khesorn mueller
|
|
« ตอบ #3825 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2554, 19:27:27 » |
|
เมื่อเช้าอ่านนสพ.ดื่มกาแฟ ก็ให้ตาวาว! มีQuizถามคำถามผู้อ่านนสพ. ข้อนึงเกี่ยวกะน้ำท่วมกทม.ด้วยว่า:
เมืองหลวงของไทยน้ำกำลังท่วม แม่น้ำสายหลักขอบางกอกชื่ออะไร? a) Chao Praya b) Jenissei c) AmazonasQuelle: Heilbronner Stimme 9 Nov 2011
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #3826 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2554, 19:33:22 » |
|
ภาพนี้หาไว้ 2 วันแล้วคะ ที่มาไม่ปรากฏ! รู้แต่..creativeแน่ๆ ฮ้ายยย ใครจะกล้านั่ง ฮึ??
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #3827 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2554, 19:56:25 » |
|
เค้านำภาพน้ำท่วมจากเวบไซต์วันที่ 8 กะวันที่ 9 มาเทียบกัน...ขวาวันที่ 8 ซ้ายวันที่ 9 เมื่อวาน เห็นเขียวอ่อนของบริเวณที่เพิ่งแจ้งน้ำท่วม 24บริเวณ.
แผนที่น้ำท่วมของกทม. (BMA)มีพื่นจากgoogle map เมื่อวานaktualisiertกันเป็นระยะ รวบรวมแจ้งได้ 24บริเวณ ด้านตะวันตกเป็นส่วนมาก:
-สีแดง มีรับแจ้ง 20 บริเวณด้วยกัน ที่ระดับน้ำตั้งแต่ 30 ซม.-1.50 เมตร พหลโยธิน 54/1
-สีเหลือง 3 แห่งรับแจ้งน้ำท่วม น้ำขังที่10-30 ซม.
-สีเขียว มี 1 บริเวณ น้ำต่ำกว่า 10 ซม.http://www.thailandtip.net/index.php?id=nachrichten&tx_ttnews[tt_news]=6970&tx_ttnews[backPid]=2&cHash=49640de9076c68032d04a39cf83101ff
|
|
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #3830 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2554, 20:36:34 » |
|
น้ำท่วมกรุงเทพครานี้ ผู้สูงอายุและคนเจ็บป่วย ไม่สามารถหนีน้ำไปศูนย์ผู้อพยพได้..ต้องขึ้นกับ การส่งข้าว-น้ำ-ยา จากหน่วยทหารที่ช่วยเต็มกำลัง ทหารที่ออกพายเรือท้องแบน ไปตามลำน้ำสูงเมตร เพื่อนำสัมภาระเท่าที่จะยังชีพได้ไปช่วยผู้คนที่ยัง ออกมาไม่ได้ ถูกหยุดให้การช่วยเหลือผู้สูงวัย ระหว่างทาง เช่นผู้ป่วยเบาหวาน หรือความดัน นอกจากอันตรายจากโรคติดต่อแล้ว ยังไม่นับขยะ ที่น้ำพามาด้วย ทำให้แวดล้อมนั้นไม่เอื้อต่อการ บันเทาอาการ นายแพทย์คเชนทร์ พิณสุวรรณ หัวหน้าแผนกฉุกเฉิน รพ.พระมงกุฎ กล่่าวว่าคนไข้ มารพ.ไม่ได้ ต้องใช้วิธีเข้าไปส่งยา หรือส่งคนเข้าไปรับมีต่อ
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #3831 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2554, 20:46:31 » |
|
ขณะที่หลายแรงร่วมใจช่วยเหลือ เพื่อให้ผู้เดือดร้อน ได้รับความสะดวก ทางกทม.ก็ต้องต่อสู้กับศึกกองทัพขยะ ที่กองท่วมสุม ไม่ได้รับการเก็บ ไหลมา ตามน้ำ หัวหน้า FROCกล่าวว่าไม่สามารถ คาดการได้ว่าบริเวณไหนขอใจกลางกทม. ที่จะท่วม เพราะน้ำไม่ได้ไหลไปตามพื้น แต่ซึมขึ้นมาตามท่อ ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้! รามา2ท่วม อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิซึ่งถือเป็น Stadtzentrumก็อาจท่วม...หัวหน้าหน่วยFROC ประชา พรหมนอก กล่าวมีต่อ
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #3832 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2554, 20:57:50 » |
|
อาการที่ประสบจริง กับการคาดคะเนที่มีให้ล่วงหน้า วันนี้ก็มีจำนวนวันที่แน่ๆว่า...อีก11วันน้ำจะแห้ง! ให้ประชาชนมีความหวังใหม่ที่แจ่มใส...ในที่สุดก็ได้ ฟังข่าวดีที่ให้ความหวัง...ผู้สื่อข่าวBangkok Postกล่าว แต่ประชาชนชาวบ้านร้านตลาดที่ประสบภัยด้วยตัวเอง ยากที่จะให้พวกเค้าเชื่อ! เพราะระดับน้ำที่ว่าลดลดลด นั้น...ลดไปไหน ถ้าไม่ได้ไปเพิ่มจุดอื่น.
