสละสลวยกว่านะครับ
|
|
|
|
หอเจ้าจอม
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 28
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 11:55:41 » |
|
หัวข้อนี้เคยเฉลยแล้ว แต่ช่วงเว็บล่ม ข้อความเลยหายเกลี้ยง โอกาสหน้าจะเฉลยใหม่นะครับ
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 15:29:12 » |
|
พี่พิพัฒน์ต้องเข้ามาเฝ้าไว้คะ มาบ่อยๆคะพี่ มาให้พี่ๆน้องๆ...in touch.
nn.27
|
|
|
|
super
Full Member
วิดยา'20
ออฟไลน์
กระทู้: 368
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2552, 12:19:04 » |
|
หนุงหนิง..เรียกเขาว่า"เป็ด" ก็ได้นะครับ...เป็ด AFS...
|
|
|
|
หอเจ้าจอม
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 28
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2552, 10:55:05 » |
|
เมื่อหลายปีก่อนผมได้เสนอแนะให้กระทรวงศึกษาปรับปรุงหลักสูตรวิชาภาอังกฤษโดยให้เปลี่ยนทั้งเนื้อหาเพื่อให้เ รียนแล้วเอาไปใช้งานได้จริงและเปลี่ยนจากภาษาอังกฤษแบบอังกฤษเป็นแบบอเมริกัน ต่อมากระทรวงได้ร่วมมือกับ AUA จัดทำหลักสูตรวิชาภาษาอังกฤษให้เป็นแบบอเมริกัน โดยมุ่งหวังให้ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ผมไม่ได้ติดตามผลว่าได้เปลี่ยนทุกระดับชั้นหรือไม่ แต่ผมเคยดูแบบเรียนของระดับมัธยมก็พบว่าเป็นแบบอเมริกันแล้ว แต่ปัญหาที่ผมพบคือครูสอนตามหลักสูตรใหม่ไม่ค่อยเป็นเพราะครูเคยเรียนมาแบบเก่าและสอนแบบนั้นกันมานาน จะให้เปลี่ยนทันทีคงยากหน่อย ต้องใช้เวลาอีกสักพัก
สำหรับเหตุผลที่ผมเสนอกระทรวงไปนั้นมีมากมาย แต่จะขอกล่าวโดยสรุปเท่านั้นเพื่อมิให้ยืดยาว ดังนี้
1 ด้าน IT IT ที่เราใช้กันทุกวันนี้เป็นของอเมริกันทั้งนั้น เช่น Microsoft Windows Intel AMD Hotmail Yahoo Google Facebook MYspace Twitter ฯลฯ 2 ด้านการศึกษา 3 ใน 4 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกอยู่ในอเมริกา อเมริกาเป็นตลาดวิชาหรือ Supermarket ด้านการศึกษาของโลกมาเป็นเวลากว่า 50 ปีนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา อเมริกาเป็นแหล่งผลิตบัณฑิตจากทั่วโลก 3 ด้านเศรษฐกิจ มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกส่วนใหญ่อยู่ในอเมริกา ขนาดเศรษฐกิจของอเมริกาใหญ่ที่สุดในโลก อเมริกาครอบครองสินทรัพย์เกินกึ่งหนึ่งของสินทรัพย์ทั้งหมดทีมีอยู่ในโลกรวมกัน 4 ด้านสาธารณสุข แม้จะไม่ดีที่สุดในโลก แต่อเมริกามีการสำรองยาสำคัญๆต่อหัวของประชากรมากที่สุดในโลก เช่น ยาไข้หวัดใหญ่ 2009 ซีรั่มที่รักษาโรคจากอาวุธชีวภาพที่พบในหน่อไม้ปี๊บในไทย โลกนี้มีเพียง 4 ประเทศเท่านั้นที่มีซีรั่มนี้ คือ อเมริกา แคนาดา อังกฤษ และญี่ปุ่น 5 ด้านกีฬา จ้าวเหรียญทองในกีฬาระดับโลกคืออเมริกา เพิ่งมาเสียแชมป์ให้จีนเมื่อคราวโอลิมปิคที่ผ่านมา แต่การเชียร์กีฬานั้นจีนก็ยังจ้างคนอเมริกันมาฝีกซ้อมเชียร์ลีดเดอร์และประชาชนให้เชียร์กีฬาแบบอเมริกัน 6 ด้านการทหาร กองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกคืออเมริกัน เทคโนโลยีทางทหารที่ดีที่สุดในโลกคืออเมริกัน ( โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการล่มสลายของรัสเซีย) 7 ด้านอวกาศ อเมริกาไปๆกลับๆอวกาศเป็นว่าเล่น เดี๋ยวนี้ก็ไปเที่ยวอวกาศกันแล้ว อเมริกาครอบครองน่านฟ้าทั้งส่วนที่เป็นบรรยากาศของโลกและอวกาศนอกโลกเบ็ดเสร็จ เครื่องบินรบและเครื่องบินพาณิชย์ที่ครอบครองน่านฟ้าอยู่ในประเทศต่างๆคือ เครื่องบินรบอเมริกาและ Boeing แม้ Airbus จะพยายามไล่ตาม แต่ก็ดูเหมือนว่า Airbus A 380 จะตกตั้งแต่ยังไม่ขึ้นบินเพราะส่งมอบไม่ทันและต้องเลื่อนมาหลายครั้งแล้ว 8 ด้านวงการถาพยนตร์ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอเมริกาใหญ่ที่สุดในโลก