22 กันยายน 2567, 10:14:35
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 65 66 [67] 68 69 ... 979   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ☼☼☼ ร่วมคุยกันในมุมมองของคุณแม่~แวะพักทักทายเอ๋ 24 ☼☼☼  (อ่าน 2694048 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 16 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
dtoy
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,076

« ตอบ #1650 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2552, 08:10:18 »

หลานทั้งสามน่ารักค่ะเอ๋
เที่ยวกันสามคนพี่น้องดูรักใคร่อบอุ่นจังเลย
      บันทึกการเข้า

Live Your Dream   
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1651 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2552, 10:01:40 »

อ้างถึง
ข้อความของ dtoy เมื่อ 31 ตุลาคม 2552, 08:10:18
หลานทั้งสามน่ารักค่ะเอ๋
เที่ยวกันสามคนพี่น้องดูรักใคร่อบอุ่นจังเลย


สวัสดีค่ะต๋อย
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1652 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2552, 10:13:57 »










โบว์  บุ๊ค  บีม  ลูกแม่.....
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1653 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2552, 11:05:43 »

(ต่อ)

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๐  เป็นต้นมา  จำนวนคดีที่ประชาชนและส่วนราชการ

ฟ้องร้องต่อศาลยุติธรรมทั่วประเทศนั้นมีจำนวนมากกว่า ๑  ล้านเรื่อง  ซึ่งการ

ดำเนินคดีในศาลโดยวิธีการพิจารณาสืบพยานและมีคำพิพากษาตามปกติ  จะ

ต้องดำเนินการตามกฎหมายวิธีพิจารณาความซึ่งมีขั้นตอนต่างๆมากมาย  อีก

ทั้งยังต้องอาศัยความพร้อมของทุกฝ่าย  และความร่วมมือจากพยานต่างๆที่จะ

ต้องมาศาลอีกด้วย  ดังนั้นจึงมีกรณีตัวอย่างให้ได้เห็นกันจำนวนไม่น้อย  ที่คดี

ซึ่งคู่ความดำเนินการตามวิธีการปกติอาจต้องใช้ระยะเวลานาน  กว่าศาลจะมีคำ

พิพากษาในเรื่องนั้นๆได้  ศาลยุติธรรมจึงได้พัฒนาระบบการระงับข้อพิพาท

ทางเลือก  เพื่อเป็นช่องทางเพิ่มเติมให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสเลือกใช้วิธี

การต่างๆ  ในการระงับข้อพิพาท  ซึ่งเหมาะสมกับข้อพิพาทแต่ละเรื่อง  เพื่อทำ

ให้การดำเนินคดีในศาลเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว  และเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


จาก  คู่มือการระงับข้อพิพาทสำหรับประชาชน

โดย  สำนักระงับข้อพิพาท  สำนักงานศาลยุติธรรม
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1654 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2552, 11:10:27 »







โบว์  บุ๊ค  บีม   ลูกแม่.....
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1655 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2552, 16:37:14 »

ชาย รัฐศาสตร์  ส่งมาให้ค่ะ




How to ask your Boss for a salary increase.
 

One day an employee sends a letter to his boss asking for an increase in his salary!!!
 

Dear Bo$$
 

In thi$ life, we all need $ome thing mo$t de$perately. I think you $hould be under$tanding of the need$ of u$ worker$


who have given $o much $upport including $weat and $ervice to your company. I am $ure you will gue$$ what I mean


and re$pond $oon.
 

Your$ $incerely,


Norman $oh     
 
 



The next day, the employee received this letter of reply:


Dear NOrman,


I kNOw you have been working very hard. NOwadays, NOthing much has changed. You must have NOticed that our


company is NOt doing NOticeably well as yet. NOw the newspaper are saying the world`s leading ecoNOmists are NOt


sure if the United States may go into aNOther recession. After the NOvember presidential elections


things may turn bad.
 

I have NOthing more to add NOw. You kNOw what I mean.





































































 


 
 



 
 
 
 

 
   
 



 
 



 
 
 
 

 
   
 

 




 







      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1656 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2552, 14:10:24 »

อ้างถึง
ข้อความของ churaipatara เมื่อ 19 ตุลาคม 2552, 13:56:44
วันนี้ทำบุญอีก 3 งาน

-ร่วมทำบุญทอดกฐิน ณ วัดป่าโนนกุดหล่ม บ้านโนนสังข์ จ.ศรีสะเกษ

-ร่วมสมทบทุนสร้างวิหารหลวงพ่อพุทธมิ่งมงคล ณ วัดศรีบุญเรือง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

-ร่วมทำบุญในเทศกาลกินเจ ณ มูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ

ในนามจุไรภัทร์และเพื่อน24เรียบร้อยแล้วนะคะ


เมื่อกี้เพื่อนโทรมาแจ้งว่า   วันนี้ทอดกฐินที่วัดโนนกุดหล่ม   รวบรวมจากผู้มีจิตศรัทธาได้ประมาณ4แสนบาทค่ะ
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1657 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2552, 14:33:41 »

อ้างถึง
ข้อความของ churaipatara เมื่อ 10 ตุลาคม 2552, 17:06:46
ขอแจ้งข่าวให้เพื่อนๆทราบว่า

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานผ้าพระกฐิน แก่มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล

นำไปถวาย ณ วัดหลวงสุมังคลาราม พระอารามหลวง ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ

วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๐.๐๐ น.