นายกยิ่งลักษณ์ประชุมงบประมาณช่วยน้ำท่วม ไว้120 พันล้านบาท หรือ3 พันล้าน € เงินนี้ หักมาจาก งบประมาณทุกกระทรวง กระทรวงละ10 %เพื่อการนี้.http://www.tagesschau.de/ausland/thailand1404.html
|
|
|
|
|
|
|
|
Kaimook
|
|
« ตอบ #3837 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2554, 23:36:44 » |
|
สวัสดีวันลอยกระทงค่ะน้องหนิง...
|
|
|
|
khwan24
Full Member
ชีวิตที่อิสระ เป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่หา
ออฟไลน์
รุ่น: 2524
คณะ: นิเทศศาสตร์
กระทู้: 978
|
|
« ตอบ #3838 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2554, 23:39:17 » |
|
หวัดดีน้องหนิง ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดเลยนะ
คงไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นได้นะ
พี่เองเจอเต็มๆ น้ำมากมายมหาศาล หลายคนในกทม.
ลอยกระทงกันหน้าบ้านเลย น้องหนิงลอยกับลูกๆที่บ้านเป่าคะ
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #3839 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2554, 17:03:04 » |
|
สวัสดีคะพี่อ้อย, พี่ได้ลอยมั้ยคะปีนี้? ยินว่าชลบุรีจัดงาน พี่อ้อยจะได้ร่วมที่นั่นกะครอบครัวคะ อ่านข่าวว่าโรงเรียน/มหาวิทยาลัยปิดเพิ่ม หรือเปิดช้าไป 2 อาทิตย์ไช่มั้ยคะ? ลูกๆพี่คงอยู่กันครบถ้วน.
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #3840 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2554, 17:12:20 » |
|
พี่ขวัญ, จริงแหละคะ! คราน้ำท่วมนครสวรรค์พี่คงแย่,
บ้านพี่ใหม่ๆด้วย..ตกลงลดแล้ว เสียหายมากมั้ยพี่? แย่คะปีนี้. บ้านแม่หนิงก็ท่วมแช่มาเป็นอาทิตย์ ติดต่อเข้าไปไม่ได้ สัญญาณโทรศัพย์ บร้าาาไปแล้ว ต้องโทรเข้าmobilแม่ ให้แม่เล่าให้ฟังแม้แม่ออกมาอยู่ข้างนอกคะ แต่พวกเค้า(พี่ๆหนิง 3 คน)สื่อสารกับแม่ รายงานกันตลอดคะ.
หนิงไม่เคยลอยกระทงมา20กว่าปีแล้วพี่ ตั้งแต่อยู่เมืองไทยก็ไม่บ่อยคะ2-3หน ทำไมไม่มีภาพแบบนั้นแต่มีภาพงานลอยกระทงคะ เที่ยวงานคะ แต่ลอยน่ะ น้อยมาก.
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #3841 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2554, 17:32:00 » |
|
ก็ออกกันไปร้านขายสัตว์เมื่อวานเย็นมืดแล้ว ไปซื้อน้ำosmose 20 ลิตร ซื้อปลานีออน (Nion) เพิ่มอีก 5 ตัว ซื้อน้ำยาละลายย่อยสลายที่ เป็นบักทีเรีย ที่เหยาะลงไปในน้ำขุ่นให้ย่อย
หลังจากคุยอาการน้ำขุ่นให้เค้าฟัง จริงด้วยคะ เค้าสันนิษฐานว่าจะเป็นอาหารปลาใหม่แบบเม็ด พ่อบ้านเหยาะให้มากไปมันตกลงพื้นกว่าfilterจะ ทำงานย่อยหมด...ใช้เวลา!
