16 กันยายน 2567, 11:25:05
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 16 17 [18] 19 20 ... 979   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ☼☼☼ ร่วมคุยกันในมุมมองของคุณแม่~แวะพักทักทายเอ๋ 24 ☼☼☼  (อ่าน 2687850 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #425 เมื่อ: 08 มกราคม 2552, 13:30:06 »

บันทึกการเข้า
เก๊า(24)
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,069

« ตอบ #426 เมื่อ: 08 มกราคม 2552, 16:45:58 »

ส่งรูปมาให้  เอ๋ อีก เพื่อใช้ประกอบการ เขียนบทความวิชาการ ชื่อหอยนกขมิ้น
ตระกูลหอยทาก ชอบอยู่ตามใบไม้ที่เป็นไม้ยืนต้น หาดูยาก มีเฉพาะ จันทบุรี และจังหวัดที่ติดชายทะเล แถวเพชรบุรีและสุราษฎร์




บันทึกการเข้า
Uncle Na
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2524-2201
คณะ: นิเทศ
กระทู้: 4,957

« ตอบ #427 เมื่อ: 08 มกราคม 2552, 16:50:28 »

- สวัสดีตอนเย็น ดร.เอ๋  เสี่ยเก๊า  เรื่อง Zoology และ Botany ทั้งสัตว์ และพรรณไม้ ต้องลุงเก๊า
บันทึกการเข้า

จิตใจที่จุดประกายแล้ว คือทรัพยากรที่ทรงพลังที่สุดบนพิภพ เหนือพิภพ และใต้พิภพ/จิตวิญญาณมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้/ โดย เอพีเจ อับดุล กาลัม/สุวิทย์ วิบูลเศรษฐ์  แปล
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #428 เมื่อ: 09 มกราคม 2552, 09:55:56 »

เรื่องที่ 40 คิดแบบGENIUS

DON FABUN กล่าวว่า "ความสามารถในการที่จะสงสัยอย่างเด็กๆ ซึ่งสามารถติดตัวเราไปถึงตอนเป็นผู้ใหญ่ นับเป็นจุดเด่นของบุคคลที่มี

ความสร้างสรรค์"

 ปิ๊งๆ  เด็กเล็กๆสักคนสามารถจะทำให้คุณแทบคลั่งได้ด้วยคำถามต่างๆ ดังนั้นพ่อแม่ควรจะ ฟังแล้วพยายามตอบ หรือพูดว่า"พอแล้วๆ

ไม่ต้องถามอีกแล้ว"

 ปิ๊งๆ  เด็กนั้นนับเป็นบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุดรอบๆตัวคุณก็ว่าได้ และเด็กๆอีกนี่แหล่ะที่กลายเป็นบุคคลที่สอนเราได้

อย่างดีที่สุดเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ด้วยคำถาม "ถ้า.........เผื่อว่า........."

 ปิ๊งๆ  เหตุผลส่วนหนึ่งก็คือเด็กมีความสงสัยเป็นธรรมชาติติดตัว และก็ไม่เคยที่จะแกล้งว่าตัวเองนั้นรู้ไปเสียทั้งหมดทุกสิ่งทุกอย่าง

เหมือนอย่างที่ผู้ใหญ่มากมายพยายามทำอยู่เป็นประจำ ด้วยเหตุนี้เองคำถามของเด็กๆจึงบริสุทธิ์และเปิดกว้างอย่างสร้างสรรค์ ผู้ใหญ่ต่าง

หากที่บางครั้งมีความคิดคร่ำครึและปิดกั้น

 ปิ๊งๆ  การที่จะเป็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริงก็คือ การกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง นั่นคือคุณยังคงเติบโตอย่างทรงภูมิปัญ

ญาและความสามารถภายใน แต่ยังคงทำตัวเป็นเด็กๆอยู่ภายนอกนั่นเอง ถ้าคุณทำอย่างนั้นได้ มุมมองของคุณจะมีประสิทธิภาพอย่างน่า

ทึ่งทีเดียว

บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #429 เมื่อ: 09 มกราคม 2552, 10:19:55 »

(ต่อ)

 หึหึ  ลองสังเกตเด็กที่หยิบเอาของเล่นขึ้นมา

เขาจะทดลองมัน เรียนรู้กับมันจากทุกแง่มุม ทั้งแตะต้องมัน นั่งบนมัน แม้กระทั่งยัดมันเข้าไปในปากอีกต่างหาก พอเขาจัดการมันเสร็จเรียบ

ร้อยแล้ว  เขาจะรู้จักมันมากกว่าผู้ใหญ่ที่ให้ของเล่นนี้กับเขาเสียอีก เพราะเด็กมีความพร้อมที่จะทดสอบมัน สร้างและรู้สึกกับมันโดยตรง ใน

ขณะที่พ่อแม่นั้นจะเอาแต่นั่งและตัดสินใจมันอยู่ไกลๆ

 หึหึ  เด็กๆนั้นมีอิสระ

ที่จะกระทำอะไรต่อมิอะไรได้อย่างอิสระ แต่พอคนเราโตขึ้นมาเขาก็กลับที่จะกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ในการทำโน่นนี่ผิด เมื่อเขาได้ความคิดดีๆ