จะร่วมทำบุญในนาม จุไรภัทร์และเพื่อน24เช่นเคยนะคะ


เพื่อนแจ้งให้ทราบว่า   รวบรวมจากผู้มีจิตศรัทธาได้ประมาณ7แสนบาทค่ะ
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1658 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2552, 14:45:56 »

ภาพสวยๆจากพี่สาวค่ะ  ท่านทิพวรรณ  ศรีสรานุกรม



















ภาพรอยยิ้มที่มีความสุขในแต่ละวัยของคนเรานะคะ
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1659 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2552, 15:01:04 »

พ่อแม่ควรให้คำแนะนำเด็กเล็กในการดูทีวี
 
โดย Thaiparents.com, 21 กันยายน 2552

สำนักข่าว Ivanhoe Broadcast News รายงานว่า จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยเทมเปิ้ล และมหาวิทยาลัยเดลาแวร์ นักวิจัยใช้ภาพเสียง

ตัวอย่างจากรายการ Sesame Beginning ซึ่งเป็นรายการสำหรับเด็กเล็กวัย 30 - 42 เดือน (2 ขวบครึ่ง - 3 ขวบครึ่ง) ที่ส่งเสริมการเรียนรู้

คำกริยาต่างๆ (verbs) และการนำคำกริยามาใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน นักวิจัยพบว่า หากพ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยขณะที่ลูกกำลังดูรายการ

เพื่อเรียนรู้คำกริยาต่างๆ นี้ เด็กวัยต่ำกว่า 3 ขวบไม่สามารถเรียนรู้ หรือทำความเข้าใจได้เองจากการดูรายการโดยตรง เพียงอย่างเดียว

แต่เมื่อลูกดูรายการสอนการใช้คำกริยาและมีพ่อแม่อยู่ด้วย ช่วยพูดและอธิบายให้ฟัง ลูกจะเข้าใจและเรียนรู้ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งตรงข้ามกับ

แฟชั่นปัจจุบันที่นิยมให้ลูกดูทีวีเพื่อการเรียนรู้ตั้งแต่ยังเล็กอายุไม่ถึง 3 ขวบ

นักวิจัยยังพบอีกว่า เด็กอายุเกิน 3 ขวบขึ้นไป จะสามารถดูรายการได้และมีความเข้าใจคำกริยาโดยไม่ต้องมีผู้ใหญ่อยู่ด้วย

Kathy Hirsh-Pasek, Lefkowitz ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยเทมเปิ้ล และนักวิจัยร่วมทีมระบุว่า เด็กเล็กนั้น ยังคงต้องการ

ความช่วยเหลือด้านสังคมจากผู้ใหญ่ เช่นพ่อแม่ ซึ่งยังคงต้องให้การสนับสนุน ให้ความใกล้ชิดและพูดอธิบายสื่อสารแก่ลูกเพื่อช่วยให้เรียน

รู้และทำความเข้าใจคำกริยาจากรายการทีวีได้ดีขึ้น การให้ลูกวัยเล็กดูทีวีและทำความเข้าใจเอาเองนั้นไม่ใช่การเรียนรู้ แต่การที่นั่งดูรายการ

ทีวีร่วมกับพ่อแม่นั้น จึงจะถือว่าเป็นการเรียนรู้สำหรับเด็ก
 
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1660 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2552, 15:15:29 »

ครอบครัว24ค่ะ








      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1661 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2552, 15:28:15 »

จาก thaiparents.com



ทำอย่างไร.....เมื่อต้องเลี้ยงลูกตามลำพัง
 
การเป็นพ่อแม่ที่ต้องทำหน้าที่ในการเลี้ยงดูลูกรักไม่ใช่เรื่องง่าย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณต้องเลี้ยงดูลูกตามลำพังเพียงคนเดียว

เนื่องจากการหย่าขาดจากอีกฝ่ายหนึ่งยิ่งเป็นเรื่องที่ยากขึ้นไปอีก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณพ่อหรือคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงดูลูกตามลำ

พังจะทำหน้าที่ได้ไม่เท่าเทียมกับครอบครัวที่พ่อแม่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา

ลองดูคำแนะต่อไปนี้ อาจจะช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาที่เข้ามาในชีวิตคุณได้ดีขึ้นตั้งแต่ การปรับความรู้สึกที่คุณมีต่อสามีเก่า (หรือภรรยา

เก่า) เพื่อให้ลูกแน่ใจว่าคุณพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างลูก และอยู่เพื่อลูกเสมอ...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

•| จงให้อภัย แม้ว่าคุณจะไม่มีวันลืมความร้ายกาจของเขา (หรือเธอ) ก็ตาม

อย่าเก็บความขมขื่น ความเคียดแค้นที่คุณมีต่ออีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นคุณพ่อหรือ คุณแม่ของลูกไว้ในใจ ซึ่งปัจจุบันนี้เขาได้ก้าวออกไปจาก

ชีวิตของคุณทั้งคู่แล้ว การที่คุณยังมีความโกรธเกลียด หรือแม้แต่อาฆาตเขา ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ หรือชีวิตของคุณดีขึ้นแต่ประการใด

นอกจากนั้นยังเปลืองพลังงานคุณเสียด้วยซ้ำ พลังงานที่คุณต้องการอย่างมากในการทุ่มเททั้งร่างกายและจิตใจเพื่อสร้าง สภาพแวดล้อม

ความเป็นอยู่ในแง่บวกให้กับลูก ถ้าหากคุณยังฝืนที่จะอยู่กับความผิดหวังหรือความเกลียดชังสามีหรือภรรยาเก่า โอกาสที่ลูกคุณจะรับรู้ถึง

ความรู้สึกนั้นจะต้องเกิดขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่งจากทัศนคติแง่ลบที่คุณเผลอแสดงออกมา

•|ทำสิ่งที่คุณมีอยู่ให้มีค่าที่สุดสำหรับลูก

แม้ว่าคุณจะไม่ได้ร่ำรวย มีเงินทองมากพอที่จะจับจ่ายใช้สอยเพื่อซื้อความสุข ให้ลูกในด้านวัตถุ แต่คุณก็มีสิ่งหนึ่งที่มีค่ามากที่สุดนั่นคือ คุณ

มีลูก และคุณก็ยังมีความรัก และเวลาที่จะให้กับลูกๆ ยามเมื่อเขาต้องการคุณ พึงระลึกไว้เสมอว่าความร่ำรวยทางด้านเงินทองและข้าวของสิ่ง

มีค่าทั้งหลายที่ตีราคาเป็นเงินได้ ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของลูก แต่ความรัก, กำลังใจ, และเวลาที่อยู่ด้วยกันกับลูกต่างหากเป็นสิ่งที่

สำคัญและ มีความหมายต่อลูกมากกว่า

คุณสามารถทำให้ลูกสนุกสนานได้โดยไม่ต้องใช้เงิน หัดทำกิจกรรม ร่วมกับลูก เช่น พาลูกไปเดินเล่น, ขี่จักรยานในหมู่บ้านด้วยกัน พาลูกไป

