☼☼☼ ร่วมคุยกันในมุมมองของคุณแม่~แวะพักทักทายเอ๋ 24 ☼☼☼

[SC (ก้าน 24)]

สวัสดีครับดร.เอ๋
วันนั้นนึกว่าจะได้เจอดร.
แต่คุยกันทางโมบายเสียงรบกันดังมาก
ไม่ค่อยรู้เรื่องเลย
หูไม่ค่อยดี (แก่แล้วมั๊ง)

 

[churaipatara]

		อ้างถึง			ข้อความของ SC Vow เมื่อ 05 มกราคม 2553, 15:11:39
	สวัสดีครับดร.เอ๋ วันนั้นนึกว่าจะได้เจอดร. แต่คุยกันทางโมบายเสียงรบกันดังมาก ไม่ค่อยรู้เรื่องเลย หูไม่ค่อยดี (แก่แล้วมั๊ง)

สวัสดีค่ะก้าน ดีใจที่ก้านไปพบเพื่อนๆบ้างนะคะ คืนนั้นโทรไปได้คุยและได้ยินเสียงเพื่อนๆบ้างก็ดีใจแล้วค่ะ

[churaipatara]

(ต่อ)

เด็กที่มีความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ  มักมีสาเหตุแฝงต่างๆเหล่านี้เกี่ยวข้องด้วยเสมอ

-ความกลัว(FEAR)                              -ไม่เป็นตัวของตัวเอง

-ความวิตกกังวล(ANXIETY)                   -ภาวะซึมเศร้า

-ความโกรธ(ANGER)                           -ความรุนแรงในครอบครัว

-ตระหนกตกใจ(PANIC ATTACKS)          –ความรุนแรงจากกลุ่มวัยรุ่น

-ปัญหาความสัมพันธ์                           -การกระทำทารุณเด็ก

-วิตกจริตทางด้านสังคม                       -ติดนิสัยต้องพึ่งพาผู้อื่น

-พฤติกรรมเสพติด                               -ปัญหาการบริโภคอาหาร

ส่วนมากบำบัดรักษา  จะรักษาตามอาการ  ไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุที่แท้จริงของ

ความภูมิใจในตนเองระดับต่ำ  ดังนั้นควรจะเข้าใจว่า  ทำไมความภูมิใจตนเอง

ระดับต่ำจึงรบกวนวิถีการดำเนินชีวิตของเด็กแต่ละคน  พ่อแม่ควรจะเรียนรู้และ

หาวิธีการที่ชัดเจน  เพื่อช่วยเหลือส่งเสริมลูกให้เป็นคนมีความภาคภูมิใจในตน

เอง



จาก  หนังสือทำอย่างไรเด็กจึงจะภูมิใจในตนเองและมีความสุข

โดย  ดร.สยุมพร เค-ไพบูลย์

ด้วยความปรารถนาดีจาก คณะผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัดศรีสะเกษแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว

[churaipatara]

โครงการเผยแพร่ความรู้ในรูปแบบแผ่นพับ

เรื่องที่ ๕๑  เคล็ดลับการสร้างเสริมความคิดริเริ่มให้แก่เด็กๆ(CREATIVE THINKING)

ความคิดสร้างสรรค์  เป็นความรู้สึกนึกคิดที่เกิดขึ้นภายในของแต่ละบุคคล  แต่มิใช่หมายความว่าทุกคนจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์

มันเป็นลักษณะการมองและรู้สึกนึกคิดเฉพาะบุคคล

ความคิดสร้างสรรค์  เป็นการริเริ่มคิดหาสิ่งใหม่ๆที่มีประโยชน์  มีคุณค่าและคิดปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้นกว่าของ

เดิม  นับเป็นเครื่องมือของมนุษย์ในการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม  หาความสัมพันธ์สิ่งต่างๆในอนาคต

โดยปกติแล้ว  คนเราทุกคนต่างก็มีความสามารถในการคิดสร้างสรรค์อยู่ในตัวไม่มากก็น้อย  และความสามารถในการคิดสร้างสรรค์นี้

