22 กันยายน 2567, 15:23:09
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 70 71 [72] 73 74 ... 979   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ☼☼☼ ร่วมคุยกันในมุมมองของคุณแม่~แวะพักทักทายเอ๋ 24 ☼☼☼  (อ่าน 2695934 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 33 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Dr.parrot
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18

« ตอบ #1775 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2552, 13:34:23 »

สวัสดีค่ะ  บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1776 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2552, 13:38:12 »

อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2552, 13:18:55
สวัสดีครับ ดร.เอ๋  วันนี้มี ดอกลั่นทม (ชื่อเดิม) มาเป็นกำลังใจในการทำงานต่อไปครับ 




สวัสดีค่ะเก๊า ขอบคุณสำหรับดอกลั่นทม กลิ่นของเค้าหอมมากเลยค่ะ
      บันทึกการเข้า
super
Full Member
**


วิดยา'20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 368

« ตอบ #1777 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2552, 15:08:01 »

อ้างถึง
ข้อความของ Uncle Na เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2552, 11:55:56
อ้างถึง
ข้อความของ super เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2552, 11:49:56

ไหนกินอะไร..ไม่แบ่งหนูมั่ง..เดี๋ยวสวย....

เพิ่งกลับจากประชุมที่โรงเรียน..ครับ..
เล่าเรื่องใหม่..ครับ..อาจาีรย์ เอ๋....
เรื่องนี้เกิดในห้องนอนอีกแล้ว...
บี.. กําลังหัดเดิน..พูดได้นิดหน่อย...
แกะถุงต้มยําในห้อง (กินด้วยดูลูกด้วย)...
เทใส่ชามแล้ว ช้อนก็พร้อมแล้ว....
ลูกสาวก็เดินโฉบไปมา..เขารู้ว่าเป็นอาหาร...
พยายามกันแล้ว..แต่เขาแหย่ขามาเหยียบจนได้..
ผลคือชามต้มยําควํ่า..อดกิน แถมต้องเก็บกวาดอีก
ส่วนลูกสาวหนีไปอยู่มุมห้องด้วยความปลอดภัย...
รู้เป็นแบบนี้ตักป้อนก่อน  ก็ดีแล้ว..


เล่าให้เขาฟังชอบใจกันใหญ่...

- สวัสดีคับ ดร.เอ๋ หาภาพและเล่าเรื่องได้ดีมากครับ

- สวัสดีคับพี่ซุป อิจฉาคนเห่อลูกสาว..

สวัสดี..ลุงณะ ..  แลกเปลี่ยนเรื่องราวซึ่งกันและกันครับ..

เห็นด้วยกับอาจารย์..  ครับ..กว่าจะเรียนรู้ได้ลงตัวก็โตๆกันหมดซะแล้ว...
      บันทึกการเข้า
jum2524
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,077

« ตอบ #1778 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2552, 15:59:50 »


สวัสดีค่ะดร.เอ๋  ยังไม่กลับบ้านเหรอคะ??... บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1779 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2552, 16:04:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ jum2524 เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2552, 15:59:50

สวัสดีค่ะดร.เอ๋  ยังไม่กลับบ้านเหรอคะ??... บ่ฮู้บ่หัน


สวัสดีค่ะจุ๋ม  หารืองานโครงการกับเพื่อนต่ออีกซักครู่ก็กลับค่ะ
      บันทึกการเข้า
jum2524
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,077

« ตอบ #1780 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2552, 16:17:29 »

อ้างถึง
ข้อความของ churaipatara เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2552, 16:04:51
อ้างถึง
ข้อความของ jum2524 เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2552, 15:59:50

สวัสดีค่ะดร.เอ๋  ยังไม่กลับบ้านเหรอคะ??... บ่ฮู้บ่หัน


สวัสดีค่ะจุ๋ม  หารืองานโครงการกับเพื่อนต่ออีกซักครู่ก็กลับค่ะ

ขยันจังเลย  งั้นทำงานต่อเถอะค่ะ...
      บันทึกการเข้า
jum2524
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,077