วิ่งเล่นในสวนสาธารณะหรือสนามโรงเรียนใกล้บ้าน, ระบายสีเล่นกับลูก, วาดรูป, ขีดเขียนกระดาษเล่น, ร้องเพลงด้วยกัน หรือแม้แต่เปิดเทป

เพลงฟังแล้วเต้นกับลูก เพียงแค่นี้ก็สามารถ ทำให้ลูกตื่นเต้น และสนุกสนานได้เท่ากับการเสียเงินพาลูกไป เที่ยวสวนสนุก, ห้างสรรพสินค้า

หรือแม้แต่ร้านขายของเล่น

•|เป็นพ่อแม่ที่ดีที่สุดของลูกเท่าที่สามารถเป็นได้

พยายามทุ่มเททำหน้าที่ของพ่อแม่ให้ดีที่สุดต่อลูก โดยคุณไม่จำเป็นต้อง ตั้งจุดมุ่งหมายที่เกินความจริงหรือเกินความสามารถที่จะทำได้ใน

ฐานะที่ต้องเลี้ยงดูลูกแต่เพียงลำพัง อย่าบังคับตัวเองให้ปฏิบัติในสิ่งที่คุณทำไม่ได้ ให้ระลึกไว้เพียงว่ามีสิ่งใดบ้างที่คุณสามารถทำได้ในการ

ที่จะสร้างความสุขให้แก่ลูกและทำให้ลูกมีชีวิตที่ดีงาม ก็ทำสิ่งนั้นให้เต็มความสามารถของคุณเท่านั้นพอ

•|สร้างสัมพันธภาพกับคนใกล้ชิด

ความรู้สึกที่ว่า "เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน" ไม่จำเป็นต้องมาจาก สายเลือดเดียวกัน พยายามให้ตัวคุณและลูกอยู่ในแวดวงของเพื่อนสนิท

ที่รู้จักคุณและลูกเป็นอย่างดี และเป็นคนที่คุณไว้ใจได้ คนเหล่านี้คือคนที่คอยเอาใจใส่ดูแลและเต็มใจช่วยเหลือคุณ ไม่ว่าจะเป็นป้าๆ , น้าๆ,

อาๆ ทั้งหลาย หรือแม้กระทั่งคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยายของหลาน แม้ว่าบางคนอาจจะไม่ได้เป็นญาติเลยด้วยซ้ำ แต่ก็สามารถทำให้ลูก คุณ

รู้สึกอบอุ่น มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิด ก็เป็นประโยชน์แก่ลูกคุณ ได้เท่าๆ กับญาติๆ โดยตรงได้เหมือนกัน

คนที่คุณรู้สึกเหมือนเป็นคนในครอบครัวนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่รับผิดชอบที่คุณมีในฐานะพ่อแม่ของลูก และให้คนเหล่านี้มีบทบาทใน

ชีวิตของลูกคุณบ้าง หากคุณต้องการที่พึ่งทางจิตใจ คุณเองก็จะมีคนเหล่านี้คอย พูดจาให้กำลังใจ และเป็นที่ปรึกษาได้ คุณจะได้ไม่รู้สึกว่า

ชีวิตนี้คุณ กำลังเดินอยู่คนเดียว และอาจทำให้คุณปฏิบัติหน้าที่พ่อแม่ได้ดีขึ้นก็ได้ หากคุณมีเพื่อนสนิทหรือคนที่หวังดีกับคุณคอยให้กำลังใจ

และช่วยเหลือทั้งตัวคุณและลูก

•|รับผิดชอบในการกระทำของคุณนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

นับจากนี้ไปจนถึงวันข้างหน้า ไม่ว่าคุณจะทำอะไร คุณจะต้องรับผิดชอบอีกชีวิตหนึ่ง ซึ่งเป็นชีวิตที่บริสุทธิ์ของเด็กๆ ซึ่งเป็นลูกคุณเอง ลูก

ของคุณ - ผู้ซึ่งไม่เคยขอร้องที่จะมาเกิด ลูกคุณที่ไม่เกี่ยวข้อง และ ไม่ได้เป็นผู้ที่จะต้องมารับผิดชอบในเหตุการณ์ที่ทำให้คุณต้องมา ใช้ชีวิต

ตามลำพังอย่างในทุกวันนี้ ชีวิตของลูกจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาคุณทุกกรณีโดยไม่มีทางเลือกใดๆ ทั้งสิ้น ฉะนั้น คุณจะต้องไม่ทำ ให้ลูกคุณผิด

หวัง หรือให้ลูกเป็นผู้รับเคราะห์กรรมจากการกระทำของคุณ (หรือจากการกระทำของอีกฝ่ายหนึ่งที่คุณไม่พอใจ) เด็กๆ ที่เป็นลูกไม่มีอำนาจ

ไม่มีกำลังที่จะต่อรอง และยังช่วยเหลือตัวเอง ไม่ได้ที่จะทำให้ตัวเองพ้นจากเหตุการณ์ปัจจุบันที่ต้องเผชิญหน้ากับการเป็นลูกที่ไม่มีพ่อ หรือ

แม่

บทบาทของคุณมีอิทธิพลที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของลูกเป็นอย่างมาก ในการที่เขาจะได้มีโอกาสเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข เป็น

คนดี และประสบความสำเร็จในชีวิต เด็กๆ ที่เป็นลูกของคุณ ต้องการให้คุณทำหน้าที่เป็นพ่อแม่ที่ดีแก่พวกเขามากยิ่งกว่าที่เขาจะสามารถ

แสดงออกมาทางคำพูดได้

•|กำหนดกิจวัตรประจำวันและกิจกรรมที่ต้องปฏิบัติเป็นประจำ

ลูกของคุณต้องการความมั่นคง ความแน่นอนและความสม่ำเสมอ สิ่งหนึ่งที่จะทำให้ลูกรับรู้ได้ก็คือ การเตรียมกิจวัตรประจำวันที่แน่นอน และ