เขาก็จะกดมันเอาไว้ เพราะคิดว่ามันยังดีไม่พอ หรือไม่คนอื่นก็จะกดมันเอาไว้แทนเขา

 หึหึ  ความกลัวที่จะล้มเหลว

เป็นสิ่งที่ฆ่าความคิดสร้างสรรค์มาแล้วนักต่อนัก แต่เมื่อเรามีความเป็นเด็กอยู่ในตัว เราก็จะไม่มีความกลัวในเรื่องเหล่านี้ ในทางตรงกันข้าม

เราก็จะสนุกไปกับการสำรวจความสงสัยที่เรามีกับทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า และเราก็จะไม่ให้ใครคนอื่นมาเปลี่ยนแปลงเราให้หันเหไปจากสิ่งที่

เรากำลังทำอยู่
บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #430 เมื่อ: 09 มกราคม 2552, 13:49:14 »

(ต่อ)

 gek  จูลส์ เวิร์น

เก็บความสามารถในการเป็นอย่างเด็กๆได้ตลอดชีวิตของเขา เขาถามคำถามอย่าง"ถ้าเผื่อว่าคนไปดวงจันทร์ได้ล่ะ เขาจะไปได้อย่างไร"ร่วม

ร้อยปีก่อนที่มนุษย์จะไปเหยียบบนดวงจันทร์ ความคิดของเขาสร้างความตื่นเต้นและผลักดันให้คนอื่นๆอีกหนึ่งศตวรรษถัดมา ได้ไปเดินบน

ดวงจันทร์กันจริงๆอย่างเวิร์นเองได้เคยมองเห็นไว้ในมโนภาพของเขา

 gek  ธรรมชาติอย่างที่สอง

มีการศึกษาชิ้นหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าเพียงร้อยละ2 ของผู้ใหญ่ทั้งหมดเท่านั้นที่จะมีความคิดสร้างสรรค์ เด็กอายุ7ขวบมีร้อยละ10 และเด็กอายุ

5ขวบมีถึงร้อยละ90

 gek  ตัวเลขนี้บอกอะไรกับเรา

บอกเราว่าความคิดสร้างสรรค์นั้น เป็นเหมือนธรรมชาติอย่างที่2 ของเราเมื่อตอนเป็นเด็ก แต่พอเราโตขึ้นเรากลับผลักเอาความคิดสร้างสรรค์

ไปไว้ข้างหลัง หรือไม่ก็ปล่อยให้มันไหลออกไปจากตัวของเราก่อนที่เราจะรุ้ตัว เราก็กลายเป็นหนึ่งในร้อยละ98ของผู้ใหญ่ที่ทั้งเหนื่อยและคร่ำครึ

บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #431 เมื่อ: 09 มกราคม 2552, 14:04:31 »

(ต่อ)

 emo28:win:มองเห็นสิ่งที่อยู่ตำตา

รถบรรทุกคันหนึ่งถูกขับไปเบียดกับสะพานลอย ตำรวจพยายามจะเอามันออกมา ฝูงชนเข้ามามุงดู "ตัดหลังคาของรถบรรทุกออก"ชายชรา

คนหนึ่งตะโกนบอก "คุณคงต้องรื้อสะพานเสียแล้ว" อีกคนกล่าว "มันติดแหงกออกอย่างนั้น" แน่นอนทางแก้ทั้งสองนั้นเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้

 แต่ก็ไม่มีใครคิดอะไรอย่างอื่นได้ เด็กคนหนึ่งก้าวออกมา แล้วออกความคิดว่า"ถ้าเผื่อว่าเอาลมออกจากยางซะล่ะ" เขาเริ่มสงสัย

 win  ดังนั้น จงให้ความสนใจกับคำถามของเด็ก

 win  เพราะนั่นอาจเป็นการแสดงความคิดสร้างสรรค์

 win  หรือทางออกของปัญหา

 win  อีริค โฟรมม์ กล่าวว่า "อะไรคือข้อแม้ของความคิดอย่างสร้างสรรค์ ในการมองเห็นและตอบสนองต่อการรู้สึกและไวต่อการรับรู้

ถึงสิ่งที่คนอื่นได้รู้สึก ก่อนอื่นคือต้องมีความสามารถที่จะสงสัย เด็กๆนั้นยังมีความสามารถที่จะสงสัย แต่เมื่อเด็กผ่านกระบวนการเรียนรู้ในรูป

แบบของการศึกษาในโรงเรียน เด็กกลับสูญเสียความสามารถในการสงสัยและประหลาดใจกับสิ่งทั้งหลาย เด็กคิดแต่เพียงว่าเขาจะต้องรู้ให้

หมดทุกอย่างและนี่คือตัวบ่งบอกของความเฉยเมยต่อการสงสัยหรือประหลาดใจกับสรรพสิ่ง"



สาระสำคัญจากจากหนังสือ WAKE UP YOUR CREATIVE GENIUS

ด้วยความปรารถนาดีจากคณะผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัดศรีสะเกษแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว



ภาพจาก dek-d.com

บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #432 เมื่อ: 09 มกราคม 2552, 15:22:47 »

เรื่องที่ 41 วิธีช่วยให้เด็กฉลาด

 sing  ลูกรักต้องเอาใจใส่

เด็กจะรู้สึกพอใจเมื่อรู้ว่าตนมีความสำคัญต่อพ่อแม่ปานแก้วตาดวงใจ ใช่แล้วผลที่ตามมาคือความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองของลูก

 sing  จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม

ลูกน้อยทำสิ่งต่างๆได้สำเร็จมากเท่าไหร่ โอกาสที่เขาจะมีความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น หนทางหนึ่งที่คุณจะช่วยลูกได้คือ

จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม อย่าให้เขาประสบความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า

 sing  ช่วยให้ลูกหายคับข้องใจ

มีกิจกรรมมากมายที่ลูกยังไม่เคยทำและจำเป็นต้องหัดทำ และมีอีกตั้งมากที่ลูกต้องการจะทำและพยายามจะทำให้ได้ ความรู้สึกคับข้องใจ

เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่พ้น จะเกิดขึ้นกับเด็กทุกคนไม่เว้นแม้แต่เด็กที่ฉลาดที่สุด เก่งที่สุด อย่างไรก็ตามเมื่อลูกเกิดความรู้สึกคับข้องใจขึ้นมา คุณ

สามารถช่วยลูกได้ดังนี้ จงช่วยให้เขาผ่านพ้นภาวะนั้น ด้วยการช่วยเหลือให้เขามีความสามารถมากขึ้น สร้างสรรค์ความรู้สึกภาคภูมิใจในตน

เองให้ลูก

 sing  อบรมด้วยรัก

ถ้าคุณต้องการให้ลูกมีความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง โปรดสั่งสอนลูกด้วย"ความรัก"ค่อยๆพูดจา อย่าใช้วิธีดุด่า ขู่ตะคอก ประนามหยามเหยียดหรือ

เย็นชา ไม่ดูดำดูดี เป็นเครื่องมืออบรมสั่งสอนลูก

 sing  กระตุ้นวุฒิภาวะของลูก

คุณจะช่วยลูกให้เดินไปในทิศทางที่ถูกต้องได้ขั้นหนึ่ง ด้วยการกระตุ้นวุฒิภาวะของลูกน้อยตั้งแต่ก่อนเข้าเรียน เพื่อช่วยให้เขามีความรู้สึกที่ดี

ต่อตนเองและเมื่อเขาเข้ารร เขาจะเรียนหนังสือได้ดี



ภาพจาก fwmail.teenee.com

บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #433 เมื่อ: 09 มกราคม 2552, 15:43:27 »

(ต่อ)



ภาพจาก gotoknow.org

 sleep ชื่อเล่นต้องสร้างสรรค์

ถ้าคุณต้องการใช้"ชื่อเล่น"เรียกลูก ขอให้ใช้ชื่อเล่นที่สร้างสรรค์และให้ความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองกับลูก  เพื่อเป็นการบ่งชี้ถึง"ปมเด่น"

ของเขา เมื่อรักจะใช้ชื่อเล่นกับลูก ขอให้เป็นชื่อเล่นที่มาจากความเอ็นดูรักใคร่ มิใช่เพื่อความล้อเลียนเสียดสี ถากถาง และควรจะตระหนัก

ด้วยว่า"น้ำเสียง"ที่คุณใช้เรียกลูกนั้นมีความสำคัญมีความหมาย และเปิดเผยความรู้สึกที่คุณมีต่อลูกได้ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน

 sleep  พ่อแม่ควรภูมิใจในตนเองก่อน

ลูกเรียนรู้จากคุณมากมาย การเรียนรู้ของลูกมาจากการเฝ้าดู"การกระทำ"ของคุณก่อนอื่น ไม่ใช่จาก"คำพูด"ของคุณ ถ้าคุณพยายามสร้าง

สรรค์ความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองให้ลูก โดยที่คุณเองยังไม่มีหรือไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้ ความพยายามย่อมไร้ผล

 sleep  สุภาพกับลูก

ลองดูเถอะ แล้วคุณจะทราบว่าถ้อยคำเหล่านี้มีมนต์ขลัง ทุกสิ่งทุกอย่างจะราบรื่นอย่างประหลาด และยังจะช่วยให้ลูกร่วมมือกับคุณเป็นอย่าง

ดี ลูกจะกลายเป็นเด็กสุภาพน่ารัก และที่สำคัญคือถ้อยคำและท่าทีที่สุภาพเช่นนี้จะช่วยให้ลูกเข้าใจได้ด้วยว่าคุณเคารพและให้เกียรติเขา

ความรู้สึกเคารพและให้เกียรติตนเองของลูกจะเพิ่มพูนขึ้นทีละน้อย และเป็นหนทางนำไปสู่ความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองในที่สุด

 sleep  กฏในบ้านต้องเป็นที่เข้าใจกัน

ขั้นแรก คุณต้องพูดคุยกับลูกให้เข้าใจกฏในบ้านอย่างชัดเจน

ขั้นที่สอง พยายามให้ลูกพูดทวนกฏเหล่านั้นด้วยภาษาของเขาเอง ถ้าเขาใช้ภาษาของเขาอธิบายกฏในบ้านได้ดีละก็แปลว่าคุณประสบความ

