☼☼☼ ร่วมคุยกันในมุมมองของคุณแม่~แวะพักทักทายเอ๋ 24 ☼☼☼

[churaipatara]

โครงการเผยแพร่ความรู้ในรูปแบบแผ่นพับ

เรื่องที่ ๔๙ กฎหมายครอบครัว

ครอบครัวคือฐานของประเทศชาติ  มีที่มาจากการสืบทอดจารีตประเพณีจน

กลายเป็นกฏเกณฑ์ของสังคม  ซึ่งแต่ละสังคมย่อมมีความแตกต่างไปตามเผ่า

พันธุ์  การสืบทอดจารีตประเพณีและสายเลือดสำหรับสังคมไทยเน้นถึงความ

อบอุ่นทางใจและการจัดสรรผลประโยชน์ระหว่างคนในครอบครัว  ดังจะเห็น

ได้จากทารที่พ่อแม่สะสมทรัพย์สมบัติไว้ให้ลูกหลาน  พ่อแม่ลูกจะอยู่ด้วยกัน

จนลูกเติบใหญ่และแม้ลูกจะแยกครอบครัวไปแล้ว  ความเป็นห่วงเป็นใยก็ยัง

ตรึงแน่นและเตรียมยกทรัพย์สมบัติให้ลูกหลานเมื่อตนตาย

รัฐ  ได้รับรู้ถึงกฏเกณฑ์และความสัมพันธ์ดังกล่าว  จึงได้ออกกฎหมายควบคุม

และส่งเสริมครอบครัว  เพื่อให้ครอบครัวเกิดความอบอุ่นและเกิดความสงบ

เรียบร้อยขึ้นในบ้านเมือง  กฎหมายครอบครัวจึงเป็นวินัยให้คนในครอบครัวยึด

ถือปฏิบัติ  แม้แต่รัฐธรรมนูญก็ยังเน้นถึงความสำคัญของครอบครัวไว้



จาก  หนังสือคำอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยครอบครัว

โดย สมพร พรหมหิตาธร  อดีตรองอัยการสูงสุด

[churaipatara]

คิดถึงเพื่อนๆนะคะ

[churaipatara]

(ต่อ)

มาตรา ๓๔  สิทธิของบุคคลในครอบครัว  เกียรติยศ  ชื่อเสียงหรือความเป็นอยู่

ส่วนตัว  ย่อมได้รับความคุ้มครอง

การกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความหรือภาพไม่ว่าด้วยวิธีใดไปยังสาธาร

ณชน  อันเป็นการละเมิดหรือกระทบถึงสิทธิของบุคคลในครอบครัว  เกียรติยศ

ชื่อเสียงหรือความเป็นอยู่ส่วนตัวจะกระทำมิได้  เว้นแต่กรณีที่เป็นประโยชน์ต่อ

สาธารณชน

มาตรา ๕๓  เด็ก  เยาวชนและบุคคลในครอบครัว  มีสิทธิได้รับความคุ้มครอง

โดยรัฐ  จากการใช้ความรุนแรงและการปฏิบัติอันไม่เป็นธรรม

เด็กหรือเยาวชนซึ่งไมมีผู้ดูแล  มีสิทธิได้รับการเลี้ยงดูและการศึกษาอบรมจาก

รัฐ 

มาตรา ๕๔  บุคคลซึ่งมีอายุเกินหกสิบปีบริบูรณ์และไม่มีรายได้เพียงพอแก่การ

ยังชีพ  มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือจากรัฐ  ทั้งนี้ตามที่กฎหมายบัญญัติ



จาก  หนังสือคำอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยครอบครัว

โดย  สมพร  พรหมหิตาธร  อดีตรองอัยการสูงสุด

[churaipatara]

ท่านผู้พิพากษาสรชัย ในงานคืนสู่เหย้าค่ะ ยินดีด้วยกับความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของเพื่อนๆ24ค่ะ

[churaipatara]

(ต่อ)