เป็นสิ่งที่สามารถเรียนรู้และฝึกหัดได้เช่นเดียวกับการฝึกอบรมในเรื่องอื่นๆ

เคล็ดลับการสร้างเสริมความคิดริเริ่มให้แก่เด็กๆ

๑)  เปิดโอกาสให้เด็กตัดสินใจเลือกทำสิ่งต่างๆด้วยตนเอง

๒)  ยอมรับการตัดสินใจของเด็ก  หัดให้รับผิดชอบและลองทำอะไรเอง

๓)  สนับสนุนให้กำลังใจเด็กด้วยจิตใจ มิใช่ด้วยวัตถุ

๔)  แสดงความชื่นชมและชมเชยในความพยายามของเด็ก

๕)  ส่งเสริมและช่วยเด็กค้นหาคำตอบเพื่อบทบาทที่ถูกต้องต่อไป

๖)  ส่งเสริมความสนใจของเด็กและช่วยพัฒนาไปสู่ความสำเร็จ

๗)  สอนเด็กให้รู้จักทำงาน สร้างความรู้สึกดีๆเกี่ยวกับงานและขยัน

๘)  สอนให้รู้จักบริหารเวลาอย่างมีคุณค่า การเล่นเกมส์และดูทีวีมาก

ทำให้เสียเวลาและเป็นกิจกรรมที่ไม่สร้างสรรค์นัก

๙)  ขจัดความเฉื่อยชา กระตุ้นเด็กด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ

ดังนั้น  พ่อแม่ต้องเป็นผู้ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และกระตือรือร้นเป็นพ่อแบบแม่แบบที่ดีแก่เด็ก



จาก หนังสือทำอย่างไรเด็กจึงจะภูมิใจในตนเองและมีความสุข

โดย  ดร.สยุมพร เค-ไพบูลย์

ด้วยความปรารถนาดีจาก คณะผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัดศรีสะเกษแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว

[churaipatara]

ปีใหม่..เพียงแค่เดินเล่นในสวนสมเด็จฯกับลูกๆก็มีความสุขมากแล้วค่ะ

[churaipatara]

(ต่อ)

การฝึกทางความคิด

๑)  ฝึกฝนเด็กให้ใช้ความคิดสม่ำเสมอ          ๒)  ฝึกฝนเด็กให้คิดในเชิงสร้างสรรค์

๓)  ฝึกฝนเด็กให้คิดอย่างวิเคราะห์วิจารณ์          ๔)  ฝึกฝนเด็กให้รู้จักคิดหาแนวทางการแก้ไขปัญหา

๕)  ฝึกฝนเด็กให้รู้จักคิดเพื่อการตัดสินใจ          ๖)  ฝึกฝนเด็กให้รู้จักคิดระหว่างข้อดีข้อเสีย

๗)  สอนให้เด็กเป็นคนช่างสังเกต ถามไถ่ ถี่ถ้วน          ๘)  พ่อแม่ช่วยวิจารณ์การคิดของเด็ก ปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น

๙)  สอนเด็กให้หัดมองความคิดของตนเอง และความคิดของผู้อื่น ว่ามันผิดตรงไหนบ้าง

ฝึกจินตนาการ

๑)  เลิกคิดว่าความฝันหรือจินตนาการเป็นเรื่องไร้สาระแบบเด็กๆ

๒)  ฝึกการออกกำลังสมองด้วยจินตนาการของตนเองบ่อยๆจนเกิดทักษะและความชำนาญ

๓)  พึงระลึกเสมอว่า  จินตนาการไม่อาจสร้างได้เพียงในชั่วคืนชั่ววัน  อาจจะต้องใช้เวลานาน  ขอให้ใจเย็นๆมีความพยายาม

และตั้งใจจริง

๔)  ฝึกสร้างจินตนาการในสิ่งดีๆเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน  เช่น  การคัดลายมือได้สวย  การบวกเลขได้เก่ง  ร้องเพลงได้ไพเราะ

๕)  พาเด็กๆไปเที่ยวและรับรู้สถานที่แปลกใหม่  เช่น  ทะเล  ภูเขา  สวนสัตว์  เป็นต้น

๖)  ฝึกให้เด็กรู้จักสร้างฝัน  กล้าฝันและพัฒนาฝัน  หรือจินตนาการเติมความฝัน  ผลักดันชีวิตให้ได้รับความสำเร็จในสิ่งที่ตัว