เกิดขึ้นเป็นปกติวิสัย การกระทำง่ายๆ เช่นออกไปเดินเล่นทุกบ่าย วันอาทิตย์, ทานอาหารค่ำด้วยกันทุกคืน, พูดคุยหยอกล้อใช้เวลาอยู่ด้วยกัน

ก่อนเข้านอน หรืออ่านนิทานให้ลูกฟังก่อนนอนทุกคืน สิ่งเหล่านี้จะกลายมาเป็นกิจวัตรประจำที่ลูกคุณตั้งหน้าตั้งคอย และหวังว่าจะมีกิจกรรม

แบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ สม่ำเสมอ

•|อยู่กับร่องกับรอยและเป็นที่พึ่งของลูกได้

ตั้งกฎเกณฑ์ภายในบ้านที่มีความเป็นไปได้และกำหนดระเบียบวินัยที่เป็นกลาง ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไปในการใช้ควบคุมดูแลลูก ซึ่งคุณจะต้อง

มีความมั่นคง และอยู่กับร่องกับรอยในข้อปฏิบัติที่คุณกำหนดขึ้นมาเพื่อใช้กับลูก แล้วลูกคุณจะเรียนรู้ในภายหลังเองว่าความประพฤติใดที่คุณ

ยอมรับได้ และการกระทำใดที่คุณไม่ยอมรับ ลูกเองก็จะรู้ว่าคุณคาดหวังอะไรใน ตัวเขาบ้าง และเขาคาดหวังอะไรจากคุณได้บ้าง

ถ้าคุณเป็นที่พึ่งให้แก่เขาได้ ลูกจะรู้ว่าเขาจะมีคุณคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา ที่ต้องการ ไม่ว่าจะช่วยสอนการบ้านเขา, อยู่บ้านทานข้าวเย็น

กับเขา หรือพาลูกเข้านอนทุกคืน ลูกจำเป็นที่จะต้องรู้สึกว่าเขาสามารถพึ่งพาคุณได้ทุกเมื่อ เพราะคุณคือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา

พยายามจำไว้อย่าง หนึ่งว่า แม้ว่าคุณจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเพียงใดเมื่อใกล้จะหมดวัน หรือรู้สึกท้อแท้เมื่อลูกไม่ได้ดังใจ - ลูกก็ยังต้องการคุณอยู่

ดี และ เป็นสิ่งจำเป็นด้วยที่คุณจะต้องอยู่กับลูก คุณควรใช้เวลาอยู่กับลูกทุกวินาทีให้มีความสุข เพราะลูกคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตนี้ที่ได้บัง

เกิดขึ้นกับคุณ

 
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1662 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2552, 15:39:38 »







น้องออมสิน หลานป้าแจงค่ะ





น้องเฟรนด์ พี่ป๋องส่งมาค่ะ
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1663 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2552, 15:52:48 »

จากthaiparents.com


วิธีสังเกตพี่เลี้ยงที่ทำงานไม่ได้เรื่อง 

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ  ที่คุณแม่จะรู้ว่าพี่เลี้ยงที่คุณจ้างมาดูแลลูกรักของคุณนั้น ปฏิบัติหน้าที่ในการเลี้ยงดูลูกของคุณได้ดีแค่ไหน

ทอดทิ้งลูกคุณหรือเปล่า เพราะเวลาอยู่ต่อหน้าคุณ อาจจะทำตัวเป็นพี่เลี้ยงที่แสนดี เอาใจใส่ลูกคุณเป็นอย่างดี แต่ถ้าคุณไม่อยู่ล่ะคะ

คุณจะทราบได้อย่างไรว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะถ้าให้เลี้ยงลูกเล็กๆ และลูกคุณก็ยังพูดไม่ได้เสียด้วยสิ

ถ้าคุณสอบถามจากพี่เลี้ยง เธอก็ต้องตอบว่าได้ดูแลน้องให้เป็นอย่างดีแล้ว ฉะนั้นคุณก็ต้องหัดสังเกตปฏิกิริยาจากลูกคุณ แล้วล่ะค่ะ

ว่ามีท่าทีเป็นอย่างไรบ้างเพื่อประกอบการพิจารณา

พี่เลี้ยงของคุณอาจกำลังสร้างปัญหาให้คุณอยู่ก็ได้ ถ้าลูกคุณ.....

ลูกรักของคุณดูไม่ค่อยมีความสุขนักเมื่ออยู่กับพี่เลี้ยง มีท่าทีตระหนกหวาดหวั่น และพัฒนาการถดถอย แสดงว่าพี่เลี้ยงอาจจะพูดจากระ

โชกโฮกฮาก เสียงดังข่มขู่ลูกคุณ และชอบลงโทษลูกคุณถ้าไม่เชื่อฟัง ไม่ว่าจะโดยทางคำ พูดหรือทางร่างกาย เช่น ตี หยิก เพื่อให้เด็ก

เชื่อฟังพี่เลี้ยง

ลูกรักของคุณแม่มีอุบัติเหตุบ่อยเหลือเกิน ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น หรือควรจะหลีกเลี่ยง อุบัติเหตุนั้นๆได้ เช่นเดี๋ยวก็หกล้ม, หัว

โน, ยุงกัดเต็มตัว, มีรอยฟกช้ำจากการชนขอบโต๊ะ เป็นต้น คือถ้าเกิดขึ้นนานๆ ครั้ง ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่จำเป็น ก็

น่าเป็นห่วงแล้วล่ะค่ะ เพราะคนเป็นพี่เลี้ยงควรจะดูแล ระมัดระวังลูกคุณตลอดเวลา และรู้ว่าลูกคุณกำลังทำอะไรอยู่ เพื่อคอยป้องกันไม่ให้

เกิดอุบัติเหตุขึ้น พี่เลี้ยงอาจจะทิ้งลูกคุณ ให้เล่นหรือนอนหลับอยู่คนเดียว แล้วตัวเองไปทำอย่างอื่น โดยไม่คอยดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด

คุณเริ่มสังเกตเห็นว่าคำสั่งของคุณไม่ได้รับการฏิบัติตามหลายครั้งแล้ว ทั้งคุณแม่และพี่เลี้ยงต่างต้องร่วมมือซึ่งกันและกันในการเลี้ยงดู