มาตรา ๘๐ รัฐต้องคุ้มครองและพัฒนาเด็กและเยาวชน  ส่งเสริมความเสมอภาค

ของหญิงและชาย  ส่งเสริมและพัฒนาความเป็นปึกแผ่นของครอบครัวและ

ความเข้มแข็งของชุมชน

รัฐต้องสงเคราะห์คนชรา  ผู้ยากไร้  ผู้พิการ  หรือทุพพลภาพและผู้ด้อยโอกาส

ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและพึ่งตนเองได้

การเกิด

มาตรา ๑๕  วรรคหนึ่ง  ให้สภาพบุคคลย่อมเริ่มแต่เมื่อคลอดแล้วอยู่รอดเป็นทา

รก  และสิ้นสุดลงเมื่อตาย

มาตรา ๑๕  วรรคสอง  ว่าทารกในครรภ์มารดาสามารถมีสิทธิต่างๆได้หากว่า

ภายหลังคลอดแล้วอยู่รอดเป็นทารก

ทารกในครรภ์มารดาดังกล่าวมีสิทธิทวงสิทธิความเป็นพ่อจากชายที่มิได้จดทะ

เบียนสมรสกับมารดาตน

เด็กเกิดแต่หญิงขณะเป็นภริยาชายหรือภายในสามร้อยสิบวันนับแต่วันที่การสม

รสสิ้นสุดลง  ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็น

สามีหรือเคยเป็นสามี  แล้วแต่กรณี



จาก  หนังสือคำอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยครอบครัว

โดย  สมพร  พรหมหิตาธร  อดีตรองอัยการสูงสุด

[churaipatara]

กับแมว เพื่อนคนสวยคนเก่งค่ะ ลุงๆป้าๆก็ขอรอชื่นชมกับความสำเร็จของหลานๆนะคะแม่แมว

[พธู ๒๕๒๔]

พระราชดำรัส พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย 

ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่  ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๓ 

 

ประชาชน ชาวไทยทั้งหลาย  วันนี้จะขึ้นวาระจะขึ้นปีใหม่  ข้าพจ้าขอส่งความปรารถนาดีมาอวยพรแก่ท่านทุก ๆ  คน  ทั้งขอขอบใจท่านเป็นอย่างมาก  ที่วิตก ห่วงใย  แก่การเจ็บป่วยของข้าพเจ้า และแสดงออกโดยประการต่าง ๆ  จากใจจริง  ที่จะให้ข้าพเจ้าหายเจ็บป่วยและมีความสุขสวัสดี

ความ สุขสวัสดีนี้เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาอย่างยิ่งของคนเรา แต่จะสำเร็จผลเป็นจริงได้มากน้อยเพียงใด  ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถและสติปัญญา  และการประพฤติตัว  ปฏิบัติงานของแต่ละบุคคล   

ในปีใหม่นี้จึงขอให้ชาวไทย ทุกคน  ได้ตั้งจิต ตั้งใจให้เที่ยงตรง  แน่วแน่  ที่จะประพฤติตัว ปฏิบัติงานให้เต็มกำลังความสามารถ โดยมีสติรู้ตัว  และปัญญารู้คิด  กำกับอยู่ตลอดเวลา กล่าวคือ จะคิดจะทำสิ่งใดต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี ให้รอบคอบ ทำให้ดีให้ถูกต้อง ข้อสำคัญจะต้องระลึกรู้โดยตระหนักว่าประโยชน์ส่วนรวมนั้นเป็นประโยชน์ที่แต่ ละคนพึงยึดถือ  เป็นเป้าหมายหลักในการประพฤติตัวและปฏิบัติงาน  เพราะเป็นประโยชน์ที่ยั่งยืนแท้จริง  ซึ่งทุกคนมีส่วนได้รับทั่วถึงกัน   ความสุขความสวัสดีจักได้เกิดมีขึ้นทั้งแก่บุคคล ทั้งแก่ชาติบ้านเมืองไทย ดังที่ทุกคนทุกฝ่ายตั้งใจปรารถนา   

ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยเคารพบูชา จงอภิบาลรักษาท่านทุกคนให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากโรคภัย  ให้มีความสุขกาย สุขใจ  และความสำเร็จสมประสงค์ตลอดศกหน้านี้ โดยทั่วกัน

 -------------------------------------

[maew2524]

		อ้างถึง			ข้อความของ churaipatara เมื่อ 02 มกราคม 2553, 16:24:08
	กับแมว เพื่อนคนสวยคนเก่งค่ะ

เอ๋จ๋า ขอให้เอ๋และครอบครัว มึความสุข สดชื่น สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง พบแต่สิ่งดีๆยิ่งๆขึ้นไปนะจ้ะ ขอส่งความรักถึงหลานๆที่น่ารักด้วยนะจ้ะ            รักและคิดถึงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจ้ะ 

[churaipatara]

สวัสดีค่ะท่านทู และแมว ดีใจที่แวะมานะคะ แมวจะได้เจอครอบครัวของต๋อยและเพื่อนๆมั้ยล่ะค่ะวันนี้