« ตอบ #1781 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2552, 09:17:21 »

สวัสดีค่ะเอ๋  ส่งรูปสวยๆฝีมือแจงมาฝากเช้านี้  เห็นแล้วสดชื่นดีจัง...ขอบคุณคนถ่ายกะคนถ่ายทอดค่ะ   บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1782 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2552, 09:22:07 »

สยุมพรส่งมาให้ค่ะ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


"ของเหลือจากคนเมืองอันมีจะกิน เป็นสิ่งมีค่าเหลือหลายสำหรับเด็กที่ไม่เคยได้ใช้ "เงิน" แม้แต่บาทเดียว . . ."  คำพูดนี้กลั่นออกมา

จากปากของ "พระครูวุฒิธรรมาทร" เจ้าอาวาสวัดโบสถ์วรดิตถ์ วัดแห่งหนึ่งใน อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง …

ในขณะที่ทุกคนเข้าวัดเพื่อทำบุญหรือหาที่พึ่งทางใจ แต่ ณ วัดป่าโมก วัดเล็กๆ ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก กลับเป็นสถานที่ชุบเลี้ยงเด็กอีก

หลายร้อยชีวิต พวกเขาคิดว่า "วัด" คือบ้านที่ให้ชีวิตพวกเขา ให้แหล่งพักพิงอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่คนไร้ญาติ ขาดคนเหลียวแล และคนจน

เช่นพวกเขาจะได้รับ

หลวงพ่อพระครูวุฒิธรรมาทร เจ้าอาวาสวัดโบสถ์วรดิตถ์ เล่าถึงความเป็นมาของวัดว่า เมื่อประมาณ  30  ปี ที่แล้ว พวกทหารพรานนำ

เด็กกว่า 30 คนมาฝากให้ท่านเจ้าอาวาสรูปก่อนดูแล ส่งเงินให้เดือนละ 500 บาท เด็กๆ ที่นำมาฝากส่วนใหญ่เป็นเด็กกำพร้า เพราะพ่อ

แม่เป็นพวกคอมมิวนิสต์ หลังพ่อแม่ถูกฆ่า ถูกกวาดล้างก็มาขอพึ่งพาอาศัยใบบุญวัดเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด

"ต่อมาชาวเขาทางภาคเหนือที่มีฐานะยากจนรู้เรื่องก็ส่งลูกๆ มาให้ทางวัดดูแลอีก เขาบอกว่าอย่างน้อยก็ยังดีกว่าอดตายอยู่บนเขา และ

ก็มีมาอีกเรื่อยๆ เกือบทุกจังหวัด จนถึงปัจจุบันก็กลายเป็นกว่า 400 คนแล้ว ก็ต้องดูแลกันไป จำชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง ดื้อบ้างซนบ้าง แต่

อาตมาก็ดูแล ไม่ให้ทะเลาะกัน ถ้าทะเลาะกันจะไม่ถามเลยว่าใครผิดใครถูก จะตีทั้งคู่ เด็กๆ เขาก็ซนตามประสาเด็กๆ" หลวงพ่อกล่าว

พร้อมด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ที่แฝงไว้ซึ่งความเมตตาต่อเด็กๆ

พร้อมกันนี้ท่านยังบอกอีกว่า ทางวัดก็มีโรงเรียนให้เด็กๆ ได้เรียนหนังสือ เป็นโรงเรียนประจำแต่ก็เป็นไปตามอัตภาพที่จะทำได้ มีตั้งแต่ชั้น

ระดับอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่เด็กเป็นร้อยคนดูแลเด็กก็ต้องไปบิณฑบาตรข้าวของเครื่องเรียนต่างๆ เพื่อนำมาให้เด็กๆ เขาใช้

ส่วนครูที่สอนหนังสืออยู่ที่นี่ก็เป็นระบบกึ่งข้าราชการ มีเงินเดือนมีสวัสดิการให้จากภาครัฐ แต่เงินเดือนจะไม่ขึ้น ที่เขาเสียสละมาอยู่กับเด็กๆ

