churaipatara
|
 |
« ตอบ #6600 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2555, 16:37:26 » |
|
สาระฯ(ต่อ)
-..เหลียวมองไปรอบตัว แม้แต่ในครอบครัวของเราเอง คนที่เคยผ่านการหย่าร้าง บาดหมางแยกกับคู่ครอง..ลูก หรือพ่อแม่ ผู้ที่เคยผ่าน
ความสัมพันธ์ร้าวฉาน จะบอกได้ว่ามีความเจ็บปวดซ่อนลึก..แผลเป็นร้าวรานติดอยู่ในใจ..
-..หากการแตกแยกบาดหมาง เป็นเรื่องง่ายในระยะสั้น ในระยะยาว การทำลายความสัมพันธ์จะเจ็บปวดยิ่งกว่าในการประสานรอยร้าว..
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีลูกอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย..
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #6601 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2555, 17:00:55 » |
|
สาระฯ(ต่อ)
-เอ็ม สก็อตต์ เพ๊กค์ กล่าวไว้ว่า ความปรารถนาจะรักมิใช่รัก..คำว่ารักเป็นการแสดงเจตนา นั่นก็คือ มีความตั้งใจและการแสดงออก เจตนา
หมายความถึงการตัดสินใจเลือก..เราไม่จำเป็นต้องรัก เราเลือกที่จะรัก ไม่ว่าเราจะรู้สึกมากเพียงใดว่าเรารักใคร่ หากเราไม่ได้รัก ก็เป็น
เพราะเลือกที่จะไม่รัก..ดังนั้น จะไม่มีความรักอยู่เลยไม่ว่าจะตั้งใจดีสักแค่ไหน ในอีกทางเมื่อใดก็ตามที่เราทุ่มเทเพื่อสรรค์สร้างให้เกิดความ
เจริญเติบโตเชิงจิตวิญญาณ นั่นเป็นเพราะเราเลือกจะกระทำเช่นนั้น การเลือกที่จะรักถือได้ว่าเกิดขึ้นแล้ว..
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #6602 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2555, 17:17:26 » |
|
สาระฯ(ต่อ)
-เพื่อนคนหนึ่ง..ทุกวันในชีวิต ในตอนที่เขากลับจากที่ทำงานถึงบ้าน..เขาหยุดชีวิตให้ชะงักค้างไปชั่วขณะ เขาคิดถึงสมาชิกในครอบ
ครัว และสิ่งที่พวกเขาทำอยู่ใต้หลังคาบ้าน..เขาวาดภาพความรู้สึกและสภาพแวดล้อมที่เขาประสงค์จะสร้างให้เกิดขึ้น ..
-เมื่อเขาเดินเข้าไปในบ้าน เขาบอกกับตนเองว่า "ครอบครัวของฉันงดงามที่สุด ปิติอิ่มเอิบใจที่สุด และเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในชีวิต
ของฉัน..ฉันจะเข้าไปในบ้าน รับรู้และสื่อความรักต่อสมาชิกทุกคนในครอบครัว"..
|
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #6604 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2555, 17:26:22 » |
|
สาระฯ(ต่อ)
-ในตอนที่เขาเดินเข้าบ้าน แทนที่จะสอดส่ายสายตามองเห็นความบกพร่องข้อผิดพลาด หรือปลีกตัวแยกไปพักผ่อน บำบัดความต้อง
การส่วนตัว..เขาจะตะโกนด้วยเสียงอันดัง "พ่อกลับมาถึงบ้านแล้ว ได้โปรดหักห้ามใจตนเอง อย่าได้กระโจนทับ โอบกอดและหอมแก้ม
พ่อ!"..
-เขาจะตระเวนทั่วบ้าน สานความสัมพันธ์เชิงบวกกับสมาชิกทุกคนในบ้าน..หอมแก้มภรรยา นอนกลิ้งเกลือกบนพื้นห้องเล่นกับลูกๆ..
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #6605 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2555, 17:37:30 » |
|
สาระฯ(ต่อ)
-เขาทำทุกอย่างที่สร้างบรรยากาศสุขสงบในบ้าน ไม่ว่าจะช่วยเอาขยะไปทิ้ง ช่วยลูกทำการบ้าน หรือรับฟัง เรื่องเช่นนี้ช่วยให้เขาลอยตัว
เหนือความเหนื่อยล้าจากปัญหาและอุปสรรคในที่ทำงาน..