เองอยากจะได้  อยากจะเป็น


จาก  หนังสือทำอย่างไรเด็กจึงจะภูมิใจในตนเองและมีความสุข

โดย  ดร.สยุมพร เค-ไพบูลย์

ด้วยความปรารถนาดีจาก คณะผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัดศรีสะเกษแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว                         

[churaipatara]

สาวโบว์..ปกติจะชอบถ่ายรูปโพสต์ท่าสวยงาม แต่คราวนี้ทำหน้าทะเล้นก็ได้ ตาเหล่อีกก็ได้(แม่ไม่กล้านำบางรูปมาลง)


แถมเดินท่านกเพนกวินเดินหนีบไปมากับบีม  ให้แม่ดูให้แม่หัวเราะอีก เลยเตือนว่าเป็นสาวแล้วนะลูก..ไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้ว





หนุ่มบีม..หนุ่มอารมณ์ดี(มากเกินไปรึเปล่า)ของพ่อแม่และพี่ๆ





โบว์กับบีมในบรรยากาศสบายๆค่ะ บีมหิวจัดเลยให้ทานซาลาเปา ก่อนที่จะแย่งขนมปังของปลา...


บอกให้ทำหน้าดีๆหน่อยก็ไม่ยอมทำค่ะ ลูกคนนี้เวลาไปถ่ายรูปทำบัตรฯ จนท ต้องบอกแบบสุภาพ


และเกรงใจมากว่า "ถ่ายรูปทำบัตรฯไม่ต้องยิ้มมากขนาดนั้นก็ได้นะคะ.."คือ จะทะเล้นตลอดเวลา..

[churaipatara]

(ต่อ)

ประโยชน์ของจินตนาการสร้างสรรค์

-ทำให้เกิดความสุข          -ทำให้เกิดความซาบซึ้งในสุนทรียภาพ

-ทำให้เข้าใจสิ่งที่สลับซับซ้อน          -ทำให้คาดคะเนและวางแผนการได้ดีขึ้น

-ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ต่างๆได้ง่ายขึ้น

-ทำให้แก้ไขปัญหาชีวิตประจำวันและป้องกันปัญหาในอนาคต

ลักษณะต่างๆของผู้มีจิตใจดี

-ย่อมรู้จักการเกรงใจผู้อื่น          -ย่อมเป็นผู้รักษาความสัตย์ซื่อตรง

-ย่อมรู้จักพูดดี  มีวาจาประทับใจ          -ย่อมเป็นผู้รักษากฏระเบียบดีงาม

-ย่อมรู้จักอดทน  ไม่บันดาลโทสะ          -ย่อมรู้จักอภัย ไม่อาฆาตหรือซ้ำเติม

-ย่อมไม่ปล่อยใจฟุ้งซ่าน หยิ่งยโส          -ย่อมเป็นผู้ไม่มีจิตใจอิจฉาริษยา

-ย่อมมีอัธยาศัยดี  ผูกไมตรีไว้ได้          -ย่อมรู้จักละอายใจเกรงกลัวต่อบาป

-ย่อมมีใจโอบอ้อมอารี แบ่งปัน          -ย่อมรู้จักเห็นอกเห็นใจและเข้าใจกัน

-ย่อมรู้จักทำความดีละทิ้งความชั่ว          -ย่อมรู้จักละความโกรธ

การพัฒนาจิตใจต้องอาศัยกระบวนการฝึกฝนและอบรมบ่มนิสัยเป็นระยะเวลา

นานตั้งแต่เยาว์วัย  เป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อน  ต้องอาศัยความตั้งใจจริง

และมีความเพียรพยายามในการกระทำ  จึงต้องอาศัยกระบวนการฝึกจิตในรูป

แบบของปัญญา/การคิด  ไม่ปล่อยให้สมองว่างเปล่า  ฝึกให้เด็กรู้จักสังเกตและ

ศึกษาปัญหาต่างๆตลอดจนสภาพแวดล้อมและผู้คนรอบข้างอยู่เสมอ  สอนให้

เด็กรู้จักโลกกว้าง  เข้าใจสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา  ฝึก