และดูแลลูกน้อย ฉะนั้นพี่เลี้ยงไม่ควรที่จะปฏิบัติตัวราวกับว่ารู้ดี ทุกอย่างเกี่ยวกับลูกของคุณมากกว่าคุณซึ่งเป็นแม่ รวมทั้งวิธีการเลี้ยงดู

ซึ่งคุณควรจะเป็นผู้กำหนดเองว่าลูกของคุณ -- คุณจะมีวิธีการเลี้ยงดูอย่างไร เช่น หากคุณต้องการให้ลูกทานนมตามเวลาที่ลูกต้องการ

ไม่ใช่ให้ตามตารางเวลาที่กำหนดขึ้น พี่เลี้ยงก็ควรปฏิบัติตามนั้น หากจะปฏิบัติแตกต่างก็ควรมีเหตุผลสนับสนุนเพียงพอ ชี้แจงให้คุณ

ทราบว่ามีผลดีกว่าอย่างไร ซึ่งควรจะปรึกษากัน ไม่ใช่ทำตามวิธีที่เคยปฏิบัติมาของพี่เลี้ยงเอง โดยไม่ฟังเสียงคุณซึ่งเป็นคุณแม่

พี่เลี้ยงที่ไม่รักษาเวลา ชอบกลับบ้านช้าหรือเลยเวลาที่สัญญาไว้ คุณแม่บางคนจ้างพี่เลี้ยงประเภทไปเช้าเย็นกลับ โดยจ้าง 12 ชั่วโมง

เริ่มงานเวลา 6 โมงเช้า และกลับเวลา 6 โมงเย็น (ตามแต่ตกลงกัน) ฉะนั้นถ้าพี่เลี้ยงของคุณมาทำงานสายบ่อยๆ แปลว่าคุณก็ต้องดูลูก

ให้จนกว่าพี่เลี้ยงจะมารับลูกไปดูแล กิจวัตรประจำวันของคุณก็พลอยล่าช้าไปด้วย รวมทั้งอาจทำให้คุณไปทำงานสายโดยไม่จำเป็น หรือ

พี่เลี้ยงประเภทอยู่ประจำที่บ้านคุณ และขอลากลับบ้าน 2 วัน ปรากฏว่าถึงเวลาก็ไม่กลับ และยังไม่โทรศัพท์มาบอกด้วยว่าเป็นเพราะอะไร

หรือลาไปข้างนอก 1 วันสัญญาว่าจะกลับเวลา 6 โมงเย็น ปรากฏว่ากลับ 3 ทุ่ม โดยไม่มีเหตุผลชี้แจงที่ดีพอ อธิบายให้ทราบว่าทำไมจึง

เป็นเช่นนั้น ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า จะเชื่อถือในเรื่องอื่นๆ ด้วยได้อย่างไร โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงดูลูกของคุณ เช่นคุณให้ลูก

ทานยาเวลานี้ ก็ไม่ควรให้ยาล่าช้าเกินเลยเวลาที่ควรจะให้ยา

ลูกของคุณแลดูเนื้อตัวสกปรก ไม่สะอาด พี่เลี้ยงอาจจะปฏิบัติหน้าที่ในการเลี้ยงดูลูกคุณในข้ออื่นๆ เป็นอย่างดี แต่ถ้าเธอไม่รักษาความสะ

อาดด้วยแล้วล่ะก็ แสดงว่ายังทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ เพราะการเลี้ยงดูและดูแลเด็กๆ นั้น โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ หรือเด็กอ่อน เรื่องความสะอาด

เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากที่สุด เพราะเกี่ยวข้องกับสุขภาพของเด็กด้วย หากไม่รักษาความสะอาดจะทำให้เด็กๆมีสุขภาพไม่ดี เจ็บป่วย

บ่อย โดยไม่จำเป็น นอกเหนือจากนั้นพี่เลี้ยงคุณก็จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีในการทำให้เด็กๆ ไม่รักความสะอาด

เมื่อคุณโทรศัพท์กลับบ้านเพื่อสั่งงานพี่เลี้ยง ปรากฏว่าโทรกี่ครั้ง สายโทรศัพท์คุณก็ไม่ว่างเอาเสียเลย ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่าโทรศัพท์ที่

บ้านคุณไม่เสีย และไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากพี่เลี้ยงกับลูกของคุณ ก็แสดงว่าพี่เลี้ยงคุณใช้เวลาทำงานผิดวัตถุประสงค์เสีย แล้วล่ะค่ะ ควร

จะให้เธอไปหางานเป็นโอเปอร์เรเตอร์ ดีกว่าที่จะมาเลี้ยงลูกคุณ พี่เลี้ยงควรจะคอยสอดส่องดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิด และอยู่กับลูกคุณตลอด

เวลา โดยไม่ดูทีวีและพูดธุระทางโทรศัพท์สั้นๆ เท่านั้น นอกจากนั้นโทรศัพท์คุณก็ควรจะว่าง หากมีเหตุด่วนเหตุร้ายเกิดขึ้นจะได้โทรติดต่อ

กันได้ทันท่วงที

สำหรับลูกคุณที่โตสักหน่อย ปรกติปฏิบัติตามกฎระเบียบประจำบ้านเป็นนิจ ปรากฏว่าหลังจากที่คุณ รับพี่เลี้ยงคนนี้เข้ามา ลูกคุณก็กลายเป็น

คนไม่รักษากฎระเบียบที่คุณวางไว้ประจำบ้าน เช่นหยิบหนังสือออกไปจากชั้นหนังสือก็ไม่เก็บเข้าที่, เล่นของเล่นแล้วทิ้ง เกลื่อนกลาด, ทาน

ข้าวไม่เป็นเวลา, ทานขนมก่อนทานข้าว, ฯลฯ เหล่านี้เป็นต้น การมีพี่เลี้ยงที่เข้มงวดกวดขันเกินไปก็ไม่ดีนัก แต่การมีพี่เลี้ยงที่ไร้ระเบียบก็ยิ่ง