-...กำจัดสายตามองหาข้อบกพร่องหรือความผิดหวังที่จะพบในบ้าน..เขาทำทุกเรื่อง ทำด้วยสติรู้ตัวว่าตัวเองทำสิ่งใดอยู่..เขากลายเป็น -
พลังสร้างสรรค์เชิงบวกในวัฒนธรรมครอบครัว..
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #6606 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2555, 17:42:53 » |
|
 ของที่ระลึกจากคณะผู้ประนีประนอมข้อพิพาท ศาลเยาวชนและครอบครัวฯมอบให้ผู้บรรยายทุกคน..
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #6607 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2555, 17:49:38 » |
|
สาระฯ(ต่อ)
-ลองคิดดูว่า การเลือกเชิงโปรแอกทีฟของชายผู้นี้..จะส่งผลกระทบต่อครอบครัวของเขาอย่างไร ลองคิดถึงความสัมพันธ์ที่เขาสร้างขึ้น
มา ว่าจะมีผลกระทบต่อทุกแง่มุมของครอบครัวอย่างไรบ้าง ปีแล้วปีเล่า..จากคนรุ่นหนึ่งไปยังคนอีกรุ่น..
-ชีวิตสมรส ชีวิตครอบครัวที่ประสบผลสำเร็จ จำเป็นต้องลงทุนลงแรง..มิใช่เหตุบังเอิญ หากแต่เป็นการทุ่มเทที่ประสงค์ผลสำเร็จ ต้อง
ใช้ความอุตสาหะและการเสียสละ..ต้องใช้การเตือนตนเองให้เต็มความหมายของคำกล่าวที่ว่า"ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ไม่ว่าจะสมบูรณ์หรือ
ป่วยไข้ นานเท่านานตราบที่เรามีชีวิตอยู่"..คำว่า รัก ..เป็นคำกริยา..
|
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #6609 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2555, 10:57:47 » |
|
สาระฯ(ต่อ)
-ชีวิต..เปรียบไปไม่ต่างไปจากการพัฒนามัดกล้ามเนื้อ แนวโน้มของคนเรา มักจะร่วมทีมไปกับความแกร่ง ละเลยความอ่อนด้อยไม่มีการ
พัฒนาให้แข็งแรงขึ้น..บางคราว ก็ไม่แปลกที่จะดึงเอาความแกร่งของปัจจัยรวมมาใช้งาน กลบความอ่อนด้อยไว้ได้..
-แต่บางครั้ง ก็เป็นเรื่องแปลก เพราะหากเราประสงค์จะพัฒนาศักยภาพให้ถึงขีดสุด ก็หมายความว่า จะต้องปรับปรุงจุดอ่อนด้อย..ทุกข้อ..
|
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #6611 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2555, 11:13:34 » |
|
สาระฯจากหนังสือ THE 7 HABITS OF HIGHLY EFFECTIVE FAMILIES (ต่อ)
-ในขณะที่เราใช้ชีวิตไปท่ามกลางสภาพแวดล้อมรอบข้าง ต้องติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่น ต้องค้นลึกเข้าไปในธรรมชาติของตนเอง ..เราจะ
พานพบความอ่อนด้อยในตัวเอง..
-เราอาจเลือกที่จะละเลยไม่ใส่ใจ หรืออาจเลือกที่จะกระโจนลงไปแก้ไขความอ่อนด้อยข้อบกพร่องทุกเรื่อง..สะสางให้แล้วเสร็จ เพื่อจะ
เติบโต ไต่ขึ้นสูงอีกขั้น มีความสามารถและความแกร่งเพิ่มขึ้น..
สวัสดี1บุคคลทั่วไปที่กำลังแวะเข้ามาค่ะ..
|
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #6613 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2555, 11:35:08 » |
|
สาระฯ(ต่อ)
-"คิดนอกกรอบ" หมายความถึง การออกไปอยู่นอกกรอบความคิดปกติ การอนุมานปกติที่เคยใช้กันเป็นประจำ..นั่นเป็นการแทนค่าคำ
ยามของการรู้ตนเองอีกทางหนึ่ง..