ปีใหม่นี้ชวนลูกๆทำบุญ โดยการมอบของขวัญ ขนม ให้กับเด็กพิเศษ เด็กออทิสติค  เด็กพิการทุกประเภท  ฯ  รวม80คน


ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดศรีสะเกษค่ะ  ในนามจุไรภัทร์และเพื่อนรุ่น24ด้วยนะคะ

[churaipatara]

(ต่อ)

มาตรา ๑๖ ว่าการนับอายุบุคคลให้เริ่มนับแต่วันเกิด  ในกรณีที่รู้ว่าเกิดในเดือน

ใดแต่ไม่รู้วันเกิด  ให้นับแต่วันที่หนึ่งแห่งเดือนนั้นเป็นวันเกิด  แต่ถ้าพ้นวิสัยที่

จะหยั่งรู้เดือนเกิดและวันเกิดของบุคคลใด  ให้นับอายุของบุคคลนั้นตั้งแต่วัน

ต้นปีปฏิทินซึ่งเป็นปีที่บุคคลนั้นเกิด

-เกิดมาแล้วต้องมีการแจ้งเกิด

การแจ้งเกิดนี้ทำให้เด็กเกิดใหม่ได้สิทธิดังนี้

๑)  เป็นหลักฐานในการฟ้องให้ชายใดรับตนเป็นบุตรตามมาตรา ๑๕๕๕(๔)ที่

ว่า  เมื่อปรากฏในทะเบียนคนเกิดว่าเด็กเป็นบุตร  โดยมีหลักฐานว่าบิดาเป็นผู้

แจ้งการเกิดหรือรู้เห็นยินยอมในการแจ้งนั้น

๒)  เป็นบุตรของชายผู้แจ้งเกิดของเด็กในทะเบียนคนเกิดเองว่า  เด็กเป็นบุตร

ของตน  หรือเป็นบุตรของชายผู้จัดหรือยินยอมให้มีการแจ้งเกิดดังกล่าวตามมา

ตรา๑๕๔๑

มาตรา ๑๕๓๖ ว่า  เด็กเกิดแต่หญิงขณะเป็นภริยาชาย  ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า

เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นสามี

มาตรา ๑๕๓๖ วรรคหนึ่ง ว่า เด็กเกิดภายในสามร้อยสิบวันนับแต่การสมรสสิ้น

สุดลง  ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เคยเป็นสา

มี

มาตรา ๑๕๓๘  ในกรณีที่ชายหรือหญิงสมรสฝ่าฝืนมาตรา ๑๔๕๒ เด็กที่เกิดใน

ระหว่างการสมรสที่ฝ่าฝืนนั้น  ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎ

หมายของชายผู้เป็นสามีซึ่งได้จดทะเบียนสมรสครั้งหลัง

ในกรณีที่หญิงสมรสฝ่าฝืนมาตรา ๑๔๕๒ ถ้ามีคำพิพากษาถึงที่สุดแสดงว่าเด็กมิ

ใช่บุตรชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นสามีซึ่งได้จดทะเบียนสมรสครั้งหลัง ให้

นำข้อสันนิษฐานในมาตรา ๑๕๓๖ มาใช้บังคับให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้

บังคับแก่เด็กที่เกิดในสามร้อยสิบวันนับแต่วันที่ศาลพิพากษาถึงที่สุด ให้การสม

รสเป็นโมฆะเพราะฝ่าฝืนมาตรา ๑๕๕๒ ด้วย



จาก  หนังสือคำอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยครอบครัว

โดย สมพร พรหมหิตาธร  อดีตรองอัยการสูงสุด


ด้วยความปรารถนาดีจาก คณะผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัดศรีสะเกษแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว

[churaipatara]

ความสุขสดชื่น..ในงานคืนสู่เหย้าค่ะ

[churaipatara]

โครงการเผยแพร่ความรู้ในรูปแบบแผ่นพับ

เรื่องที่ ๕๐ SELF-ESTEEM

ความภูมิใจในตนเอง(SELF-ESTEEM) มีความสำคัญอย่างไรต่อชีวิตของคนเรา

มีความสำคัญยิ่ง  ถ้าคนเราไม่มีความภูมิใจ  ไม่รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า  ไม่รู้สึกว่า

ตนมีความสามารถก็จะไม่มีความสุข  และจะไม่สามารถทำกิจการใดๆของชีวิต

ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

ความภูมิใจในตนเองเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในจิตใต้สำนึกทีละเล็กทีละ