แย่เข้าไปใหญ่ เพราะพี่เลี้ยงที่ดีควรจะปฏิบัติตัวเป็นตัวอย่างแก่ลูกคุณ เมื่อคุณไม่อยู่บ้าน ฉะนั้นพี่เลี้ยงควรจะสอนลูกคุณ ให้รักษากฎระเบียบ

ที่คุณวางไว้ด้วย

ลูกคุณเริ่มพูดจาไม่เรียบร้อยและหยาบคาย หากลูกคุณเริ่มใช้ถ้อยคำที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน หรือมีกิริยาวาจาไม่สุภาพ หยาบคาย ไม่เหมาะ

สม ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่ลูกคุณจะได้มาจากพี่เลี้ยง เช่นพูดคำหยาบ หรือใช้เท้าเปิดพัดลม, ถ่มน้ำลาย, ขากเสลดฯ ดังนั้นคุณควรรีบสอบถาม

จากพี่เลี้ยง และบอกให้เธออย่าได้ประพฤติกิริยาวาจาแบบนี้ ให้น้องเห็นอีกเป็นอันขาด แม้คุณจะคิดว่าลูกคุณ อาจจะไปได้คำพูด, ท่าทาง

แบบนี้มาจากโรงเรียนก็ได้ แต่คุณก็ควรปรามพี่เลี้ยงด้วยเช่นกัน เพื่อช่วยกันป้องกันไม่ให้ลูกคุณเคยชินคำพูด และท่าท่างชนิดนี้จนติดเป็น

นิสัย

ข้อสุดท้าย พี่เลี้ยงที่ชอบลักขโมย, พูดปดมดเท็จเป็นนิจ, หรือไม่ซื่อสัตย์ไว้ใจไม่ได้ เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรอดทนต่อไป เพราะลูกเป็นดวงใจ

ของพ่อแม่ทุกคน การมีพี่เลี้ยงซึ่งจะต้องคอยดูแลลูกรักของคุณนั้น ควรจะเป็นผู้ที่คุณไว้วางใจได้ ไม่ใช่คอยหวาดระแวงและต้องคอยตรวจ

สอบอยู่ตลอดเวลา และควรจะเป็นคนที่เชื่อถือในคำพูดได้
 
      บันทึกการเข้า
เก๊า(24)
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,069

« ตอบ #1664 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2552, 16:03:49 »

สวัสดีครับ ดร.เอ่  วันนี้นำภาพลูกชายมาฝากอีก  มีคนเดียวครับ

      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1665 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2552, 16:08:45 »




มะหมา บีม-ลูกชายสุดท้องส่งมาให้ค่ะ



      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1666 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2552, 16:10:06 »

อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 01 พฤศจิกายน 2552, 16:03:49
สวัสดีครับ ดร.เอ่  วันนี้นำภาพลูกชายมาฝากอีก  มีคนเดียวครับ




สวัสดีค่ะเก๊า  หลานอายุเท่าไหร่และเรียนที่ไหนคะตอนเล็กๆนี้


เก็บรูปหลานล่าสุดไว้แน่นอน  ถ้าจำไม่ผิดใส่เสื้อยืดสีชมพูค่ะ
      บันทึกการเข้า
เก๊า(24)
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,069

« ตอบ #1667 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2552, 16:35:31 »

อ้างถึง
ข้อความของ churaipatara เมื่อ 01 พฤศจิกายน 2552, 16:10:06
อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 01 พฤศจิกายน 2552, 16:03:49
สวัสดีครับ ดร.เอ่  วันนี้นำภาพลูกชายมาฝากอีก  มีคนเดียวครับ




สวัสดีค่ะเก๊า  หลานอายุเท่าไหร่และเรียนที่ไหนคะตอนเล็กๆนี้


เก็บรูปหลานล่าสุดไว้แน่นอน  ถ้าจำไม่ผิดใส่เสื้อยืดสีชมพูค่ะ
ภาพนี้ถ่ายตอน 6 ขวบ ครับ จบอนุบาลจาก รร บุญสมวิทยา จันทบุรีครับ  ตอนนี้ 17 อย่าง 18 แล้วครับ เรียนสายอาชีพ ปวช ปี 3 เทอมสุดท้ายแล้ว สาขาช่างอิเล็คทรอนิคส์ครับ
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1668 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2552, 16:36:19 »

จากthaiparents.com


เรื่องที่ไม่มีใครกล้าบอก - เมื่อคุณเป็น "พ่อ" 
 
เอาล่ะ ตกลงแน่นอนแล้วว่าคุณทั้งคู่ต้องการที่จะมีลูก คุณผู้ชายซึ่งก็แน่อยู่แล้วว่าต้องการมีบุตรไว้สืบสกุล ส่วนคุณผู้หญิงก็ตั้งหน้าตั้งตา

รอที่จะได้เป็นคุณแม่อุ้มทารกตัวน้อยๆ ไว้แนบอก ทั้งหมดนี้ดูไม่ใช่เรื่องยากแต่ประการใด! ทีนี้มาดูความจริงกัน ดีกว่าว่าชีวิตของคุณเมื่อ

เป็น "คุณพ่อ" จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง....

คุณจะกลายเป็นคนหูหนวกในบางครั้ง

การเป็นโรคหูหนวกชั่วขณะนั้น เป็นอาการโรคที่ธรรมดาสามัญสำหรับคุณพ่อทั้งมือใหม่และมือเก๋า แม้ว่าคุณจะคิดว่าคุณเป็นคนที่มีเหตุมี

ผล, เอาใจใส่ลูกเมียเป็นอย่างดี, เป็นคุณพ่อที่เห็นอกเห็นใจคนมากที่สุดคนหนึ่งในโลกนี้ แต่ถึงแม้จะเป็นพ่อที่อ่อนโยน รักลูกรักภรรยา

มากที่สุด บางครั้งคุณจะพบว่าคุณก็มีความเห็นแก่ตัวเหมือนกัน ไม่เวลาใดก็เวลาหนึ่งโดยเฉพาะเมื่อภรรยาเรียกให้ช่วย เปลี่ยนผ้าอ้อมให้

ลูกหรือเรียกให้ลุกขึ้นมาดูลูกหน่อย เพราะลูกร้องเป็นครั้งที่ 8 แล้วในคืนนี้ คุณอาจจะแกล้ง (หรือเชื่อว่า) คุณไม่เห็นได้ยินเสียงเธอเรียก

เลยแม้แต่น้อย จริงๆนะเอ้า...