เค้าให้กลับมาบ้านใช้เครื่องดูด ดูดบริเวณผิวดิน ให้ทรากเศษสกปรกออกไป งดให้อาหารปลา 5 วัน (ปลาshe อ้วนคะ ท้องมานเชียว..เป็นคนก็คงพุงปลิ้น!) เปลี่ยนน้ำใหม่ ผสมน้ำosmose เหยาะบักทีเรีย.... หรือเก็บตัวอย่างน้ำขับไปหาเค้า เค้าตรวจน้ำให้ฟรี!
ทำทุกอย่างครบแล้วคะ รอดู.
เช้าวันนี้ตื่นมารีบลงไปดู ปรากฏขุ่นน้อยลง ปลาๆร่าเริง.. diet!
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #3842 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2554, 17:48:44 » |
|
ปีนี้sheไม่กระฉับกระเฉงไงไม่รุ พรุ่งนี้วันเกิดพ่อบ้านก็ยังไม่หาของขวัญที! เค้าเกริ่นๆอยากได้mobilใหม่ หรืออยากได้ mp3 Docking station...sheก็ไปดูๆพอรู้ราคา วันนี้วันที่เท่าไหร่...ว๊ายยยย จะทันเหรอนี่ รีบอาบน้ำแต่งตัวลงไปดื่มกาแฟ หว่ายยย วันนี้มีนัดอู่เค้า นัดไว้ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ว่า จะขับรถไปส่ง เพื่อเปลี่ยน winter tiresและ winter check...พลาดไม่ได้คะ.
เมื่อพุธที่ขับไปว่ายน้ำ วันนั้นหนาวคะ ตอนstartเครื่อง ออกรถ มันครึกๆๆๆยังไงไม่รู้คะ แต่ไม่ไช่เสียงปกติของเครื่องดีเซลเมื่ออุณหภูมิตกแน่ sheขับบ่อย ขับมากกว่าพ่อบ้าน จึงจับอากัปสำเนียง nn.๗๐๕ ได้มากกว่า รีบบอกอาการพ่อบ้านว่า ครึกๆๆนี้เป็นเมื่อเท้าเหยียบครัชต่อไปเหยียบคันเร่ง ค่ำวันพุธพ่อบ้านขับไปตีเทนนิสกะพรรคพวก.. ตกอกตกใจ...รีบคุยกะ3หนุ่ม ซึ่ง2 ใน 3 ขับเมอร์เซเดส เค้าบอกว่าตัวอะไรสักอย่างอาจเสื่อม อาจหลุด วันนี้ตอนไปWerkstattให้บอกเค้าแกะดู! พ่อบ้านย้ำว่าเตรียมใจซ่อมได้เลย ต้องนัดอีกครั้งแน่ .. .. sheจิตล่องไปไหนแล้วไม่รุ สงสัยจาได้มี nn.๗๐๕ใหม่ ซะแล้วก็ไม่รู้... .. .. ว่าแต่ของขวัญไม่ทันคะวันนี้ พ่อบ้านกะเด็กชายต้องไปธุระกัน พรุ่งนี้วันเกิด จะไปกะเด็กชาย ไปหาmobilให้เจ้าของวันเกิด docking stationไว้เป็นของขวัญ คริสต์มาสแทนละกัน.
|
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #3844 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2554, 18:09:59 » |
|
เดี๋ยวมาตามข่าวน้ำท่วมต่อคะ เอารถไปส่งก่อน.
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #3845 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2554, 19:38:16 » |
|
สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก
Trip ไปมิลาน สวิส เลื่อนไปเดือนมีนาคม ครับ เพราะลูกค้าหลายบริษัท น้ำท้วม คงไม่มีกะใจไปเที่ยว ต้องบูรณะโรงงานก่อน
สวัสดี
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #3846 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2554, 21:38:43 » |
|
พี่สิงห์ที่เคารพรัก, อะไรคะเนี่ย! คราก่อน ควันภูเขาไฟที่ไอซแลนด์ ครานี้ น้ำท่วมกรุงเทพ..
มีนา 2555 คะถ้างั้น! ยังหนาว,แดดดี แต่อาจหิมะน้อย
ฮืมม,มีงานอะไรมั่งนะ ขอหนิงค้นก่อนคะพี่
กะจะอวยพรพี่ให้หนีน้ำเที่ยวให้สนุก เลยเลื่อนความสนุกออกไปซะนี่.
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #3847 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2554, 21:56:23 » |
|
กลับจากอู่เมื่อตักกี้ เปลี่ยน winter tires winter check.. เช็คเสียงแคร็กๆๆๆ
พบแล้วคะ! เค้าบอกว่า ..."§$$%=(??&)$=$??%%ÄÄ'*ÜÜÜ:;"!/&&(QQ...