สำเร็จในการสื่อสารกับลูก

ขั้นที่สาม เริ่มใช้กฏนั้นทันทีแต่ให้มีระยะทดลองพักหนึ่งก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการแก้ไขปรับความเข้าใจกันได้ ในกรณีที่มีการเข้าใจผิด
บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #434 เมื่อ: 09 มกราคม 2552, 16:08:02 »

(ต่อ)



ภาพจาก bangkok.olxthailand.com

 หลั่นล้า  ยอมรับลูก

ทำได้หลายวิธีทั้งในรูปแบบลึกซึ้งและเปิดเผย เช่นยิ้มให้ ตบศรีษะเบาๆ สวมกอดแน่นๆ ซึ่งเด็กทุกคนเข้าใจได้แน่นอนแม้แต่เด็กทารก ยัง

เข้าใจน้ำเสียงนุ่มนวลของคุณนี่นา และเด็กอายุตั้งแต่สองขวบขึ้นไป ก็สามารถทำความเข้าใจกับสีหน้าท่าทางของคุณได้แล้วล่ะ หัวใจสำ

คัญของการยอมรับลูกอยู่ที่"ทัศนคติ"ถ้าคุณยอมรับลูกในฐานะ"คน"คนหนึ่ง ถึงแม้คุณจะไม่ชอบการกระทำเกือบทุกอย่างของเขา แต่ลูกจะ

ยัง"สัมผัส"ความรู้สึกยอมรับที่คุณมีต่อเขาได้ เขาจึงมีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองเพราะได้รับ"การยอมรับ"จากคุณนั่นเอง

 หลั่นล้า  หมั่นพูดคุยถ่ายทอดความรู้สึก

จงให้เวลาพูดคุยกับลูก หมั่นถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดกับลูก ความรู้สึกที่จะเกิดแก่ลูก2ประการคือ

1) ลูกจะรู้สึกว่าคุณชอบใช้เวลาอยู่กับเขา

2) คุณชอบพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของเขา

 หลั่นล้า เล่นสนุกด้วยกัน

ทุกครั้งที่คุณเล่นสนุกกับลูกคุณช่วยให้

1) ลูกเข้าใจได้ว่าเขาเป็นคนพิเศษของคุณ และคุณมีความสุขที่ได้อยู่กับเขา

2) ลูกมีพัฒนาการและเติบโตขึ้นจากกิจกรรมนั้นโดยตรง

 หลั่นล้า  สอนให้ลูกรู้จักอดกลั้น

เด็กที่รู้จักควบคุมตัวเองได้ จะได้รับผลดี2ประการคือ

1) พ่อแม่จะให้การยอมรับเขา

2) เขาจะได้รับการยอมรับจากตัวเอง หมายความว่าเขาจะมีความรู้สึกที่ดีกับตัวเอง อันจะนำไปสู่ความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองนั่นเอง ถ้าคุณ

ต้องการให้ลูกมีความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง จงสอนให้ลูกรู้จักอดกลั้น เราอยู่ในโลกที่ไม่สามารถทำตามอำเภอใจได้ตลอดเวลา ดังนั้นการ

รู้จักระงับใจตนเองจะช่วยให้ชีวิตของลูกดีขึ้นมาก



สาระสำคัญจากหนังสือ101WAYS TO BOOST YOUR CHILD'S SELF-ESTEEM โดย ดร อัลวิน เอช ไพรซ์ และ เจย์ เอ แพร์รี่

ด้วยความปรารถนาดีจากคณะผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัดศรีสะเกษแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว
บันทึกการเข้า
แจง-24
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2524
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 10,028

« ตอบ #435 เมื่อ: 10 มกราคม 2552, 10:13:16 »

ชอบเรื่องที่ 41 มากค่ะเอ๋...

บันทึกการเข้า

   อยู่อย่างต่ำ กระทำอย่างสูง
เก๊า(24)
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,069

« ตอบ #436 เมื่อ: 10 มกราคม 2552, 13:03:06 »

สนุกสนานวันเด็กนะ   คุณแม่ เอ๋......ของลูกๆๆ

บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #437 เมื่อ: 11 มกราคม 2552, 18:14:57 »

อ้างถึง
ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 10 มกราคม 2552, 10:13:16
ชอบเรื่องที่ 41 มากค่ะเอ๋...