หนังฝรั่งที่เราดูกันทุกวันนี้ ก็หนัง Hoolywood แทบทั้งนั้น 9 แบรนด์ ( ยี่ห้อ) สินค้าอเมริกันครองโลก 10 สุดยอดแบรนด์ของโลกนั้น เป็นอเมริกันถึง 8 ยี่ห้อ อีก 2 ยี่ห้อ คือ TOYOTA และ NOKIA 10 จีนและอินเดียซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ของเอเชียระดมส่งคนไปเรียนที่อเมริกามากเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 มาเป็นเวลาหลายสิบปีเพื่อเอาเทคโนโลยีและสรรพพวิชากลับมาพัฒนาประเทศของตนเอง ปัจจุบันจีนและอินเดียได้ปรับปรุงหลักสูตรวิชาภาษาอังกฤษของตนเองเป็นแบบอเมริกันไปแล้ว และได้จ้างคนอเมริกันไปฝึกสำเนียงอเมริกันให้บุคลากรในหน่วยงานต่างๆ
ชาติใดจะยิ่งใหญ่ได้ มิได้เกิดจากการพูดเพียงอย่างเดียวว่าตนเองเก่งหรือยิ่งใหญ่ แต่ต้องสั่งสมความยิ่งใหญ่มาเป็นเวลานานและต้องพิสูจน์ตัวเเองให้ชาวโลกยอมรับนับถือหรือยำเกรง เราจะเรียนแบบไหนก็จต้องหันมองชาวโลกว่าเขาไปทางไหนกันแล้ว มิฉะนั้นเราก็ตามไม่ทันเพื่อน ผมเพียงแค่เฉลยหัวข้อกระทู้ของตนเองและเป็นการเล่าสู่กันฟังเท่านั้น ลูกหลานของท่านคงเลือกไม่ได้แล้วว่าจะเรียนแบบไหนเพราะเขาเปลี่ยนเป็นแบบอเมริกันไปแล้ว เขาบังคับให้เรียนไปแล้ว หากท่านไม่เห็นด้วยล่ะก้อ นอกจากจะแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้แล้ว ควรเสนอไปที่ผู้บริหารประเทศให้ปรับปรุงหรือเปลี่ยนไปในแบบที่ท่านอยากได้ หากท่านมีเหตุผลดี เขาก็น่าจะทำตาม การเสนอความเห็นเฉพาะในกระทู้ใดๆก็ตามก็จะไม่มีผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะพวกเราไม่มีอำนาจตัดสินใจที่จะเปลี่ยน ฉะนั้นอย่าลืมส่งความเห็นของท่านไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยนะครับ หรือส่งให้นายกรัฐมนตรีโดยตรงเลยก็น่าจะดี ขอบคุณครับ
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2552, 15:45:12 » |
|
ระวังนะคะ! พวกอามี่ เหมือนพวกโรมัน...
|
|
|
|
Anusra
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2528
คณะ: Arts
กระทู้: 31
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2552, 22:17:37 » |
|
Just have a time to read through this topic. From my own experiences, to learn English in Thailand will get more American English than British English. Only British Council at Siam Square will provide some proper British English courses. However the important thing is to gain our own ablility to communicate through the language successfully. So do not be worried too much.
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2552, 23:24:46 » |
|
น้องหนึ่ง, ภาษาอังกฤษที่ที่น้องหนึ่งอยู่อาศัย มี dialectปนมากมั้ยคะ?
p.nn
|
|
|
|
Anusra
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2528
คณะ: Arts
กระทู้: 31
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 12 เมษายน 2553, 22:46:17 » |
|
Dear p.nn Lots of dialect because there is no university campus in the area where I live ka.
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 12 เมษายน 2553, 22:56:35 » |
|
Nong Nueng, nice to hear from you! How are you doing lately? so busy? Greeting Songklan Day!
p.nn
|
|
|
|
Anusra
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2528
คณะ: Arts
กระทู้: 31
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 12 เมษายน 2553, 23:00:45 » |
|
Dear P.nn
Happy Songkran Day ka! Just have time to pop in. Alfie will start school this wednesday Ka (14 April 2010). Hope you all keep well.