ให้เด็กรู้จักคิดวิเคราะห์  รู้จักตัดสินใจและแก้ไขปัญหารอบๆตน  เพราะปัญญา

เป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน  ต้องใช้เป็นประจำจึงจะงอกงาม  หากถูกปล่อยไว้ไม่ได้ใช้

งานเลยนานเท่าใด  ความเสื่อมโทรมก็จะเกิดขึ้นมากเท่านั้น



จาก  หนังสือทำอย่างไรเด็กจึงจะภูมิใจในตนเองและมีความสุข

โดย  ดร.สยุมพร เค-ไพบูลย์

ด้วยความปรารถนาดีจาก คณะผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัดศรีสะเกษแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว

[jum2524]

จริงๆจ้ะเอ๋...เข้าใจถึงความรู้สึกของคนเป็นแม่อย่างเราๆเลยล่ะ...ยินดีกับความสุขของเอ๋กะลูกๆนะจ๊ะ...    

[churaipatara]

ให้อาหารปลากันค่ะ  มีปลาและเต่าตัวโตจำนวนมาก แม่และลูกๆหลานๆจึงอุดหนุนอาหารปลาและขนมปังที่ศูนย์ฯเปิดขาย

[churaipatara]

		อ้างถึง			ข้อความของ jum2524 เมื่อ 07 มกราคม 2553, 13:22:50
	จริงๆจ้ะเอ๋...เข้าใจถึงความรู้สึกของคนเป็นแม่อย่างเราๆเลยล่ะ...ยินดีกับความสุขของเอ๋กะลูกๆนะจ๊ะ...

สวัสดีค่ะจุ๋ม ดีใจที่แวะมานะคะ ได้มีเวลาเดินเล่นและถ่ายรูปลูกๆเหมือนครั้งที่เค้ายังเล็กๆอยู่ก็มีความสุขค่ะ


ที่สวนแห่งนี้ พาลูกๆมาตั้งแต่เค้ายังแบเบาะอยู่เลย มาสูดอากาศดีๆ ฯ โตอีกนิดก็มาวิ่งเล่น ปีนต้นไม้ ให้อาหารสัตว์


เป็นแม่ที่เก็บสะสมความสุขเล็กๆน้อยๆจากรอบตัวได้เสมอทุกวันทุกเวลาค่ะ โดยเฉพาะเวลาที่อยู่กับลูกๆ

[churaipatara]

สวนนี้ร่มรื่นมากค่ะ ปลูกต้นลำดวนเป็นส่วนใหญ่ ดอกลำดวนคือสัญลักษณ์ของจังหวัดค่ะ

[พธู ๒๕๒๔]

สวัสดีขอรับ

[churaipatara]

		อ้างถึง			ข้อความของ patooman24 เมื่อ 07 มกราคม 2553, 20:44:56
	สวัสดีขอรับ

สวัสดีค่ะท่านทู ท่านและครอบครัวสบายดีนะคะ ..นึกถึงพี่ชายอีกคนที่มักแวะมาพร้อมกับท่านด้วย

[churaipatara]

เรื่องราวที่ดีมากจากชาย-รัฐศาสตร์ที่ให้นำมาฝากเพื่อนๆค่ะ



บันทึกช่วยจำของ"เหลียงจี้จาง" Very very Good!!!!

เหลียงจี้จาง”เป็นพิธีกรดังของ TVB ในฮ่องกงและเป็นนักเขียนด้วย บันทึกช่วยจำที่เขาเขียนให้ลูก ได้รับการเผยแพร่เป็นวงกว้างเมื่อไม่

นานมานี้ นอกจากแสดงถึงความห่วงหาอาทรที่พ่อมีต่อลูกเฉกเช่นคุณพ่อทั่วๆไป มุมมองของเขาบางเรื่อง(แบบสังคมฮ่องกง) แม้บางคน

จะเคยประสบมาบ้างเหมือนกัน  อ่านแล้วก็ยังอดอึ้งไม่ได้ เลยถ่ายทอดสู่กันฟัง...