ขอบคุณค่ะ ดอกไม้สวยมากด้วย บ่ฮู้บ่หัน
บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #438 เมื่อ: 11 มกราคม 2552, 18:15:41 »

อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 10 มกราคม 2552, 13:03:06
สนุกสนานวันเด็กนะ   คุณแม่ เอ๋......ของลูกๆๆ



ขอบคุณสำหรับดอกไม้สวยๆค่ะ บ่ฮู้บ่หัน
บันทึกการเข้า
jacky
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,852

« ตอบ #439 เมื่อ: 11 มกราคม 2552, 20:01:30 »

แฮพ ของครูตี๋มาแปะบ้านดร.เอ๋..
คงไม่ว่ากันะครูตึ๋ เอฟ4
เห็น ดร.เอ๋ว่าอยากได้




[/quote]
บันทึกการเข้า

จงทำงาน         อย่างมี         ความสุข
แต่อย่าหลงไปมีความสุขที่ได้อยู่กับงาน
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #440 เมื่อ: 12 มกราคม 2552, 08:56:54 »

อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 11 มกราคม 2552, 20:01:30
แฮพ ของครูตี๋มาแปะบ้านดร.เอ๋..
คงไม่ว่ากันะครูตึ๋ เอฟ4
เห็น ดร.เอ๋ว่าอยากได้





[/quote]

ขอบคุณค่ะน่ารักดีเด็กน้อย บ่ฮู้บ่หัน
บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #441 เมื่อ: 12 มกราคม 2552, 09:45:25 »



ภาพจาก atcloud.com

เรื่องที่ 42 วิธีช่วยให้เด็กฉลาด(ต่อ)

 บ่ฮู้บ่หัน  สอนให้ลูกรู้จักรับผิดชอบ

ความรับผิดชอบต้องครอบคลุมไปถึงเรื่องวินัยของชีวิตด้วย เริ่มตั้งแต่เรื่องทำการบ้าน ช่วยงานบ้าน หรือการจดจำได้ว่าต้องไม่ทำห้องน้ำ

เลอะเทอะสกปรก  หัวใจสำคัญของการฝึกความรับผิดชอบให้ลูก คือพ่อแม่จะต้องให้คำชมเชย ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนและหนักแน่น

มั่นคงในระเบียบข้อบังคับต่างๆ จะต้องบอกให้ลูกเข้าใจชัดเจนว่าพ่อแม่คาดหวังอะไรจากเขาและจงพยายามให้ความคาดหวังนั้นไม่สูงเกิน

ความสามารถของลูก

 บ่ฮู้บ่หัน  ให้กำลังใจลูกให้มุมานะ

มีกิจกรรมมากมายที่ต้องอาศัยความมุมานะเช่น งานบ้าน งานที่รร การเล่นกีฬา งานอดิเรกส่วนตัว การฝึกฝนความสามารถและความชำนาญ

ใหม่ เมื่อลูกท้อแท้ทำท่าจะยอมแพ้จงกระตุ้นให้เขามุมานะต่อไป

 บ่ฮู้บ่หัน  ให้ความสำคัญกับคู่สมรสก่อนอื่น

สามีภริยาต้องการความสัมพันธ์เช่นที่เคยเป็นมาก่อนจะมีลูก ถ้าคุณให้ความสำคัญกับลูกมากเกินไปในช่วงที่ครอบครัวขยาย จะทำให้สมาชิก

ทุกคนอึดอัด  รู้สึกถูกกดดันไม่ว่าจะเป็นตัวคุณเอง คู่สมรสและลูกๆ ลูกจะเป็นเสมือนนกน้อยที่เติบใหญ่และโบยบินออกไปสร้างรังใหม่ ถ้าคุณ

ให้ความสำคัญกับคู่สมรส  ก่อนอื่นให้เป็นที่หนึ่งอย่างถูกต้อง ลูกจะรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้โบยบินออกไปสร้างรังของเขาเอง และเมื่อเวลานั้นมา

ถึงจริงคุณย่อมพร้อมที่จะปรับสภาพตัวเองให้เข้ากับการจากไปของลูกๆได้เป็นอย่างดี

บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #442 เมื่อ: 12 มกราคม 2552, 10:01:04 »

(ต่อ)



ภาพจาก www.vcharkarn.com

สะใจจัง  ลูกพึ่งตนเองได้

ขั้นแรก ปล่อยให้ลูกทำด้วยตัวของเขาเอง แม้คุณจะเห็นเขาล้มเหลวแล้วล้มเหลวอีก ตราบใดที่เขายังยินดีทดลองทำอะไรใหม่ๆ จงปล่อย

ตามใจเขาและหมั่นชมเชยให้กำลังใจเขา

ขั้นที่สอง เมื่อลูกหัดทำอะไรใหม่ๆสักอย่างได้แล้ว จงปล่อยให้เขาทำสิ่งนั้นด้วยตัวเองตามลำพัง อาจเป็นไปได้ว่าบางครั้งเขาอยากหันกลับ

มาพึ่งพาคุณอีก จงอย่าตามใจเขา(แต่อาจตามใจได้บ้างนิดหน่อยในกรณีที่วันนั้นลูกเจอปัญหามากแล้วจริงๆ) ควรหว่านล้อมให้กำลังใจเขา

ด้วยตัวเองต่อไป

 สะใจจัง  รู้จักยืดหยุ่นประนีประนอมบ้าง

จะช่วยสร้างสรรค์ความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองให้ลูก เพราะกฏทุกข้อย่อมมีข้อยกเว้น คุณอาจกำหนดให้ลูกกลับเข้าบ้านก่อนห้าโมงเย็นทุก