-ถ้าไม่มีการพัฒนาการรู้ตนเองมาใช้งาน..มโนธรรม จินตนาการ และความประสงค์อิสระ ก็จะยังติดอยู่ในกรอบ วนเวียนอยู่ในประสบ -
การณ์ชีวิตของตนหรือกรอบความคิดเดิมที่เราคิดอยู่..
|
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #6615 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2555, 12:12:48 » |
|
สาระฯ(ต่อ)
-คุณสมบัติเฉพาะของมนุษย์ข้อที่ทรงพลังที่สุดจะเป็น การรู้ตนเอง เพราะจะเป็นการแยกตัวออกไปยืนนอกกรอบความคิดเดิม..มองความ
คิด ความรู้สึก และอารมณ์..
-คุณจะแปลงตัวเป็น"ผู้อยู่เหนือธรรมชาติ"เต็มความหมาย เพราะยกตัวเองขึ้นสูงกว่าธรรมชาติดั้งเดิม พ้นจากปูมหลังชีวิต ประวัติชีวิต..
สวัสดี1บุคคลทั่วไปที่กำลังแวะเข้ามาค่ะ..
|
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #6617 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2555, 12:28:28 » |
|
วันที่ ๑๔-๑๕ กรกฏาคมนี้ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ จัดสัมมนาโครงการ"การสร้างจิตสำนึก ฝึกทีมงาน ผสานจริยธรรม
นำสู่สำเร็จ" ณ โรงแรมอันนาวานา รีสอร์ทแอนด์สปา จังหวัดมุกดาหารค่ะ..
|
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #6619 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2555, 13:16:45 » |
|
สาระฯ(ต่อ)
-การยกตนเองไปอยู่เหนือธรรมชาติของตน ถือเป็นเรื่องพื้นฐานสำคัญยิ่งในพลังชีวิตของคนเรา..เพราะจะเป็นการปลดปล่อยศักยภาพ
แท้จริงที่จะกลายเป็นคนใหม่ เจริญเติบโต และพัฒนาสู่ระดับสูงขึ้น..
-ถือเป็นเรื่องพื้นฐานสำคัญในการสานความสัมพันธ์กับผู้อื่น และการสานสร้างวัฒนธรรมครอบครัวงดงาม..หากสมาชิกทุกคนมีการรู้ตน
เอง เราก็จะมองเห็นตัวตนของเราชัดยิ่งขึ้น พัฒนาตนเองให้ดีขึ้น..
|
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #6621 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2555, 13:30:23 » |
|
สาระฯ(ต่อ)
-คำกรีกโบราณที่ว่า"รู้ตนเอง"ถือได้ว่ามีความสำคัญยิ่ง เพราะสะท้อนให้เห็นว่า การรู้ตนเองเป็นรากฐานของการแสวงหาความรู้ในเรื่อง
อื่นๆ..
-หากเราไม่นับรวมตัวเราเข้าไปร่วมพิจารณาด้วย เราจะทำได้เพียงแค่ฉายภาพตัวเองเข้าไปในชีวิตของเรา และชีวิตของผู้อื่น..เราจะ
ตัดสินตนเองด้วยมูลเหตุจูงใจ ตัดสินผู้อื่นด้วยพฤติกรรมที่เขาแสดงออกมา..
|
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #6623 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2555, 13:47:07 » |
|
สาระฯ(ต่อ)
-หากเราไม่อาจแยกตัวออกจากตัวตนของเรา..เราจะไม่มีรากฐานที่จะทำความรู้จักและนับถือผู้อื่น..อย่าได้กล่าวเลยไกลไปถึงการสร้าง
ความเปลี่ยนแปลงในตัวของเรา..
-ยกตัวอย่างฮิตเลอร์ จอมเผด็จการผู้นี้มีการรู้ตนเอง มีจินตนาการ และความประสงค์อิสระ..แต่ไม่มีมโนธรรม และนั่นก็เป็นความหายนะ
ในชีวิต และก่อความหายนะต่อชีวิตผู้คนอีกหลายล้านคน..
|
|
|
|
|
|