ก็เพราะรัก

"ทุกวันนี้หลวงพ่อไม่เคยมีปัญหาอะไร มีแต่ทุกข์ ขนาดเป็นพระก็ยังมีทุกข์ ทุกข์ที่ว่ากลัวจะมีไม่พอเลี้ยงเขา จะอยู่กันไปตลอดได้อย่างไร

บางคนเรียนจบก็กลับมาช่วย บางคนก็ไม่กล้ามา เขาคงละอายใจตัวเองที่ยังช่วยวัดไม่ได้ เพราะในแต่ละเดือนภาระค่าใช้จ่ายของทางวัด

เฉพาะค่าไฟก็ไม่น้อยไปกว่า 3 หมื่นบาท รายได้ก็มาจากการบริจาค ส่วนใหญ่ก็ต้องไปขอบิณฑบาตเอาปัจจัยบ้าง และของที่บริจาคจะเป็น

จำพวกข้าวสารอาหารแห้ง แต่บางทีข้าวสารไม่พอ วัดก็ไปขอหยิบยืมมาจากโรงสี พอมีผ้าป่ากฐินมาวัดก็เอาเงินไปใช้เขา ถ้าไม่มีหรือไม่

พอเขาก็ไม่ทวงทางวัด ก็ถือว่าเป็นการทำบุญไป" หลวงพ่อ กล่าว

... ในขณะที่หลายคนเกิดมาบนกองเงินกองทอง เรียนบ้างเล่นบ้างตามประสา ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยตามสมัยนิยม แต่ในวัดเล็กๆ แห่งนี้ยังมีเด็ก

อีกหลายร้อยชีวิตที่ไม่เคยได้สัมผัส "เงิน" ที่กลายเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิต หรือไม่มีเสื้อผ้าใหม่ๆ ดีๆ สวมใส่

"ของเก่ามันเก่าที่บ้าน แต่กับเด็กๆ ที่เขาไร้โอกาสมันก็เป็นของใหม่สำหรับเขา แต่ส่วนใหญ่เด็กๆ เค้าก็ดีใจ เราเคยบอกกับเด็กๆ ว่าถ้าไม่มี

คนช่วยก็ต้องต่างคนต่างไป เพราะญาติโยมที่มาก็ไม่เยอะมาก แต่แค่เงินทำบุญหาได้เดือนชนเดือนก็พอใจแล้ว ไม่ได้หวังอะไรมาก ส่วน

ใหญ่คนที่มาบริจาคเค้ามาเอง มาแบบปากต่อปาก วัดไม่เคยออกไปโฆษณาทางไหน ของบริจาคอยากจะบริจาคเสื้อผ้า ของเล่น อะไรก็เอา

มาบริจาคได้ อาหารแห้ง ถ้าเหลือใช้ไม่รู้จะทิ้งที่ไหน ก็เอามาได้" 

เรียกได้ว่า ทุกคำพูด ทุกลมหายใจเข้าออกของหลวงพ่อพระครูวุฒิธรรมาทร จะคิดคำนึงถึงปากท้องของชีวิตน้อยๆ ที่ต้องเลี้ยงดูอยู่เสมอ

"การกินเป็นสิ่งสำคัญต้องมาก่อนอย่างอื่น เด็กๆ ต้องกินแล้วค่อยร่ำเรียน ยังไงก็ต้องให้เค้ามีกิน ถึงจะไม่ดีตาม แต่ก็ต้องได้กิน ทุกวันนี้กลัว

อย่างเดียวคือวันข้างหน้าจะมีไม่พอให้เค้ากินเค้าใช้" หลวงพ่อ กล่าวความทุกข์ที่เป็นกังวลใจ พร้อมๆ กับฝากถึงคนที่มีโอกาสว่า "กว่าพ่อ