วัน เพื่อสะดวกแก่การจัดสำรับกับข้าวสำหรับอาหารเย็น กฏนี้เหมาะสมที่สุดสำหรับครอบครัวคุณ แต่ถ้าเกิดวันใดลูกมีกิจกรรมพิเศษอย่างอื่น

ๆคุณย่อมยกเว้นกฏข้อนี้ได้ตามสมควร

 สะใจจัง  ให้โอกาสลูกแสดงความคิดเห็น

เด็กควรมีโอกาสแสดงความคิดเห็นของเขาอย่างเต็มที่ ในระดับที่เหมาะสม สุภาพ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกดุว่า การบังคับให้ลูกเก็บงำความ

คิดเห็นหรือ  ความรู้สึกเอาไว้ มีแต่จะบ่อนทำลายความรู้สึกที่มีต่อตนเองของลูก ถ้าเราเปิดโอกาสและกระตุ้นให้ลูกรู้จักแสดงความคิดเห็น

ออกมามากเท่าไหร่ เขาจะรู้สึกต่อตนเองมากเท่านั้น และถึงแม้คุณไม่เห็นด้วยกับเขา คุณก็ยังจะช่วยสร้างสรรค์ความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง

ให้เขาได้อยู่ดี
บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #443 เมื่อ: 12 มกราคม 2552, 10:20:44 »

(ต่อ)



ภาพจาก dek-d.com

 เตือน  อย่าเยาะเย้ยลูก

การเยาะเย้ยถากถางทำลายความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองของลูก ฉีกกระชากความรู้สึกที่ดีต่อตนเองของลูกจนขาดกระจุย ทำให้ลูกรู้สึกว่า

พ่อแม่เห็นเขาเป็นเด็กโง่เง่าเต่าตุ่น ไม่เอาถ่าน น่ารังเกียจ หัวใจของการอบรมบ่มนิสัยลูกคือพ่อแม่ต้องให้เกียรติลูกในฐานะ"คน"คนหนึ่ง

วิธีนี้นับว่าเป็นการสร้างสรรค์  เพราะเมื่อเด็กได้รับการยกย่องนับถือจากคนอื่น ย่อมจะมีผลกระตุ้นให้เขารู้สึกนับถือตนเองในที่สุด

 เตือน  หมั่นแสดงความรู้สึกชื่นชอบและชมเชยลูก

ไม่ใช่เรื่องยากที่จะแสดงความรู้สึกนี้ พ่อแม่เพียงแต่คอยจังหวะเหมาะๆเด็กทุกคนมีความดีอยู่ในตัวแน่นอนเช่น เขาอาจจะจัดเตียงโดยไม่

ต้องเตือน เขาดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างเอาใจใส่ เขามีรอยยิ้มสดใสกอดคุณเมื่อคุณต้องการกำลังใจ มีน้ำใจเป็นนักกีฬาหรือชอบช่วยเหลือน้อง

เล็กๆ เมื่อมองเห็นข้อดีลูก จงพูดจาชมเชยเขาทันที

 เตือน  หลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่แสดงอำนาจ

จงหลีกเลี่ยงการต่อสู้เพื่อแสดงอำนาจในบ้าน เพื่อช่วยสร้างสรรค์ความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองของลูก การต่อสู้เป็นการแสดงออกที่ให้

ความสำคัญกับ"อำนาจ"มากกว่า"ความรู้สึกของคน"ควรใช้วิธีปรึกษาหารือร่วมกันเพื่อหาข้อสรุปที่มีเหตุผลมากกว่า
บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #444 เมื่อ: 12 มกราคม 2552, 10:32:41 »

(ต่อ)



ภาพจาก www.iaddidea.com

 gek  หลีกเลี่ยงระบบคนโปรด

ถ้าคุณมีลูกมากกว่าหนึ่งคน ย่อมเป็นการยากที่จะรักใคร่เอ็นดูหรือให้ความยุติธรรมแก่ลูกๆอย่างเท่าเทียมกัน จงสร้างสรรค์ความรู้สึกภาคภูมิใจ

ในตนเองให้ลูกน้อย ด้วยการให้ความรักที่เท่าเทียมกันให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จงกระจายความรักความเอาใจใส่ให้ลูกๆอย่างทั่วถึง

และอย่าสร้างระบบคนโปรดขึ้นภายในบ้าน

 gek  คาดหวังในตัวลูกอย่างมีเหตุผล

การตั้งความหวังในตัวลูกอย่างไม่สมเหตุสมผล มีแต่จะทำลายลูก ทำให้ลูกประสบความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ลูกต้องทุกข์ทรมาน

เก็บความรู้สึกที่ไม่ดีต่อตนเอง

 gek  จงถามตัวเองว่า

ความคาดหวังนี้เป็นไปเพื่อความภาคภูมิใจและความสำเร็จของ"เรา"หรือ เราเห็นว่าเป็นการดีที่สุดเพื่อ "ลูก"