น้อย  เริ่มต้นจากวัยทารกและดำเนินอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆจนเติบใหญ่  เด็กที่

ได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกต้องจะส่งผลให้มีความภาคภูมิใจในตนระดับสูง  ทำให้

เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง  รักและนับถือตนเอง  มีวุฒิภาวะ

ด้านความคิดและอารมณ์ดีตลอดจนการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดี

แต่ถ้าหากเด็กขาดการอบรมดูแลเอาใจใส่จากพ่อแม่  หรือได้รับการอบรมเลี้ยงดู

อย่างไม่ถูกต้องเช่น  ถูกปล่อยปละละเลย  ถูกตำหนิติเตียนและดุด่าว่ากล่าวบ่อย

ๆเด็กจะรู้สึกไม่ดีกับตนเอง  รู้สึกด้อยค่า  ขาดความภาคภูมิใจในตนเอง  อาจทำ

ให้เกิดปัญหาเมื่อเติบใหญ่ได้



จาก  หนังสือทำอย่างไรเด็กจึงจะภูมิใจในตนเองและมีความสุข

โดย  ดร. สยุมพร เค-ไพบูลย์

ด้วยความปรารถนาดีจาก คณะผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัดศรีสะเกษแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว

[churaipatara]

กับ..ดาวค่ะ เพื่อนที่มอบความปรารถนาดีให้เสมอตั้งแต่เรียนด้วยกันจนถึงปัจจุบัน..

[idick]

[churaipatara]

		อ้างถึง			ข้อความของ idick เมื่อ 03 มกราคม 2553, 18:02:30

ขอบคุณค่ะดิ๊ค  ขอพรส่งผลถึงดิ๊คและครอบครัวเช่นกันนะคะ


นี่ก็มาถึงที่ทำงานแล้ว8.05นาที เดินออกกำลังกายสูดอากาศยามเช้าอันสดชื่น เจริญสมาธิ ฯ และพร้อมทำงานค่ะ

[churaipatara]

(ต่อ)

ลักษณะความภูมิใจในตนเอง

-รู้สึกว่าตนมีความสำคัญ                      -รู้สึกรักและนับถือตนเอง

-ยอมรับและพอใจตนเอง                      -รู้สึกมั่นใจในตนเอง

-กล้าคิด กล้าทำ กล้าพูด                      -ไม่ขี้อิจฉาริษยา

-กล้าเผชิญกับปัญหา                           -เป็นตัวของตัวเอง

-มีแรงจูงใจและกระตือรือร้น                  -มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

-สามารถยืดหยุ่นและปรับตัวได้ดี           -มีความสามารถโน้มน้าวจิตใจผู้อื่นได้

-อารมณ์สดชื่น ร่าเริง แจ่มใส                 -ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลดี

-มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง                   -รักตนเองและรู้สึกมีคุณค่า

-รู้จักตนเองและเข้าใจผู้อื่น                    -มีความรับผิดชอบสูง

-มองโลกในแง่ดี                                   -วุฒิภาวะทางอารมณ์มั่นคง

-ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดี                    -อดทนเข้มแข็ง

-เผชิญกับสถานการณ์ต่างๆได้ดี            -สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้

-รู้จักวิเคราะห์และมีวิจารณญาณดี         -สามารถพิจารณาและตัดสินใจดี

-รู้จักชื่นชมผู้อื่น                                   -รู้จักช่วยเหลือผู้อื่นหรือผู้ที่ด้อยกว่า

-เป็นผู้นำที่ดี                                       -วิสัยทัศน์กว้างไกล

-อยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ                -ทำอะไรคิดอะไรอย่างมีเหตุผล

-สามารถพึ่งตนเองได้                       -เป็นคนมีคุณธรรมที่ดีน่าเชื่อถือน่าไว้วางใจ



จาก หนังสือทำอย่างไรเด็กจึงจะภูมิใจในตนเองและมีความสุข

โดย  ดร.สยุมพร เค-ไพบูลย์

ด้วยความปรารถนาดีจาก คณะผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัดศรีสะเกษแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว

[churaipatara]

คิดถึงเพื่อนๆนะคะ

[churaipatara]

“ซีมะโด่ง Unity”.......อดีตที่ไม่มีวันลืม

ทัศนีย์  ตั้งพัฒนาศิริ

ผู้บริหารทีมการธนาคารและบัญชี ธนาคารแห่งประเทศไทย  สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