แม่จะเลี้ยงมาได้ กว่าจะเติบโตมาเป็นคนได้ มันสุดแสนจะยากลำบาก ยังมีชีวิตก็ยังมีโอกาส อย่าไปคิดสั้นชีวิตมันยังต้องต่อสู้กันต่อไป"

บางสิ่งบางอย่างคนที่มีเพียบพร้อมอาจจะมองเป็นเพียงแค่เศษขยะ เป็นของเหลือกินเหลือใช้ แต่ในทางตรงกันข้าม สิ่งของเหล่านั้นอาจ

จะช่วยประทังชีวิตเล็กๆ ให้อยู่ต่อข้ามพ้นไปในอีกวัน ...
 



 
 
 
 

 
 
 

 
 





 


     
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1783 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2552, 09:32:57 »

อ้างถึง
ข้อความของ jum2524 เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2552, 09:17:21
สวัสดีค่ะเอ๋  ส่งรูปสวยๆฝีมือแจงมาฝากเช้านี้  เห็นแล้วสดชื่นดีจัง...ขอบคุณคนถ่ายกะคนถ่ายทอดค่ะ   บ่ฮู้บ่หัน


สวัสดีค่ะจุ๋ม ดีใจที่เพื่อนแวะมานะคะ

ตัวเองมีกล้องรุ่นเก่ามากใช้ตั้งแต่ลูกเล็กๆและยังเก็บเอาไว้อยู่ค่ะ   ส่วนใหญ่ถ่ายแต่รูปลูกๆ

กำลังให้เพื่อนที่นี่แนะนำกล้องรุ่นใหม่ๆให้อยู่ค่ะ  ไว้ใช้ในงานต่างๆของตัวเองด้วย ฯ   

ตอนนี้ก็เก็บผลงาน ฝีมือถ่ายภาพสวยๆของเพื่อนๆไว้หมด หมุนเวียนลงสลับสาระในบ้านนี้

สำหรับตัวเองชอบดูภาพต่างๆ  และดูไม่เบื่อด้วยค่ะ
      บันทึกการเข้า
jum2524
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,077

« ตอบ #1784 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2552, 09:56:35 »

อ้างถึง
ข้อความของ churaipatara เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2552, 09:32:57
อ้างถึง
ข้อความของ jum2524 เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2552, 09:17:21
สวัสดีค่ะเอ๋  ส่งรูปสวยๆฝีมือแจงมาฝากเช้านี้  เห็นแล้วสดชื่นดีจัง...ขอบคุณคนถ่ายกะคนถ่ายทอดค่ะ   บ่ฮู้บ่หัน


สวัสดีค่ะจุ๋ม ดีใจที่เพื่อนแวะมานะคะ

ตัวเองมีกล้องรุ่นเก่ามากใช้ตั้งแต่ลูกเล็กๆและยังเก็บเอาไว้อยู่ค่ะ   ส่วนใหญ่ถ่ายแต่รูปลูกๆ

กำลังให้เพื่อนที่นี่แนะนำกล้องรุ่นใหม่ๆให้อยู่ค่ะ  ไว้ใช้ในงานต่างๆของตัวเองด้วย ฯ   

ตอนนี้ก็เก็บผลงาน ฝีมือถ่ายภาพสวยๆของเพื่อนๆไว้หมด หมุนเวียนลงสลับสาระในบ้านนี้

สำหรับตัวเองชอบดูภาพต่างๆ  และดูไม่เบื่อด้วยค่ะ

หากดร.เอ๋ได้กล้องรุ่นใหม่ๆมาใช้งานแล้ว  อย่าลืม!!..เก็บผลงานฝีมือถ่ายภาพสวยๆ มาฝากด้วยนะคะ   
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1785 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2552, 11:34:03 »

อ้างถึง
ข้อความของ jum2524 เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2552, 09:56:35
อ้างถึง
ข้อความของ churaipatara เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2552, 09:32:57
อ้างถึง
ข้อความของ jum2524 เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2552, 09:17:21
สวัสดีค่ะเอ๋  ส่งรูปสวยๆฝีมือแจงมาฝากเช้านี้  เห็นแล้วสดชื่นดีจัง...ขอบคุณคนถ่ายกะคนถ่ายทอดค่ะ   บ่ฮู้บ่หัน