ลูกรัก..ที่พ่อเขียนบันทึกช่วยจำฉบับนี้ให้ลูก มีเหตุผลอยู่ 3 ประการ คือ

1. สรรพสิ่งล้วนอนิจัง จะมีชิวิตอยู่ได้อีกนานเท่าใดไม่มีใครบอกได้ พ่อจึงคิดว่า บางเรื่องพ่อน่าจะสั่งเสียไว้แต่เนิ่นๆ ย่อมจะดีกว่า

2. เพราะพ่อเป็นพ่อของลูก ถ้าพ่อไม่บอกลูก ไม่มีใครหรอกที่เขาจะบอกลูกแบบที่พ่อบอก

3. สิ่งที่พ่อบันทึกไว้นี้ ล้วนเป็นประสบการณ์อันแสนเจ็บปวดที่พ่อได้เรียนรู้มา มันจะทำให้ลูกไม่ต้องเสียเวลาไปเรียนรู้มันอีก

ในชีวิตของลูก ขอให้จำสิ่งต่างๆเหล่านี้ไว้ให้ดี

1. คนที่ไม่ดีต่อเรา ไม่ต้องไปใส่ใจนัก ในชีวิตคนเรา ไม่มีใครมีหน้าที่ที่จะต้องมาดีต่อเรา ยกเว้นพ่อกับแม่ของลูก สำหรับคนที่ดีกับ

ลูก นอกจากลูกต้องหวงแหนและขอบคุณเขาแล้ว ยังต้องคอยระวังตัวไว้ด้วย  เพราะคนเราทุกคน ทำอะไรย่อมมีจุดประสงค์ เขาทำ

ดีกับลูก ใช่ว่าเขาจะทำเพราะชอบลูกเสมอไป  ลูกต้องตระหนักจุดนี้ให้ดี อย่าเพิ่งรับเขาเป็นเพื่อนเร็วเกินไป (น่ากลัวไหม)

2.ไม่มีคนที่ทดแทนกันไม่ได้ และไม่มีสิ่งใดที่ต้องมีให้ได้ ถ้าเข้าใจจุดนี้ หากวันใดคนข้างกายของลูกไม่ต้องการลูกอีกต่อไป หรือวัน

ใดที่ลูกต้องเสียสิ่งที่รักที่สุดไป ลูกจะได้เข้าใจ ว่านี่ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไรเลย

3. ชีวิตนี้แสนสั้น (จะอยู่แค่ 160 ปีเอง)หากลูกยังใช้ชีวิตอย่างไม่เห็นคุณค่า พรุ่งนี้ลูกจะพบว่าชีวิตจะหลุดลอยไปไกลยิ่งขึ้น ดังนั้น

ยิ่งรู้จักถนอมชีวิตเร็วเท่าใด เวลาที่ลูกจะได้รับความสุขจากชีวิตก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น หาความสุขเสียแต่วันนี้ ดีกว่านั่งหวังให้มีอายุยืน

นาน

4. ในโลกนี้ไม่มีเรื่องรักนิรันด์กาล ความรักเป็นเพียงความรู้สึกชั่ววูบ โดยความรู้สึกนี้ย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลาและอารมณ์ หากสิ่งที่

ลูกรักมากที่สุดจากลูกไป ขอให้รอคอยอย่างอดทน ให้เวลาช่วยชะล้าง ให้จิตใจค่อยๆตกตะกอน แล้วความทุกข์ของลูกจะค่อยๆจางหาย

ไป.. อย่าวาดหวังความรักให้สวยเกินไป  และอย่าซ้ำเติมการอกหักให้ทุกข์เกินเหตุ

5. แม้ว่าคนหลายคนที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้ไม่ได้เรียนมาสูง แต่ไม่ได้หมายความว่าหากไม่ขยันเรียนแล้วจะได้ดี ความรู้คืออาวุธ

คนเราอาจสู้แล้วรวย แต่ไม่มีทางรวยได้ หากปราศจากอาวุธสู้.. จำไว้

6. พ่อจะไม่ขอให้ลูกเลี้ยงดูครึ่งชีวิตหลังของพ่อ เพราะพ่อก็จะไม่เลี้ยงดูครึ่งชีวิตหลังของลูกเช่นกัน เมื่อลูกโตพอจนเป็นอิสระได้แล้ว