จับกวามได้ว่าเค้าต้องโทรนัดศูนย์เมอร์เซเดส ต้องให้ศูนย์ผู้ผลิตเท่านั้นเปิด/แกะ...ใช้เวลา ขับไป กลับ ไปรับ ไปส่ง 2 วัน!
เค้าเป็นศูนย์Opelค่ะ ใช้บริการกันมา ตั้งแต่sheยังขับ Corsa& Zafira
เฮอ,ต้องขอรถเช่าOpel อีกแหล่ว... ราคาเท่าไหร่ค่าซ่อม?เค้าก็บอกไม่ได้คะ! เค้าต้องโทรคุยกะพ่อบ้านก่อนว่าตกลงมั้ย..ถ้าตกลง เค้าจะนัดศูนย์Mercedesแล้วจะโทรมาบอกให้เราขับ รถไปส่ง...ขับOpelเช่าออกมา....อีก2วันไปรับพร้อมคืนรถเช่า
sheถามพ่อบ้านเรื่องนี้ดักไว้ก่อนว่า หากต้องเปลี่ยนรถ sheชอบC200 CDIนี่ล่ะ เค้าบอกว่าเพิ่ง118,000 กม.ขับจน180,000 กม.ก่อน ค่อยเปลี่ยน!ถึงตอนนั้นอาจมีรุ่นอื่นๆเพิ่มมา รุ่นเก่าก็ขายลด มีให้เลือกมากขึ้น....
เฮ้อออ มีแต่เรื่องเสียเงิน!
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #3848 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2554, 22:03:48 » |
|
วันนี้... 11.11.11
เย้.
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #3849 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2554, 22:07:29 » |
|
พี่คนไทยส่งข่าวเดลินิวส์มาให้อ่าน! อ่านด้วยกันคะ
เนื้อหาข่าว
’เครียด เหนื่อย แทบหมดแรง ท้อใจ หดหู่“ กับภาวะน้ำท่วม ตั้งแต่น้ำเริ่มท่วม ท่วมขังสูง และขังนาน แต่เชื่อเถอะว่า...ความเครียด ความเหนื่อยล้าเหล่านี้จะเทียบไม่ได้เลย เมื่อต้องกลับเข้ามาซ่อมแซมบ้านภายหลังจากน้ำลด โดยเฉพาะบ้านใครที่ถูกท่วมขัง 100% เต็มพื้นที่ และบางรายอาจถึงกับกุมขมับเมื่อบวกลบคูณหารแล้วค่าใช้จ่ายในการซ่อม แซมอาจไม่คุ้มค่า การหาซื้อบ้านใหม่อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า!! ขณะนี้ภาวะน้ำท่วมยังไม่สิ้นสุด แต่ที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบ เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่าจะมีมาก กว่า 300,000 ยูนิต ความเสียหายเบื้องต้นกว่า 30,000 ล้านบาท จากเดิมที่ประเมินเมื่อกลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าจะมีบ้านเรือนในโครงการจัดสรรทั่ว กทม. ปริมณฑล บวกจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ได้รับความเสียหาย 50,000-65,000 ยูนิตเท่านั้น ทว่าถัดมาเพียงสัปดาห์เดียว ความเสียหายได้เพิ่มขึ้นถึง 100,000 ยูนิต ทั้งนี้ยังไม่รวมบ้านที่ประชาชนสร้างเอง หรืออยู่นอกโครงการจัดสรร หากรวมทั้งหมดจริง ๆ ตัวเลขความเสียหายจะมากถึง 650,000-700,000 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 100,000 ยูนิต และความเสียหายพุ่งขึ้นไปกว่า 74,284 ล้านบาท ไม่รวมความสูญเสียของผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินอีกกว่า 17,978 ล้านบาท ที่สำคัญยังมีแนวโน้มที่จะมีความเสียหายเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามปริมาณน้ำที่ไหลบ่าท่วมไปทั่ว “สัมมา คีตสิน” ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ออกโรงแนะนำประชาชนเจ้าของบ้านว่า หลังจากที่น้ำลดแล้ว แนะนำให้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบระบบภายในบ้านดีกว่า ทั้งระบบไฟฟ้า ท่อประปา ระบบปั๊มน้ำ โครงสร้างภายในบ้าน เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังเป็นเวลานานนั้น อาจทำให้โครงสร้างด้านล่าง อาทิ โครงสร้างเหล็กเส้น เกิดความเสียหายได้ ไม่แนะนำให้ซ่อมแซมเอง! โดยเฉพาะระบบไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ
ขณะเดียวกันเชื่อว่า เจ้าบ้านหลายราย โดยเฉพาะในพื้นที่ถูกน้ำท่วมหนักนั้น จะขายบ้านทิ้งแล้วไปหาซื้อที่อยู่ใหม่ที่ปลอดภัยต่อชีวิต และทรัพย์สินของครอบครัวมากขึ้น แน่นอนว่า ปัจจัยที่จะมีอิทธิพลสูงต่อการตัดสินใจซื้อบ้านนับจากนี้เป็นต้นไป จะมีเรื่องพื้นที่สูงน้ำไม่ท่วมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย!! แน่นอนว่า ปัจจัย ’หนีน้ำ“ ดังกล่าว มีผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องลงทุนเพิ่ม เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า ที่จะมาซื้อบ้านในโครงการของตนเอง แต่จะมีผลให้ราคาบ้านเพิ่มสูงขึ้นเท่าใดนั้น ต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง ทั้งการลงทุนด้านระบบระบายน้ำ เขื่อนถาวร ปรับปรุงคุณภาพของแปลงที่ดิน เช่น ถมที่ดินให้สูงขึ้น การเสริมความมั่นคงแข็งแรงของแปลงที่ดิน การจัดเตรียมระบบระบายน้ำภายใน และบริเวณรอบแปลงที่ดินก่อนที่จะเปิดโครงการใหม่ ทำเลที่ไม่อยู่ในซอยลึกจนเกินไป อยู่ใกล้แหล่งสัญจรหลัก อาทิ รถไฟฟ้า ถนนสายหลัก อย่างไรก็ดีที่อยู่อาศัยที่อยู่ในทำเลสูงอยู่แล้ว ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จะยิ่งได้รับอานิสงส์ให้มีราคาสูงขึ้นไปโดยปริยาย โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมเกาะแนวรถไฟฟ้า ทาวน์เฮาส์ ทาวน์โฮมส์ ใกล้ถนนใหญ่ที่สามารถสัญจรออกมายังเส้นทางสาธารณะขนาดใหญ่ได้สะดวก รวมไปถึงบ้านมือสองประเภทต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน เพราะจากประสบการณ์น้ำท่วมทำให้เห็นได้ชัดว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในซอยลึกมากนั้น จะไม่ค่อยได้รับความช่วยเหลือแต่อย่างใด!!..คงไม่มีใครยากเจ็บซ้ำสอง ถ้าสามารถเลือกได้ “ภาวะน้ำท่วม ทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยปรับสมดุล โดยจำนวนที่อยู่อาศัยที่จะสร้างเสร็จใหม่ปีนี้จะลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อน และการเปิดโครงการใหม่จะไม่มากเท่ากับปีที่แล้ว อีกทั้งจากนี้ไปเชื่อว่าผู้บริโภคคงจะนิยมอยู่คอนโดมิเนียมมากขึ้น ส่วนสถานการณ์ปีหน้า เชื่อว่าคนจะต้องเอาเงินมาซ่อมบ้านมากกว่าการซื้อบ้านใหม่ แต่ต้องรอไตรมาสแรกปีหน้าจึงจะเห็นภาพชัดเจนว่าอสังหาริมทรัพย์จะเป็นอย่างไร” ทั้งนี้เห็นได้ชัดเจนว่า กระแสน้ำท่วมกระตุ้นให้เกิดการขายห้องชุดค้างสต๊อก ในตลาดที่อยู่อาศัยได้จำนวนมากและรวดเร็วพอสมควร หลังจากที่คอนโดมิเนียมที่ผุดกลางกรุงราวกับดอกเห็ดจำนวนมาก ตั้งแต่ปี 52-53 ที่ผ่านมานั้น แม้ส่วนใหญ่จะขายดิบขายดีอย่างรวดเร็ว แต่ก็เหลือสต๊อกทิ้งค้างไว้ในตลาดพอสมควร เป็นห้องชุดสร้างเสร็จพร้อมขายแข่งกับโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่ตลอดเวลา ส่วนหนึ่งเป็นห้องชุดของนักเก็งกำไร ประเมินว่ามี 10% ของจำนวนห้องชุดแต่ละโครงการ และห้องชุดในมือนักลงทุนซึ่งมีเงินทุนซื้อไว้ให้เช่า แต่ขณะเดียวกันหากขายได้กำไรก็พร้อมขาย