สวัสดีค่ะจุ๋ม ดีใจที่เพื่อนแวะมานะคะ

ตัวเองมีกล้องรุ่นเก่ามากใช้ตั้งแต่ลูกเล็กๆและยังเก็บเอาไว้อยู่ค่ะ   ส่วนใหญ่ถ่ายแต่รูปลูกๆ

กำลังให้เพื่อนที่นี่แนะนำกล้องรุ่นใหม่ๆให้อยู่ค่ะ  ไว้ใช้ในงานต่างๆของตัวเองด้วย ฯ   

ตอนนี้ก็เก็บผลงาน ฝีมือถ่ายภาพสวยๆของเพื่อนๆไว้หมด หมุนเวียนลงสลับสาระในบ้านนี้

สำหรับตัวเองชอบดูภาพต่างๆ  และดูไม่เบื่อด้วยค่ะ

หากดร.เอ๋ได้กล้องรุ่นใหม่ๆมาใช้งานแล้ว  อย่าลืม!!..เก็บผลงานฝีมือถ่ายภาพสวยๆ มาฝากด้วยนะคะ  


ค่ะจุ๋ม  งานแรกคง21พย นี้ล่ะค่ะ
      บันทึกการเข้า
Dr.parrot
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18

« ตอบ #1786 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2552, 12:40:01 »

สวัสดีค่ะ  บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
Dr.parrot
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18

« ตอบ #1787 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2552, 12:44:53 »

อ้างถึง
ข้อความของ churaipatara เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2552, 11:48:35
สวัสดีค่ะตี้ บ่ฮู้บ่หัน

สวัสดีค่ะ  บ่ฮู้บ่หัน

อ้างถึง
ข้อความของ churaipatara เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2552, 11:46:42
สวัสดีค่ะแจง บ่ฮู้บ่หัน

สวัสดีค่ะ  บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
Dr.parrot
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18

« ตอบ #1788 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2552, 13:35:59 »

อ้างถึง
ข้อความของ churaipatara เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2552, 13:11:28

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,2201.300.html
บ่ฮู้บ่หัน


สวัสดีค่ะ  บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
Dr.parrot
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18

« ตอบ #1789 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2552, 13:42:41 »

สวัสดีค่ะ  บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
เก๊า(24)
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,069

« ตอบ #1790 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2552, 16:07:40 »

อ้างถึง
ข้อความของ Dr.parrot เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2552, 13:42:41
สวัสดีค่ะ  บ่ฮู้บ่หัน
-ผมหวังว่าคุณ นกแก้วจะเป็นคนนอกบ้าน 24 นะครับ
-สวัสดี ดร. เอ๋ ครับ มีกุหลาบสวยๆมาฝากครับ

      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1791 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2552, 16:17:27 »


-ผมหวังว่าคุณ นกแก้วจะเป็นคนนอกบ้าน 24 นะครับ
-สวัสดี ดร. เอ๋ ครับ มีกุหลาบสวยๆมาฝากครับ


[/quote]


สวัสดีค่ะเก๊า  ขอบคุณสำหรับดอกไม้ค่ะ
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1792 เมื่อ: 14 พฤศจิกายน 2552, 11:28:50 »

พี่สาวส่งมาให้ค่ะ


ชีวิตพอเพียงของมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก : วอร์เรน บัพเฟตต์ (Warren Buffet)

มีรายการสัมภาษณ์หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน บัพเฟตต์ มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิล

เกตส์) ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศลถึง 31 , 000 ล้านดอลล่าร์   (เป็นเงินไทยก็ราวๆ 1,000,000,000,000 อ่านว่า 1 ล้าน ล้านบาท

โอ้แม่เจ้า)   ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา :   

1) เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป!

2) เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์

3) เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา ที่ซื้อไว้หลังแต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่ง

ที่ต้องการในบ้านหลังนี้ บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม

4) เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน

5) เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก

6) บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัทในเครือ 63 บริษัท เขาเขียนจดหมายถึงซีอีโอของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว

เพื่อให้เป้าหมายประจำปี เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ

7) เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย   กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1

8 ) เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน คือทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์

9) บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล เกตส์คิดว่าตนเองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย

จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อบิล เกตส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆ ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล เกตส์กลายเป็นผู้มี

ศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์

10) วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน

11) เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า : จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตและลงทุนในตัวคุณเอง

 

ที่สุดของชีวิต คือ มีปัจจัย ๔ อย่างเพียงพอนั่นเอง

มหาเศรษฐีหรือยาจก กินข้าวแล้วก็อิ่ม1มื้อ เท่ากัน

มหาเศรษฐีหรือยาจก มีเสื้อผ้ากี่ชุด ก็ใส่ได้ทีละชุด เท่ากัน

มหาเศรษฐีหรือยาจก มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน พื้นที่ที่ใช้จริงๆ ก็เหมือนกันคือ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว เหมือนกัน

มหาเศรษฐีหรือยาจก จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร สุดท้ายก็ต้องตาย เหมือนกัน


 


      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1793 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2552, 11:17:02 »

การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเป็นอีกทางเลือกหนึ่งนอกจากการดำเนินคดีทางศาลหรือ

การอนุญาโตตุลาการ  ซึ่งต้องมีบุคคลที่สามเป็นผู้ชี้ขาดตัดสินข้อพิพาท  แต่สำ

หรับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท  แม้จะใช้บุคคลที่สามช่วยเหลือในการตกลงเจรจา

เพื่อระงับข้อพิพาท  ก็เป็นเพียงผู้เสนอแนะแนวทางและหาทางออกให้แก่ผู้พิ

พาทเท่านั้น  ไม่มีอำนาจตัดสินชี้ขาดเหมือนศาลหรืออนุญาโตตุลาการ  ผลของ

การตกลงเจรจาก็เกิดจากการตัดสินใจของคู่พิพาทเองโดยตรง

การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคืออะไร

การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท  ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน  พ.ศ.๒๕๒๕

ให้ความหมายคำว่า “ไกล่เกลี่ย”  ไว้ว่า  “พูดจาให้ปรองดองกัน  พูดจาให้ตกลง

กัน  ทำให้เรียบร้อย  ทำให้เสมอกัน”  แสดงให้เห็นว่า  บทบาทของผู้ไกล่เกลี่ย

หรือคนกลางนั้น  ไม่ได้เป็นผู้ชี้ขาดตัดสินให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายแพ้หรือ

ฝ่ายชนะ  แต่ผู้ไกล่เกลี่ยหรือคนกลางเป็นเพียงผู้ช่วยเหลือให้คู่พิพาทตกลงระงับ

ข้อพิพาทด้วยตัวของคู่พิพาทเอง  ดังนั้น  การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท  หมายถึงวิธี

การระงับข้อพิพาทโดยบุคคลที่สามที่เรียกว่า  “ผู้ไกล่เกลี่ย”  ในการทำหน้าที่

ช่วยเหลือ  เสนอแนะแนวทาง  และหาทางออกให้กับคู่พิพาทเพื่อตกลงประนี

ประนอมยอมความกัน  นั่นเอง
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1794 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2552, 11:40:30 »

การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแตกต่างจากการประนอมข้อพิพาทอย่างไร

ในประเทศไทยมีการใช้คำว่า “  การประนอมข้อพิพาท”  และ  “การไกล่เกลี่ย

ข้อพิพาท”  ควบคู่กันไปหรือใช้ทดแทนกันอยู่เสมอ  และไม่ถือว่ามีความแตก

ต่างกัน  แต่ทางทฤษฏีของบางประเทศ  การประนอมข้อพิพาทจะแตกต่างจาก

การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท  ตรงที่บทบาทการทำหน้าที่ของคนกลางที่เรียกว่า “ผู้