เพื่อนที่คุณมี จะเหลือแต่พวกที่มีลูกเหมือนกัน

บรรดาเพื่อนฝูงทั้งหลายที่ไม่มีลูก ในไม่ช้าก็จะหนีหายหน้าจากคุณไป เพราะความเบื่อหน่าย ดังนั้น เพื่อนที่คุณจะเจอบ่อยที่สุดก็จะคือพวก

ที่มีลูกเต้านุงนังเหมือนคุณนั่นแหล่ะ ปัญหาก็คือว่าเพื่อนที่ยังไม่มีลูก อาจอยากฟังคุณคุยเรื่องอื่นๆ บ้างนอกจากเรื่องลูก แรกๆ ก็พลอยชื่นชม

ไปด้วย แต่ทุกครั้งที่เจอหน้าคุณเป็นต้องเล่าว่าลูกคุณยิ้มแล้วนะ ลูกคุณเรอกี่ครั้ง ถ่ายกี่ครั้ง ฯลฯ ท่าทางจะไม่ไหวเหมือนกัน ทางที่ดีหาเรื่อง

อื่นมาคุยกับเพื่อนบ้าง ไม่ก็ชวนเพื่อนที่ไม่มีลูกมาช่วยคุณเลี้ยงลูกซะเลย...

คุณจะรักลูกของคุณมากกว่าสิ่งใดในโลกนี้ (แม้กระทั่งภรรยาของคุณ เอง)

หลังจากที่คุณมีลูกเป็นของตัวเอง คุณจะพบว่าตัวเองรักลูกเหลือเกิน ยิ่งกว่าสิ่งใดในโลกนี้เสียอีก บางครั้งคุณอาจรู้สึกตกใจ หรือประหลาด

ใจในความรักที่คุณมีต่อลูก แต่ไม่ต้องต่อต้านความรู้สึกนี้ ปล่อยให้เป็นไปตามที่คุณรู้สึกนั่นแหล่ะ

คุณจะรู้สึกอิจฉาลูก

ข้อนี้ไม่น่าประหลาดใจเลย - ใช่มั้ย? ในที่สุดหลังจากที่มีลูก คุณก็ไม่ใช่ศูนย์กลางแห่งความสนใจของคนในบ้านอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อ

ภรรยาทุ่มเทความสนใจทั้งหมดไปที่ลูก โดยไม่ค่อยได้สนใจคุณเท่าไหร่นักว่า คุณทานอะไรมาหรือยัง คุณหิวมั้ย นอกจากนี้ ภรรยาจะรับ

หน้าที่ดูแลลูกไปซะคนเดียว โดยที่คุณเองก็อยากช่วยเลี้ยงลูกบ้างเหมือนกัน แต่เธอก็ไม่ปล่อยให้คุณทำเลย กลัวว่าคุณจะอุ้มลูกแล้วทำ

ตก คุณอุ้มโดยไม่ช้อนคอลูก หรือคุณอยากอาบน้ำให้ลูก แต่เธอก็บอกว่าไว้วันหลัง แล้วก็อาบน้ำให้ลูกเอง ฯลฯ คุณจะยิ่งรู้สึก คุณไม่มีค่า

หรือมีประโยชน์สำหรับบ้านนี้เสียเลย คุณผู้ชายทั้งหลายชอบให้คนเห็นความสำคัญของตัวเอง เมื่อถูกทอดทิ้งก็เลยรู้สึกอิจฉาลูก ที่มีแต่คน

เอาใจใส่ตลอดเวลา ฉะนั้นคุณอาจช่วยคุณแม่ลูกอ่อน โดยการซ้อมอุ้มเด็กเล็กๆ (ใช้ตุ๊กตาแทนก็ได้) เสียแต่เนิ่นๆ หรือหาความรู้ในเรื่องการ

เลี้ยงเด็กมาอ่านเสียบ้าง และช่วยเธอตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับการคลอดและการดูแลลูก เธออาจไว้ใจให้คุณช่วยดูลูก และเห็นความสำ

คัญของคุณเหมือนกัน

คุณอาจร้องไห้ได้ง่ายขึ้น

ถึงแม้คุณจะคิดว่าผู้ชายไม่ควรร้องไห้ แต่การเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตคุณมาเป็น "คุณพ่อ" รวมทั้งการอดหลับอดนอนในช่วงแรกๆ หลังจาก

ภรรยาคลอด จะทำให้อารมณ์ของคุณเปลี่ยนแปลงไปด้วย และมีอารมณ์อ่อนไหวต่อคนรอบข้าง หรือสถานการณ์รอบข้างขึ้น อย่าไปฝืนเลย

ถ้าหากว่าคุณรู้สึกซาบซึ้งกับการได้เห็นทารกน้อยซึ่งเป็นลูกของคุณกำลังออกมาสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยความรักความอบอุ่นของพ่อและแม่

หรือแม้ว่าคุณไม่ได้เข้าไปในห้องคลอดกับภรรยา แต่เมื่อพยาบาลส่งลูกให้คุณอุ้มแล้วคุณเกิดความรู้สึกเต็มตื้นขึ้นมา ยามเอื้อมมือไปรับลูก

น้อย มาโอบกอดจนอยากน้ำตาซึม ก็อย่ากลั้นไว้เลย เป็นเรื่องที่ธรรมชาติและธรรมดามากที่จะเป็นอย่างนี้

คุณจะรู้สึกว่า โลกนี้ช่างเต็มไปด้วยสิ่งที่น่ากลัว

การที่ภรรยาของคุณมีครรภ์นั้น ไม่ใช่เรื่องของการเจ็บป่วย และลูกของคุณแม้ว่าจะตัวเล็กนิด เดียวก็ไม่ใช่ว่าร่างกายเค้าจะทำด้วยแก้วใส

เปราะบาง แต่คุณผู้ชายหลายคนคิดแบบนี้ แม้ว่าคุณจะเป็นผู้ชายที่ลุยๆ กล้าหาญ ไม่กลัวอะไรง่ายๆ หรือไม่ค่อยกังวลกับอะไรมากนัก แต่

เมื่อถึงคราวภรรยาท้อง และคุณมีลูกตัวน้อยๆ คุณกลับคิดวิตกกังวลเป็นห่วงเป็นใยภรรยาที่ตั้งครรภ์ และลูกน้อยไปซะหมด ใจเย็นๆ ไว้บ้าง

ภรรยาของคุณเธอรู้วิธีที่จะดูแลตัวเอง  และลูกของคุณ ก็ไม่สามารถอยู่ในความปกป้องแบบไข่ในหินของคุณได้ตลอดชีวิต

คุณจะรู้สึกเหนื่อย..เหนื่อย...และเหนื่อย...