จากหนังสือ101WAYS TO BOOST YOUR CHILD'S SELF-ESTEEM

เขียนโดย ดร อัลวิน เอช ไพรซ์ และ เจย์ เอ แพร์รี่

โครงการเผยแพร่ความรู้ในรูปแบบแผ่นพับ

ด้วยความปรารถนาดีจากคณะผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัดศรีสะเกษแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว
บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #445 เมื่อ: 12 มกราคม 2552, 10:47:28 »



ภาพจาก play.kapook.com

เรื่องที่ 43 วิธีช่วยให้เด็กฉลาด (ต่อ)

 หึหึ  สนับสนุนลูกก้าวสู่โลกกว้าง

เด็กหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะโตขึ้นทุกวัน ข้อความนี้ลึกซึ้งนัก เพราะในขณะที่เด็กเติบโตนั้น ความต้องการของเขาย่อมแปรเปลี่ยนไปด้วย โลก

ของเด็กน้อยจะเปิดกว้างออกไป และคุณจะพบว่าเขาต้องการให้พ่อแม่สนับสนุนเขาให้กล้าก้าวออกไปร่วมในกิจกรรมใหม่ๆสังคมใหม่ๆ

 หึหึ  ร่วมกันตัดสินใจ

ถ้าพ่อแม่ยอมสละเวลาอีกสักนิด ใช้ความอดทนอีกสักหน่อย ด้วยการยอมให้ลูกๆมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องภายในบ้าน โดยเฉพาะอย่าง

ยิ่งเรื่องที่จะมีผลต่อลูก ลูกจะรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองมากขึ้นเพราะความคิดเห็นของเขามีค่า การตัดสินใจนั้นย่อมรอบด้านเพราะทุกคนมี

ส่วนร่วมในการตัดสินใจ ลูกจะเต็มใจปฏิบัติตามการตัดสินใจนั้นเพราะเขามีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วย

 หึหึ  ต่อต้านการกระทำของลูก ไม่ใช่ตัวลูก

เมื่อลูกประพฤติตัวไม่ถูกต้อง จงดุว่าที่"การกระทำของลูก"ไม่ใช่"ตัวลูก"จงสอนให้เขารู้ว่าคุณไม่พอใจ"การกระทำของลูก"ไม่ใช่"ตัวลูก"จง

แยก"ลูก"จาก

"การกระทำ"ซึ่งจะเป็นการช่วยเขารักษาความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองเอาไว้ได้
บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #446 เมื่อ: 12 มกราคม 2552, 11:03:46 »

(ต่อ)



ภาพจาก www.kroobannok.com

เตือน  สอนให้ลูกซื่อสัตย์

คำแนะนำเบื้องต้น เมื่อพ่อแม่สงสัยว่าลูกกำลังพูดปด ให้บอกเขาตรงๆเรียบๆว่าบางครั้งการพูดปดก็ดูเหมือนจะปลอดภัยและเป็นการง่ายดี

แต่ขอให้ลูกจำไว้เถอะว่าคนเราจะรู้สึกดีกว่าเสมอเวลา"พูดความจริง" เมื่อลูกพูดความจริง แม้ว่าจะด้วยความยากลำบากหรือกระอ้อมกระ

แอ้มเพียงใด จงชมเชยลูกโดยการสื่อความหมายเน้นจากตัวคุณ เช่น "แม่ดีใจมากที่ลูกตัดสินใจบอกความจริง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่พูด

ออกมาได้ยากมาก"

 เตือน  สนับสนุนความสะอาดเรียบร้อย

ความรู้สึกเคารพตนเองจะลดต่ำลง เมื่อสภาพแวดล้อมรอบตัวของเด็กสกปรกรกรุงุรัง ชีวิตนี้ดูไม่สดใส ทุกสิ่งทุกอย่างดูไม่ถูกต้องไปหมด มี

แต่ความรู้สึกซึมเซาเขละขละไป จนกว่าจะมีการปรับสภาพแวดล้อมให้สะอาดสดใสขึ้น เมื่อลูกไม่ยอมจัดข้าวของด้วยตนเอง จงอย่าทำแทน

อย่าแย่งความรับผิดชอบของลูกเป็นอันขาด เพราะจะมีผลสั่นคลอนความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองของเขา ควรบอกลูกว่าเขาจะออกไปเล่น

ข้างนอกไม่ได้จนกว่าจะจัดการเก็บกวาดห้องให้เรียบร้อยเสียก่อน เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย

 เตือน  สอนให้ลูกทำงาน

เด็กเล็กๆทุกคนต้องการเรียนรู้ที่จะทำงาน เขารู้สึกสนุกสนานที่ได้เลียนแบบผู้ใหญ่ จงใช้ประโยชน์จากความสมัครใจของเขา แต่อย่ามอบ

หมายงานที่เกินกำลังความสามารถของลูก จงฝึกหัดเขาทีละน้อยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขอให้คุณหวังต่ำๆไว้ก่อนในระยะแรก ปัจจัยอย่าง

หนึ่ง ที่เสริมให้ลูกเต็มใจทำงานคือ การมีพ่อแม่อยู่ใกล้ๆคอยให้กำลังใจ เพราะดูเหมือนว่าจะทำให้งานง่ายขึ้นและทำได้เร็วขึ้น
บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #447 เมื่อ: 12 มกราคม 2552, 11:24:22 »