ประนีประนอม”  จะทำหน้าที่ช่วยเหลือให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน  โดยอาจรวมถึง

บทบาทในการช่วยเหลือคู่พิพาทในการยกร่างสัญญาประนีประนอมยอมความ

ด้วย  และถือว่าการประนอมข้อพิพาทมีลักษณะที่เป็นทางการมากกว่าการไกล่

เกลี่ยข้อพิพาท

องค์ประกอบของการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมีอยู่อย่างไร

๑)  มีข้อพิพาทหรือข้อขัดแย้งเกิดขึ้น

๒)  มีคู่พิพาทตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไป

๓)  มีคนกลางช่วยเหลือในการเจรจา

๔)  คู่พิพาทสมัครใจให้มีคนกลางช่วยเหลือในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

๕)  ผลการไกล่เกลี่ยเกิดจากการตัดสินใจของคู่พิพาทเอง


จาก  คู่มือการระงับข้อพิพาทสำหรับประชาชน

สำนักระงับข้อพิพาท  สำนักงานศาลยุติธรรม
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1795 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2552, 12:16:55 »







ฝีมือถ่ายภาพของลูกๆค่ะ





ลูกๆส่งมาให้ค่ะ
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1796 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2552, 13:02:50 »

ข้อพิพาทที่สามารถไกล่เกลี่ยได้

ข้อพิพาทที่เหมาะสมสำหรับการใช้วิธีการไกล่เกลี่ย  ได้แก่  ข้อพิพาททางแพ่ง

ทั่วไป  ข้อพิพาทในทางการค้าพาณิชย์  และ  ข้อพิพาททางอาญาในบางเรื่องที่

สามารถตกลงยอมความกันได้

ข้อพิพาททางแพ่งและพาณิชย์  ได้แก่  ข้อพิพาทอันเกิดจากสัญญาต่างๆอาทิเช่น

สัญญาซื้อขาย  สัญญาเช่าทรัพย์-เช่าซื้อ  การกู้ยืมเงิน  ค้ำประกัน  จำนอง  จำนำ

สัญญาจ้างแรงงาน  สัญญาก่อสร้าง  สัญญาบัตรเครดิต  เช็ค  เป็นต้น  และข้อพิ

พาทอันเนื่องมาจากมีความเสียหายเกิดขึ้น  อาทิเช่น  ความเสียหายจากการผิด

สัญญา  ความเสียหายอันเกิดจากการกระทำละเมิด  เช่น  ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย  บาดเจ็บหรือตาย  ละเมิดลิขสิทธิ์  สิทธิบัตร  หรือ

เครื่องหมายการค้า  และรวมถึงข้อพิพาทที่เกี่ยวกับเรื่องในครอบครัวและมรดก

และข้อพิพาททางแรงงาน  ด้วยเช่นกัน

ข้อพิพาททางอาญาที่สามารถยอมความได้  คือ  ความผิดที่ไม่ใช่ความผิดอาญา

แผ่นดิน  มีทั้งที่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา  และความผิดตามกฎ

หมายอื่น

-ความผิดตามกฎหมายอาญา  ได้แก่  ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา  กระทำ

อนาจาร  ความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ  หน่วงเหนี่ยวกักขัง  ความผิดฐาน

เปิดเผยความลับ  ความผิดฐานหมิ่นประมาท  ความผิดฐานฉ้อโกง  ยักยอก

ทรัพย์  ทำให้เสียทรัพย์  บุกรุก  รวมทั้งความผิดบางฐานที่โดยปกติแล้ว  ไม่สา

มารถยอมความได้  แต่เนื่องจากผู้กระทำความผิดกับผู้เสียหายเป็นพ่อแม่ลูก

หรือเป็นพี่น้องกัน  จึงสามารถตกลงยอมความได้  เช่น  ความผิดฐานลักทรัพย์

วิ่งราวทรัพย์  ฉ้อโกงประชาชน  รับของโจร  เป็นต้น  แต่ทั้งนี้จะต้องไม่ปรากฏ

ว่ามีข้อเท็จจริงอื่นๆที่จะทำให้ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษหนักขึ้น  เช่น  กระ