ถ้าคุณมีเพื่อนและเพื่อนคุณมีลูก เพื่อนจะบอกคุณว่า มีลูกเนี่ยเหนื่อยมากเลยนะโดย เฉพาะตอนที่ลูกยังตัวเล็กๆ แบเบาะแบบนี้ แต่ไม่มีใคร

บอกคุณว่า คุณจะเหนื่อยทุกวินาทีได้ขนาดนี้ แถมทั้งเหนื่อยและยุ่งด้วยจนคุณแทบจะนึกไม่ถึงทีเดียว แต่ไม่เป็นไร ยังไง ช่วงนี้ก็จะผ่านพ้น

ไปในไม่ช้า คุณแก้ไขอะไรไม่ได้หรอก ฉะนั้นก็ยอมรับและทำใจกัน ดีกว่า พยายามดูแลตัวเอง, ทานอาหารที่มีประโยชน์ให้พลังงานคุณมากๆ

 และนึกถึงว่า ลูกคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของการเป็นพ่อแม่ และคุณมีความสุขใจเพียงไรที่มีลูกคนนี้ มาเป็นขวัญใจของบ้าน

คุณต้องมีการปรับตัวและรู้จักยืดหยุ่น

อาจจะต้องมีการโต้เถียงกันบ้างระหว่างคุณและภรรยา เพราะคุณทั้งคู่ต่างก็เหน็ดเหนื่อย อดหลับอดนอนกันมาชั่วระยะหนึ่งหลังจากคลอดลูก

 และเมื่อถึงคราวที่จะต้องออกความเห็นและตัดสินใจในบางเรื่อง ซึ่งอาจจะไม่เห็นพ้องต้องกัน หรือคิดกันคนละอย่าง คุณจะต้องปรับตัวและ

ยืดหยุ่นบ้างในบางสถานการณ์ ภรรยาคุณอาจหงุดหงิดง่ายในช่วงนี้ เพราะเธอพักผ่อนไม่เพียงพอ พยายามรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน

 และที่สำคัญ อย่าทำเสียงขุ่นเคือง หรือทำหน้าไม่สบอารมณ์เข้าล่ะ อย่าลืมว่า คุณเป็นผู้ชาย ควรสงบ และทำอารมณ์เยือกเย็นเข้าไว้

จะดีที่สุด!







      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1669 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2552, 16:54:33 »







เจอแล้ว  รูปหลานคนเก่งค่ะ  และคุณพ่อคุณภาพ24   ยังมีอีกหลายคนนะคะ
































      บันทึกการเข้า
แจง-24
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2524
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 10,028

« ตอบ #1670 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2552, 20:19:57 »

อ้างถึง
ข้อความของ churaipatara เมื่อ 01 พฤศจิกายน 2552, 15:39:38






น้องออมสิน หลานป้าแจงค่ะ

สวัสดีค่ะ ดร.เอ๋ ต้องขอโทษด้วย ที่พักหลังไม่ได้เข้ามาคุยบ้านนี้
รูปเยอะเหลือเกิน เปิดแต่ละหน้านานมากค่ะ
พอรอนานๆ เน็ตที่บ้านก็พาลจะหลุดตลอด...

เห็นรูปน้องออมสินที่ ดร.เอ๋ โพสต์
ก็นึกขึ้นได้ว่าควรจะ update ภาพน้องออมสินได้แล้ว

ตอนนี้ น้องออมสิน-เพื่อนบ้านป้าแจง เข้าเตรียมอนุบาลเทอมที่ 2 แล้วค่ะ...



น้องอะตอมและคุณแม่ มาส่งขึ้นรถโรงเรียนแถวหน้าบ้านป้าแจงเกือบทุกเช้าค่ะ...



น้องออมสินเรียนโรงเรียน "อนุบาลต้นกล้า" ค่ะ



รถโรงเรียนมารับพี่ออมแล้ว....บ๊าย บาย จ้า... จุ๊บ จุ๊บ !!!


เมื่อไหร่เน็ตเป็นใจ จะเข้ามาคุยใหม่นะคะ....

 bye bye
      บันทึกการเข้า

   อยู่อย่างต่ำ กระทำอย่างสูง
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1671 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2552, 08:27:52 »

สวัสดีค่ะแจง รูปถ้ารีบลงก็จะมีรูปใหญ่ๆหลุดไปบ้างนะคะ

ไม่เป็นไรค่ะแจง สะดวกตอนไหนก็ค่อยแวะมา  ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ

ขอบคุณที่ส่งพัฒนาการของน้องออมสิน  น้องอะตอมมาให้ชมกันอีก   

หลานๆน่ารักจริงๆค่ะ

   
      บันทึกการเข้า
super
Full Member
**


วิดยา'20
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 368

« ตอบ #1672 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2552, 08:35:35 »

สวัสดี..ครับ..อาจารย์..เอ๋
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1673 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2552, 08:47:31 »

อ้างถึง
ข้อความของ super เมื่อ 02 พฤศจิกายน 2552, 08:35:35
สวัสดี..ครับ..อาจารย์..เอ๋


สวัสดีค่ะพี่หลิน  ดีใจที่แวะมาบ้านนี้ค่ะ  ส่งรูปครอบครัวมาที่บ้านนี้ได้เสมอนะคะ
      บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #1674 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2552, 08:54:23 »










ภาพมะหมาจากบีม-ลูกชายส่งมาให้ค่ะ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 65 66 [67] 68 69 ... 979   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><