พ่อก็หมดหน้าที่แล้วเช่นกัน หลังจากนั้นไป ลูกจะนั่งรถเมล์หรือจะนั่งรถเบ๊นซ์จะกินหูฉลามหรือจะกินบะหมี่ยำๆ ลูกต้องเลือกเอง

7. ต้องทำดีต่อผู้อื่น แต่อย่าหวังว่าผู้อื่นต้องทำดีต่อเรา เราปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไร มิได้หมายความว่าผู้อื่นก็จะปฏิบัติตอบต่อเราในแบบ

เดียวกัน.. ลูกต้องเข้าใจในข้อนี้ จะได้ไม่หาทุกข์ใส่ตัวโดยไม่จำเป็น

8. พ่อซื้อล๊อตเตอรี่มาตลอดชีวิต ยังยากจนเหมือนเดิม แม้แต่รางวัลเลขท้ายยังไม่เคยถูกเลย นี่เป็นบทพิสูจน์ว่า คนเราจะเจริญก้าว

หน้าได้ต้องขยันขันแข็งอย่างเดียวเท่านั้น ในโลกนี้ไม่มีมื้อเที่ยงที่ไม่ต้องเสียตังค์ (No free lunch)

9. ญาติ มิตร หรือสหาย ล้วนเป็นกันชาตินี้ชาติเดียว ฉะนั้นจงหวงแหนโอกาสที่ได้อยู่ด้วยกันค่านี้ เพราะในชาติหน้าไม่ว่าท่านจะรักใคร

หรือชังใคร ท่านก็จะไม่มีโอกาสได้พบกันอีก (หมายเหตุ ถึงพบกันก็ไม่รู้จักกัน ) 



 


 

[churaipatara]

กรงสัตว์ต่างๆเป็นระเบียบ สะอาด สวยงามค่ะ

[phraisohn]

		อ้างถึง			ข้อความของ churaipatara เมื่อ 07 มกราคม 2553, 12:56:30
	และเกรงใจมากว่า "ถ่ายรูปทำบัตรฯไม่ต้องยิ้มมากขนาดนั้นก็ได้นะคะ.."คือ จะทะเล้นตลอดเวลา..

อ่านแล้ว นึกถึงตอนผมไปถ่ายบัตรเหมือนกันเลยครับ

คือผมสงสัยว่า ทำไมรูปติดบัตรทุกคนต้องหน้านิ่วคิ้วขมวด
ทั้งๆที่มันเป็นบัตรของเรา ใช้ไปตั้งสี่ห้าปี

ผมเลยถามพี่คนถ่ายว่า เค้าไม่ให้ยิ้มหรือยังไงกัน?
พี่เค้าบอกว่า ก็ยิ้มได้นะ ไม่มีใครห้าม

บัตรประชาชนของผม เลยยิ้มเลยครับ 55+
เพื่อนเห็นยังถามว่า เห่ย รูปแกยิ้มได้ด้วย เค้าไม่ว่าเหรอว่ะ 5555

[phraisohn]

พรุ่งนี้ก็วันเด็กแล้ว ที่สวนสมเด็จคงครึกครื้นนะครับพี่เอ๋

จำได้ว่าตอนผมอยู่ ม. ปลาย วันเด็กเป็นวันที่ผมขยาดเลย
เพราะขี่รถมอไซต์ชนท้ายรถกระบะ (ทั้งๆที่เค้าก็จอดอยู่เฉยๆ
เราขี่ไปชนเอง  )

[churaipatara]

อืมม ลูกเรามีเพื่อนแล้ว คือบีมเค้าเป็นคนมีความสุขอารมณ์ดีตลอดเวลาเค้าคงคิดเหมือนพี่สนมังคะ

[churaipatara]

		อ้างถึง			ข้อความของ phraisohn เมื่อ 08 มกราคม 2553, 10:56:46
	พรุ่งนี้ก็วันเด็กแล้ว ที่สวนสมเด็จคงครึกครื้นนะครับพี่เอ๋ จำได้ว่าตอนผมอยู่ ม. ปลาย วันเด็กเป็นวันที่ผมขยาดเลย เพราะขี่รถมอไซต์ชนท้ายรถกระบะ (ทั้งๆที่เค้าก็จอดอยู่เฉยๆ เราขี่ไปชนเอง  )