ส่วนนี้มีอีก 20% ของจำนวนห้องชุดทั้งโครงการ และห้องชุดที่ผู้ซื้อไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ส่วนนี้กรรมสิทธิ์ยังตกเป็นของบริษัทเจ้าของโครงการ โดยมักนำมาทำกิจกรรมรณรงค์ขายเป็นระยะ ๆ ส่วนนี้ยังมีปริมาณไม่ชัดเจนแต่ละโครงการแตกต่างกันไป น้ำท่วมครั้งนี้จึงทำให้เกิดปรากฏ การณ์ ห้องชุดที่นักลงทุนซื้อไว้ไม่ได้ใช้สอยอะไร แต่ขณะนี้พอพลบค่ำก็มีไฟเปิดสว่างไสว มีคนหนีน้ำเข้าอยู่อาศัยกันเพียบแทบทุกอาคาร โดยเฉพาะจากผู้มีเงินที่หนีน้ำท่วมมาจากหมู่บ้านหรูชานเมือง อพยพมาซื้อห้องชุดกันไม่น้อย และเชื่อว่าผู้ที่มีกำลังซื้อ สามารถซื้อห้องชุดได้ทันที พร้อมเข้าอยู่ในไม่กี่วันยังมีอีกมาก ขณะเดียวกันในพื้นที่น้ำท่วมหนักนั้น ราคาทั้งบ้านและที่ดินต้องดิ่งฮวบฮาบลงเป็นธรรมดา อีกส่วนหนึ่งจะหันไปซื้อที่อยู่อาศัยในจังหวัดใกล้เคียง เดินทางไปกลับได้สะดวก โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยในพื้นที่ จ.ชลบุรี จะได้รับอานิสงส์จากผู้ที่ต้องการที่พักพิงในอนาคต หากประสบปัญหาอุทกภัยใหญ่อีก เพราะมีเส้นทางคมนาคมสะดวกกว่าเส้นทางอื่น มีตลาดที่อยู่อาศัยทุกประเภทให้เลือกมาก รองจากกรุงเทพฯ-นนทบุรี-ปทุมธานี ด้านผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เอง คงไม่มีใครจะเปิดตัวโครงการใหม่มากนัก อย่างน้อยนับจากนี้ไปครึ่งปีถึง 1 ปี โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีที่ดินในพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วม หรือหากมีก็ต้องจัดเต็ม ลงทุนระบบป้องกันน้ำท่วมให้ครบวงจรก่อน ถึงจะเปิดขายอีกครั้ง และแน่นอนว่า ราคาต้องขยับหนีน้ำตามไปด้วย อีกทั้งตัวเลขที่สำคัญ ๆ เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยในปีนี้ ล้วนปรับลดลงกันทั่วหน้าด้วยเช่นกัน ไล่ตั้งแต่ที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ทั้งปี 54 น่าจะลดลงเหลือ 80,000-90,000 ยูนิต เทียบกับปี 53 ที่มี 107,000 ยูนิต ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั้งที่ขายใหม่ และมือสองน่าจะลดลงเหลือ 140,000-150,000 ยูนิต จากปี 53 ที่มี 178,000 ยูนิต ด้านการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ปีนี้ น่าจะลดลงเหลือ 45,000-50,000 ยูนิต จากปี 53 ที่มี 66,000 ยูนิต บ้านจัดสรรทั้งปี น่าจะมี 45,000-50,000 หน่วย ลดลงจากปี 53 ที่มี 54,000 หน่วย โดยภาพรวมการเปิดโครงการที่อยู่อาศัยทั้งหมดสำหรับปี 54 น่าจะอยู่ที่ 90,000-100,000 ยูนิต เทียบกับปี 53 ที่มี 120,000 ยูนิต และภาวะหยุดชะงักของตลาดนี้น่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า ได้แต่หวังว่าในพื้นที่น้ำท่วมหนักราคาร่วงอยู่นั้น รัฐบาลจะยื่นมือเข้ามาปรับปรุงพื้นที่ โดยเฉพาะการลงทุนด้านพัฒนาสาธารณูปโภค เพื่อฟื้นฟูทั้งความเป็นอยู่ ตลอดจนการทำระบบป้องกันวิบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ จนกลายสภาพเป็น “เมืองใหม่” ที่อาจจะทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้นกว่าเดิมได้.
ณัฐธินี มณีวรรณhttp://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&contentId=175207&categoryID=310
|
|
|
|
|