   
“พี่ๆ โต๊ะโน้นเขาฝากนามบัตรมาให้พี่ครับ” เด็กเสริ์ฟในโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงที่เพื่อนๆชวนคนทำงานต่างจังหวัดอย่าง

ฉันไปเลี้ยงสังสรรค์กันในโอกาสที่ฉันเข้าไปประชุมที่กรุงเทพฯยื่นนามบัตรให้ฉัน พร้อมกับชี้ไปที่โต๊ะที่เป็นที่มาของนามบัตรนั้นฉันมอง

ตามไป เห็นโต๊ะนั้นได้แม้จะอยู่ไกลพอควร เนื่องจากผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นพร้อมกันยกมือไหว้ เมื่อฉันหันมองตามมือเด็กเสริ์ฟไป

ฉันรับไหว้อย่างงงๆ จำไม่ได้ว่าเคยรู้จักกันที่ไหนมาก่อน แม้เมื่อก้มลงอ่านนามบัตรชื่อ “ธเนตร ชาญธนะวัฒน์ ภบ.พณม.” ฉันก็ยังไม่มี

ความรู้สึกว่าเคยรู้จักผู้หญิงโต๊ะนั้น จนฉันพลิกดูด้านหลังนามบัตรข้อความที่ปรากฏด้วยลายมือเขียนของเจ้าของนามบัตรทำให้ฉันถึงบาง

อ้อ ข้อความบนหลังนามบัตรเขียนไว้ว่า “ตอนเป็นนิสิตใหม่ชาวซีมะโด่งดื่มน้ำสาบาน สีแดงอ่อนๆ ยังจำได้ไม่ลืมเลือน” ฉันหันไปยิ้มให้

น้องอีกครั้งพร้อมกับความหลังสมัยฉันเป็นนิสิตหอจุฬาฯหรือที่เราเรียกกันว่าหอซีมะโด่ง ผุดขึ้นในความทรงจำและชัดเจนขึ้นทุกขณะ
   
ปี ๒๕๒๔ เป็นปีที่ฉันสอบเข้าคณะเศรษฐศาสตร์จุฬาฯได้ โชคดีไปกว่านั้นเมื่อฉันซึ่งเป็นเด็กที่จบจาก จ.ขอนแก่นได้ผ่านการคัดเลือกเข้า

พักในหอพักจุฬา ซึ่งจะมีเพียงร้อยละ ๒๐ ของนิสิตต่างจังหวัดเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้เข้าอยู่หอ โดยเฉพาะหอหญิงที่สูงตระหง่านถึง ๑๔ ชั้น

 ฉันอดรู้สึกภูมิใจไม่ได้ที่ได้มีโอกาสเข้าไปใช้ชีวิตชาวหอฯในระหว่างที่เรียนอยู่ที่จุฬาฯ แถมรุ่นปี ๒๕๒๔ นั้นมีน้องปี ๑ เข้าหอหญิงเป็นจำ

นวนมากถึง ๒๐ กว่าคน  ในแต่ละปี เราจะมีการเลือกหัวหน้าชั้นปีทุกชั้นปีเพื่อทำหน้าที่ประสานงานกับเพื่อนๆชั้นปีและอาจารย์อนุสาสก

รวมทั้งเป็นแกนนำในการทำกิจกรรมชั้นปี เราเรียกกันว่า “หัวชี่” (Freshy) “หัวหม่อ” (Sophomore) “หัวจู” (Jonir) และ “หัวซี” (Senior)

ปีนั้นนับเป็นทองของน้องใหม่เพราะเราเข้ามากันเยอะ เราจึงรวมตัวกันเป็นปึกแผ่นแน่นหนา ระยะหลังหอพักหญิงได้รับการปรับปรุงให้พักห้อง

ละ ๓ คน จากที่เคยพักห้องละ ๒ คน ทำให้แต่ละปีเรารับน้องใหม่เข้ามาได้เพิ่มขึ้น

ความที่ฉันเป็นนักกิจกรรมและหัวโจกของเพื่อนๆ ทำให้ฉันได้รับคัดเลือกเป็น “หัวหม่อ” เมื่ออยู่ปี 2 (เลือกกันเองในชาวปี ๒) และพอขึ้นปี

 ๓ ฉันก็ได้รับคัดเลือกเป็น “หัวหอ” หรือประธานหอหญิง (ทุกคนที่อยู่หอหญิงเป็นผู้เลือกตั้ง) ฉันเป็น “หัวหอ”ที่เป็นนิสิตปี ๓ คนแรกในประ