ก็น่าจะจัดเหมือนทุกปีนะคะงานวันเด็กที่สวนฯซึ่งเห็นควรด้วยมากเพราะบรรยากาศดี  ยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก

มีแต่เมื่อครู่สถานีวิทยุฯสายตรงมาว่า เด็กๆจากหลายๆรร จะมาเยี่ยมชมสถานีฯ เลยจะเตรียมเอกสารความรู้และอื่นๆให้

[phraisohn]

		อ้างถึง			ข้อความของ churaipatara เมื่อ 08 มกราคม 2553, 11:54:33
	อ้างถึง ข้อความของ phraisohn เมื่อ 08 มกราคม 2553, 10:54:47 อ้างถึง ข้อความของ churaipatara เมื่อ 07 มกราคม 2553, 12:56:30 และเกรงใจมากว่า "ถ่ายรูปทำบัตรฯไม่ต้องยิ้มมากขนาดนั้นก็ได้นะคะ.."คือ จะทะเล้นตลอดเวลา.. อ่านแล้ว นึกถึงตอนผมไปถ่ายบัตรเหมือนกันเลยครับ คือผมสงสัยว่า ทำไมรูปติดบัตรทุกคนต้องหน้านิ่วคิ้วขมวด ทั้งๆที่มันเป็นบัตรของเรา ใช้ไปตั้งสี่ห้าปี ผมเลยถามพี่คนถ่ายว่า เค้าไม่ให้ยิ้มหรือยังไงกัน? พี่เค้าบอกว่า ก็ยิ้มได้นะ ไม่มีใครห้าม บัตรประชาชนของผม เลยยิ้มเลยครับ 55+ เพื่อนเห็นยังถามว่า เห่ย รูปแกยิ้มได้ด้วย เค้าไม่ว่าเหรอว่ะ 5555 อืมม ลูกเรามีเพื่อนมีพี่แล้ว คือบีมเค้าเป็นคนมีความสุขอารมณ์ดีตลอดเวลาเค้าคงคิดเหมือนพี่สนมังคะ

แต่ผมสู้น้องบีมไม่ได้หรอกคับ
เพราะผมไม่ได้มีความสุขอารมณ์ดีตลอดเวลา
แหะๆ 

[churaipatara]

อืมม ลูกเรามีเพื่อนมีพี่แล้ว คือบีมเค้าเป็นคนมีความสุขอารมณ์ดีตลอดเวลาเค้าคงคิดเหมือนพี่สนมังคะ
[/quote]

แต่ผมสู้น้องบีมไม่ได้หรอกคับ
เพราะผมไม่ได้มีความสุขอารมณ์ดีตลอดเวลา
แหะๆ  
[/quote]

ถ้ามองในแง่ของแม่  คนเป็นแม่ดีใจนะคะ เพราะถ้าลูกมีต้นทุนทาง"อารมณ์"ด้านดีๆสะสมไว้มากๆ ปัญหาหรือความทุกข์

ใดๆจะทำอะไรเค้าไม่ได้เลย  ถึงทำได้ก็น้อยมากที่จะมีผลกระทบต่อชีวิตของเค้า

[phraisohn]