ทำความผิดในเวลากลางคืน  หรือมีการใช้อาวุธในการกระทำความผิด  หรือมีผู้

ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงตายจากการกระทำความผิดนั้น  มิฉะนั้นแล้ว  ความ

ผิดที่โดยปกติสามารถยอมความได้อาจจะไม่สามารถยอมความกันได้อีกต่อไป

-ความผิดตามกฎหมายอื่นที่มีโทษทางอาญา  ไม่ว่าจะเป็นโทษจำคุกหรือโทษ

ปรับก็ตาม  หากกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้สามารถยอมความได้  ก็สามารถใช้

วิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทได้  เช่น  กรณีความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค  ความผิด

ที่เกิดจากการทำซ้ำดัดแปลง  นำออกโฆษณาโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของผล

งานอันมีลิขสิทธิ์  เช่น  เพลง  ภาพยนตร์  หนังสือ  เป็นต้น


จาก  คู่มือการระงับข้อพิพาทสำหรับประชาชน

โดย  สำนักระงับข้อพิพาท  สำนักงานศาลยุติธรรม
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #1797 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2552, 13:22:59 »

สวัสดีครับพี่เอ๋

วันนี้ผมมีเพลงเพราะๆมาฝากคับ


ดอกไผ่บาน (Dok phai Baan) - หนุ่มบาว-สาวปาน
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1798 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2552, 13:42:03 »

สวัสดีค่ะน้อง ดีใจที่แวะมาค่ะ เพลงเพราะนะคะ บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1799 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2552, 14:07:55 »

ผู้ไกล่เกลี่ยคือใคร

เมื่อมีข้อพิพาทเกิดขึ้น  คู่พิพาทไม่สามารถตกลงเจรจากันเองได้  คู่พิพาทจะตก

ลงให้คนกลางช่วยเหลือในการเสนอแนะแนวทางหาทางออกให้คู่พิพาทสา

มารถตกลงประนีประนอมยอมความกัน  คนกลางที่คู่พิพาทตกลงให้ช่วยเหลือ

ดังกล่าวเรียกว่า “ผู้ไกล่เกลี่ย”  ซึ่งหากเป็นการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในศาลแล้วจะ

ใช้คำว่า “ผู้ประนีประนอม”  ซึ่งอาจจะเป็นบุคคลภายนอกที่ศาลแต่งตั้ง  เจ้าหน้า

ที่ศาล  หรือผู้พิพากษาก็ได้

ประเภทของการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

๑)  การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทนอกศาล

คือ  การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนมีการฟ้องร้องคดีต่อศาล  หรือแม้จะฟ้องร้องคดี

ต่อศาลแล้ว  แต่คู่ความดำเนินการให้มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกันเอง  โดยไม่ดำ

เนินการในศาลก็ได้

๒)  การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในศาล

คือ  การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทหรือคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล  โดยศาล

เป็นผู้ดำเนินการให้  ซึ่งหากคู่ความตกลงกันได้  ก็จะมีการทำสัญญาประนีประ

นอมยอมความ  และศาลจะมีคำพิพากษาไปตามที่คู่ความตกลงกัน  โดยมีข้อยก

เว้นเพียงบางประการเท่านั้น  หรือหากตกลงกันได้เพียงบางส่วน  ศาลก็จะสืบ

พยานและมีคำพิพากษาในเฉพาะประเด็นที่ตกลงกันไม่ได้เท่านั้น



จาก  คู่มือการระงับข้อพิพาทสำหรับประชาชน

โดย  สำนักระงับข้อพิพาท  สำนักงานศาลยุติธรรม
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 70 71 [72] 73 74 ... 979   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><