วัติศาสตร์หอหญิง เพราะที่ผ่านมาจะเป็นนิสิตชั้นปีที่ ๔ มาโดยตลอด

[churaipatara]

(ต่อ)

ชาวซีมะโด่งจะยึดถือความเป็น Unity โดยกล่าวได้ว่าเป็น Unique Unity ซึ่งลึกไปกว่า Unity ทั่วไป และคงเป็นเพราะฉันเป็น “หัวหอ”

ปี ๓ ทำให้การดำเนินกิจกรรมของหอค่อนข้างมีปัญหาอยู่บ้าง พี่ๆ ปี ๔ ก็เตรียมตัวจบ และจะยุ่งกับกิจกรรมหอน้อยกว่าทุกปี ในขณะที่ชาวปี

๓ ของฉันนั้นกำลังไฟแรงและคึกคะนองเต็มที่ ประเพณีรับน้องหอที่ถ่ายทอดกันมาจึงเข้มข้นจนน้องๆ ปี ๑ ที่เข้ามาใหม่รู้สึกว่ามันหนักหนา

เกินไปและมีบางส่วนเริ่มกระด้างกระเดื่อง ไม่เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องโดยข้ออ้างต่างๆ เมื่อปัญหาเริ่มมากขึ้นฉันจึงเรียกประชุมกรรมการหอ

และต้องหาทางแก้ลำน้องๆหัวหมอเหล่านี้เพื่อดึง Unity และ Seniority ของพวกเรากลับมาให้ได้
   
ปกติการ “ปลุกหอ” จะเป็นการที่พี่ๆ หอชายคุมน้องปี ๑ หรือชี่หอชายมานั่งเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบบริเวณสนามหญ้าหน้าหอพักหญิงพร้อมๆ

กันร้องเพลงซีมะโด่งด้วยเสียงอันดังและพร้อมเพรียงกัน พี่ๆหอหญิงก็จะช่วยกันปลุกน้องชี่หอหญิงให้ตื่นและลงมารวมตัวกันที่ห้องโถงชั้น ๒

อย่างพร้อมเพรียงก่อนจะลงมาเข้าแถวนั่งประจันหน้าน้องหอชาย จากนั้นก็จะเป็นการตอบโต้กันด้วยเพลงซีมะโด่งล้วนๆ ดุจทำการศึกอย่างไม่

มีใครยอมใคร แรกๆน้องๆหอหญิงก็ให้ความร่วมมือดี แต่ระยะหลัง ความที่พี่ๆStaff จะเป็นพี่หม่อ และพี่จู เป็นหลักมีพี่ซีมาร่วมเพียงเล็กน้อย

บวกกับการต้องถูกปลุกตั้งแต่ตี ๔ ทำให้จำนวนน้องลดลงเรื่อยๆ
   
ในที่สุดหลังการหารือกันของคณะกรรมการหอ เราจึงตัดสินใจ “ปลุกหอหญิง” โดยปลุกเฉพาะน้องชี่หอหญิง พวกเรากระจายกำลังกันปลุก

และรอจนกว่าน้องจะออกมาจากห้อง ชนิดที่ว่าไม่มีการยอมให้น้องใหม่คนไหนเล็ดรอดไปได้  ที่ห้องโถงชั้น ๒ เวลาตี ๔ กว่าพวกเราไม่เปิด

ไฟ แต่เอาเทียนไปจุดไว้รอบๆห้องโถง พี่ๆที่ปลุกน้องได้นำน้องลงมาที่ห้องโถงและสั่งห้ามส่งเสียงใดๆทั้งสิ้น เมื่อน้องลงมาก็จะเห็นห้องมืด

ที่มีเพียงแสงเทียนที่สะท้อนกับกระจกและมีพี่ staff ยืนล้อมรอบห้องโถงเป็นระยะๆ ทุกคนเมื่อมาถึงจะถูกนำไปนั่งเรียงเป็นแถวหน้ากระดาน

พวกเราเงียบกริบจนได้ยินเสียงหายใจกันเอง  เมื่อน้องๆลงมาครบ ฉันก็เดินไปด้านหน้านั่งลงประจันหน้ากับน้องๆพร้อมกับเสียงที่เปล่งออก

ไปท่ามกลางความเงียบและแสงเทียน “น้องๆ ที่รักทุกคน พี่ในฐานะหัวหอหญิงและตัวแทนของพี่ๆ มีความภูมิใจที่ได้มีโอกาสต้อนรับน้องๆ