		อ้างถึง			ข้อความของ churaipatara เมื่อ 08 มกราคม 2553, 12:07:18
	อ้างถึง ข้อความของ phraisohn เมื่อ 08 มกราคม 2553, 12:01:31 อ้างถึง ข้อความของ churaipatara เมื่อ 08 มกราคม 2553, 11:54:33 อ้างถึง ข้อความของ phraisohn เมื่อ 08 มกราคม 2553, 10:54:47 อ้างถึง ข้อความของ churaipatara เมื่อ 07 มกราคม 2553, 12:56:30 และเกรงใจมากว่า "ถ่ายรูปทำบัตรฯไม่ต้องยิ้มมากขนาดนั้นก็ได้นะคะ.."คือ จะทะเล้นตลอดเวลา.. อ่านแล้ว นึกถึงตอนผมไปถ่ายบัตรเหมือนกันเลยครับ คือผมสงสัยว่า ทำไมรูปติดบัตรทุกคนต้องหน้านิ่วคิ้วขมวด ทั้งๆที่มันเป็นบัตรของเรา ใช้ไปตั้งสี่ห้าปี ผมเลยถามพี่คนถ่ายว่า เค้าไม่ให้ยิ้มหรือยังไงกัน? พี่เค้าบอกว่า ก็ยิ้มได้นะ ไม่มีใครห้าม บัตรประชาชนของผม เลยยิ้มเลยครับ 55+ เพื่อนเห็นยังถามว่า เห่ย รูปแกยิ้มได้ด้วย เค้าไม่ว่าเหรอว่ะ 5555 อืมม ลูกเรามีเพื่อนมีพี่แล้ว คือบีมเค้าเป็นคนมีความสุขอารมณ์ดีตลอดเวลาเค้าคงคิดเหมือนพี่สนมังคะ แต่ผมสู้น้องบีมไม่ได้หรอกคับ เพราะผมไม่ได้มีความสุขอารมณ์ดีตลอดเวลา แหะๆ  ถ้ามองในแง่ของแม่  คนเป็นแม่ดีใจนะคะ เพราะถ้าลูกมีต้นทุนทาง"อารมณ์"สะสมไว้มากๆ ปัญหาหรือความทุกข์ ใดๆจะทำอะไรเค้าไม่ได้เลย  ถึงทำได้ก็น้อยมากที่จะมีผลกระทบต่อชีวิตของเค้า

แ้ล้วพี่โบว์ นี่จะเรียนจบกันหรือยังคับ?

[churaipatara]

ถ้ามองในแง่ของแม่  คนเป็นแม่ดีใจนะคะ เพราะถ้าลูกมีต้นทุนทาง"อารมณ์"ด้านดีๆสะสมไว้มากๆ ปัญหาหรือความทุกข์

ใดๆจะทำอะไรเค้าไม่ได้เลย  ถึงทำได้ก็น้อยมากที่จะมีผลกระทบต่อชีวิตของเค้า
[/quote]

แ้ล้วพี่โบว์ นี่จะเรียนจบกันหรือยังคับ?
[/quote]

อีกหลายปีค่ะเพราะตั้งใจจะเรียนต่อโทด้วย

[churaipatara]

โครงการเผยแพร่ความรู้ในรูปแบบแผ่นพับ

เรื่องที่ ๕๒  สิ่งที่พ่อแม่ควรปฏิบัติต่อเด็ก

-แสดงความรักด้วยการสัมผัสจับต้องตัวเด็กบ้าง               -แสดงความรักออกทางสีหน้าแววตา

-ให้ความต้องการขั้นพื้นฐานได้อย่างเพียงพอ                   -รับฟังและใส่ใจสิ่งที่เด็กพูด

-จงบอกกล่าวกับเด็กด้วยคำพูดดีๆ                                   -ให้กำลังใจลูกๆด้วยจิตใจมิใช่ด้วยวัตถุ

-จงชมเชยในความพยายามของลูก                                -ส่งเสริมให้ลูกค้นพบคำตอบด้วยตนเอง

-สร้างความสัมพันธ์ที่ดี                                               -จัดสรรเวลาเพื่อทำกิจกรรมหรือเล่นกับเด็ก

-ยอมรับการตัดสินใจของลูก                                       -สอนให้ลูกรู้จักความพึงพอใจในตนเอง

-ฝึกให้ลูกเป็นตัวของตัวเอง                                 -เปิดโอกาสให้เด็กแสดงออกในสิ่งที่สนใจ

-ให้โอกาสเด็กแสดงออกอย่างสร้างสรรค์                 -เปิดโอกาสให้เด็กเลือกและตัดสินใจด้วยตนเอง

-หลีกเลี่ยงการทำให้เด็กอาย                                -สนับสนุนให้เด็กมีเพื่อน

-สนับสนุนให้เด็กรู้จักการช่วยเหลือผู้อื่นตามความสามารถ



จาก  หนังสือทำอย่างไรเด็กจึงจะภูมิใจในตนเองและมีความสุข

โดย  ดร.สยุมพร เค-ไพบูลย์

ด้วยความปรารถนาดีจาก คณะผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัดศรีสะเกษแผนกคดีเด็กและเยาวชน