(ต่อ)

gek  สอนให้ลูกรักความยุติธรรม

เด็กทุกคนเข้าใจหลักการของความยุติธรรมได้ดี ความเข้าใจนี้จะชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆตามวัยที่มากขึ้น เขาเข้าใจได้ว่าไม่เป็นการยุติธรรม

ที่คนอื่นมายื้อแย่งสิ่งของที่เขาต้องการไป และแม้ยากที่จะยอมรับสักหน่อย เขาก็ยังเข้าใจได้ว่าไม่เป็นการยุติธรรมเช่นกัน ที่เขายึดเอาของ

ของคนอื่นมาเป็นของตน  และเมื่อใดที่เด็กได้รับการปฏิบัติอย่างอยุติธรรม เขาจะรู้สึกด้อยค่าลงทันทีและสูญเสียความรู้สึกภาคภูมิใจในตน

เอง

 gek  สอนให้ลูกรู้จักทำงานเป็นหมู่คณะ

เด็กที่รู้จักทำงานเป็นหมู่คณะจะมีความรู้สึกมั่นใจในตนเองมากขึ้น เพราะเขาสามารถทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับคนอื่นได้ดี และสามารถสร้างความ

สัมพันธ์อันดีกับคนอื่นได้ ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงมีความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองสูง
บันทึกการเข้า
churaipatara
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 27,182

« ตอบ #448 เมื่อ: 12 มกราคม 2552, 11:47:27 »

(ต่อ)



ภาพจาก www.vdo-variety.com

win  สอนให้ลูกกล้าแสดงออก

เมื่อลูกกล้าแสดงออก เขาย่อมเกิดความรู้สึกว่าเขาสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมและชีวิตของเขาเองได้ ซึ่งความรู้สึกว่าสามารถควบคุมสิ่ง

เหล่านี้ได้  ย่อมให้ความรู้สึกที่ดีต่อตนเองมากทีเดียว แต่พ่อแม่ต้องระวังให้มากอยู่ดี เพราะการกล้าแสดงออกอาจล้ำเส้นไปสู่ความอวดดี

ความทะลึ่งตึงตังและความเห็นแก่ตัวได้ การสอนให้ลูกกล้าแสดงออกจึงต้องทำควบคู่ไปกับการสอนให้ลูกรู้จักคำนึงถึงจิตใจของคนอื่น และ

การกล้าแสดงออกควรเป็นไปในทางสร้างสรรค์เท่านั้น มิใช่เป็นไปเพื่อเหยียบย่ำข่มเหงน้ำใจคนอื่น

พ่อแม่อาจสอนให้ลูกกล้าแสดงออกได้หลายวิธี วิธีที่สำคัญที่สุดก็คือ ช่วยให้ลูกเข้าใจว่า เขาควรกล้าแสดงออกด้วยความจริงใจและไม่บิด

พลิ้วปฏิเสธความรับผิดชอบจากผลที่ตามมา แต่อันดับแรกสุดของบทเรียน คุณควรเริ่มต้นจาก พ่อแม่ต้องกล้าแสดงออกเสียก่อน จงเปิดโอ

กาสให้ลูกได้แสดงความคิดเห็นและความรู้สึกอย่างเต็มที่ตราบเท่าที่เขายังรักษาความสุภาพเอาไว้ได้

 win  จัดให้ลูกมีมุมส่วนตัว

มุมส่วนตัวจะช่วยสร้างสรรค์ความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองให้ลูกเป็นอย่างดี เพราะช่วยให้ลูกรู้สึกว่าเขามีความสำคัญ มีอะไรที่เป็นของเขาเอง

ซึ่งเขาสามารถจัดตกแต่งได้ตามความพอใจ คุณไม่จำเป็นต้องมีบ้านหลังใหญ่โต จึงจะจัดให้มีมุมส่วนตัวสำหรับลูกทุกคน ทุกห้องย่อมมีซอก

มุมของมันเอง ลูกไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมาย เพียงแค่ขอให้มีสักมุมหนึ่งที่เขาสามารถเรียกได้ว่าเป็น"ของเรา"เท่านี้ก็ดีมากพอแล้ว

จงระลึกเสมอว่า พ่อแม่ควรเคาะประตูหรือกระแอม เป็นทำนองส่งสัญญาณนำก่อนทุกครั้งที่จะเข้าไปในบริเวณนั้น



จากหนังสือ 101WAYS TO BOOST YOUR CHILD'S SELF-ESTEEM

เขียนโดย ดร อัลวิน เอช ไพรซ์ และ เจย์ เอ แพร์รี่
บันทึกการเข้า
แจง-24
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2524
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 10,028

« ตอบ #449 เมื่อ: 12 มกราคม 2552, 21:57:57 »

ชอบเรื่องที่ 42 มากค่ะเอ๋...



ส่งกล้วยไม้มาช่วยปิดเบรคด้วยค่ะ
บันทึกการเข้า

   อยู่อย่างต่ำ กระทำอย่างสูง
  หน้า: 1 ... 16 17 [18] 19 20 ... 979   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><