ซึ่งได้เข้ามาเป็นนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติ รวมทั้งมีความยินดีที่ทุกคนในที่นี้ได้มีโอกาสเข้ามาใช้ชีวิตชาวหอซีมะโด่งเช่น

เดียวกับพวกเรา น้องๆบางคนอาจจะนึกขัดใจกับกระบวนการรับน้องหอของพวกพี่ๆ แต่ขอให้เชื่อเถอะว่า เมื่อน้องๆ ได้ก้าวขึ้นไปเป็น Sopho

more, Junior และ Senior จวบจนจบการศึกษาไปจากจุฬาฯและทั้งชีวิตชาวหอซีมะโด่งนี้เลย” ดังนั้น ในวันนี้ ...ที่พี่ๆ ทำการ “ปลุกหอ”

พวกเรา ก็เพื่อให้น้องรู้ซึ้งถึงความเป็น Unity และยึดถือหลัก “Seniority” ของชาวหอจุฬาฯ ให้หยั่งรากลึกและอยู่กับน้องๆตลอดไป.....

เราจะเริ่มพิธีการกัน ณ บัดนี้.....สิ้นคำกล่าว เพื่อนกรรมการหอ ยกขันเงินใส่น้ำใสแจ๋ว ใบใหญ่ พร้อมกับขันเงินใบเล็กวางบนพานสะท้อนแสง

เทียนวิบวับมาวางไว้ตรงหน้าฉันบนพานมีเทียนอีก 1 ดวงตั้งอยู่ ฉันส่งเสียงทำลายความเงียบขึ้นอีกครั้ง”พวกเราทุกคนกล่าวตามข้าพเจ้า...

พวกเรา...ชาวหอพักหญิงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย...ขอให้คำสัตย์ ปฏิญาณ ต่อหน้าแสงเทียนแห่งซีมะโด่งว่า....พวกเรา...จะร่วมกันรักษา

เกียรติภูมิแห่งจุฬาฯ...ด้วยการยึดถือ “Seniority” และ “Unity” ไว้เป็นหลักในใจ....พวกเราจะรักและเคารพรุ่นพี่ ...ไม่ว่าในวันนี้หรือวัน

ไหนๆตลอดไป ...จากนี้พวกเราจะพร้อมใจกันทำพิธีดื่มน้ำร่วมสาบาน....เพื่อยืนยันคำพูดของพวกเรา....เสียงที่กล่าวตามดังก้องไปทั่วหอ

จุฬาฯ...




                                               

[หนุ่ม2524]

จบแล้วเหรอครับ กำลังอ่านเพลินๆ อยู่เชียว แต่สงสัยน้ำร่วมสาบาน สีแดงอ่อนๆ เนี่ยมีส่วนผสมอะไรบ้าง?

[churaipatara]

		อ้างถึง			ข้อความของ หนุ่ม2524 เมื่อ 04 มกราคม 2553, 16:58:22
	จบแล้วเหรอครับ กำลังอ่านเพลินๆ อยู่เชียว แต่สงสัยน้ำร่วมสาบาน สีแดงอ่อนๆ เนี่ยมีส่วนผสมอะไรบ้าง?

สวัสดีค่ะหนุ่ม ดีใจที่แวะมาบ้านนี้นะคะ  ขอลงบทความเฉพาะเนื้อหาที่สำคัญๆจริงๆค่ะ เพื่อแสดงถึงสปิริต


ความเป็นผู้นำกลุ่ม และโยงมาถึงภาพลักษณ์อันดีงามของท่านผู้บริหารธนาคารฯในปัจจุบันค่ะ





คิดถึงจิ๋มและช้างเสมอนะคะ   คู่นี้เป็นคู่หวานที่ดูแลกันดีมาก  กลุ่มสาวชั้นสี่ขอยืนยันค่ะ เพราะเห็นช้างมาเยี่ยมจิ๋มที่หอฯบ่อยมากก  


ตั้งแต่เป็นคู่หวาน(รักกันมาตั้งแต่มัธยม)จนได้เป็นคู่ชีวิตกันในที่สุด..