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 12 เมษายน 2553, 23:13:48 » |
|
Dear Nong Nueng, How is Elfie, excited to go kindergarten? How is spring time there? We have not really in...to the weather! rainy day today... They forecast a raising temperature this week anyway.
p.nn
|
|
|
|
Anusra
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2528
คณะ: Arts
กระทู้: 31
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 17 เมษายน 2553, 03:42:52 » |
|
Dear P.nn Alfie is very happy. He just enjoy to spend his time at school. This week we have a lovely weather. if you visit http://www.bbc.co.uk/cbeebies/presenters/songs/springsongsidandy/ You will enjoy a spring song and a video which show how England weather is. Take care ka. Neung
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 17 เมษายน 2553, 19:34:50 » |
|
Nong Nueng, how lovely! thanks.
Today is a good day to work in the garden! even it is quite cold at 12 °c but it's sunshine day... I and the kid was just back home from garden markt I need some more evergreen to plant in the garden, we had a hard winter last year you know...some of it was died just to replace so that it hurt not too much!
Have a nice day, p.Ning
|
|
|
|
หอเจ้าจอม
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 28
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2553, 12:09:26 » |
|
ถือเสียว่าเป็นการเล่าสู่กันฟังนะครับ
ที่มา: 1-million-dollar-blog
หัวข้อ: 2010 IMD World Most Competitive countries ( ประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงสุดประจำปี 2010)
ประเทศ อันดับ อันดับ คะแนน
2010 2009
สิงคโปร์ 1 3 100 ฮ่องกง 2 2 99.357 อเมริกา 3 1 99.011 มาเลย์เซีย 18 87.227 หมายเหตุ: ไทยอยู่อันดับที่ 26
สำหรับผู้ที่ต้องการแสดงความคิดเห็นว่าเห็นด้วยเพราะเหตุใด หรือไม่เห็นด้วยเพราะเหตุใด กรุณาเข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ที่ blog ดังกล่าวนะครับ ผมก็แค่ลอกของเขามาเล่าสู่กันฟังเท่านั้นและอาจไม่ค่อยตรงหัวข้อของกระทู้เท่าใดนัก ทั้งนี้ผมไม่ใช่คนต้นคิดในการจัดอันดับ แต่คนจัดอันดับคือ IMD ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ครับ
|
|
|
|
หอเจ้าจอม
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 28
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 03 กันยายน 2553, 11:44:08 » |
|
เจอหน้าหลายคนถามไถ่กันมาว่า......แบบอเมริกันกับแบบอังกฤษเนี่ยต่างกันยังไง ขอตอบว่า......ทั้ง 2 แบบก็มีรากฐานความเป็นมาจากที่เดียวกัน ฉะนั้นจึงไม่ใช่ว่าจะต่างกันโดยสิ้นเชิง ( not entirely different) แต่ถ้าจะดูว่าอะไรต่างกันบ้าง ก็มีทั้งสำนวน สำเนียง คำศัพท์ ตัวสะกด และมีทั้งที่ใช้ปนๆกันไป
ตัวอย่างการใช้คำศัพท์ที่ต่างกัน
British American ความหมาย
filling station gas station ปั๊มน้ำมัน ground floor first floor ชั้นที่ 1 spirits liquor เหล้า postman mailman บุรุษไปรษณีย์ rubbish garbage ขยะ reverse charge call collect call โทรเก็บเงินปลายทาง dialing code area code รหัสทางไกล postal code zip code รหัสไปรษณีย์ city centre downtown ย่านการค้า ย่านธุรกิจ flat apartment underground subway รถใต้ดิน timetable schedule ตารางเวลา crossroad intersection สี่แยก toilet restroom ห้องน้ำ return ticket round-trip ticket ตั๋วไป-กลับ single ticket one-way ticket ตั๋วไปขาเดียว motorway highway, freeway ทางด่วน football soccer saloon sedan
ตัวอย่างคำสะกดที่ต่างกัน
litre liter ลิตร labour labor theatre theater colour color honour honor catalogue catalog centre center programme program tyre tire
ตัวอย่างสำเนียงที่เราคุ้นๆหูกันอยู่ก็เช่น dancer เรามักออกเสียงว่า.. แด๊นเซ่อร์( อเมริกัน) เรามักไม่ออกเสียงว่า...ด๊านเซ่อร์ ( อังกฤษ)
เอาพอสังเขปก่อนนะครับ เพราะรายละเอียดมีมากจนกล่าวไม่หมด ขอบคุณครับ
|
|
|
|
|