[churaipatara]

		อ้างถึง			ข้อความของ churaipatara เมื่อ 03 มกราคม 2553, 10:16:36
	สวัสดีค่ะท่านทู และแมว ดีใจที่แวะมานะคะ แมวจะได้เจอครอบครัวของต๋อยและเพื่อนๆมั้ยล่ะค่ะวันนี้ ปีใหม่นี้ชวนลูกๆทำบุญ โดยการมอบของขวัญ ขนม ให้กับเด็กพิเศษ เด็กออทิสติค  เด็กพิการทุกประเภท  ฯ  รวม80คน ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดศรีสะเกษค่ะ  ในนามจุไรภัทร์และเพื่อนรุ่น24ด้วยนะคะ

มอบของให้กับศูนย์ฯเรียบร้อยแล้วเมื่อเช้าก่อนมาทำงาน  เจ้าหน้าที่ฯรับไว้และจะดำเนินการให้


ทำบุญแบบเรียบง่ายกับลูกๆ  สบายใจดีค่ะ

[churaipatara]

(ต่อ)

ความภาคภูมิใจในตนเองต่ำเกิดขึ้นได้อย่างไร

เกิดขึ้นกับเด็กตั้งแต่เล็กๆเป็นผลกระทบจากประสบการณ์ด้านลบต่างๆที่เด็กได้

รับมาตลอดชีวิต  เช่น

-ถูกตำหนิบ่อยมากๆ                      -ขาดความรักความเอาใจใส่

-ถูกล้อเลียนเป็นประจำ                  -ถูกจ้องจับผิดตลอดเวลา

-ถูกหัวเราะเยาะเสมอ                     -ถูกทารุณกรรมทั้งร่างกายและจิตใจ

-ถูกกวดขันเข้มงวด                        -ถูกลงโทษอย่างไม่เหมาะสม

-เป็นที่ระบายอารมณ์ของพ่อแม่                -ถูกขู่ว่าจะโดนทิ้ง

-มักถูกเยาะเย้ยถากถางในความคิดและการกระทำ

-พ่อแม่เข้าข้างคนอื่นแต่กล่าวโทษลูกเป็นประจำ       -ถูกกล่าวหาว่าทำผิดบ่อยๆ

-ถูกกระทำให้อับอายต่อหน้าผู้อื่นหรือเมื่ออยู่ตามลำพัง

-ถูกทอดทิ้งเพราะพ่อแม่ไม่ว่างหรืออารมณ์ไม่ดี

-ถูกทิ้งหรือไม่เป็นที่ต้องการ              -พ่อแม่ไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน

-พ่อแม่ไม่ให้เล่นกับเพื่อนและเพื่อนบ้าน  ไม่ให้ทำในสิ่งที่เด็กปกติทั่วไปทำกัน

-ถูกกล่าวโทษว่าเป็นตัวการทำให้พ่อแม่มีปัญหา

-ถูกเลี้ยงดูแบบผู้ใหญ่ทั้งๆที่ลูกยังเด็กมาก

-ไม่เคยได้รับการสอนทักษะทางสังคมอย่างเหมาะสม

-ไม่ได้รับการสนับสนุนเรื่องเรียนในโรงเรียน

-เจ็บป่วยตั้งแต่เด็กและไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมตามปกติได้

-ถูกปล่อยปละละเลยหรือตามใจมากเกินไป     -พ่อแม่สอนคำ บ่นคำ ด่าคำ

-พ่อแม่เปรียบเทียบเด็กกับลูกคนอื่น ฯลฯ



จาก หนังสือทำอย่างไรเด็กจึงจะภูมิใจในตนเองและมีความสุข

โดย  ดร.สยุมพร เค - ไพบูลย์

ด้วยความปรารถนาดีจาก คณะผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัดศรีสะเกษแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว



ขอยกตัวอย่างของทายาท24ทีได้รับการดูแลเลี้ยงดูอย่างดีจากครอบครัวนะคะ

[jum2524]

ขอบคุณเอ๋มากจ้ะที่กล่าวชมและให้กำลังใจ  เอ๋เองก็ดูแลทายาท24ได้ดีมาก (...กว่าเราด้วย) เช่นกันจ้ะ... 

[churaipatara]

		อ้างถึง			ข้อความของ jum2524 เมื่อ 05 มกราคม 2553, 12:20:48
	ขอบคุณเอ๋มากจ้ะที่กล่าวชมและให้กำลังใจ  เอ๋เองก็ดูแลทายาท24ได้ดีมาก (...กว่าเราด้วย) เช่นกันจ้ะ...

สวัสดีค่ะจุ๋ม ดีใจที่แวะมาบ้านนี้ เห็นภาพจุ๋มและเพื่อนๆสดใสมีความสุขในงานเลี้ยงส่งฯก็พลอยมีความสุขตามไปด้วยค่ะ